คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : love is 19 จะวันนี้หรือวันไหน ครบ
love is lodged 19
ยูคคอมออกมาจากบ้านหลังใหญ่ ไม่ว่าสิ่งที่เขาเห็นมันจะมีอีกกี่ข้อแก้ตัวที่พี่ชายจะใช้บอกเขา ตอนนี้ยูคยอมก็คงทำได้แค่รับฟัง หากพูดถึงเรื่องที่พี่ชายขอร้องให้เขาช่วย แน่นอนว่าเขาเองยินดีช่วยเพราะเขาเองก็รักแบม แต่เพราะเขารู้ว่าแบมคิดกับเขาได้แค่ไหนจึงอยากจะลองในวิธีของตนก่อน จะให้รวมรัดแล้วทำแบบที่พี่บอกคงต้องรอให้หมดความอดทน
" โทษทีว่ะ คุยกับมาสเตอร์นานไปหน่อย "
รีบบอกกับเพื่อนทั้งสองในทันทีที่เขามาถึงร้าน แบมตอนนี้กำลังสนใจเนื้อย่างบนเต่าโดยมีแอลริทคอยถามความต้องการอยู่ตลอด " ไม่มาพรุ่งนี้เลยละ " เสียงเล็กแทรกขึ้น
" มึงงอลกูเอ่อ ไอ้เตี้ย? "
" งอลพ่อ ง ดิ กูหิวตะหากเว้ย "
คนตัวเล็กโต้ตอบทั้งที่ในปากยังเต็มไปด้วยผักและเนื้อ แอลริทขำพรืดกับสภาพการกินของเพื่อนตัวเล็กในตอนนี้ไหนบอกว่าจะรอเพื่อนอีกคน แต่พอเขาสั่งเนื้อมานี่ก็ปาเข้าไปถาดที่สามแล้วคนตัวเล็กยังไม่มีทางทีว่าจะหยุดเคี้ยว กระเพาะของแบมเป็นอะไรที่น่าศึกษามาก
" มึงก็กินดิ แบมรอมึงนานแล้วกูเลยให้กินก่อน "แอลริทบอก ยูคยอมพยักหน้าแล้วหันไปลากเก้าอี้มาชิดทั้งสอง
" อืม ก็ดีนะมันจะได้ไม่โมโหหิวจริงมั้ยไอ้แว่น "
" เออจริง ถ้าหิวจัดๆกูจะแดกหัวมึงแทนเนื้อย่าง " ว่าแล้วก็ยังคีบเนื้อเข้าปาก ผมมองยูคยอมและแอลริทสลับกันไปมาสองคนนี้ต้องมีเรื่องที่ไม่ชอบขี้หน้ากันอยู่แน่ๆ
ถึงผมจะไม่เคยถามแต่ผมก็สังเกตมาตลอดทุกครั้งที่ไอ้โย่งมันหายไปแอลริทมักจะเดาถูกเสมอว่ามันไปไหนและที่สำคัญแอลริทเคยบอกให้ผมระวังจากทั้งไอ้โย่งและมาสเตอร์จินยอง หลังสวาปามเนื้อย่างกันจนพุงแทบแตกพวกเราก็พากันกลับ
คงไม่ต้องถามว่าใครจะถึงบ้านคนแรกผมแน่นอน ผมถึงคนแรกเลยแต่มันคงจะง่ายกว่านี้ถ้าคนที่รอผมอยู่บ้านมีแค่ป้าเซมี ไม่ใช่มาร์คต้วนอีกคน
" กลับมาแล้วคร้าบบ ป้าครับ วันนี้แบม.... " เสียงหวานขาดห้วงอักษรทันทีที่เห็นใบหน้าหล่อของอีกคน
" อ้าวมาแล้วเหรอลูก นี่รุ่นพี่มารอแบมนานมากเลยนะ หายไปไหนมาเรา " คำพูดของป้าไม่ได้เข้าสมองผมเท่ากับรอยยิ้มจากร่างสูงตรงหน้า มาร์คมารอผมงั้นเหรอ
" แบมไปกินข้าวกับเพื่อนมาครับ "
" เหรอจ๊ะ อ้าว สวัสดีหนุ่มๆพวกเราเป็นเพื่อนแบมใช่มั้ย?" เจ้าของบ้านหันถามเด็กหนุ่มอีกสองคนที่เดินตามหลานชายเข้ามาวันนี้บ้านของเธอได้รับแขกเยอะจริงๆ
" สวัสดีครับ/สวัสดีครับ " ทั้งสองกล่าวทักทายแล้วโค้งแนบพื้น?ให้หญิงสูงวัย ใบหน้าของเธอรวมทั้งรอยยิ้มไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเหมือนใคร
" ร้ายจริงๆเลยนะเรา ไม่เห็นบอกป้าเลยว่าเพื่อนกับรุ่นพี่จะมา นั่งๆก่อนเดี๋ยวป้าให้คนเอาขนมมาให้ " ตอนนี้ป้าเซมีออกไปแล้วเหลือผมกับคนตัวสูงอีกสามคน นี่มันแดจาวูชัดๆเลยทำไมพวกเขามองกันเหมือนเป็นนักฆ่าเลยละ
" คุณมาทำอะไรที่นี้? "
" มาหาเธอไง "
" หึ ไอ้น่าม่อ " น้ำเสียงและคำพูดแบบนี้คงหนีไม่พ้นไอ้โย่งแน่ๆ
" โย่งมึงเงียบๆเลย "
" ถึงอย่างนั้นคุณก็น่าจะบอกผมก่อน " เขาน่าจะบอกผมก่อนน่ะ เขาควรบอกก่อนเพราะหากผมรู้ก่อนผมจะไม่พาสองคนนี้เข้ามาด้วยเพราะสถานการณ์ตอนนี้น่าอึดอัดเป็นบ้า
" โทรแล้วน่ะ เธอน่าจะแบตหมด "
ผมรีบหาโทรศัพท์ทันทีแบตหมดเหรอ? และหลังจากหน้าจอที่เคยสว่างมืดสนิทผมก็ได้แต่ถอนหายใจแบตหมดตั้งแต่เมื่อไหร่ ตกลงผมผิดเต็มๆใช่มั้ย?
" ว่าไงแบตหมดใช่รึป่าว? "
" อือ หมด "
ร่างเล็กได้แค่ครางรับ ก็เฮ่อออ อะไรจะประจวบเหมาะขนาดนั้นตอนนี้ดูเหมือนแอลริทกับไอ้เปรตวันนัมจาจะเตรียมจ้วกร่างสูงสะให้ได้ " แบม นายควรขึ้นไปพักผ่อนดึกแล้ว เดี๋ยวพวกเราจะกลับแล้ว "
แอลริทเลือกที่คุยกับร่างเล็กลดบรรยากาศแปลกที่เขาไม่ชอบใจ " จริง!! นอนดึกเตี้ยลงๆนะมึง "
" มึงก็เว่อร์ ตระกรรบ้านมึงเหรอนอนดึกเตี้ยลงแม่ม!! ทำเป็นสาละวันไปได้ "
" แล้วไม่กินขนมละ "
" พวกกูอิ่มแล้ว จริงมั้ยครับรุ่นพี่ ผมว่าเราควรกลับพร้อมกัน " ยูคยมอเอ่ยแทรกร่างสูงเดินมาแทรกกลางระหว่างกับร่างเล็ก
" อืมๆ งั้นไว้เจอกันพรุ่งนี้ " ผมบอกกับเพื่อนทั้งสองโดยที่ยังไม่ได้หันไปหาแขกอีกคน เขายืนอยู่อย่างเงียบๆไม่รุ้สิผมควรจะไล่ไปพร้อมกันรึป่าว
" ฝันดีละ // ฝันถึงกูด้วยนะเตี้ย คนบางคนอ่ะนะบ้านช่องก็มียืนทำพิธีเซ้งเม้งห่าหอกอะไร " ยูคยอมแหวะร่างสูงก่อนจะเดินตามหลังแอลริทไป แปลกนะที่มาร์คต้วนยังยืนนิ่งทำเหมือนไม่ยินอะไรพวกนั้นหรือเขาไม่สนกันแน่ละ
" ผมว่าวันนี้คุณควรกลับไปก่อน " ผมมองร่างสูงก่อนจะเอ่ยบอก เขาดูไม่พอใจแน่ละเขามารอผมนี่น่า
" พี่ยังไม่ได้คุยกับเราเลย ไล่แล้วเหรอ? " แม้จะมีสีหน้าผิดหวังแต่น้ำเสียงทุ้มนั้นยังคงปกติ " ก็ดึกแล้ว ไว้คุยก็ได้นิ " แบมแบมว่าขึ้น
แม้จะอยากรู้ว่าทำไมอีกคนมาที่นี้แต่เพราะตอนนี้เพื่อนของเขายังไม่ได้ออกจากตัวบ้านไป ไม่แน่ใจว่าหากมาร์คต้วนยังอยู่ต่อไม่ยูคยอมก็แอลริทก็เดินกลับเข้ามาแน่
" ก็ได้ครับ ฝันดีนะ " สีหน้าผิดหวังของมาร์คทำให้แบมแบมอยากจะเอ่ยปาก แต่แล้วเขาก็เลือทกี่จะเดินขึ้นห้องไป แทนที่จะถามถึงสาเหตุที่ร่างสูงมาหา
" มึงมาที่นี้ทำไม? " ยูคยอมถามทันทีที่เห็นรุ่นพี่เดินตามหลังออกมา แน่นอนว่าหากมันยังอยู่กับคนตัวเล็กในบ้านเค้าคงได้นอนเฝ้าบ้านเพื่อนแน่
" แล้วมึงมาทำไม? " ถามกลับเด็กหนุ่มทันที " มาส่งเพื่อนกูไง"
" กูก็มาหาคนที่กูชอบไง " ทันทีที่ร่างสูงตอบ เขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะหึในคอจากรุ่นน้องนักซิ่งรถ
" ถุย!! ถ้ามึงชอบแบมจริงคงชอบไปตั้งแต่7ปีก่อนแล้วว่ะ "
" แล้วมึงรุ้เหรอว่า7ปีก่อนกูไม่ได้ชอบ " มาร์คไม่ใช่คนที่จะชอบต่อปากต่อคำแต่วันนี้กลับแปลกไป เขาคงได้เรียนรู้อะไรบางอย่างจากรุ่นน้องทั้งสองไม่น้อยเลย
แต่กลับกันยิ่งเขาเป็นแบบนี้ยิ่งทำให้แอลริทแน่ใจว่าเมื่อ7ปีก่อน ตอนที่เขายังชื่นชอบมาร์คต้วนมันก็เป็นเวลาเดียวกับร่างสูงที่ค่อยๆหายไปจากการแข่ง ละทิ้งศรัทธาและความรุ่งเรืองของชีวิตนักแข่งในตอนนั้นจนหมดสิ้น จนทำให้แอลริทเองหมดศรัธาและเริ่มรังเกลียดในตัวเขาเช่นกัน จะเป็นไปได้มั้ยว่าคนที่ทำให้ผู้ชายแสนเฟอร์เฟ็กคนนี้เปลี่ยนไปคือแบมแบม เด็กแว่นที่ยงกุกเคยพูดถึง
" ยูคยอม มึงควรกลับบ้าน"
" กูไม่คิดว่ามึงจะอยู่ที่นี้ ได้ยินข่าวว่าวันนี้มีแข่งกับเซฮุน " ร่างสูงพูดขึ้นแม้จะไม่เจาะจงออกชื่อแต่ก็ทำให้คนทั้งสองที่กำลังจะก้าวเดินหยุดชะงัก "......."
" เลิกได้ก็ดี เลิกไม่ได้ก็ชีวิตมึงนั่นแหละที่ต้องติดกับมันไปตลอด " มาร์คเอ่ยเสียงเรียบ จากนั้นก็ทิ้งให้คนทั้งสองนิ่งเงียบ แอลริทรู้ดีว่าร่างสูงพูดถึงอะไรแต่กับยูคยอมมันต้องมีอะไรแน่ๆที่เขายังไม่รุ้เกี่ยวกับคนทั้งสอง คราวนี้ละไอ้แอลริทกูมีข้อโต้แย้งเป็นวัวสันหลังแหวะแล้วล่ะมึง
" มึงรู้จักมันเหรอ มาร์คต้วนอะ "
" อืม มันเป็นเจ้าของสนามรถที่กูเซ็นสัญญาด้วย "
" มึงก็เป็นเบ๊มันอะดิ" ยูคยอมจิกตามอง ร่างโปร่งข้างๆ
" ไม่จำเป็นมันไม่ได้มีความหมายขนาดนั้น"
แอลริทยังใช้น้ำเสียงเรียบง่ายผิดกับยูคยอมที่อยากรู้อยากเห็นก็ถ้ายิ่งรู้มากเค้าก็ยิ่งมีข้อมูลที่จะเอาไว้ต่อรองกับอีกคนได้ เพื่อไม่ใช่อีกคนบอกเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับพี่ชายแต่เพราะยูคยอมคิดตื้นรึคิดน้อยเกินไปร่างสูงจึงไม่เอะใจเลยว่าแววตาของเพื่อนตัวเล็กที่ตนเพิ่งมาส่งได้เปลี่ยนไปแล้ว
Mark part
ต้องมีเวลามากเท่าไหร่ผมถึงจะสามารถย้ำความจริงที่ผมรู้สึกให้ไปถึงหัวใจคนๆหนึ่งได้ รู้ว่ามันยากถ้าเคยโดนหักหลังแล้วจะให้กลับมาเชื่อดั่งเดิมมันคงใช้เวลา แต่ผมเชื่ออยู่อย่างว่าความพยายามที่ทำมันจะไม่สูญเปล่าช่วงเวลาที่แบมทุกข์ใจผมอยากรู้จริงๆ
ว่ามันลำบากซักแค่ไหนและเขาจะรู้บ้างรึไม่ว่าผมเองก็ไม่ได้ต่างกัน วันนี้ผมพยายามจะเริ่มต้นใหม่เพราะผมลืมเด็กนั่นไม่ได้ความอบอุ่นที่หาได้ยากจริงๆกับชีวิตมาร์คต้วน ไม่มีทางที่ผมจะปล่อยไป
" อ้าว มาร์ค มาหาแบมเหรอจ๊ะ น้องยังไม่ตื่นเลยไปปลุกหน่อยสิ "
เช้าวันนี้ผมแวะมาหาคนตัวเล็กแต่เช้าก็เมื่อวานเรายังไม่ได้คุยกันเลยสักคำ แบมดูลำบากใจไม่น้อยที่เมื่อวานทั้งผมและเพื่อนของเขามาเจอกัน ยูคยอมมันไม่ชอบหน้าผมและผมก็รู้ว่าทำไม เด็กนั่นหวงก้างมาแบบนี้ตลอดตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้
" งั้นรบกวนด้วยครับ " ผมโค้งให้เจ้าของบ้านเธอยิ้มตอนรับผมเป็นอย่างคุณป้าของแบมแบม เสียงในห้องยังเงียบกริบแน่ละวันนี้วันเสาร์ไม่ได้ไปเรียนไม่จำเป็นเลยที่ต้องตื่นเช้า
ก๊อก ก๊อก!!
ผมออกแรงเล็กน้อยกับประตูบานกว้างและถือวิสาสะเข้าไปในห้องคนตัวเล็ก รู้สึกประหม่าแฮะทุกอย่างเลยที่ผมทำให้อีกคน เป็นเพราะแบมคือคนที่ทำให้ผมเข้าใจความรักจริงๆหรือเพราะผมรักเด็กคนนี้มากจริงๆกันแน่จนดูเหมือนทุกอย่างที่กำลังทำ มันดูเก้อๆจนน่าตลกสำหรับคนที่ได้ฉายาว่าเพลย์บอยอย่างผม
มันก็แค่ฉายาที่ไม่ได้เป็นความจริง
" แบม เช้าแล้วครับ " เด็กน้อยยังนอนนิ่งมือบางกระชับผ้าห่มเมื่อผมเปิดหน้าต่างออกกว้าง ลมเย็นที่พัดเข้ามาอาจจะช่วยทำให้เด็กน้อยของผมตื่นไวขึ้น
"........"
" แบมครับ "
" อื้ออ "
" เช้าแล้วน่ะ ตื่นเถอะครับ" ผมพูดอีกครั้งด้วยน้ำเสียงดังขึ้น แต่ดูเหมือนเจ้าตัวเล็กจะยังไม่ยอมตื่นจากความฝันง่ายๆ ไม่ทำอะไรมาน่ะ นอนขิเซาขนาดนี้
" โหย ย เพิ่งนอน โอ๊ะ!! มาร์คต้วน " นี่คงเป็คำทักทายที่ตลกจริงๆเรียกชื่อซะเต็มยศ
" หึ นี่ตกใจหรือตั้งใจเรียกชื่อกันแน่ " ผมพูดหยอก ร่างเล็กที่ยังมีท่าทางเหมือนคนมึนงงแบบพวกเมาค้างอะไรแบบนี้
" เข้ามาได้ไง? " คิ้วบางขมวดขึ้น
" เดินมาสิครับ ไม่น่าถามน่ะ "
" ขำมั้ย? คุณเข้ามาได้ไง?" ท่าทางไม่ชอบใจบวกกับน้ำเสียงเปล่งๆนั้นช่างไม่ได้มีอารมณ์ขันเอาสะเลย
" เรื่องนั้นช่างเถอะแต่ตอนนี้เราต้องลุก ฮยองจะลงไปรอข้างล่างอย่านานนะครับ อาหารจะเย็นหมด " มาร์คเลือกที่จะลงไปรอร่างเล็กข้างล่างดีกว่าจะมาคุยกันอยู่ในห้องนี้ เพราะนี้คือห้องนอนเกิดเขาหน้ามืดมาจะทำยังไง?
หลังมาร์คกลับลงมานั่งคุยกับผู้เป็นป้า แบมแบมก็ใช้เวลาไม่นานกับการจัดการตัวเองให้เรียบร้อย " มาแล้วเหรอแบมลูก มาทานข้าวสิมาร์คฮยองรอเรานานแล้วน่ะ" เซมีพูดขึ้นหลังเห็นหลานชายตัวเล็กเพิ่งจะเสด็จ
" ขอโทษครับ พอดีแบมนอนดึกเลยตื่นสาย "
" ไม่เป็นไรจ๊ะวันนี้วันเสาร์นิเนอะ นั่งลงสิลูกมาๆทานข้าวกัน " เธอบอกเด็กหนุ่มทั้งสอง พักหลังเซมีสังเกตว่าหลานชายคนเก่งของเธอไมได้ซึมเศร้าเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้เหม่อลอยและไมได้นิ่งเงียบ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรที่ทำให้เปลี่ยนไปแต่นั่นคือการเปลี่ยนแปลงที่ดี
" ว่าแต่วันนี้จะไปเที่ยวไหนกันจ๊ะ "
" เอ่อ ไปเที่ยว? แบม.. "
" พวกเราจะไปบ้านพักเด็กน่ะครับ ผมชวนน้องไปช่วยอ่านนิทาน " มาร์ครีบแทรกหากปล่อยให้เด็กแว่นของเขาพูดวันนี้เขาคงได้กินแห้ว
" บ้านพักเด็ก!! // บ้านพัก? "
ทั้งคนตัวเล็กทั้งหญิงสูงวัยอุทานพร้อมกันคนหนึ่งมีน้ำเสียงแปลกใจแต่อีกคนลงน้ำเสียงไม่พอใจ เรื่องอะไรเขาจะไปเขาไม่ได้รับปากไว้นิน่าเท่าที่จำได้มั้งน่ะ??
" ครับ ผมดูแลเรื่องบ้านพักเด็กเล็กอยู่ครับ " คนตัวสูงอธิบาย
" ว้าว จริงเหรอจ๊ะ ใจดีจังน่ะ" เซมีตาโตเธอไม่คิดว่าเด็กหนุ่มอายุแค่นี้จะมีความคิดอะไรแบบนั้นได้
" ผมบอกเหรอจะไป " ร่างเล็กกระซิบ เป็นแบบนี้ตลอดทำอะไรไม่เคยปรึกษาเขาไม่ใช่ตุ๊กตาน่ะจะยกไปนั่นมานี่ได้ตามชอบใจ มาร์คต้วนิยังไง? แปลกคน
" ไปสิ ฮยองชวนอยู่นี่ไง ?" ร่างสูงว่าขึ้นและนับว่ามาร์คต้วนคนเก่าได้ตายไปแล้วจริงๆ ไม่ตื้อ ไม่ด้าน ไม่ได้แบมน่ะครับ นี่คติใหม่ของต้วนเลย
" คุณ!!! "
" ครับ " น้ำเสียงของหลานชายทำให้เซมีถอนหายใจ ทำไมใจร้ายกับร่างสูงตรงหน้าขนาดนี้กัน " น้องแบม ไปสิลูกไปชวนน้องๆหน่อยน่ะ "
และเซมีเหมือนจะรู้อะไรบางอย่างจากแววตาของรุ่นพี่ของลูกชาย ใจจริงเธออยากจะเอ่ยว่าตนจะไปด้วยแต่เพราะท่าทางของร่างสูงที่แสดงต่อหลานชายนั้น ทำให้เธอไม่ปริปากเพราะเซมีรู้ดีว่ามันคืออะไรเธอไม่ได้มาเกิดนานเพียงอย่างเดียวแต่เธอยังเปิดใจกับเรื่องพวกนี้มากพอสมควรด้วย ความรักไม่ว่าจะเกิดที่ใดมันก็ไม่ใช่เรื่องผิด
" คุณป้าแต่ว่าแบม...."
" เมื่อวานป้าจำได้ว่าฮยองเค้ามารอเราน่ะ นานมากด้วย " เสียงขู่ของป้าทำให้แบมแบมจิ๊กปาก "เอ่อ ครับ"
" ไม่เป็นไรครับถ้าน้องไม่อยากไป พอดีผมก็แค่มาชวน " เสียงทุ้มแทรกหากตั้งใจฟังดีๆละก็ นั้นไม่ใช่อาการของคนน้อยใจแต่มันคือมารยาเล่มแรกของมาร์คต้วน
" ได้ไงเมื่อวานเราก็มารอน้องน่ะ แบมอ่าลูกอย่าทำนิสัยเหมือนเด็กไม่ดีสิจ๊ะ "
" โธ่ ป้าครับ แต่ว่า... "
" ไม่เป็นหรอกครับ ผมชินแล้ว รีบทานข้าวดีกว่าครับ "
ร่างสูงเงยหน้าบอกและนั่นคือมารยาเล่มที่สองของเขา ใครจะรู้ว่ามาร์คต้วนคือนักแสดงหน้ากากทองคำ ร่างสูงยังนิ่งเงียบแววตาและท่าทางยังคงนิ่งเฉยทำเอาร่างเล็กถึงกับกัดฟันกรอด
" อย่าทำหน้าแบบนั้นน่ะป้าจะว่าผมเป็นเด็กไม่ดี!! " คำพูดที่เอ่ยเบาแสนเบาดังเข้าหูของร่างสูง มาร์คหันไปมองเด็กน้อยข้างๆ
" ฮยองไม่บังคับหรอก อิ่มแล้วก็จะไป " ตอบกลับทั้งๆที่ยังก้มหน้าก้มตาทานอาหารของตนต่อ
" หึ่ย ก็ได้ๆผมจะไป กินเร็วๆสิ รีบไม่ใช่เหรอเดี๋ยวเด็กๆรอนาน " ว่าแล้วก็รีบตักข้าวคำใหญ่ ปากเล็กเคี้ยวตุ้ยๆร่างสูงถึงกับอมยิ้มกริ่มแม้จะเป็นการชวนแกมบังคับแต่อย่างน้อยแบมก็ยอมไป ถ้าผมสามารถบังคับได้ทุกเรื่องแบบนี้ขอบังคับให้เขามองแค่ผมคนเดียวได้คงจะดี
" คิดอะไรของคุณ? เหม่อแบบนี้ตายทั้งคันทำไงเล๊า " ปากเล็กว่าเขาสังเกตเห็นคนขับนิ่งเงียบตั้งแต่ออกจากบ้านมาแล้ว เขาก็มาด้วยแล้วไงทำไมยังครึมอยู่ละ จะขี้เก๊กไปถึงไหน
" ไม่ตายหรอกน่า นรกน่ะคงรอพี่แค่คนเดียว "
" จะบ้าเหรอ!! ใครให้พูดเรื่องตายตอนที่ล้อหมุนกัน "
แบมแบมว่าเขาไม่ชอบเท่าไหร่ที่ใครจะมาพูดถึงเรื่องตายๆถึงแม้เขาเองจะเคยคิดว่าการตายเป็นการจบทุกสิ่งอย่างและต่อมาเขาก็รู้แล้วว่ามันเป็นความคิดที่โง่สิ้นดี " กลัวเหรอ?"
" กลัวดิ ตายไปทำไง "
" พี่ขอโทษแล้วกัน พอดีคิดอะไรเพลินๆ " ชะงักไปเล็กน้อยกับคำขอโทษที่ไม่น่าจะหลุดจากปากคนขับ เมื่อก่อนน้อยครั้งน่ะที่เขาจะเอ่ยปากรึมาร์คต้วนจะป่วย " คุณป่วยรึป่าวเนี่ย?"
" ไม่นิ ทำไม?"
" ก็ป่าว แค่แปลกๆมาร์คต้วนคนเก่าหายไปไหนแล้วละ เจอแบบนี้ไม่ค่อยชอบเลย " มันอาจจะเป็นแค่คำพูดธรรมดาแต่นั่นกลับทำให้มาร์คถึงกับกระอักจนถึงข้างใน เมื่อก่อนเขาไม่น่าคบขนาดนั้นเลยเหรอ รึเมื่อก่อนเค้าเลวมากเลยรึไงกัน " ชอบคนเลวๆหรอกเหรอ ก็น่าจะบอกน่ะ "
" ใครบอกว่าชอบ " คนตัวเล็กก้มหน้า ใช่เขาชอบมาร์คไม่รู้สิจะเลวรึไม่ก็เลิกชอบไม่ได้ อยากด่าตัวเองเหมือนกัน " เราไง เลิกชอบพี่แล้วเหรอ? "
" ผมไม่เคยชอบคุณ " กลั้นใจบอก ถือว่าเก่งน่ะที่น้ำเสียงนั้นยังปกติได้ " งั้นเหรอ? งั้นพี่คงรักเราข้างเดียว " คนขับยกยิ้มแล้วพูดขึ้นก่อนที่คนข้างๆจะค้อนใส่เขาวงใหญ่
" อย่าพูดดีกว่าถ้าคุณไม่ได้เป็นแบบนั้น " รักข้างเดียวเหรอผมต่างหากละ คุณหลอกผมลืมแล้วรึไง
" เอาเถอะ ถือว่าเรารักกันแค่พี่โง่ไม่รู้ใจตัวเอง " ว่าจบมือหนาเอิ้อมมาสัมผัสอีกคนเบาๆ ความอบอุ่นที่เขาทำหายไปค่อยๆกลับมาแล้วถ้าจะพูดเรื่องอดีตเขาผิดเต็มๆ
" ขับรถไปสิ ขับมือเดียวอันตราย " ร่างเล็กบอก นานแล้วที่ไม่ได้รู้สึกว่าหน้าร้านผ่าวขนาดนี้ คุณทำอะไรกับใจผมอีกแล้วมาร์คต้วน
" เรื่องโอกาส "
" ผมไม่ผิดสัญญาหรอก ผมไม่ลืมด้วย " ปากบางบอกยุกยิก ใบหน้าเล็กเริ่มเห่อแดง
" รู้เหรอ? ฮยองหมายถึงอะไร? "
" ก็… " ถึงกับติดอ่างเมื่อโดนถามกลับ มาร์คต้วนได้แต่หันมองเสี้ยวหน้าหวานที่ซ่อนริ้วแดงไม่ให้เห็น ถ้ารู้ว่ามีแบมแล้วหัวใจเต้นแรงและผ่อนคลายแบบนี้ เขาคงไม่ยอมปล่อยอีกคนไปง่ายๆและไม่โง่ไปกับเกมส์บ้าๆนั้น
" เห๊อะ ผมเกลียดคุณ" คนตัวเล็กว่าขึ้นหลังเห็นรอยยิ้มร้ายของร่างสูง และถ้าได้ยินแค่คำนี้ใครๆคงคิดว่าตนกำลังถูกด่าแต่ถ้าได้มองหน้าคนด่าชัดๆละก็นี่มันเขิลยกกำลังสองเลยละ " อะไรกัน โดนเกลียดสะแล้ว"
" หยุดได้แล้ว จะแกล้งผมไปถึงไหน "
" ก็จนกว่าแบมจะเรียกแทนตัวเองว่าแบม เหมือนที่พูดกะคนอื่น " เขาอยากให้อีกคนแทนตัวเองแบบนั้นบ้าง ผมคุณมันดูแตกต่างและห่างเหินเกินไป
" ทำไมผมต้องทำแบบนั้น "
" เพราะฮยองรักเราไง ถ้าเราไม่ลืมว่าจะให้โอกาสฮยองได้แก้ตัว เราก็ควรจะเรียกแทนตัวเองแบบนั้น "
คนขับพูดตรง เขากล้าบอกว่าเขารักแบมแบมแค่ไหน หากย้อนกลับไปในอดีตเขาก็เลือกจะตอบแบบนี้เช่นเดิมถึงแม้จะโดนล้อก็คงต้องยอมกันแล้วละ " หึ คงจะดีน่ะถ้าเมื่อก่อนคุณเป็นแบบนี้ "
" ใช่ คงจะดี " แม้ร่างเล็กจะไม่แทนตัวเองกับเขาในแบบที่ร้องขอแต่ก็ยังดี วันเวลาจะช่วยให้เขาแทรกเข้าไปในใจดวงน้อยดวงนี้ได้ เขาจะยังเชื่ออย่างนั้น
บรรยากาศในสถานรับเลี้ยงเด็กวันนี้ช่างเติมเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ แบมไม่ได้เอ่ยปากบ่นว่าเหนื่อยสักคำเขาทั้งวิ่งไล่กับเด็กๆ ทั้งแจกขนมทั้งอุ้มทั้งหอม ครั้นหันไปมองนาฬิกาเรือนใหญ่เวลาความสุขแบบนี้ก็ช่างเดินไวสะจริง บ่ายสองกว่าๆแล้วไม่น่าเชื่อว่าเขาจะ-ลุกอยู่กับเด็กๆและมาร์คต้วนได้หลายชั่วโมงขนาดนี้ คนตัวสูงมีหลายมุมมองที่เขาเพิ่งจะเคยได้สัมผัส อย่างแรกที่น่าตกใจคือมาร์คต้วนเป็นช่าง
มาร์คพยายามจะซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายต่อหลายเครื่อง ทั้งพัดลมเพดาน ระบบประปา หรือแม้กระทั่งเสาอากาศที่ส่งสัญญานเสียงในแต่ละมุมของบ้านหลังใหญ่ แบมแบมเองก็ได้รับหน้าที่เป็นลูกมือในการหยิบจับเครื่องมือช่างให้เขา แม้เขาจะเป็นผู้ชายเหมือนกันแต่ท่าทางไม่ได้เน้นไปทางเข้มแข็งและแข็งแรงเลยสักนิด
" ปาป๊าครับ " เด็กน้อยเรียกเบาๆ
" ครับ ว่าไง?" ย่อตัวลงนั่งข้างเด็กน้อยตัวเล็ก คงจะมีเรื่องอะไรอยากจะบอกเขาแค่คนเดียวแน่ๆ
" ปาป๊ามีความสุขมากมั้ยฮะ? "
เด็กน้อยกระซิบอีกครั้งเมื่อพ่อของเขาก้มลงมาใกล้ มาร์คงงกับคำถามเขาได้แต่มองตามสายตาใสซื่อของเด็กน้อยที่มองคนตัวเล็กที่อยุ่กับกล่องเครื่องมือ
" มากสิครับที่ไหนมีพวกเราป๊ามีความสุขทั้งนั้นละ " คำตอบของมาร์คเรียกรอยยิ้มเล็กๆจากเด็กน้อยตรงหน้า เขาถามเพราะกลัวป๊าเหนื่อย เขาถามเพราะกลัวป๊าลำบาก
" ฮยองคนสวยฮะ " เด็กน้อยยืนยิ้มกริ่มอยู่นานจึงวิ่งไปกระตุกชายเสื้อของแขกตัวเล็กบ้าง แบมแบมหันมาจนใจมือบางวางประแจตัวหนากับเข้ากล่องก่อนจะหันมาหาเจ้าของเสียงเรียก
" คร้าบ "
" วันนี้ปาป๊ามีความสุข ฮยองคนสวยล่ะมีความสุขมั้ยฮะ?"
" มีสิครับ "
" งั้นต้องมาที่นี้บ่อยๆนะฮะ จะได้มีความสุขมากๆอย่าทิ้งป๊าไปอีกนะครับ ป๊าไม่มีเพื่อนเลย " เด็กน้อยว่าช่างคำพูดหว่านล้อมคนฟังให้ตกปากรับคำได้ไม่ยาก ใครที่ไหนละจะปฏิเสธได้
" ได้เลย ฮยองจะมาบ่อยๆ "
คำตอบของร่างเล็ก สร้างรอยยิ้มกว้างๆให้มาร์คต้วนได้ทันที เขานึกว่าจะไม่มีโอกาศอีกแล้วจากวันนี้ เหมือนนี่เป็นการเริ่มต้นใหม่สำหรับและแบมแบมมาร์คต้องการทำให้อีกคน เชื่อในตัวเขาว่าเมื่อก่อนกับตอนนี้เขาเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
" ยิ้มอะไรของคุณ? " มองคนตัวสูงกอนเอ่ยถาม ยิ้มอะไรของเค้าน่ะ เหนื่อยจนเบลอรึไง
" อยากยิ้ม " ช่างเป็นคำตอบที่ไม่น่าฟังเอาสะเลย จนอดเอ่ยปากด่าไม่ได้
" บ้า!! "
" ยอมรับฮยองคงบ้า บ้าตั้งแต่เจอหน้านายอีกครั้งแล้วล่ะ "
มือหนาฉวยไปยกกล่องเครื่องมือในมือบางขึ้นมาถือเอง ก่อนจะเดินตามหลังเด็กน้อยกลับเข้าไปด้านในบ้าน พวกเขาออกมาซ่อมโคมไฟเล็กที่ประตูทางเข้าจนมันส่องสว่างได้เช่นเดิม รอยยิ้มและเสียงหัวเราะกำลังทำให้ใครบางคนที่แอบมองอยู่อิจฉา ทำไมไม่เป็นเขาบ้างก็เท่านั้น
ร้าน XXX
" กินสิ นี่อร่อยน่ะ "
" ขอบคุณ " หลังกลับจากไปหาเด็กๆมาร์คก็พาคนตัวเล็กแวะมาทานข้าวเย็นต่อ แม้ตอนแรกแบมจะปฏิเสธแต่ด้วยตื้อเท่านั้นที่ครองโลกคนตัวเล็กจึงยอมมา เพราะปากแท้ๆ
" คุณไม่กินรึไง ตักให้ผมจนล้นถ้วยแล้ว " ถามพรางมองอาหารในชามของตัวเอง จะเอาใจเขาถึงไหนกันกะจะขุนให้อ้วนเหมือนเดิมรึไง
" กินสิ ทำไมไม่กินละกลัวอ้วนเหรอ?"
" แน่นอน กว่าผมจะลดได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ " ผมบุยปากพูดนั่นคือเรื่องจริง ใครอ้วนแล้วอยากผอมจะรู้
" ลำบากมากสิน่ะ " น้ำเสียงทุ้มแผ่วลงทันที แต่หลังจากนั้นคนตัวสูงก็เลือกที่จะทานอาหารไปอย่างเงียบๆ จนเป็นแบมแบมเองที่ไม่ชอบในบรรยากาศเมื่อกี้เขาคงพูดอะไรผิดไป
" ไอ้มาร์ค!! "
" อ้าว ไอ้เนียร์ " ทั้งผมและมาร์คเงยหน้ามองอีกคนที่มาใหม่ มาสเตอร์จูเนียร์ ผมรีบลุกขึ้นและก้มหัวให้เขาเป็นมาสเตอร์ไม่ว่าที่ไหนผมก็ยังเป็นนักเรียน มาสมองผมแล้วยิ้มให้เล็กน้อย มือบางเตะไหล่ผมแล้วขอให้ผมนั่งลงทานอาหารอย่างเดิม แต่ใครมันจะไปกินลงละจริงมั้ย
" มาเดทกันเหรอ? " จูเนียร์มองดูสถานการณ์ก่อนเอ่ยถามออกไป ทำเอาคนทั้งสองที่กำลังทานข้าวแสดงอาการกระอักกระอ่วนใจไม่น้อย
" ........ "
" พอเลยไอเ้นียร์ มึงมาทำอะไรเเถวนี้ มากินข้าวเหรอ มาๆนั่งสิ " มาร์คลุกไปดึงเอาเพื่อนตัวบางให้นั่งลง
" เห้ยย ไม่เป็นไร กูกินมาแล้วยังไม่ตอบเลยมาเดทกันอะดิ? " เป็นอีกครั้งที่ผมได้ยินสรรพนามอย่างนี้จากปากมาสเตอร์ และเป็นอีกครั้งที่ผมต้องก้มหน้า ใครจะกล้าตอบละ ถึงจะตอบก็จะให้ตอบว่าอะไร
" ม ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับมาสคือ.. "
" อืม ไปเดทมา " ทั้งที่ผมบอกปัด แต่ร่างสูงกลับตอบรับหน้าตาเฉย " มาร์คต้วน!! "
ผมก้มหน้าทันทีหมอนี่พูดบ้าอะไรของเขา ดูจากสีหน้าของมาสแล้วถ้าไม่มีมาร์คต้วนอยู่ ผมคงได้หน้าแหกเพราะน้ำซุปร้อนๆในถ้วยแน่ๆ ทำอะไรทำไมไม่คิดน่ะ
" เอาน่า มาร์คมันจริงใจนะแบม " มาสหันมาคุยกับผม ซึ่งมันก็แปลกแววตาของเขาเปลี่ยนไปมองผมเหมือนวันแรกที่เราเจอกัน วันแรกที่ผมไม่เคยลืมความช่วยเหลือนั้น เกิดอะไรขึ้นกับมาสเตอร์น่ะ
" เอ่อ ผม "
" มันตามหาแบมตลอดตั้งแต่ที่ฮยองรู้จักมันมา หลายปีมากเลยละตอนแรกฮยองก็คิดว่ามันคงแค่สำนึกผิด แต่พักหลังคงคิดว่าไม่ใช่ เมื่อก่อนมันอาจจะเป็นคนเจ้าชู้ น่าม่อ สันดารแย่แล้ว... "
" พอเหอะ มึงกำลังด่ากูชัดๆ "
" เสือ กจริงไอ้เพื่อนเวน "
ผมมองทั้งสองสลับกัน ทั้งที่วันนั้นมาสเตอร์แสดงออกทุกอย่างว่าชอบผู้ชายตรงหน้า แต่วันนี้เขามาเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟัง เหตุผลละมันคืออะไรเหมือนวันนั้นรึป่าว วันที่เขาบอกผมเรื่องความเป็นพี่น้อง
มาสเตอร์คุณต้องการอะไร?
" เฮ้ แบมทำไมต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้น นี่นอกไฮฯใช้คำพูดพื้นๆแล้วกัน คุยดีๆกับไอ้บ้านี่ไม่ได้หรอก " ผมแทบจะหลุดขำกับท่าทางของมาสเตอร์ เขาเป็นคนที่ประหลาดดีจริงๆรึอันที่จริงผมกำลังจะโดนหลอกอีกกันแน่ ต้องขอบคุณวันเวลาที่พ้นผ่านนะมันทำให้ผมไม่ไว้ใจใครง่ายๆสักที ข้อเสียของมันคือทำให้ผมเป็นพวกคิดเล็กคิดน้อย
" ไม่เป็นไรครับ " หมายถึงผมไม่เป็นไรจริงๆชอบมากกว่าที่ได้คุยแบบสบายๆ
" มึงมาทำไรที่นี้จูเนียร์?"
"มึงมองกูแบบนี้ จะว่ากูตามมึงมาละสิ ชิ หลงตัวเอง !! "
จินยองแบะปาก เพราะเขากำลังโกหกถ้าจะบอกว่าเขาตามมาได้รึไงละจะให้บอกเขาบอกว่าเขาตามมาดูคนที่ตัวเองรักมีความสุขจะโดนเกลียดมากกว่านี้มั้ยน่ะ
" งั้นก็บอกมามึงมาทำอะไรที่นี้ ?" ร่างสูงย้ำถาม เขารู้จักเพื่อนตัวบางดี ที่นี้ไม่ใช่ที่ๆเขาจะมาเจอกันโดยบังเอิญ
" มาเดินเล่น...คนเดียวพอใจยัง?"
" จูเนียร์!!! " มาร์คย้ำเรียกเหมือนไม่เชื่อ
" เอ่อ ฮยองทานข้าวเถอะครับซุปจะเย็นหมดแล้ว " ผมทำลายบรรยากาศตรงนั้นลงทันที แม้จะไม่แน่ใจว่ามาสเตอร์มาที่นี้เพราะอะไร จะบังเอิญรึจงใจผมก็ไม่อยากเป็นศรัตูกับใครอีกเพียงเพราะคนๆเดียว
" แหม๋ๆ บอกคำเดียวได้ดั่งใจเลย เก่งนะเนี่ยแบม "
" เอ่อ ขอโทษนะค่ะ รถของคุณเหมือนจะมีปัญหาด้านสัญญาเสียงนะค่ะ ลูกค้ากรุณาไปดูได้มั้ยค่ะ?"
" หึม รถผมเหรอครับ " มาร์คหันไปมองพนักงานสาว
" ค่ะ"
ตอนนี้ตรงนี้มีแค่ผมกับมาสเตอร์ เพราะมาร์คเดินตามพนักงานออกไปแล้วผมรู้สึกเกร็งจนเจ็บท้องน้อยไปหมด ไม่ชอบเลยจริงๆสายตาแบบนั้น ผมจะรับมือยังไง
" เป็นอะไรกลัวเหรอ?"
" ป เปล่าครับ "
" ฮยองน่ากลัวมากเลยรึไง?" น้ำเสียงหวานยังถามต่อ ผมเหงื่อตกเลยทีเดียวจะไม่น่ากลัวได้ไงน้ำเสียงเยือกเย็นขนาดนี้
" ม ไม่ครับ "
ผมก้มหน้า โอยไม่ชอบเลยทำไมต้องมองผมแบบนี้ จู่ๆมาสเตอร์ก็ลุกขึ้นขายาวสาวเท้าเข้ามาใกล้ก่อนจะนั่งลงข้างๆผม มือไม้ผมสั่นไปหมด
" มาร์คน่ะ ชอบมากรึป่าว?"
" อะไรน่ะครับ ทำไมถึงถามแบบนี้ " ผมเงยหน้ามองอีกคน ความกลัวเมื่อกี้วิ่งหายไปหมดหลังเห็นแววตาเศร้า
" บอกมาเถอะ ชอบมาใช่มั้ย?"
ผมไมได้ตอบกลับเพียงแต่ก้มหน้า เพราะถ้าผมตอบว่าไม่นั่นคือการโกหกผมไม่ชอบเขาหรอกนะมาร์คต้วนน่ะ ผมรักเขามานานแล้วตั้งหากเพราะสิ่งที่ผ่านมามันก็บอกผมได้ว่าเขาเองสำนึกผิดแค่นั้น ไม่ผิดหรอกใช่มั้ยครับถ้าผมจะให้อภัย
"........."
" ดีจังเลยน่ะคนที่เราชอบก็ชอบเรา นายโชคดีจริงๆ"
" มาสครับ "
" ฉันสิชอบเขามาทั้งชีวิตแต่เขาก็ไม่มองเลยด้วยซ้ำ เอาแต่ย้ำว่าเราเป็นเพื่อนกัน น่าอายเนอะ? " น้ำเสียงหวานอ่อนลงคล้ายกับว่าเขากำลังระบายเรื่องทุกข์ร้อนให้ผมได้รับรู้
" ผมขอโทษครับ ที่กลับมาที่นี้ " ร่างเล็กหมายถึงเขาขอโทษที่กลับมาเกาหลี แต่จูเนียร์ก็ยิ้มตอบเขาไม่ติดใจและเขาเองต่างหากที่ควรขอโทษร่างเล็กตรงหน้า
" ไม่เป็นไร ต่อให้นายไม่กลับมาเค้าก็คงไม่มองมาที่ฉันหรอก"
" ทำไมละครับ?"
" เขามีแค่นายไง เมื่อก่อนตอนที่ฉันเริ่มสนิทกับมาร์ค เขาเอาแต่ถามคนนั้นคนนี้ว่ารู้จักบ้านของนายมั้ย เขาเล่าเรื่องนายให้ฉันฟังบ่อยมาก บ่อยสะจนฉันอิจฉาและอยากจะแทรกตัวเข้าไปแทนที่แต่แล้วมันก็เปล่าประโยชน์ " แววตาเศร้าหันมามองที่ผมก่อนจะถอนหายใจยาว มือขาวกุมมือผมแน่นไอร้อนที่ผมได้รับจากอีกคนทำให้ผมผ่อนคลายลงเยอะ
" ให้อภัยมันเถอะน่ะเรื่องในอดีตน่ะ ทุกอย่างเป็นแค่เกมของคนอื่นที่ยืมมือมันเขามาช่วย "
" เกม? "
" ฉันรู้แค่นี้ แค่ว่ามันเป็นเกม เกมของใครสักคนที่รู้จักพี่ชายของนาย ระวังตัวให้มากน่ะแบมเกมมันยังไม่จบหรอก " มาสเตอร์ว่ายาว
" ผมไม่เข้าใจทำไมต้องเกี่ยวกับพี่ชายผม จุนฮยองเป็นแค่นักธุระกิจ " ผมตอบกลับแต่ผมกำลังโกหกเพราะผมรู้ดีมันคืออะไร พี่ชายของผมเป็นหนึ่งในมาเฟียที่มีชื่อเสียงเมื่อไม่นานมานี่ก็เพิ่งจะทราบว่ามันคือความจริง ความจริงที่ยอมต้องยอมรับ
" ฉันก็แค่เตือนนายเผื่อมันจะเกิดอะไร "
" ขอบคุณครับมาสเตอร์ "
" ส่วนฉันกับมาร์คสุดท้ายก็แค่นี้ " อีกคนถอนหายใจยาว ท่าทาของเขาทำผมรู้สึกเจ็บ
#ฟิคปร #ปี้มาร์คคนมึน #แบมเด็กแว่น
ความคิดเห็น