ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พยาบาท( RE WRITE)

    ลำดับตอนที่ #2 : มนัสญา

    • อัปเดตล่าสุด 14 ม.ค. 61


             

                                                                          บทที่ 1



                     ญิงสาวผู้มีใบหน้ารูปไข่ได้รูปสวยสอดรับกับผมเหยียดตรงดำสนิทที่ปล่อยยาวประบ่าคนหนึ่งกำลังก้าวเท้ายาว...ยาวไปตามทางเดินสายแคบ..แคบสายนั้นที่คราคร่ำไปด้วยผู้คนพลุกพล่าน..เดินขวักไขว้ไปมา...โดยเธอสาวเท้าออกไปเบื้องหน้าอย่างรวดเร็วเยี่ยงนั้นเป็นเวลายาวนานราวกับไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

            

                                " เจ็ดโมงครึ่งแล้ว" เจ้าหล่อนสบถขึ้นในลำคอ...เมื่อดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนของหล่อนเหลือบไปเห็นเวลาที่แสดงอยู่บนนาฬิกาเรือนใหญ่ที่ติดตระหง่านอยู่บนหอนาฬิกากลางเบื้องหน้า

        

               ผู้คนบนถนนสายนั้นต่างคนต่างเร่งรีบด้วยกันทั้งสิ้น …มันเป็นภาพที่หล่อนเองมองดูอย่างชินสายตา...ด้วยอาการเร่งรีบดังกล่าวนั้นก็หาได้ต่างจากที่เจ้าหล่อนเป็นอยู่สักเท่าใดนัก...นี่กระมัง วิถีของคนเมือง

        

                สิบนาทีต่อมา…หล่อนพาตัวเองมาหยุดอยู่หน้าตึกใหญ่ใจกลางเมืองแห่งหนึ่ง มันเป็นตึกกระจกทรงสี่เหลี่ยมเก๋สูงระฟ้าโดดเด่นกว่าตึกรอบข้างอย่างเห็นได้ชัด 

                หญิงสาวผ่อนลมหายใจออกอย่างเชื่องช้าด้วยอาการเหนื่อยหอบ ระคลถอนใจอย่างโล่งอกพลางใช้ผ้าเช็ดหน้าเนื้อบางเบาซับเหงื่อที่ซึมออกมาจากหน้าผากกว้างได้รูปสวยของหล่อนอย่างเบามือด้วยเกรงว่ารองพึ้นเบอร์หนึ่งที่หล่อนบรรจงฉาบไว้อย่างเบาบางจะหลุดล่อนติดผ้าเช็ดหน้าผืนสวยนั้นออกมาด้วย

                          

                หล่อนใช้เวลาเพียงครู่เดียว...หยุดหายใจหายคอ…ก่อนนำตัวเองเข้าไปด้านในตัวตึกด้วยท่าทางไม่รีบร้อนนัก และนำตนเองมาหยุดอยู่ปลายแถวยาวหน้าลิฟโดยสารที่คะเนตามสายตาแล้วคงไม่ถึงสิบนาทีหล่อนเองก็น่าจะถึงที่หมายเสียที

                          

               ถัดจากหล่อนไปประมาณหนึ่งช่วงตัว....หญิงสาวสองคนที่ยืนอยู่ทางด้านหน้ากำลังคุยกันอย่างออกรส หน้าลิฟตัวนั้น

        

                             " นี่เขาว่ากันว่าแม่เลขาใหม่ของคุณนทีแกหนะสวยอยู่ใช่ไหมแก " เจ้าของเสียงนั้นเป็นสาวใบหน้าเก๋ หล่อนไว้ผมบอบสั้นทันสมัย..เอ่ยถามเสียงดังอย่างใคร่รู้เต็มที...มิไยกับคนรอบข้างเอาเสียเลย

        

                             " ก็งั้นๆแหละ… จืดๆชืดๆ ไม่ค่อยอินเทรนเหมือนคนก่อนหร๊อก " คู่สนทนาเป็นสาวใบหน้ารูปไข่ไว้ผมตรงสวยยาวประบ่า เจ้าหล่อนหันกลับมาเอ่ยตอบผู้ถามด้วย…ท้ายน้ำเสียงสูงอย่างจงใจเปรียบเทียบ

        

                            " จริงรึ..?แล้วมาเป็นเลขาคุณนทีได้ไง คนก่อนที่ทำงานให้คุณนธีก่อนจบโท..ออกจะสวยเก๋" แม่สาวผมบอบเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ
    " เธอน่ะคนวงใน...เล่ามา " 

        

                           " แหม…ทำอย่างกับเธอไม่รู้ " แม่สาวผมตรงว่าพลางหัวเราะเสียงแหลมอย่างชอบใจในเรื่องที่กำลังสนทนาอยู่เสียยิ่งกระไร " ใครๆเขาลือกันให้แซดว่า…แม่เนี๊ยแกเอาตัวเข้าแลก " ท้ายประโยคนั้นเบาลงอย่างต้องการให้เป็นความลับ

        

                          "  อุ๊ยตาย…ผู้หญิงอะไรแบบนี้ " คู่สนทนาอุทานเสียงดังราวกับตกใจสิ่งที่ได้ยินนั้นเสียเต็มประดา
    " แล้วคุณรตีเธอไม่เต้นหรือ..เธอเป็นตัวจริงเสียงจริงของคุณนธีมาหลายปีแล้วนะ "

        

                           " โอ๊ยแก..…ขานั้นหน่ะผู้ดีจะตาย เธอไม่ลดตัวลงมายุ่งเรื่องคาวๆอย่างนี้หร๊อก " แม่สาวผมตรงว่าอย่างมั่นใจ
    " จะว่าไปไอ้เรื่องใช้เต้าไต่ยังไม่เท่าไหร่..แกรู้ไหมว่าตอนนี้ชั้น27 เค้าเมาท์กันไปทั้งชั้นว่ายายนี่ทำงานทำการอะไรก็ห่วย คุณญาณีน้องสาวคุณนธีต้องคอยวีนให้บ่อยๆ "

        

                              " ต๊าย…ลงไม่ถูกกับน้องผัวอย่างนี้ จะหวังจับคุณธีติดหรือแก " สาวผมบอบกล่าวถาม

        

                              
    " นี่มันพ.ศ.ไหนแล้วย่ะ..น้องมันก็แค่คลานตามกันมา แกคิดว่าคุณนธีเธอจะฟังใคร” เจ้าของคำกล่าวเริ่มพูดคุยอย่างออกรส “ระหว่าง…คนนั่งคุยกับคนนอนคุย"

        

                              “มันก็จริงของแก..ว่าแต่...ชื่อ…มนัส…..อะไรนะ "แม่สาวผมบอบถามอีกอย่างใคร่รู้

        

                             " มนัสญาค่ะ " น้ำเสียงนั้นเข้มจัดอย่างหมดความอดทนขัดขึ้นกลางบทสนทนา " เลขาของคุณนธีพัตร์  รุ่งรัตนอนัตต์ ชื่อ...มนัสญา วิชญากร " พวงแก้มของผู้พูดระเรื่อเรืองเป็นสีแดง

                    

               การสนทนาของทั้งสองสาวชะงักงันลงในทันทีที่มีผู้กล่าวแทรกคำสนทนาของคนทั้งคู่ขึ้น …สีหน้าของสาวผมบอบมีท่าทีประหลาดใจและจิกสายตาตำหนิอย่างแรงในความเสียมารยาทนั้น…ผิดกับสีหน้าของสาวผมตรงที่แลดูซีดเผือดลงไปจนผิดสังเกต

        

                              " ขอโทษนะคะ..นี่คือกำลังคุยกันแค่สองคน " สาวผมบอบเอ่ยกระแทกน้ำเสียง...จงใจตำหนิตรงๆ...ท่าทางเอาเรื่อง

                  

              การสนทนาถูกขัดขึ้นอีกครั้งเมื่อท้ายแถวเริ่มร่นขึ้นไป...หากแต่ยังเหลือคนอีกสองสามคนค้างอยู่ด้านหน้าของตน...การสนทนาของคนทั้งสาม จึงกลับมาดำเนินต่อไป

        

                               " หรือคะ…แต่ ดิชั้นเชื่อว่าถ้าเป็นเรื่องของแม่เลขาหน้าจืดของคุณนธีล่ะก็…ถามดิชั้นดีกว่าค่ะ ดิชั้นทราบเรื่องแม่คนนี้เป็นอย่างดีทีเดียว" แม้น้ำเสียงนั้นจะเรียบ…หากแต่สายตานั้นวาวโรจน์ด้วยความโกรธจัด " บางทีดิชั้นคิดว่าดิชั้นอาจจะรู้ดีมากกว่าเพื่อนของคุณเสียด้วยซ้ำไป…...จริงไหมคะ" หล่อนหันไปถามสาวผมตรงอย่างจงใจ

        

                                 " ค่ะ " สาวผมตรงเอ่ยรับไม่ค่อยเต็มน้ำเสียงนัก สายตานั้นหลุบต่ำอย่างไม่กล้าประสานสายตาคู่นั้นของผู้ถาม

        

                                " อ้าว..แล้วไม่บอกเสียแต่แรกคะ” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสมใจ บ่งบอกถึงความยินดีสนทนากับสาวแปลกหน้าอย่างที่สุด “…เอาจริงๆคือได้ยินแต่วีรกรรมของนางจากคนนู้นที คนนี้ทีจนสับสนไปหมดแล้วค่ะ ว่าอันไหนจริง..อันไหนจริงกว่า "  สาวผมบอบเอ่ยอย่างถูกใจ…มิไยกับมือของสาวผมตรงที่คอยกระตุกชายแขนเสื้ออย่างปรามอยู่ในที " แต่ที่แน่ๆคือเรื่องนางแซบกับคุณนธีนี่มาเป็นระยะๆเลยนะคะ " สาวผมบอบเบ้ปากอย่างรังเกียจ

        

                                " อย่างนั้นเลยหรือคะ…แหมดิฉันไม่ยักทราบ" หล่อนเอ่ยอย่างประหลาดใจ พร้อมหัวเราะลงปรายเสียง..

                        

                               " โอ้ย...เค้าปิดกันให้แซดกันไปทั้งแผนกนั้นล่ะค่ะ....รู้กันตั้งแต่ชั้น27 ยันชั้นใต้ดินเลยละมั้ง " สาวผมบอบว่าด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะอย่างนึกขันเสียเต็มประดา
    ..."ต่อค่ะต่อ..ชีเป็นใครมาจากไหนคะ"  

                 ผู้ถูกถามมีสีหน้านิ่งพลางผ่อนลมหายใจทอดยาว สายตาจับจ้องผู้ถามนิ่งนาน ยากแก่การคาดเดาอากัปนั้นว่าคิดเห็นอย่างไร                      

                                " เท่าที่ทราบ คุณมนัสญาเธอจบโทการบริหารเกียรตินิยมอันดับหนึ่งมาจากฮาวเวิร์ด สามารถพูดและเขียนได้คล่องหลายภาษา..ทั้งภาษาอังกฤษ สเปน เยอรมัน และ "หล่อนหยุดเล็กน้อยมองดูสีหน้าประหลาดใจของสาวผมบอบด้วยรอยยิ้มน้อยๆที่มุมปาก 
     "  และที่เห็นจะคล่องมากๆก็คงจะเป็นภาษาไทยนี่ล่ะมั้งคะ น่าจะสื่อสารได้ดีมากทีเดียว  " 

        
                               " ตายจริง..เก่งเบอร์แรงขนาดนี้..มาทำงานบริษัทเล็กๆนี่ทำไมล่ะคะ” น้ำเสียงนั้นคล้ายหยันมากกว่าหมายความตามนั้น “…ว่าไหมแก " สาวผมบอบเหยียดปากอย่างไม่ใคร่เชื่อในสิ่งที่ได้ยินนักพลางหันไปขอความเห็นจากเพื่อนสาวผมตรงซึ่งทำหน้าปั้นยากอยู่ข้างๆ

        

                               
    " อันนี้ดิชั้นก็ไม่ทราบนะคะ แต่รู้สึกว่าคุณนธีเธอจะเป็นคนดึงมาทำงานที่นี่ด้วยตัวเธอเองเชียวล่ะค่ะ…..จบมารุ่นเดียวกันนี่นะ "

        

                               " แหม...มีความถูกที่ถูกเวลาไปไหนคะ....ว่าไหม...เรียนที่เดียวกัน..แถมบินกลับมาทำงานด้วยกันอีก...ฮึ "สาวผมบอบทำท่าครุ่นคิด “ แต่ไอ้เรื่องแบบนี้..มันก็รู้ๆกันอยู่...เข้าใจอะไรไม่ยากนักหรอกนะคะ  " หล่อนพูดอย่างมั่นใจ 
    " ว่าแต่คุณทำแผนกไหนคะ ไม่เคยเห็นหน้าเลย ดิชั้น อัญชลี ทำการเงินชั้น 19 ค่ะ  "

                  

             หญิงสาวยิ้มในหน้าไม่ตอบคำถามนั้นของสาวผมบอบหากแต่กลับย้อนถามกลับไป

        

                                  
    " เข้าใจว่าอะไรหรือคะ คุณอัญชลี "

                 

              สาวผมบอบหัวเราะเสียงใสอย่างถูกใจในคำถามนั้น ผิดกับเพื่อนสาวที่ทำหน้าเหยเกรับฟังเสียงหัวเราะนั้นอย่างหวั่นใจ

        

                                  " แหม…..แถวบ้านเรียกย้ำคิดย้ำทำเรื่องชาวบ้านเหมือนกันนะคะ ชอบค่ะ คอเดียวกัน " น้ำเสียงนั้นกลั้วหัวเราะอย่างกลั่นไม่อยู่

        

                                   "ปกติก็ไม่คะ..แต่เรื่องนี่เห็นว่าแซบก็อยากจะรู้บ้าง"ท้ายน้ำเสียงนั้นเจือความไม่พอใจอย่างยิ่งในท่าทางแบบนั้น “ตกลงคุณอัญชลีเข้าใจว่าอะไรหรือคะ”

        

                                   "เบซิกมากคะ...แม่คุณเลขาเนี้ยก็คงอยากเขยิบฐานะจากนั่งคุยนอกบ้าน เป็นนอนคุยบนเตียง" สาวผมบอบกล่าวอย่างมั่นใจ  " หรือไม่ตอนเรียนด้วยกันก็คงประเภทเพื่อนกันมันส์ดีอะไรทำนองนั้นหละคะ..พอกลับมาไทยคุณนธีก็หนุ่มหล่อไฮโซ แถมเป็นประธานบริษัท ทีเอสจิว แพ็คคู่เข้าไปอีก น่ากินแถมมั่นคง...แพลนก็เปลี่ยน..ใครไม่จับก็พี่บือแล้วล่ะค่ะ" หล่อนชักติดลมกับการนินทากับคู่สนทนาคนใหม่นี้เสียแล้ว

                         

                                   "  อัญ..." สาวผมตรงอุทานอย่างตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น

                        

                                    " อะไรล่ะสมร...แล้วนี่จะดึงแขนทำไมนักหนา" สาวผมบอบเอ่ยอย่างรำคาญ 
     " ดูทำท่าทำทางเข้า...อยากเมาท์อะไรก็เมาท์ อย่ามาแอ็บสวย" เจ้าหล่อนขึ้นเสียงเบาๆอย่างขัดใจ

        

                                   
     " คุณอัญชลีนี่ช่างจินตนาการเก่งจริงๆนะคะ น่าจะไปเขียนนิยายขาย หรือไม่ก็ลองผันตัวไปเป็นผู้บริหารการขายให้น้องๆแถวผับแถวบาร์กลางคืนดูบ้างน่าจะเหมาะกว่าทำการเงินนะคะ" หล่อนพูดไปยิ้มไปราวพูดเรื่องตลก ทั้งที่แอบเหน็บอยู่ในที

        

                                     "  เอ๊ะคุณ...…ทำไมพูดจาแบบนี้ล่ะคะ" ท้ายน้ำเสียงนั้นไม่พอใจอย่างยิ่ง...ท่าทางเอาเรื่อง

        

                                       " ก็แหม...คนมีความคิดดีๆที่ไหน..เขาจะคิดไปไกลได้ขนาดคุณอัญชลีละคะ จริงไหมคะคุณสมร" หล่อนว่าอย่างใจเย็น...น้ำเสียงราบเรียบพร้อมหันไปเน้นถามสาวผมตรงอย่างจงใจ

        

                                       " ค่ะ..พวกโลกสวย " สาวผมบ็อบเบ้ปากใส่ผู้พูดอย่างนึกเคือง “พอดีดิชั้นมันพวกทันโลก ก็พอรู้ว่าใครมีแผนการณ์อะไร..ยังไงนั้นหล่ะค่ะ” ท้ายน้ำเสียงนั้นแข็งอย่างไม่พอใจ

        

                                      " ดีนะคะที่ทันโลก ไม่ใช่กร้านโลก” หล่อนเหน็บยิ้มๆมองดูผู้ฟังอย่างใจเย็น “ลิฟมาแล้วค่ะ.. " หล่อนร้องเตือนบอกพลางเดินตามเข้าไปภายใน

        

                                       "  ชั้นไหนครับ…" ชายคนหนึ่งเอ่ยถามอย่างมีน้ำใจ

        

                                         " 7 ค่ะขอบคุณ" หญิงคนหนึ่งเอ่ยบอก

        

                                          " 14 "  ชายข้างตัวเอ่ยบ้าง

                      

                                         "19กับ 27 ค่ะแล้วของคุณล่ะคะ…คุณเอ่อ " สาวผมบอบเอ่ยถามคู่สนทนาอย่างสอดรู้ตามนิสัย 

        

                                         " มนัสญาค่ะ…..ชั้น 27เช่นกัน ขอบคุณ " หญิงสาวกล่าวตอบน้ำเสียงหนักแน่น..นัยน์ตาสีน้ำตาลคู่นั้นนิ่งมองผู้ถาม พลางยิ้มมุมอย่างผู้มีชัย



                              ……………………………………………………………………….


                                              
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×