ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    L.O.V.E คำว่า 'รัก' สะกด อย่างนี้ ใช่มั้ย!!

    ลำดับตอนที่ #8 : โอ้..!! นี่แหละที่เรียกว่า....

    • อัปเดตล่าสุด 20 เม.ย. 54


    8
    โอ้..!!นี่แหละที่เรียกว่า.....
       “ทางนี้”
    เมสเสจกวักมือเรียกฉันแล้วส่งกระดาษกิจกรรม
       “ฉันว่าล่องแก่งมหาสยองเป็นไง”
       “ความคิดเยี่ยม”
       “ทางนั่นไง”
    [10นาทีผ่านไป]
       ตอนนี้ฉันรอคิวล่องแก่งอยู่นะ เหลืออีกประมาณ4คนก็จะตาเราแล้ว มันไปได้ที่ล่ะ2คน แน่นอนว่าที่นั่งมันเป็นอะไรที่ลงทุนมากๆๆๆๆมันไม่ใช่ล่องแก่งทั่วไป แต่มันเป็นแบบเรืออัตโนมัติแล้วด้านข้างจะเป็นพวกผีๆทั้งหลาย แล้วก็นะ...เวลานั่งต้องเอาเท้ายอนลงไปในน้ำ   อ๋อ..!!เขาก็บอกอีกว่าไม่ต้องกลัวที่จะตกลงไปทางช่องเท้า เพรามันเป็นที่นั่งพิเศษสุดๆ สมมุติว่าคุณสูง 10เซนติเมตร แล้วเวลานั่งตั้งแต่ช่วงเข่าถึงเท้าคุณยาว4เซนติเมตร เขาก็จะปรับที่นั่งให้เหลือ3เซน เพื่อ1เซนจะอยู่ในน้ำหวังว่าคงเข้าใจนะ^_^;  
       “เชิญค่ะคู่น้องแล้ว”
    โอ้..!!เร็วจริงๆ
    ฉันก็เข้าไปนั่งทางข้างหน้า เมสเสจนั่งด้านหลัง
       “ไปแล้วจ้า”
    พนักงานพูดแล้วก็กดปุ่มให้เรือออก  พอเรือออกไปก็จะเป็นอุโมงค์มีไฟ สลัวๆ
    ด้านข้างทั้งสองข้างก็เป็นเหล่าผี...ผูกคอมั่ง...อยู่ในโรงมั่ง...ผีกระสือมั่ง
       “เมสเสจ...ฉันว่านะมันต้องมีอะไรมาจับขาเราแน่ๆ”
    พูดไม่ทันขาดคำเมสเสจก็ร้อง
       “เฮ้ย!!!
       “นายโดนแล้วหรอ”
       “เปล่าๆ...มีข้อความเข้ามันก็เลยสั่นเกือบจะตกน้ำน่ะ”
    -_-^^ตูตกใจหมด
    ฟับ!!จ๋อม!
       “ว้ากๆๆๆๆ”
    ...ผีตะอั๋งหนู ล้อเล่น...อยู่ๆก็มีมือผียาวๆมาจับไหล่แล้วมีเสียงอะไรตกน้ำ
       “เก็บมะนาวให้หนูหน่อย”
    เสียงเอฟเฟกดังขึ้น  อ๋อ..ที่แท้มะนาวล้นในน้ำ พูดเสร็จมันก็ปล่อยออก
        “โอ้..!!นี่แหละที่เรียกว่าลงทุนมากๆๆๆๆ”
    ฉันพูดเสียงดังๆให้กลบเกลือนความกลัว
       “นี่ๆคลอเดีย...ฉันว่านะเราใกล้ทางออกแล้วล่ะ”
       “จริงเหรอ”
       “จริงสิ..มันเขียนอยู่ข้างบน”
    ฉันก็มองข้างบนแต่กลับเป็น...ผีกระหัง
       “กา..ริ้ดดดดดดดด..นายหลอกฉัน...”
       “หายกันไง”
       “ก็ได้ๆๆ..หายกัน”
    อยู่ๆไฟก็ดับลงมีเสียงเอฟเฟกน่ากลัวๆมากมาย   พอดีฉันตั้งตัวทันก็เลยหยิบโทรศัพท์จอขาวดำเครื่องถูกๆหน้าจอแตก มือสองขึ้นมาชูเพิ่มแสง เอ่อมันไม่ค่อยจะแสงเท่าไร
       “ยัยบ้า...นั่นโทรศัพท์รุ่นไหนกันแสงหน้าจอแทบไม่มี..ต้องนี้”
    เมสเสจว่าพลางชูโทรศัพท์เครื่องใหญ่ๆ ..น่าจะเป็นน่าจอสัมผัส เขาเรียกว่าไงนะ       อีโพนใช่ไหมนะ ถามดีกว่า
       “ว้าว!!โทรศัพท์นายเจ๋งจังอีโพนใช่ไหมนั่น”
       “เธอยังสบายดี...ความจำเสื่อมหรือที่จริงแล้วเธออยู่นอกโลกกันแน่..คนในไทยมีน้อยนะที่จะไม่รู้จักไอโฟน”
       “เหอะๆ...แล้วไงล่ะ...ฉันใช้ของฉันเครื่องเดี๋ยวตลอด...ซื้อต่อเขามา...หน้าจอขาวดำ แล้วก็ติดสติ๊กเกอร์ลายหน้าจอแตก....เป็นไงเท่กว่าของนายอีก”
       “สติ๊กเกอร์บ้านเธอสิเป็นอย่างนั่น..ไหนๆเอามาดูหน่อยสิ”
       “ไม่มีทาง...นายใช้ไอ้ไอโมนของนายไปแล้วกัน”
       “ไอโฟนต่างหากล่ะ....ไหนๆขอดูโทรศัพท์หน่อย”
    เมสเสจกับฉันก็แย่งโทรศัพท์กันไปมา  โดยไม่สนเลยว่าจะมีผีโผล่มาที่ไหนแห่งใด
    จ๋อม!
      เอ่อ...คงเป็นเสียงแม่นาคทำมะนาวหล่นมั้ง
       “คลอเดีย...ไอย์ซอรี่T_T
       “นะ...นายทำโทรศัพท์ฉันตกเหรอ”
       “ใช่แล้ว..เอางี้ๆเดี๋ยวฉันซื้อไหนให้รับรองเจ๋งกว่าเดิม”
       “แล้วเบอร์ของฉันล่ะ!!T^T
       “เอ่อ..เอางี้ๆเธออยากได้เบอร์อะไรบอกมาเลย”
       “เบอร์เดิมๆๆๆๆ”
       “เอ่อ...เบอร์อะไรก็ได้แต่ไม่ใช่เบอร์เดิม”
       “งั้น08-8888-888800
       “ได้ๆ...เฮ้ย..ยัยบ้า..มีเบอร์ที่ไหน12หลักบ้างห๊ะ”
       “ล้อเล่นๆ..ฉันหาเองก็ได้แต่โทรศัพท์นายซื้อให้ฉันเองแล้วกัน”
       “อื้อ”
    ทางข้างหน้าฉันก็เห็นแสง
       “เมสเสจๆๆๆทางออกอยู่ข้างหน้าแล้ว”
       “ดีแล้ว”
       “นี่ต่อไปเล่นอะไรกันดีน้า”
       “รถไฟไปหาผี...เป็นไง”
       “ได้สิ...ตามใจนาย”
    ยูฮู้..!!ในที่สุดก็ออกมาได้  รู้สึกว่าพอฉันออกมาได้นี่ฉันจะแฮปปี้สุดๆเลยล่ะ
       “พี่คะ..รถไฟไปหาผีไปทางไหนคะ”
       “ทางนู้นจะตรงไปเรื่อยๆก็เจอ”
       “ขอบคุณค่ะ”
    พอฉันถามพี่พนักงานจบก็เดินไปหาเมสเสจ
       “ไปเถอะ..มันอยู่ทางนู้น”
    ฉันคว้ามือเมสเสจแล้วลากไป....ห๊ะ!! นี่ฉันจับมือเขางั้นเรอะ พอนึกออกฉันก็จะปล่อยออก แต่เมสเสจดันจับซะแน่น   แต่เอาเถอะ...สงสัยจะแฮปปี้ลั้นลาเมื่อได้ออกมาจากไอ้เรือบ้านั้นเหมือนฉันละมั่ง
    เห็นดังนั้นฉันก็ลากไปเรื่อยๆ จนเห็นว่าคิวไม่ยาวเท่าไร เห็นรถไฟแล้วมันนั่งได้อันล่ะ 2 คน มี 10ที่นั่ง
       ไม่นานรถไฟก็ออก
    มันเป็นรถไฟจอดหน้าบ้านหลังบ้านใหญ่มากๆ แล้วก็ให้หนังสือแล้วบอกว่าลงไปเดินเองแต่มีข้อแม้ในการออกจากบ้านว่าต้องไปฟังประวัติ...ความเป็นมาจอมปลอม....ของแต่ละห้องจนได้ปั๊มครบทุกห้องที่มีประวัติแล้วเอามาแลกตั๋วขากลับ ถ้าไม่ได้ภายใน2ชั่วโมงจะถูกทิ้งไว้ที่นี้จนกว่าจะมีคนกลุ่มใหม่เข้ามา...แล้วเวลาเข้าไปในแต่ละห้อง...ขอให้เข้าเป็นคู่พอเข้าเสร็จแล้วล๊อกประตู
       “ในบ้านนี้มีคนอยู่10คน”
    เมสเสจพูดขึ้นคงอ่านจากหนังสือ...ก็สิบห้องสิบประวัติสินะ...แต่พอเปิดหนังสือที่ให้มาดูนั่นจริงๆแล้วมี30รวมห้องน้ำด้วย...เอาห้องนี้ห้องแรกดีกว่า
       “ห้องนี้เป็นห้องนอนของเดเผนิก....เล่าว่าเขาอยู่ในห้องแล้วถูกโจรฆ่าตายตอนที่เขากำลังต่อโมเดลนั่นอยู่..เป็นโมเดลหอไอเฟว..แต่เขายังต่อไม่เสร็จวิญญาณจริงไม่ยอมไปไหน”
       เครื่องเสียงที่ทำให้ดูเก่าๆก็ดังขึ้น กรี๊ดดดดด ฉันทายถูกว่าห้องนี้
       “พอเขาถูกฆ่า..โจรก็เอาเข้าไว้ในตูแล้วล๊อกแล้วเอากุญแจโยนไว้ที่ไหนสักที่ในห้อง...ที่คุณต้องทำคือหากุญแจมาไขให้ได้..แล้วเราจะบอกวีธีต่อไป”
    พอมันพูดจบ   ฉันก็พุ่งไปที่โต๊ะเครื่องแป้งลือลิ้นชักและทุกสิ่งทุกอย่างออกมา
    พอไม่เจอก็ก้มดูใต้เตียงแล้วก็พบกุญแจ   ที่จริงก็ไม่เห็นหรอกเพราะในนี้มีไฟสลัวๆจะพังแหลไม่พังแหลอยู่ดวงเดียว เดี๋ยวติดเดี๋ยวดับ
       “เมสเสจเจอแล้ว”
       “มาฉันไขเอง”
    เมสเสจคว้ากุญไปแล้วก็เปิด แล้วก็พบกับผู้ชายคนหหนึ่งอยู่มีเลือดเต็มไปหมด
     แล้วพูดว่า
       “ยินดีด้วยพวกคุณหาเจอเอาหนังสือมาปั๊บได้เลยครับ”
    ว้า..โล่งอก
       “เอ่อ...คุณช่วยล๊อกคุณแจให้ผมแล้วอย่าเอาไปบอกใครนะว่ากุญแจอยู่ใต้เตียงไม่งั้นคุณจะต้องอยู่ที่นี้อีก1ช.ม.อ๋อ! ช่วยเอากุญแจไปวางที่เดิมด้วยครับ”
    แล้วฉันก็ออกมาได้สักที..ฉันเช๊กเวลา...ตอนที่มาถึงคือบ่ายสอง...ตอนนี้บ่ายสอง5นาที
    [40นาทีผ่านไป]
       “แว้ก!!ห้องนี่ไม่ใช่”
    เอ่อ...ไม่อยากจะบอกว่าฉันพาเมสเสจเข้ามาห้องหนึ่งแล้วไม่ใช่ก็เลยโดนผีหลอกจนหัวฟู
       “เมสเสจนายเลือกบ้างแล้วกัน”
       “อื้อห้องสุดท้ายแล้วนี่”
       “งั้นห้องไหนดี”
       “เอางี้..ห้องน้ำใหญ่ดีป่ะเพราะไม่งั้นมันจะมีห้องน้ำไวทำไม”
       “อื้อ..!ดีเลยงั้นคราวนี้นายลองหาของเองบ้างนะ...ฉันหาเจอเกือบทุกห้อง”
    ใช่แล้วฟังไม่ผิดหรอก
       “ก็ได้”
       “ไปเถอะ”
    ฉันดูแผนที่แล้วเดินไปชั้นบน
    กึกๆ....ประตูยังไม่ล๊อกดีใจจัง
    ตอนนี้เข้ามาอยู่ในห้องน้ำแล้ว...ห้องออกแนวแคบมากๆ
    อ่างอาบน้ำมีม่านกั้นไว้
       “ห้องนี้เป็นห้องของมัสตันเป็นห้องที่ฆ่าตัวเองตายโดยผูกคอตายที่อ่าง....อ่างมีน้ำอยู่แล้วก็ตอนที่มัสตันพี่ชายของเดเผนิกผูกคอนั้นเขาก็ตั้งกล่องบ้างอย่างไว้บนอ่างล้างมือ..กุญแจตกอยู่ในอ่างน้ำที่มีเลือดของมัสตันปะปนอยู่..ทีมาของเลือดคือเขากรืดข้อมือตัวเองก่อนผูกคอตาย...ภารกิจคือคว้านหากุญแจนั่น”
    พอเมสเสจเปิดม่านดูก็พบกับมัสตันผูกคออยู่
       “เมสเสจคว้านเลย”
    เมสเสจก็คว้านหาหน้าก็อยู่ห่างจากขามัสตันไม่ถึงคีบ
       “เจอแล้วๆๆ”
    เมสเสจพูดแล้วทำท่าดีอกดีใจมากๆ
     “มานายล้างมือก่อนส่วนฉันไขเอง”
     กึกๆ..พอฉันไขก็ไขไม่ออก
       “ฮ่าๆๆ...กุญแจไม่ได้มีดอกเดียวน่ะครับ”
    เสียงก็ดังขึ้น
    -_-^^
       “เมสเสจมาช่วยไขแล้วกันฉันหาเองนายหาไม่ได้เรื่องเลยนะ”
       “-_-^^
    พูดเสร็จฉันก็คว้านหากุญแจแล้วก็เจอสองดอกใกล้ๆกัน
       “เอ้าลองไขดู”
       “ไขไม่ออก”
       “อันนี้ล่ะ”
       “อ๊ะๆ..ออกแล้ว”
    ฉันรับล้างมือออก
       “ยินดีด้วยครับปั๊บเองเลยครับแล้วช่วยเอากุญแจใส่มาในอ่างด้วย”
    มัสตันลืมตาแล้วพูดขึ้น
     กา..ริ้ดดดดดดด!!
    ดีใจจัง ตอนนี้ก็บ่ายสองห้าสิบแล้วนี้
       “กลับเถอะ”
       “อื้อๆ”
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×