ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Best (?) Employee...ภารกิจวุ่น ป่วนมิติเวท

    ลำดับตอนที่ #1 : ปฐมบท...>>กระบองศักดิ์สิทธิ์

    • อัปเดตล่าสุด 22 เม.ย. 51


    เวทมนตร์

     

    คำ ๆ เดียวที่ฟังดูขลังหากมันเต็มไปด้วยปริศนาที่ล้วนแล้วไม่สุดสิ้น มันสามารถสร้างปาฏิหารย์ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ไม่เคยมีใครสักคนที่เข้าใจถึงแก่นแท้ของศาสตร์แขนงนี้

     

    ยังคงมีผู้แอบอ้างมากมายว่ารู้แจ้งเกี่ยวกับเวทมนตร์ หากพวกเขาต่างคว้าน้ำเหลวไปอย่างจนปัญญาทุก ๆ ที ไม่ว่าจะด้วยเครื่องมือหรือความสามารถใด ๆ ก็ตามแต่

    ยังคงไม่มีผู้เป็นเหนือศาสตร์แห่งเวทมนตร์

     

    ความลี้ลับอันน่าค้นหาเป็นสิ่งดึงดูดให้เหล่าผู้จมดิ่งลงในห้วงความมืดของจิตใจถวิลหาตลอดมา พวกมันหวังเพียงอำนาจและพลังยิ่งใหญ่มากอิทธิฤทธิ์ จนเกิดการต่อสู้กันเองระหว่างเผ่าพันธุ์


                 …สงคราม

     การหลั่งเลือดโดยมิจำเป็นการข่มความรู้สึกโศกเศร้าที่ต้องรบกับพวกเดียวกันโดยไร้เหตุผล


                สงคราม
    ไม่เคยมีคำว่า ดี

    ทุกครั้งที่มันจบลงต้องมีกี่ชีวิตกันสละชีพเพื่อปกป้อง ต้องหาญสู้กับมนุษย์เช่นเราไปทำไมเพียงเพื่อ อำนาจทุกอย่างล้วนมีบ่อเกิดมาจากจิตด้านมืดของตนเอง

     

    เมื่อถลำล้ำเข้าไปในเขตแดนที่เต็มไปด้วยความลุ่มหลง การแก่งแย่ง การเข่นฆ่า ย่อมยากที่จะโงหัวขึ้น แม้ต้องการหนีมันไป แต่ในบางครั้งก็ยังคงหลบไม่พ้น หนึ่งในจำนวนนั้นคือพันธสัญญา

     

     

    งานที่ได้รับมอบหมาย เจ้าคิดว่าจะทำสำเร็จหรือไม่เสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจแผดก้อง

     

    เบื้องหน้าปรากฏร่างสตรีผู้งดงามหากท่าทางและวาจาหาได้ดูดีเหมือนใบหน้าไม่ นางคุกเข่าข้างหนึ่งกับพื้นก้มหน้าหลับตาแสดงความเคารพแก่บุคคลผู้เป็นนายอย่างจำใจ

    ข้าก็มิอาจบอกท่านได้ ขอโปรดท่านจงรอดูผล ข้าจะทำมันเต็มความสามารถที่ข้ามี  ข้าขอตัวคำพูดกระด้างห้วนไม่สมหญิงถูกเอ่ยออกมาจากริมฝีปากอันแห้งผาก บ่าวลุกขึ้นโค้งตัวแล้วหันหลังเดินกลับไปยังประตูที่เข้ามา

     

    อย่าริคิดทรยศ ใช่ว่าเจ้าเป็นคนโปรดของข้าแล้วโทษจะเบากว่าผู้อื่น ทำมันให้สำเร็จ ถ้าพลาดอาจจะไม่มีโอกาสให้เจ้าได้แก้ตัว อย่าลืมว่าเจ้าหนีข้าไปไม่ได้ผู้เป็นนายกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด ร่างบางชะงักอยู่ตรงประตู ก่อนจะทำทีเป็นไม่สนใจเดินออกจากห้องมืด ๆ ตามเดิม

     

    คงอีกไม่นานหากเทียบกับร้อยปีที่ข้าสูญเสีย ทั้งหมดมันจะต้องกลับมาเป็นของข้าอีกครั้ง ของข้าเพียงผู้เดียว

     

    เมื่อหญิงสาวพ้นธรณีประตูจึงรีบออกวิ่งเบา ๆ ไปตามทางที่ถูกปกคลุมด้วยความมืดโดยไม่ทันได้ยินประโยคสุดท้ายของบุคคลที่นางทำงานให้ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเต็มใจ

    ใช่!! นางเป็นเหยื่อของพันธสัญญา

     

    ร่างในชุดคล้ายนินจาแลดูทะมัดทะแมงผ่อนแรงหยุดวิ่งที่สวนแห่งหนึ่งสวนที่นางชอบมาเดินเล่นบ่อย ๆ เปรียบเสมือนที่พักพิงและของต่างหน้าของเขา

     

    นัยน์ตาสีเทาหม่นหมองเงยขึ้นสบกับจันทราหนึ่งเดียวบนนภาที่ไร้แสงดาว ความเหงาเริ่มเข้าเกาะกุมหัวใจก่อนน้ำใส ๆ จะเอ่อล้นออกมาไหลอาบเต็มหน้าราวทำนบแตก นางไม่เคยอยากรับใช้เจ้าแห่งความมืดผู้นี้ แม้จะอยากหนีไปไกลสักเท่าใด ก็คงยังวนเวียนอยู่ในบ่วงแห่งกรรมไม่จบสิ้น

     

    จะมีเพียงอย่างเดียวก็คือผู้เป็นที่รักของนาง หากบัดนี้เขาคงจะมองร่างเล็กอยู่ไกล ๆ อย่างอาลัยอาวรณ์ ความรักของทั้งสองเป็นสีขาวบริสุทธ์ไร้มลทิน เป็นความรักที่แม้ความตายก็ไม่สามารถพรากทั้งคู่ให้จากกันความรักอันเป็นนิรันดร์

     

    ฉันไม่เคยเสียใจเลยที่ได้ช่วยนายจากมันนางเอ่ยเสียงแผ่วเบา สายลมพัดพลิ้วผ่านร่างดั่งจะพาคำพูดจริงใจนี้ส่งผ่านกระแสลมหอบไปบอกชายหนุ่มบนฟากฟ้าที่เป็นเหมือนนางฟากฟ้าแห่งความรักที่ไม่มีคำว่า สิ้นสุด’…

     

    บัดนี้หยาดน้ำตาจากความคิดถึงเลือนหายไปเหลือไว้เพียงคราบจาง ๆ สิ่งที่นางได้รับมอบหมายมานั้นมันยากต่อการจะทำให้ลุล่วงเหลือเกิน มือเรียวยกขึ้นรวบเรือนผมสีฟ้าสมุทรไว้ลวก ๆ สีหน้าลำบากใจปรากฏชัดเมื่อนึกถึงภาระที่นางทำได้เพียงปฏิเสธในใจ เพราะไม่ว่าด้วยวิธีใดเบี้ยล่างของพันธสัญญาก็ไม่สามารถขัดใจผู้ทำพันธะแม้ปลายเล็บ เส้นทางต่อไปจึงเหลืออยู่น้อยเต็มทีกับแผนการชั่วร้ายที่อาจทำให้แคว้นอาณาจักรทั้งหลายต้องสั่นคลอน

     

    ร่างบางสั่นสะท้านอย่างหวาดกลัว นี่นางควรจะทำอย่างไรต่อไปกันเสียงถอนหายใจดังขึ้น ก่อนนัยน์ตาสีเทาจะฉายประกายเด็ดเดี่ยว ริมฝีปากแห้ง ๆ กล่าวขณะที่แหงนหน้ามองดาวดวงหนึ่งกำลังส่องแสงแพรวพราวท่ามกลางรัตติกาลดำสนิท

     “…ดอล์ฟ นายไม่ต้องเป็นห่วงไป ฉันจะยอมเสียสละตัวเองอีกครั้งเพื่อช่วยอาณาจักรที่เรารักอาณาจักรไฮเวนให้พ้นจากเงื้อมมือปีศาจอย่างพวกมัน แล้วเราจะได้พบกันอีกครั้ง…” เสียงหวานเสนาะหูเอื้อนเอ่ยด้วยความเศร้าโศก ก่อนสายลมจะโชยพัดวูบหนึ่งทิ้งไว้เพียงความเงียบงันในคืนมืดไร้แสงดาว

     

    ++++++++++++++++++++++++

               

    กระบองศักดิ์สิทธิ์อยู่ไหน เจ้าเห็นหรือเปล่าหัวหน้าองครักษ์พิทักษ์หนึ่งในสามอาวุธสำคัญแห่งอาณาจักรแดนมนุษย์ ไฮเวนถามไถ่หาของที่ตนเพียรรักษา เนื่องจากเห็นมันหายไปต่อหน้าต่อตาทั้งที่อยู่บนแท่นวางซึ่งลงอาคมปกป้องเอาไว้อย่างแน่นหนา เป็นเหตุให้ลูกน้องในสังกัดหน่วยดูแลของเขาต้องวิ่งวุ่นกันทั่ว

               

    ไม่มีขอรับท่านหัวหน้าเสียงตอบรับดังพร้อมเพรียงประหนึ่งเตรียมกันไว้อย่างดียิ่งสร้างความกังวลใจแก่เขาเป็นเท่าทวี คงจะเป็นการแย่แน่ถ้าเจ้าของปราสาทหรือกษัตริย์ดีอุสเกิดทรงทราบเรื่องราวหายนะนี้ และไม่ทันที่ความคิดจะล่องลอยหายไปไหน

                บลานด์ เจ้าปล่อยของสำคัญเช่นนี้หายไปได้เช่นไร?” ผู้ปกครองอาณาจักรตรัสถามอย่างกราดเกรี้ยว หากแต่เมื่อทรงสัมผัสถึงร่องรอยของเวทมนตร์บางอย่าง พระพักตร์ของพระองค์ก็มีสีซีดลงทันใด ตามมาด้วยพระราชดำรัสที่ทำให้ทุกคนต่างงุนงงกับความหมาย แต่ก็รู้สึกได้ถึงความตึงเครียดซึ่งก่อตัวเข้าคลุมรอบ ๆ บริเวณแท่นวางกระบองศักดิ์สิทธ์

     

                ความรู้สึกแบบนี้ไม่ผิดแน่ ศาสตร์มืดจักหวนคืนเขากำลังจะกลับมา!!

               

     

    -talk with Author-
    อ่า...สวัสดีครับ เฮ้อ มีเรื่องใหม่อีกแล้ว 55 แต่เค้าของเดิมจะมาจาก Magic Prince เรื่องเก่านะคับ^^
    บทความนี้จะเป็นของจริง ฉะนั้นขอให้ติดตามในนี้ได้เลยนะคร้าบ^^ เม้นติกันเยอะๆนะงิ รออยุ่นะงับ
    แล้วจะเอามาลงใหม่เร็วๆนี้ บายคร้าบ~~

    ป.ล. ส่วนเรื่องขออภัยก็กล่าวไปแล้วข้างต้น อย่าถือสากันนะงับT^T

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×