ลำดับตอนที่ #13
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 :
วันนี้นึกครึ้มอกครึ้มใจเลยใคร่หางานเขียนที่เป็นเรื่องสั้นมาเล่าสู่กันฟังสักเรื่อง
ดีไหมครับ( ใครเห็นด้วย
ขอมือขวาหน่อย)
สุดสงวน โดย คุณยูนิคอนแห่งขอรอยยิ้มสักนิดเถิดที่รัก
โดยส่วนตัวผมเป็นคนชอบอ่านงานเขียนที่เป็น เรียลรีสติค หรืองานเขียนที่มีพื้นฐานอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง ที่เกิดขึ้นจริง และจับต้องได้
“ สุดสงวน ”เป็นเรื่องราวความรักในแบบฉบับที่มีอยู่จริงในสังคมเมืองของเราในปัจจุบันนี้ ด้วยเรื่องนี้มีเงื่อนที่ผูกไว้ค่อนข้างหนาแน่น การบอกเรื่องราวก่อนจะทำให้เสียอรรถรสในการอ่าน จึงอยากให้ท่านทั้งหลายลองเข้าไปอ่านเองจะดีกว่าครับ .
“ สุดสงวน ” - - - -แบ่งออกเป็นหลายภาค .บอกเล่าเรื่องราวผ่านภาษาที่ละมุมละไม บีบหัวใจคนอ่านได้แหลกคาปากกาของนักเขียนทีเดียว คือข้อดีของงานเขียนทุกประเภทที่เราควรจดจำและท่องให้ขึ้นใจ เพราะเมื่อไหร่ที่งานของเราทำให้ผู้อ่านเสมือนเข้าอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆที่เราสร้างขึ้นได้ ถือว่าเราสอบเรื่องการเขียนผ่านไปกว่าครึ่งแล้วครับ( อีกครึ่งก็อยู่ที่ว่ารูปแบบการเขียน และองค์ประกอบของเรื่องของเราดีแค่ไหนครับ)
การเกริ่นนำในช่วงสามบรรทัดแรกทำได้น่าขนลุกมากๆ เพราะนอกจากจะไม่มีคำพูดแม้แต่คำเดียวแล้ว แต่ทุกคำที่นำมาใช้มีความหมาย กินใจความลึกซึ้ง ทำให้รู้สึกลืมไปเลยว่าเรากำลังอ่านแต่บทบรรยาย และยังซาบซึ้งถึงอารมณ์เหงาที่แฝงไว้ในเรื่องได้อย่างชัดเจน
การตัดไปมาของอดีตและปัจจุบันทำได้ไม่เนียนนักกล่าวคือยังมีบางช่วงที่ชวนสับสนและสะดุดไปบางในขณะที่อ่านระหว่างรอยเชื่อมต่อในแต่ละตอนที่ท่านผู้เขียนหยิบยกมา ในบางรอยต่อมีความรู้สึกงงเหมือนกันครับ .แบบว่าเอเมื่อกี้เราอ่านถึงไหนหว่า บางเหมือนกัน แต่พออ่านไปได้สักสองสามบรรทัดเราจะทราบเรื่องราวได้ในทันที
สิ่งที่ผมชอบในเรื่องสุดสงวนที่สุดเห็นจะเป็นภาษาที่ใช้ สะสวยได้ใจความ อ่านแล้วเห็นภาพพจน์ของเรื่องได้ดี แม้จะเป็นเรื่องสั้นก็ตามที หาได้ยากในการอ่านเรื่องสั้นแล้วจะพบเห็นภาษาลักษณะนี้ จึงอยากให้เพื่อนท่านหลายแห่งชาวเด็กดี ได้ลองเอาไปใช้ดูเป็นตัวอย่าง
แต่การนำเสนอผมยังไม่ค่อยชอบใจนัก เนื่องจากการวางโครงสร้างของเรื่องยังไม่ดีมากพอที่จะทำให้คนอ่านรู้สึกไม่สะดุดเวลาที่ย้อนกลับไปกลับมา มันไม่มีสัญญาณที่บอกก่อนว่า โอเคนะฉันจะไปอีกช่วงของชีวิต..แล้ว ซึ่งถ้ามองในมุมของคนอ่านมันทำให้ขาดอารมณ์ขาดความต่อเนื่องไปอย่างน่าเสียดายครับ .
และผมขอเตือนท่านทั้งหลายที่จะเข้าไปที่ในเรื่องสั้นเรื่องนี้ไว้อย่าง
ถ้าเป็นสุภาพสตรีแนะนำให้หากระดาษทิชชูมาไว้ใกล้ตัว
ถ้าเป็นสุภาพบุรุษแนะนำให้ทำใจให้เข้มแข็งเข้าไว้ก่อนลงมืออ่านครับ
สำหรับผมนั้น ใจละลายและเสียน้ำตาไปหลายหยดให้เรื่องสั้นเรื่องนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ
เชิญพิสูจท์ได้ที่ http://www.dek-d.com/entertain/viewshort.php?id=14376 ครับ
“ ชะตากรรมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก
จงอย่างพยามหลีกหนี .
แต่จงเราดำเนินไปตามครรลองแห่งกรรม
ด้วยสติและความกล้าหาญ ”
                                                                                        วานิช นิ่มสกุล
สุดสงวน โดย คุณยูนิคอนแห่งขอรอยยิ้มสักนิดเถิดที่รัก
โดยส่วนตัวผมเป็นคนชอบอ่านงานเขียนที่เป็น เรียลรีสติค หรืองานเขียนที่มีพื้นฐานอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง ที่เกิดขึ้นจริง และจับต้องได้
“ สุดสงวน ”เป็นเรื่องราวความรักในแบบฉบับที่มีอยู่จริงในสังคมเมืองของเราในปัจจุบันนี้ ด้วยเรื่องนี้มีเงื่อนที่ผูกไว้ค่อนข้างหนาแน่น การบอกเรื่องราวก่อนจะทำให้เสียอรรถรสในการอ่าน จึงอยากให้ท่านทั้งหลายลองเข้าไปอ่านเองจะดีกว่าครับ .
“ สุดสงวน ” - - - -แบ่งออกเป็นหลายภาค .บอกเล่าเรื่องราวผ่านภาษาที่ละมุมละไม บีบหัวใจคนอ่านได้แหลกคาปากกาของนักเขียนทีเดียว คือข้อดีของงานเขียนทุกประเภทที่เราควรจดจำและท่องให้ขึ้นใจ เพราะเมื่อไหร่ที่งานของเราทำให้ผู้อ่านเสมือนเข้าอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆที่เราสร้างขึ้นได้ ถือว่าเราสอบเรื่องการเขียนผ่านไปกว่าครึ่งแล้วครับ( อีกครึ่งก็อยู่ที่ว่ารูปแบบการเขียน และองค์ประกอบของเรื่องของเราดีแค่ไหนครับ)
การเกริ่นนำในช่วงสามบรรทัดแรกทำได้น่าขนลุกมากๆ เพราะนอกจากจะไม่มีคำพูดแม้แต่คำเดียวแล้ว แต่ทุกคำที่นำมาใช้มีความหมาย กินใจความลึกซึ้ง ทำให้รู้สึกลืมไปเลยว่าเรากำลังอ่านแต่บทบรรยาย และยังซาบซึ้งถึงอารมณ์เหงาที่แฝงไว้ในเรื่องได้อย่างชัดเจน
การตัดไปมาของอดีตและปัจจุบันทำได้ไม่เนียนนักกล่าวคือยังมีบางช่วงที่ชวนสับสนและสะดุดไปบางในขณะที่อ่านระหว่างรอยเชื่อมต่อในแต่ละตอนที่ท่านผู้เขียนหยิบยกมา ในบางรอยต่อมีความรู้สึกงงเหมือนกันครับ .แบบว่าเอเมื่อกี้เราอ่านถึงไหนหว่า บางเหมือนกัน แต่พออ่านไปได้สักสองสามบรรทัดเราจะทราบเรื่องราวได้ในทันที
สิ่งที่ผมชอบในเรื่องสุดสงวนที่สุดเห็นจะเป็นภาษาที่ใช้ สะสวยได้ใจความ อ่านแล้วเห็นภาพพจน์ของเรื่องได้ดี แม้จะเป็นเรื่องสั้นก็ตามที หาได้ยากในการอ่านเรื่องสั้นแล้วจะพบเห็นภาษาลักษณะนี้ จึงอยากให้เพื่อนท่านหลายแห่งชาวเด็กดี ได้ลองเอาไปใช้ดูเป็นตัวอย่าง
แต่การนำเสนอผมยังไม่ค่อยชอบใจนัก เนื่องจากการวางโครงสร้างของเรื่องยังไม่ดีมากพอที่จะทำให้คนอ่านรู้สึกไม่สะดุดเวลาที่ย้อนกลับไปกลับมา มันไม่มีสัญญาณที่บอกก่อนว่า โอเคนะฉันจะไปอีกช่วงของชีวิต..แล้ว ซึ่งถ้ามองในมุมของคนอ่านมันทำให้ขาดอารมณ์ขาดความต่อเนื่องไปอย่างน่าเสียดายครับ .
และผมขอเตือนท่านทั้งหลายที่จะเข้าไปที่ในเรื่องสั้นเรื่องนี้ไว้อย่าง
ถ้าเป็นสุภาพสตรีแนะนำให้หากระดาษทิชชูมาไว้ใกล้ตัว
ถ้าเป็นสุภาพบุรุษแนะนำให้ทำใจให้เข้มแข็งเข้าไว้ก่อนลงมืออ่านครับ
สำหรับผมนั้น ใจละลายและเสียน้ำตาไปหลายหยดให้เรื่องสั้นเรื่องนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ
เชิญพิสูจท์ได้ที่ http://www.dek-d.com/entertain/viewshort.php?id=14376 ครับ
“ ชะตากรรมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก
จงอย่างพยามหลีกหนี .
แต่จงเราดำเนินไปตามครรลองแห่งกรรม
ด้วยสติและความกล้าหาญ ”
                                                                                        วานิช นิ่มสกุล
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น