ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] love is lodged เปลี่ยนรัก #markbam ft.GOT7

    ลำดับตอนที่ #22 : SF/OS คู่ชีวิต(พังงานแต่ง) mark&bam PA1 ครบ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.28K
      6
      17 พ.ค. 58






    OS/SF


    พังงานแต่ง!!




     




     

    เจ้าสาว ชั่วโมงเดียว  พาส!!



           นี้คงเป็นเช้าวันที่สำคัญในชีวิตอีกวันหนึ่ง  ผมกำลังจะแต่งงาน แต่งกับผู้ชายที่เฟอร์เฟคมากคนหนึ่ง สูงโปร่งใบหน้าหล่อคม  อืม? ผมฟังเขาบรรยายมาอีกทอดหนึ่ง ทุกอย่างคงจะดีกว่านี้ถ้าผมไม่ได้เกิดมาเป็นผู้ชายและเขาเองก็ไม่ได้มีใครอยู่ก่อน




           ในเวลาแบบนี้ผมแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากนั่งเป็นตุ๊กตาให้คนกลุ่มหนึ่งจัดแต่งหน้าและทรงผม  เอาจริงๆไม่ค่อยจะชอบพวกเครื่องสำอางที่กลิ่นฉุนซักเท่าไหร่  ก็เลยคอยขยับตัวบ่อยๆยามเมื่อเครื่องประทินผิวพวกนั้นละเลงลงใบหน้าและร่างกาย  จำได้ว่าสองสัปดาห์ก่อนแต่งงานก็ยังไม่เจอหน้าเจ้าบ่าว  มันไม่ได้เป็นเข็ดอะไรหรอกเพียงแต่คนๆนั้นอยู่กับใครอีกคน   การแต่งงานของเราถูกจัดการโดยพ่อแม่ผู้มีเงินและอำนาจแม้ผมจะปฎิเสธแต่ก็ไม่สามารถยกเลิกมันได้




           ผมกับเขาเราไม่เคยเจอกันและคงไม่หวังว่าชีวิตคู่มันจะเรียบง่ายเหมือนผ้าผืนสวย  มันคงจะเหมือนยีนส์ตัวเก่งที่ขาดเหวิ่นและเหม็นเน่า  เรื่องราวของเจ้าบ่าวมันเยอะสะจนทำให้ผมไม่อยากเจอหน้าเขา  เมื่อปลายคริสมาสปีที่แล้วแม่ผมนัดบอดให้เราสองคนได้เจอกันแต่ผมเป็นคนที่ไม่ไปตามนัดเอง  และหลังจากนั้นในวันวาเลนไทน์ของปีถัดมาเขาก็ผิดนัดจากการนัดบอดจากพ่อเขา.......ถือว่าเราเจ๊ากัน







    " คุณหนู  คิดอะไรอยู่เหรอค่ะ?





     

    " ป่าว  ผมแค่เหนื่อยๆ " เมสสาวที่ผมคุ้นหน้าที่สุดในบ้านเอ่ยถาม เฮ่อ ให้ตายสิผมจำชื่อเธอไม่ได้ด้วยซ้ำรู้แค่ว่าเธออยู่ที่นี้มามากกว่าสามปี







    " เพราะตื่นไวใช่มั้ยค่ะ?  นมสักแก้วมั้ยค่ะคุณหนู"     เธอถาม ตอนนี้ทั้งห้องมีแค่ผมกับเธอ 







    " ขอกาแฟดีกว่า "






    " แต่....."






    " ห้ามดื่มกาแฟมันจะทำให้ลูกดูอ่อนล้าในงานเลี้ยงคืนนี้  "  ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะเสียงของมารดาทำให้ทำหมดหวัง ทำไมละก็แค่ดื่มกาแฟ





    " จะอะไรหนักหนา"





    " แม่อยากให้ลูกของแม่ดูดีที่สุดจ๊ะ " แม่กระทั่งกาแฟงั้นเหรอ? เชื่อสิ ถ้าผมพูดแบบนี้เธอได้วีนแตกแน่นอน  





    " หึ ผมจะดูดีกว่านี้ถ้าแต่งงานกับผู้หญิง ไม่ใช่ไอ้กระหล่อนนั่น "    ผมเถียง แม่มีสีหน้าไม่พอใจเธอไล่แมสของผมออกไปและรีบปิดประตูเสียงดัง






    " แต่ลูกต้องแต่งงานกับพี่เขา  ลูกถอยไม่ได้แล้ว "





    " ผมถอยได้ แม่กับพ่อต่างหากที่ถอยไม่ได้  ออกไปเถอะ ผมจะงีบหน่อย " ผมลากขามาที่เตียงก่อนจะทิ้งตัวลงนอนเพราะผมยังไม่ได้สวมสูทจึงสามารถเอนกายได้จนกว่าว่าที่เจ้าบ่าวจะมาถึง แต่ก็ไม่หลับหรอก ใครจะหลับลงละไม่มีทาง






    " แล้วอีกชั่วโมงแม่จะมาเรียก "





    " ตามใจ แล้วอย่าลืมใส่รหัสยากๆละเดี๋ยวผมหนีได้  "  ผมพูดประชดประตูโรงแรมเป็นแบบรหัสและผมรู้ว่าต่อให้มันไม่มีรหัสผมก็หนีไม่ได้  ที่นี้การ์ดเต็มไปหมดผมเห็นตั้งแต่วินาทีแรกที่ลงจากรถแล้ว แม่ทำเหมือนผมเป็นนักโทษ แล้วแม่จะเสียใจที่จัดงานนี้ขึ้นมา  เพราะรู้มาว่าวันนี้เจ้าบ่าวมีเซอร์ไฟส์ด้วย













    " คุณหนูค่ะ  คุณนายให้มาปลุก "  ได้ยินเสียงเรียกจากเมส ครบชั่วโมงแล้วละสิ ก็ดีที่ผมตื่นมาพร้อมกับความรู้สึกสดชื่นกว่าเมื่อกี้เยอะ



         คงได้เวลาดูเซอร์ไฟส์แล้ว  เมสรีบแต่งตัวให้ผมเรียบร้อยได้ในเวลาไม่นาน  ผู้คนด้านล่างมากมายมางานแต่งจอมปลอมนี้  แสงไฟและผู้คนงานด้านล่างทำให้รู้สึกประหม่าเล็กน้อยแต่ถ้าเทียบกับเซอร์ไฟส์และอิสระที่จะได้รับผมว่าคุ้ม  ใครจะอยากใช้ชีวิตอยู่กับคนที่ไม่เคยเจอหน้า ไม่เคยเรียนรู้กันและกันแถมยังเจ้าชู้เป็นกรด






    " เอาล่ะครับ  แขกผู้มีเกียรติทุกท่านตอนนี้ได้เวลาที่เราจะได้เจอหน้าเจ้าสาวของวันนี้กันแล้ว "  เสียงทุ้มของพิธีกรประจำงานเอ่ย  มันช่างเรียกความสนใจในขณะที่ผมกำลังถูกเมสพาเดินเข้าในงานได้เป็นอย่างดี  ทุกคนในงานเงียบเสียงลง ตอนนี้ผมถูกปิดหน้าด้วยผ้าสีขาวและมองเห็นเพียงทางเท้าที่กำลังก้าวเดินกับหัวใจที่เต้นแรง





    " ยินดีกับเจ้าบ่าวและเจ้าสาวด้วย ลูกรักทั้งสอง "


      


    " ขอบคุณครับ คุณพ่อ"  มีเสียงตอบรับจากคนที่เอ่ยคำยินดี  ผมมองเห็นเพียงรองเท้าของเขาและเดาได้ง่ายเหลือเกินว่าคนที่เอ่ยยินดีนั้นคือบาทหลวง






    " ขอบคุณครับ"   ผมพูดบ้าง  และได้ยินเสียงถอนหายใจจากเจ้าของรองเท้าสีดำข้างๆ คนๆนี้คือเจ้าบ่าว  จากนั้นพิธีการก็เริ่มต้นขึ้น   บาทหลวงนำกล่าวคำมั่นสัญญาต่อกัน เสียงของเจ้าบ่าวขานรับดังและชัดเจนผิดกับผมที่แค่เอ่ยรับเบาๆแบบขอไปที






    " ลูกจะรับเธอเป็นภรรยาที่ถูกต้องด้วยใจรักและซื่อสัตย์หรือไม่? "





    " รับครับ!!  "






    " แล้วลูกล่ะจะรับเขาเป็นสามีที่ถูกต้องด้วยใจรักและซื่อสัตย์หรือไม่? "






    " ครับ  " ผมน่ะปฏิเสธได้ด้วยเหรอ?






    " แล้วมีใครในสถานที่แห่งนี้จะคัดค้านคนทั้งสองหรือไม่? "







    " ฉันคัดค้าน!!!"เสียงแหลมจากทางเข้าตะโกนเสียงดังผมได้ยินเสียงหัวเราะของเจ้าบ่าวดังเข้าหูเป็นระยะ ดีนะที่เขาทำแบบนี้ผมจะได้ไม่ต้องเสียเวลาหนีแม่เพราะต่อไปนี้แม่คงไม่สามารถบังคับผมได้เพราะงานนี้เจ้าบ่าวทำป่วนสะเอง






    " ปิงโก!!"




    " ว่าอะไรน่ะ? "







    " หึ  เกมส์โอเว่อร์แล้วมีคนคัดค้าน ขอบคุณมากผมจะได้ไม่ต้องเสียเวลาหนีแม่ "   ผมบอกเขาแล้วดึงผ้าผืนบางที่ปกปิดใบหน้าออกทันที






















    เจ้าบ่าว  ชั่วโมงเดียว  พาส




    " หึ  เกมส์โอเว่อร์ไง ขอบคุณมากผมจะได้ไม่ต้องเสียเวลาหนีแม่ "  เสียงเล็กว่า เจ้าสาวของผมดูจากมือไม้แล้วอ่อนแอสิ้นดี  ผมไม่ได้ชอบผู้ชายแต่ก็ไม่รังเกียจเพราะการมีเซ็กส์กับผู้ชายไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องแปลก  แต่แล้วเจ้าสาวคนนี้ก็ทำให้ผมต้องคิดใหม่  ใบหน้าหวานและเล็กมากถ้าเทียบกับหน้าของผม ริมฝีปากสีสดผมไม่คิดว่านั้นคือเครื่องสำอางเพราะมันดูเหมาะกับสีหน้าที่เขาแสดงออกมา  แน่ใจเหรอ?ว่านี่คือผู้ชาย





    " ผู้ชาย?จริงๆเหรอว่ะ "






    " เออดิ  "   เสียงเล็กตอบ ท่าทางและใบหน้าหวานมันขัดกับคำพูดจนผมต้องมองกลับหัว ท้องใส้ป่วนไปหมดแล้วตอนนี้ ผิวของเขาเนียนละเอียดยิ่งกว่าผู้หญิงที่ผมนอนด้วยเมื่อคืนสะอีก







    " ขอโทษด้วยนะครับคุณพ่อ ที่งานนี้มีคนคัดค้านผมว่าคุณพ่อกลับโบสถ์ไปดีกว่า งานล่มแล้ว "  ร่างเล็กว่าขึ้นจากนั้นร่างบางก็โค้งตัวให้บาทหลวงตรงหน้า  ไอ้ผมได้แต่มองนิ่งๆไม่น่าเชื่อเด็กนี่เป็นผู้ชายจริงๆ






    " แกทำอะไรของแก  ห๊ะ!! " เสียงของพ่อทำให้ผมได้สติ  ผมไม่อยากแต่งกับผู้ชายและผมยังไม่พร้อมเรื่องการแต่งงาน แต่ถ้าผมรู้ว่าเจ้าสาวของผมสวยขนาดนี้บางทีผมอาจจะเปลี่ยนใจ







    " มีคนคัดค้าน พ่อก็เห็นและเธอก็เป็นแฟนผม  "



      

    " แฟนรึเมีย ห๊ะ!!"







    " ก็ประมาณนั้น"      ผมหันไปหาพ่อ พ่อผู้ที่ไม่เคยเข้าใจชีวิตผมเลยสัดนิด ทุกคนในงานเริ่มพูดจ่อแจขึ้นเสียงของพวกเขาอาจจะทำให้พ่อของผมไมเกรนถามหา มารดาของร่างเล็กเดินเข้าไปคุยบางอย่างกับแม่และพ่อของผมสีหน้าของเธอผิดหวังสุดๆ 






    " แม่ครับ  ผมอยากกลับแล้ว"    เสียงหวานเอ่ย  การ์ดของเขาเข้ามาล้อมตัวคุณหนูของตระกูลดังไว้ สีหน้าเศร้าของเขาที่แสดงออกมามันช่างขัดกับริมฝีปากบางที่กำลังยกมาทางผมยิ่งนัก  หึ  เด็กนี่ร้ายกาจ






    " ฉันผิดหวังจริงๆ  เราคงต้องขาดกันในวันนี้"






    " เอ่อ  คุณหญิงฮัน คือทางเรา"   พ่อผมเอ่ยติดๆขัด







    " พ่อจะแก้ตัวทำไม บอกไปดิผมมีเมียแล้ว ใครจะแต่งงานกับผู้ชายด้วยกันได้  "  ด้วยอารมณ์ที่โมโหทำให้ผมเอ่ยแบบนั้น พ่อคงเสียหน้าแต่ดีกว่าถ้าผมต้องอยู่กับใครที่ไม่ชอบ แม้จะเพิ่งรู้เมื่อกี้ว่าเขาสวยและน่าแต่งงานด้วยก็ตาม







    " เหอะ!!  ลูกชายของคุณเป็นคนตรงดีนะคะ"






    " ฮันนา  ผมบอกให้กลับได้แล้วไม่มีความจำเป็นที่แม่จะต้องอยู่ที่นี้ต่อ "   คนตัวบางแทรกเข้ามากลางวงเขาใช้มือเล็กรวบมือของมารดาไว้  พอดิบพอดีกับช่างภาพนักข่าวภายในงานที่ต่างก็รัวกดชัตเตอร์ไม่ยั้งตั้งแต่วินาทีแรกของงานแล้วด้วยซ้ำไป






    " มาร์คค่ะ  เราไปกันดีกว่า"   มือเรียวของคู่ขาคนเมื่อคืนของผมทำหน้าที่ได้อยากไม่มีบกพร่อง สมกับค่าจ้างที่เธอได้รับ







    " ไปสิ "






    " เดี๋ยว!!"








    เพี้ยะ!!!     ผมรู้สึกชาตั้งแต่ด้านแก้มซ้ายยันกลางหน้าผา เลื่อนลงมายันมือข้างขวา  มือหนักฉิบหายตัวแค่นี้







    " นี่สำหรับแม่ของกูที่ตื่นมาที่นี้ตั้งแต่เช้า"








    เพี้ยะ!!









    " และนี่สำหรับพ่อแม่ของมึงและแขกในงาน"








    เพี้ยะ!!








    " และนี่ของกู แบมแบม "  คนตัวเล็กชื่อแบมแบมงั้นเหรอ  แปลกมั้ยละผมไม่เคยรู้จักชื่อเขาด้วยซ้ำเพราะไม่คิดจะถามและไม่สนใจ แต่ต่อจากนี้ผมคงต้องจำชื่อนี้ให้ขึ้นใจสะแล้วล่ะ 








    'แบมแบม'





















     

    มาร์ค  พาส!!  



             8ปีหลังจากผ่านช่วงมรสุมแสนสาหัสในช่วงชีวิตที่ผ่านมา  ผมขอไม่เท้าความอะไรต่อแล้วล่ะมันเจ็บช้ำระกำทรวจจริงๆ  หลังงานแต่งล้มผมก็ถูกกักบริเวณเพื่อนฝูงก็ห้ามคบ  ไม่เจอหน้าสาวๆคนไหนเลยอดอยากมาก เอาละผมคงโอเวอร์เกินไปอันที่จริงก็แค่เข้าไปทำงานที่บริษัทกับพ่อทุกวันและกลับบ้านตรงเวลา  แต่นั่นคือข้อดีที่ผมได้มีโอกาศอ่านหนังสือมากขึ้นจิตใจสงบขึ้นและยังสำนึกผิดมากขึ้นอีกด้วย 

             ทุกครั้งที่อยู่คนเดียวภาพใบหน้าของเจ้าสาวชั่วโมงเดียวในวันนั้นยังคงฉายชัดเด็กหนุ่มร่างบางอายุ 17  ยังสามารถติดอยู่ในความทรงจำของผมเสมอ  เสียงของเขาและใบหน้าเครียดแค้นนั้นทำให้ผมในวันนี้สำนึกได้หากวันนั้นผมแต่งงานกับเขา ไม่ว่าจะรักและชอบหรือไม่วันนี้ผมคงมีเมียที่น่าฟัดมากคนนั้นโดยไม่ต้องไปหาเศษหาเลยที่คลับไหนอีก  ไม่สิ  ผมคงถูกจับได้ว่าหนีเที่ยวคลับทุกวันและเราทั้งสองคงต้องหย่ากัน แหง๋ๆละ




    " พรุ่งนี้เราต้องไปงานการกุศลกันนะคะคุณ กลับบ้านเร็วกว่าเดิมนะคะ "  เสียงของแม่หวานชื่นเมื่อยามเธออารมณ์ดีนานมาแล้วที่เธอไม่ได้ตะตอกหรือโวยวายก็ตั้งแต่วันนั้นนั่นแหละ 
              พ่อก็เหมือนกันหลายครั้งที่พ่อได้เจอกับครอบครัวของอดีตเจ้าสาวของผม พ่อจะอ่อนน้อมและนิ่มนวลมากกว่าปกติ ผมสิควรทำแบบนั้นแต่ผมไม่เคยเจอแม้แต่เงาอดีตเจ้าสาวเลย ผมเคยจ้างนักสืบแต่ร่องรอยของเจ้าสาวหายไปกลับกลีบเมฆทุกอย่างถูกปิดจากอำนาจของเงิน  สเหมือนเจ้าตัวหายไปจากโลกนี้ผมจำได้ว่าหลังวันงานแค่หนึ่งวันข่าวของแบมแบมกับผมก็แพร่ไปทั่ว หุ้นของบริษัทตกลงฮวบฮาบแบมแบมคงเสียหน้าและเสียใจซึ่งผมอีกนั่นแหละเพิ่งจะสำนึก




    " งานนี้คุณหญิงฮันไปด้วยมั้ย?" พ่อถามขึ้น ผมเองก็รอฟัง





    " ไปสิค่ะ ฉันเตรียมคุกกี้ไปให้เธอด้วยละ เธฮดีขึ้นกว่าแต่ก่อนฉันหวังว่าเธอจะอภัยกับสิ่งที่ลูกชายเราทำไว้"




    " อืม ดีแล้วล่ะ  //  แกก็ต้องไปเหมือนกัน  มาร์ค"





    " ทำไมผมต้องไปละ "   ผมเถียงไม่ชอบเลยงานอะไรแบบนี้  มันยืดยาวและน่าเบื่อ  "แกต้องไป ฉันสั่ง!!"






    " อย่ามาสั่งผม "   ผมลุกออกจากตรงนั้น  ปลายทางการก้าวเดินคือหลังบ้านสวนดอกไม้ทำให้ผมสงบขึ้น ใครจะชอบไปงานแบบนั้นมีแต่คนแก่ อย่างผมน่ะเหรอต้องไปที่นี้สิ














    คลับ xxx




    " ว้าววววว  ไอ้มาร์ค แม่มมมมาได้ไงว่ะ?"
    เสียงของเพื่อนสมัยเรียนเอ่ยทัก มันเป็นเจ้าของคลับแห่งนี้ไอ้เจบี





    " ขับรถมาดิ"




    " ดูมันตอบ ว่าแต่เอาไรดีว่ะ  เหมือนเดิมป่ะ?   "






    " อืม"   มันถามก่อนจะหันไปสั่งเด็กร่างบางในเคาเตอร์ ให้จัดเหล้าในแบบที่ผมดื่มบ่อยๆมาให้  แสง สี เสียงในคลับทำให้ผมหายใจสะดวกกว่าอยู่ที่บ้าน ผมแอบหนีออกมาประจำละและจะกลับให้ทันก่อนไก่โห้เสมอ






    " ไม่ทราบว่าวันนี้คุณชายต้วน สนคนไหนละ? ดูมึงเครียดๆหาที่ระบายหน่อยก็ดีน่ะเพื่อน "  มือหนาตบบ่าผมหนักๆ  เจ็บสัชๆ





    " ไม่ว่ะ  แค่แดกเหล้าก็พอ"





    " เฮ้ยย ได้ไง เอางี้กูเลือกให้ เอาแจ่มๆ"     เจบีว่าตาคมนั้นหันมองไปรอบๆร้าน  ผมเจอร่างเล็กคนหนึ่งอยู่อีกฝั่ง สะกิดให้เจบีมองตามก่อนจะทำให้มันเลือดขึ้นหน้าด้วยคำพูดเรียบๆ





    " เอาคนนั้นว่ะ  ท่าทางจะเด็ด!" ชี้ไปเชิงขอเจ้าของร้านตัวสูงแต่แล้วเขาเองก็เกือบถูกเจ้าของร้านถีบเข้าให้





    " ไอ้เชี่ ย ย ย "     มันฟาดมือเข้ากลางหลังเต็มแรง นี่ถ้ามันไม่ใช่เพื่อนคงเอาขวดเหล้าฟาดหัวกลับไปแล้ว เจ็บนะว้อยย  เพราะผมชี้มือไปทางเมียสุดเลิฟของมันนั่นเอง มันถึงได้โมโหโทโสผมขนาดนี้ ก็แค่แกล้งมันนั่นมันของเพื่อนผมจะยุ่งทำไม





    " โน่นเลย หมวยๆ "





    " ตามใจมึง"




    " ไอ้ฮิม  เดี๋ยวมึงช่วยเอาดีกรี45ไปให้น้องเสื้อแดงคนนั้น บอกว่าไอ้หล่อนี่ฝากมา "    มันสั่งพนักงานตัวสูงก่อนที่หมอนั่นจะทำตามที่เจ้านายสั่งทันที  หญิงสาวในชุดเดรสสีแดงหันมองผมอย่างกรุ่มกริ่มเอาล่ะ รสนิยมไอ้เจบีก็ยังดีอยู่จัดว่าเด็ดไม่น้อยคงหายเครียดได้บ้าง




    " อ๊ะ อ๊า  คุณ เบาสิ"



    " เงียบ!! "




    " อ๊ะ  ตรงนั้นแรงไป  อ๊า  อ๊ะ บ เบา " เบาไม่ได้ละไม่ได้ระบายนาน ต้องโทษไอ้เจบีที่เลือกเธอให้ผม ไม่ตายก็คางเหลืองทำใจไว้เลย  แต่สถานที่ไม่อำนวยสักเท่าไหร่นี่มันบนรถใครจะทนขับไปไหวละเล่นผมตั้งแต่ขึ้นมาละ นี่ยังไม่ยอมลงเลย เคราพธงชาตินานมากแม้จะดึกดื่นก็ตาม







    ปี๊ดๆๆ  ปี๊ดดดด 

           เสียงแตรจากรถข้างหลังทำให้ผมต้องหันไปมองอย่างเครียดแค้น  กำลังจะแตกอยู่แล้วเชี่ยหมดอารมณ์ผมทิ้งสาวที่นอนอ้าขาไว้อย่างนั้นแล้วลงมาจากรถ จัดเสื้อผ้าเล็กน้อยเพราะผมถลกแค่กางเกงเท่านั้น 



    " จะกดแตรทำเหี้ ย ยไรว่ะ? "



      

    " ไม่ทำเหี้ ยอะไร?หรอกครับ แค่จะเอาของเข้าร้าน รถคุณขวางทางถ้าจะเอากันไปเอาที่อื่น โน่นโรงแรมเลี้ยวขวาเลย"   ทันทีที่กระจกรถเลื่อนลงผมก็แหกปากก่อน  แต่เพราะเสียงหวานของเจ้าของรถทำให้ผมเจอกับคำว่าเหี้ยของจริง  แบมแบม  เด็กนั่นแน่ๆผมจำได้ขึ้นใจ





    " แบมแบม"







    " มึง!!!"






     

     "อ่า  คือ "






    " กรุณาเลื่อนรถด้วยครับ และบอกให้เธอเอาขาลงเถอะตรงนี้มีกล้องผมไม่อยากให้เธอเป็นนางเอกเอวีข้าง-ถ-น-น  เสียฮ้วงจุ้ยร้านผมหมด"  คนตัวเล็กพูดอีกครั้ง  แต่ผมไม่ได้สนใจคำพูดพวกนั้นเลยมั่วแต่มองใบหน้าหวานนั้น  แบมแบมยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนตั้งหลายปีแล้วทำไมยังหน้าเหมือนเดิมอยู่ล่ะ ไม่แก่เลยรึไง โอย ย ย  ทำไมกูไม่แต่งกับมันว่ะจมูกแบบนั้น สายตาแบบนั้น น้ำเสียงแบบนั้น จะเอาให้ร้องเลย 

               แต่ผมจะทำอะไรได้ในสภาพแบบนี้นอกจากทำตาม ยอมกลับที่รถและขับออกไปทันที  แต่คิดเหรอว่าจะไม่ย้อนมาผมไปโรงแรมที่คนตัวเล็กบอกจริงๆ ไปจัดการต่อให้เสร็จและทิ้งให้เธอนอนที่นั่นคนเดียว ทั้งไปเพิ่งถึงแค่รอบเดียวเท่านั้น






    " โธ่ ฮยองจะยกทำไม มาๆผมยกเอง "




    " ย๊าส์!!  ยกไหวหรอกน่า ไปหลังร้านเลย!!"   เกือบห้าทุ่มแล้ว ที่ผมมองร่างเล็กจากในรถแบมแบมกำลังขนของหลายอย่างลงจากรถ มีชายหนุ่มหลายคนมาช่วยถึงจะตัวเล็กแต่ยอมรับว่าเขาก็แข็งแรง ดูจากร้านแล้วพรุ่งนี้คงเป็นวันเปิดร้านวันแรก





    " กลับดีๆละ ฮันกิ ขอบใจมาก"




    " ครับ ฮยอง  พรุ่งนี้เจอกันครับ"    ผมได้ยินเสียงบอกลาของทั้งสองชัดเจน ตอนนี้มีแค่แบมแบมอยู่คนเดียวเด็กคนเมื่อกี้ชื่อฮันกิเหมือนจะยังเรียนอยู่เพราะเรียกร่างเล็กว่าฮยอง 





    " เฮ่อ  ทำไมมันยากจังว่ะก็แค่ร้านกาแฟ"  เสียงหวานบ่นพึมพำ ผมอมยิ้มกับอะไรที่ได้เห็น








    Rrrrr



    ' ครับ  อยู่ที่ร้านกำลังจะกลับครับ เดี๋ยวปิดร้านก่อน แม่นอนเถอะน่าผมโตแล้วน่ะ' โตงั้นเหรอ? อืมท่าจะจริงตอนนั้นเตี้ยกว่าผมตอนนี้ก็สูงขึ้นมาหน่อย  แต่ใบหน้าของเขายังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน





    ' อะไรน่ะ? โหหห  แม่คิดได้ไงเนี่ยใครจะกล้า ผมรู้น่ะแม่ส่งคนมาตามผม เอาเถอะ แค่นี้นะครับ'  หึม? หวงลูกขนาดส่งคนตามเลยเหรอ ก็แหง๋ละลูกชายคล้ายลูกสาวขนาดนี้ทิ้งให้อยู่คนเดียวมีหวังโดนฉุด จะใครฉุดสะอีกก็ผมนี้ไงจ้องอยู่เนี่ย





    " ไง  "





    " เห้ย!! ม  มาร์ค "




     

    " อืม  ฉันเอง ทำอะไรจะเปิดคาเฟ่?"  ผมถามทั้งๆที่แน่ใจว่าร่างเล็กต้องเปิดคาเฟ่แน่นอน  แล้วอีกคนก็พยักหน้าเรายืนคุยกันอยู่หน้าร้านที่คนตัวเล็กกำลังจะปิดประตูบานใหญ่





    " มั้ง? ไม่ก็ค่ายหนังเอวี นี่ไม่ต้องหานางเอกพระเอกเลยมีมาส่งถึงที่แหน่ะ"   นั่นไงเหน็บผมจนได้ ไอ้เรื่องเมื่อกี้มันสุดวิสัย





    " ก็มันไม่ทันนี่หว่า "   ผมสบถความจริง ใครมันจะทนได้ละโอยยย คิดแล้วขึ้นเลยๆ




    " ถุยย!! สันดารเดิม ไปก่อนละ "



     

    " เดี๋ยว!! "    ไม่ว่าป่าวรั้งแขนนิ่มไว้แน่น  เชี่ ย ยแขนผู้ชายห่าไรเนียนชิพแถมยังนิ่มมาก






    " อะไร?"




    " ที่นายตบฉันวันนั้น "  





    " เหอะ จะมาเอาคืนรึไง?  เอาสิ  รีบๆเลย ง่วง "   ร่างบางดุ้นลิ้นขึ้นจนแก้มป่อง  หึหึ ใครว่าจะต่อยละเสียของ







    " จริงดิ? "  ย้ำเพื่อความแน่ใจ อันที่จริงจะบอกว่าหลังจากโดนแบมตบแล้วผมสำนึกขึ้นเยอะต่างหากละ







    " อืม เอาดิ ผมต่อยไปกี่ทีว่ะ สามทีใช่อ่ะ?งั้นให้เอาคืนได้หนึ่งพอ ง่วง"  เหอๆจะบอกว่าแค่หนึ่งก็เกินพอ







    ฟอดดดดด






    " อ  ...ไอ้ "


      


    " แก้มนิ่มชะมัดยาด  ทำไมกูตาบอดว่ะ?" แก้มเนียนขึ้นสีระเรื่อ แถมยังท่าทางตกใจแบบนั้นอีกน่ารักดี






    " เหอะ!!  เพราะมึงโง่ไงละ "   แววตาที่ตกใจเมื่อกี้หายไปแล้วร่างเล็กขึ้นกูมึงกับผมเหมือนกันและทิ้งท้ายด้วยคำว่า โง่ เต็มปากแถมยังเดินตัวปลิวไปแล้วด้วย  เอ่อ ยอมรับว่ากูโง่กูจะไม่ยอมโง่แล้วละคราวนี้

















     

            หลังจากวันที่เจอกับแบมแบมอีกครั้ง ชีวิตของเขาก็แปลกไปร่างสูงยอมไปทำงานและดูจะดี๊ด๊ากว่าปกติ  ทั้งหัวเราะและยิ้มแย้มจนสาวๆในออฟฟิตแทบละลาย อาสางานนอกทุกครั้งยิ่งเป็นงานของตระกูลดองเก่าเขายิ่งอาสา คงไม่ต้องเดาว่าอยากจะเจอร่างเล็กที่เพิ่งเสียซิงแก้มให้เขามากแค่ไหน  ทำไม?ถึงคิดว่าเขาเป็นคนเปิดซิงน่ะเหรอ เพราะสีแดงก่ำของแก้มเนียนทำให้ดูออกนะสิ    

             นักสืบที่ร่างสูงจ้างไว้บอกกับเขาว่าร้านคาเฟ่นั้นเป็นของแบมแบมจริงเด็กหนุ่มเพิ่งกลับจากไทย ที่แท้ก็หายไปอยู่ไทยนี้เองเขาถึงตามหาไม่เจอและคาเฟ่จะปิดตอนสี่ทุ่มทุกวันมีพนักงานทำงานในร้านเพียง6คนทั้งหมดเป็นรุ่นน้องของร่างเล็กทั้งนั้น  และจะผิดมั้ย
    ? ถ้าผมอยากจะแต่งงานกับเขาอีกครั้ง  ตลอดหลายอาทิตย์ที่ผมตามดูแบมแบมอยู่ห่างๆ  เห็นชายหนุ่มหลายคนเข้ามาวนเวียนกับคนตัวเล็ก  แต่แบมแบมก็ไม่ได้สนใครเป็นพิเศษแถมยังแจกหมัดไปหลายคนเก่งจริงๆ เจ้าสาวของผม





    " ฮยอง  วันนี้ผมไม่เก็บร้านช่วยน่ะ "





    " อืมรู้แล้ว นายจะไปติวใช่มั้ย?"


     



    " ครับ  มีติวอ่ะ ไฟนอลมันช่างน่าเวทนาตัวเองน่ะฮยอง "  พนักงานในร้านคนหนึ่งบ่นกับร่างบาง







    " พูดสะเว่อร์  รีบไปเถอะเดี๋ยวจะสาย "  หลังพนักงานคนนั้นเดินจากไปร่างเล็กก็ง่วนอยู่กับการเก็บร้าน  และผมคงไม่ปล่อยโอกาศนี้หลุดลอยไปอีก







    " ทำอะไร?" เมื่อเห็นร่างสูงทำท่าจะช่วยเหลือเขาจึงถามออกไป







    " เก็บร้านไง? "






    "ไม่ได้ขอ" แยกเขี้ยวให้อีกคน  แต่แล้วมาร์คก็อาศัยว่าเขาหน้าด้านและหน้าหนามากพอก็เลยยังตั้งใจยกเก้าอี้ในร้านต่อไป







    " เกลียดมากเลยรึไง หน้าไม่อยากมอง " พูดดัง เวลานี้ผมเห็นว่าในร้านไม่ใครอยู่แล้ว "เออ  เกลียดมากจำใส่หัวไว้เลย "






    " แรง "






    " แรงกว่านี้ก็ยังได้" ร่างเล็กเดินเลี่ยงผมไป แต่ผมขายาวกว่าขว้างเขาไว้ทัน แบมแบมถอนหายใจทันที ว่าแต่ทำไมผมถึงชอบให้เขาแสดงสีหน้าแบบนี้น่ะ จะยิ้ม จะด่า จะโกรธผมอยากจะมอง






    " ทำไม?"







    " ใครจะชอบคนที่ทำให้ตัวเองขายหน้ากันละ รึมึงชอบ? แต่ชีวิตมึงคงไม่เคยขายหน้าอะไรหรอก ก็เห็นๆกันอยู่ "  น้ำเสียงหวานกระแทกยาว ผมลืมไปได้ไงว่าการที่งานแต่งล่มแม้ร่างเล็กจะไม่ปฏิเสธแต่นั้นก็คือการทำให้เขาขายหน้าเต็มๆ คนคงพูดกันอย่างที่เคยได้ยินไอ้พวกพวกซุบซิบนินทาแบมคงไม่ชอบใจถึงได้หนีไปไทย







    " ขอโทษ คือ..."






    " สายไปแล้ว  หลีกทางด้วยจะปิดร้าน "  แบมแบมเดินผ่านผมไป แต่ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก





     

    " นี่ คุยกันก่อนสิ ไปกินข้าวด้วยกันก็ได้ ฉันเลี้ยง"     ผมเสนอแต่ร่างบางกลับยกยิ้ม แบบพวกโรคจิต








    " ไม่ต้อง  เดี๋ยวหาแดร...กเองได้ "  หื้ออออเชื่อเลยว่าเกลียดจริงไรจริง




    " เอ้ยย  อย่าปฏิเสธดิว่ะ รู้ว้าบ้านรวย ก็อยากเลี้ยง "   ผมยังยืนยัน ให้ได้เรียนรู้อะไรจากแบมแบมบ้างเผื่อผมจะได้มั่นใจว่าที่ผมแอบมาตามเขาแบบนี้ทุกวันเพราะอะไรกันแน่ แต่ที่แน่ๆตอนนี้ใจเต้นมากไม่ได้เป็นแบบนี้มานานแล้ว  ตั้งแต่เจอหน้าเขาวันนั้น





    " ไม่ต้อง!!  ไม่อยากให้ใครมานินทาว่าถ่านไฟเก่าร้อน "




    " สนใจทำไมว่ะ แล้วถ้าเกิดมันร้อนจุดติดขึ้นมาจริงๆละ"  ผมว่าพรางหันไปจ้องฝบหน้าหวานนั้นใกล้ๆอีกครั้ง  โอยย ผู้ชายจริงปะว่ะ แต่คงจริงเพราะนมไม่มีแฟร๊บซะขนาดนั้น





    " กูก็จะเอาน้ำดับมัน "








     

           อุตสาห์หนีข่าวลือจากเกาหลีตั้ง8ปี เชี่ ย ย เถอะ!! แต่วันนี้ดันมาเจอไอ้คนที่ทำให้ครอบครัวขายหน้าจนได้ ข่าวที่ออกวันนั้นคือผมกลายเป็นแม่สายบัวรอเก้อ เขามีแฟนเป็นผู้หญิงแต่ถูกบังคับแต่งกับผู้ชายอย่างผม  ถึงแม้จะเป็นความต้องการของทางบ้านแต่ผมอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไว้ที่ไหน   แย่งผัวผู้หญิงคำนี้มันวิ่งพล่านในหัว  



           รู้สึกไม่ถูกชะตากับคนตรงหน้าแล้วละเพราะทุกครั้งที่เราเจอกันไม่เคยเจอในบรรยากาศดีๆเล้ย  ไม่พังงานแต่งก็อึ๊บเด็กอยู่ น่าขยะแขยงจริงๆถึงจะหล่อสมคำบรรยายจากใครหลายคนที่เคยได้ยินมา  แต่ถ้าเทียบกลับความเลวแล้วมันลบกันไม่ได้เลย ดีแค่ไหนที่ผมไม่ได้แต่งกับเขา ขอบคุณจริงๆแต่จะขอบคุณพระเจ้ามากกว่านี้ถ้าเขาจะไม่มาวุ่นวายผมอีก



    " กูจะเอาน้ำดับมันเอง "   ผมทิ้งท้ายหลังเจอเขาเป็นครั้งที่สามของชีวิต 


        ตอนนี้ชีวิตของผมเปลี่ยนไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง การไปเรียนและอยู่ที่ไทยแลนด์ตลอด8ปีทำให้ผมเปลี่ยนชีวิตในทางที่ดีขึ้นเยอะกว่า  เมื่อก่อนผมไม่เคยสนใครไม่ใส่ใจใครและพูดจาขวานผ่าซากแต่ตอนนี้ดูสิ  ผมเปลี่ยนไปแล้วทุกคนที่นี้ต่างตกใจกับความเปลี่ยนแปลงของผม แม่ก็ชอบที่ผมเป็นเด็กดีแบบนี้





    " ไป-กิน-ข้าว-กับ-กู"   





    " ปล่อย ไม่ไป " มาร์คเหมือนพวกพูดไม่เข้ารูหู ผมบอกแล้วว่าไม่เป็นไปหมอนี่ยังเดินตามมาที่รถ ดึงกุญแจของผมไปถือหน้าตาเฉยแถมยังเข้าไปขับรถแทนผมอีก  นี่มันต้องการอะไร





    "จะกินอะไร?"




    " กูบอกเหรอ?  ว่าจะกิน"




    " เอาน่า มาแล้ว เลือกมาสักร้าน "     มันไม่บ้ามันก็ต้องเมา ไอ้สวะเอ้ยย!!  อย่าเผลอก็แล้วกัน   "แดร..กเหล้า  ไม่แดร...กข้าว"





    " เป็นเด็กเป็นเล็กหัดแด...กเหล้า "  เล็กพ่อ ง สิ กูผู้ชายโตแล้วด้วย สูงจะเท่ามึงอยู่แล้วไอ้ต้วนน





    " กู25แล้วน่ะ   เด็กบ้าน.."





    " อ๊ะๆ  พูดไม่เพราะมึงไม่ได้ลงรถแน่ "    ผมกำลังจะด่าอยู่แล้วเชียว แต่ร่างสูงดันรู้ทันมาร์คทำท่าจะไม่จอดรถด้วยแถมยังล็อกประตูทั้งคันอีก โอย ย อึดอัด





    " มีอะไรว่ามาเลยไม่ต้องไปไหนละ วันนี้กูเหนื่อยไม่ได้ใช้ชีวิตสบายไปวันๆนะ กูทำงาน "  ผมตัดสินใจพูดยาวเพราะถ้าไปคลับตอนนี้ก็เท่านั้นละผมเหนื่อยกับงานมากพอแล้ว ไหนจะงานที่บริษัทอีกไม่ว่างมาเถียงกับมันหรอก







    " คุยกับกูดีๆไม่ได้รึไง?"






    " ทำไมต้องคุยว่ะ? มึงต้องการอะไร"  ดูมันถาม ต้องการจะคุยกับมึงไง โว๊ะ!ไอ้นี่



     



    " ก็แค่อยากคุยด้วย  อยากรู้จักมากกว่านี้"   





    " ไม่จำเป็น"  ผมพยายามมากที่จะไม่วีนเหมือนแต่ก่อน  ถ้าเป็นเมื่อก่อนป่านนี้ผมต่อยมันไปละถึงผมจะตัวเล็กแต่ก็ใช้หมัดเก่ง  แต่และมั่นใจว่าผมจะไม่ลดแรงกระแทงหมัดลงที่หน้ามันเด็ดขาด  เอาให้หายหล่อเลย







    " ช่วยลืมเรื่องวันนั้นไปให้หมด ได้มั้ยละ"







    " ลืมหมดแล้ว"  ผมโกหก กูลืมได้ก็แปลกสะสัช หน้ากูโชว์หร่าอยู่หนังสือพิมพ์ตั้งสองวันเต็มๆ  อายจนอยากเป็นศัยลกรรม






    " ยังกูยังพูดไม่จบ"





    “……”






    "กูไม่เคยคิดว่ากูจะชอบผู้ชาย  แต่มึงกำลังทำให้กูเปลี่ยนใจเพราะงั้นมึงต้องรับผิดชอบ "  ร่างสูงว่า ห๊ะ!!  เดี๋ยวนะเมื่อกี้มันว่าไงน่ะผมต้องรับผิดชอบงั้นเหรอ? เรื่องเหี้ย ยไรเนี้ยยย






    " เห้ยย ป่วยป่ะว่ะ?  " ผมยื่นมือไปเตะหน้าผากร่างสูง ตัวไม่ร้อนนิหว่า







    " เป็นห่วงเหรอ?  มือมึงนิ่มว่ะ"    เสียงทุ้มว่าผมรีบชักมือกลับ เวนแล้วทำไมต้องห่วงมันด้วยก็แค่ไอ้กระล่อนคนหนึ่ง





    " อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง!!  กูไม่รับผิดชอบเหี้ ย ยไรทั้งนั้นมึงมันกระล่อน " ผมตะคอกใส่ร่างสูง  มาร์คยกยิ้มมันคงบ้าละโดนด่าแล้วยังยิ้มอีก  เครียดว่ะ






    " ไม่รู้ละมึงต้องรับผิดชอบที่ทำให้กูชอบผู้ชาย " แหม๋ ไอ้หน้าด้าน  ไอ้กระล่อน





    " แล้วกูเกี่ยว  อื้อ อ อ " ริมฝีปากหนาปิดเสียงของผมทันที  วินาทีเดียวที่ทำให้แทบหยุดหายใจมันกล้ามากที่จูบผมแถมยังล็อกแขนไม่ได้ต่อยมันได้อีก ตัวมึงก็ไม่หนาทำไมแรงควายจังละที่นี้ แม่จ๋า  แบมเสียจูบให้หมาสะแล้ว






    " อื้อ อ  อ่ อ ย (ปล่อย) "   พอเริ่มขาดอากาศร่างสูงก็ผละริมฝีปากออกมา แววตาของเขาแทบไม่ต้องบอกว่ารู้สึกยังไงนี่ครั้งแรกเลยที่ผมจูบกับผู้ชายรู้ไปถึงไหนอายถึงนั่น







    ผลัวะ!!    

        เจ็บชิ..พหาย? นี่คือความรู้สึกแรกจำได้ชัดเจน  ผมเคยโดนคนตัวเล็กต่อมาแล้วถึงสามครั้งและนี่คือครั้งที่4ในรอบ8ปี เอาเถอะถือว่าคุ้มถ้าแลกกับปากนุ่มๆนั่นอะนะดูท่าคงไม่หยุดแค่หมัดเดียวแน่เมื่อมือบางทำท่าจะฟาดมาอีกรอบ






    " ถ้ามึงต่อยอีกที กูไม่ทำแค่จูบแน่"






    " เอาสิ  มึงไม่ตายดีเหมือนกัน"





    " แล้วไง? ก่อนตายยังได้เป็นผัวมึง คุ้มชิพ!! " ผมยกยิ้มให้ร่างเล็กแบมแบมกำหมัดแน่น ไอ้ผมก็คอยระวังน่ะ






    " ไอ้มาร์ค!!  "





    " คร้าบ น้องแบม"





    " กวนตีน " ปากเล็กเอ่ยแสบ โอยย  ทำไมด่าแล้วยังตัลล๊ากกก โอยย กูพลาดไม่เก่งกับมึงไปได้ไงเนี่ยย






    " กวนใจด้วยมั้ย? "
















     

    มาร์ค  + แบม  พาส



           หลังจากวันที่ผมเจอแบมจนถึงวันนี้ผมก็เที่ยวไปมาบ้านนั้นไม่ขาด แรกๆแม่แบมไม่ยอมให้ผมเข้าไปด้วยซ้ำแต่หลายวันเข้าพอพ่อแม่ผมรู้ท่านจึงขอร้องเจ้าของบ้านให้ผมได้เข้าไปหาลูกชายท่าน  ผมขลุกเข่ายอมรับเรื่องวันอย่างแมนๆ  ผมก็ผู้ชายคนหนึ่งและไม่คิดเลยว่าการที่พ่อแม่จัดเตรียมคู่ครองไว้ให้จะถูกใจขนาดนี้เพราะความเป็นวัยรุ่นใจร้อน  งานวันนั้นจึงจบไม่สวยแต่เอาเถอะวันนี้และต่อไปผมก็จะพยายามทำให้คนตัวเล็กมองผมในแง่ดีให้ได้



    " มาแล้วเหรอ?  ทานข้าวสิลูก "    คุณนายฮันนาเรียกลูกชาย แบมเดินคอตกลงมาทีเดียว






    " ไม่หิวครับ"





    " แต่ลูกจะไม่สบาย เป็นโรคกระเพาะ แถมยังหน้าเหี่ยว ตัวลีบ ผอมแห้ง "   คุณนายของบ้านสาธยาย






    " พอแม่  งั้นทานเถอะ"  คนตัวเล็กยอมนั่งลงทานข้าว แล้วก็เอาแต่ทานข้าวจริงๆหน้าไม่เงยเลยด้วยซ้ำ ไอ้ผมก็แต่เคยมองจนข้าวยังไม่เข้าปากเลยสักเม็ด






    " แบมลูก "





    "?"




     



    " ลูกช่วยไปดูงานโครงการแถวชินกูกับมาร์คฮยองได้มั้ย? แม่ต้องไปงานที่อื่น"    มารดาของร่างเล็กว่าเธอเปิดใจรับผมหลังผมคลุกเข่าขอโทษ  






    " อะไรนะไปกับไอ้นี่อะนะ  แม่  ทำไมไม่เลิกจับคู่สักทีครับ  แบมพอแล้วน่ะไม่อยากให้ใครพูดถึง แม่สัญญาแล้วไงต่อไปจะให้แบมเลือกเอง"  คนตัวเล็กขึ้นเสียงสะน่ากลัว  แล้วแบบนี้ผมจะมีหวังมั้ย





    " แต่แม่ว่า......"




    " แล้วรู้ไว้เลยว่าแบมจะไม่เลิกเขาอีก!! "  ตัวชาวาบเลย เลือดไม่ล่อเลี้ยงสมองด้วยมั้ง  หลังได้ยินคำพูดของร่างเล็ก  ผมนี่อิ่มข้าวไปหลายวันได้  แบมวางช้อนแล้วเดินออกไปหน้าบ้านผมเองก็โค้งหัวเป็นเชิงขออนุญาติคุณฮันนา





    " ทำไมต้องเสียงดังว่ะ?"




     

    " แล้วทำไมต้องมาว่ะ?    "  ร่างเล็กสวนคำทันที  น้ำเสียงห้วนพร้อมกับสายตาไม่เป็นมิตรของเขาทำให้ผมถอนหายใจ นี่ถ้าไม่จัดว่าอยู่บ้านของเขาน่ะผมจัดการลากเข้าห้องไปนานแล้ว  ไอ้ลูกแมวสามสี





    " มาจีบไง"




    " ถุย!!  เอาหลอกเด็กไป๊!! "




    " ทำไมไม่เชื่อ? " นี่หน้าตากูไม่จริงจังเลยไงว่ะ ช่วยมองกูแง่ดีหน่อย  " ใครจะเชื่อละคร้าบบ  เชื่อก็หมาแล้ว "    โอยยแรง อดเด้อมาร์ค  อดไว้สะก่อน





    " เอาอะไรมาเป็นเครื่องวัดว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ "  ผมยังใช้น้ำเสียงโทนปกติ ถึงแม้ในใจจะร้อนรุมสุมทรวงก็ตามและชอบที่อีกคนเป็นตัวของตัวเองแบบนี้ทำให้ผมอยากรักมากขึ้น  ผมคงบ้าหรือไม่ก็ไม่เต็มบาท






    " ทุกอย่าง นิสัย  สันดาร  การกระทำ!! " 





    " งั้นก็ลองดูว่าแบบไหนจะถูกใจมึง  มานี่!!"    ผมตรงเข้าไปกระชากร่างเล็กแล้วดึงให้ขึ้นรถ เพราะเราสองคนออกห่างจากตัวบ้านพอสมควรเสียงของแบมจึงดูห่างไกลคนในบ้าน 






    " จะไปไหน บ้าไปแล้วไงว่ะ?"





    " เออ  บ้าเพราะเสียงมึงนั่นแหละ พูดดีๆไม่ชอบ "   ผมใช้จังหวะที่ร่างเล็กพ่นคำด่า ดึงเอากุญแจมือออกมาจากลิ้นชักแล้วจัดการล็อกมือบางคนตัวเล็กไว้กับประตูรถ อาจจะดูบ้าไปหน่อยแต่ผมฟังคำด่ามาเยอะแล้วจะด่าอีกก็ตามใจ





    " ไอ้บ้า ไอ้ซาดิส  ปล่อยนะเว้ยย"




    " ไม่  ร้องให้เสียงหายเลยน่ะมึง ดื้อดีนัก"




    " ใครดื้อ  ปล่อย  ปล่อยดิว่ะ"  แบมสะบัดข้อมือจนบางครั้งผมกลัวว่าข้อมือบางจะขาดจากกัน แขนก็เล็กมือก็บาง ห่าเอ้ยย ผู้ชายบ้านไหนว่ะแบบนี้





    "นั่งดีๆ  ถ้าไม่อยากโดนจูบอีก"     ผมขู่  จากนั้นก็ยินเสียงบ่นพพึมพำในคอ ด่าเข้าไป เก่งจริงๆ ด่าเยอะๆจะได้เหนื่อยแล้วหลับสะเพราะผมจะพาเด็กดื้อนี่เดินทางอีกไกล





    " จะพาไปไหน? "     คงเหนื่อยแล้วมั้งถึงใช้เสียงแบบนี้กับผมได้  ดูท่าจะเลิกพยศแล้วล่ะแต่ผมก็ยังไม่ปล่อยหรอกนะ งงละสิว่าผมมีกุญแจมือแบบตำรวจได้ยังไง  ไม่ต้องคิดว่าผมเป็นคนในเครื่องแบบหรอกน่ะ  ของแจ็คสันเพื่อนผมต่างหากมันลืมไว้ในรถผมวันที่มันยืมรถกลับบ้านพร้อมกับยองแจสมรศรี  ผมเองก็สงสัยทำไมต้องใช้กุญแจมือกับน้องยองสงสัยน้องยองจะดื้อแบบนี้ละมั้ง





    " ไปไกลๆ"





    "ไอ้ .... บอกมาเดี๋ยวนี้จะพาไปไหน?"





    " คิดว่าขู่ใครอยู่  หึม? เด็กน้อย"





    " ขู่หมาตัวเมีย "     นั่นไงยังเถียงได้อีก นึกว่าจะเลิกพยศแล้วนี่กะว่าจะใจดีปล่อยเปลี่ยนใจละ ไม่ปล่อยจนกว่าจะถึงที่หมายก็แล้วกัน  ความจริงผมขอแม่ของแบมให้เขาไปเที่ยวกับผมที่ชินกู (เกาะแห่งหนึ่ง) เพราะที่นั่นมีการสร้างโครงการงานของผมและแม่แบมด้วย เธอจึงอนุญาติเธอเคยบอกว่าหากแบมรักผมและกลับมาศึกษากันจริงจัง เธอคงจะดีใจกว่านี้





    " อ่า งั้นก็คงอยากโดนหมาเลียปาก? ละมั้ง"




    " ไม่เอาน่ะ  "   ใบหน้าเล็กสะบัดหนี คิดว่าจะหนีได้เหรอ ติดเงะอยู่ในรถเนี่ย  ผมปล้ำในรถยังได้





    " เอา"





    " หึ่ย ย ... ขยับไปเลยมันอึดอัด  "  ร่างเล็กสั่นเล็กน้อยเมื่อผมจอดรถแล้วโน้มหน้าลงไปใกล้  แบมเป็นคนที่ผิวเนียนดีจริงๆ ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วเขายังไม่เปลี่ยนไปเลย  ผิวดีแถมยังนุ่มอีก





    " งั้นก็นั่งนิ่งๆ เงียบๆ"




    "เออๆ"





    "พูดเพราะๆ " กลายมาเป็นคนชอบคำพูดเพราะๆตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้  แต่ที่รู้ๆอยากได้ยินเด็กนี้พูดหวานๆเรียกเพราะๆยิ่งเรียกฮยองได้ยิ่งดี  หึม  มาร์คฮยองงั้นเหรอ?  เข้าท่าว่ะ





    " เพราะๆ"




    " อื้อ อ อ   อ ไอ้"





    " เอาสิ ถ้ามึงยังกวนตรีนนอยู่แบบนี้กูจะจัดแม่มในรถนี้แหละ "     ไม่ได้โมโหอะไรมันหรอก แค่หาเรื่องจูบมันก็เท่านั้นแบมแบมตอนนี้เงียบไปเลย หลังโดนไปทีหนึ่ง   เวลาผ่านไปนานพอสมควรไอ้ผมก็มั่วแต่มองทางฝนฟ้าเริ่มโปรยปรายความเร็วที่ผมทำได้เริ่มไม่คงที่ ถนนค่อนข้างแคบลงและฝนตกแรงขึ้น พอหันกลับมามองคนข้างๆอีกทีเจ้าตัวเล็กก็หลับแล้ว





    'ไม่ดื้อ ไม่ปากมาก มันก็ฟัดไม่น้อย'
















     

    จบพาสแรกแล้วนะจ้า เป็นไงบ้างบอกหน่อย อารมณืมันพาไป อิอิ
    ฝากด้วยจ้า  อยากแต่งแบบนี้บ้าง

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×