คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : spacial 2 เพื่อนใหม่
“โอ้ย ยองมิน ไม่ไหวแล้ว โอ้ย!”
“อยู่เฉยๆ อีกแปปนึงจะเสร็จแล้ว”
“นี่นานแล้วนะ โอ้ย แสบๆ”
“อะไรกันแค่ย้อมผม ร้องยังกับอยู่บนเตียงนะเรา เดี๋ยวจับขึงซะดีไหม” ดูดิครับ เด็กบ้าอะไรอยากย้อมผมแล้วดันทนสีกัดไม่ไหว ตอนแรกทำพูดดี ทนได้ๆ แฟนใครเนี่ย ดื้อเป็นบ้า
“งื้ออออ..ยองมินอ่า ล้างเหอะ ไม่ไหวแล้ว อ้ากกกกก ”
สุดท้ายก็ต้องพาไปล้างจนได้ 5555 สีที่ออกมาเลยเป็นสีทองทั้งหัว ก็มันเป็นสีกัดนิเนอะ พอบอกว่าจะย้อมต่อ ก็ไม่ยอมท่าเดียวคงต้องปล่อยหัวทองไปงี้แหละ เปิดเทอมวันแรกจะทำตัวเด่นเลยหรือไงกัน คนมองเยอะด้วย หวงชะมัดยาก
“นายจะไปทั้งหัวทองๆงี้เนี่ยนะ” ผมพูดไปเช็ดหัวให้อีกคนไปพลางๆ เพราะเดี๋ยวแอบหลับไปไม่ยอมเช็ด ตื่นมาเป็นหวัด งอแงไม่ไปโรงเรียนอีก..
“เขาไม่ได้ห้ามนิ ยองมินย้อมไหม เดี๋ยวทำให้ เอาป่ะๆ*0*”
“ไม่ดีกว่า ฉันยังไม่อยากตายเพราะยาย้อมนะ”
“ชิ..”
“อ่ะ แห้งแล้ว นอนนะ พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนกัน” ผมเลือกที่จะแยกห้องนอนกับอีกคนเพราะกลัวว่าเวลาอยู่ใกล้ๆจะอดใจไม่ไหว เพราะหลายคืนที่ผ่านมา ผมนอนกับกวังมินทีไร อีกคนไม่เคยได้หลับสนิทสักวัน
ตอนที่ยองมินกำลังจะเดินออกไปยังประตู ก็ถูกมือบางดึงไว้ก่อน
“มีไร ฮึ?”
“จูบหน่อย..” กวังมินแกว่งแขนอีกคนแก้เขิน จะให้พูดยังไงล่ะ ไม่ได้นอนด้วยกันแล้วมันก็แปลกๆอ่ะ เพราะปกตินอนด้วยกันตลอด พอจะห่างแล้วแปลกๆเลย ไม่มีคนนอนกอด
“อ่อยจริง ใครสอนมาเนี่ย” ร่างสูงโน้มใบหน้าเข้ามาประกบจูบอีกคน ดูดดึงกลีบปากจนแดง อีกคนเผยปากอย่างรู้งาน ลิ้นร้อนตวัดเก็บเกี่ยวความหวานในโพรงปาก มีกลิ่นยาสีฟันอยู่ตามซอกฟัน ให้รสไปอีกแบบ ลิ้นร้อนควัดเกี่ยวกันไปมาอย่างไม่ลดละ จนร่างสูงต้องพละออกมาก่อนจะเลยเถิดไปกว่านี้
“พอเลย ยั่วฉันจริงนะนายหน่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ลุกไม่ไหวหรอก”
“นอนนี้ไม่ได้หรอ? ไม่อยากนอนคนเดียว นะนะๆ” สายตาอ้อนวอนทำให้ยองมินใจอ่อน หย่อนตัวลงนอนข้างๆอีกคน ในใจก็พยายามข่มไว้ ว่าอย่าทำอะไรเกินเลย เพราะไม่อยากพลาดวันเรียนวันแรกที่ต้องไปเจอศึกหนักอีกมากมาย ทำได้เพียงนอนกอดอีกคน หัวทุ้ยๆซุกอยู่ที่แผ่นอกตัวเอง พลางสูดดมกลิ่นหอมของกลุ้มผมที่ไม่คุ้นตา ยังมีกลิ่นน้ำยาย้อมติดอยู่ แต่ไม่ทำให้มันน่าหลงใหลน้อยไปเลย
“ไหนบอกนอนไง งื้ออ..” ร่างบางที่อยู่ในอ้อมกอดเริ่มดิ้นเพราะมือหนาล้วงเข้ามาภายใต้สาบเสื้อ ตอนนี้เขารู้เปลือกนอกเปลือกในของคนรักแล้วว่านิสัยเป็นยังไง ก็แค่ผู้ชายคนนึงที่หื่นกามและรักผมมากๆ คิ้..
“ก็ตัวนายมันหอมนิ” ร่างสูงพูดจบก็ครางในลำคอเมื่อคนในอ้อมกอดเงยหน้าขึ้นมา ริมฝีปากประกบเข้ากับลำคออีกคนพอดิบพอดี
“นี่จะยั่วกันจริงๆใช่ไหม โจ กวังมิน”
“ไม่ได้ตั้งใจน้า ฮ่าๆ อย่าจี้สิ ยองมินอ่า..ฮ่าๆ”
“นี่แหน่ะ คนชอบยั่วต้องโดนลงโทษ..”
“ฮ่าๆ พอแล้ว หายใจไม่ทัน ฮ่าๆ” พอได้ยินเสียงค้านฝ่ามือหนาก็ทำตามที่สั่งและเลื่อนมือมาโอบไว้อย่างเดิม
“พรุ่งนี้จะไปโรงเรียนกันแล้ว อย่าไปสนิทกับใครซุ่มสี่ซุ่มห้ารู้ไหม”
“พี่ยองมินนั่นแหละ อย่าไปอ่อยพวกผู้หญิงฝรั่งนะ” กวังมินพูดติดตลก ในใจก็รู้อยู่แล้วว่าพี่ชายไม่ทำอย่างนั้นหรอก
“อ่า..ผู้หญิงที่โรงเรียนคงสวยแน่ๆเลย พี่ห้ามใจไม่ไหวทำไงดี กวังมินอา..”
“เดี๋ยวเถอะ อย่างนี้ต้องติดป้ายไว้ซะแล้ว” กวังมินกระดึ้บขึ้นมาให้สูงระดับเดียวกันก่อนที่จะก้มลงขบเม้มลำคออีกคน จนคนที่ไม่ได้ตั้งตัวเผลอสะดุ้งโหยง
“โอ๊ะ..ยัยเด็กแก่แดด” รู้สึกได้ถึงความเจ็บที่อยู่บริเวณซอกคอด้านบน พรุ่งนี้คงปิดรอยไม่ได้แน่ ตอนนี้คาดว่าน่าจะแดงจนเป็นรอยแล้วล่ะ เด็กนี่แสบขึ้นทุกวันเลย..
“อะไรกัน อายุเท่ายองมินนั่นแหละ งั่มๆ” กวังมินแกล้งก้มลงไปกัดอีกคนเล่นๆอย่างหมั่นเคี้ยว
“เดี๋ยวนี้ไม่เรียกพี่แล้วสิ กล้าหื้อกับฉันด้วยใช่ไหม เดี๋ยวเหอะ” ยองมินเขกหัวอีกคนจนกวังมินต้องยกมือมาลูบหัวปรอยๆ
“งื้อ..ผมเจ็บน้า..”
“นอนไปเลย..ไอเด็กยั่ว”
“แบร่!” หลังจากนอนเล่นกันสักพักใหญ่ กวังมินก็เคลิ้มจนหลับไป ผมนอนกอดอีกคนจากด้านหลัง แนบกายชิดอีกคนเพราะอากาศที่หนาวเย็นด้านนอก บวกกับแอร์ปรับอากาศด้านในอีก ทำให้หนาวเป็นเท่าตัว..
“ฝันดีนะครับ”
“อือ..”
“นอนแล้วยังตอบได้นะเรา ” ยังไงเด็กนี่ก็ยังเป็นเด็กน้อยของผมอยู่วันยังค่ำ ผมโครตรักเด็กนี่เลยจริงๆ..
เช้ารุ่งขึ้น..
กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง..
เสียงนาฬิกาปลุกส่งเสียงลั่น ทำให้คนที่นอนหลับใหลอยู่ตื่นขึ้น เพราะเสียงเตือนว่าคือเช้าวันใหม่แล้ว
“เจ็ดโมงแล้วหรอเนี่ย ห๊าววว..” ยองมินตั้งนาฬิกาปลุกสองรอบคือหกโมงกับเจ็ดโมง เขาคงเผลอปิดและหลับต่อแน่ๆ โรงเรียนใหม่ที่เราเข้าเรียนเป็นโรงเรียนทั่วไป แต่ที่นี่เข้าเรียนเก้าโมง ใส่ไปรเวสได้ ทำอะไรกับหัวก็ได้ ไม่เคร่งเครียด
“ที่รัก ตื่นเร็วครับ”
“ตื่นหน่า เดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะ”
“อื้ออ..ตื่นแล้ว”
ยองมินเห็นปากอีกคนขยับหลังจากที่เขย่าอยู่สักพัก ร่างสูงที่นั่งเหยียดขาอยู่พลิกตัวเข้าหาที่คน ประกบจูบช้าๆ และอีกคนก็ไม่ได้ปฏิเสธ
“มอนิ่งคิสนะครับ”
กริ้ง!
“โว้วว เกือบมาสายแหน่ะ เห็นไหมบอกให้รีบตื่นก็ไม่เชื่อ” กวังมินหน่ะสิ ผมลุกไปอาบน้ำแต่กวังมินดันหลับต่อซะได้
“นิดเดียวหน่า อย่างน้อยก็มาทันนะ-3-”
“ครับๆ ป่ะ เข้าไปหาเพื่อนใหม่กัน”
“วันนี้เรามีเพื่อนใหม่ย้ายมาจากเกาหลีสองคน เชิญแนะนำตัวเลยนักเรียน” คุณครูพูดเป็นภาษาอังกฤษเลยทำให้พวกเขาไม่ได้เครียดมาอย่างที่คิดมา ถึงจะเตรียมภาษาฝรั่งเศสไว้ก็เหอะ แต่นี่มันคลาสคนเรียน เป็นพวกต่างชาติ เลยต้องใช้อังกฤษเป็นหลัก
“สวัสดีครับ ผมยองมินย้ายมาจากเกาหลีครับ” ผมพูดจบก็โค้งให้ตามวัฒธรรมเกาหลี แต่รู้สึกได้ขึ้นแรงดึงเสื้อของคนที่อยู่ข้างๆ
“อ่า..นายแค่แนะนำด้วยเป็นภาษาอังกฤษเอง เร็วเข้า ไม่ยากหรอก” เด็กนี่หน่ะเขาโครตอ่อนภาษาอังกฤษเลย พูดก็แทบไม่ได้ แถมยังได้อังกฤษเกรดหนึ่งอีก
“มะ..มายเนมอิส เอ่อ..กวังมิน”
พอแนะนำตัวจบ คุณครูก็รัวฝรั่งเศสจนผมจับใจความไม่รู้เรื่องและเขาก็เดินออกไป พร้อมกับใครผมไปนั่งริงหน้าต่างที่ว่างสองที่
“ยู! ยองมิน” เสียงเรียกที่คุ้นๆ ตะโกนเรียกชื่อจนต้องรีบหันกลับไปมอง
“อ้าว จองมินนี่เอง” จองมินวิ่งมากระโดกอดคออีกคน โดยไม่ได้สังเกตลมที่พองอยู่ในแก้มกวังมินเลยแม้แต่น้อย
“ไม่คิดว่าจะมาเรียนที่นี่นะเนี่ย ยู ซองๆ!” บุคคลที่มีผมสีม่วงแซมดำเหมือนย้อมไม่ทั่ว เดินหน้านิ่งมาทางที่คนตัวเล็กเรียก..
“นี่ ซอง แนะนำตัวหน่อยสิ นี่เพื่อนไอไง ที่อยู่ข้างบ้านเราหน่ะ”
“อันยอง ฉันชื่อ ฮยอนซอง ยินดีที่ได้รู้จัก”
“ฉันชื่อยองมิน ส่วนนี่กวังมิน”
“กวังมินหรอ” ผมเห็นคนที่ชื่อฮยองซองก้มหน้าก้มตา ไม่มองหน้าผมเลยสักนิด แต่พอเอ่ยชื่อกวังมิน เขากลับเงยหน้าขึ้นมาอย่างตกใจ
“ใช่ นายจริงๆด้วย!” ฮยอนซองวิ่งเข้าไปกอดกวังมินที่กำลังทำหน้างงสุดขีด และไม่ต่างจากผมกับจองมินที่ยืนเลิ่กลั่ก เกิดคำถามในใจว่าพวกเขารู้จักกันหรอ
“เอ่อ..นายเป็นใครอ่ะ”
“ฉันไง ฉันเอง ฮยอนซองอ่ะ ที่นายเดินชนฉันตอนอยู่มอสามไงๆ” ทำไมไม่เห็นจำได้ว่ากวังมิน รู้จักกับหมอนี่เลยแหะ ตอนมอสาม ผมก็อยู่กับกวังมินน่ะ เอ๋?
“อ่อ ฮยอนซองคนนั้นอ่ะนะ!” เห้ย จริงหรอเนี่ย ไอคนที่ใส่แว่นเต่อๆ ชอบก้มหน้า ตอนนี้หน้าหล่อโกอินเตอร์อยู่ที่ฝรั่งเศส! นี่โลกมันกลมไปแล้ว!
“ใช่ โอ้ย คิดถึงนายว่ะ”
“เฮ้! พวกนายรู้จักกันหรอ” จองมินพูดแทรกระหว่างบทสนทนาของอีกคนที่กำลังลื้อฝืนความหลังกันอยู่
“ใช่แล้ว กวังมินที่ฉันเคยเล่าให้ฟังตอนที่มาฝรั่งเศสใหม่ๆไง”
“อ่อ..คนที่นายบอกว่าน่ารัก ร่าเริง อยู่ใกล้แล้วมีความสุขคนนั่นหน่ะนะ”
“เยส ไอมิสยูจริงๆ กวังมิน”
“มิสยูเหมือนกัน แหะๆ”
พออาจาร์ยเข้าห้องก็แยกย้ายไปนั่งที่ของตัวเอง วันนี้เรียนไม่หนักเพราะตารางเรียนยังไม่เข้าที่ เลยจะมีการเปลี่ยนใหม่เล็กน้อย
“กวังมิน กินข้าวกัน ป่ะ!” พอออดหมดเวลาเรียนครึ่งเช้า ฮยอนซองก็เดินตรงดิ่งมาหากวังมินทันที
“ไปๆ” กวังมินเดินตามไปอย่างว่าง่าย โดยลืมผมให้ยืนเก้อกับจองมินสองคน
“ฮยอนซองไม่เคยร่าเริงขนาดนี้เลยนะ..สงสัยกวังมินมีอะไรพิเศษแง่มๆ”
“ไม่มีอะไรหรอก จองมินอย่าคิดมาก ไปกินข้าวกัน” คงไม่มีอะไรหรอกหน่า ยองมินอย่าคิดมาก
“กวังมิน กินอันนี้ดูสิ อร่อยนะ” ฮยอนซองตักเนื้อบางอย่างป้อนอีกคน กวังมินก็อ้าปากงับช้อนและเคี้ยวตุ้ยๆ
“อื้ม!อร่อยมาก นี่ๆนายช่วยกินผักหน่อยสิ มันไม่อร่อยเลยอ่า..” กวังมินพูดพลางเขี้ยผักไปไว้ข้างๆ จะทิ้งก็เสียดายของ
“กวังมิน ตักมาป้อนหน่อยสิ เดี๋ยวกินให้ๆ” ฮยอนซองอ้าปากรออีกคน กวังมินก็ตักให้อย่างไม่รีรอ
“เอ่อ..ไอว่าหน่ะ เหมือนพวกเราไม่มีตัวตนเลยแหะ” จองมินพูดขึ้นในขณะที่ผมยังจ้องคนสองคนหยอกล้อเล่นกัน กวังมินยิ้ม หัวเราะให้อีกคน และดูเหมือนจะเป็นคนที่เข้าใจกัน ดูมีความสุขมากเวลาอยู่ด้วยกัน.. แล้วทำไมผมถึงได้แต่นั่งมองล่ะ ตรงนั้นมันต้องเป็นที่ของผมไม่ใช่หรอ
“จองมิน พาฉันไปทัวร์โรงเรียนหน่อยสิ”
“แล้วพวกเขาสองคนล่ะ”
“เดี๋ยวเพื่อนนายคงพาแฟนฉันไปเองแหละ” ผมพูดจบก็ลุกขึ้น ตามมาด้วยจองมิน แต่สองคนตรงหน้าก็ยังไม่รู้สึกตัว และหยอกล้อเล่นกันต่อ เสียงหัวเราะของกวังมินกับฮยอนซองดังตามหลังมา
เจ็บใจชะมัด..
“ยูหึงกวังมินใช่ไหมเนี่ย” จองมินเอ่ยถามผม เมื่อเราเดินชมโรงเรียนตามที่ผมขอไว้ แต่สมองผมมันไม่ได้ฟังที่จองมินพูดเลยสักนิด มัวแต่คิดว่าตอนนี้กวังมินจะทำอะไรกับหมอนั่นแล้วบ้าง ชิ!
“ยูไม่ต้งห่วงหรอก ฮยอนซองไม่ได้ชอบกวังมินหรอก”
“นายรู้ได้ไง” ผมถามออกไปอย่างไม่ลังเล
“เขาหน่ะ มีคนที่แอบชอบอยู่แล้ว ถึงมันจะนานมาก แต่ฉันก็เชื่อว่าหมอนั่นยังรักคนคนนั้นอยู่”
“คนคนนั้นอาจจะเป็นกวังมินก็ได้”
“ไม่ใช่หรอก เชื่อฉันสิ ฉันหน่ะรู้เกี่ยวกับหมอนั่นทุกเรื่องเลยน้า” จองมินอ้อมมายืนตรงหน้า และฉีกยิ้มให้อยางจริงใจ และยืนยันว่าไม่ได้โกหก
“แล้วเขาชอบใครล่ะ”
“รู้สึกจะเป็นคนที่อยู่โรงเรียนเดียวกับเขาตอนมอสามนั่นแหละ แต่ฉันไม่รู้ชื่อ..”
“อ่อ..”
“สบายใจได้เลย ไม่มีอะไรหรอก” จองมินเขย่งตัวมากอดคอผม ทำให้ผมต้องยิ้มน้อยๆให้อีกคน
“พี่ยองมิน!”
“หนีมากันสองคน แล้วให้ผมหา เหอะ ไปอยู่ด้วยกันเลยไป้!” พูดจบ กวังมินก็วิ่งหนีไป ปล่อยให้ยองมินยืนอึ้งอยู่
“ยองมิน ไปสิ กวังมินไปไกลแล้วนะ!” จองมินเรียกเตือนสติอีกคน ให้ออกแรงวิ่งตาม
“เฮ้ย เด็กบ้า รอฉันก่อนสิ!”
“จริงๆเลยนะ คู่นี้” – จองมิน
“หื้อ หมายความว่าไง” –ฮยอนซอง
“เป็นแฟนกันหน่ะสิ ถามได้” – จองมิน
“จริงเด้-0- มาย ก๊อดดด”
“กวังมิน”
“อย่าโกรธเลยน้า พี่แค่ให้จองมินพาเดินทัวร์โรงเรียนเฉยๆเอง”
“ทำไมพี่ยองมินไม่บอกอ่า ผมจะได้ไปด้วย” นี่ผมโกรธจริงๆนะเนี่ย กำลังจะหันไปคุยด้วย ก็ดันหายไปซะแล้ว พี่ยองมินนะพี่ยองมิน เพราะจองมินน่ารักใช่ไหมเนี่ย เชอะ!
“ก็เห็นนายคุยสนุกอยู่กับฮยอนซองนิ ใครจะไปรู้ว่านายอยากจะมากับพี่”
“นี่ พี่ยองมินงอนผมป่ะเนี่ย” เห็นท่าทางของพี่ยองมินนอยด์ๆ ผมก็รู้สึกผิดเลยแหะ ที่มัวแต่ไปคุยกับเพื่อนใหม่ และลืมพี่ยองมินไป
“พี่ไม่ได้งอนนาย แต่หึงครับ” ยองมินก้าวเข้ามาประจันหน้ากับอีกคนจังๆ และขยี้หัวจนยุ่งเหยิง ถึงจะน้อยใจที่กวังมินคุยกับเพื่อนจนลืมผม แต่พอเห็นหน้าตาขี้อ้อนน่ารักๆอย่างงี้ ผมเองก็โกรธไม่ลง
“ก็ไม่ได้เจอกันตั้งนานนิ่-3-”
“คุยได้พี่ไม่ว่าอะไรหรอก แต่ว่าอย่าลืมพี่สิ เหงาอ่ะ” ยองมินพูดจาอ้อนๆ เอาหน้าผากถูกับอีกคนอย่างเอ็นดู
“ทีหลังจะไม่ลืมแล้วคั่บ!”
“น่ารักมาก ขอจุ๊บที” ยองมินเอี้ยวตัวจะไปจุ๊บแก้มแฟนตัวเอง แต่เจ้าลูกลิงกลับไวกว่า หลบทันซะได้
“ฮ่าๆ คราวนี้พี่ยองมินไม่ได้แกล้งผมหรอก แน่จริงตามให้ทันเด้”
“เดี๋ยวเถอะ อย่าจับได้นะ นายเสร็จแน่!”
อ้าทวิทมี :
เรียกแฟนฟิคยังไงให้กลับมา
ฮรือออออออออ
ความคิดเห็น