ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : โจรทะเลทราย100%
ปารมีอาบน้ำชำระร่างกายด้วยความเรียบร้อย ความจริงหล่อนอยากจะอาบน้ำให้มากกว่านี้แต่ก็ไม่อยากจะให้ใครต้องมาคอยลำบากยกน้ำให้หล่อน เพราะหล่อนแน่ใจว่าระยะทางของบ่อน้ำ จะต้องอยู่ห่างไกลจากที่นี่ไม่น้อย เพราะหล่อนนั่งรอเกือบสองชั่วโมง กว่าจะได้อาบน้ำ ที่ทหารตักมาใส่ถังให้กับหล่อนจนเต็มตามคำสั่งของเจ้านาย ตลอดเวลาหล่อนนึกคิดหาทางออกให้กับชีวิตของตัวเอง หล่อนแน่ใจว่าหล่อนจะอยู่อย่างนี้เฉยๆไม่ได้ หล่อนจะต้องไปจากที่นี่ ตอนนี้หล่อนอยากหาทางหนีเขาไปให้ไกล เท่าที่หล่อนจะทำได้ เพราะหล่อนแน่ใจว่าชีคเฟอร์เรซทต้องการหล่อนเพื่อนเป็นนางบำเรออีกคน แต่อีกใจก็เป็นห่วงป้ากับลุง หล่อนนึกสับสนว่าตัวเองควรเดินไปทางไหนดี ก่อนที่จะตัดสินใจต่อสู้กับเขา หล่อนเชื่อว่าตอนนี้เขาคงไม่คิดจะฆ่าหล่อน เพราะยังไม่รู้สึกเบื่อ หล่อนอาจจะเป็นของเล่นชิ้นใหม่ของเขา เขาจึงช่วยเหลือและดูแลหล่อนเป็นอย่างดี
“เป็นไงเป็นกัน ปารมีสู้ๆ” หล่อนพูดกับตัวเองก่อนที่จะเดินเข้ากระโจมไปด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง แต่หล่อนต้องใจฝ่อ เมื่อพบว่าเขากำลังนั่งรอหล่อนอยู่บนเตียง
“มานั่งข้างๆข้าสิ”
“ท่านจะทำอะไรหรือเพคะ”
“ข้าบอกให้มานั่งก็นั่งเถอะ จะถามให้วุ่นวายทำไม”
“ถามก่อนสิ พ่อแม่ฉันสอนไม่ให้เชื่อคนอื่นง่ายๆ”
“ข้าเป็นคนอื่นอย่างนั้นหรอ” ดวงตาเจ้าเล่ห์ของเขามองหล่อนอย่างมีเลศนัย
“สำหรับหม่อมฉัน คิดว่าใช่ ท่านเป็นคนอื่น”
“แต่สำหรับข้าเจ้าคือเมีย”
“ฮึฮึ”
“เจ้าขำอะไร” น้ำเสียงไม่พอใจในท่าทางของหล่อน
“จะขำอะไรละเพคะ คนเป็นสามีภรรยาเขาไม่ข่มขืนกันหรอก สำหรับหม่อมฉันอย่างท่าน หม่อมฉันเรียกว่าโจร” ชีคเฟอร์เรซทลุกขึ้นนั่งตบโต๊ะที่วางข้างๆด้วยความโมโห มองปารมีด้วยสายตาเกรี้ยวกราดแต่หญิงสาวก็ไม่ได้รู้สึกกลัวเกรงสายตาของเขาอย่างน่าประหลดใจ หล่อนเคยกลัวผู้ชายคนนี้ แต่มาตอนนี้ไม่รู้ว่าอะไรทำให้หล่อนรู้สึกไม่กลัวเขาอีกต่อไป
“เจ้ากล้าพูดกับข้าอย่างนี้ อยากจะตายหรือไง”
“ตายได้ก็ดี อยู่ในประเทศที่ป่าเถื่อนอย่างนี้หม่อมฉันไม่อยากจะอยู่หรอกเพคะ”
“เจ้าพูดเองนะ”เขาเดินเข้ามาหาหล่อนเพียงสองก้าวก็ถึงตัวอย่างที่หล่อนไม่ได้ทันตั้งตัว เขาบีบไหล่เล็กๆของหล่อนอย่างจงใจให้หล่อนเจ็บ
“หม่อมฉันเจ็บนะ”
“ดีสิ จะได้รู้ว่าอย่าปากดีกับข้า เพราะที่นี่ไม่มีใครกล้าพูดเช่นนี้”
“คนบ้าอำนาจ ฉันเกลียดคุณ”
“เกลียดอย่างนั้นเหรอ” เขาขบกรามแน่นเป็นสันนูน ร่างสูงของเขาเหวี่ยงหล่อนลงไปกองที่พื้นอย่างลืมตัว
“ใช่หม่อมฉันเกลียด เกลียดมากด้วย เกลียดมากที่สุด”
“ดี ข้าชอบ เจ้าก็ลองนอนกับคนที่เกลียดสิ ว่ามันจะได้อารมณ์แค่ไหน ข้าจะทำให้เจ้าเรียกร้องหาข้าไม่เว้นวัน”จบคำพูดเขาก็อุ้มร่างบางของหล่อนที่กองกับพื้น ขึ้นไปโยนบนเตียงนอนโดยไม่สนใจว่าหล่อนจะดิ้นรนขนาดไหน
“ไม่นะ ท่านจะทำอย่างนี้ไม่ได้”
“ทำไมจะไม่ได้”
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย”ปารมีร้องเมื่อถูกเขากอดรัดไม่ยอมปล่อย
“จะร้องหาสวรรค์วิมานอะไร ร้องอย่างไรก็ไม่ใครมาช่วยเจ้าหรอก ลองใครเข้ามาสิ ข้าจะเอาให้ตาย”
“ปล่อยนะ ไอ้คนเลว ปล่อยนะ”
“ปากดีนักนะ”เขาประกบปากบางของหล่อนอย่างดุเดือด ไม่สนใจว่าหล่อนจะเจ็บปวดหรือรู้สึกอะไร เมื่อเห็นว่าหล่อนเริ่มอ่อนแรงลงเขาก็เริ่มจูบหล่อนอย่างอ่อนโยนตามไปด้วย สองมือก็คลึงเคล้าน่าอกของหล่อน อย่างเล้าอารมณ์ เมื่อเห็นว่าหล่อนอ่อนปวกเปียกเขายิ่งได้ใจ ปากหนาของเขาเลื่อนลงมาอยู่ที่ซอกคอของหล่อน และกำลังจะลงมาถึงกลางอกขาวเนียนของหญิงสาว แต่อยู่ๆอารมณ์ของเขาต้องแตกกระเจิงเมื่อถูกเรียวเข่างามของหล่อนกระแทกเข้าไปที่หว่างขาของเขาอย่างเต็มแรง และผลักร่างหนาของเขาที่ค่อมร่างหล่อนเอาไว้ออกอย่างง่ายได้ ก่อนที่หล่อนจะวิ่งออกไปอย่างไม่คิดชีวิต ทหารที่เฝ้าหน้ากระโจมก็คว้าหล่อนไม่ทันเพระไม่มีใครคิดว่าหล่อนจะวิ่งออกมาอย่างไม่คิดชีวิตอย่างนี้ ปารมีวิ่งหนีสุดชีวิตหล่อนไม่คิดจะหันหลังกลับไปมอง หล่อนเห็นพุ่มไม้เล็กก็แอบซ่อนตัวอยู่ในนั้น หล่อนมองดูทหารวิ่งเลยผ่านหล่อนออกไป หล่อนจึงแอบหนีย้อนกลับไปทางเดิม แต่ก็เจอกับชีคเฟอร์เรซทที่เพิ่งตามออกมา หล่อนก็วิ่งหนีเขาไม่ยอมให้เขาจับได้ หล่อนหนีจนสุดทาง เพราะทางข้างหน้าดันเป็นเขา ถึงแม้จะไม่ได้สูงมากมายอะไร แต่ก็ทำให้หล่อนหยุดชะงักได้
"อย่าเข้ามา อย่างนั้นหม่อมฉันกระโดดจริงๆด้วย”
"อย่าเข้ามา อย่างนั้นหม่อมฉันกระโดดจริงๆด้วย”
“เจ้ากล้าหรือ เขานั้นถึงไม่สูงมากแต่ก็ทำให้เจ้าเจ็บหรือตายได้เหมือนกันนะ”
ชีคเฟอร์เรซทไม่เชื่อว่าหล่อนจะกล้ากระโดดลงไป แต่เมื่อเขาก้าวเท้าเข้าหาหล่อน หล่อนก็กระโดดลงไป แต่ด้วยความที่เขาเร็วกว่าจึงคว้าร่างบางของหล่อนเอาไว้ แต่ก็ทำให้หล่อนและเขากลิ้งตกเขาไปพร้อมๆกัน ชีคเฟอร์เรซทมีสติมากกว่า เขากอดรัดร่างบางไว้แน่น เพื่อหวังจะปกป้องไม่ให้หล่อนต้องบาดเจ็บ ทั้งสองกลิ้งลงไปด้วยความชันของภูเขาทราย ด้วยความกลัวทำให้ปารมีกอดรัดเขาเอาไว้แน่นเช่นกัน ใบหน้าซุกเข้าไปที่อกหน้าของเขาอย่าหาพิ้งพิง
เมื่อร่างทั้งสองหยุดนิ่ง ไม่มีการเคลื่อนไหว ปารมีค่อยๆลืมตาขึ้นก็เห็นว่าตัวเองนอนทับร่างหนาของเขา หล่อนค่อยๆลุกขึ้้นมาอย่างช้าๆ มองเขาที่หมดสติแนบนิ่งอยู่กับพื้นทราย
"ท่านชีค ท่าน" ปารมีเขย่าตัวเขาอย่างไรเขาก็ไม่ตื่น
"หรือว่าจะตาย แต่ก็ยังมีลมหายใจอยู่ เราจะทำอย่างไรกับเขาดีล่ะ"หล่อนคิดกับตัวเอง หล่อนควรปล่อยเขาไว้นี้ แล้วหนีไปไกลหรือเปล่า หรือว่าจะรอให้เขาตื่น แต่ถ้าหากเขาตื่นนั้นก็หมายถึงโอกาสที่หล่อนจะหนีไปได้ก็หมดลง ปารมีตัดสินใจทิ้งเขาไว้ หล่อนเลือกที่จะหนี คนเลวอย่างเขาปล่อยให้ตายเสียก็ดี
.....................
เมื่อร่างทั้งสองหยุดนิ่ง ไม่มีการเคลื่อนไหว ปารมีค่อยๆลืมตาขึ้นก็เห็นว่าตัวเองนอนทับร่างหนาของเขา หล่อนค่อยๆลุกขึ้้นมาอย่างช้าๆ มองเขาที่หมดสติแนบนิ่งอยู่กับพื้นทราย
"ท่านชีค ท่าน" ปารมีเขย่าตัวเขาอย่างไรเขาก็ไม่ตื่น
"หรือว่าจะตาย แต่ก็ยังมีลมหายใจอยู่ เราจะทำอย่างไรกับเขาดีล่ะ"หล่อนคิดกับตัวเอง หล่อนควรปล่อยเขาไว้นี้ แล้วหนีไปไกลหรือเปล่า หรือว่าจะรอให้เขาตื่น แต่ถ้าหากเขาตื่นนั้นก็หมายถึงโอกาสที่หล่อนจะหนีไปได้ก็หมดลง ปารมีตัดสินใจทิ้งเขาไว้ หล่อนเลือกที่จะหนี คนเลวอย่างเขาปล่อยให้ตายเสียก็ดี
.....................
ปารมีเดินหน้าต่อไปอย่างไร้จุดหมาย หล่อนไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องไปทางไหน ขอแค่เพียงให้หลุดพ้นจากผู้ชายคนนั้นก็พอ ความมืดทำให้หญิงสาวเริ่มหวาดกลัว ขาทั้งสองข้างเริ่มอ่อนแรงลงอย่างช้าๆและหล่อนต้องหยุดเดินเมื่อหล่อนพบกับคนกลุ่มหนึ่ง ผู้ชายร่างใหญ่สามคนกับผู้หญิงอีกห้าคน จากที่หล่อนดูผู้หญิงเหล่านั้นล้วนเป็นเด็กสาวต้นๆ ทุกคนถูกมัดมือกันราวกับเป็นสัตว์ไม่ใช่คน ผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนอูฐและอีกสองคนถือแส้คนล่ะอันเดินคุมเด็กสาว ปารมีหมุนตัวกลับเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองก็ถูกจ้องมองจากอีกฝากหนึ่งเหมือนกัน และไม่ถึงห้าวินาที ผู้ชายที่นั่งบนอูฐก็กระโดดลงมาด้วยความไว้ วิ่งตามหล่อนที่วิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วหล่อนถูกมันจับตัวเอามาร่วมกับเด็กสาวทั้งห้าคน พวกมันหัวเราะและพอใจที่ได้สิ้นค้าเพิ่มมาอีกหนึ่งคนอย่างไม่ขาดคิด และเป็นสินค้าที่ล้ำค้าที่สุดเท่าที่มันหามาได้ ปารมีและเด็กสาวทั้งห้าหยุดพักเมื่อพวกมันตัดสิ้นใจกันที่จะพักค้างคืนกันตรงนี้ ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้า ที่นั่งอยู่บนอูฐเดินตรงเข้ามาหาปารมีด้วยแววตามีความหมาย
“อย่าเข้ามานะ” แต่ดูเหมือนพวกมันจะไม่เข้าใจในสิ่งที่หล่อนพูด ปารมีดิ้นรนขัดขืนมันอย่างสุดกำลัง หล่อนไม่อยากให้พวกมันต้องมาถูกเนื้อตัวหล่อน หล่อนรู้สึกทั้งขยะแขยงและรังเกียจ ลูกน้องมันเห็นหล่อนต่อสู้และไม่ยอมง่ายจึงเงื้อแส้ฝาดหล่อนเต็มเล็ก หางแส้ตวัดเข้าโดนเข้าที่หน้าหญิงสาว เป็นแนวยาวของหางแส้ที่ข้างแก้มใส มันแดงขึ้นเป็นนูนอย่างเห็นได้ชัด
“อย่า เจ้าทำอะไรของเจ้า ไม่รู้หรือไง ว่าข้าจะเอานางคนนี้ไปให้ท่านเอล”
“แต่นางคนนี้มัน ไม่ยอม ต้องสั่งสอนนะเจ้านาย”
“เจ้าแหกตาดูสิว่าเจ้าทำอะไรลงไป สิ้นค้าเป็นตำหนิ ถ้าข้าได้ราคาไม่ดีข้าจะคิดกลับเจ้า” คนเป็นนายพูดอย่างโมโหก่อนที่จะจับหล่อนมัดรวมกับเด็กสาวอีกครั้ง
ปารมีนอนไม่หลับ เมื่อนึกถึงความซวยของตัวเองที่ต้องมาเจอเรื่องบ้าๆอย่างนี้ ความเงียบมีแต่เสียงลมแผ่วเบาแต่หล่อนกับได้ยิน
“ต้องหนีสิ ปารมี เธอต้องหนีจะยอมง่ายอย่างง่ายๆไม่ได้นะ”ปารมีบอกกับตัวเองเมื่อมองไปรอบข้างมีแต่คนหลับเมื่อค่ำๆหล่อนเห็นพวกมันดื่มเหล้าก็คงเมากันถึงได้หลับกันเป็นตายอย่างนี้
ปารมีชวนเด็กสาวหนีแต่ก็มีใครกล้าหนีไปกับหล่อนด้วยเพราะกลัวพวกมันกลับไปฆ่าพ่อแม่ ทุกคนรู้ดีว่าถ้าพวกพ่อค้าทาสซื้อตัวมาแล้วหากมีการหนีคนที่รับผิดชอบคือคนขายซึ่งก็เป็นพ่อแม่นั้นเอง ทุกคนจึงไม่กล้าหนี ทำได้แต่ช่วยกันแกะเชือกที่มัดมือและเท้าของหล่อน
“ขอบใจนะ ฉันจะไม่ลืมบุญคุณพวกเธอเลย”ปารมีพูดเป็นภาษาอาหรับ ก่อนที่จะวิ่งไปหายไปกับความมืด แต่ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้างหล่อนเมื่อพ่อค้าทาสคนหนึ่งตื่นขึ้นมาเห็นเสียก่อนจึงวิ่งตามหล่อนไปอย่างรวดเร็ว สุดท้ายหล่อนก็ถูกจับกลับมาด้วยสภาพที่ถูกเฆี่ยนตีไปทั้งตัว ผิวบางละเอียดของหญิงสาวไม่เหลือที่ดี มีแต่รอยแผลเลือดซิบที่ถูกเฆี่ยนตีนับเป็นสิบๆแผล หล่อนถูกโยนมากองไว้ที่เดิมกับเด็กสาวทั้งห้าคน
“จำเอาไว้ แล้วอย่าคิดหนีอีก ไม่อย่างนั้น ข้าจะเฆี่ยนเจ้าให้ตาย อย่าคิดว่าข้าไม่กล้าทำอะไรเจ้า” หัวหน้าทาสคำรามใส่อย่างเดือดดาน
ปารมีนอนไม่หลับเพราะอาการเจ็บแผลจากที่ถูกพวกมันเฆี่ยนตีเอาอย่างทารุณ แสงอาทิตย์ส่องพร้อมกับเสียงเรียกให้พวกหล่อนตื่นนอน และถูกบังคับให้เดินทางต่ออย่างไม่สนใจว่าพวกหล่อนจะหิวโหยกันสักเพียงไหน แต่พวกมันกับมีของกินกันอย่างสมบูรณ์
“พี่สาวทนได้ไหม”หล่อนไม่ตอบได้เพียงแต่พยักหน้าให้รู้เท่านั้นว่าหล่อนยังไหว
“พี่ น่าจะเชื่อข้า ว่าพวกนี้มันโหดเหี้ยมผิดมนุษย์”
“ฉันรู้แล้ว ว่าที่นี่มันมีแต่พวกปีศาจทั้งนั้น”หล่อนพูดทั้งที่ขาทั้งสองข้างของหล่อนเริ่มหมดแรง แสงแดดที่แผดเผาก็ยิ่งทำให้ดวงตาของหล่อนพร่ามั่ว หล่อนเดินทางต่อไปอีกไม่กี่ก้าวก็ทรุดลงกับพื้นอย่างหมดแรง
“ลุก เจ้าอย่ามาทำสำออย ถ้าไม่อยากเจ็บตัว”คนหนึ่งในสามเข้ามากระชากหล่อนให้ลุกขึ้นมาแต่ตอนนี้หล่อนไม่ไหวจริงๆเรี่ยวแรงไม่เหลือพอที่จะยืนขึ้นด้วยซ้ำ
“ขอพักก่อนเถอะฉันไม่ไหวแล้ว”
“อ้าวเจ้าพูดภาษาข้าได้”มันพูดออกมาอย่างรู้สึกยินดี
“ฉันไม่ไหวแล้วจริงๆ ฉันเพิ่งหายป่วยก่อนที่จะถูกพวกแกจับมา”
“ข้าไม่สน เจ้าต้องลุกเดี๋ยวนี้ เวลาที่พักก็คือเวลาที่เจ้าหนีไปเมื่อคืน”
“แต่ฉันไม่ไหว”
“ไม่ไหวอย่างนั้นหรือ”มันพูดพร้อมกับดึงแส้ออกมา
“อย่าตีฉันเลย ฉันลุกแล้วก็ได้”ปารมีพยายามลุกแต่ก็ล้มลงอีกอย่างหมดแรง
“สำออยนัก”มันเงื้อแส้ขึ้นเต็มแรงหมายจะตีร่างบางที่นอนกองอยู่กับทรายแต่ต้องหยุดเมื่อเสียงม้าตรงเข้ามาทางมัน ไม่นานพวกมันก็เห็น ชีคเฟอร์เรซทกับทหารอีกสองคนควบม้าตรงมาที่พวกมันอย่างรวดเร็ว
การต่อสู้เกิดขึ้นในทันที ที่ชีคเฟอร์เรซทเห็นสภาพของปารมีที่นอนหมดแรงและเจ็บปวด น้ำตาที่ไหลทั้งสองข้างของหล่อนไม่รู้ทำไมถึงทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดได้มากขนาดนี้ ต่อสู้ไม่นานพวกพ่อค้าทาสก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับพวกทหาร
“พวกแกรู้ไหม ว่าปล้นทาสกันอย่างนี้มันผิดกฎหมาย”
“แล้วกฎหมายมีให้เจ้า ทำทารุณกับทาสขนาดนี้เลยหรือ”น้ำเสียงทรงอำนาจของเขาทำให้พ่อค้าทาสและลูกน้องรู้สึกกลัวรนรานอย่างบอกไม่ถูก
“โปรดเถอะ ท่าน พวก ท่านจะต้องการอะไรก็เอาเถอะ แต่อย่าฆ่าพวกข้าเลย”พ่อค้าทาสพูดขึ้นเมื่อปืนสั้นจี้เข้าที่หัวของมันแค่คืบ
“แล้วเจ้าคิดว่าพวกข้าต้องการอะไร”
“ทาสไง สาวๆพวกนี้ ท่านอยากได้ก็เอาไป เอาไป ให้หมด แต่ปล่อยข้าไป”
“ง่ายอย่างนั้นเชียวหรือ กับการที่พวกเจ้ากล้าทำร้ายผู้หญิงของข้า”
“ใครกัน อย่าบอกนะว่านางผู้หญิงไทยคนนี้”
“ใช่ แล้วพวกเจ้าควรรู้การที่ทำร้ายผู้หญิงของเฟอร์เรซทมันจะเป็นอย่างไร”
“ทะ ท่าน ท่าน คือ ท่านชีคเฟอร์เรซทหรือ”
“แล้วเจ้ากำลังคิดว่าข้าเป็นใครอย่างนั้นหรือ”
“ขอภัยด้วยเถิด ท่านชีค”
“เจ้าก็น่าจะรู้ว่าคนอย่างข้าไม่คิดอภัยให้ใคร” เสียงปืนดังขึ้นสามนัดพร้อมกับร่างที่ไร้วิญญาณ ปารมีที่มองดูอยู่อย่างหวาดผวาหล่อนไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจดีที่เขามาช่วยหล่อน นี่เป็นครั้งแรกที่สองที่หล่อนเห็นคนตายไปต่อหน้า สาเหตุยังเกิดมาจากหล่อนเสียด้วย ถึงแม้ว่าพวกนั้นจะทำกับหล่อนอย่างเลวร้ายแต่ก็ไม่น่าถึงขั้นต้องฆ่ากัน หล่อนช็อกหมดสติไปด้วยความกลัว เขาเดินเข้ามาช้อนร่างที่หมดสติของหล่อนขึ้นหลังม้าไปอย่างสงสาร
ปารมีฟื้นขึ้นมา หล่อนรู้สึกเจ็บตามเนื้อตัวไปหมด ก็คงเกิดจากรอยแผลที่ถูกเฆี่ยน หล่อนคิดได้ว่าที่ประเทศนี้ไม่มีที่สำหรับหล่อน หากหล่อนหนีไปก็คงต้องถูกจับไปขายไปเป็นเหมือนกับเด็กผู้หญิงพวกนั้น หรือว่าหล่อนจะต้องอยู่กับเขาไปจนกว่าเขาจะเบื่อและฆ่าหล่อนเหมือนกับกับผู้หญิงของเขาคนอื่นๆ ปารมีคิดอย่างท้อแท้รู้สึกหนทางชีวิตของหล่อนชั่งอยากลำบากเหลือเกิน
“ตื่นแล้วหรือ คราวนี้คงรู้แล้วใช่ไหมว่าถ้าเจ้าอยู่ห่างข้าแล้วเจ้าจะลำบากแค่ไหน”
“รู้สิ รู้ดีเสียด้วย ว่าหม่อมฉันโชคร้ายขนาดไหนที่มาอยู่ที่นี่ ที่ประเทศของท่าน”
“เจ้านี่เป็นอย่างไรกัน ถนอมตัวให้ดีเสียก่อนค่อยปากดีกับข้า”
“ท่านคะ แล้วเด็กผู้หญิงพวกนั้น”
“ทำไม”
“หม่อมฉัน อยากจะให้ท่านช่วยด้วย”
“แล้วทำไม ข้าต้องช่วย พวกนางเป็นทาสที่ถูกซื้อมา แต่พ่อค้าตายเสียก่อนก็ต้องเอาตัวไปไว้ที่โรงทาส”
“เป็นอย่างไรหรือเพคะ โลงทาส”
“ก็เป็นสถานที่ ส่งตัวทาสที่ไม่มีเจ้าของ ที่หนีออกมา ไปอยู่รวมตัวกันนะสิ”
“แล้วอยู่ทำอะไร”
“ก็ทำงาน ทำทุกอย่าง”
“หม่อมฉันจะไม่หนีแล้วเพคะ อย่างไรเสียก็ต้องเป็นนางบำเรอของท่านอยู่ดี”
“รู้ตัวก็ดีแล้ว ถึงเจ้าหนีอย่างไรก็หนีข้าไม่พ้น”
“หม่อมฉันอยากจะขออะไรท่าน จะได้ไหม”
“ว่ามาสิ”
“หม่อมฉันอยากให้ท่านส่งเด็กพวกนั้นไปคืนกลับพ่อแม่ของเขา”
“ไม่ได้หรอก ข้าไม่คืน ในเมื่อคนเป็นพ่อแม่ขายลูกแล้วก็ต้องขายขาด”เขาพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
“ท่านนี่มันใจร้ายที่สุดเท่าที่หม่อมฉันเคยเห็นมา”
“เจ้าเริ่มรู้จักตัวตนข้ามากขึ้นแล้ว สำหรับข้า ไม่มีคำว่าต่อลอง ตัวของเจ้าต้องเป็นของข้าอยู่แล้ว ต่อให้เจ้าหนีไป ข้าก็ต้องตามตัวเจ้ากลับมาอยู่ดี เจ้าไม่ต้องกลัว มันจะต้องมีสักวันหนึ่ง ที่ข้าจะเป็นฝ่ายให้เจ้าไปเอง”
.................................................
จบตอนแล้วนะคะ ตอนต่อไปเตรียมพบกับเขาคนนี้ คู่อคิตัวสำคัญของชีเฟอร์เรซท
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น