ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] love is lodged เปลี่ยนรัก #markbam ft.GOT7

    ลำดับตอนที่ #6 : love is 05 หมีกับหมู 120%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.18K
      12
      13 พ.ย. 57











       love  is  lodged 05




    (ต่อ)









    " แล้วชื่อนาย …… "







    " มาร์คค่ะƒ  " มาร์คต้วนแทบหมดเสียงเมื่อมีแขกที่ไมได้รับเชิญโผ่ลมา เด็กสาวรุ่นน้องของเขาอยู่ในชุดเกินวัยยืนเชิดหน้า เธอมองชายหนุ่มด้วยสายเย้ายวนก่อนจะเหลือบมองคนตัวเล็กที่นั่งนิ่ง







    " โบมี  มาทำอะไรที่นี้ครับ "  ผมเหลือบมองคนตัวเล็กก่อนถามโบมี เด็กสาวมีแววตาสดใสขึ้นมาแต่เด็กน้อยตรงหน้าของผมกลับก้มหน้าลงแทบจะเรียกได้ว่า เด็กนั่นไม่มองหน้าผมเลยด้วยซ้ำไป







    " โบมีก็มาหามาร์คไงค่ะ แล้วเด็กนี่ใครค่ะ??  "  โบมีเธอเป็นคู่ขาคนล่าสุดของผมเองละครับเราเจอกันที่คลับของเฮียเควินแต่ผมไม่คิดจะจริงจังกับเธอหรอกนะ แค่ติดใจเรื่องบนเตียงของเธอก็เท่านั้นผู้หญิงอะไรร้อนแรงชะมัด







    " เออ  //  รุ่นน้องครับผมเป็นรุ่นน้อง เอ่อ ฮยองมีเพื่อนกินข้าวแล้วนิ ผมไปก่อนนะพอดีนัดเพื่อนไว้ด้วย นั่งมั้ยครับนูน่าเชิญครับ เชิญนั่งเลย ระวังนะครับJJ  "  
      น้ำเสียงเล็กพูดรัวแทบไม่เป็นคำก่อนจะลุกลี้ลุกลนคว้าเอาเสื้อตัวใหญ่แน่น  จนสาวสวยตรงหน้ามองตามอย่างงุนงง แบมแบมโค้งให้ทั้งสองก่อนจะรีบจ้ำเท้าออกจากร้านไป โดยไม่ฟังเลยว่าคนหน้าหล่อจะพูดอะไรต่อรึไม่









    / คุณมันไม่มีอะไรที่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ









            ผมก็แค่รู้สึกโหวงเหวง  ผมก็แค่หายใจติดขัด.....








                       ผมก็แค่ไม่อยากนั่งขว้างทางใคร ก็แค่นั้น /










     

     " เดี๋ยว "  เสียงทุ้มของคนตัวสูงไม่อาจหยุดคนตัวเล็กได้ ถึงร่างกายจะสั่งให้เดินตามอีกคนออก ไปแต่จำได้ยังไงเมื่อยังมีมือเรียวของหญิงสาวคอยรั้งเขาไว้ โธ่เว้ย!! ถ้ายังไม่หายติดใจยัยนี่เขาคงจะตบหน้าสวยๆของเธอไปแล้ว โทษฐานที่ทำลายบรรยากาศการกินอารหารไทยมือนี้ทั้งที่ยังไม่ได้ลิ้มรสอาหารสักคำเดียว







    " มาร์ค รุ่นน้องคนนี้น่ารักดีนะค่ะรู้จักเอาใจโบมีด้วย  "  อีกคนไม่ได้สนด้วยซ้ำว่าท่าทางของหญิงสาวจะเป็นแบบไหนก็จิตใจเขาตามคนตัวเล็กออกไปแล้วนิ 







    " มีอะไรรึป่าวโบมี "






     

    " มีค่ะ ทำไมช่วงนี้ไม่ไปหาโบมีเลยค่ะ โบมีคิดถึงน่ะคุณพ่อถามหาด้วย นานแล้วนะค่ะมาร์ครึว่าคุณมีคนใหม่จนลืมโบมี "  สายตาเจ้าหล่อนกำลังมองมาร์คต้วนอย่างจับผิด  ชายหนุ่มถึงกลับถอนหายใจยาวพรืดกับคำถาม คำพูดโลกแตกพวกนี้ บอกเลยเขาเบื่อคำพวกนี้เอามากๆ







     ว่ากันว่าถอนหายใจหนึ่งครั้ง อายุสั้นลง1ชั่วโมงงั้นวันนี้ผมคงต้องตายเพราะถอนหายใจบ่อยเหลือเกิน







    " ผมไม่ได้มีใคร (ไม่คิดจะมี) ช่วงนี้ผมไม่ค่อยว่าง "  คนหน้าหล่อตอบด้วยท่าทางเบื่อหน่าย






    " อะไร? ไม่ว่างกันค่ะมาร์ค "  หล่อนชักสีหน้าเสียงแหลมปี๊ดนั้นบ่งบอกนิสัยว่าหล่อนเอาแต่ใจมากแค่ไหน






    " โบมี  ฟังนะผมมีงาน ถ้าผมว่าง ผมจะไปหาคุณเอง " สิ้นเสียงผมก็สะบัดแขนจากเธอโทษผมไมได้หรอกนะต้องโทษเสียงแหลมเล็กของหล่อนต่างหากที่ทำความใจดีของผมแตกกระเจิง







    " มาร์ค !!!!!!!!!!!  " เสียงหล่อนเรียกผมสะแหลมจนคนทั้งร้านต่างส่งสายตาอยากรู้อยากเห็นมาทางเดียวกันเรื่องของคนอื่นมักเป็นที่สนุกปากของคนทุกคนอยู่แล้วไม่ว่าจะใครคนไหน







    " Hey  bill, please"  UUU






     

    " มาร์ค โบมีไม่ใช่ของตายนะ นี่มาร์คคุณหันมาคุยเดี๋ยวนี้นะ มาร์ค มาร์ค  " ผมไม่สนแล้วว่าเธอจะพูดอะไรต่อเพราะสิงที่เธอจะพูดออกมามันจะฆ่าตัวเธอเอง ผมรีบวางเงินค่าอาหารแต่แล้วมือเรียวของโบมีก็มาคว้าหมับเข้าที่แขน นี่เธอเป็นปลาหมึกรึไงกันผมชอบอยู่หรอกเวลาที่เธอลูบไล่ในเตียงกว้าง แต่เวลานี้มันรำคานชะมัดเลย







     /ถ้าพรุ่งนี้มีข่าวฉาว ทายาทหนุ่มหล่อนักธุรกิจสลัดคู่ควงลูกสาวเสี่ยร้านเพรชกลางร้านอาหารขณะพาคู่ขาคนใหม่ มาทานข้าว/




    ก็อยากแปลกใจกันละผมนะชินสะแล้ว






    " โบมี ถ้าเธอไม่อยากเป็นของตายก็หุบปากซะ!! "  ผมตะหวาดเธออีกครั้งจนร่างบางสะดุงหน้าที่เคอะไปด้วยเครื่องสำอางกำลังเหวอ และไม่นานที่นี้คงมีระเบิดลงโบมีผู้หญิงที่มีเสียงสูงแบบฟูออฟชั่น งดอุปกรณ์เสริมก็แผดเสียงลั่น








    " มาร์ค นิคุณ.......  มาร์ค   กรี๊ดดดดดดดดดด" UUUUUU 







     

    " แบมแบม"   UUU  ผมตะโกนเรียกทั้งที่ยังวิ่ง หวังว่าเด็กคนนั้นยังไม่หนีไปไกล เข้าใจเอาตัวรอดนะนัดเพื่อนงั้นเหรอนายโกหกอีกแล้ว





        ผมไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงแคร์ความรู้สึกของคนตัวเล็กนั่นละ ทั้งที่เราพึ่งเจอกันแววตาที่ใช้มองผม ตอนโบมีเข้ามา แววตาแบบนี้ผมเคยเห็นมันเมื่อหลายปีก่อน ทำไมถึงได้คล้ายกันนักละ อาจจะแปลกก็ตรงที่เมื่อหลายปีก่อนผมมองแววตานั่นด้วยความสะใจ และสมเพชแต่กับเด็กคนนี้ผมกลับมองว่ามันช่างเจ็บปวดและควรจะปลอบโยน
    เมื่อกี้ตอนเขาเรียกผมว่า ฮยอง ผมเห็นใบหน้าของเด็กอ้วนแว่นวิ่งทับซ้อน





     

       ผมคงบ้าไปกันใหญ่แล้ว ไอ้เด็กแว่นนั่นขิอายจะตายไปไม่กล้าจ้องหน้าผมด้วยซ้ำไป แต่แบมแบมแตกต่างไม่ใช่แน่นอน ไม่มีทางเป็นคนเดียวกันได้หรอก




     

    " อ้า ว  มาร์คกูว่าจะโทรหามึงอยู่พ อ....  "  ผมยืนห่างจากร้านอาหารพอสมควร หลังสมองหยุดคิดทบทวนบางอย่างจู่ก็ได้ยินเสียงคุ้นหูทักขึ้น






    " มึงจะกลับเลยมั้ย? กูจะกลับละ "  ผมรีบถามเพราะไม่อยากอยู่ที่นี้ต่อแล้วไม่แน่ โบมีอาจจะกำลังเดินหาผมอยู่ก็ได้ เธอน่ะกัดไม่ปล่อยผมรู้ดี





    " เห้ย ย กลับดิ กูติวเสร็จพอดีว่าแต่มึงเป็นไรมาร์คดูเหนื่อยๆ "  จูเนียร์ตอบและถามเพราะอาการเืพื่อนหน้าหล่อดูแปลกๆ





    " ป่าว กูแค่ปวดหัว " ผมไม่ได้โกหกแค่ยังไม่อยากเล่า






    อย่าเอาอย่างนะครับไม่ดี







    / หึ  มาร์คต้วน ผมเกลียดคุณ น้ำเสียงแผ่วเบาจากคนที่ยืนมองอยู่ในมุมหนึ่งของร้านหนังสือ /






      หลังถึงลานจอดรถผมก็ให้จูเนียร์ขับรถŽด้วยเหตุผลปวกๆที่ว่าผมปวดหัว เวลาแค่ไม่กี่นาทีแต่ผมกลับรู้สึกคุ้นเคยกับเด็กนั่นจนเหมือนไม่เข้าใจตัวเอง เด็กแบมแบม แปลกใจละสิที่ผมรู้จักชื่อเด็กนั่นก็เมื่อกี้เค้าแนะนำตัวกับพนักงานหน้าจืด มันไม่แปลกเลยสักนิดที่คนภาษาเดียวกันได้เจอกันต่างถิ่นแบบนี้ จะต้องถามสารทุกข์สุกดิบเป็ปกติ 





     

      แต่ที่ผมยังถามชื่อเด็กนั่นอยู่ เพราะต้องการทดสอบความเป็นสิบแปดมงกุฎของคนตัวเล็กตะหากละ ขนาดเมื่อเช้ายังโกหกว่ามีแฟน แล้วจะเชื่อได้ไงว่าจะไม่โกหกผมอีก ส่วนเรื่องที่เป็นลูกเสี้ยวไทยผมไม่สงสัยหรอกก็คุยจ้อซะขนาดนั้น แต่ไอ้เรื่องมีแฟนเป็นคนไทยเนี่ยสิ ควรจะตัดทิ้ง





     

    เด็กนี่โสดแน่นอนJJ















     

    Jackson & Youngjae  PART





    " ไอ้ยอง ไอ้หมูย๊อง ทำเชี่ย ยไรตรงนี้ว่ะ??  " เสียงเข้มของแจ็คสันดังขึ้นขณะมือหนาผลักประตูเข้ามา อารมณ์ที่ดีมาตลอดทั้งวันหนีตะเลิดหายไป กับภาพที่เห็นชเวยองแจหัวเราะต่อกระซิกกับชายหนุ่มคนนี้






    " แจ็คสัน !! ฉันจะมาทำอะไรนายเกี่ยวไรด้วยเล๊าF   "  ยองแจตอบกลับเสียงแข็งพรางใช้สายตาท้าทายกลับแม้จะแอบหวั่นไม่น้อย เพราะเวลานี้เขาควรอยู่ร้านชานมสถานที่กักขังอิสระตลอดการใช้หนี้ของเขา แต่วันนี้เขากลับส่งคนไปทำหน้าที่แทน แต่ก็น่าจะเจ๊ากันแล้วนี่แล้วไอ้หน้าหมีเนี่ย มายุ่งอะไรกับเขากัน?







    " เกี่ยวกับกูแน่ !!"  เสียงเข้มลอดผ่านลำคอพร้อมกับมือหนาคว้าขมับเข้าที่แขนนุ่มของยองแจเรี่ยวแรงที่อีกคนมีใช้ดึงคนร่างอวบให้เดินตามได้อย่างไม่ยาก







    " เห้ย  ปล่อยดิว่ะL "  คนเนื้อนุ่มร้องแต่มีเหรอหวังแจ็คสันจะฟังคำ ต่อให้เอารถถังมาเหยียบตอนนี้ก็ไม่มีทางปล่อยแน่ แหม หนีงานมาทำหน้าระรื่นยังไม่สำนึกผิดอีกนะ ไอ้หมูเอ้ย ย






    " ปล่อยยองแจ คุณจะพายองแจไปไหน? "  เสียงของบุคคลที่ร่างหนามองข้ามไปถามขึ้น ไอ้นี่มันยังอยู่นี่อีกเหรอ? ผมนึกว่ามันวิ่งป่าราบไปสะแล้วพอดีไม่ได้สนใจอะนะ ตอนนี้เห็นแค่หน้าไอ้หมูนี้คนเดียว







    " อย่าเสือ ก ก!!  ถ้าไม่อยากตายN  " อารมณ์เสียศูยน์ถูกส่งผ่านเสียงหนักของแจ็คสัน  และมันก็หยุดชายหนุ่มได้จริง ไม่สิ!! สายตาคมนั่นตะหากละที่บอกชายหนุ่มว่าอย่างยุ่งเรื่องยองแจ ชายหนุ่มหยุดมือไว้แค่นั้นก่อนจะใช้สายตาถามอีกคนที่ตอนนี้ดิ้นพล่านในอ้อมแขนแจ็คสัน







    " ฮยอง // เป็นบ้ารึไง? แจ็คสันปล่อยนะ ไอ้บ้าปล่อยดิว่ะ "  ยองแจหน้าหวือเพราะแจ็คสันไม่ได้ปล่อยเขาตามที่ขอแถมมือหนายังรั้วเอวเขาเข้าไปชิดอกแกร่งแน่นจนแทบจะร่วมร่าง ทำเอาสายตาคมของอีกคนยิ่งเพิ่มความสงสัย   โอย ย ยองแจอยากจะกรี๊ดแจ็คสันมึงทำ ฟวย ย อัลไลของเมิงเนี่ยUUU


     

       อาย ตอนนี้บนหน้าของเขาคงมีคำนี้แปะเต็ม แถมหน้าผมร้อนๆด้วยล่ะ ไอ้บ้าแจ็คถามจริงมึงเป็นญาติกะปลาหมึกเหรอปล่อยมือดิว้อย ย UUKK









    " อย่าดิ้นไอ้หมู  " ไม่ให้กูดิ้นมึงก็ต้องปล่อยปะวะ? ยองแจหันขวับตามเสียงเข้มที่ลอดผ่านใกล้ ใบหน้าเล็กของเขาแถมร่างกายก็ยังหยุดดิ้นตามที่อีกคนบอกอย่างว่าง่าย








    " หมูพ่อง ง  "   ผมด่ากลับถึงเสียงมันจะเบาจนแทบจะไม่ใช่คำด่าก็เถอะ เพราะไอ้คำด่าทั้งหมดผมเก็บไปด่าในใจเรียบร้อย หมูบ้านเมิงหน้าตาดีแบบกูรึไงไอ้ฮ่องกงฟุต LL โถว ว ดูสายตาคิมบอมฮยองสิต้องคิดอะไรแปลกๆแน่ๆ แล้วไอ้ที่เกาะเอวอยู่เนี่ยมือรึตีนว่ะ ใหญ่ชิพเลย!!







     

    " คิมบอมฮยอง... คือ" L






     

    " เงียบ!! แล้วมานี่ชเวยองแจ "  ไม่ว่าเปล่าคนต่างไซส์ยังดึงให้อีกคนเดินออหไปพร้อมเขา แต่เหมือนสายตาอีกคนจะยังไม่หยุดอยู่ที่ร่างหนาหรอกนะ หึ่ย!! เจ้านี่ยังกล้าหันไปส่งตาละห้อยไปให้ไอ้หน้าผักชีที่ยืนเฉาอยู่ตรงหน้าผมอย่างอาลัยอาวอน   ไม่คิดจะหันมาสนกูเลยรึไงยองแจ







       นานแล้วนะที่ผมไม่ได้มองหน้ายองแจใกล้ๆแบบนี้  ใบหน้าอวบอิ่มมักเคลือบไปด้วยรอยยิ้มJอยู่เสมอ ผิดกับเวลาที่เจอหน้าผมเจ้าตัวต้องปั้นหน้ายักษ์ใส่ทุกครั้งไป  ผมละไม่เข้าใจรึว่าเพราะเรื่องนั้นทำให้ยองแจเป็นแบบนี้




      ก็เรื่องที่ทำให้ผมเกือบมองหน้าคนตัวเล็กไม่ติดไง ส่วนผมนะเรื่องผ่านมาแล้วก็คือแล้วไปแต่กลับยองแจคงไม่ใช่สินะ ทำยังไงยองแจถึงจะกลับมาเป็นเพื่อนผมเหมือนเก่า บอกตรงๆนะผมไม่อยากเสียมันไป ผมยังหวังจะได้ยินเสียงเล็กๆนี้อยู่ตลอด






    หยุด






    อย่าคิดไกล!!!  ผมเคยคิดกับมันแค่เพื่อนยังไงทุกวันนี้ก็ยังเป็นแบบนั้น (มั้งนะ)









    นอกจากหน่วงๆที่อก









     

    เวลาที่มันยิ้มกับคนอื่นที่ไม่ใช่ผม  ก็เท่านั้น!!









     " แจ็คสันปล่อยกูเจ็บL  "  ร้องขอเสียงสั่นยองแจนิ่วหน้าเล็กน้อย  เขากำลังรู้สึกถึงแรงบีบจนเจ็บทั้งที่แขนและสะโพกมน ถึงจะอย่างนั้นมือหนาของคนต่างไซส์กันก็ยังไม่ยอมผ่อนแรงลง





    ไอ้บ้าเอ้ย สะโพกคนนะไม่ใช่ลูกยางบีบเอาบีบเอาอะ






    "  ทำไมไม่อยู่ร้าน? ตอนนี้เป็นพาสเวลาของมึงลืมแล้วหรอว่ะ? " ผมถามเลือกที่จะถามขึ้นหลังลากคนตัวนิ่มออกมาไกลจากคาเฟ่นั่นแล้ว







    " ก็กูไม่ว่าง  " เสียงเล็กตอบเสียงห้วนๆ ถึงจะยังไม่กล้าที่จะมองหน้าแจ็คสันอย่างเต็มตา ก็เวลามันอยู่ใกล้แบบนี้ใจผมมันเต้นแรงเป็นบ้าอะ อันที่จริงผมก็ไม่รู้จะตอบยังไงดีจะให้ผมบอกไอ้หน้าหมีนี่ว่าผมจ้างคนไปทำงานแทนที่ร้าน เพราะวันนี้มีนัดเดทกับคิมบอมฮยองนะเหรอ?





    มีหวังเอวกับข้อมือได้ขาดคามือไอ้บ้าพลังคนนี้แน่ละ







    " ไม่ว่าง? มานั่งแรดตรงนี้อะนะไม่ว่าง? กูไม่อยากเป็นบาริสต้าไปตลอดหรอกนะเว้ย ย " สิ้นเสียงของคนรา่งหนาทำผมหน้าชาเหมือนโดนสาดน้ำร้อนจนต้องรีบสะบัดตัว  นี่มันพูดเกินไปแล้วนะผมแค่มาเดทไม่ได้มาทำอะไรเสียหายทำไมหมอนี่ถึงได้พูดจาสิ้นคิดแบบนี้ได้ละ












    เพี้ย ยะ!!










    " แรด ก็เรื่องของกู  " ผมตะคอกใส่หมดความกลัวแล้วละตอนนี้ นี่ถ้าผมเป็นเครื่องทำน้ำอุ่นมันคงมีร้อนจนขีดสุดควันขโมงจนแทบจะระเบิดแน่ๆ แรดไม่แรดมันก็ไม่มีสิทธิมายุ่งกับผมชีวิตของผมตัวของผม








    " ยองแจ  คือกู "







     

    " อย่ามายุ่งกับชีวิตกู คิดว่ากูอยากเป็นบาริสต้าสลับกับมึงไปตลอดนักรึไง? ถ้าไม่เพราะมึงพังร้านกูก็ไม่ต้องทำอะไรแบบนี้ แล้ววันนี้กูก็คงได้เดทกับคิมบอมฮยองอย่างแฮบปี้ โดยที่ไม่มีผีหน้าหมีอย่างมึงมายุ่งด้วย หึ่ย ไอ้บ้า "  ผมด่าลั่นแล้วรีบหันหลังเผ่นหนีผีหน้าหมีอย่างไว จะอยู่ทำซากอะไรละครับ ด่ามันแบบนี้แล้วอะตัวผมงี้สั่นระริก ไม่รู้เพราะโกรธจัดรึเพราะเหนื่อยกันแน่?!








    แต่ผมจะไม่ยอมไอ้บ้าคนนี้อีกแล้ว ไอ้ฮ่องกงฟุต!!









     

    " เดท?? เหอะ งานการไม่ทำกลับมานัดผู้ชายเดทเนี่ยนะ"  มันบ้าผู้ชายขนาดนี้เลยเหรอว่ะ? เหอะ แล้วนิให้ใครอนุญาตให้มันมาเดท มันต้องขอผมก่อนสิผมกับมันสลับพาสทำงานกันน่ะ(เกี่ยว?) มันต้องขออนุญาตผมว่าให้มารึไม่ให้มา  ทีผมยังออกไปล่าแต้มไม่ได้เลยมันก็ต้องออกเดทไม่ได้เหมือนกัน








    ให้มันเหี่ยวตายด้วยกันแบบนี้ละ ไอ้หมู!!









    " งั้นมึงก็รีบกลับไปทำหน้าที่ของมึงสะสิ มั่วมาแรดแบบนี้ยิ่งเสียเวลา " แจ็คสันคนปากร้าย คือยองแจกูไมได้ตั้งใจจะว่ามึงนะ  แล้วทำไมไม่พูกออกไปทำไมพูดได้แค่ในใจ?











       คำพูดของคนร่างสูงทำความน้อยเนื้อต่ำใจวิ่งเข้ามา ร่างนิ่มนิ่งไปยองแจพยายามกลืนเอาความรู้สึกจุกแน่นพวกนั้นให้หายไป โดยใช้ลมหายใจติดขัดกดเหยียบความพูดแรงๆพวกนั้นให้จมลงพื้นดิน แล้วหันไปปั้นหน้าเพื่อบอกว่าเขาไม่รู้สึกอะไรกับคำว่าแรดที่อีกคนว่ามา













    ผมไม่รู้สึกอะไรอีกแล้วกับหวังแจ็คสัน 













    หึ    ผมโกหก












    " ก็ได้ๆ จะได้จบๆ  " ผมปรับเสียงให้ปกติแล้วรีบก้าวไปเรียกเอาแท็กซี่สักคัน เพื่อจะกลับไปร้านชานมสถานที่ที่ผมต้องรีบไปทำหน้าที่ให้เสร็จ โดยไม่คิดจะเหลียวหลังกลับไปมองไอ้บ้าคนนั้นอีก











    " เดี๋ยว ยองแจ"  ไม่เรียกป่าวร่างหนายังยื่ยมือไปคว้าแขนนิ่มไว้แน่น ไม่รู้ทำไมผมถึงทำอย่างนี้สมองมันสั่งให้คว้าแขนยองแจไว้ ก่อนที่คนๆนี้จะเดินหนีคนตัวเล็กเห็นมาแยกเขี้ยวใส่   " กูไปส่ง " ผมพูดออกไปแบบนั้นแต่ร่างนิ่มๆนี้กลับปฎิเสธอย่างไร้เยื่อใย  










    " ไม่ต้อง!!  "









     

    " กูจะไปส่ง " ผมย้ำอีกครั้งและเหมือนยองแจจะสะบัดมือหนี ซึ่งผมรู้อยู่แล้วว่าเจ้านี่มันไม่ฟังคำผมหรอก มันดื้อ แต่อย่าลืมสิผมก็ดื้อเหมือนกัน มีเหรอแรงหมูจะสู้แรงหมีอย่างผม








     

    ให้ทายว่าผมปล่อยมือมันรึป่าว??








    ปิง ป๊อง ง 







    ไม่ได้ปล่อย ถูกต้มนะคร้าบ บ บ บ  ^__^









    " กูไปเองได้ ปล่อยดิว่ะ!! "  ผมไม่รู้หรอกว่าแจ็คสันมันจะมาไม้ไหน และที่ไม่รู้อีกอย่างคือตอนนี้หน้าของผมแดงรึป่าว/ แต่รู้ว่ามันร้อนๆ ร้อนจนต้องก้มหน้าเพราะไม่สามารถสะบัดฝ่ามือใหญ่ที่ตอนนี้กุมมือผมแน่น










    แน่นซะยิ่งกว่าปลิง











    ผมไม่ใช่เด็กน่ะผมเดินข้ามถนนเองได้ ชิส!!!










    " ขึ้นรถ กูอุ้มหมูขึ้นรถไม่ไหวหรอกนะ^___< "  แจ็คสันบอกขณะมองคนตัวอวบข้างๆ ที่ยังเหม่อไม่หยุด









       เห้ย ยนี่ผมเหม่อจนโดนลากมาอีกฝั่งถนนแล้วเหรอ? ยังไม่รุ้ตัวอะนะ? ไหนจะแท็กซี่จอดรับนี่อีก ผมเหลือบมองคนบ้าพลังยืนผายมือส่งสัญญานให้ผมขึ้นรถสักทีมันจะเป็นความทรงจำที่ดีมากถ้ามันไม่ปากหมาจนทำให้เสียบรรยากาศสะก่อน








    " ลุงครับไป X X X X "










      บนถนนสายยาวระยะทางยังอีกไกลกว่าจะถึงจุดหมายของบาริสต้าทั้งสอง ผู้โดยสารเบาะหลังนั่งนิ่งไร้ซึ่งเสียงพูดจา จนลุงคนขับต้องกดเปิดเพลงคลอกล่อมอารมณ์ให้ผ่อนคลายลง หากสังเกตดีๆละก็จะได้เห็นหน่วยตาคมของแจ็คสันคอยเหลือบมองเสี้ยวหน้าคนที่เพิ่งตบเขาอยู่เป็นระยะ  ผิดกับยองแจที่ไม่มองแต่เสี้ยวเงาของแจ็คสัน อาจเพราะกำลังปรับลมหายใจให้มันเลิกติดขัดสะที









    นี่เขาเป็นอะไร มันไม่ใช่เวลาที่จะมาใจสั่นนะ!! 









    ทำไมถึงไม่กล้าหันไปมองหน้าไอ้บ้าแจ็คสันตรงๆนะ ทำไมถึงได้ขิขลาดแบบนี้ยองแจอ่า








     

      คนตัวสูงผ่อนลมหายใจยาว ความเย็นจากแอร์รถเพิ่งจะทำให้เขารู้สึกชานิดๆที่แก้มซ้าย มือหนายกขึ้นลูบเบาๆ พลันสมองก็คิดไปถึงเรื่องเก่าของเขาทั้งสองคน สถานะคำว่าเพื่อนนั้นมันเปลี่ยนไปก็ตั้งแต่ยองแจบอกชอบเขา ชอบในแบบที่เพื่อนไม่ได้ให้กัน ชอบในแบบที่แจ็คสันให้กับอีกคนไม่ได้










       คนตัวสูงไม่ได้นึกรังเกียจยองแจ  และเขาไม่ได้โมโหที่คนตัวเล็กมาบอกอะไรแบบนั้น แต่แจ็คสันอยากให้คำว่าเพื่อนยังคงอยู่กับเขาและยองแจไปนานๆ รึเพราะไม่เคยรักใครมากไปกว่าตัวเองแจ็คสันจึง
    ไม่อาจจะเชื่อว่าตัวเองจะเป็นคนรักที่ดีได้ จึงเลือกบอกปัดความรู้สึกดีๆนั้นไป แต่เมื่อเวลาผ่านแจ็คสันชักไม่แน่ใจแล้ว ว่าความรู้สึกที่เขาปัดทิ้งไปวันนั้นมันกำลังจะมีอิทธิพลกับเขามากขึ้น








     

      แม้จะปฏิเสธและพยายามปรับตัวให้เป็นปกติเสมอมา เพื่อสถานะที่เขาต้องการแต่เพราะยองแจเองมาไกลเกินกว่าจะกลับไปเป็นเพื่อนที่ดีได้ เขาทั้งสองจึงกลายมาเป็นคู่กัดกันจนวันนี้ คนตัวเล็กเลือกที่จะออกห่างจากเขา มันห่างอย่างน่าใจหายไม่ว่าจะเป็นขอย้ายคณะ เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์หรือแม้กระทั่งย้ายบ้าน แล้วแจ็คสันจะรู้มั้ยว่านั่นเป็นช่วงเวลาที่ทรมานที่สุดในชีวิตชเวยองแจ











     คุณเคยแอบรักเพื่อนรึป่าวครับ? ถ้าเคยคุณคงเป็นแบบผมแล้วละ สมมุติว่าวันหนึ่งคุณบอกเขาให้รู้และเขาปฏิเสธมัน อาจจะไม่ต่อว่ารึด่าทอแต่หากเขามองคุณเป็นแค่อากาศ คุณจะทำไง?จะอยู่มองเขาต่อไปได้รึป่าวละครับ? ถึงพวกคุณทำได้









    แต่ผม...............

    ..........ผมทำไม่ได้









    " อย่าเหม่อ ลงมาได้แล้ว "  เสียงกระซิบที่ไม่เบามากนักดึงสติผมหยุดความคิดวุ่นวายพวกนั้นลง และหันไปตามต้นเสียง ตอนนี้หน้าหมีของแจ็คสันอยู่ห่างจากผมไม่ถึงฝ่ามือจนผมมองเห็นริ้วแดงซึ่งเกิดจากน้ำมือผมเองโชว์หลาอยู่บนหน้าหล่อนั้น ทำเอาทำอะไรไม่ถูกเลย

       นี่ผมตบมันแรงขนาดนี้เลยเหรอ? ผมลุบตาลงไม่ใช่เพราะรู้สึกผิดนะไอ้บ้านี่หาเรื่องเอง แต่เพราะตาคมนั้นตะหากละที่ทำให้ผมไม่อยากมองต่อ










    " ลงมายองแจรึว่าจะ....."   แจ็คสันพูดอีกครั้งพร้อมยื่นมือเข้ามาหวังจะอุ้มอีกคนลงรถ








     

    " เห้ย ย!! ไม่ต้องๆกูมีขา ไอ้เชี่ย ย " ผมด่าพรวดโบกมือเบรกไอ้หมีทันที แถมด้วยยกเท้างามๆส่งไปหามือหนานั่นแทน จนลุงคนขับหัวเราะร่าพร้อมหันไปทางแจ็คสันที่อมยิ้มส่งมาทางผม










    จำไว้เลยลุง.....ผมจะไม่ขึ้นแท็กซี่ลุงอีกเลย เชอะ!!











    " เอ่อมีขาก็รีบๆลงมาสิครับ คุณยองแจ ลุงจะได้ไปวิ่งต่อที่อื่น แล้วก้รีบเดินตามมาละ " แจ็คสันว่าขึ้นก่อนขายาวก้าวนำผมเข้าไปในร้าน แต่มีเหรอที่ผมจะตามเข้าไปง่ายๆ ไหนๆวันนี้ผมก็จ้างคนมาทำหน้าที่แทนแล้ว เขาต้องทำงานให้คุ้มค่าจ้างสิจริงมั้ย? 











       มองง่ายๆ ผมกับแจ็คเดินหันหลังให้กันคนละทางเลยตะหากละ ไอ้หน้าปลานิลนั่นเดินชิลๆเข้าไปในร้านส่วนผมเดินตัวปลิวเตรียมข้ามไปทางสวนสาธารณะโยนัมจาแทน





















     

    JACK   PART






        ยองแจก็คือยองแจ ถ้าไม่เผลอไม่บังคับคงไม่ได้อยู่ใกล้คนตัวนิ่มง่ายๆ วันนี้ผมจับมือไอ้หมูหลายครั้ง มือมันยิ่งนิ่มเหมือนเดิมเดี๊ยะ(เคยจับ?) คำด่าของมันเจ็บแสบไม่มีใครเกิ๊น เมื่อกี้คงเหม่อลอยถึงไอ้หน้าผักชีนั่นแน่  แต่ผมเหม่อไปก็เท่านั้นป่านนี้มันคงไปแดนซ์ต่อที่ไหนสักแห่งแล้วมั้งใครจะรอหมูอย่างมัน ยองแจมันไม่ระวังตัวไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าไอ้นั่นมองมันด้วยสายตายังไง ถ้ารวมร่างได้มันคงทำไปแล้ว





    " อ้าว ฮยองลืมอะไรรึป่าวครับ? "  เสียงเรียกของฮันบิลทำให้แจ็คสันหันตาม  " ป่าว เอาคนมาส่ง "  ตอบกลับเสียงดังหวังว่าคนที่เดินตามหลังมาจะได้ยิน

           เผื่จะมองเห็นความหวังดีของเพื่อนอย่างเขาบ้างที่สำคัญผมจะไม่ยอมให้มันคาดสายตา  ก็มันชอบหนีเที่ยวไง?ถ้ามันหนีบ่อยๆผมไม่ต้องเป็นบาริสต้าไปตลอดเหรอ 







    ผมมีเหตุผลนะ !! คร้าบ บ 






    " ส่ง ส่งใครเหรอครับ? " 




    " ก็ยองแจไง " แจ็คสันเฉลยนี่ฮันบิลมันมองไม่เห็นยองแจเหรอ หมอมันเป็นหมูนะ ไม่ใช่มด มึงคงต้องไปเช็คสายตาแล้ว ฮันบิล!?



    " หือ? ไหนฮะยองแจฮยองไม่เห็นมี เห็นแต่บาริสต้าคนโน่นอะที่ฮยองเค้าส่งมา วันนี้ร้านเราเลยมีลูกค้าสาวๆเพียบ "  คำตอบจากฮันบิลทำแจ็คสันเลือดขึ้นหน้า หนอย ย อุตสาห์มาส่งดันจ้างคนมาแทนซ้ำร้ายตอนนี้ก็หนีหายไปแล้ว



    " แสบนักนะ " แจ็คสันกัดฟันกรอดๆ ก่อนขายาวจะรีบก้าวออกจากร้านทิ้งให้หนุ่มรุ่นน้องอย่างฮันบิลยืนเกาหัวด้วยความงุนงง แจ็คสันฮยอง ปจด.ไม่มารึป่าวนะสงสัยจัง?

















    " หึ่ย ย ไอ้บ้า คนอุตสาห์ส่งมือดีไปแทนแล้วแท้ๆ ยังตามไปลากกลับมาอีกจนได้ บ้าเอ้ยแล้วงี้จะตอบคิมบอมฮยองว่าไงดีละ ตาย ตาย ไอ้แจ็คหน้าหมี ไอ้..... "  เสียงต่อว่าจากปากอวบทำให้แจ็คสันเดินตามต้นเสียงได้ไม่ยาก ก็เมื่อตอนที่เดินออกจากร้านเขาถาม พนักงานที่เพิ่งกลับจากทิ้งขยะว่าเห็นยิงแจบ้างมั้ย คำตอบนั้นทำให้เขามาที่นี้




    " ไอ้อะไร ? " เสียงแหบจากด้านหลังทำเจ้าตัวสะดุง มันตามมาได้ไง? ไอ้นี่ติดจีพีเอสตามตัวเขาแน่



    " เชี่ย ย มาเมื่อไหร่? "  
        แน่นอนว่าไอ้หมูมันตกใจมากที่ผมตามมันเจอ แล้วมันก็ปล่อยเชี่ยใส่หน้าผมอีกจนได้  
    " ด่ากูจังน่ะ " แจ็คสันยังเสียงเรียบไม่ได้มีทีท่าตอบโต้ ใจเย็นลูกพ่อเรื่องนี้ใสๆ




    " ก็มึงเดินมาเงียบๆ ตกใจดิ " ยองแจแย้งกลับใบหน้าอิ่มดูไม่สบอารมณ์



    " ถ้าไม่เดินเงียบๆจะได้ยินมึงด่าเหรอว่ะ? เหอะ เดี๋ยวนี้กล้าส่งคนมาแทนเชียวนะถ้าแจบอมเค้ารู้ มึงได้ลากสังขารมาเป็นบริสต้าไปจนตายแน่ว่ะ? " แจ็คสันกดยิ้มหลังคิดแผนดีๆได้ เขายกเอาชื่อเจ้าของร้านมาขู่อดีตเพื่อนสนิทแน่นอนว่ายองแจเริ่มหายใจติดขัด



    " มึงจะเอาเรื่องนี้ไปบอกฮยองรึไง? คิดว่าฮยองเชื่อเหรอ ชิ!! "




    " ลองดูมั้ย? ชเวยองแจ กูรู้ว่าเค้าเข้าข้างมึงแน่ แต่ถ้ากูมีพยานเป็นคลิปคำพูดที่มันเพิ่งหลุดจากปากมึงล่ะ?มึงคิดว่าเค้าจะยังเข้าข้างป่ะว่ะ "  ว่าแล้วมือหนาก็ยกสมานโฟนขึ้นมาหน้าจอแสดงแอพพิเคชั่นการอัดคลิปเสียงชัดเจน จนคนอวบต้องอ้าปากหวอ




    นิแจ็คสันมันเจ้าเล่ห์ ขิฟ้องขนาดนี้เลยเหรอผมไม่เห็นเคยรู้เรื่อง  " ไอ้ขิฟ้อง " เสียงเล็กพึมพำ




     

    " อะอะ กูได้ยินนะครับ อืม คลิปนี้อาจจะทำให้แจบอมปลดกูจากการเป็นบาริสต้าก็ได้ว่ามั้ยล่ะ? คนที่ตั้งใจกับ คนไม่ตั้งใจชดเชยค่าเสียหายมึงว่าเค้าจะทำไง? "  แจ็คสันท้าทายด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ เข้าข่มขู่ยองแจที่ตอนนี้ใบหน้าอวบเริ่มถอดสี



    " ลบมันทิ้งสะ!!!  "



     

    " สั่งกู? น่ากลัวตายเลย " แจ็คสันอมยิ้มทั้งที่ถูกยองแจหันมาแวดใส่แต่เขาก็ยังทำหน้าระรื่นได้  ผมคงกำลังเป็นบ้าแน่ๆมันมีความสุขแปลกๆ



    " ขอร้องละ ฉันไม่กลัวที่ต้องเป็นบาริสต้าไปตลอดหรอก แต่ไม่อยากให้แจบอมฮยองต้องมาได้ยินอะไรแบบนี้ "



    " ว้าว ถึงกับร้องขอกันเลย อืม น่าสงสารแฮะ " น้ำเสียงคนตรงหน้าเหมือนจะทำให้แจ็คสันใจอ่อน แต่มีเหรอโอกาสทองแบบนี้เขาจะปล่อยไปง่ายๆ ยองแจเอาแต่จ้องแจ็คสัน อย่างรอคำตอบหวังว่าอีกคนจะยอมทำตามที่เขาขอ



    " น่าจะมีข้อเสนอมาแลกเปลี่ยน "


     

    " ข้อเสนอเหรอ?  ย๊าส์แจ็คสันนายนิมัน " ยองแจปรี้ดแตกทั้งที่อารมณ์สงบไปแล้ว แต่แจ็คสันก็เป็นตัวเรียกเลือดให้กลับมาได้ไม่ยาก 



     

    " หึ  ยองแจอ่ามึงพลาดแล้ว " คนต่างไซส์เดินเข้าไปกระซิบใกล้ๆ พอให้ตกใจเล่น จังหวะนั้นมือหนาก็รวบเอามือนิ่มมากลุ้มไว้ ก่อนจะตัดการปฏิเสธจากอีกคนด้วยการออกคำสั่งที่เหมือนเป็นการแลกเปลี่ยน  "กูหิวข้าว "

       สิ้นเสียงขายาวก็พาเอาร่างหนามายืนประชิดคนตัวนิ่มสะแล้ว ยองแจถอนหายใจหนัก แล้วเหลือบมองแจ็คสันก่อนจะถดตัวถอยห่างไม่ต่างจากริมฝีปากบางที่ยังทำงานได้ดีว่องไวเข้ากับความคิดในสมองเล็กเช่นเคย 





    " หิวข้าว?  ไปบอกพ่อ ง มึงประกาศออกมิวสิคแบงไป๊ไอ้บ้า ไม่ตลก"  ผมตะหวาดไอ้หน้าหมีและยังไปดึงเอาพ่อง งมันมาเกี่ยวด้วย 




    " ก็ไม่ตลกไง ปะไปกินข้าวเถอะน่า "  เสียงรบเร้าของแจ็คสันไม่ได้เข้าโสตประสาทหูเท่ากับ มือหนาที่ยังคงกุมมือของเขาแน่น แจ็คสันออกแรงไม่มากดึงให้อีกคนก้าวเดินตาม  "  ปล่อยจะไปไหนเนี่ย? "  ยองแจถามซ้ำยังพยามแกะปลาหมึกออกจากมือไม่หยุด สงสัยสมองจะเลอะเรือนเมื่อกี้เพิ่งบอกมันหยกๆว่าหิวข้าว ดึงมาแบบนี้คงจะลากเข้าโรงแรมละมั้ง? ไอ้หมูเอ้ย ย




     

    " ก็ไปหาไรให้หมูแรดกับหมีหล่อแดรกไง " แจ็คสันบอกแล้วโน้มใบหน้าลงจนเกือบชิดแก้มเนียน ใจดวงน้อยเต้นระส่ำแต่ทุกอย่างก็จบลง เพราะคำว่า หมูแรด กับ หมีหล่อ  หล่อพ่องง งดิ ไอ้หมีฟาย





    " ไอ้บ้า ฉันไม่ได้หิวข้าว "  ยองแจทักท้วงเสียงเล็กดูขาดหายไปมาก คงเพราะตั้งแต่ได้กลิ่นโคออลพัดผ่านอันที่จริงผมก็หิวนะ หิวมากด้วยแต่จะยอมรับมันก็เสียฟอร์มเพื่อ?  " กรอก ก ก "




    หะ หะ ท้องมึงมันทรยศว่ะและอย่าพูดว่าไม่หิวนะมึง เดี๋ยวจะจับกินแทนข้าวสะเลย แจ็คสันแยกเคี้ยวใส่ มันคงเป็นคำขู่ที่แจ็คสันจำไม่ว่า มันไม่ได้ทำให้คนกลัวแต่มันทำให้คนน่าแดงตะหาก





     “ ฉันเดินเองได้ ปล่อยได้แล้ว ยองแจมือนิ่มขยับยุกยิก  “ ไม่เอา เดี๋ยวมึงหนี “ แจ็คสันยักคิ้วแล้วตัดบทแถมเขายังกระชับมือนิ่มจนคนเจ้าของมือหมดอิสระ ใบหน้าอิ่มซึ่งแดงอยู่แล้วยิ่งแดงไปใหญ่







    ทำแบบนี้แล้วเมื่อไหร่ล่ะ กูจะกลับไปเป็นเพื่อนของมึงอย่างสนิทใจได้สักทีแจ็คสัน//












    เป็นไงมั่ง โทษทีน๊าไปเดินเที่ยวเล่นมาไงก็มาอัพแล้ว /ก้มหัว/ 







    พาสนี้จะยาวหน่อย ชดเชยให้ ^__________________6










    SF // @win
     








     

    เย้เย้ พาสนี้มีผมด้วยละ ^^


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×