ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กลลวงร้าย อุบายรัก

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 1 - 2 จุดเริ่มต้นของการหย่า 1 - 2

    • อัปเดตล่าสุด 8 มิ.ย. 67


    ในเรื่องน่าเศร้าของแพรพรรณก็ยังมีข่าวดีให้เธอชื่นชม

            เมื่อคนรักของเธออย่างภูธวิน อัครพงษ์ได้รับเงินทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในต่างประเทศได้ สร้างความยินดีให้กับเขาและแพรพรรณที่ได้ยินข่าวนี้

              ‘พราวยินดีกับภูด้วยนะคะ’ หลังจากกล่าวแสดงความยินดีต่อคนรักเสร็จ สีหน้าของแพรพรรณก็เริ่มหม่นลงจนภูธวินสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของเธอ

              “คุณดูไม่ดีใจเลยนะพราว คุณเองก็สอบได้ทุนที่โปแลนด์เหมือนผมนี่ หรือคุณกังวลที่พวกเราเรียนอยู่คนละมอกัน”ภูธวินที่ไม่ได้รับรู้ต้นสายปลายเหตุทั้งหมดถามแฟนสาวของเขา ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆ แพรพรรณ มืองข้างหนึ่งโอบไหล่แฟนสาวของเขาดึงเธอเข้ามากอดแนบไหล่

              “พราวอาจจะไม่ได้ไปที่โปแลนด์แล้วนะภู”

              ประโยคของแพรพรรณทำให้ภูธวินค่อนข้างแปลกใจ ในเมื่อแฟนสาวของเขาได้รับทุนศึกษาต่อที่ประเทศเดียวกันกับเขา เช่นเดียวกับที่เขายื่นผลคะแนนสอบเพื่อยื่นขอสมัครเรียนต่อเฉพาะทางที่โปแลนด์ ด้วยเงินมรดกเดิมของครอบครัวอัครพงษ์ ภูธวินถามคนรักของเขาต่อถึงสาเหตุที่ไม่ได้ไปเรียนเมืองนอก ทว่าแพรพรรณก็บ่ายเบี่ยงที่จะตอบความจริง เพราะเธอกลัวว่าเขาจะผิดหวังที่เธอถูกบังคับให้ยื่นสละทุนครั้งนี้

              “ทำไมล่ะพราว คุณสอบได้ทุนนี้นะทำไมคุณถึงไม่ได้ไปกับผม” ภูธวินถามอย่างไม่เข้าใจ เนื่องจากเขาเรียนอยู่คนละมหาวิทยาลัยกับแพรพรรณจึงไม่ค่อยรู้เรื่องตื้นลึกหนาบางมากนัก

              แพรพรรณยิ้มบาง ๆ ให้กับชายคนรัก “พราวมีเหตุผลน่ะ เอาเป็นว่าวันที่ภูเดินทาง พราวจะไปส่งภูที่สนามบินด้วยตัวเองนะ พราวจะโทร.หาภูทุกวันไม่ให้ภูเหงาเลย”

              “ถ้าอย่างนั้นภูจะคุยกับคุณแม่ ขอจดทะเบียนสมรสกับพราวเอาไว้ก่อน หากภูเรียนจบจากเมืองนอก เราค่อยแต่งงานกันนะพราว” คำขอแต่งงานของภูธวินทำให้แพรพรรณรู้สึกตื้นตันในอก เธอดีใจอย่างถึงที่สุดที่คนรักของเธอตัดสินใจจัดการกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน ภูธวินก็ทำตามที่เขาพูดจริง ๆ เขาพาเธอไปพูดคุยเจรจาหมั้นหมายให้เป็นพิธีกับภาวิณี ซึ่งก็ได้รับความยินดีและ

    รอยยิ้มกลับมา และในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่เลิกขึ้นวอร์ดแล้ว ทั้งภูธวินและแพรพรรณก็ตัดสินใจพากันไปจดทะเบียนสมรสที่สำนักงานเขตแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย โดยมีภาวิณีและภวิตาไปเป็นพยานในครั้งนี้

              โดยจุดประสงค์ของการจดทะเบียนสมรสกันคราวนี้ พวกเขาได้ศึกษาข้อกฎหมายอย่างละเอียดแล้วว่าบุคคลที่บรรลุนิติภาวะ สามารถจดทะเบียนสมรสกันโดยไม่ต้องมีผู้ปกครองให้ความยินยอม อีกทั้งเพื่อให้ภูธวินและแพรพรรณมั่นใจว่าพวกเขาจะมีกันและกันตลอดไป

              สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ทำให้แพรพรรณรู้สึกว่า แม้โชคชะตาจะเล่นตลกให้เธอต้องยอมสละทุนให้กับลลินทิพย์ ทว่าก็ยังมีเรื่องโชคดีเข้ามาคือการที่ภูธวินจัดการขอหมั้นหมายเธออย่างเป็นทางการ และจะแต่งงานทันทีหลังจากที่เขาและเธอเรียนจบ แต่นั่นอาจจะไม่ได้เทียบข่าวดีอีกข่าวที่แพรพรรณกำลังจะได้รับในอีกไม่ช้า

     

    วันหนึ่งแพรพรรณถูกอธิการบดีเรียกเข้าไปพบที่สำนักงาน

            ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศที่ทำงานตลอดเวลาชวนให้แพรพรรณรู้สึกกดดัน ยิ่งได้รับสายตากดข่มจากทันตแพทย์หญิงฐิตาพร ผู้เป็นคณะบดีคณะทันตแพทยศาสตร์กำลังนั่งกอดอกบนเก้าอี้บุหนังแบบมีล้อ มองเด็กสาวที่มาเยือนใหม่อย่างไม่สบอารมณ์

              อธิการบดีดอกเตอร์ทรงชัย ผายมือพร้อมกับยิ้มให้แพรพรรณอย่างมีเมตตา ‘นั่งก่อนสิหมอพราว’ 

              สรรพนามที่ทรงชัยใช้เรียกเธอ นับว่าเป็นคำที่สุภาพที่สุด แพรพรรณประนมมือขอบคุณก่อนจะหย่อนสะโพกนั่งบนเก้าอี้บุหนังราคาแพงของสำนักงาน

              ‘ท่านอธิการบดี เรียกหนูมามีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ’ แพรพรรณถาม พลางรู้สึกถึงแรงกดข่มทางสายตาของฐิตาพร

              “เรื่องเมื่อวันก่อนที่อาจารย์ฐิตาพร ให้เธอสละทุนเพื่อลลินทิพย์ วันนี้อาจารย์เลยเรียกเธอมาพบพร้อมกันเสียเลย” สีหน้าของอธิการบดีดูยิ้มแย้มผิดปกติ จนอาจารย์ฐิตาพรเริ่มรู้สึกสงสัย

              “พอดีว่ามีผู้ใหญ่ประสงค์จะให้ทุนหมอพราวเป็นการส่วนตัว ที่มหาวิทยาลัยซูริค สวิตเซอร์แลนด์ ไปศึกษาต่อสาขาที่ต้องการ และหากต้องการศึกษาต่อระดับปริญญาเอก แค่แจ้งความจำนงมาเท่านั้น ทางผู้สนับสนุนรายนี้เขายินดีให้ความช่วยเหลือหมอพราวอย่างเต็มที่” คำกล่าวของอธิการบดีทำให้อาจารย์ฐิตาพรรู้สึกอิจฉาแพรพรรณจนตาลุก เนื่องจากสวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีค่าครองชีพสูงเป็นลำดับต้น ๆ ของโลก อีกทั้งยังมีสวัสดิการที่ดีและมหาวิทยาลัยชั้นนำที่ผลิตคนดังออกมามากมาย พลาดท่าให้กับทุนครั้งนี้เสียแล้ว!

              แพรพรรณทั้งรู้สึกปลื้มปริ่มใจและตื้นตันในอก จากนั้นอธิการบดีจึงกล่าวต่อว่า “อันที่จริงทุนที่คุณกำลังจะได้ไปโปแลนด์ก่อนหน้านี้ ทางผู้สนับสนุนเขาประสงค์มอบเงินทุนส่วนตัวให้คุณไปใช้ แต่พอทราบว่าคุณต้องสละสิทธิ์ทุนนี้ให้กับหมอลิน เขาก็แอบเสียดายเงินตรงนั้นไปและหวังว่าคุณจะตอบรับการรับทุนส่วนตัวนี้จากเขานะ หมอพราว”

              แพรพรรณไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าผู้สนับสนุนรายนี้ เขาตั้งใจจะมอบเงินสนับสนุนส่วนตัวให้แพรพรรณด้วย เพราะเดิมทีทุนที่สอบได้ไปเรียนต่อที่โปแลนด์นั้น เป็นทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่วอร์ซอว์ แต่เมื่อแพรพรรณต้องสละทุนให้ลลินทิพย์ ดูเหมือนทางผู้สนับสนุนใจดีคนนี้ต้องการสนับสนุนเธออย่างชัดเจน

              “แล้วท่านอธิการบดีเรียกฉันมาฟังด้วยเรื่องอะไรคะ”

              อาจารย์ฐิตาพรถาม พยายามควบคุมความไม่พอใจเอาไว้ภายใต้ใบหน้าแสดงความยินดีต่อนักศึกษาทันตแพทย์ตรงหน้า

              อธิการบดีสีหน้าครึ้มเมื่อหันมามองคณะบดีฐิตาพร น้ำเสียงของท่านแสดงถึงความไม่พอใจอยู่หลายส่วน “ทุนที่คุณให้หมอพราวสละให้ลูกสาวคุณ ก็เท่ากับว่าทางลูกสาวคุณจะได้เงินทุนสนับสนุนส่วนนี้ไปด้วย เพราะทางผู้สนับสนุนเขาระบุชัดเจนว่าหากไม่ใช่หมอพราวเขาก็ไม่ยินดีจะให้ทุน แต่ว่าในเอกสารนั้นเห็นชัดเจนว่าเป็นความต้องการของหมอพราว ทางผู้มอบทุนเขาจึงไม่ขัด...”

              ฐิตาพรเริ่มรู้สึกถึงบรรยากาศความไม่ปกติ เธอไม่รู้ว่าอธิการบดีสืบทราบเรื่องนี้ได้อย่างไร และคนที่สนับสนุนเบื้องหลังแพรพรรณเป็นใคร มีอำนาจบาตรใหญ่มาจากที่ไหนถึงมีเงินมหาศาลมาสนับสนุนเด็กยากไร้คนหนึ่งได้ขนาดนี้

              หากเธอรู้ล่วงหน้าว่าเด็กสาวตรงหน้าจะได้ทุนที่ดีกว่ามหาวิทยาลัยในโปแลนด์ เธอคงยอมให้แพรพรรณได้ทุนสนับสนุนนั้นไปและให้ลลินทิพย์รอรับทุนส่วนตัวไปศึกษาต่อที่สวิตเซอร์แลนด์ดีกว่า

              “ทำไมดิฉันไม่ทราบถึงทุนนี้มาก่อนเลยคะท่านอธิการฯ” ฐิตาพรถาม

              แพรพรรณนั่งก้มหน้า เธอเข้าใจดีว่าฐิตาพรคงไม่พอใจที่เธอนั้นได้ทุนการศึกษาที่ดีกว่าลูกสาวของตน

              “เป็นความประสงค์ของผู้สนับสนุน เขาไม่ประสงค์เปิดเผยตัวตน แต่ว่าการได้ทุนเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยซูริคของหมอพราวนั้นเป็นสิ่งที่ทางผู้สนับสนุนต้องการ เขาสนับสนุนด้วยเงินทุนส่วนตัวของเขาเอง คุณคงไม่มีปัญหาอะไรนะครับหมอฐิตาพร”

              ฐิตาพรแสร้งยิ้ม “ลูกศิษย์ในคณะที่ฉันสอนมา หากได้ดีฉันก็ต้องยินดีสิคะ จริงไหมหมอพราว”

              “คุณก็เตรียมตัวนะหมอพราว มหาวิทยาลัยจะเปิดให้รายงานตัวในสัปดาห์หน้า คืนวันศุกร์นี้คุณจะต้องออกเดินทางแล้ว”

              ออกเดินทางวันเดียวกับลลินทิพย์และภูธวินเลยสินะ

              “ดิฉันขอบพระคุณอาจารย์มากเลยนะคะ” แพรพรรณประนมมือไหว้ฐิตาพรและอธิการบดีอีกครั้งก่อนจะเดินออกมาจากห้องทำงานของอธิการบดี หัวใจของเธอรู้สึกเบิกบานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แม้จะอยากรู้ว่าใครคือผู้สนับสนุนที่ใจดีกับเธอมากขนาดนี้ แต่ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ประสงค์จะออกนาม เธอก็ได้แต่ขอบคุณพวกเขาในใจ และตั้งใจจะใช้ทุนนี้ศึกษาทันตแพทย์ต่อให้คุ้มค่าที่สุด

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×