ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ลำดับตอนที่ 1
 
 
                                http://www.ormbook.com/ormbook/index/detail.php?boid=714( โดม)             
 
                                              Hot Order By Chock สัปดาห์นี้ได้แก่    จ้าวสมุทร ของ  Waasuthep    ซึ่งขณะนี้มีอยู่ทั้งหมด 24 ตอนครับ
* * * ตอนที่ 1 :  บทนำ * * * - การเปิดเรื่องของเรื่องในแนวใดหรือหมวดใดก็ตาม..สิ่งที่ผมคาดหวังจะพบมากที่สุดคือ...อารัมภบทหรือคำขยายความถึงทิศทางที่น่าจะเป็นของเรื่องนั้นๆ...เพราะสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ช่วยให้เราอ่านเรื่องนั้นได้เข้าใจมากขึ้นและ...เป็นการเปิดโอกาสให้เราได้ลองถามว่าตัวเราต้องการทราบในเรื่องที่จะอ่านต่อไปหรือไม่...ดังนั้นบทนำ จึงเป็นอะไรที่เหมือน หน้าร้านของร้านขายของ...ซึ่งควรมีสิ่งที่ดึงดูที่คอยกระตุ้นผู้ซื้อให้มีความรู้สึกว่ามันน่าเข้าไปหยิบ..ไปฉวย...และทำควมรู้จักกับของที่วางไว้ในนั้น...เสียยิ่งกระไร
แต่จ้าวสมุทรมีบทนำที่ยังไม่จัดอยู่ในระดับที่น่าสนใจนักเนื่องจาก...
1.ความไม่สมบูรณ์ของการเปิดเรื่องซึ่งเกิดจากความสามารถในการนำเสนอนั้นยังไม่ดีเท่าทีควรครับ..เช่น
\" โลกของเรา มีส่วนที่เป็นทะเลถึงสามในสี่ส่วน คงไม่มีมนุษย์คนใดปฏิเสธได้เลยว่า ทะเลไม่มีความสำคัญในการดำรงชีวิต มนุษย์แทบทุกคนใกล้ชิดกับทะเลมาก..\" -ความสอดคล้องในการเชื่อมประโยคเข้าหากันให้มีความสอดรับของข้อความที่ยกมา  \" โลกของเรา มีน้ำเป็นองค์ประกอบถึงสามในสี่ของพื้นที่ทั้งหมด...ซึ่งในสามส่วนใหญ่ของพื้นที่ของผืนน้ำนั้น...คือทะเล ดังนั้นคงไม่มีมีมนุษย์คนไหนปฎิเสทได้เลยว่า...ทะเลนั้นมีความสำคํญต่อการดำรงค์ชีวิตของพวกเขาทั้งทางตรงและทางอ้อม \"
2. การลำดับเนื้อความที่ดูจะสับสน เช่น
\"  คุณคิดว่าภายใต้ผืนน้ำที่ไม่เคยสงบ อันกว้างใหญ่ไพศาล จะมีอะไรบ้าง \"  ให้ความรู้สับสนของการวางคำและทำให้อ่านยากนิดหน่อย \" คุณเคยคิดว่าภายใต้ผืนน้ำอันกว้างใหญ่ไพศาล ที่ไม่เคยสงบนั้น... มีอะไรซ่อนอยู่บ้าง \"
\" สิ่งที่พิสูจน์ได้คือสัตว์น้ำนานาชนิด ทั้งสวยงามทั้งดุร้าย ทั้งน่าขยะแขยง แร่ธาตุชนิดต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งลักษณะสูงต่ำทางกายภาพ ภูเขาไฟ หน้าผาสูง ก็ล้วนมีอยู่ใต้ทะเล ทั้งหมดนี้ มนุษย์สามารถค้นพบได้ \"  -ความเยิ่นเย้อและดูไม่น่าเชื่อถือทางด้านข้อมูลเพราะมันเลื่อนลอยเกินไป... \" หลายคนเมื่อเราพูดถึงท้องน้ำสีครามนั้นอาจกึง...ความน่ารักน่าชังของหมู่สัตว์น้ำน้อยใหญ่ที่แหวกว่ายกันไปเป็นฝูงใหญ่หรือ....แยกย้ายกันไปตามกายภาพและนิสัยของตัวมันเอง( เคาะลงไปหนึ่งบรรทัด) บ้างอาจคิดถึงความน่ากลัวของความมืดมิดที่เราไม่สามารถหยั่งลึกลงไปได้เลยจุดเริ่มต้นอันกว้างใหญ่นั้นว่าเริ่มต้นที่ระดับที่เท่าไหร่...เป็นร้อยเป็นพันหรือหมื่นเมตร และคงมีอีกหลายคนที่คิดถึงกายภาพที่ซับซับซ้อนของท้องน้ำเหล่านั้น...ซึ่งมันเป็นการยากที่จะอธิบายความอัศจรรย์ของธรรมชาติที่สร้างสันสีสันและรูปทรงของสิ่งต่างๆที่ประกอบรวมกันเป็น ทะเล \"
\" แต่ท้องทะเลมิได้มีอยู่เพียงแค่นั้น มันยังมีอะไรอีกหลายอย่าง ที่มนุษย์ยังไม่สามารถค้นพบ จะมีก็เพียงคำบอกเล่า สืบต่อกันมา.. ตำนาน อาถรรพ์แห่งท้องทะเล ยังรอให้ใครหลายคนเข้าไปพิสูจน์ \" - การขมวดด้วยปมควรใช่ถ้อยคำที่โดดเด่นในการเร้าความรู้สึกของผู้อ่านให้มีความรู้สึกคล้อยตามไปกับบทบาทนั้นๆที่เราต้องการนำเสนอ...\" แต่จะมีซักคนที่จะทราบความเป็นไปใต้ท้องทะเลสีอำพันนั้นจริงๆ...บางสิ่งที่มากกว่าความน่ารักของหมู่สัตว์น้ำยังคงดำรงอยู่ใต้ความเกรี๊ยวกราดของเปลวคลื่น บางสิ่งที่มากกว่าความน่ากลัวและกายภาพที่น่าทึ่งภายใต้ความนิ่งสงบของกระแสน้ำ...ยังคงดำเนินไปตามวิถีทาง..ที่ดูเหมือนว่ามนุษย์จะไม่สามารถพิสูจน์ได้เลยไม่ว่าจะมีความเจริญทางวัตถุไปมากเท่าไหร่ก็ตาม...และความลึกลับดำมืดของสิ่งที่เราคิดไม่ถึงเกี่ยวกับทะเล...ยังคงรอคอยการค้นพบในสักวัน \"
ผมเข้าใจว่าปัญญาหลักๆของนักเขียนท่านนี้ในการเขียนบทนำเรื่องนี้...อาจจะอยู่ที่ความไม่ทราบว่าจะวางโครงเรื่องอย่างไร..เพราะจากบทนำเกิดความไม่ลื่นไหลของข้อมูลประมาณว่ามันกระโดดไปมา..ระหว่างตำนาน..มนุษย์...และย้อนกับมาที่เรื่องของโลกใต้น้ำอีกครั้ง..ทำให้ดูขาดจุดยืนที่จะนำเสนอครับ...
แต่ใช่ว่าจะมีแต่ข้อเสียในเรื่องบทนำที่แสดงออกมาให้เห็นเท่านั้น...การสร้างปมเรื่องหรือ พล็อต ทำได้ดีทีเดียว...เพราะผมมั่นใจอย่างที่สุดว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่น่าจะเกี่ยวข้องกับอะไรที่เป็นความ( น่าจะ) สนใจจริงๆของเรา...ซึ่งเป็นข้อดีเพียงข้อเดียวที่ผมพอจะมองเห็นในการอ่านบทนำครั้งนี้...
* * * ตอนที่ 2 : ผู้ปักปักรักษาท้องทะเล * * * - เป็นการเปิดเรื่องที่สนุกมากครับ...แต่ดูไม่ตื่นเต้นเท่าที่ควร...เนื่องจาก...
\" ในยามรัตติกาลที่ไม่สงบ.. คงไม่มีใครคิดว่าจะมีเรือลำใดลำหนึ่งมาอยู่กลางทะเล ในขณะที่พายุเริ่มเข้าสู่ชายฝั่งเช่นนี้..ลมพายุที่พัดอย่างบ้าคลั่ง มิได้สร้างความหวาดกลัวให้กับเจ้าของเรือประมงที่ลอยลำอยู่เลยแม้แต่น้อย \" - เกิดความไม่รื่นไหลของการบรรยายครับ...ความสอดรับและดูเป็นประโยคที่หลวมเกินไปทำให้เสน่ห์ในการเปิดตัวขาดหายไป...\" ท่ามกลางความมืดมิดของราตรีกาล...เบื้องบนท้องฟ้าเป็นสีดำทมิฬแลดูน่ากลัวยิ่งนัก...เมฆส่วนใหญ่จับรวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน...ซึ่งมองดูเผินๆแล้วราวกับว่ามันหยุดนิ่งอยู่กับที่...แต่เปล่าเลย...สิ่งนั้นเป็นสัญญาณของการเกิดพายุซึ่งกำลังก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆพัดพาเอาวัตถุไร้น้ำหนักบางอย่างปลิดปลิวไปในอากาส...ดูราวกับมันจะพัดพาเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่มันปะทะด้วยให้กระจัดกระจายไปอย่างน่ากลัว....ในขณะที่เบื้องล่างท้องน้ำสีดำสนิทในความมืดมิดนั้นกำลังแปรปรวนอย่างหนัก...คลื่นจากอิทธิพลของแรงลมที่โหมกระหน่ำอย่างไม่ปราณีปราสัยราวกับน้ำเดือดที่พลุ่งพล่านแตกกระจายออกไปตามความร้อนที่อยู่ในภาชนะ...เรือเดินสมุทรขนาดเล็กซึ่งบรรจุลูกเรือไม่มากนักกำลังลอยลำอยู่บนพื้นน้ำขนาดใหญ่ซึ่งดูราวกับมันจะลอยคว้าง..โคลงไปมาตามความแปรปรวนของกระแสลมและน้ำ..เวิ้งว้าง..ว่างเปล่า...และโดดเดียว..ทิ้งคราวที่แลไปโดยรอบ...มีเพียงเวิ้งน้ำไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา....แลดูน่ากลัวยิ่งนัก \" ข้อความข้อต้นนี้เป็นได้ทั้งอารัมภบทและฉากไปในเวลาเดียวกันครับ...
\" เปรี้ยง เปรี้ยง.. เสียงอสุนีบาตยังดังอยู่ไม่ขาดสาย.. น้ำทะเลกะเพื่อมด้วยความเร็วคลื่น สิบเมตรต่อวินาทีได้.. แอมพลิจูดของคลื่นวัดได้ประมาณห้าเมตร.. จึงไม่แปลกที่เรือประมงจะทรงตัวได้ไม่ดี.. \" - การบรรยายขาดความต่อเนื่องครับ - \" เปรี๊ยง ...เปรี๊ยง \" เสียงอสุนีบาทดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ...ในขณะที่กระแสนั้นนั้นเริ่มแปรปรวนหนักมากขึ้น...เป็นผลให้ตัวเรือโคลงไปมาอย่างช่วยไม่ได้ \"
\" ครับ” ชายหนุ่มที่ถูกใช้รีบปฏิบัติตามคำสั่งนายทันที เขากระโดดลงน้ำไปอย่างรวดเร็ว  -เกิดความไม่สอดคล้องครับ - \" ครับ\" ชายหนุ่มรับคำแล้วจึงกระโดดลงไปในน้ำเพื่อปฎิบัติตามคำสังทันที...
จริงๆแล้วผมอยากจะบอกว่า...ตอนนี้มีความน่าใจในหลายจุดครับ...อย่างแรกคือ...การผูกเรื่องคุณผูกเรื่องได้น่าสนใจมาก...และความพยามสอดแทรกความรู้ที่คุณมีลงไปในบทที่คุณเขียน...แต่ข้อดีทั้งหมดของคุณมันหมดเสน่ห์ไปกับการดำเนินเรื่องที่ดูไม่กระจ่างชัด..ทำให้ดูเหมือนมันไม่น่าเชื่อถือ...ฉากที่ดูจะขาดความสำคัญลงไปอย่างไม่ควรจะเป็น...เพราะสิ่งที่ทำให้เรื่องดูน่าสนใจในทุกๆหมวดนั้นคือฉากที่ควรจะวางแผนในการวางไว้ในใจอยู่แล้วในขั้นตอนก่อนลง...ซึ่งผมเข้าใจว่ามันเป็นปัญหากับนักเขียนเกือบทุกคนที่เริ่มเขียนใหม่ๆ...ที่ยังหาจุดมุ่งหมายในการเขียนไม่ได้ว่า...ตอนนั้นตอนนี้จะเขียนอะไรเท่าไหร่ดี...มันก็เลยดูหลุด...รูปแบบไปอย่างน่าเสียดาย...ซึ่งต้องพยามมองบางสิ่งให้ลึกๆ...และลองบรรยายดูว่าสิ่งที่เราเขีนยถึงนั้น...เวลาเขียนออกมาแล้วเห็นอย่างที่เราบรรยายหรือไม่อย่างไร..เช่นเรามีรูปหนึ่งรูป...เราก็บรรยายจากล่างไปบน..และใส่รายละเอียดลงไปเท่าที่จำเป็นอย่างทียกตัวอย่างมาให้คิดว่าน่าจะช่วยได้ไม่มากก็น้อยครับ
* * * ตอนที่ 3 : ทารกบนชายหาด * * * -ความสนุกยังคงมีให้เห็นทั่วไปของตัวบทที่ดูน่าสนใจและน่าติดตามมากครับ...แต่ปัญหาเดิมๆก็ยังคงมีให้เห็นกับตอนนี้...
\" หาดชะอำ จังหวัดเพชรบุรี พ.ศ. ๒๕๓..... คงไม่มีใครสักคนอยู่บริเวณชายหาดที่พายุกำลังเข้าเช่นนี้.. ลมกรรโชกแรง พัดพาคลื่นน้ำเข้าฝั่งอย่างบ้าคลั่ง ต้นมะพร้าวบริเวณชายหาด ต้านรับลมจนเกือบจะโค่นล้ม.. ทรายแห้ง ๆ ฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ....สายตาคู่หนึ่งจับตามองเหตุการณ์ที่เปรียบได้ดังฟ้าพิโรธอยู่ภายในบ้านเดี่ยวสองชั้นบริเวณชายหาด..สายตาของเธอลอดผ่านหน้าต่างกระจกออกมา.. - เกิดความไม่รื่นไหลครับในการบรรยาย ....และฉากดูเบาเกินไปไม่มีน้ำหนักให้เชื่อถือได้เลย...ณ มุมหนึ่งของชายหาดชะอำ...จังหวัดเพชรบุรี ( ใส่หรือไม่ก็ไม่แปลกนะผมว่าตรงปีเนี๊ย)...เคาะหนึ่งบรรทัด....หาดยาวสุดลู่สายตารกร้างผู้คน...เกิดลมกรรโชกแรงดูน่ากลัว....พัดพาเอาคลื่นขนาดใหญ่สัดเข้าหาฝั่งอย่างบ้าคลั่ง....เป็นผลให้ทรายบริเวณตีนชายหาดชุ่มชื้นและมีน้ำหนักกว่าบริเวณที่เป็นที่โล่งแห้งที่จะฟุ้งกระจายตามกระแสลมกินบริเวณกว้าง....ในขณะที่ทิวต้นมะพร้าวริมฝั่งก็ได้รับอิทธิพลจากแรงปะทะนั้นเช่นกัน...บ้างหักโค่นปลิดปลิวไปตากระแสลมแรง...บางลู่ไปตามทิศทางที่กระแสลมนั้นกระหน่ำ...แต่ใครจะรู้ว่าในสภาวะการณ์เลวร้ายเช่นนี้ใครคนหนึ่งกลับทอดกายสงบนิ่งไม่ไหวติงอยู่ตรงนั้น( เคาะขึ้นบรรทัดใหม่) ... หญิงสาวคนหนึ่งกำลังเพ่งมองผ่านกระจกหน้าต่างบ้านที่ปลูกอยู่ห่างออกจากชายฝั่งไปไม่มากนักออกไป......เพื่อสำรวจปรากฎการณ์ภายนอกด้วยความหวั่นวิตก...อย่างนี้เป็นต้น
\" ภายในห้องครัวที่ถูกจัดอย่างเป็นระเบียบ มีเครื่องครัวครบครัน โต๊ะอาหารเล็ก ๆ มีแกงจืดและผัดผักรวมมิตรวางอยู่ เก้าอี้ สี่ตัว มีชายวัยสามสิบปีนั่งคอยท่าอยู่แล้ว รมณีย์และลูกสาวไปนั่งที่โต๊ะอาหาร ทั้งสามคนจึงเริ่มทานอาหารทันที\"  - ความไม่ชัดเจนในการลำดับภาพครับและความยืดยื้อเกินไปของเนื้อหาครับ \" ภายในห้องครัวขนาดปานกลาง...ชายหนุ่มวัยสามสิบเศษกำลังนั่งรอภรรยาและบุตรสาวอยู่ที่โต๊ะรับประทานอาหาร...\" ...“ลองวีคเอนท์ทั้งทีกะจะพักผ่อนให้สบายแท้ ๆ กลับมีพายุเข้าอีก.. น่าเสียดายจริง ๆ นะคะคุณ” รมณีย์บ่นขณะที่ทรุดกายลงที่เก้าอี้ตัวหนึ่งข้างสามี -“เอาเถอะน่าคุณ เราจะมาที่นี่อีกเมื่อไรก็ได้นี่ !ถ้าคุณอยากจะมา จริงมั๊ยลูก” ภานุเดชสามีของรมณีย์พูดปลอบภรรยา โดยมีลูกสาวพยักหน้าเห็นด้วย -และทั้งสามจึงเริ่มลงมือรับประทานอาหารด้วยกัน...แต่ครู่ต่อมาไฟทั้งบ้านก็ดับวูบลง...\" อะไรประมาณนี้ครับ
\" รมณีย์สอดสายตาผ่านหน้าต่างกระจกออกไปด้านนอก.. และเธอก็เห็นภาพอะไรบางอย่างที่เธอไม่คาดคิด..\" - ความไม่ต่อเนื่องครับ...\" รมณีย์เพ่งมองออกไปในความมืดด้านนอกหน้าต่างด้วยใจที่หวั่นวิตก...เธอกวาดสายตามองดูตามทิวต้นมะพร้าวที่บัดนี้หักโค่นไปเป็นจำนวนมาก...ตลอดจนหาดทรายที่งดงามที่บัดนี้ดูเงียบเชียบราวกับรกร้างผู้คน... “คุณพระช่วย \" รมณีอุทานอย่างตกใจเมื่อแลเห็นบางสิ่งบนหาด \" คุณ..คุณมาดูอะไรนั่นสิ..” เธอร้องเรียกสามีอย่างร้อนใจ พลางชี้นิ้วไปที่บริเวณชายหาด  -ภานุเดชมองไปตามทิศทางที่ภรรยาชี้ชวน .... เพ่งมองอยู่เป็นครู่......แบบนี้คือการดำเนินเรื่องที่รวดเร็วแต่ข้อมูลยังครบครับ...
ปัญหาของการ\" เกลา \" สำนวน...การดำเนินเรื่องและการเชื่อมเหตุการณ์เป็นสิ่งที่ต้องค่อยๆทำอย่างใจเย็น...ให้เวลากับต้นฉบับให้มากๆครับ...ซึ่งเมื่อเรื่องมีสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เนื่องเรื่องดูสนุกขึ้นอีกมากครับ( อย่างที่คุณตั้งมใจจะให้มันเป็น)
* * * ตอนที่ 4 : รายงานตัว * * *   - และแล้วก็เปิดตัวเจ้าสมุทร( ซะที)...อยากบอกว่าไม่สมกับที่รอคอยเลยครับ...เนื่องจากปัญหาในการเรียบเรียงของคุณทำให้เนื้อเรื่องดูกระโดดไปมา...และอ่านแล้วไม่เพลินอย่างที่มันควรจะเป็นเลย...
            \"บริเวณใจกลางอ่าวไทย ที่มองไปรอบ ๆ  ก็จะเห็นเพียงท้องทะเลสีน้ำเงินไกลจนสุดลูกหูลูกตา ไม่เห็นแม้เศษเสี้ยวของพื้นดินเลยสักนิดเดียว เบื้องล่างคือใต้ทะเลที่สุดแสนจะสงบ สิ่งมีชีวิตย่อมมีน้อยในบริเวณที่ห่างไกลจากชายฝั่งประมาณห้าร้อยกิโลเมตรเช่นนี้ ยิ่งลึกลงไปถึงพื้น ท้องทะเลก็มืดมิด นอกจากหวีวุ้นแล้ว ก็แทบจะหาสิ่งมีชีวิตประเภทอื่นไม่ได้เลย \" ความไม่เข้ากันของสองประโยคนี้...อะไรคือใจกลางอ่าวไทย..มันดูเลื่อนลอยเกินไป...สู้ใช้คำบรรยายกลางๆแล้วขยายยังดูน่าอ่านกว่าครับ...ณ มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพรศาล...น้ำทะเลมีสีเขียวดังมรกต..ใสนิ่ง...ลึกลงไปในความใสเย็นนั้นมีฝูงปลากลุ่มใหญ่แวกว่ายไปมาอย่างสนุกสนาน...ผ่านความตื้นเขินของระดับน้ำ..ลึกลงไปเรื่อย...เรื่อย เรื่อย...เรื่อย...จนดูเหมือนว่ายิ่งลึกลงไปเท่าไหร่...ก็ยิ่งอ้างว้าง...และรกร้างสิ่งมีชีวิตโดยสิ้นเชิง... \"
            \" สิ่งก่อสร้างที่มีลักษณะคล้ายกับถ้ำ หากแต่เป็นสถาปัตยกรรมที่ประณีตงดงาม หินงอกหินย้อยดูเป็นระเบียบ ผนังถ้ำฝังด้วยเพชรสีครามและสีน้ำเงินส่องสว่างไสวระยิบระยับสวยงาม เป็นสถานที่ ๆ ที่อยู่ใต้ทะเลลึกเกือบหนึ่งพันเมตรจึงไม่ต้องแปลกใจเลย.. ที่สถานที่แบบนี้จะไม่เคยมีใครค้นพบ.. แต่บางทีพวกเขาอาจจะมองไม่เห็นเองก็ได้... -  การบรรยายก่อให้เกิดภาพพจน์ทำได้ไม่ดีครับทำให้จินตาการฉากไม่ออก...ในความมืดมิดของใต้ทะเลนั้นหากใครสังเกตดีๆก็จะพบบางสิ่งที่จมตัวอยู่ใต้ท้องน้ำนั้นมานานแสนนาน....แนวหินที่ทอดตัวยาวสุดแนวของน้ำช่วงนั้นมีโพลงขนาดใหญ่อยู่ตรงส่วนหน้า...ลึกเข้าไปภายใน...มีทางเดินแคบๆทอดตัวจากหน้าโพลงนั้นไปสู่ภายในที่ไม่อาจคะแนได้ด้วยสายตาถึงความยาวที่มันจะไปสิ้นสุด....บริเวณส่วนบนของโพลงนั้นมีแนวหินงอกและหินย้อยยาวเกิดขึ้นเรียงรายไปตลอดแนว...ดูวิจิตบรรจงและงดงามราวกับว่านี่ป็นความจงใจสร้างมันขึ้นด้วยมือของใครสักคน....ผนังโดยรอบประดับประดาไปด้วยหินชนิดหนึ่งที่ไวต่อการกระทบของแสงสีครามและน้ำเงินเป็นผลให้บริเวณนั้นเกิดความสว่างไสวไปทั่ว...แบบนี้เป็นต้น
              “ในปี สองพันห้าร้อยสามสิบเอ็ด เมื่อเจ็ดปีที่แล้วบ่อสีครามตกผลึกเป็นเพชรสองอันบ่งบอกว่าจะมีเด็กชายที่โลหิตจมสู่ก้นทะเลสองคนและตอนนี้ก็เพิ่งมารายงานตัวเพียงคนเดียวเอง และตอนนั้นบ่อสีน้ำเงินก็ตกผลึกเป็นเพชรสองอันเช่นกัน แสดงว่าจะต้องมีเด็กหญิงที่โลหิตจมสู่ก้นทะเลสองคนเช่นกันแต่ตอนนี้มีมารายงานเพียงคนเดียว.. รออีกสักครู่เถอะ..” ชายชราที่มีชื่อเรียกว่าจ้าวสมุทรพูด  - เกิดความไม่ชัดเจนของความหมาย...เนื่องจากมันสั้นและซ้ำจนทำให้ผมทำความเข้าใจได้ยากครับ...เข้าใจว่า \" เมื่อเจ็ดปีก่อน..มีการตึกผลึกของเพชรสองชิ้นในบ่อสีคราม...ซึ่งนั้นก็หมายความว่าจะต้องมีเด็กจุติยังเมืองบาลดารของเรา...แต่ตอนนี้มีมารายงานตัวเพียงคนเดียว...ถ้าจะให้ข้าเดา..ข้าเข้าใจว่าจะต้องมีเด็กอีกคนมารายงานตัวเป็นแน่ \" ซึ่งผมยังไม่แน่ใจเลยว่าผมเข้าใจถูกต้องทั้งหมด -นี่คือข้อเสียของการบรรยายแบบไม่ชัดเจนครับ
              \" ความไม่สมจริงครับ-คือในตอนที่มีการรอกันไปมาก็มีเด็กหญิงเข้ามารายงานตัว...และมีคนรออยู่ก่อนแล้วสองคน-พอถึงตรงนี้ผมเข้าใจว่าผู้เขียนกำลังจะบอกว่ามีเด็กชาย 1คู่และเด็กสาว1คู่รึเปล่าไม่ทราบแต่ในเรื่องมีคนเข้าพิธีแค่3คน...\"-และการรายงานตัวนี่ไม่แน่ใจว่าถ้าเกิดอีกคนไม่มาแล้วจะทำได้ไหมครับ..โอ้ยมีคำถามมากมายล้านแปดเลยล่ะ...คือมันเกิดจากการเขียนได้ไม่ชัดเจของผู้เขียนครับ...ซึ่งความสับสนนี่จะเป็นปัญหาให้กับผู้อ่านในอนาคตด้วยครับ
     
* * * ตอนที่ 5 :  กลับมาอีกครั้ง* * *   - สิ่งที่ผมชอบที่สุดกับตอนนี้เห็นจะเป็นปมที่เริ่มจะออกมาได้ชัดเจนมากขึ้น...และไม่เหลือความน่าสงสัยกับประโยคแปลกๆให้เห็นมากนักครับ....แต่ก็มีสิ่งที่ควรปรับเปลี่ยนเหมือนเดิมนั้นคือ...
\" รถเก๋งโตโยต้าสีแดง แล่นอยู่ที่ถนนเลียบชายฝั่งทะเล.. ภายในรถมีคนอยู่สามคน.. คนขับเป็นหญิงสาวที่เพิ่งก้าวพ้นจากวัยรุ่นหมาด ๆ ในวัยย่างยี่สิบสองใบหน้าเรียว ผิวขาวใสริมฝีปากเป็นสีแดงนิด ๆ อย่างธรรมชาติปราศจากคราบลิปติก ผมดำยาวเสมอลำคอ คาดผมด้วยที่คาดผมสีฟ้า..  เธอเป็นผู้หญิงที่ควรค่าแก่คำว่า สวย ที่จะใช้เรียกเธอ \"  - การบรรยายที่ไม่ชัดเจนครับ ....\" รถญี่ปุ่นทรงสวยสีแดงสดแล่นเลียบไปตามแนวชายฝั่ง...ซึ่งมีหญิงสาวใบหน้าเรียวยาวผิวขาวเนียนเป็นผู้บังคับเจ้าภาหนะสีสวยสดนั้นอยู่หลังพวงมาลัย...ข้างกายเด็กหนุ่มหน้าตาดี....วัยห่างกันอยู่มากนั่งเคียงข้างหญิงสาวอยู่ทางตอนหน้า...ในขณะที่ด้านหลังมีเพียงผู้หญิงวัยใกล้กลางคนที่กำลังจับจ้องไปนอกหน้าต่างสำรวจความเปลี่ยนแปลงไปของสถานที่..ที่เธอเคยอยู่ \" เป็นต้น
สิ่งทีต้องชื่อชมมากในตอนนี้คือการชาญฉลาดในการทิ้งปมปริศนาที่น่าชื่นชมมากๆ...เพราะทำให้เกิดความอยากรู้ขึ้นมาตะหงึดๆว่า...จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป..( ทั้งที่ก่อนอ่านถึงตอนนี้แล้วความน่าสนใจนั้นลดลงไปมาก)...และเชื่อย่างที่สุดว่าถ้าผู้เขียนขจัดความสับซ้อน...ของการบรรยายออกไปได้...และรู้จักนำเสนอได้สอดรับกับสิ่งทีต้องการจะสื่อ...เรื่องนี้จะสนุกเอามากๆทีเดียวครับ
* * * ตอนที่ 6 :  ผู้บุกรุก * * *   - ยังเป็นเรื่องของการบรรยายอยู่ครับ
\" ใต้ท้องทะเลลึก ในบริเวณทางตอนใต้ของอ่าวไทย ที่เงียบสงัดและมืดมิด ถ้าใครก็ตามที่ดำน้ำลึกลงมาขนาดนี้ และสังเกตุให้ดีอาจจะได้พบกับหินหลาย ๆ ก้อนปกปิดโพรงขนาดใหญ่นั้นอยู่ซึ่งมันก็เป็นไปได้ยากไม่ต่างอะไรกับการหาเข็มที่จมอยู่ใต้ทะเลแห่งนี้เลย สถานที่ดังกล่าวจึงปลอดภัยจากผู้สอดรู้สอดเห็นและนักสำรวจ ..\" - ประโยคที่ว่า \" ถ้าใครก็ตามที่ดำน้ำลึกลงมาขนาดนี้ และสังเกตให้ดี \" มันไม่สอดรับกับบริบทตอนต้นเลยแม้แต่น้อย..เนื่องจากไม่มีการบอกถึงระดับความลึกก่อนหน้านี้( มาก่อน)...จึงทำให้เกิดความไม่สมเหตุสมผลที่จะใช้ประโยคที่ว่ามานี้ครับ... และดูเป็นการซ้ำซ้อนกับเนื้อความใน- -ตอนที่ 4 : รายงานตัว - -\"  \" สิ่งก่อสร้างที่มีลักษณะคล้ายกับถ้ำ หากแต่เป็นสถาปัตยกรรมที่ประณีตงดงาม หินงอกหินย้อยดูเป็นระเบียบ ผนังถ้ำฝังด้วยเพชรสีครามและสีน้ำเงินส่องสว่างไสวระยิบระยับสวยงาม เป็นสถานที่ ๆ ที่อยู่ใต้ทะเลลึกเกือบหนึ่งพันเมตรจึงไม่ต้องแปลกใจเลย.. ที่สถานที่แบบนี้จะไม่เคยมีใครค้นพบ.. แต่บางทีพวกเขาอาจจะมองไม่เห็นเองก็ได้... \"
ความไม่กลมกลืนในการบรรยายทำให้ภาพที่มองดูนั้นกระจัดกระจายขาดความต่อเนื่อง....เช่น
\"            ที่นี่มีช่องว่างเป็นถนนเล็ก ๆ ในการสัญจร ทุกทีจะมีผู้คนเดินพลุกพล่าน เกือบตลอดเวลา แต่ไม่ใช่วันนี้
  บริเวณลานกว้างทุกครั้งจะเป็นที่ที่ดีที่สุดในการชุมนุมของผู้คน ทั้งเรื่องการค้าขาย บางคนพร้อมใจกันมาขายของที่นี่ เยอะพอ ๆ กับบางคนมาเดินช็อปปิ้ง ที่นี่มีคนมากพอที่จะใช้สถานที่ในการพปปะพูดคุย ยาวไปถึงการซุบซิบนินทาคนอื่น ๆ แต่ไม่ใช่วันนี้
  บ้านหลังหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นบ้านที่ใหญ่ที่สุด สร้างจากเพรียงหินเหมือนกับหลังอื่น ๆ ห้อยกระถางดอกไม้ทะเลไว้ที่หน้าบ้าน ไม่เหมือนกับบ้านหลังอื่น ๆ ตรงที่ดอกไม้ทะเลที่นี่ถูกตัดแต่งอย่างสวยงามจนบ้านหลังอื่น ๆ สู้ไม่ได้ \" - ผมคิดว่าผมเข้าใจว่าสิ่งที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อ( รึเปล่า) นั้นคือ \" ถนนหนทางต่างร้างผู้คนทั้งที่ทุกวันมันสภาพไม่ต่างไปจากการจราจลย่อยๆบนพื้นที่แคบๆนี้ตลอดเวลา...เกิดอะไรขึ้น ....เช่นเดียวกับลานกว้างที่มักมีผู้คนเข้ามาชุมนุมเพื่อพูดคุยและแลกเปลี่ยนทัศนะกันที่นี่อยู่เป็นประจำ...ก็ร้างผู้คนเช่นเดียวกัน...ต้องมีอะไรที่ไม่ปกติเป็นแน่....และเหตุผลที่สามารถอธิบายความผิดปกตินั้นได้ก็คือ...เพราะทุกคนพากันมาประชุมกันอย่างสลงบอยู่ที่หน้าบ้านผู้ใหญ่บ้าน...( แต่ว่าการนำเสนอนั้นวกวนเกินไป..ทำให้ดูเป็นเรื่องที่เหมือนไม่เกี่ยวข้องกันโดยสิ้นเชิง...อาจเพราะผู้เขียนอาจจะต้องการเล่นสำนวนในการนำเสนอ...จึงเลี่ยงที่จะพูดออกมาแบบปกติ...แต่มันให้ความรู้สึกวกวนมากกว่า...ครับ )
\" หัวหน้าหมู่บ้านสั่ง.. ผู้คนเริ่มเคลื่อนทัพในการปฏิบัติภารกิจ \" - ใช้คำได้ไม่เหมาะสมนักครับ \" ทัพนั้นควรจะใช้กับทหารมากกว่าชาวบ้าน \"
“แต่คัมภีร์อยู่ในที่ที่ปลอดภัยแล้ว.. ทำไมข้าถึงต้องหนีด้วยเล่า..” นทีเถียง
    “ใช่ ! เราฝากคัมภีร์ไว้กับเขา.. แต่ ‘ไซโซ’ ยังไม่รู้ ในเมื่อเจ้าเป็นเจ้าของคัมภีร์ที่แท้จริง ไซโซ จะต้องมาตามล่าคัมภีร์กับเจ้า.. ถ้าเจ้าหนีไปซะ.. หนีไป
ให้ไกลจนไซโซไม่สามารถตามหาเจ้าเจอ ไซโซก็จะยังคิดว่าคัมภีร์ยังอยู่กับเจ้าอยู่ แต่ถ้าเจ้ายังอยู่ที่นี่ต่อ.. พอไซโซฆ่าเจ้าได้เขาก็จะรู้ทันทีว่าคัมภีร์ไม่ได้อยู่กับเจ้า.. แล้วเจ้าคิดว่าไซโซจะไม่รู้หรือ.. ว่าเราได้ฝากคัมภีร์ไว้กับเขา..” หัวหน้าหมู่บ้านพูดอย่างเร็ว และดูเหมือนนทีจะเถียงไม่ออก - เกิดความประหลาดใจมากๆครับเพาะปกติผู้เขียนใช้บทสนทนาที่ดูเป็นธรรมชาติแต่ตอนนี้กัลเกิดข้อผิดพลาดตรงนี้ได้อย่างน่าเสียดายครับ....\" “แต่คัมภีร์อยู่ในที่ที่ปลอดภัยแล้ว.. ทำไมข้าถึงต้องหนีด้วยเล่า..” นทีเถียง - - -\" ก็ใช่( หรือก็จริงอยู่ \"แต่เราฝาก คัมภีร์ ไว้กับเค้าซึ่งข้ามั่นใจว่าไซโซคิดว่ามันอยู่กับเจ้า...ดังนั้นเจ้าเองจงหนีไปเสียเพื่อความปลอดภัยของเค้าและ คัมภีร์...\" หัวคิ้วของนธีขวมดเข้าหากัน \" การที่เจ้าหนีไปนั้นย่อมทำให้ไซโซมั่นใจว่า คัมภีร์อยู่กับเจ้าจริงๆ...ดังนั้นเจ้าต้องไป...เพื่อให้คนที่อยู่รอด\" ( ไม่แน่ใจว่าเข้าใจถุกไหมนะเรา)...นทีรับฟังอย่างยอมรับในเหตุผลที่ได้ฟัง
\" เขาสามารถค้นหาพวกเจ้าพบแน่นอนในโลกใต้น้ำ แต่ในโลกบนพื้นดินแล้ว เขาแทบจะไม่มีฤทธิ์เดชอะไรเลย ก็เขาไม่เคยเหยียบขึ้นไปบนนั้นเลยนี่นะ..” หัวหน้าหมู่บ้านพูด \" - - -ความไม่เป็นธรรมชาติ \" เขาสามารถหาเจ้าพบในโลกใต้น้ำนั้นก็จริงอยู่...แต่ไม่ใช่บนพื้นโลก...สถานที่...ที่เค้า...ไม่เคยแม้แต่จะเหยียบขึ้นไปบนนั้น \"หัวหน้าหมู่บ้านพูด
\" สิริณญาเตรียมการไว้แล้ว.. เธอไม่แน่ใจ.. ในชีวิตของเธอและสามี.. แต่เธอมั่นใจ.. ลูกชายของเธอ.. นักรบรัชทายาทคนนี้จะต้องปลอดภัย.. เธอเตรียมการไว้แล้ว..\" - - -ความมไม่สัมพันธ์ของประโยค  \" แม้สิริณญาจะเตรียมใจไว้แล้วเกี่ยวกับความไม่มั่นคงของชีวิตของเธอและสามี...แต่สำหรับลูกชายคนเดียวของเธอ...ลูกชายที่จะเป็นนักรบรัชทายาทคนต่อไปจะต้องปลอดภัย \"
ความโดดเด่นอย่างหนึ่งที่ผมเพิ่งพบในงานชิ้นนี้ของนักเขียคือการลำดับเรื่องที่ทำได้ดีมากในการลำดับการต่อสู่ที่เกิดขึ้น...แม้มันจะไม่ชัดเจนทั้งหมดแต่นั้นก็เกิดจากการบรรยายที่ยังไม่ดีนัก...แต่ไม่เกี่ยวกับการลำดับเหตุการ์แต่อย่างใดเลยครับ...
* * * ตอนที่ 7 :  เปิดเทอม * * * - รู้สึกชอบตอนนี้เป็นพิเศษครับ..เนื่องจากอ่านง่ายและมีความเป็นสามันเอามากๆก็เลยรู้สึกว่าไม่ต้องใช้จิตนาการมากนักในการอ่าน...อีกทั้งมีประโยคแปลกปรากฎอยุ่น้อยทำให้อ่านแล้วไม่สะดุดเหมือนตอนอื่นๆครับ....แต่กระนั้นสิ่งหนึ่งที่ขาดหายไปคือ ฉาก ที่ไม่มีเลยในตอนๆนี้ครับผม...ซึ่งจะว่าไปก็ไม่ใหญ่อะไรมากนัก...พอไหวครับเมื่อเทียบกับปมที่ทิ้งและเริ่มฮวดเข้ามาทุกทีแล้ว
\" เหมือนเด็กแก่เรียน \" สำนวนนี้มันขาดความชัดเจนอันเนื่องมาจากการไม่ละเอียดมากพอในการใช้คำครับ - \" เหมือนเด็กคงแก่เรียน\"
* * * ตอนที่ 8 :    งานชิ้นใหม่ * * * - รู้สึกว่าการลำดับเหตุการ์เป็นไปได้อย่างราบลื่นและอ่านดีครับ...ไม่มีข้อความแปลกให้เห็นและยังดำเนินเรื่องได้เร็วและมีสำนวนที่น่าสนใจให้สะดุดใจอ่านอีกต่างหาก...อยากบอกว่าชิบและรู้สึกว่าพัฒนาการในการเขียนมีมากขึ้นในตอนนี้ครับ ราวกับว่าไม่ใช่คนเดียวกันที่เขียนในตอนแรกๆเลยครับ...
* * * ตอนที่ 9 :    คฤหาสน์เกษมสมุทร * * * - ความรื่นไหลและเนื้อเรื่องที่ดูเรื่อยๆในตอนต้นนั้นหมดเสน่ห์ไปกับประโยคไม่กี่ประโยคตอนท้าย..ซึ่งผมคิดว่านี่คงเป็นปัญญหาที่แก้ยากซักหน่อยของนักเขียนท่านนี้ครับ นั้นคือ..
\" เรือแล่นมาเรื่อย ๆ จนเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง เกาะ ๆ หนึ่งก็ปรากฏให้เห็น เป็นเกาะขนาดเล็ก ใกล้เขาไปก็พบว่ามีสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนเกาะ ใกล้เข้าไปอีกจึงพบว่าสิ่งก่อสร้างนั้นคือ คฤหาสน์สองชั้นขนาดใหญ่ พอ ๆ กับวังเลยทีเดียว สร้างจากปูนซีเมนต์  ทาสีควันบุหรี่ แทบจะนับจำนวนหน้าต่างของคฤหาสน์หลังนี้ไม่ได้เลย \" -นี่เกิดจากการบรรยายฉากที่ผู้เขียนยังไม่เก่งพอจะเขียนถึงสิ่งนี้ได้ครับ \" เมื่อพวกเขาใกล้เข้าไปยังเกาะที่ล้อมรอบไปด้วยน้ำทะเลนั้น...พวกเค้าสังเกตเห็นว่ามันเป็นเกาะขนาดใหญ่ที่มีสิ่งปลูกสร้างอยู่บนนั้นมากมายพอดู...ลึกเข้าไปทางด้านหน้าของท่าเรือ...เป็นทางเดินทอดตัวยาวเข้าไป...สู่ตัวตึกขนาดใหญ่ที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า....( พอถึงตรงนี้ก็เคาะและอธิบายถึงลักษณะคฤหาสถ์อีกนิดหน่อยก็พอทำให้มีความรู้สึกว่ามันสอดคล้องต่อนื่อง)
บางคนมีเสน่ห์ในการนำเสนอเรื่องไม่เหมือนกัน...แต่เสน่ห์ของผู้เขียนเรื่องนี้อาจจะอยู่ที่บทสนทนาและการดำเนินเรื่องเพียงเท่านั้นครับที่มองเห็นในตอนนี้...
* * * ตอนที่ 10 :    ผู้ศึกษาตำนาน อาถรรพ์ แห่งท้องทะเล * * * - เนื้อเรื่องดเนินได้ดีครับมีความต่อเนื่องและน่าสนใจกับแนวความคิดที่ขมวดปมและบุคคลเข้ามาได้อย่างน่าสนใจ...ไม่ใช่นึกอยากจะให้ใครมาเจอใครก็ได้...ดูมีเหตุมีผมน่าสนใจมากครับ...แต่
\" ก้าวแรกที่อูวดลย่างก้าวเข้ามาในคฤหาสน์เกษมสมุทร ปลายเท้าของเขาแตะอยู่ที่พื้นหินอ่อน สีขาว ความเย็นแผ่เข้าสู่ร่างเขาไปทั่วทุกอณู บริเวณห้องโถงเปล่า ๆ ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร ใหญ่พอ ๆ กับบ้านของเขาทั้งหลัง เบื้องหน้าของไปสักสิบเมตรก็เป็นบันไดวนปูพรมสีแดง ขึ้นไปสู่ชั้นที่สอง บริเวณด้านข้างของห้องโถงมีประตู นับได้เกือบสิบบานเลยทีเดียว โคมไฟระย้า ห้อยลงมาจากเพดานที่ถูกเขียนเป็นรูป ใต้ทะเล อย่างวิจิตรงดงาม ภาพนับสิบภาพที่ห้อยประดับ ผนังห้องโถง เป็นภาพที่เกี่ยวกับทะเลทั้งสิ้น.. สนนราคาในแต่ละภาพอูวดลเดาได้เลยว่า.. ไม่ต่ำกว่าหกหลักแน่นอน.. \" ยังคงมีปัญหาในการบรรยายอีกเช่นเคยครับ -\" ก้าวแรกที่อูวดลก้าวสุ่ตัวคฤหาสน์...สิ่งที่ปรากฎอยู่เบื้องหน้านั้นงดงามเกินบรรยายเสียจริง...เค้ากวาดสายตาไปตามผนังจดเพดานที่ปรากฎเป็นรูปภาพเขียนสีน้ำมัน...สีพ้าครามที่ลงตัดเป็นท้องน้ำดูสงบเสงี่ยมเมื่อเทียบกับสีขาวครีมที่วาดตวัดไปมา..ทอดตัวเป็นเกรียวคลื่น...เล็กบางใหญ่บ้าง...อีกทั้งใต้ขอบสีขาวที่ตัดกับสีครามน้ำเงินนั้นลงมาปรากฎเป็นภาพของหมู่ปลาน้อยใหญ่แหวกว่ายกันไปเป็นฝูงบ้าง..ประปรายเป็นคู่บ้าง..ตามแนวประการังสีขาวหม่นและแนวหินสีคล้ำเขียวจากตะไคร้น้ำ..ช่างงดงามอ่อนช้อยลงตัวกับโคมไฟที่ทิ้งตัวลงมาด้านล่างอวดสายตาผู้มาเยือนได้เสมอ......ไล่จากผนังลงมาเป็นหินอ่อนทั้งแถบ..เรื่องลงมาถึงพื้นที่เค้าและเธอยืนอยู่...ยาวไปถึงบรรไดหน้ากว้างที่วนตัวขึ้นไปสู่ชั้นบน...ด้วย อย่างนี้เป็นต้นครับ
ผมหวังอย่างยิ่งว่าในอนาคตนักเขียนคนนี้คงจะเก่งในการบรรยายกว่านี้ครับ( เพราะในการเขียนงานแรกๆทำได้ขนาดนี้ก็ถือว่าโอเคครับแต่ยังต้องปรับปรุงอีกหน่อย)...เพราะเมื่อถึงวันนั้นผมเชื่อว่าเรื่องของเค้าต้องมีคนชอบอ่านมากๆเชียวหล่ะ
* * * ตอนที่ 11 :  ความจริงปรากฏ * * * -เรื่อมต้นด้วยความต่อเนื่องที่น่าสใจมากครับสำนวนและการดำเนินเรื่องเป็นไปแบบนาติดตาไม่น่าเบื่อ...แต่มีปัญหากับการบรรยายเช่นเดิม
\" บนพื้นที่ยกระดับสูงสักครึ่งเมตร มีสิ่งที่เหมือนน้ำทะเลมาจับตัวกันเป็นก้อน และภายในก็เต็มไปด้วยดอกไม้ทะเลชนิดต่าง ๆ  โบกสะบัดไปมาเหมือนอยู่ใต้ทะเลจริง ๆ \" -- -\" บนพื้นที่ยกสูงนั้น...มีผนึกขนาดใหญ่สีเขียวอำพันราวกับมรกตทอดตัวยาวไปตลอดแนวผนัง...และหลังผลึกสีเขียวเรืองรองนั้นเต็มไปด้วยพืชทะเลนานชนิดที่เอนไหวไปมาราวกับว่ามันอยู่ในทะเลก็ไม่ปาน\"
นอกจากปัญหาดังกล่าวแล้วแทบจะองไม่ออกเลยว่ายังมีข้อติหนิใดที่จะเกิดขึ้นในตอนนี้ครับ...ที่สำคัญเลยก้คือการคลายปมที่ขมวดเอาไว้ออกทีละนิด..ทำได้ดีและดูน่าติดตามมากครับ...
* * * ตอนที่ 12 :    ความหลังของมาลาตี * * * -ผมเพิ่งเข้าใจความหมายของหลายๆเรื่องในตอนนี้..อย่างเช่นประโยคที่ว่า..เลือดไหลลงก้นทะเล...การคัดเลือก...เพิ่งเข้าใจว่าที่ผมคิดไว้แต่แรกนั้นผิด(เกี่ยวกับการเลือกทายาทและการเสี่ยงทาย)
แต่อย่างไรก็ดีผมมีความรู้สึกว่าสำหรับบางคนที่มีความอดทนในการอ่านไม่มากพอ...เค้าจะรอให้เข้าใจถึงตอนนี้ไหมนะ...นี่แหละปัญหา..ผมชอบตอนจบที่ใช้คำที่แม้จะไม่ถึงกับคมคายมากมายนัก..แต่สำนวนสวยๆควรมีอยู่ในเรื่องบ้าง...อย่างน้อยก็สักหนึ่งหรือสองประโยค
แต่กระนั้นคามสมจริงบางอย่างอาจขาดหายไป...เนื่องจากมารตีดูแล้วน่าจะมีชิวิตที่เป็นคนธรรมดาเสียมากกว่าเป็น เงือก จากเกริ่นที่คุณพูดถึงพ่อแม่ของเธอ...ก็เลยให้สงสัย( อีกแล้วว่า)คนธรรมดาได้รับเลือกและเป็น เงือกได้ ด้วยหรือ....( คงต้องรออ่านกันต่อไป)
\" เขาจะไปรู้สึกดีได้อย่างไรในเมื่อ สิ่งที่เขาได้เผชิญและได้รับรู้ในเวลานี้.. หาใช่สิ่งที่เขาคาดคิดและพึงปรารถนาไม่.. \" - - ความสับสนของสำนวนทำให้เกิดช่องวางในการอ่าน \" จะให้เขารู้สึกมีความสุขไปได้อย่างไร..ในเมื่อเหตุการณ์ที่เค้ากำลังประสพอยุ่ตอนนี้...มันยากที่จะยอมรับได้ว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ \"
\" สิ้นคำของชายชรา มาลาตีซึ่งเปลี่ยนชุดเป็นชุดนอนธรรมดาแล้วก็ลากอูวดลออกจากห้องโถงไป.. ผ่านอุโมงค์เล็ก ๆ จนถึงห้องแคบ ๆ ห้องหนึ่ง ซึ่งเพดานห้องนั้น มีโพรง ๆ เล็ก ซึ่งมีน้ำทะเลอยู่เบื่องบน \" - - -การลำดับภาพดูไม่ค่อยต่อเนื่องเท่าที่ควร \" สิ้นคำนั้นของเจ้าสมุทร...มาราตีจัดการชุดที่สวมใส่ให้กลับไปเป็นชุดนอนตามเดิมและลากกึ่งจูงอูวดลอกไปจากห้องโถงไปตามทางเดินแคบๆสายหนึ่งซึ่งทอดตัวยาวออกไปราวกับว่ามันเป็นทางเดินในอุโมงที่ไม่ที่สิ้นสุด...เอนำเขาหยุดอยู่ที่ห้องแคบๆห้องหนึ่งซึ่งอูวดลรู้สึกประหลาดใจเมื่อพบว่า..บมเพดานนั้นมีโพลงขนาดเล็กกั้นเขาซึ่งอยู่ในที่แห้งคล้ายอยู่บนแผ่นดินกับด้านนอกที่ดูจากสายตาก็ทราบได้ในทันทีว่ามันคือทะเล\"
“ตรงนี้คือทางออกและเข้าของที่นี่..” - -ความไม่เป็นธรรมชาติของบทพูด . .\" ตรงนี้คือทางเข้า-ออกของที่นี่\"
\" เธอสตาร์ทรถและรถยนต์ก็เคลื่อน\" -การเลือใช้คำที่มีความหมายหลายอย่าง \" เธอติดเครื่องยนต์และนำเจ้ารถคันนั้นแล่นออกไปยังจุดหมาย\"
  “ฉันหวังว่า สองคนคงไม่ไปเล่นน้ำแล้วจมน้ำไปแล้วนะ..” ต่อศักดิ์พูด - - -ความไม่เป็นธรรมชาติ \" หวังว่าสองคนนั้นคงไม่พิเลนลงไปเล่นน้ำแล้วจมหายกันไปทั้งคู่หลอกนะ \"
\"อูของฉันก็ปลอดภัยพอ..\" -ความเผลอเลอครับ -\" อูของฉันปลอดภัยก็พอ \"
* * * ตอนที่ 13:  เพชรสีคราม * * * -อาจเพราะตอนนี้นี้มีขนาดที่ค่อนข้างสั้นดังนั้นจึงมองหาข้อผิดพลาดได้น้อยมาก...แต่อยากจะบอกว่าเปิดเรื่องคุณออกจะดูมีพัฒนาการใกบรรยายมากขึ้นจนอยู่ในระดับที่เรียกว่าดีทีเดียวครับ...ให้นึกแปลกใจว่าเมื่อคุรกลับไปอ่านตอนแรกๆของคุรจะรุ้สึกไหมนะว่ามันยังขาดๆเกินๆอยู่
\" แม่ไม่รู้หรอกว่าลูกไปรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง แต่แม่ก็ไม่สนใจอยู่แล้ว.. \" ความไม่เป็นธรรมชาติของบทพูด - - -\" แม่ไม่รู้ว่าลูกรู้เรื่องนี้ได้ยังไง...แต่ก็ช่างเถอะ...ยังไงตามกฏหมาย\"
* * * ตอนที่ 14:  อูวดลรายงานตัว * * * - ตอนนี้มันเรื่อยๆเกินไปหรือเปล่าไม่ทราบ..คือหมายความว่ามันเป็นเหมือนสิ่งที่ทราบมาก่อนแล้วทั้งเรื่อง...รถ...เรื่องการทำพิธีและสถานที่...จึงยังไม่มีความแปลกใหม่เท่าที่ควร...และบางอย่างสามารถคาดเดาได้ว่มันจะเป็นแบบนั้นแบบนี้ครับ..จึงขาดปมเด่นและความตื่นเต้นไปอย่างน่าเสียดายครับ...ทั้งที่สำนวนและการบรรยายเริ่มดีในตอนนี้
\"นี่ ! เธอขับเป็นด้วยเหรอ..\" อูวดลสงสัย-- - -\"ไม่มีอะไรที่ฉัน.. จะทำไม่เป็น..\" มาลาตีพูดด้วยน้ำเสียงโอ้อ - - -เกิดการหลงประเด็นนิดหน่อย...เนื่องจากตอนที่แล้วคนที่พาอูวดลลงทะเลและเป็นคนขับรถกึ่งเรือนั้นคือ มารตีครับ...ซึ่งผมเชื่อว่าอูวดลไม่น่าจะถามแบบนี้
* * * ตอนที่ 15  จดหมายจากทะเลแคริบเบียน * * * - - ความเป็นไปของอูวดลในตอนนี้ดูจะนิ่งไปสักหน่อยเนื่องจาก...การดำเนินเรื่องดูเยิ่อเย้อไป...หมายความว่าเป็นเรื่องเก่าที่เราท่านทั้งหลายอ่านมาจากตอนก่อนๆนี้แล้ว...จึงทำให้อูวดลยังคงเป็นสิ่งที่ไม่มีความแปลกใหม่นัก...นอกจากปมที่ทิ้งไว้ในท้ายเรื่องที่ออกจะน่าสนใจอยู่ไม่น้อย...( ซึ่งถ้าจะว่าไปคนที่อ่านมาตั้งแต่แรกก็พอจะเดาได้ว่าเรื่องมันเป็นยังไง...)...แต่มันก็ยังเป็นปมเก่า...และยังไม่มีปมใหม่ๆเท่าทีควรครับ...จึงทำให้ตอนนี้ดูไม่ค่อยกระชับเท่าที่ควรครับ
\" ไปเปิดหูเปิดตาที่อื่นในใต้น้ำบ้างน่ะค่ะ..\"  -การขยายที่ดูจะสั้นเกินไป...\" ไปเปิดหูเปิดตาที่อื่น ใน เมืองใต้น้ำนี้บ้างค่ะ \"
\"การชีวิตคนมันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ นะมาลาตี..\" จ้าวสมุทรเตือนสติ -ความเผลอเลอในการใช้คำ...\" การ คร่า ชีวิตคนไม่ใช่เรื่องง่ายๆนะมาราตี \"
\"มีอะไรอีกล่ะ.. กฤษณา\" มาลาตีรำคาญ -การความไม่เป็นธรรมชาติของบทพูด - -\" มีอะไรหรือ...กฤษณา หรือ อะไรอีกล่ะ...กฤษณา \"
\" ท่าทีจริงจังของมาลาตีทำให้อูวดลต้องรีบไปเอาสร้อยเพชรสีครามที่มาลาตีบรรจงร้อยให้เขาเมื่อสักครู่ที่ห้องน้ำ จากการลืมของเขา เมื่อได้สร้อยเพชรไว้แล้ว เขารีบสวมสร้อยเส้นนั้นไว้ที่ลำคอ เพชรสีครามยังคงส่อยประจายเจิดจ้า บนลำคอของเขา\" - - การเยิ่นเย้อของการบรรยาย - - \" ท่าทีจริงจังที่มาลาตีแสดงออกมาทำเอาอูวดลรนรานไปที่ห้องน้ำ...หยิบสร้อยที่ส่องแสงระยับอยู่เบื้องหน้าขึ้นสวมใส่...พลางเผลอยิ้มอย่างเป็นสุขเมื่อคิดถึงกริยานั้นของมาราตี...เด็กสาวที่บรรจงร้อยสร้อยเส้นสวยให้กับเค้า...\"
\"ฉันเกรงว่าอันตรายจะเกิดกับเขา..\"  - - ความไม่สมดุลของประโยค - -\" ฉันเกรงว่า จะ เกิดอันตรายกับเขา \"
* * * ตอนที่ 16  หมู่บ้านมนุษย์เงือกเอราวัน  * * * - อยากบอกตามความรู้สึกว่าตอนนี้มีทั้งข้อดีข้อเสียหลายจุดทีเดียวครับ...อย่างแรกตอนนี้มีขนาดที่ยาวดี...ยาวแบบอ่านแล้วได้สาระ...แบบที่อ่านแล้วได้สาระที่ควรจักรู้เกี่ยวกับเนื่อเรื่อง และยังเกิดความสับสนในการบรรยายบ้างในบางจุดแต่ไม่มากนัก...และปมที่ดูจะกระชับเข้ามาเรื่อยๆแล้วถือว่าเป็นตอนที่บอกถึงความสามารถของคนเขียนได้ทีเดียวครับ...( ขาดความสมจริงไปนิดอย่างน่าเสียดาย..ตรงตอนที่ทุกคนพากันมาชุมนุม...หน้าหมู่บ้านนี้ผมว่ในความเป็นจริงการเพิ่งมาถึงของอูวดลไม่น่าจะแพร่ข่าวได้เร็วจนคนทั้งหมู่บ้านจะทาบเรื่องเร็วขนาดนั้นครับ)
\" กฤษณาออกจากยานพาหนะไม่มือชื่อเรียกต่อจากเขา \"  -  - ความรีบร้อนจนเกิดข้อผิดพลาดในเรื่องของ คำ ทำให้ความหมายเปลี่ยน \" กฤษณาออกจากยานพาหนะไม่มีชื่อเรียก...ต่อจากเขา \"
\" เธอปิดช่องประตูเรียบร้อย และเธอก็ว่ายน้ำอย่างรวดเร็วมาเกาะแขนเขาอีกครั้ง..\" - เกิดความซ้ำซ้อนของการใช้สรรพนามทำให้เกิดความไม่ลื่นในการอ่าน -- -\" เธอปิดช่องประตูเรียบร้อยแล้วจึงว่ายน้ำเข้ามาเกาะแขนเขาอย่างรวดเร็วอีกครั้ง.. \"
\" ซึ่งอูวดลพอจะรู้ว่ามันเป็นปลาเรืองแสง ที่อยู่นิ่ง ๆ ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน อูวดลคิดว่ามันคงถูกจับวางไว้เพื่อนำทางไปที่ไหนสักแห่งที่เขายังไม่รู้.. \" - เกิดความซ้ำซ้อนของการใช้สรรพนามทำให้เกิดความไม่ลื่นในการอ่าน - - \" ซึ่งชายหนุ่มพอจะรู้ว่ามันเป็นปลาเรืองแสง ที่อยู่นิ่ง ๆ ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน และในความคิดของเขา...มันคงถูกจับวางไว้เพื่อนำทางไปที่ไหนสักแห่งที่เขายังไม่รู้... \"
\" ถัดจากซุ้มประตูไปจะเห็นบ้านเล็ก ๆ ที่สร้างด้วยเพรียงหินทอดยาวไปทิวแถว มีทั้งหมด หกแถวด้วยกัน  แต่ละสองแถวจะหันหน้าบ้านเข้าหากัน ทำให้เกิดช่องทางเดินสามช่องที่มีผู้คนเดินพลุกพล่าน \" - ความไม่สมดุลในการบรรยายทำให้เกิดการจิตาการที่บิดเบี้ยว -- - \" ถัดจากซุ้มประตู เข้า ไปจะเป็นบ้านหลังเล็กๆที่สร้างด้วยเพรียงหินทอดยาวออกไปไปทิวแถว...เขาเดินไปบนทางเดินแคบๆที่มีคนพลุ่กพล่านสายนั้น...ซึ่งเกิดจากช่องว่างหรือระยะห่างของบ้านแต่ละฟากที่ปลูกหันหน้าเข้าหากันจนดูราวกับว่ามันเป้นถนนในหมู่บ้านจัดสรรค์บนพื้นดินไม่มีผิด...\" อย่างนี้เป็นต้น
\" ผู้คนที่นี่จะใช้บริเวณหน้าบ้านของตัวเองขายของต่าง ๆ แทบทุกหลังคาเรือน จะมีเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นที่ไม่ได้ขายอะไร.. \" - - ความซ้ำซ้อนของเนื้อความ \"  ผู้คนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยุ่ในหมู่บ้านททั้งสองฟากของถนนจะใช้บริเวณหน้าบ้านของตัวเองนำของมาตั้งขาย...ราวกับตลาดหรือจุกนัดหมายสินค้าไม่มีผิด \"
\" จากมาลาตีทุ้ง ๆ ที่ในหัวสมองของเขาตอนนี้เต็ม \" - -ความเผลอเลอ - -\" จากมาลาตีทั้ง ๆ ที่ในหัวสมองของเขาตอนนี้เต็ม \"
\" มาลาตีพูดมือของเธอกอดอกเอาไว้ - - -ความเยิ่นเย้อของส่วนขยาย - - -\"  มาลาตีกอดอกพลางตอบโต้ออกไป\"
\" ภายในบ้านเป็นไม้ที่ขัดเงาเลื่อม เก้าอี้ไม้สี่ตัวจัดเรียงไว้ในห้องรับแขก \" - - - ความไม่สอดรับของการบรรยาย- - - \" ตัวบ้านและพื้นภายในบ้านเป็นไม้ที่ขัดเงาเลื่อม เก้าอี้ไม้สี่ตัวถูกจัดเรียงไว้กลางบ้านเพื่อไว้ใช้รับแขก \"
“ใครกัน..” ความไม่เป้นธรรมชาติ \" แล้วนี่ .. .ใครกัน\"
\" จนลืมการแก้ตัวของวรุณไปจน \" - - - การใช้คำไม่เหมาะกับบริบท \" จนลืมข้อ( หรือคำ)แก้ตัวของวรุณไปเสียสนิท
\" เธอก็เป็นอันต้องตกใจอย่างถึงที่สุด เมื่อ \" - ความเยิ่นเย้อ \" ภาพที่อยู่ด้านนอกทำให้เธอตกใจอย่างที่สุด\"
* * * ตอนที่ 17  ความฝัน * * * - เปิดฉากด้วยความไม่สมจริงเท่าที่ควรครับ...การดำเนินเรื่องดุจะรวดเร็วเกินไปจนบางจุดเกิดความไม่ต่อเนื่องขึ้น...แต่นั้นอาจเป็นความตั้งใจของนักเขียนเองที่ไม่ต้องการให้เนื้อเรื่องตอนนี้เยิ่นเย้อมากนัก...และยังรักษาความคิดหลักได้ดี...ความฝันที่อ่านแล้วก็ใคร่รู้ความหมาย..โดย นัย ที่จะต้องกระจ่างในเร็วๆนี้...ถือว่าตอนนี้เป็นตอนที่น่าสนใจอีกตอนครับ
\" กว่าสองชั่วโมงที่อูวดลอยู่ในหมู่บ้าน\" - - -ผมเข้าใจว่าพวกของมารตีมาถึงที่หมู่บ้านประมณ2ทุ่ม...ขณะที่อูวดลคิดอยุ่นี้ใกล้ห้าทุ่มดังนั้นปัญหาเรื่องความไม่สมจริงเรื่องเวลาจึงเกิดให้เห็นครับ
\" ของCyo..”  คงอยากจะบอกว่าการใช่ทับศัพย์มันสร้างความไม่เข้าใจให้คนอ่านได้ครับ
\" ที่ยังไม่ได้อาบน้ำ ด้วยการที่เขาเพลียมาทั้งวัน เขาจึง \"- - - ความไม่สมดุลของการเรียงประโยค  - - -\" ที่ยังไม่ได้อาบน้ำ และเพราะความที่เขาเพลียมาทั้งวัน เขาจึง -\"
* * * ตอนที่ 18  อาจารย์คนใหม่ * * * - ความต่อเนื่องยังมีให้เห็นทั่วไปในตอนเริ่มต้นจนจบของตอนครับ...แต่มีการซ้ำทางข้อมูลบ่อยๆอย่างจงใจจะให้ผู้คนจดจำหรือเปล่าไม่ทราบได้...แต่สำหรับผมแล้วผมว่ามันก็ดีอย่างเสียอย่างครับ...
\" นอกจากสภาพอากาศแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่จะไม่ผิดปกติในชีวิตประจำวันของอูวดล  \" - ความเยิ่นเย้อ -\" นอกจากสภาพอากาศแล้ว ก็ไม่เห็นจะมีอะไรในชีวิตของอูวดลเลยที่ผิดปกติไปจากเดิม \"
“การเปลี่ยนแปลงทางธรณีภาคค่ะ..” นาฏฐาตอบอย่างลุกลี้ลุกลน - การเลือกใช้คำได้ไม่เหมาะสมครับ  “การเปลี่ยนแปลงทางธรณีภาคค่ะ..” นาฏฐาตอบอย่างกุรีกุจอ - - คำว่าลุกลี้ลุกลนให้ความรู้สึกว่ามันเป็นการอยู่ไม่สุข ทำอะไรแบบถูกบังคับด้วยเวลาอะไรทำนองนี้ครับ...ผิดกับกุลีกุจอ หรือขันอาสา ที่จะทำให้มองเห็นภาพของ การเสนอ หน้าที่ชัดขึ้น
\" แต่ก็ยังไม่ถึงเวลาปิดของห้องสมุด มีคนเบาบางที่จะมาใช้บริการในเวลาเย็นเช่นนี้ \"- - - ความไม่กระจ่างชัดในการนำเข้าสุ่ประเด็นครับ... - - \" แต่ก็ยังไม่ถึงเวลาปิดของห้องสมุด เหตุเพราะยังมีเด็กบางส่วนเข้ามาใช้บริการห้องสมุดอยุ่บ้างในตอนเย็น...และเนื่องจากจำนวนของเด็กนักเรียนที่เข้ามาใช้บริการในเย็นนี้มีจำนวนน้อย...ทำให้อูวดล...\" แบบนี้เป็นต้นครับ
\" นาฏฐาและต่อศักดิ์กลับหอบหนังสือห้าหกเล่มมาวางไว้ที่โต๊ะ แล้วนั่งเปิดอ่าน ดูเหมือนว่านาฏฐาจะไม่ค่อยจะพอใจในการกระทำของเธอนัก.. ถัดเข้าไปในชั้นหนังสือ อูวดลและมาลาตียังคงยืนหาหนังสืออยู่ พีรยาเกาะแขนอูวดลอยู่ไม่ห่าง..\" การบรรยายในมุมกว้างครับ - - - \" ในห้องสมุด.. นาฏฐาและต่อศักดิ์กำลังอ่านหนังสือจำนวนหนึ่งตรงหน้า...โดยที่ฝ่ายหญิงมีสีหน้าเบื่อหน่ายต่อความพยามที่ไม่เป็นผลของเธออย่างที่สุด...ในขณะที่...ทางเดินตรงชั้นวางหนังสือ...อุวดลแสดงท่าทีเบื่อหน่ายต่อมือของพีรยาที่เกาะเหนี่ยวแขนของเขาไว้...สร้างความลำบากให้กับการใช้แขนข้างนั้นของเค้าอย่างมากผิดกับมาราตีที่กวาดตามองหนังสือบนชั้นและเลือกอย่างตั้งใจ\" อย่างนี้เป็นต้น
* * * ตอนที่ 19  ฆาตกรพันศพ * * * -รู้สึกว่ายังมองภาพของนาย\"ซโซไม่ออกอยู่ดีครับ...เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นบทสนมนาที่รู้ภูมิหลังมาเกือบหมดทุกอย่างจากบทก่อนๆแล้ว...เนื้อเรื่องจึงไม่มีความโดดเด่นเท่าที่ควร...จะมีเพียงบทสนทนาที่ดูจะเป็นธรรมชาติ...และการดำเนินเรื่องที่ดุรวดเร็วและลื่นไหลดีเท่านั้นที่ทิ้งไว้ในใจตอนนี้...
* * * ตอนที่ 20  อาหารเช้าที่ศูนย์การปกครองอ่าวไทย * * * -ตอนนี้คล้ายบทละครนิดหน่อยครับ...เนื่องจากเกิดแต่บทสนทนาเสียเป็นส่วนใหญ่...มีฉากและการบรรยายสถานที่น้อยแต่...บทสนทนาก็ดูเป็นธรรมชาติดีทำให้เพลินและพอจับบุคคลิกของตัวละครให้เด่นชัดขึ้นได้ระดับหนึ่ง...มีข้อผิดพลาดที่ไม่มากนัก..พออ่านแล้วผ่านๆไปได้แบบไม่ยากเย็นนักครับ
\" ทำให้อูวดลเป็นอันต้องรีบลุกจากที่นอนด้วยความรวดเร็ว.. มิได้มีอาการงัวเงียเช่นทุก ๆ วันเลย\" - - -ความไม่ลื่นไหลของการบรรยาย - - -\" ทำให้อูวดลรีบร้อนลุก
ขึ้นจากเตียงนอนอย่างรวดเร็ว...ต่างจากทุกวัน \"
* * * ตอนที่ 21  ไซมาความเร็วสูง * * * - ผมอยากบอกว่าตอนนี้มีการบรรยายได้ดีมากทีเดียวครับ..และบทสนทนาและการดำเนินเรื่องก็ดีจนไม่มีที่ติ...เพียงแต่ว่า...สิ่งที่คุรเขียนถึงมันเป็นความรุ้เฉพาะทางมากจนเกินไป...กล่าวคือการที่จะพุดถึงสถานนีที่ว่ามันเป็นอะไรที่ต้องใช้จิตนาการเป็นหลักใหญ่อยุ่แล้ว...การบรรยายของคุรจะว่าดีก้ถือว่าดีนะครับในตอนนี้แต่เนื่องจากผมเข้าใจว่าคนเรามีภูมิของความรู้ไม่เท่ากัน...ความสนใจก็ต่างกัน...ต่อให้คุณอธิบาย..บรรยายได้ดีสักเพียงใด...แต่ถ้ามันไม่ตรงกับความสนใจเสียแล้ว( อันนี้ผมเข้าใจว่ามันหลุดรูปแบบแฟนตาซีใต้น้ำไปหน่อย)...มันก็สร้างความน่าเบื่อให้เกิดขึ้นอย่งมากทีเดียวครับ...ซ.งผมเข้าใจว่าคนที่อ่านเรื่องนี้ส่วนใหญ่คาดหวังบางอย่างที่ไม่น่าจะใช่...อุปกรณ์ไฮเทคที่คุณพยามนำเสนออยู่ครับ...ซึ่งถามว่ามีอยุ่ดีไหม...ก็ดีครับ...แต่ทั้งตอนนี่ดูจะมากไปครับ...ทำให้อาจไม่ถูกใจบางคนในการอ่านตอนนี้ได้เหมือนกัน( ซึ่งผมใช้เวลาในการอ่านตอนนี้นานกว่าปกติ)
“แต่ฉันเข้าใจเขาดี.. นายไม่ได้ไปทำอะไรตรง ๆ กับเขาหรอก.. แต่มันก็ทางอ้อม..” - มาลาตีพูด -ความไม่เป็นธรรมชาติของบทสนทนาครับ - - -“แต่ฉันเข้าใจเขาดี.. นายอาจไม่ได้ไปทำอะไรเขาตรง ๆ ...ก็จริงอยู่.. แต่ในทางอ้อม...นายกำลังทำร้ายเค้าอย่างมากทีเดียว” มาลาตีพูด
* * * ตอนที่ 22  ผู้ชำนาญการขับระดับสาม * * *   - รู้สึกอ่านแล้วสบายดีครับตอนนี้...มีเพียงบทสนทนาบางจุดเท่านั้นที่ชวนงง...แต่การแกล้งทำให้อยากรุ้ในช่วงกลางๆนี่ทำให้ผมใจเตนได้เหมือนกันนะ...ถือว่าตอนนี้เล่นกับความรู้สึกได้ดีทีเดียวครับ
\" อยู่ ๆ ยานพาหนะไม่มีชื่อเรียกก็สั่งเครือเหมือนโดนอะไรฟาด มาลาตีเกือบจะ\"  -ความไม่เหมาะสมในการเลือกใช้คำครับ  \"อยู่ ๆ ยานพาหนะไม่มีชื่อเรียกก็สั่น
คลืนเหมือนโดนอะไรฟาด มาลาตีเกือบจะ\"
“เราสองคนไม่มีเพชรประจำตำแหน่งค่ะ แล้วก็มีคนชื่ออูวดลนับร้อยในอ่าวไทย..” -การขยายที่น้อยเกินไปทำให้สะดุดในการอ่าน - - -\" แต่..เราสองคนไม่มีเพชรประจำตำแหน่งนะค่ะ แล้วคนชื่ออูวดลก็มีนับร้อยคนได้มั้งในอ่าวไทย..”
“แต่เผอิญฉันไม่ค่อยจะได้สนใจความโด่งดังอันนั้นสักเท่าไหร่น่ะนะ.. คุณบอกฉันหน่อยได้มั๊ยคะ.. ว่านักรบรัชทายาทอูวดลไปสร้างวีรกรรมอะไรไว้..” -ความไม่เป็นธรรมชาติครับ ในความเป็นจริงถ้ามาราตีต้องการหลอกถามเธอควรพูดว่า \"บังเอิญว่าฉันเองไม่ค่อยสนใจเรื่องของคนดังสักเท่าไหร่นัก...บอกหน่อยได้ไหม...ว่านักรบรัชทายาทอูวดลไปสร้างวีรกรรมอะไรไว้..”
* * * ตอนที่ 23  ประหารไซโซ * * *   - อยากบอกว่าเกิดอาการหงุดหงิดนิดหน่อยที่การประหารนั้นเกิดขึ้นเชื่องช้าเหลือเกินทั้งที่ตั้งหน้าตั้งตารอมาจนเกือบถึงกลางเรื่อง..และเมื่อได้อ่านตอนประหารแล้วก็ยังไม่อิ่มนัก...เนื่องจากอยุ่ๆก็ขาดวิ่นไปเสียเฉยๆ...นั้นคือการทิ้งปมให้น่าสนใจขึ้นมาก....จะมีข้อเสียเพียงบางอย่างที่เกิดขึ้นน้อยมากใน20กว่าตอนที่อ่านมา...แต่กลับเห็นในตอนนี้มากมายหลายจุด...นั้นคือ ความผิดพลาดของตัวสะกด...ขาดเกิน...ทำให้ความหมายหายไป...ซึ่งทำให้เสน่ห์ของเรื่องหายไปอย่างน่าเสียดายครับ...
* * * ตอนที่ 24  สิ่งที่คาด.. สิ่งที่เป็น..* * *   -ถือว่าใช่ชื่อตอนได้ดีทีเดียว...เพราะบางสิ่งที่เราคิด...มันก้ไม่ใช่จริงๆ...ความน่าสนใจในตอนนี้เห็นจะเป็นการดำเนินเรื่องที่ดูกระโดดไปมาเสียหน่อยและความเนไปได้ถึงการพบเจอกับของเด็กสองคนกับท่านราชินีนี่ในสถานที่กว้างใหญ่ดูมันจะเป็นการยากนัก..แต่ความบังเอิญก็อาจเกิดขึ้นได้...และแน่ใจอย่างที่สุดที่คุรกำหนดให้เป็นอย่างนั้นคงต้องมีอะไรตามมาแน่ๆ...
24 ตอนของ \" เจ้าสมุทร ให้ความรู้สึกหลากหลายมากๆในการอ่าน...ในบางตอนให้ความรนู้สึกว่าอ่านยากและเข้าใจหรือจินตนาการตามไม่ค่อยออก...แต่บางตอนผู้เขียนกลับลงลายละเอียดและบรรยายได้อย่างน่าสนใจ...ชานอ่านได้อย่างประหลาด...ที่สคัญเลยก็คือ...ผุ้เขียนเป็นผู้สามาถในการสร้างพล็อต...และรู้จักดำเนินเรื่องได้อย่างกระชับตรงเป้าหมาย...แต่ในบางตอนก็มียืดยาดไปบ้าง...เหมือนกับขัดตาทัพไปบ้าง....
ทุกสิ่งที่ผมเขียนถึงเรื่องนี้ส่วนใหญ่มาจากความรู้สึกที่มีต่อเรื่องวและ..ความเห็นนั้นรมาจากเนื้องานจริงๆของผู้เขียนเรื่องนี้เอง...ดังนั้นผมจึงหวังเป็นอย่างยิ่งครับว่าแฟนตาซี...คงจะยังมีให้ผมอ่านอีกมาก...โดยเฉพาะ \" เจ้าสมุทร\" ที่ปมของเรื่องเริ่มคลายตัวให้เห็นบ้างแล้ว...ที่ผมจะต้องคอยอ่านต่อไปครับ...
ส่วนใครที่ยังไม่เคยสัมผัสกับงานแฟนตาซีเรื่องนี้เรียนเชิญที่http://www.dek-d.com/entertain/viewlong.php?id=5150 ครับ...แล้วคุณอาจรู้สึกแตกต่างจากที่ผมเขียนถึงก้เป็นได้....
วานิช นิ่มสกุล
             
   
 
                                http://www.ormbook.com/ormbook/index/detail.php?boid=714( โดม)             
 
                                              Hot Order By Chock สัปดาห์นี้ได้แก่    จ้าวสมุทร ของ  Waasuthep    ซึ่งขณะนี้มีอยู่ทั้งหมด 24 ตอนครับ
* * * ตอนที่ 1 :  บทนำ * * * - การเปิดเรื่องของเรื่องในแนวใดหรือหมวดใดก็ตาม..สิ่งที่ผมคาดหวังจะพบมากที่สุดคือ...อารัมภบทหรือคำขยายความถึงทิศทางที่น่าจะเป็นของเรื่องนั้นๆ...เพราะสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ช่วยให้เราอ่านเรื่องนั้นได้เข้าใจมากขึ้นและ...เป็นการเปิดโอกาสให้เราได้ลองถามว่าตัวเราต้องการทราบในเรื่องที่จะอ่านต่อไปหรือไม่...ดังนั้นบทนำ จึงเป็นอะไรที่เหมือน หน้าร้านของร้านขายของ...ซึ่งควรมีสิ่งที่ดึงดูที่คอยกระตุ้นผู้ซื้อให้มีความรู้สึกว่ามันน่าเข้าไปหยิบ..ไปฉวย...และทำควมรู้จักกับของที่วางไว้ในนั้น...เสียยิ่งกระไร
แต่จ้าวสมุทรมีบทนำที่ยังไม่จัดอยู่ในระดับที่น่าสนใจนักเนื่องจาก...
1.ความไม่สมบูรณ์ของการเปิดเรื่องซึ่งเกิดจากความสามารถในการนำเสนอนั้นยังไม่ดีเท่าทีควรครับ..เช่น
\" โลกของเรา มีส่วนที่เป็นทะเลถึงสามในสี่ส่วน คงไม่มีมนุษย์คนใดปฏิเสธได้เลยว่า ทะเลไม่มีความสำคัญในการดำรงชีวิต มนุษย์แทบทุกคนใกล้ชิดกับทะเลมาก..\" -ความสอดคล้องในการเชื่อมประโยคเข้าหากันให้มีความสอดรับของข้อความที่ยกมา  \" โลกของเรา มีน้ำเป็นองค์ประกอบถึงสามในสี่ของพื้นที่ทั้งหมด...ซึ่งในสามส่วนใหญ่ของพื้นที่ของผืนน้ำนั้น...คือทะเล ดังนั้นคงไม่มีมีมนุษย์คนไหนปฎิเสทได้เลยว่า...ทะเลนั้นมีความสำคํญต่อการดำรงค์ชีวิตของพวกเขาทั้งทางตรงและทางอ้อม \"
2. การลำดับเนื้อความที่ดูจะสับสน เช่น
\"  คุณคิดว่าภายใต้ผืนน้ำที่ไม่เคยสงบ อันกว้างใหญ่ไพศาล จะมีอะไรบ้าง \"  ให้ความรู้สับสนของการวางคำและทำให้อ่านยากนิดหน่อย \" คุณเคยคิดว่าภายใต้ผืนน้ำอันกว้างใหญ่ไพศาล ที่ไม่เคยสงบนั้น... มีอะไรซ่อนอยู่บ้าง \"
\" สิ่งที่พิสูจน์ได้คือสัตว์น้ำนานาชนิด ทั้งสวยงามทั้งดุร้าย ทั้งน่าขยะแขยง แร่ธาตุชนิดต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งลักษณะสูงต่ำทางกายภาพ ภูเขาไฟ หน้าผาสูง ก็ล้วนมีอยู่ใต้ทะเล ทั้งหมดนี้ มนุษย์สามารถค้นพบได้ \"  -ความเยิ่นเย้อและดูไม่น่าเชื่อถือทางด้านข้อมูลเพราะมันเลื่อนลอยเกินไป... \" หลายคนเมื่อเราพูดถึงท้องน้ำสีครามนั้นอาจกึง...ความน่ารักน่าชังของหมู่สัตว์น้ำน้อยใหญ่ที่แหวกว่ายกันไปเป็นฝูงใหญ่หรือ....แยกย้ายกันไปตามกายภาพและนิสัยของตัวมันเอง( เคาะลงไปหนึ่งบรรทัด) บ้างอาจคิดถึงความน่ากลัวของความมืดมิดที่เราไม่สามารถหยั่งลึกลงไปได้เลยจุดเริ่มต้นอันกว้างใหญ่นั้นว่าเริ่มต้นที่ระดับที่เท่าไหร่...เป็นร้อยเป็นพันหรือหมื่นเมตร และคงมีอีกหลายคนที่คิดถึงกายภาพที่ซับซับซ้อนของท้องน้ำเหล่านั้น...ซึ่งมันเป็นการยากที่จะอธิบายความอัศจรรย์ของธรรมชาติที่สร้างสันสีสันและรูปทรงของสิ่งต่างๆที่ประกอบรวมกันเป็น ทะเล \"
\" แต่ท้องทะเลมิได้มีอยู่เพียงแค่นั้น มันยังมีอะไรอีกหลายอย่าง ที่มนุษย์ยังไม่สามารถค้นพบ จะมีก็เพียงคำบอกเล่า สืบต่อกันมา.. ตำนาน อาถรรพ์แห่งท้องทะเล ยังรอให้ใครหลายคนเข้าไปพิสูจน์ \" - การขมวดด้วยปมควรใช่ถ้อยคำที่โดดเด่นในการเร้าความรู้สึกของผู้อ่านให้มีความรู้สึกคล้อยตามไปกับบทบาทนั้นๆที่เราต้องการนำเสนอ...\" แต่จะมีซักคนที่จะทราบความเป็นไปใต้ท้องทะเลสีอำพันนั้นจริงๆ...บางสิ่งที่มากกว่าความน่ารักของหมู่สัตว์น้ำยังคงดำรงอยู่ใต้ความเกรี๊ยวกราดของเปลวคลื่น บางสิ่งที่มากกว่าความน่ากลัวและกายภาพที่น่าทึ่งภายใต้ความนิ่งสงบของกระแสน้ำ...ยังคงดำเนินไปตามวิถีทาง..ที่ดูเหมือนว่ามนุษย์จะไม่สามารถพิสูจน์ได้เลยไม่ว่าจะมีความเจริญทางวัตถุไปมากเท่าไหร่ก็ตาม...และความลึกลับดำมืดของสิ่งที่เราคิดไม่ถึงเกี่ยวกับทะเล...ยังคงรอคอยการค้นพบในสักวัน \"
ผมเข้าใจว่าปัญญาหลักๆของนักเขียนท่านนี้ในการเขียนบทนำเรื่องนี้...อาจจะอยู่ที่ความไม่ทราบว่าจะวางโครงเรื่องอย่างไร..เพราะจากบทนำเกิดความไม่ลื่นไหลของข้อมูลประมาณว่ามันกระโดดไปมา..ระหว่างตำนาน..มนุษย์...และย้อนกับมาที่เรื่องของโลกใต้น้ำอีกครั้ง..ทำให้ดูขาดจุดยืนที่จะนำเสนอครับ...
แต่ใช่ว่าจะมีแต่ข้อเสียในเรื่องบทนำที่แสดงออกมาให้เห็นเท่านั้น...การสร้างปมเรื่องหรือ พล็อต ทำได้ดีทีเดียว...เพราะผมมั่นใจอย่างที่สุดว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่น่าจะเกี่ยวข้องกับอะไรที่เป็นความ( น่าจะ) สนใจจริงๆของเรา...ซึ่งเป็นข้อดีเพียงข้อเดียวที่ผมพอจะมองเห็นในการอ่านบทนำครั้งนี้...
* * * ตอนที่ 2 : ผู้ปักปักรักษาท้องทะเล * * * - เป็นการเปิดเรื่องที่สนุกมากครับ...แต่ดูไม่ตื่นเต้นเท่าที่ควร...เนื่องจาก...
\" ในยามรัตติกาลที่ไม่สงบ.. คงไม่มีใครคิดว่าจะมีเรือลำใดลำหนึ่งมาอยู่กลางทะเล ในขณะที่พายุเริ่มเข้าสู่ชายฝั่งเช่นนี้..ลมพายุที่พัดอย่างบ้าคลั่ง มิได้สร้างความหวาดกลัวให้กับเจ้าของเรือประมงที่ลอยลำอยู่เลยแม้แต่น้อย \" - เกิดความไม่รื่นไหลของการบรรยายครับ...ความสอดรับและดูเป็นประโยคที่หลวมเกินไปทำให้เสน่ห์ในการเปิดตัวขาดหายไป...\" ท่ามกลางความมืดมิดของราตรีกาล...เบื้องบนท้องฟ้าเป็นสีดำทมิฬแลดูน่ากลัวยิ่งนัก...เมฆส่วนใหญ่จับรวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน...ซึ่งมองดูเผินๆแล้วราวกับว่ามันหยุดนิ่งอยู่กับที่...แต่เปล่าเลย...สิ่งนั้นเป็นสัญญาณของการเกิดพายุซึ่งกำลังก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆพัดพาเอาวัตถุไร้น้ำหนักบางอย่างปลิดปลิวไปในอากาส...ดูราวกับมันจะพัดพาเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่มันปะทะด้วยให้กระจัดกระจายไปอย่างน่ากลัว....ในขณะที่เบื้องล่างท้องน้ำสีดำสนิทในความมืดมิดนั้นกำลังแปรปรวนอย่างหนัก...คลื่นจากอิทธิพลของแรงลมที่โหมกระหน่ำอย่างไม่ปราณีปราสัยราวกับน้ำเดือดที่พลุ่งพล่านแตกกระจายออกไปตามความร้อนที่อยู่ในภาชนะ...เรือเดินสมุทรขนาดเล็กซึ่งบรรจุลูกเรือไม่มากนักกำลังลอยลำอยู่บนพื้นน้ำขนาดใหญ่ซึ่งดูราวกับมันจะลอยคว้าง..โคลงไปมาตามความแปรปรวนของกระแสลมและน้ำ..เวิ้งว้าง..ว่างเปล่า...และโดดเดียว..ทิ้งคราวที่แลไปโดยรอบ...มีเพียงเวิ้งน้ำไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา....แลดูน่ากลัวยิ่งนัก \" ข้อความข้อต้นนี้เป็นได้ทั้งอารัมภบทและฉากไปในเวลาเดียวกันครับ...
\" เปรี้ยง เปรี้ยง.. เสียงอสุนีบาตยังดังอยู่ไม่ขาดสาย.. น้ำทะเลกะเพื่อมด้วยความเร็วคลื่น สิบเมตรต่อวินาทีได้.. แอมพลิจูดของคลื่นวัดได้ประมาณห้าเมตร.. จึงไม่แปลกที่เรือประมงจะทรงตัวได้ไม่ดี.. \" - การบรรยายขาดความต่อเนื่องครับ - \" เปรี๊ยง ...เปรี๊ยง \" เสียงอสุนีบาทดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ...ในขณะที่กระแสนั้นนั้นเริ่มแปรปรวนหนักมากขึ้น...เป็นผลให้ตัวเรือโคลงไปมาอย่างช่วยไม่ได้ \"
\" ครับ” ชายหนุ่มที่ถูกใช้รีบปฏิบัติตามคำสั่งนายทันที เขากระโดดลงน้ำไปอย่างรวดเร็ว  -เกิดความไม่สอดคล้องครับ - \" ครับ\" ชายหนุ่มรับคำแล้วจึงกระโดดลงไปในน้ำเพื่อปฎิบัติตามคำสังทันที...
จริงๆแล้วผมอยากจะบอกว่า...ตอนนี้มีความน่าใจในหลายจุดครับ...อย่างแรกคือ...การผูกเรื่องคุณผูกเรื่องได้น่าสนใจมาก...และความพยามสอดแทรกความรู้ที่คุณมีลงไปในบทที่คุณเขียน...แต่ข้อดีทั้งหมดของคุณมันหมดเสน่ห์ไปกับการดำเนินเรื่องที่ดูไม่กระจ่างชัด..ทำให้ดูเหมือนมันไม่น่าเชื่อถือ...ฉากที่ดูจะขาดความสำคัญลงไปอย่างไม่ควรจะเป็น...เพราะสิ่งที่ทำให้เรื่องดูน่าสนใจในทุกๆหมวดนั้นคือฉากที่ควรจะวางแผนในการวางไว้ในใจอยู่แล้วในขั้นตอนก่อนลง...ซึ่งผมเข้าใจว่ามันเป็นปัญหากับนักเขียนเกือบทุกคนที่เริ่มเขียนใหม่ๆ...ที่ยังหาจุดมุ่งหมายในการเขียนไม่ได้ว่า...ตอนนั้นตอนนี้จะเขียนอะไรเท่าไหร่ดี...มันก็เลยดูหลุด...รูปแบบไปอย่างน่าเสียดาย...ซึ่งต้องพยามมองบางสิ่งให้ลึกๆ...และลองบรรยายดูว่าสิ่งที่เราเขีนยถึงนั้น...เวลาเขียนออกมาแล้วเห็นอย่างที่เราบรรยายหรือไม่อย่างไร..เช่นเรามีรูปหนึ่งรูป...เราก็บรรยายจากล่างไปบน..และใส่รายละเอียดลงไปเท่าที่จำเป็นอย่างทียกตัวอย่างมาให้คิดว่าน่าจะช่วยได้ไม่มากก็น้อยครับ
* * * ตอนที่ 3 : ทารกบนชายหาด * * * -ความสนุกยังคงมีให้เห็นทั่วไปของตัวบทที่ดูน่าสนใจและน่าติดตามมากครับ...แต่ปัญหาเดิมๆก็ยังคงมีให้เห็นกับตอนนี้...
\" หาดชะอำ จังหวัดเพชรบุรี พ.ศ. ๒๕๓..... คงไม่มีใครสักคนอยู่บริเวณชายหาดที่พายุกำลังเข้าเช่นนี้.. ลมกรรโชกแรง พัดพาคลื่นน้ำเข้าฝั่งอย่างบ้าคลั่ง ต้นมะพร้าวบริเวณชายหาด ต้านรับลมจนเกือบจะโค่นล้ม.. ทรายแห้ง ๆ ฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ....สายตาคู่หนึ่งจับตามองเหตุการณ์ที่เปรียบได้ดังฟ้าพิโรธอยู่ภายในบ้านเดี่ยวสองชั้นบริเวณชายหาด..สายตาของเธอลอดผ่านหน้าต่างกระจกออกมา.. - เกิดความไม่รื่นไหลครับในการบรรยาย ....และฉากดูเบาเกินไปไม่มีน้ำหนักให้เชื่อถือได้เลย...ณ มุมหนึ่งของชายหาดชะอำ...จังหวัดเพชรบุรี ( ใส่หรือไม่ก็ไม่แปลกนะผมว่าตรงปีเนี๊ย)...เคาะหนึ่งบรรทัด....หาดยาวสุดลู่สายตารกร้างผู้คน...เกิดลมกรรโชกแรงดูน่ากลัว....พัดพาเอาคลื่นขนาดใหญ่สัดเข้าหาฝั่งอย่างบ้าคลั่ง....เป็นผลให้ทรายบริเวณตีนชายหาดชุ่มชื้นและมีน้ำหนักกว่าบริเวณที่เป็นที่โล่งแห้งที่จะฟุ้งกระจายตามกระแสลมกินบริเวณกว้าง....ในขณะที่ทิวต้นมะพร้าวริมฝั่งก็ได้รับอิทธิพลจากแรงปะทะนั้นเช่นกัน...บ้างหักโค่นปลิดปลิวไปตากระแสลมแรง...บางลู่ไปตามทิศทางที่กระแสลมนั้นกระหน่ำ...แต่ใครจะรู้ว่าในสภาวะการณ์เลวร้ายเช่นนี้ใครคนหนึ่งกลับทอดกายสงบนิ่งไม่ไหวติงอยู่ตรงนั้น( เคาะขึ้นบรรทัดใหม่) ... หญิงสาวคนหนึ่งกำลังเพ่งมองผ่านกระจกหน้าต่างบ้านที่ปลูกอยู่ห่างออกจากชายฝั่งไปไม่มากนักออกไป......เพื่อสำรวจปรากฎการณ์ภายนอกด้วยความหวั่นวิตก...อย่างนี้เป็นต้น
\" ภายในห้องครัวที่ถูกจัดอย่างเป็นระเบียบ มีเครื่องครัวครบครัน โต๊ะอาหารเล็ก ๆ มีแกงจืดและผัดผักรวมมิตรวางอยู่ เก้าอี้ สี่ตัว มีชายวัยสามสิบปีนั่งคอยท่าอยู่แล้ว รมณีย์และลูกสาวไปนั่งที่โต๊ะอาหาร ทั้งสามคนจึงเริ่มทานอาหารทันที\"  - ความไม่ชัดเจนในการลำดับภาพครับและความยืดยื้อเกินไปของเนื้อหาครับ \" ภายในห้องครัวขนาดปานกลาง...ชายหนุ่มวัยสามสิบเศษกำลังนั่งรอภรรยาและบุตรสาวอยู่ที่โต๊ะรับประทานอาหาร...\" ...“ลองวีคเอนท์ทั้งทีกะจะพักผ่อนให้สบายแท้ ๆ กลับมีพายุเข้าอีก.. น่าเสียดายจริง ๆ นะคะคุณ” รมณีย์บ่นขณะที่ทรุดกายลงที่เก้าอี้ตัวหนึ่งข้างสามี -“เอาเถอะน่าคุณ เราจะมาที่นี่อีกเมื่อไรก็ได้นี่ !ถ้าคุณอยากจะมา จริงมั๊ยลูก” ภานุเดชสามีของรมณีย์พูดปลอบภรรยา โดยมีลูกสาวพยักหน้าเห็นด้วย -และทั้งสามจึงเริ่มลงมือรับประทานอาหารด้วยกัน...แต่ครู่ต่อมาไฟทั้งบ้านก็ดับวูบลง...\" อะไรประมาณนี้ครับ
\" รมณีย์สอดสายตาผ่านหน้าต่างกระจกออกไปด้านนอก.. และเธอก็เห็นภาพอะไรบางอย่างที่เธอไม่คาดคิด..\" - ความไม่ต่อเนื่องครับ...\" รมณีย์เพ่งมองออกไปในความมืดด้านนอกหน้าต่างด้วยใจที่หวั่นวิตก...เธอกวาดสายตามองดูตามทิวต้นมะพร้าวที่บัดนี้หักโค่นไปเป็นจำนวนมาก...ตลอดจนหาดทรายที่งดงามที่บัดนี้ดูเงียบเชียบราวกับรกร้างผู้คน... “คุณพระช่วย \" รมณีอุทานอย่างตกใจเมื่อแลเห็นบางสิ่งบนหาด \" คุณ..คุณมาดูอะไรนั่นสิ..” เธอร้องเรียกสามีอย่างร้อนใจ พลางชี้นิ้วไปที่บริเวณชายหาด  -ภานุเดชมองไปตามทิศทางที่ภรรยาชี้ชวน .... เพ่งมองอยู่เป็นครู่......แบบนี้คือการดำเนินเรื่องที่รวดเร็วแต่ข้อมูลยังครบครับ...
ปัญหาของการ\" เกลา \" สำนวน...การดำเนินเรื่องและการเชื่อมเหตุการณ์เป็นสิ่งที่ต้องค่อยๆทำอย่างใจเย็น...ให้เวลากับต้นฉบับให้มากๆครับ...ซึ่งเมื่อเรื่องมีสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เนื่องเรื่องดูสนุกขึ้นอีกมากครับ( อย่างที่คุณตั้งมใจจะให้มันเป็น)
* * * ตอนที่ 4 : รายงานตัว * * *   - และแล้วก็เปิดตัวเจ้าสมุทร( ซะที)...อยากบอกว่าไม่สมกับที่รอคอยเลยครับ...เนื่องจากปัญหาในการเรียบเรียงของคุณทำให้เนื้อเรื่องดูกระโดดไปมา...และอ่านแล้วไม่เพลินอย่างที่มันควรจะเป็นเลย...
            \"บริเวณใจกลางอ่าวไทย ที่มองไปรอบ ๆ  ก็จะเห็นเพียงท้องทะเลสีน้ำเงินไกลจนสุดลูกหูลูกตา ไม่เห็นแม้เศษเสี้ยวของพื้นดินเลยสักนิดเดียว เบื้องล่างคือใต้ทะเลที่สุดแสนจะสงบ สิ่งมีชีวิตย่อมมีน้อยในบริเวณที่ห่างไกลจากชายฝั่งประมาณห้าร้อยกิโลเมตรเช่นนี้ ยิ่งลึกลงไปถึงพื้น ท้องทะเลก็มืดมิด นอกจากหวีวุ้นแล้ว ก็แทบจะหาสิ่งมีชีวิตประเภทอื่นไม่ได้เลย \" ความไม่เข้ากันของสองประโยคนี้...อะไรคือใจกลางอ่าวไทย..มันดูเลื่อนลอยเกินไป...สู้ใช้คำบรรยายกลางๆแล้วขยายยังดูน่าอ่านกว่าครับ...ณ มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพรศาล...น้ำทะเลมีสีเขียวดังมรกต..ใสนิ่ง...ลึกลงไปในความใสเย็นนั้นมีฝูงปลากลุ่มใหญ่แวกว่ายไปมาอย่างสนุกสนาน...ผ่านความตื้นเขินของระดับน้ำ..ลึกลงไปเรื่อย...เรื่อย เรื่อย...เรื่อย...จนดูเหมือนว่ายิ่งลึกลงไปเท่าไหร่...ก็ยิ่งอ้างว้าง...และรกร้างสิ่งมีชีวิตโดยสิ้นเชิง... \"
            \" สิ่งก่อสร้างที่มีลักษณะคล้ายกับถ้ำ หากแต่เป็นสถาปัตยกรรมที่ประณีตงดงาม หินงอกหินย้อยดูเป็นระเบียบ ผนังถ้ำฝังด้วยเพชรสีครามและสีน้ำเงินส่องสว่างไสวระยิบระยับสวยงาม เป็นสถานที่ ๆ ที่อยู่ใต้ทะเลลึกเกือบหนึ่งพันเมตรจึงไม่ต้องแปลกใจเลย.. ที่สถานที่แบบนี้จะไม่เคยมีใครค้นพบ.. แต่บางทีพวกเขาอาจจะมองไม่เห็นเองก็ได้... -  การบรรยายก่อให้เกิดภาพพจน์ทำได้ไม่ดีครับทำให้จินตาการฉากไม่ออก...ในความมืดมิดของใต้ทะเลนั้นหากใครสังเกตดีๆก็จะพบบางสิ่งที่จมตัวอยู่ใต้ท้องน้ำนั้นมานานแสนนาน....แนวหินที่ทอดตัวยาวสุดแนวของน้ำช่วงนั้นมีโพลงขนาดใหญ่อยู่ตรงส่วนหน้า...ลึกเข้าไปภายใน...มีทางเดินแคบๆทอดตัวจากหน้าโพลงนั้นไปสู่ภายในที่ไม่อาจคะแนได้ด้วยสายตาถึงความยาวที่มันจะไปสิ้นสุด....บริเวณส่วนบนของโพลงนั้นมีแนวหินงอกและหินย้อยยาวเกิดขึ้นเรียงรายไปตลอดแนว...ดูวิจิตบรรจงและงดงามราวกับว่านี่ป็นความจงใจสร้างมันขึ้นด้วยมือของใครสักคน....ผนังโดยรอบประดับประดาไปด้วยหินชนิดหนึ่งที่ไวต่อการกระทบของแสงสีครามและน้ำเงินเป็นผลให้บริเวณนั้นเกิดความสว่างไสวไปทั่ว...แบบนี้เป็นต้น
              “ในปี สองพันห้าร้อยสามสิบเอ็ด เมื่อเจ็ดปีที่แล้วบ่อสีครามตกผลึกเป็นเพชรสองอันบ่งบอกว่าจะมีเด็กชายที่โลหิตจมสู่ก้นทะเลสองคนและตอนนี้ก็เพิ่งมารายงานตัวเพียงคนเดียวเอง และตอนนั้นบ่อสีน้ำเงินก็ตกผลึกเป็นเพชรสองอันเช่นกัน แสดงว่าจะต้องมีเด็กหญิงที่โลหิตจมสู่ก้นทะเลสองคนเช่นกันแต่ตอนนี้มีมารายงานเพียงคนเดียว.. รออีกสักครู่เถอะ..” ชายชราที่มีชื่อเรียกว่าจ้าวสมุทรพูด  - เกิดความไม่ชัดเจนของความหมาย...เนื่องจากมันสั้นและซ้ำจนทำให้ผมทำความเข้าใจได้ยากครับ...เข้าใจว่า \" เมื่อเจ็ดปีก่อน..มีการตึกผลึกของเพชรสองชิ้นในบ่อสีคราม...ซึ่งนั้นก็หมายความว่าจะต้องมีเด็กจุติยังเมืองบาลดารของเรา...แต่ตอนนี้มีมารายงานตัวเพียงคนเดียว...ถ้าจะให้ข้าเดา..ข้าเข้าใจว่าจะต้องมีเด็กอีกคนมารายงานตัวเป็นแน่ \" ซึ่งผมยังไม่แน่ใจเลยว่าผมเข้าใจถูกต้องทั้งหมด -นี่คือข้อเสียของการบรรยายแบบไม่ชัดเจนครับ
              \" ความไม่สมจริงครับ-คือในตอนที่มีการรอกันไปมาก็มีเด็กหญิงเข้ามารายงานตัว...และมีคนรออยู่ก่อนแล้วสองคน-พอถึงตรงนี้ผมเข้าใจว่าผู้เขียนกำลังจะบอกว่ามีเด็กชาย 1คู่และเด็กสาว1คู่รึเปล่าไม่ทราบแต่ในเรื่องมีคนเข้าพิธีแค่3คน...\"-และการรายงานตัวนี่ไม่แน่ใจว่าถ้าเกิดอีกคนไม่มาแล้วจะทำได้ไหมครับ..โอ้ยมีคำถามมากมายล้านแปดเลยล่ะ...คือมันเกิดจากการเขียนได้ไม่ชัดเจของผู้เขียนครับ...ซึ่งความสับสนนี่จะเป็นปัญหาให้กับผู้อ่านในอนาคตด้วยครับ
     
* * * ตอนที่ 5 :  กลับมาอีกครั้ง* * *   - สิ่งที่ผมชอบที่สุดกับตอนนี้เห็นจะเป็นปมที่เริ่มจะออกมาได้ชัดเจนมากขึ้น...และไม่เหลือความน่าสงสัยกับประโยคแปลกๆให้เห็นมากนักครับ....แต่ก็มีสิ่งที่ควรปรับเปลี่ยนเหมือนเดิมนั้นคือ...
\" รถเก๋งโตโยต้าสีแดง แล่นอยู่ที่ถนนเลียบชายฝั่งทะเล.. ภายในรถมีคนอยู่สามคน.. คนขับเป็นหญิงสาวที่เพิ่งก้าวพ้นจากวัยรุ่นหมาด ๆ ในวัยย่างยี่สิบสองใบหน้าเรียว ผิวขาวใสริมฝีปากเป็นสีแดงนิด ๆ อย่างธรรมชาติปราศจากคราบลิปติก ผมดำยาวเสมอลำคอ คาดผมด้วยที่คาดผมสีฟ้า..  เธอเป็นผู้หญิงที่ควรค่าแก่คำว่า สวย ที่จะใช้เรียกเธอ \"  - การบรรยายที่ไม่ชัดเจนครับ ....\" รถญี่ปุ่นทรงสวยสีแดงสดแล่นเลียบไปตามแนวชายฝั่ง...ซึ่งมีหญิงสาวใบหน้าเรียวยาวผิวขาวเนียนเป็นผู้บังคับเจ้าภาหนะสีสวยสดนั้นอยู่หลังพวงมาลัย...ข้างกายเด็กหนุ่มหน้าตาดี....วัยห่างกันอยู่มากนั่งเคียงข้างหญิงสาวอยู่ทางตอนหน้า...ในขณะที่ด้านหลังมีเพียงผู้หญิงวัยใกล้กลางคนที่กำลังจับจ้องไปนอกหน้าต่างสำรวจความเปลี่ยนแปลงไปของสถานที่..ที่เธอเคยอยู่ \" เป็นต้น
สิ่งทีต้องชื่อชมมากในตอนนี้คือการชาญฉลาดในการทิ้งปมปริศนาที่น่าชื่นชมมากๆ...เพราะทำให้เกิดความอยากรู้ขึ้นมาตะหงึดๆว่า...จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป..( ทั้งที่ก่อนอ่านถึงตอนนี้แล้วความน่าสนใจนั้นลดลงไปมาก)...และเชื่อย่างที่สุดว่าถ้าผู้เขียนขจัดความสับซ้อน...ของการบรรยายออกไปได้...และรู้จักนำเสนอได้สอดรับกับสิ่งทีต้องการจะสื่อ...เรื่องนี้จะสนุกเอามากๆทีเดียวครับ
* * * ตอนที่ 6 :  ผู้บุกรุก * * *   - ยังเป็นเรื่องของการบรรยายอยู่ครับ
\" ใต้ท้องทะเลลึก ในบริเวณทางตอนใต้ของอ่าวไทย ที่เงียบสงัดและมืดมิด ถ้าใครก็ตามที่ดำน้ำลึกลงมาขนาดนี้ และสังเกตุให้ดีอาจจะได้พบกับหินหลาย ๆ ก้อนปกปิดโพรงขนาดใหญ่นั้นอยู่ซึ่งมันก็เป็นไปได้ยากไม่ต่างอะไรกับการหาเข็มที่จมอยู่ใต้ทะเลแห่งนี้เลย สถานที่ดังกล่าวจึงปลอดภัยจากผู้สอดรู้สอดเห็นและนักสำรวจ ..\" - ประโยคที่ว่า \" ถ้าใครก็ตามที่ดำน้ำลึกลงมาขนาดนี้ และสังเกตให้ดี \" มันไม่สอดรับกับบริบทตอนต้นเลยแม้แต่น้อย..เนื่องจากไม่มีการบอกถึงระดับความลึกก่อนหน้านี้( มาก่อน)...จึงทำให้เกิดความไม่สมเหตุสมผลที่จะใช้ประโยคที่ว่ามานี้ครับ... และดูเป็นการซ้ำซ้อนกับเนื้อความใน- -ตอนที่ 4 : รายงานตัว - -\"  \" สิ่งก่อสร้างที่มีลักษณะคล้ายกับถ้ำ หากแต่เป็นสถาปัตยกรรมที่ประณีตงดงาม หินงอกหินย้อยดูเป็นระเบียบ ผนังถ้ำฝังด้วยเพชรสีครามและสีน้ำเงินส่องสว่างไสวระยิบระยับสวยงาม เป็นสถานที่ ๆ ที่อยู่ใต้ทะเลลึกเกือบหนึ่งพันเมตรจึงไม่ต้องแปลกใจเลย.. ที่สถานที่แบบนี้จะไม่เคยมีใครค้นพบ.. แต่บางทีพวกเขาอาจจะมองไม่เห็นเองก็ได้... \"
ความไม่กลมกลืนในการบรรยายทำให้ภาพที่มองดูนั้นกระจัดกระจายขาดความต่อเนื่อง....เช่น
\"            ที่นี่มีช่องว่างเป็นถนนเล็ก ๆ ในการสัญจร ทุกทีจะมีผู้คนเดินพลุกพล่าน เกือบตลอดเวลา แต่ไม่ใช่วันนี้
  บริเวณลานกว้างทุกครั้งจะเป็นที่ที่ดีที่สุดในการชุมนุมของผู้คน ทั้งเรื่องการค้าขาย บางคนพร้อมใจกันมาขายของที่นี่ เยอะพอ ๆ กับบางคนมาเดินช็อปปิ้ง ที่นี่มีคนมากพอที่จะใช้สถานที่ในการพปปะพูดคุย ยาวไปถึงการซุบซิบนินทาคนอื่น ๆ แต่ไม่ใช่วันนี้
  บ้านหลังหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นบ้านที่ใหญ่ที่สุด สร้างจากเพรียงหินเหมือนกับหลังอื่น ๆ ห้อยกระถางดอกไม้ทะเลไว้ที่หน้าบ้าน ไม่เหมือนกับบ้านหลังอื่น ๆ ตรงที่ดอกไม้ทะเลที่นี่ถูกตัดแต่งอย่างสวยงามจนบ้านหลังอื่น ๆ สู้ไม่ได้ \" - ผมคิดว่าผมเข้าใจว่าสิ่งที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อ( รึเปล่า) นั้นคือ \" ถนนหนทางต่างร้างผู้คนทั้งที่ทุกวันมันสภาพไม่ต่างไปจากการจราจลย่อยๆบนพื้นที่แคบๆนี้ตลอดเวลา...เกิดอะไรขึ้น ....เช่นเดียวกับลานกว้างที่มักมีผู้คนเข้ามาชุมนุมเพื่อพูดคุยและแลกเปลี่ยนทัศนะกันที่นี่อยู่เป็นประจำ...ก็ร้างผู้คนเช่นเดียวกัน...ต้องมีอะไรที่ไม่ปกติเป็นแน่....และเหตุผลที่สามารถอธิบายความผิดปกตินั้นได้ก็คือ...เพราะทุกคนพากันมาประชุมกันอย่างสลงบอยู่ที่หน้าบ้านผู้ใหญ่บ้าน...( แต่ว่าการนำเสนอนั้นวกวนเกินไป..ทำให้ดูเป็นเรื่องที่เหมือนไม่เกี่ยวข้องกันโดยสิ้นเชิง...อาจเพราะผู้เขียนอาจจะต้องการเล่นสำนวนในการนำเสนอ...จึงเลี่ยงที่จะพูดออกมาแบบปกติ...แต่มันให้ความรู้สึกวกวนมากกว่า...ครับ )
\" หัวหน้าหมู่บ้านสั่ง.. ผู้คนเริ่มเคลื่อนทัพในการปฏิบัติภารกิจ \" - ใช้คำได้ไม่เหมาะสมนักครับ \" ทัพนั้นควรจะใช้กับทหารมากกว่าชาวบ้าน \"
“แต่คัมภีร์อยู่ในที่ที่ปลอดภัยแล้ว.. ทำไมข้าถึงต้องหนีด้วยเล่า..” นทีเถียง
    “ใช่ ! เราฝากคัมภีร์ไว้กับเขา.. แต่ ‘ไซโซ’ ยังไม่รู้ ในเมื่อเจ้าเป็นเจ้าของคัมภีร์ที่แท้จริง ไซโซ จะต้องมาตามล่าคัมภีร์กับเจ้า.. ถ้าเจ้าหนีไปซะ.. หนีไป
ให้ไกลจนไซโซไม่สามารถตามหาเจ้าเจอ ไซโซก็จะยังคิดว่าคัมภีร์ยังอยู่กับเจ้าอยู่ แต่ถ้าเจ้ายังอยู่ที่นี่ต่อ.. พอไซโซฆ่าเจ้าได้เขาก็จะรู้ทันทีว่าคัมภีร์ไม่ได้อยู่กับเจ้า.. แล้วเจ้าคิดว่าไซโซจะไม่รู้หรือ.. ว่าเราได้ฝากคัมภีร์ไว้กับเขา..” หัวหน้าหมู่บ้านพูดอย่างเร็ว และดูเหมือนนทีจะเถียงไม่ออก - เกิดความประหลาดใจมากๆครับเพาะปกติผู้เขียนใช้บทสนทนาที่ดูเป็นธรรมชาติแต่ตอนนี้กัลเกิดข้อผิดพลาดตรงนี้ได้อย่างน่าเสียดายครับ....\" “แต่คัมภีร์อยู่ในที่ที่ปลอดภัยแล้ว.. ทำไมข้าถึงต้องหนีด้วยเล่า..” นทีเถียง - - -\" ก็ใช่( หรือก็จริงอยู่ \"แต่เราฝาก คัมภีร์ ไว้กับเค้าซึ่งข้ามั่นใจว่าไซโซคิดว่ามันอยู่กับเจ้า...ดังนั้นเจ้าเองจงหนีไปเสียเพื่อความปลอดภัยของเค้าและ คัมภีร์...\" หัวคิ้วของนธีขวมดเข้าหากัน \" การที่เจ้าหนีไปนั้นย่อมทำให้ไซโซมั่นใจว่า คัมภีร์อยู่กับเจ้าจริงๆ...ดังนั้นเจ้าต้องไป...เพื่อให้คนที่อยู่รอด\" ( ไม่แน่ใจว่าเข้าใจถุกไหมนะเรา)...นทีรับฟังอย่างยอมรับในเหตุผลที่ได้ฟัง
\" เขาสามารถค้นหาพวกเจ้าพบแน่นอนในโลกใต้น้ำ แต่ในโลกบนพื้นดินแล้ว เขาแทบจะไม่มีฤทธิ์เดชอะไรเลย ก็เขาไม่เคยเหยียบขึ้นไปบนนั้นเลยนี่นะ..” หัวหน้าหมู่บ้านพูด \" - - -ความไม่เป็นธรรมชาติ \" เขาสามารถหาเจ้าพบในโลกใต้น้ำนั้นก็จริงอยู่...แต่ไม่ใช่บนพื้นโลก...สถานที่...ที่เค้า...ไม่เคยแม้แต่จะเหยียบขึ้นไปบนนั้น \"หัวหน้าหมู่บ้านพูด
\" สิริณญาเตรียมการไว้แล้ว.. เธอไม่แน่ใจ.. ในชีวิตของเธอและสามี.. แต่เธอมั่นใจ.. ลูกชายของเธอ.. นักรบรัชทายาทคนนี้จะต้องปลอดภัย.. เธอเตรียมการไว้แล้ว..\" - - -ความมไม่สัมพันธ์ของประโยค  \" แม้สิริณญาจะเตรียมใจไว้แล้วเกี่ยวกับความไม่มั่นคงของชีวิตของเธอและสามี...แต่สำหรับลูกชายคนเดียวของเธอ...ลูกชายที่จะเป็นนักรบรัชทายาทคนต่อไปจะต้องปลอดภัย \"
ความโดดเด่นอย่างหนึ่งที่ผมเพิ่งพบในงานชิ้นนี้ของนักเขียคือการลำดับเรื่องที่ทำได้ดีมากในการลำดับการต่อสู่ที่เกิดขึ้น...แม้มันจะไม่ชัดเจนทั้งหมดแต่นั้นก็เกิดจากการบรรยายที่ยังไม่ดีนัก...แต่ไม่เกี่ยวกับการลำดับเหตุการ์แต่อย่างใดเลยครับ...
* * * ตอนที่ 7 :  เปิดเทอม * * * - รู้สึกชอบตอนนี้เป็นพิเศษครับ..เนื่องจากอ่านง่ายและมีความเป็นสามันเอามากๆก็เลยรู้สึกว่าไม่ต้องใช้จิตนาการมากนักในการอ่าน...อีกทั้งมีประโยคแปลกปรากฎอยุ่น้อยทำให้อ่านแล้วไม่สะดุดเหมือนตอนอื่นๆครับ....แต่กระนั้นสิ่งหนึ่งที่ขาดหายไปคือ ฉาก ที่ไม่มีเลยในตอนๆนี้ครับผม...ซึ่งจะว่าไปก็ไม่ใหญ่อะไรมากนัก...พอไหวครับเมื่อเทียบกับปมที่ทิ้งและเริ่มฮวดเข้ามาทุกทีแล้ว
\" เหมือนเด็กแก่เรียน \" สำนวนนี้มันขาดความชัดเจนอันเนื่องมาจากการไม่ละเอียดมากพอในการใช้คำครับ - \" เหมือนเด็กคงแก่เรียน\"
* * * ตอนที่ 8 :    งานชิ้นใหม่ * * * - รู้สึกว่าการลำดับเหตุการ์เป็นไปได้อย่างราบลื่นและอ่านดีครับ...ไม่มีข้อความแปลกให้เห็นและยังดำเนินเรื่องได้เร็วและมีสำนวนที่น่าสนใจให้สะดุดใจอ่านอีกต่างหาก...อยากบอกว่าชิบและรู้สึกว่าพัฒนาการในการเขียนมีมากขึ้นในตอนนี้ครับ ราวกับว่าไม่ใช่คนเดียวกันที่เขียนในตอนแรกๆเลยครับ...
* * * ตอนที่ 9 :    คฤหาสน์เกษมสมุทร * * * - ความรื่นไหลและเนื้อเรื่องที่ดูเรื่อยๆในตอนต้นนั้นหมดเสน่ห์ไปกับประโยคไม่กี่ประโยคตอนท้าย..ซึ่งผมคิดว่านี่คงเป็นปัญญหาที่แก้ยากซักหน่อยของนักเขียนท่านนี้ครับ นั้นคือ..
\" เรือแล่นมาเรื่อย ๆ จนเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง เกาะ ๆ หนึ่งก็ปรากฏให้เห็น เป็นเกาะขนาดเล็ก ใกล้เขาไปก็พบว่ามีสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนเกาะ ใกล้เข้าไปอีกจึงพบว่าสิ่งก่อสร้างนั้นคือ คฤหาสน์สองชั้นขนาดใหญ่ พอ ๆ กับวังเลยทีเดียว สร้างจากปูนซีเมนต์  ทาสีควันบุหรี่ แทบจะนับจำนวนหน้าต่างของคฤหาสน์หลังนี้ไม่ได้เลย \" -นี่เกิดจากการบรรยายฉากที่ผู้เขียนยังไม่เก่งพอจะเขียนถึงสิ่งนี้ได้ครับ \" เมื่อพวกเขาใกล้เข้าไปยังเกาะที่ล้อมรอบไปด้วยน้ำทะเลนั้น...พวกเค้าสังเกตเห็นว่ามันเป็นเกาะขนาดใหญ่ที่มีสิ่งปลูกสร้างอยู่บนนั้นมากมายพอดู...ลึกเข้าไปทางด้านหน้าของท่าเรือ...เป็นทางเดินทอดตัวยาวเข้าไป...สู่ตัวตึกขนาดใหญ่ที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า....( พอถึงตรงนี้ก็เคาะและอธิบายถึงลักษณะคฤหาสถ์อีกนิดหน่อยก็พอทำให้มีความรู้สึกว่ามันสอดคล้องต่อนื่อง)
บางคนมีเสน่ห์ในการนำเสนอเรื่องไม่เหมือนกัน...แต่เสน่ห์ของผู้เขียนเรื่องนี้อาจจะอยู่ที่บทสนทนาและการดำเนินเรื่องเพียงเท่านั้นครับที่มองเห็นในตอนนี้...
* * * ตอนที่ 10 :    ผู้ศึกษาตำนาน อาถรรพ์ แห่งท้องทะเล * * * - เนื้อเรื่องดเนินได้ดีครับมีความต่อเนื่องและน่าสนใจกับแนวความคิดที่ขมวดปมและบุคคลเข้ามาได้อย่างน่าสนใจ...ไม่ใช่นึกอยากจะให้ใครมาเจอใครก็ได้...ดูมีเหตุมีผมน่าสนใจมากครับ...แต่
\" ก้าวแรกที่อูวดลย่างก้าวเข้ามาในคฤหาสน์เกษมสมุทร ปลายเท้าของเขาแตะอยู่ที่พื้นหินอ่อน สีขาว ความเย็นแผ่เข้าสู่ร่างเขาไปทั่วทุกอณู บริเวณห้องโถงเปล่า ๆ ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร ใหญ่พอ ๆ กับบ้านของเขาทั้งหลัง เบื้องหน้าของไปสักสิบเมตรก็เป็นบันไดวนปูพรมสีแดง ขึ้นไปสู่ชั้นที่สอง บริเวณด้านข้างของห้องโถงมีประตู นับได้เกือบสิบบานเลยทีเดียว โคมไฟระย้า ห้อยลงมาจากเพดานที่ถูกเขียนเป็นรูป ใต้ทะเล อย่างวิจิตรงดงาม ภาพนับสิบภาพที่ห้อยประดับ ผนังห้องโถง เป็นภาพที่เกี่ยวกับทะเลทั้งสิ้น.. สนนราคาในแต่ละภาพอูวดลเดาได้เลยว่า.. ไม่ต่ำกว่าหกหลักแน่นอน.. \" ยังคงมีปัญหาในการบรรยายอีกเช่นเคยครับ -\" ก้าวแรกที่อูวดลก้าวสุ่ตัวคฤหาสน์...สิ่งที่ปรากฎอยู่เบื้องหน้านั้นงดงามเกินบรรยายเสียจริง...เค้ากวาดสายตาไปตามผนังจดเพดานที่ปรากฎเป็นรูปภาพเขียนสีน้ำมัน...สีพ้าครามที่ลงตัดเป็นท้องน้ำดูสงบเสงี่ยมเมื่อเทียบกับสีขาวครีมที่วาดตวัดไปมา..ทอดตัวเป็นเกรียวคลื่น...เล็กบางใหญ่บ้าง...อีกทั้งใต้ขอบสีขาวที่ตัดกับสีครามน้ำเงินนั้นลงมาปรากฎเป็นภาพของหมู่ปลาน้อยใหญ่แหวกว่ายกันไปเป็นฝูงบ้าง..ประปรายเป็นคู่บ้าง..ตามแนวประการังสีขาวหม่นและแนวหินสีคล้ำเขียวจากตะไคร้น้ำ..ช่างงดงามอ่อนช้อยลงตัวกับโคมไฟที่ทิ้งตัวลงมาด้านล่างอวดสายตาผู้มาเยือนได้เสมอ......ไล่จากผนังลงมาเป็นหินอ่อนทั้งแถบ..เรื่องลงมาถึงพื้นที่เค้าและเธอยืนอยู่...ยาวไปถึงบรรไดหน้ากว้างที่วนตัวขึ้นไปสู่ชั้นบน...ด้วย อย่างนี้เป็นต้นครับ
ผมหวังอย่างยิ่งว่าในอนาคตนักเขียนคนนี้คงจะเก่งในการบรรยายกว่านี้ครับ( เพราะในการเขียนงานแรกๆทำได้ขนาดนี้ก็ถือว่าโอเคครับแต่ยังต้องปรับปรุงอีกหน่อย)...เพราะเมื่อถึงวันนั้นผมเชื่อว่าเรื่องของเค้าต้องมีคนชอบอ่านมากๆเชียวหล่ะ
* * * ตอนที่ 11 :  ความจริงปรากฏ * * * -เรื่อมต้นด้วยความต่อเนื่องที่น่าสใจมากครับสำนวนและการดำเนินเรื่องเป็นไปแบบนาติดตาไม่น่าเบื่อ...แต่มีปัญหากับการบรรยายเช่นเดิม
\" บนพื้นที่ยกระดับสูงสักครึ่งเมตร มีสิ่งที่เหมือนน้ำทะเลมาจับตัวกันเป็นก้อน และภายในก็เต็มไปด้วยดอกไม้ทะเลชนิดต่าง ๆ  โบกสะบัดไปมาเหมือนอยู่ใต้ทะเลจริง ๆ \" -- -\" บนพื้นที่ยกสูงนั้น...มีผนึกขนาดใหญ่สีเขียวอำพันราวกับมรกตทอดตัวยาวไปตลอดแนวผนัง...และหลังผลึกสีเขียวเรืองรองนั้นเต็มไปด้วยพืชทะเลนานชนิดที่เอนไหวไปมาราวกับว่ามันอยู่ในทะเลก็ไม่ปาน\"
นอกจากปัญหาดังกล่าวแล้วแทบจะองไม่ออกเลยว่ายังมีข้อติหนิใดที่จะเกิดขึ้นในตอนนี้ครับ...ที่สำคัญเลยก้คือการคลายปมที่ขมวดเอาไว้ออกทีละนิด..ทำได้ดีและดูน่าติดตามมากครับ...
* * * ตอนที่ 12 :    ความหลังของมาลาตี * * * -ผมเพิ่งเข้าใจความหมายของหลายๆเรื่องในตอนนี้..อย่างเช่นประโยคที่ว่า..เลือดไหลลงก้นทะเล...การคัดเลือก...เพิ่งเข้าใจว่าที่ผมคิดไว้แต่แรกนั้นผิด(เกี่ยวกับการเลือกทายาทและการเสี่ยงทาย)
แต่อย่างไรก็ดีผมมีความรู้สึกว่าสำหรับบางคนที่มีความอดทนในการอ่านไม่มากพอ...เค้าจะรอให้เข้าใจถึงตอนนี้ไหมนะ...นี่แหละปัญหา..ผมชอบตอนจบที่ใช้คำที่แม้จะไม่ถึงกับคมคายมากมายนัก..แต่สำนวนสวยๆควรมีอยู่ในเรื่องบ้าง...อย่างน้อยก็สักหนึ่งหรือสองประโยค
แต่กระนั้นคามสมจริงบางอย่างอาจขาดหายไป...เนื่องจากมารตีดูแล้วน่าจะมีชิวิตที่เป็นคนธรรมดาเสียมากกว่าเป็น เงือก จากเกริ่นที่คุณพูดถึงพ่อแม่ของเธอ...ก็เลยให้สงสัย( อีกแล้วว่า)คนธรรมดาได้รับเลือกและเป็น เงือกได้ ด้วยหรือ....( คงต้องรออ่านกันต่อไป)
\" เขาจะไปรู้สึกดีได้อย่างไรในเมื่อ สิ่งที่เขาได้เผชิญและได้รับรู้ในเวลานี้.. หาใช่สิ่งที่เขาคาดคิดและพึงปรารถนาไม่.. \" - - ความสับสนของสำนวนทำให้เกิดช่องวางในการอ่าน \" จะให้เขารู้สึกมีความสุขไปได้อย่างไร..ในเมื่อเหตุการณ์ที่เค้ากำลังประสพอยุ่ตอนนี้...มันยากที่จะยอมรับได้ว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ \"
\" สิ้นคำของชายชรา มาลาตีซึ่งเปลี่ยนชุดเป็นชุดนอนธรรมดาแล้วก็ลากอูวดลออกจากห้องโถงไป.. ผ่านอุโมงค์เล็ก ๆ จนถึงห้องแคบ ๆ ห้องหนึ่ง ซึ่งเพดานห้องนั้น มีโพรง ๆ เล็ก ซึ่งมีน้ำทะเลอยู่เบื่องบน \" - - -การลำดับภาพดูไม่ค่อยต่อเนื่องเท่าที่ควร \" สิ้นคำนั้นของเจ้าสมุทร...มาราตีจัดการชุดที่สวมใส่ให้กลับไปเป็นชุดนอนตามเดิมและลากกึ่งจูงอูวดลอกไปจากห้องโถงไปตามทางเดินแคบๆสายหนึ่งซึ่งทอดตัวยาวออกไปราวกับว่ามันเป็นทางเดินในอุโมงที่ไม่ที่สิ้นสุด...เอนำเขาหยุดอยู่ที่ห้องแคบๆห้องหนึ่งซึ่งอูวดลรู้สึกประหลาดใจเมื่อพบว่า..บมเพดานนั้นมีโพลงขนาดเล็กกั้นเขาซึ่งอยู่ในที่แห้งคล้ายอยู่บนแผ่นดินกับด้านนอกที่ดูจากสายตาก็ทราบได้ในทันทีว่ามันคือทะเล\"
“ตรงนี้คือทางออกและเข้าของที่นี่..” - -ความไม่เป็นธรรมชาติของบทพูด . .\" ตรงนี้คือทางเข้า-ออกของที่นี่\"
\" เธอสตาร์ทรถและรถยนต์ก็เคลื่อน\" -การเลือใช้คำที่มีความหมายหลายอย่าง \" เธอติดเครื่องยนต์และนำเจ้ารถคันนั้นแล่นออกไปยังจุดหมาย\"
  “ฉันหวังว่า สองคนคงไม่ไปเล่นน้ำแล้วจมน้ำไปแล้วนะ..” ต่อศักดิ์พูด - - -ความไม่เป็นธรรมชาติ \" หวังว่าสองคนนั้นคงไม่พิเลนลงไปเล่นน้ำแล้วจมหายกันไปทั้งคู่หลอกนะ \"
\"อูของฉันก็ปลอดภัยพอ..\" -ความเผลอเลอครับ -\" อูของฉันปลอดภัยก็พอ \"
* * * ตอนที่ 13:  เพชรสีคราม * * * -อาจเพราะตอนนี้นี้มีขนาดที่ค่อนข้างสั้นดังนั้นจึงมองหาข้อผิดพลาดได้น้อยมาก...แต่อยากจะบอกว่าเปิดเรื่องคุณออกจะดูมีพัฒนาการใกบรรยายมากขึ้นจนอยู่ในระดับที่เรียกว่าดีทีเดียวครับ...ให้นึกแปลกใจว่าเมื่อคุรกลับไปอ่านตอนแรกๆของคุรจะรุ้สึกไหมนะว่ามันยังขาดๆเกินๆอยู่
\" แม่ไม่รู้หรอกว่าลูกไปรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง แต่แม่ก็ไม่สนใจอยู่แล้ว.. \" ความไม่เป็นธรรมชาติของบทพูด - - -\" แม่ไม่รู้ว่าลูกรู้เรื่องนี้ได้ยังไง...แต่ก็ช่างเถอะ...ยังไงตามกฏหมาย\"
* * * ตอนที่ 14:  อูวดลรายงานตัว * * * - ตอนนี้มันเรื่อยๆเกินไปหรือเปล่าไม่ทราบ..คือหมายความว่ามันเป็นเหมือนสิ่งที่ทราบมาก่อนแล้วทั้งเรื่อง...รถ...เรื่องการทำพิธีและสถานที่...จึงยังไม่มีความแปลกใหม่เท่าที่ควร...และบางอย่างสามารถคาดเดาได้ว่มันจะเป็นแบบนั้นแบบนี้ครับ..จึงขาดปมเด่นและความตื่นเต้นไปอย่างน่าเสียดายครับ...ทั้งที่สำนวนและการบรรยายเริ่มดีในตอนนี้
\"นี่ ! เธอขับเป็นด้วยเหรอ..\" อูวดลสงสัย-- - -\"ไม่มีอะไรที่ฉัน.. จะทำไม่เป็น..\" มาลาตีพูดด้วยน้ำเสียงโอ้อ - - -เกิดการหลงประเด็นนิดหน่อย...เนื่องจากตอนที่แล้วคนที่พาอูวดลลงทะเลและเป็นคนขับรถกึ่งเรือนั้นคือ มารตีครับ...ซึ่งผมเชื่อว่าอูวดลไม่น่าจะถามแบบนี้
* * * ตอนที่ 15  จดหมายจากทะเลแคริบเบียน * * * - - ความเป็นไปของอูวดลในตอนนี้ดูจะนิ่งไปสักหน่อยเนื่องจาก...การดำเนินเรื่องดูเยิ่อเย้อไป...หมายความว่าเป็นเรื่องเก่าที่เราท่านทั้งหลายอ่านมาจากตอนก่อนๆนี้แล้ว...จึงทำให้อูวดลยังคงเป็นสิ่งที่ไม่มีความแปลกใหม่นัก...นอกจากปมที่ทิ้งไว้ในท้ายเรื่องที่ออกจะน่าสนใจอยู่ไม่น้อย...( ซึ่งถ้าจะว่าไปคนที่อ่านมาตั้งแต่แรกก็พอจะเดาได้ว่าเรื่องมันเป็นยังไง...)...แต่มันก็ยังเป็นปมเก่า...และยังไม่มีปมใหม่ๆเท่าทีควรครับ...จึงทำให้ตอนนี้ดูไม่ค่อยกระชับเท่าที่ควรครับ
\" ไปเปิดหูเปิดตาที่อื่นในใต้น้ำบ้างน่ะค่ะ..\"  -การขยายที่ดูจะสั้นเกินไป...\" ไปเปิดหูเปิดตาที่อื่น ใน เมืองใต้น้ำนี้บ้างค่ะ \"
\"การชีวิตคนมันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ นะมาลาตี..\" จ้าวสมุทรเตือนสติ -ความเผลอเลอในการใช้คำ...\" การ คร่า ชีวิตคนไม่ใช่เรื่องง่ายๆนะมาราตี \"
\"มีอะไรอีกล่ะ.. กฤษณา\" มาลาตีรำคาญ -การความไม่เป็นธรรมชาติของบทพูด - -\" มีอะไรหรือ...กฤษณา หรือ อะไรอีกล่ะ...กฤษณา \"
\" ท่าทีจริงจังของมาลาตีทำให้อูวดลต้องรีบไปเอาสร้อยเพชรสีครามที่มาลาตีบรรจงร้อยให้เขาเมื่อสักครู่ที่ห้องน้ำ จากการลืมของเขา เมื่อได้สร้อยเพชรไว้แล้ว เขารีบสวมสร้อยเส้นนั้นไว้ที่ลำคอ เพชรสีครามยังคงส่อยประจายเจิดจ้า บนลำคอของเขา\" - - การเยิ่นเย้อของการบรรยาย - - \" ท่าทีจริงจังที่มาลาตีแสดงออกมาทำเอาอูวดลรนรานไปที่ห้องน้ำ...หยิบสร้อยที่ส่องแสงระยับอยู่เบื้องหน้าขึ้นสวมใส่...พลางเผลอยิ้มอย่างเป็นสุขเมื่อคิดถึงกริยานั้นของมาราตี...เด็กสาวที่บรรจงร้อยสร้อยเส้นสวยให้กับเค้า...\"
\"ฉันเกรงว่าอันตรายจะเกิดกับเขา..\"  - - ความไม่สมดุลของประโยค - -\" ฉันเกรงว่า จะ เกิดอันตรายกับเขา \"
* * * ตอนที่ 16  หมู่บ้านมนุษย์เงือกเอราวัน  * * * - อยากบอกตามความรู้สึกว่าตอนนี้มีทั้งข้อดีข้อเสียหลายจุดทีเดียวครับ...อย่างแรกตอนนี้มีขนาดที่ยาวดี...ยาวแบบอ่านแล้วได้สาระ...แบบที่อ่านแล้วได้สาระที่ควรจักรู้เกี่ยวกับเนื่อเรื่อง และยังเกิดความสับสนในการบรรยายบ้างในบางจุดแต่ไม่มากนัก...และปมที่ดูจะกระชับเข้ามาเรื่อยๆแล้วถือว่าเป็นตอนที่บอกถึงความสามารถของคนเขียนได้ทีเดียวครับ...( ขาดความสมจริงไปนิดอย่างน่าเสียดาย..ตรงตอนที่ทุกคนพากันมาชุมนุม...หน้าหมู่บ้านนี้ผมว่ในความเป็นจริงการเพิ่งมาถึงของอูวดลไม่น่าจะแพร่ข่าวได้เร็วจนคนทั้งหมู่บ้านจะทาบเรื่องเร็วขนาดนั้นครับ)
\" กฤษณาออกจากยานพาหนะไม่มือชื่อเรียกต่อจากเขา \"  -  - ความรีบร้อนจนเกิดข้อผิดพลาดในเรื่องของ คำ ทำให้ความหมายเปลี่ยน \" กฤษณาออกจากยานพาหนะไม่มีชื่อเรียก...ต่อจากเขา \"
\" เธอปิดช่องประตูเรียบร้อย และเธอก็ว่ายน้ำอย่างรวดเร็วมาเกาะแขนเขาอีกครั้ง..\" - เกิดความซ้ำซ้อนของการใช้สรรพนามทำให้เกิดความไม่ลื่นในการอ่าน -- -\" เธอปิดช่องประตูเรียบร้อยแล้วจึงว่ายน้ำเข้ามาเกาะแขนเขาอย่างรวดเร็วอีกครั้ง.. \"
\" ซึ่งอูวดลพอจะรู้ว่ามันเป็นปลาเรืองแสง ที่อยู่นิ่ง ๆ ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน อูวดลคิดว่ามันคงถูกจับวางไว้เพื่อนำทางไปที่ไหนสักแห่งที่เขายังไม่รู้.. \" - เกิดความซ้ำซ้อนของการใช้สรรพนามทำให้เกิดความไม่ลื่นในการอ่าน - - \" ซึ่งชายหนุ่มพอจะรู้ว่ามันเป็นปลาเรืองแสง ที่อยู่นิ่ง ๆ ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน และในความคิดของเขา...มันคงถูกจับวางไว้เพื่อนำทางไปที่ไหนสักแห่งที่เขายังไม่รู้... \"
\" ถัดจากซุ้มประตูไปจะเห็นบ้านเล็ก ๆ ที่สร้างด้วยเพรียงหินทอดยาวไปทิวแถว มีทั้งหมด หกแถวด้วยกัน  แต่ละสองแถวจะหันหน้าบ้านเข้าหากัน ทำให้เกิดช่องทางเดินสามช่องที่มีผู้คนเดินพลุกพล่าน \" - ความไม่สมดุลในการบรรยายทำให้เกิดการจิตาการที่บิดเบี้ยว -- - \" ถัดจากซุ้มประตู เข้า ไปจะเป็นบ้านหลังเล็กๆที่สร้างด้วยเพรียงหินทอดยาวออกไปไปทิวแถว...เขาเดินไปบนทางเดินแคบๆที่มีคนพลุ่กพล่านสายนั้น...ซึ่งเกิดจากช่องว่างหรือระยะห่างของบ้านแต่ละฟากที่ปลูกหันหน้าเข้าหากันจนดูราวกับว่ามันเป้นถนนในหมู่บ้านจัดสรรค์บนพื้นดินไม่มีผิด...\" อย่างนี้เป็นต้น
\" ผู้คนที่นี่จะใช้บริเวณหน้าบ้านของตัวเองขายของต่าง ๆ แทบทุกหลังคาเรือน จะมีเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นที่ไม่ได้ขายอะไร.. \" - - ความซ้ำซ้อนของเนื้อความ \"  ผู้คนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยุ่ในหมู่บ้านททั้งสองฟากของถนนจะใช้บริเวณหน้าบ้านของตัวเองนำของมาตั้งขาย...ราวกับตลาดหรือจุกนัดหมายสินค้าไม่มีผิด \"
\" จากมาลาตีทุ้ง ๆ ที่ในหัวสมองของเขาตอนนี้เต็ม \" - -ความเผลอเลอ - -\" จากมาลาตีทั้ง ๆ ที่ในหัวสมองของเขาตอนนี้เต็ม \"
\" มาลาตีพูดมือของเธอกอดอกเอาไว้ - - -ความเยิ่นเย้อของส่วนขยาย - - -\"  มาลาตีกอดอกพลางตอบโต้ออกไป\"
\" ภายในบ้านเป็นไม้ที่ขัดเงาเลื่อม เก้าอี้ไม้สี่ตัวจัดเรียงไว้ในห้องรับแขก \" - - - ความไม่สอดรับของการบรรยาย- - - \" ตัวบ้านและพื้นภายในบ้านเป็นไม้ที่ขัดเงาเลื่อม เก้าอี้ไม้สี่ตัวถูกจัดเรียงไว้กลางบ้านเพื่อไว้ใช้รับแขก \"
“ใครกัน..” ความไม่เป้นธรรมชาติ \" แล้วนี่ .. .ใครกัน\"
\" จนลืมการแก้ตัวของวรุณไปจน \" - - - การใช้คำไม่เหมาะกับบริบท \" จนลืมข้อ( หรือคำ)แก้ตัวของวรุณไปเสียสนิท
\" เธอก็เป็นอันต้องตกใจอย่างถึงที่สุด เมื่อ \" - ความเยิ่นเย้อ \" ภาพที่อยู่ด้านนอกทำให้เธอตกใจอย่างที่สุด\"
* * * ตอนที่ 17  ความฝัน * * * - เปิดฉากด้วยความไม่สมจริงเท่าที่ควรครับ...การดำเนินเรื่องดุจะรวดเร็วเกินไปจนบางจุดเกิดความไม่ต่อเนื่องขึ้น...แต่นั้นอาจเป็นความตั้งใจของนักเขียนเองที่ไม่ต้องการให้เนื้อเรื่องตอนนี้เยิ่นเย้อมากนัก...และยังรักษาความคิดหลักได้ดี...ความฝันที่อ่านแล้วก็ใคร่รู้ความหมาย..โดย นัย ที่จะต้องกระจ่างในเร็วๆนี้...ถือว่าตอนนี้เป็นตอนที่น่าสนใจอีกตอนครับ
\" กว่าสองชั่วโมงที่อูวดลอยู่ในหมู่บ้าน\" - - -ผมเข้าใจว่าพวกของมารตีมาถึงที่หมู่บ้านประมณ2ทุ่ม...ขณะที่อูวดลคิดอยุ่นี้ใกล้ห้าทุ่มดังนั้นปัญหาเรื่องความไม่สมจริงเรื่องเวลาจึงเกิดให้เห็นครับ
\" ของCyo..”  คงอยากจะบอกว่าการใช่ทับศัพย์มันสร้างความไม่เข้าใจให้คนอ่านได้ครับ
\" ที่ยังไม่ได้อาบน้ำ ด้วยการที่เขาเพลียมาทั้งวัน เขาจึง \"- - - ความไม่สมดุลของการเรียงประโยค  - - -\" ที่ยังไม่ได้อาบน้ำ และเพราะความที่เขาเพลียมาทั้งวัน เขาจึง -\"
* * * ตอนที่ 18  อาจารย์คนใหม่ * * * - ความต่อเนื่องยังมีให้เห็นทั่วไปในตอนเริ่มต้นจนจบของตอนครับ...แต่มีการซ้ำทางข้อมูลบ่อยๆอย่างจงใจจะให้ผู้คนจดจำหรือเปล่าไม่ทราบได้...แต่สำหรับผมแล้วผมว่ามันก็ดีอย่างเสียอย่างครับ...
\" นอกจากสภาพอากาศแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่จะไม่ผิดปกติในชีวิตประจำวันของอูวดล  \" - ความเยิ่นเย้อ -\" นอกจากสภาพอากาศแล้ว ก็ไม่เห็นจะมีอะไรในชีวิตของอูวดลเลยที่ผิดปกติไปจากเดิม \"
“การเปลี่ยนแปลงทางธรณีภาคค่ะ..” นาฏฐาตอบอย่างลุกลี้ลุกลน - การเลือกใช้คำได้ไม่เหมาะสมครับ  “การเปลี่ยนแปลงทางธรณีภาคค่ะ..” นาฏฐาตอบอย่างกุรีกุจอ - - คำว่าลุกลี้ลุกลนให้ความรู้สึกว่ามันเป็นการอยู่ไม่สุข ทำอะไรแบบถูกบังคับด้วยเวลาอะไรทำนองนี้ครับ...ผิดกับกุลีกุจอ หรือขันอาสา ที่จะทำให้มองเห็นภาพของ การเสนอ หน้าที่ชัดขึ้น
\" แต่ก็ยังไม่ถึงเวลาปิดของห้องสมุด มีคนเบาบางที่จะมาใช้บริการในเวลาเย็นเช่นนี้ \"- - - ความไม่กระจ่างชัดในการนำเข้าสุ่ประเด็นครับ... - - \" แต่ก็ยังไม่ถึงเวลาปิดของห้องสมุด เหตุเพราะยังมีเด็กบางส่วนเข้ามาใช้บริการห้องสมุดอยุ่บ้างในตอนเย็น...และเนื่องจากจำนวนของเด็กนักเรียนที่เข้ามาใช้บริการในเย็นนี้มีจำนวนน้อย...ทำให้อูวดล...\" แบบนี้เป็นต้นครับ
\" นาฏฐาและต่อศักดิ์กลับหอบหนังสือห้าหกเล่มมาวางไว้ที่โต๊ะ แล้วนั่งเปิดอ่าน ดูเหมือนว่านาฏฐาจะไม่ค่อยจะพอใจในการกระทำของเธอนัก.. ถัดเข้าไปในชั้นหนังสือ อูวดลและมาลาตียังคงยืนหาหนังสืออยู่ พีรยาเกาะแขนอูวดลอยู่ไม่ห่าง..\" การบรรยายในมุมกว้างครับ - - - \" ในห้องสมุด.. นาฏฐาและต่อศักดิ์กำลังอ่านหนังสือจำนวนหนึ่งตรงหน้า...โดยที่ฝ่ายหญิงมีสีหน้าเบื่อหน่ายต่อความพยามที่ไม่เป็นผลของเธออย่างที่สุด...ในขณะที่...ทางเดินตรงชั้นวางหนังสือ...อุวดลแสดงท่าทีเบื่อหน่ายต่อมือของพีรยาที่เกาะเหนี่ยวแขนของเขาไว้...สร้างความลำบากให้กับการใช้แขนข้างนั้นของเค้าอย่างมากผิดกับมาราตีที่กวาดตามองหนังสือบนชั้นและเลือกอย่างตั้งใจ\" อย่างนี้เป็นต้น
* * * ตอนที่ 19  ฆาตกรพันศพ * * * -รู้สึกว่ายังมองภาพของนาย\"ซโซไม่ออกอยู่ดีครับ...เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นบทสนมนาที่รู้ภูมิหลังมาเกือบหมดทุกอย่างจากบทก่อนๆแล้ว...เนื้อเรื่องจึงไม่มีความโดดเด่นเท่าที่ควร...จะมีเพียงบทสนทนาที่ดูจะเป็นธรรมชาติ...และการดำเนินเรื่องที่ดุรวดเร็วและลื่นไหลดีเท่านั้นที่ทิ้งไว้ในใจตอนนี้...
* * * ตอนที่ 20  อาหารเช้าที่ศูนย์การปกครองอ่าวไทย * * * -ตอนนี้คล้ายบทละครนิดหน่อยครับ...เนื่องจากเกิดแต่บทสนทนาเสียเป็นส่วนใหญ่...มีฉากและการบรรยายสถานที่น้อยแต่...บทสนทนาก็ดูเป็นธรรมชาติดีทำให้เพลินและพอจับบุคคลิกของตัวละครให้เด่นชัดขึ้นได้ระดับหนึ่ง...มีข้อผิดพลาดที่ไม่มากนัก..พออ่านแล้วผ่านๆไปได้แบบไม่ยากเย็นนักครับ
\" ทำให้อูวดลเป็นอันต้องรีบลุกจากที่นอนด้วยความรวดเร็ว.. มิได้มีอาการงัวเงียเช่นทุก ๆ วันเลย\" - - -ความไม่ลื่นไหลของการบรรยาย - - -\" ทำให้อูวดลรีบร้อนลุก
ขึ้นจากเตียงนอนอย่างรวดเร็ว...ต่างจากทุกวัน \"
* * * ตอนที่ 21  ไซมาความเร็วสูง * * * - ผมอยากบอกว่าตอนนี้มีการบรรยายได้ดีมากทีเดียวครับ..และบทสนทนาและการดำเนินเรื่องก็ดีจนไม่มีที่ติ...เพียงแต่ว่า...สิ่งที่คุรเขียนถึงมันเป็นความรุ้เฉพาะทางมากจนเกินไป...กล่าวคือการที่จะพุดถึงสถานนีที่ว่ามันเป็นอะไรที่ต้องใช้จิตนาการเป็นหลักใหญ่อยุ่แล้ว...การบรรยายของคุรจะว่าดีก้ถือว่าดีนะครับในตอนนี้แต่เนื่องจากผมเข้าใจว่าคนเรามีภูมิของความรู้ไม่เท่ากัน...ความสนใจก็ต่างกัน...ต่อให้คุณอธิบาย..บรรยายได้ดีสักเพียงใด...แต่ถ้ามันไม่ตรงกับความสนใจเสียแล้ว( อันนี้ผมเข้าใจว่ามันหลุดรูปแบบแฟนตาซีใต้น้ำไปหน่อย)...มันก็สร้างความน่าเบื่อให้เกิดขึ้นอย่งมากทีเดียวครับ...ซ.งผมเข้าใจว่าคนที่อ่านเรื่องนี้ส่วนใหญ่คาดหวังบางอย่างที่ไม่น่าจะใช่...อุปกรณ์ไฮเทคที่คุณพยามนำเสนออยู่ครับ...ซึ่งถามว่ามีอยุ่ดีไหม...ก็ดีครับ...แต่ทั้งตอนนี่ดูจะมากไปครับ...ทำให้อาจไม่ถูกใจบางคนในการอ่านตอนนี้ได้เหมือนกัน( ซึ่งผมใช้เวลาในการอ่านตอนนี้นานกว่าปกติ)
“แต่ฉันเข้าใจเขาดี.. นายไม่ได้ไปทำอะไรตรง ๆ กับเขาหรอก.. แต่มันก็ทางอ้อม..” - มาลาตีพูด -ความไม่เป็นธรรมชาติของบทสนทนาครับ - - -“แต่ฉันเข้าใจเขาดี.. นายอาจไม่ได้ไปทำอะไรเขาตรง ๆ ...ก็จริงอยู่.. แต่ในทางอ้อม...นายกำลังทำร้ายเค้าอย่างมากทีเดียว” มาลาตีพูด
* * * ตอนที่ 22  ผู้ชำนาญการขับระดับสาม * * *   - รู้สึกอ่านแล้วสบายดีครับตอนนี้...มีเพียงบทสนทนาบางจุดเท่านั้นที่ชวนงง...แต่การแกล้งทำให้อยากรุ้ในช่วงกลางๆนี่ทำให้ผมใจเตนได้เหมือนกันนะ...ถือว่าตอนนี้เล่นกับความรู้สึกได้ดีทีเดียวครับ
\" อยู่ ๆ ยานพาหนะไม่มีชื่อเรียกก็สั่งเครือเหมือนโดนอะไรฟาด มาลาตีเกือบจะ\"  -ความไม่เหมาะสมในการเลือกใช้คำครับ  \"อยู่ ๆ ยานพาหนะไม่มีชื่อเรียกก็สั่น
คลืนเหมือนโดนอะไรฟาด มาลาตีเกือบจะ\"
“เราสองคนไม่มีเพชรประจำตำแหน่งค่ะ แล้วก็มีคนชื่ออูวดลนับร้อยในอ่าวไทย..” -การขยายที่น้อยเกินไปทำให้สะดุดในการอ่าน - - -\" แต่..เราสองคนไม่มีเพชรประจำตำแหน่งนะค่ะ แล้วคนชื่ออูวดลก็มีนับร้อยคนได้มั้งในอ่าวไทย..”
“แต่เผอิญฉันไม่ค่อยจะได้สนใจความโด่งดังอันนั้นสักเท่าไหร่น่ะนะ.. คุณบอกฉันหน่อยได้มั๊ยคะ.. ว่านักรบรัชทายาทอูวดลไปสร้างวีรกรรมอะไรไว้..” -ความไม่เป็นธรรมชาติครับ ในความเป็นจริงถ้ามาราตีต้องการหลอกถามเธอควรพูดว่า \"บังเอิญว่าฉันเองไม่ค่อยสนใจเรื่องของคนดังสักเท่าไหร่นัก...บอกหน่อยได้ไหม...ว่านักรบรัชทายาทอูวดลไปสร้างวีรกรรมอะไรไว้..”
* * * ตอนที่ 23  ประหารไซโซ * * *   - อยากบอกว่าเกิดอาการหงุดหงิดนิดหน่อยที่การประหารนั้นเกิดขึ้นเชื่องช้าเหลือเกินทั้งที่ตั้งหน้าตั้งตารอมาจนเกือบถึงกลางเรื่อง..และเมื่อได้อ่านตอนประหารแล้วก็ยังไม่อิ่มนัก...เนื่องจากอยุ่ๆก็ขาดวิ่นไปเสียเฉยๆ...นั้นคือการทิ้งปมให้น่าสนใจขึ้นมาก....จะมีข้อเสียเพียงบางอย่างที่เกิดขึ้นน้อยมากใน20กว่าตอนที่อ่านมา...แต่กลับเห็นในตอนนี้มากมายหลายจุด...นั้นคือ ความผิดพลาดของตัวสะกด...ขาดเกิน...ทำให้ความหมายหายไป...ซึ่งทำให้เสน่ห์ของเรื่องหายไปอย่างน่าเสียดายครับ...
* * * ตอนที่ 24  สิ่งที่คาด.. สิ่งที่เป็น..* * *   -ถือว่าใช่ชื่อตอนได้ดีทีเดียว...เพราะบางสิ่งที่เราคิด...มันก้ไม่ใช่จริงๆ...ความน่าสนใจในตอนนี้เห็นจะเป็นการดำเนินเรื่องที่ดูกระโดดไปมาเสียหน่อยและความเนไปได้ถึงการพบเจอกับของเด็กสองคนกับท่านราชินีนี่ในสถานที่กว้างใหญ่ดูมันจะเป็นการยากนัก..แต่ความบังเอิญก็อาจเกิดขึ้นได้...และแน่ใจอย่างที่สุดที่คุรกำหนดให้เป็นอย่างนั้นคงต้องมีอะไรตามมาแน่ๆ...
24 ตอนของ \" เจ้าสมุทร ให้ความรู้สึกหลากหลายมากๆในการอ่าน...ในบางตอนให้ความรนู้สึกว่าอ่านยากและเข้าใจหรือจินตนาการตามไม่ค่อยออก...แต่บางตอนผู้เขียนกลับลงลายละเอียดและบรรยายได้อย่างน่าสนใจ...ชานอ่านได้อย่างประหลาด...ที่สคัญเลยก็คือ...ผุ้เขียนเป็นผู้สามาถในการสร้างพล็อต...และรู้จักดำเนินเรื่องได้อย่างกระชับตรงเป้าหมาย...แต่ในบางตอนก็มียืดยาดไปบ้าง...เหมือนกับขัดตาทัพไปบ้าง....
ทุกสิ่งที่ผมเขียนถึงเรื่องนี้ส่วนใหญ่มาจากความรู้สึกที่มีต่อเรื่องวและ..ความเห็นนั้นรมาจากเนื้องานจริงๆของผู้เขียนเรื่องนี้เอง...ดังนั้นผมจึงหวังเป็นอย่างยิ่งครับว่าแฟนตาซี...คงจะยังมีให้ผมอ่านอีกมาก...โดยเฉพาะ \" เจ้าสมุทร\" ที่ปมของเรื่องเริ่มคลายตัวให้เห็นบ้างแล้ว...ที่ผมจะต้องคอยอ่านต่อไปครับ...
ส่วนใครที่ยังไม่เคยสัมผัสกับงานแฟนตาซีเรื่องนี้เรียนเชิญที่http://www.dek-d.com/entertain/viewlong.php?id=5150 ครับ...แล้วคุณอาจรู้สึกแตกต่างจากที่ผมเขียนถึงก้เป็นได้....
วานิช นิ่มสกุล
             
   
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น