ตกหลุมรักนายปากจัด - นิยาย ตกหลุมรักนายปากจัด : Dek-D.com - Writer
×

    ตกหลุมรักนายปากจัด

    จุดเริ่มต้นของความรัก มาจากความรู้สึกดีๆที่มีให้กัน แต่บางครั้งมันก็ถูกทำลายลงจากคนที่เรารักมาที่สุด

    ผู้เข้าชมรวม

    61

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    61

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  15 ก.พ. 58 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    บทนำ

    จุดเริ่มต้นของความรัก ส่วนใหญ่มักเริ่มมาจากความรู้สึกดีๆ ที่เกิดจากความใกล้ชิดสนิทสนม การมีช่วงเวลาดีๆร่วมกัน พบกัน เจอกัน รักกัน ณ ช่วงเวลาที่ความรักเข้ามาทักทาย ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก ดูสดใส สวยงาม ไปหมด แต่พอวันหนึ่งที่ความรักนั้นถูกทำลายลง โลกทั้งใบกลับดูมืดมนทันที จิตใจถูกความเศร้าเข้าปกคลุม เจ็บปวด บางคนก็เจ็บปวดมากจากน้ำมือคนรักที่หักหลัง เจ็บจนกลัวการเริ่มใหม่ ไม่ยอมเปิดใจ ไม่มองหาคนใหม่ เพราะมัวแต่ฝังใจอยู่กับอดีตที่ผ่านมา

                    จงอย่ากลัวการเริ่มใหม่ ลองเปิดใจ แล้วจะพบว่า โลกใบนี้ยังมีคนที่พอดีกับเราอยู่ อย่าฝังใจอยู่กับรักครั้งเก่า อย่าซึมเศร้าอยู่กับความหลัง ลองเปิดหัวใจเริ่มต้นใหม่อีกรั้ง...

                    ใจของคนเรามักจะจดจำความทุกข์มากกว่าความสุข แต่ความรักทำให้เราลืมทั้งหมดว่าเราเคยทุกข์ เพราะความรักมาเท่าไร ก็ตอนที่เรากำลังตกหลุมรักอีกครั้ง

     

     

     

     

     

    1.นายตัวแสบ

    ณ เลิฟแฮนด์ซัม สคูล

    ตุบ ตึ่ง โคร่ม คร่าม  =_=*/*><$&#&

    วิ้ง วิ้ง โลกกำลังหมุนเป็นวงกลมทรงสี่เหลี่ยม

    รู้สึกเหมือนมีบางอย่างเข้ามาชนฉันอย่างจังจนตัวลงไปสยบคาพื้นทางเดิน  พร้อมกับเอกสารที่ถืออยู่ในมือก็ตกกระจายไปทั่วบริเวณนั้น ฉันรับรู้ถึงความมึน ชา ที่ทั้งเรือนร่างและใบหน้าสุดสวยของฉันมันไปกระทบพื้นที่แสนจะสกปรกเต็มไปด้วยรอยเท้าผู้คน

    “โอ๊ย เดินยังไงว่ะเนี่ย  ตาดูคนบ้างอื่นบ้างสิ  พ่อเป็นเจ้าของทางเดินหรือไง”

    อารมณ์ตอนนี้มันกำลังเดือด พรุ่งพล่านไปทั่วร่างของฉัน ซวยตั้งแต่เช้าเลยถ้าพ่อไม่ได้ใช้ให้เอาเอกสารมาให้อธิการบดีเพื่อนสุดเลิฟของพ่อ ฉันก็คงไม่มีวันมาเหยียบที่นี่หรอก  ฮึ๋ยโรงเรียนชายล้วน  ฉันละเกลียดผู้ชายสมัยนี้ชะมัดไม่เป็นสุภาพบุรุษ  ปากเสีย  ไม่ให้เกียรติหญิงเยี่ยงฉัน  แล้วก็บ้ากาม  นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ฉันไม่อยากจะมาเหยียบโรงเรียนนี้  แต่ให้ทำไงได้ล่ะ  ก็พ่อฉันดันมามีเพื่อนสุดแสนจะรักกันอยู่ที่โรงเรียนนี้ซึ่งเป็นโรงเรียนฝาแฝดกันกับเลิฟบิวตี้ สคูล  โรงเรียนหญิงล้วนของฉันไงล่ะ

    “ยัยนี่  เธอนั่นแหละขวางทางเดินฉันเองนี่”  ผมสบถด้วยความโมโหเพราะมีใครคนหนึ่งที่ไม่ยอมหลบทางเดินให้ผม อีกทั้งใครคนนั้นยังตะโกนด่าผมอีก ถ้าไม่ใช่ผู้หญิงผมคงเข้าไปปล่อยมัดให้ลุกไม่ขึ้นเลย แล้วเธอยังทำให้ผมนั้นรู้สึกหงุดหงิดเป็นบ้าเลย  ผู้หญิงอะไรสวยก็สวยแต่ปากร้ายเอาเรื่อง

    “อ่ะๆ  อีกอย่างฉันก็เป็นลูกเจ้าของทางเดินด้วยนะ”

    “นาย  นี่มัน......” 

    ฉันอยากเข้าไปต่อยผู้ชายจังเลยอ่ะ  ทำไมถึงกล้ามาพูดกับผู้หญิงแสนสวยกับฉันแบบนี้ได้ยังไงกันนะ ถึงจะหล่อแทบละลาย ใบหน้าของเขากับดวงตาช่างดึงดูดให้น่าหลงใหล นี่ไม่ใช่เวลาชมเค้านะ โอเคฉันไม่มีวันยอมเด็ดขาด  เป็นไงเป็นกัน  คัพเค้ก (อ๊ะๆๆ  ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ดิฉันชื่อ  คัพเค้ก   รัตนาศิริเพ็ชรา ค่ะ  แค่ชื่อก็บ่งบอกได้เลยค่ะว่าฉันสวย  หลงตัวเองเหมือนเคยค่ะ)

    “มันอะไรไม่ทราบ  ฉันไม่มีเวลามาเถียงกับเธอหรอกนะ” 

    “ก็แล้วไง  นายน่าจะขอโทษฉันสักคำนะ”

    “ไม่มีวันหรอก  ทีแรกก็ตั้งใจจะขอโทษอยู่  แต่ตอนนี้ไม่ละ”

    “เอ้าทำไมล่ะ”

    “ก็ฉันไม่ชอบผู้หญิงก้าวร้าวแบบเธอ”

    กรี๊ดๆๆๆๆ 

    “อีตาบ้า  ฉันเกลียดนาย”

    “เลิกเสียงดังโวกเวกโวยวายสักทีโว้ย  เรียกร้องความสนใจหรือไงว่ะ”

    กรี๊ดๆๆๆ

    “ไอ่ผู้ชายบ้า  ปากเสีย  นิสัยไม่ดี........”  (โดนบ่น  ยาวเลย  เฮ้อ)

    ณ  คฤหาสน์เลิฟบิวตี้

    บรรยากาศยามเย็น  ของการรับประทานอาหารมื้อค่ำบรรยากาศแสนจะเงียบกริบ  ลมพัดโชยๆชวนให้ลุกสยอง  ซึ่งแตกต่างกับชายวัยกลางคนที่กำลังรับประทานอาหารที่แสนจะหรูหราที่ถูกจัดระเบียบสวยงามวางอยู่บนโต๊ะ  ด้วยความเอร็ดอร่อย

    “อาหารไม่อร่อยหรอ  คัพเค้ก”  น้ำเสียงของชายที่มีอายุ  เสียงเรียบๆที่แสดงถึงความห่วงใย

    “อร่อยค่ะ  แต่กินไม่ลง”

    นี่คือพ่อบุญธรรมของฉันเองแหละค่ะ  ท่านคือ  เจมส์สัน  รัตนาศิริเพ็ชรา ท่านรับฉันมาจากบ้านเด็กสงเคราะห์มาเลี้ยงดูตั้งแต่อายุ  ขวบ  ท่านเป็นพ่อที่รักและดูแลฉันเป็นอย่างดี  และคอยห่วงใยฉันมาตลอด  ให้ความรักฉันจนฉันคิดว่าเขาคือบิดาบังเกิดเกล้าของฉันจริงแท้แล้วเสียอีก  และบางครั้งเวลาที่เราออกไปข้างนอกด้วยกันคนส่วนใหญ่มักจะบอกว่าฉันเป็นผู้หญิงของพ่อ  ก็เพราะว่าเราหน้าตาไม่เหมือนกันสักนิดแล้วฉันก็สวยด้วย

    ฉันคัพเค้กที่มีสายเลือดไทย  อเมริกา  หญิงสาวตัวเล็ก  สูง  170  ซมน้ำหนัก  45  กกหุ่นเพรียวบาง  สวยน่ารัก  ดวงตาสีฟ้าครามที่ดุจประกายดังมหาสมุทรเรืองแสงของตะวัน  จมูกเรียวโด่งรับกับริมฝีปากชมพูอมส้ม     ที่ใครเห็นเป็นต้องอยากจุ๊บ  ผมสีบลอนด์น้ำตาลยาวถูกลอนขับกับใบหน้าขาวๆของฉัน  ทำให้ใครหลายๆคนแค่มองหน้าฉันก็สะดุดไปตามๆกันเลยแหละ

    ส่วนพ่อบุญธรรมของฉันเป็นลูกครึ่งไทย  ฝรั่งเศส  ใบหน้าของท่านเรียวสวยตามสไตล์ชาวฝรั่งเศส  ดวงตาสีฟ้าที่ส่องสว่างแสดงถึงความอ่อนโยนและเป็นมิตร  จมูกเป็นสันโด่งรับกับริมฝีปากสีชมพูอ่อน  ผิวสีขาวเหลืองผสมผสานระหว่างคนเอเซียกับยุโรป  ท่านสูงกว่าฉันนิดนึงและยังดูหล่อเหลาเอามากๆเลยด้วย

    “วันนี้ไปที่เลิฟดาร์ลิ่ง  สคูล  มีปัญหาใช่ไหม  พ่อขอโทษนะลูก”  เสียงของพ่อที่อ่อนระโหย  ทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองทำให้พ่อเป็นห่วง  และทำตัวมีปัญหาเหมือนเด็กไม่เอาไหน

    “ไม่เป็นไรค่ะ  หนูโอเค”

    ปัญหาที่เกิดขึ้นที่ฉันต้องเดือดร้อน  ทำให้ฉันต้องคิดถึงใครบางคน  นั่นก็คือนายเทอะทะ  ที่เดินมาชนฉันไงล่ะ  คิดแล้วก็ยังโมโหไม่หายชะมัด

    ฮะ  ฮะ  ฮะ  ฮะ  ฮัด  ชิ้ว

    “เป็นไรวะ  มอคค่า

    มอคค่าหนุ่มลูกครึ่งไทยกรีก  ที่มีใบหน้าคมกริบกับดวงตาสีดำดุจเพรชที่ดึงดูดทุกสายตาชวนให้หลงใหล  ผมสีน้ำเงินดำที่ตัดใบกับใบหน้าขาวๆและดวงตาสีดำได้อย่างลงตัว  รับกับริมฝีปากรูปหัวใจอมชมพู  ผู้ชายอะไรหน้าหวานได้โล่ (มอคค่า  พระเอกของเราเองค่ะ)

    “ไม่รู้ว่ะ  คาปูชิโน่”

    น้องชายที่คนละพ่อละแม่ของผมเองคับ  เพราะว่าเราก็เป็นลูกบุญธรรมเหมือนกันทั้งคู่

    “สงสัยยัยที่แกเดินชนเมื่อเช้า  จะคิดถึงละมั้ง”

    กวน...แบบนี้  มันคือไอ้ลาเต้  หนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกา มันมีผมสีทองที่ตั้งสูงกับดวงตาสีน้ำตาลที่เป็นเสน่ห์เย้ายวนให้สาวๆเข้าหลงติดกับหมอนี่   มันก็เป็นลูกบุญธรรมเหมือนคาปูชิโน่กับผมและมันก็อายุราวคราวเดียวกับผมอีกด้วย  มันเป็นพวกปากวอนโดนเตะ

    “บ้าหรือว่ะ  ผู้หญิงอะไรปากร้ายชะมัด  พูดให้ดีๆหน่อยนะโว้ยไอ้ลาเต้”

    “แต่ก็สวยใช่ย่อยเลยนี่”

    “โห  พี่ใหญ่ก็เป็นไปด้วยกันกับพวกนี้หรือเนี่ย”

    พี่ใหญ่ของเราคับ  เอสเปรสโซ่  เราทุกคนถูกรับมาจากสถานสงเคราะห์ลอแรนที่อังกฤษ  โดยมีคุณพ่อผู้อุปถัมภ์เราคือคุณบราวนี่   เกสส์  พ่อบุญธรรมที่แสนจะใจดีกับพวกเราเป็นอย่างมากๆเลย  ท่านเลี้ยงดูแลเราอย่างกับเราเป็นลูกแท้ๆของท่าน 

    “หนุ่มๆคุยอะไรกันเอ่ย  ท่าทางจะไม่ค่อยจะดีเลยน๊า”  เสียงชายที่ค่อนข้างมีอายุแต่ก็ยังดูดี 

    “คุยถึงสาวสวยที่มอคค่าเดินชนในตอนเช้านะคับ”

    ลาเต้  หนุ่มชายผู้ปากไวรีบแจ้นพูดก่อนใครในกลุ่ม  (สงสัยกลัวถูกแย่งซีน)

    “หรอ  ใช่หนูคัพเค้กลูกสาวของคุณเจมส์สัน  ที่มาโรงเรียนเราตอนเช้าไหมที่สวยๆ”

    “คนนั้นเลย”  ลาเต้/คาปูชิโน่/เอสเปรสโซ่  ตะโกนออกมาพร้อมกัน

    “จะพร้อมใจกันอะไรปานนั้น  พวกนายนี่”

    “เขิลหรือไง  อุ๊ตะ”  ลาเต้ยังแอบจิกกัดมอคค่าเบาๆ

    “ฮึ๋ย  ยัยนั่นอ่ะ  ผู้หญิงอะไรพูดไม่เข้าหูที่สุดเลย  ทำผมเสียอารมณ์ได้ทั้งวันเลย”

    “แสดงว่าคิดถึงยัยนั่นทั้งวันเลยว่างั้น”  ทีนี้ถึงตาคาปูชิโน่  แอบรุกบ้าง

    “ไม่ใช่โว้ย  ไอ้คา...”

    “พอๆเลิกกันซะทีโตกันแล้วนะ  อาทิตย์หน้าทำตัวให้ว่างนะทุกคนเราจะมีนัดไปทานข้าวกับครอบครัวคุณเจมส์สันและหนูคัพเค้ก  ออ  แล้วมอคค่าโดยเฉพาะเราต้องไปด้วยนะถือว่าเป็นการไถ่โทษที่ทำกิริยาไม่สุภาพกับหนูคัพเค้กนะ อย่าทำเสียเรื่องนะเรา”

    พ่อนะพ่อ  คุยธรรมดากับทุกคนแต่ทำไมต้องเน้นเราเป็นพิเศษด้วย  ไม่ได้จะไปฆ่ายัยคัพเค้กนั่นสักหน่อย  ไม่อยากเจอหน้ายัยนั่นเลย  ไอ้ลาเต้ก็มีท่าจะหาเรื่องแซวอยู่ตลอดเวลา

    ฮะ  ฮะ  ฮะ  ฮัดชิ้ว

    “ใครนินทาเราเนี่ย”

     

    2.อาหารมื้อสุดแสนอร่อย

    ณ  ภัตตาคาร B

    รถสปอร์ตสุดหรูสีดำ  เข้ามาจอดเทียบท่าโรงจอดรถชั้นบนสุดของภัตตาคาร  ซึ่งเป็นชั้น  VIP  บอกได้เลยถ้าไม่มีตังค์ห้าหลักขึ้นไม่มีทางได้มาจอดที่ชั้นข้างบนนี้หรอก  ส่วนใหญ่มีแต่พวกคนรวย  มหาเศรษฐี  ก็ว่าได้และฉันกับพ่อซึ่งเป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน  อีกทั้งท่านยังเป็นหุ้นส่วนของภัตตาคารสุดอลังการนี้อีกด้วย

    ขายาวๆเรียวขาวของฉันก้าวลงจากรถสปอร์ตคันสวย  ซึ่งวันนี้ฉันมาในสไตล์เจ้าหญิงผู้อ่อนหวาน  กับชุดเดรสสีชมพูมีโบว์เล็กๆพาดที่เอวเอาไว้  รองเท้าส้นสูงสีขาวลายน้องหมี  อยากบอกว่าเป๊ะเวอร์  ฉันเดินควงคุณพ่อสุดหล่อเดินเข้าไปในบริเวณโต๊ะอาหารที่ได้จองไว้ล่วงหน้า

    “เฮ้ยๆ  คนสวยของแกมาแล้ว  มอคค่า”

    “เออ  หุบปากได้ละ”

    ผมล่ะเบื่อชะมัดเลย  ปกติผมไม่เคยมาทานข้าวข้างนอกบ้านเท่าไหร่หรอก  เพราะผมไม่ชอบออกงานเข้าสังคมใส่หน้ากากอะไรเท่าไหร่  ส่วนใหญ่ก็จะอยู่แต่ในบ้าน  แต่วันนี้สิโดนคุณพ่อบังคับแต่ให้ทำไงได้ก็ท่านมีพระคุณกับผมนี่นาผมก็ปฏิเสธท่านไม่ลง  นานๆทีก็แล้วกัน

    “ตรงนี้ครับ”  เสียงของเด็กหนุ่มซึ่งรุ่นราวคราวเดียวกับฉันนั่นคือ  คาปูชิโน่ไงล่ะ  เขาโบกมือเรียกพ่อกับฉันให้ไปที่โต๊ะ  ปกติฉันกับพ่อก็จะมากินข้าวกับครอบครัวนี้บ่อยๆ  เราก็เลยสนิทกันแต่ถึงยังไงฉันก็ยังไม่รู้สึกชอบผู้ชายขึ้นมาหรอกอยู่ดี  ครอบครัวนี้ถือว่าได้รับอภิสิทธิ์อย่างมากที่ฉันคุยด้วย

    ฉันกับพ่อก้าวเท้าฉับๆ และไม่นานเราก็ไปถึงโต๊ะซึ่งมีอาหารมาเสิร์พรอไว้พร้อมแล้ว

    ฉันเข้าไปทักทายคุณลุงแล้วก็นั่งลงข้างๆกับคุณพ่อ แต่แปลกคือฉันไม่คุ้นคนที่นั่งตรงข้างหน้าฉันเลย  นายนี่เป็นใครกันนะมากับครอบครัวแฮนด์ซัมได้ยังไง

    “อ่ะคุณเจมส์สันกับหนูคัพเค้ก  ลุงจะแนะนำลูกชายของลุงอีกคนให้รู้จักนะ  เขาไม่เคยมาทานเข้ากับเราสักครั้งเลยวันนี้ถือเป็นโอกาสดีนะครับ”  เสียงคุณลุงพูดจาฉะฉาน 

    “สวัสดีครับ  ผมมอคค่า”

    ผมเงยหน้าขึ้นไปดูคนข้างหน้าของผมคือยัยคัพเล็กกับคุณลุงเจมส์สัน

    “นะ.....นาย”

    หนุ่มผู้มีผมสีน้ำเงินดำที่เข้ากันได้อย่างลงตัว  เงยหน้าขึ้นมา  พร้อมกับยิ้มหวานให้ฉัน  ดวงตาสีดำรับกับริมผีปากสีชมพู  ใบหน้าที่หล่อเหลาไม่แพ้พี่น้องคนอื่นๆ  ทำให้ฉันถึงกับต้องอึ้งในสิ่งที่เห็น

    “ว่าไงยัยคัพเล็ก  แมลงวันเข้าไปในปากหลายตัวแล้ว”

    “นายนี่ยังไงกันนะ  ฉันคัพเค้กย่ะ”

    ถึงกับเหวอไปเลยล่ะสิ  ยัยบ๊องเอ๊ย

    “รู้จักกันแล้วเหรอดีจังเลยนะ”  คุณพ่อฉันยิ้มขำ  ตลก  กับคุณลุง  แล้วพูดประโยคนี้ขึ้นมา

    “ค่ะ  รู้จักดีซะด้วย”  ตอนนี้ฉันกำลังเรียกสติตัวเองคืนมา  ตกลงนี่มันเกิดอะไรขึ้น (อ่ะๆ  อีกอย่างฉันก็เป็นลูกเจ้าของทางเดินด้วยนะ)  เฮ้ย! จำได้แล้ว  ที่แท้นายก็เป็นลูกชายอีกคนของคุณลุงนี่เอง

    “มางั้นมากินข้าวกินเลย”

    ทุกคนบนโต๊ะอาหารทานข้าวมื้อนี้กันอย่างเอร็ดอร่อย  แม้แต่นายนั่นก็เหมือนกัน  เว้นแต่ฉันนี่แหละที่รู้สึกอึดอัดเป็นบ้าอาหารก็อร่อยนะ  แต่คนตรงหน้านี้สิ  เห็นแล้วทานไม่ลง

    “น้องคัพเค้ก  อร่อยไหม”  เสียงของพี่ใหญ่(เอสเปรสโซ่)  ทักขึ้นมาขนาดรับประทานอาหาร

    “ก็อร่อยค่ะ”  ฉันยิ้มตอบรับให้พร้อมกับตักอาหารใส่จาน

    “คงอร่อยตายแหละ  ทำหน้าอย่างกับปวดท้องเข้าห้องน้ำ”

    “มอคค่า”  พ่อ/คาปูชิโน่/ลาเต้/เอสเปรสโซ่  ประสานเสียงพร้อมกับจิกตามองผมเป็นพิเศษกันเลยน๊า  วันนี้ไม่สนุกเอาซะเลย

    อีตาบ้าเอ๊ย!!!!!!  พูดอะไรออกมาเนี่ย  ฉันอยากจะเอากะหล่ำยัดปากไปเลย  เห็นแก่คุณลุงกับคนอื่นๆหรอกนะฉันถึงเรียบร้อยน่ะ  (ทำไมรู้สึกเก็บกดอย่างนี้)

    “มันคงจะอร่อยมากถ้านายป้อนให้”  ขอเอาคืนบ้างก็แล้วกันนะ  ประชดย่ะ

    “ได้สิ”

    แล้วในที่สุดผัดมะโกโรนี  ตอนนี้มันกำลังจ่ออยู่ที่ปากของฉันทำเอาฉันซะอึ้งไปเลย  นายนี่เกิดบ้าอะไรกัน(ฉันว่าฉันบ้าแล้วนะ)

    “นะ  นาย”

    “ยังไงกันเธอนี่  ถือว่าขอโทษวันนั้นแล้วกัน”

    และแล้วมอคค่าก็เป็นชายคนแรกที่ได้ป้อนฉัน ไม่สิยัดเข้าปากฉันชัดๆ     มะโกโรณีเต็มปากฉันจนมันป่องออกมา น่าเกลียดที่สุด ฉันจะคายก็กลัวเสียมารยาทก็ทำได้แค่เคี้ยวตุ่ยๆกับท่าทางที่แสนจะอุบาท  นะ นะ นายมอคคุฉันจะเอาคืนนาย .................................

     

    3.ฉันไม่ชอบผู้ชายย อร๊ายยย

    ณ  ห้าง  M

    “น้ำชา  จะลากฉันไปไหนฉันไม่อยากไป  ปล่อยนะ  ปล่อยเดี๋ยวนี้”

    ตอนนี้ฉันอยู่ที่ห้

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น