ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : สงครามผู้หญิง 100%
มาร์ตินนางในคนหนึ่งที่หล่อนค่อนข้างจะสนิทและถูกชะตามากกว่าใครทั้งหมด อาจเป็นเพราะความวุ่นวายของหล่อนเองจึงทำให้หล่อนได้รู้จัก
กับมาร์ตินและได้เป็นเพื่อนกัน ถ้าหล่อนไม่ได้เข้าไปช่วยมาร์ตินจากเหตุการณ์ที่ถูกพวกนางในพวกนั้นกลั้นแกล้ง หล่อนก็คงไม่ได้รู้จักมาร์ตินเป็นแน่ มาร์ตินเป็นคนน่ารัก โอนโยนและมีนิสัยที่น่าคบหามากคนหนึ่ง มาร์ตินเป็นคนสวย หน้าตาดีมาก หล่อนคิดว่าอาจเป็นเพราะความสวยของหล่อน ที่ทำให้พวกผู้หญิงเล่านั้นชอบกลั่นแกล้ง
“มาร์ติน ฉันเบื่อจริงๆ ไม่อยากอยู่อย่างนี้เลย ไม่มีอะไรจะทำ”
“เบื่ออะไร บาร์บาร่า”
“อีกแล้ว เรียกบาร์บาร่า ทำไม ฉันไม่ชอบเลย”
“ไม่ชอบ ก็ต้องชอบ จะได้เคยชิน เพราะชื่อภาษาไทยของเจ้านะเรียกยากจะตาย บาร์บาร่านี่แหละ เหมาะสำหรับเจ้าดีแล้ว ถ้าวันหนึ่งท่านชีคท่านทรงเรียกเจ้าเข้าเฝ้าจะได้เรียกชื่อเจ้าได้ง่าย”
“ไม่มีวันเสียหรอก ฉันบอกเธอเป็นร้อยรอบแล้วนะ ว่าฉันจะไม่มีวันถวายตัวให้กับเขาเป็นเด็ดขาด”
“เอะ พูดอะไร บอกไม่เคยจำเลยนะ เรียกท่านอย่างนั้นได้อย่างไร กัน ถ้าใครมาได้ยินเข้ามีหวังเธอต้องถูกลงโทษแน่ๆ”
“ไม่เห็นจะกลัว”
“บาร์บาร่าข้าขอเตือนเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ข้าไม่รู้ว่าเมืองไทยเจ้ามีสิทธิขนาดไหน แต่ที่นี้ คนเดียวที่สั่งเป็นและสั่งตายใครก็ได้ในประเทศนี้ก็คือ ท่านชีคฟอร์เรซท” มาร์ตินพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“ไม่เอาน่ามาร์ตินเรื่องแค่นี้เอง ฉันก็กล้าพูดกับมาร์ตินนะแหละ”
“แต่ฉันไม่ชอบเลยนะ ที่เจ้าชอบพูดอย่างนี้”
“ใช่สิ ท่านชีคเป็นสามีของเธอนิ”
“ท่านก็เป็นของเจ้าเหมือนกัน”
“ไม่ ไม่เป็น ฉันจะไม่ยอมเข้าเฝ้าถวายตัวเด็ดขาด อยู่อย่างนี้ก็ดีอยู่แล้ว”
“ไม่หลอก ฉันเชื่อถ้าท่านทรงได้เห็นเจ้า รับรองว่าท่านจะต้องเรียกเจ้าเข้าถวายงานอย่างแน่นอน จริงนะ เจ้าไม่รู้หรือว่าเจ้านะ เป็นคนสวย และก็สวยมากด้วย”
“ฉันเนี่ยนะสวย ผู้หญิงที่นี่สวยๆทั้งนั้น โดยเฉพราะคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉัน”
“จริงๆเลยเจ้านี่ บาร์บาร่า แค่เวลาที่เจ้ายิ้มและทำตาเจ้าเลห์อย่างนี้ ข้ารับลอง ถ้าเมื่อใดที่ท่านชีคเห็นก็คงหลงใหลอย่างแน่นอน”
“ถ้าเป็นเพราะดวงตาของฉัน ฉันจะควักมันทิ้งเสีย รอยยิ้มคงไม่มีให้สำหรับคนใจร้ายนั้น” ปารมีเอ่ยออกมาอย่างขำขันหล่อนไม่เคยคิดว่าตัวเองจะสวยถึงขนาดให้ใครมาหลงใหล แต่เป็นปกติที่มีหนุ่มเหลียวมองหล่อนเมื่อหล่อนพบเจอแต่ก็ไม่เคยมีใครเข้าจีบหล่อนจริงจังเสียที
“ไม่อยากพูดด้วยและ พูดไปก็เถียงสู้เจ้าไม่ได้เสียที”
“ไม่ใช่เพราะอยากจะรีบกลับไปแต่งองค์ทรงเครื่องรอใครบางคนหรือไง”
“บ้าจริง เจ้านิ”มาร์ตินพูดออกมาอย่างเขินอายก่อนที่จะกลับไป
ที่ตำหนักของเฮเลน
“ท่านโมยา ท่านทำอย่างนี้หมายความว่าอย่างไง”
“หม่อมฉันทำอะไรหรือเพคะ ท่านนางเฮเลน”
“ท่านอย่าทำเป็นไม่รู้เรื่อง ท่านชีคไปตำหนักของ นางมาร์ติน นางให้สินบนท่านเท่าไรกันเล่า ท่านถึงได้จัดให้ท่านชีคทรงไปพักผ่อนที่นั้น”
“หาไม่ได้เพคะ หม่อมฉันไม่ได้จัดตารางเช่นนี้ เพียงแต่ ท่านชีคทรงเลือกด้วยตนเอง ที่จะไปตำหนักของ ท่านนางมาร์ติน”
“ไม่จริง ท่านชีค จะต้อง ต้องการข้าเพียงคนเดียวเท่านั้น กี่ปีแล้ว ใครๆก็รู้ว่า ข้าเป็นคนโปรดของพระองค์”
“แต่ตอนนี้ ท่านชีค ก็ทรงโปรด ท่านนางมาร์ตินด้วยเช่นกัน ไม่เช่นนั้นจะเสด็จไปหานางเกือบทุกคืนหรือเพคะ”
“ท่านพูดอย่างนี้ แสดงว่าข้าควรทำอะไรบางอย่างแล้วสินะ”
“แล้วแต่ ท่านนางจะเห็นควร หม่อมฉันเป็นเพียงข้ารับใช้ มิอาจขัดใจผู้เป็นนายได้แม้แต่คนเดียว” นางกำนัลโมยาพูดก่อนที่จะถอยหลังออกไปอย่างสงบนิ่ง
ตำหนักมาร์ติน
บนเตียงนอนชีคเจ้าแห่งแผ่นดินตูนาเซียนอนกอดกายกับนางมาร์ติน
อย่างมีความสุข
“ท่านชีคเพคะ ท่านทำให้หม่อมฉันมีความสุขมากเหลือเกิน”
“เจ้าก็ทำให้ข้ามีความสุขเช่นกัน มาร์ติน เจ้ารู้ตัวบ้างไหม ว่าเจ้านะ น่ารัก”
“จริงหรือเพคะ”
“ข้าจำเป็นต้องโกหกเจ้าด้วยหรือไง”
“ไม่เพคะท่านไม่จำเป็นต้องโกหกเลยเพคะ”
“ทุกคนคงอิจฉาเจ้า ที่พักนี้ข้ามาหาแต่เจ้า”
“เป็นบุญของหม่อมฉันเพคะ แต่ก็ยังมีคนหนึ่งนะเพคะที่ไม่อิจฉาหม่อมฉัน
“มีด้วยหรือ มีสิเพคะ นางไม่แม้แต่จะอิจฉานะเพคะ แต่นางยังไม่ต้องการถวายตัวให้แกพระองค์ด้วยนะเพคะ”
ชีคฟอร์เร็ซทลุกขึ้นหลังพิงหมอนอย่างอยากสนใจ
“ใครกัน”
“ถ้าหม่อมฉันบอกพระองค์ พระองค์จะต้องไม่โกรธเธอนะเพคะ”ชีคฟอร์เรซทเพียงพยักหน้าเท่านั้น
“นางอยู่ตำหนักขาวเพคะ”
“ตำหนักขาวหรือ ใช่สิ เมื่อห้าเดือนก่อน ฉันให้คนไปรับนางที่สนามบิน”
“เพคะ”
“แต่ข้ารู้สึกว่า ข้าไม่เคยได้เห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นเลย”
“นางสวยนะเพคะ น่ารักมาก และยังนิสัยดีอีกด้วย”
“อะไรกัน เจ้าไม่รักข้าบ้างหรือไง ถึงได้พยายามพูดถึงผู้หญิงคนอื่นให้ข้า”
“เปล่านะเพคะ หม่อมฉันรักพระองค์มากกว่าสิ่งใด ที่พูดถึงบาร์บาร่าก็เพราะนางเป็นผู้หญิงที่น่ารักมากนะเพคะ นางสิสัยดี และก็ดีกับหม่อมฉัน หม่อมฉันเพียงแต่อยากให้นางได้ ถวายงานท่านเท่านั้น”
“ช่างเถอะ อย่าพูดถึงคนอื่นเลย”และอีกอย่างเจ้าก็รู้ว่าข้าต้องการปิดตำหนักขาวนั้น
ชีคฟอร์เรซทเมื่อสำเร็จความต้องการแล้วก็เดินทางกับตำหนักของตัวเอง ก่อนรุ่งสางจะเป็นปกติทุกครั้งเขาไม่เคยค้างที่ตำหนักไหนๆเลยแม้แต่ครั้งเดียวเป็นเพราะเขาไม่เคยไว้ใจใคร เพราะชีวิตของเขาก็เหมือนแขวนอยู่บนเส้นได้ มีใครหลายคนหมายจะเอาชีวิตเขาเช่นกัน
ที่สวนดอกไม้ นางเฮเลนเห็น มาร์ตินกับปารมีเดินเล่นกันอย่างเพลิดเพลิน นางจงใจที่จะเข้ามาหาเรื่องโดยเฉพาะ
“สวัสดีเพคะ ท่านนางเฮเลน”สองสาวคำนับเป็นการนอบนอมแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยินดีอะไร
“เมื่อคืน ท่านชีคเสด็จไปหา เจ้าอย่างนั้นหรือ”
“ใช่เพคะ” มาร์ตินตอบรับอย่างนอบน้อม
“มาร์ติน เจ้ากล้าใช้สายตาถากถางข้าอย่างนั้นหรือ”
“เปล่านะเพคะ ท่านนาง หม่อมฉันเปล่า”
“โกหก เจ้านี้มันตอแหลสินดีเจ้าคิดว่าท่านชีคหลงเจ้าแล้วเจ้าจะแข็งขืนกับข้าอย่างนั้นหรือ”
“เปล่านะเพคะ”
“เพี้ย”
หน้ามาร์ตินหันตามแรงมือของเฮเลนอย่างแรง เฮเลนจะตบซ้ำครั้งที่สอง แต่กับถูกปารมียึดแขนเอาไว้อย่างเน้น
“เจ้า กล้าดีอย่างไงทำกับข้าอย่างนี้ นางบาร์บาร่าเจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใคร”
“รู้สิ เธอก็เป็นนางบำเรอชีคเหมือนกับพวกเราทุกคนนั้นแหละ”
เฮเลนโกรธจนตัวสั่นเพราะหล่อนไม่คิดว่าจะมีใครที่นี่ กล้าต่อปากต่อคำกับหล่อน
“ตายแล้ว นางคนไทยคนนี้มันเป็นใครกล้าแสดงกริยาเช่นนี้กับ ท่านนางเฮเลน ท่านนางมันพูดว่าอย่างไรหรือเพคะ บอกหม่อมฉันหน่อย” นางกำนัลส่วนตัวของนางเฮเลนเอ่ยออกมาอย่างเอาเรื่อง เมื่อเห็นสีหน้านายของตนเองไม่ค่อยดีนัก
“ไม่ต้องสนใจ ว่านางคนนี้จะว่าอย่างไร พวกเจ้าไปลากคอมันมาสั่งสอนได้เลย” สิ้นเสียงเฮเลน นางกำนัลที่ตามมาสองคนก็เข้าไปจัดการกับปารมี แต่ก็ถูกปารมีซัดกลับกันไปอย่างไม่หวั่นเกรง
“แก กล้าลงมือกับคนของข้าอย่างนั้นหรือ”เฮเลนตะคอกกลับอย่างโมโหเฮเลนตรงเข้าหมายจะลงมือด้วยตัวเอง แต่มาร์ตินก็คุกเขาลงต่อหน้าอย่างขอร้อง
“ขออภัยเถอะ ท่านนางเฮเลน นางสนมคนนี้เพิ่งจะมาอยู่ใหม่ คงไม่รู้ว่าอะไรสูงอะไรต่ำ โปรดเถอะ ยกโทษให้นางด้วย” มาร์ตินก้มลงขอร้องนางเฮเลนอย่างหวาดกลัว
“มาร์ตินข้าจะเห็นแกเจ้า ถ้าเจ้ายอมกราบที่เท้าข้า” ปารมีจะไม่ยอมแต่ก็ถูกมาร์ตินห้ามปรามเอาไว้ มาร์ตินก้มลงกราบเฮเลนอย่างโน้บน้อม
“ชั่งเถอะ ข้าจะเห็นแกเจ้าสักครั้ง และเจ้าควรบอก นางคนไทยคนนี้ด้วย ว่าข้าเป็นใคร”
เฮเลนพูดจบก็เดินออกไปอย่างซ่ะใจ ถึงแม้จะขัดเคืองใจต่อปารมีไม่น้อยแต่ก็ยังรู้สึกดีที่ทำให้มาร์ตินก้มหัวให้แก่หล่อนได้
มาร์ตินพาปารมีเข้ามาคุยกันที่ตำหนักของตัวเอง
“นี่มันอะไรกัน มาร์ติน ฉันงงไปหมดแล้ว ทำไม เธอต้องไปยอมนางผู้หญิงคนนั้น เขาหาเรื่องเราก่อนแท้ๆ”
“ชั่งเถอะ ข้าจะขอบอกเจ้า ให้รู้ว่านางเฮเลน ไม่ใช่คนที่เจ้าหรือนางในฮาเร็มทุกคนจะต่อกรได้”
“ทำไม เขาหาเรื่องเราแท้ๆนะ”
“จะอย่างนั้นก็แล้วแต่ แต่เจ้าจงจำเอาไว้ เจ้าควรหลบหลีกนาง”
“ผู้หญิงคนนี้ใหญ่โตมาจากไหน”
“นางเป็นลูกสาวของ ท่านอาลี ซึ่งเป็นน้องชายของ ท่านฮารีฟ่า ซึ่งเป็นพระมเหศีองค์แรกของท่าน ราชิด ก็คือ ภรรยาของท่านปู่ของท่านฟอร์เรซทนะแหละ”
“งง เอาเป็นว่า ทุกคนกลัวผู้หญิงคนนั้นกันหมด ทำไมต้องกลัว
มาร์ตินเองก็เป็นคนโปรดของเขาเหมือนกัน”
มาร์ตินเองก็เป็นคนโปรดของเขาเหมือนกัน”
“ไม่เหมือนหลอก อย่างไรข้าก็สู้นางไม่ได้ และ ก็ไม่มีวันสู้ได้”
มาร์ตินพูดก่อนที่แยกกับตำหนักของตัวเอง
มาร์ตินพูดก่อนที่แยกกับตำหนักของตัวเอง
ปารมีเริ่มรู้สึกเบื่อนายชีวิตแบบที่หล่อนต้องเผชิญอยู่ตอนนี้จริงๆ หล่อนเกลียดเขา หล่อนเกลียดผู้ชายคนนี้มากที่สุด ทำไมเขาต้องทำให้ชีวิตของหล่อนมันวุ่นวายมากมายขนาดนี้ ผู้หญิงในนี้เป็นอะไรกันไปหมด ทำอย่างกับต้องมนต์ของเขาก็ไม่ปาน หล่อนจะไม่มีวันให้เขา เข้ามามีอำนาจในหัวใจหล่อนเด็ดขาด หล่อนสังเกตเห็นว่าที่นี้ไม่ได้มีการตรวจตราที่เข้มงวดมากนัก ทางผ่านประตูออกไปก็ดูไม่อยากจากที่หล่อนสักเกตุเห็นนางกำนัลหลายคนที่ยื่นสินบนให้กับทหารก็จะผ่านไปได้กันอย่างงานได้ หล่อนรู้มาว่าส่วนมากพวกที่ออกไปก็จะไปหาซื้อผ้าสวยๆเครื่องหอมเพื่อมาให้นายของตัวเองเพื่อดึงดูดท่านชีคนั้นเอง ไปๆมาๆผู้หญิงพวกนี้ก็ทำเพื่อผู้ชายคนนั้นอยู่ดี
.........................
.........................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น