คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ปฐมบท...>>กระบองศักดิ์สิทธิ์
เวทมนตร์
คำ ๆ เดียวที่ฟังดูขลังหากมันเต็มไปด้วยปริศนาที่ล้วนแล้วไม่สุดสิ้น มันสามารถสร้างปาฏิหารย์ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ไม่เคยมีใครสักคนที่เข้าใจถึงแก่นแท้ของศาสตร์แขนงนี้
ยังคงมีผู้แอบอ้างมากมายว่ารู้แจ้งเกี่ยวกับเวทมนตร์ หากพวกเขาต่างคว้าน้ำเหลวไปอย่างจนปัญญาทุก ๆ ที ไม่ว่าจะด้วยเครื่องมือหรือความสามารถใด ๆ ก็ตามแต่
ยังคงไม่มีผู้เป็นเหนือศาสตร์แห่งเวทมนตร์
ความลี้ลับอันน่าค้นหาเป็นสิ่งดึงดูดให้เหล่าผู้จมดิ่งลงในห้วงความมืดของจิตใจถวิลหาตลอดมา พวกมันหวังเพียงอำนาจและพลังยิ่งใหญ่มากอิทธิฤทธิ์ จนเกิดการต่อสู้กันเองระหว่างเผ่าพันธุ์
สงคราม
สงคราม
ไม่เคยมีคำว่า ‘ดี’
ทุกครั้งที่มันจบลง
ต้องมีกี่ชีวิตกันสละชีพเพื่อปกป้อง ต้องหาญสู้กับมนุษย์เช่นเราไปทำไมเพียงเพื่อ ‘อำนาจ’ ทุกอย่างล้วนมีบ่อเกิดมาจากจิตด้านมืดของตนเอง
เมื่อถลำล้ำเข้าไปในเขตแดนที่เต็มไปด้วยความลุ่มหลง การแก่งแย่ง การเข่นฆ่า ย่อมยากที่จะโงหัวขึ้น แม้ต้องการหนีมันไป แต่ในบางครั้งก็ยังคงหลบไม่พ้น หนึ่งในจำนวนนั้นคือ
พันธสัญญา
“งานที่ได้รับมอบหมาย เจ้าคิดว่าจะทำสำเร็จหรือไม่” เสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจแผดก้อง
เบื้องหน้าปรากฏร่างสตรีผู้งดงามหากท่าทางและวาจาหาได้ดูดีเหมือนใบหน้าไม่ นางคุกเข่าข้างหนึ่งกับพื้นก้มหน้าหลับตาแสดงความเคารพแก่บุคคลผู้เป็นนายอย่างจำใจ
“ข้าก็มิอาจบอกท่านได้ ขอโปรดท่านจงรอดูผล ข้าจะทำมันเต็มความสามารถที่ข้ามี ข้าขอตัว” คำพูดกระด้างห้วนไม่สมหญิงถูกเอ่ยออกมาจากริมฝีปากอันแห้งผาก บ่าวลุกขึ้นโค้งตัวแล้วหันหลังเดินกลับไปยังประตูที่เข้ามา
“อย่าริคิดทรยศ ใช่ว่าเจ้าเป็นคนโปรดของข้าแล้วโทษจะเบากว่าผู้อื่น ทำมันให้สำเร็จ ถ้าพลาดอาจจะไม่มีโอกาสให้เจ้าได้แก้ตัว อย่าลืมว่าเจ้า
หนีข้าไปไม่ได้” ผู้เป็นนายกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด ร่างบางชะงักอยู่ตรงประตู ก่อนจะทำทีเป็นไม่สนใจเดินออกจากห้องมืด ๆ ตามเดิม
“คงอีกไม่นานหากเทียบกับร้อยปีที่ข้าสูญเสีย ทั้งหมดมันจะต้องกลับมาเป็นของข้าอีกครั้ง ของข้า
เพียงผู้เดียว”
เมื่อหญิงสาวพ้นธรณีประตูจึงรีบออกวิ่งเบา ๆ ไปตามทางที่ถูกปกคลุมด้วยความมืดโดยไม่ทันได้ยินประโยคสุดท้ายของบุคคลที่นางทำงานให้ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเต็มใจ
ใช่!! นางเป็นเหยื่อของพันธสัญญา
ร่างในชุดคล้ายนินจาแลดูทะมัดทะแมงผ่อนแรงหยุดวิ่งที่สวนแห่งหนึ่ง
สวนที่นางชอบมาเดินเล่นบ่อย ๆ เปรียบเสมือนที่พักพิงและของต่างหน้าของเขา
นัยน์ตาสีเทาหม่นหมองเงยขึ้นสบกับจันทราหนึ่งเดียวบนนภาที่ไร้แสงดาว ความเหงาเริ่มเข้าเกาะกุมหัวใจก่อนน้ำใส ๆ จะเอ่อล้นออกมาไหลอาบเต็มหน้าราวทำนบแตก นางไม่เคยอยากรับใช้เจ้าแห่งความมืดผู้นี้ แม้จะอยากหนีไปไกลสักเท่าใด ก็คงยังวนเวียนอยู่ในบ่วงแห่งกรรมไม่จบสิ้น
จะมีเพียงอย่างเดียวก็คือผู้เป็นที่รักของนาง หากบัดนี้เขาคงจะมองร่างเล็กอยู่ไกล ๆ อย่างอาลัยอาวรณ์ ความรักของทั้งสองเป็นสีขาวบริสุทธ์ไร้มลทิน เป็นความรักที่แม้ความตายก็ไม่สามารถพรากทั้งคู่ให้จากกัน
ความรักอันเป็นนิรันดร์
“ฉันไม่เคยเสียใจเลยที่ได้ช่วยนายจากมัน” นางเอ่ยเสียงแผ่วเบา สายลมพัดพลิ้วผ่านร่างดั่งจะพาคำพูดจริงใจนี้ส่งผ่านกระแสลมหอบไปบอกชายหนุ่มบนฟากฟ้าที่เป็นเหมือนนาง
ฟากฟ้าแห่งความรักที่ไม่มีคำว่า ‘สิ้นสุด’
บัดนี้หยาดน้ำตาจากความคิดถึงเลือนหายไปเหลือไว้เพียงคราบจาง ๆ สิ่งที่นางได้รับมอบหมายมานั้นมันยากต่อการจะทำให้ลุล่วงเหลือเกิน มือเรียวยกขึ้นรวบเรือนผมสีฟ้าสมุทรไว้ลวก ๆ สีหน้าลำบากใจปรากฏชัดเมื่อนึกถึงภาระที่นางทำได้เพียงปฏิเสธในใจ เพราะไม่ว่าด้วยวิธีใดเบี้ยล่างของพันธสัญญาก็ไม่สามารถขัดใจผู้ทำพันธะแม้ปลายเล็บ เส้นทางต่อไปจึงเหลืออยู่น้อยเต็มทีกับแผนการชั่วร้ายที่อาจทำให้แคว้นอาณาจักรทั้งหลายต้องสั่นคลอน
ร่างบางสั่นสะท้านอย่างหวาดกลัว นี่นางควรจะทำอย่างไรต่อไปกัน
เสียงถอนหายใจดังขึ้น ก่อนนัยน์ตาสีเทาจะฉายประกายเด็ดเดี่ยว ริมฝีปากแห้ง ๆ กล่าวขณะที่แหงนหน้ามองดาวดวงหนึ่งกำลังส่องแสงแพรวพราวท่ามกลางรัตติกาลดำสนิท
++++++++++++++++++++++++
“กระบองศักดิ์สิทธิ์อยู่ไหน เจ้าเห็นหรือเปล่า” หัวหน้าองครักษ์พิทักษ์หนึ่งในสามอาวุธสำคัญแห่งอาณาจักรแดนมนุษย์ ‘ไฮเวน’ ถามไถ่หาของที่ตนเพียรรักษา เนื่องจากเห็นมันหายไปต่อหน้าต่อตาทั้งที่อยู่บนแท่นวางซึ่งลงอาคมปกป้องเอาไว้อย่างแน่นหนา เป็นเหตุให้ลูกน้องในสังกัดหน่วยดูแลของเขาต้องวิ่งวุ่นกันทั่ว
“ไม่มีขอรับท่านหัวหน้า” เสียงตอบรับดังพร้อมเพรียงประหนึ่งเตรียมกันไว้อย่างดียิ่งสร้างความกังวลใจแก่เขาเป็นเท่าทวี คงจะเป็นการแย่แน่ถ้าเจ้าของปราสาทหรือกษัตริย์ดีอุสเกิดทรงทราบเรื่องราวหายนะนี้ และไม่ทันที่ความคิดจะล่องลอยหายไปไหน
“บลานด์ เจ้าปล่อยของสำคัญเช่นนี้หายไปได้เช่นไร?” ผู้ปกครองอาณาจักรตรัสถามอย่างกราดเกรี้ยว หากแต่เมื่อทรงสัมผัสถึงร่องรอยของเวทมนตร์บางอย่าง พระพักตร์ของพระองค์ก็มีสีซีดลงทันใด ตามมาด้วยพระราชดำรัสที่ทำให้ทุกคนต่างงุนงงกับความหมาย แต่ก็รู้สึกได้ถึงความตึงเครียดซึ่งก่อตัวเข้าคลุมรอบ ๆ บริเวณแท่นวางกระบองศักดิ์สิทธ์
“ความรู้สึกแบบนี้ไม่ผิดแน่ ศาสตร์มืดจักหวนคืน
เขากำลังจะกลับมา!!”
-talk with Author-
อ่า...สวัสดีครับ เฮ้อ มีเรื่องใหม่อีกแล้ว 55 แต่เค้าของเดิมจะมาจาก Magic Prince เรื่องเก่านะคับ^^
บทความนี้จะเป็นของจริง ฉะนั้นขอให้ติดตามในนี้ได้เลยนะคร้าบ^^ เม้นติกันเยอะๆนะงิ รออยุ่นะงับ
แล้วจะเอามาลงใหม่เร็วๆนี้ บายคร้าบ~~
ป.ล. ส่วนเรื่องขออภัยก็กล่าวไปแล้วข้างต้น อย่าถือสากันนะงับT^T
ความคิดเห็น