คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ( OS ) Under my UMBRELLA
Title: Under my umbrella
Couple: BANGZELO
Author: wahneun
Type: ONE SHOT
Rate: PG
BGM: Umbrella – Tiffany ( SNSD )
Note: สั้นและไม่มีอะไร อย่าคิดอะไรมาก ฟีลลิ่งตอนเห็นรูปนี้บวกฟังเพลงบีจีเอ็มล้วนๆ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
แสงแดดยามบ่ายของฤดูร้อนสาดส่องลงมายังสนามกีฬาที่ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำรายการ Star Athletics Championships รายการที่มีศิลปินมากหน้าหลายตา ต่างวง ต่างค่ายมารวมตัวกัน ผมพอรู้ว่าแฟนคลับคงจำชื่อรายการยาวๆนี่ไม่ได้หรอก พวกเค้าก็เลยเรียกรายการนี้ว่า กีฬาสีไอดอล
รู้สึกว่ารายการนี้มีมาหลายปีแล้วล่ะ ไอดอลวงบุกเบิกก็จะเป็นพวกรุ่นพี่ซูเปอร์จูเนียร์ บีสท์ แล้วก็อีกมากมายหลายหลาก แต่วงของพวกผมเพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งที่สอง ครั้งแรกตอนต้นปี ถ่ายสนามกีฬาในร่มเพราะมันเป็นฤดูหนาวที่กำลังเข้าฤดูใบไม้ผลิ คงไม่ไหวถ้าจะให้ไปวิ่งแข่งกันท่ามกลางอากาศแบบนั้น แต่ครั้งนี้เป็นฤดูร้อนเลยได้ถ่ายกลางแจ้ง ซึ่งผมว่ามันร้อนมากเลยล่ะ
“ยงกุก มานั่งทำไมกลางแดดคนเดียววะ” คิมฮิมชานเป็นคนเดินกางร่มเข้ามาถามผม
“วุ่นวาย คนเยอะมาก กูจำหน้าคนไม่ค่อยได้มึงก็รู้”
“อย่างน้อยก็น่าจะไปอยู่กับน้องมัน คนเยอะแบบนี้ นับวันน้องมันก็ยิ่งโต ยิ่งดึงดูดคนรอบข้าง”
“กูรู้ว่ามันไม่สานสัมพันธ์กับใครหรอก เป็นโรคกลัวคน”
“กลัวมึงว้ากมากกว่า”
“น้องมันเชื่อฟังกูจะตาย ไม่เห็นมีอะไรน่าเป็นห่วง ฮโยซอง จีอึนก็เป็นการ์ดอีกชั้นอยู่แล้ว”
ผมนั่งตากแดดอยู่กลางสนาม ฮิมชานยืนค้ำหัวผมอยู่ ซึ่งมันก็ประโยชน์ตรงที่พอจะมีเงาร่มมาคุ้มหัวผมไว้ บอกเลยนะว่าออกมานั่งอยู่คนเดียวแต่สายตาก็ยังอยู่กับไอ้เด็กโข่งนั่นตลอดเวลา แหมเดี๋ยวนี้ลดความอ้วน จากปกติแก้มย้วยๆนิ่มๆชวนให้ฟัดเล่น แขนแล้วก็ตัวนิ่มๆมันรู้สึกดีมากนะเวลากอด แต่นี่อะไร ไปลดหุ่นแล้วยังจะฟิตกล้ามขึ้นมาอีก บอกเลยว่าไม่ใช่คำสั่งของลีดเดอร์อย่างผม นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมอยากให้น้องทำเลยล่ะ
เฮ้ยแล้วนั่น ยังโยซอบ มาคุยมาเล่นอะไรกับเด็กของผมวะ ที่บอกว่าจำหน้าคนไม่ค่อยได้โยซอบเป็นข้อยกเว้น เพราะก่อนจะมาเป็นลีดเดอร์ผู้ยิ่งใหญ่ของบีเอพีผมเคยทำซิงเกิ้ลแล้วเชิญมันมาช่วยร้องเพลงอยู่ครั้งนึง
โอ้ยก็ไม่น่าจัดให้ผมกับมันอยู่สีเดียวกันเลย ดูดิเอาขนมมาให้น้องผมกินด้วย ใส่ยาอะไรมามอมเมาเด็กผมป่ะวะ ไอ้ตัวเล็กนี่มันแสบนักแหละ
นั่งทำหน้านิ่งคิ้วขมวดอยู่ได้ไม่นานฮโยซองก็เหมือนจะเห็นปฏิกิริยาของผมกับภาพนั้น เลยรีบไปแยกทั้งสองคนออกจากกันซะดื้อๆ โยซอบทำหน้าเสียดายนิดหน่อย ส่วนไอ้เด็กนั่นก็ทำหน้าเซื่องๆแบบที่ทำเป็นปกติใส่ฮโยซอง ก้มหัวให้โยซอบในฐานะรุ่นน้องสองสามทีแล้วก็แยกออกมาตามแรงฉุดของนูน่าผู้แสนใจดีของมัน
พี่ยงกุกหายไปไหนนะ คนก็เยอะ ยังจะทำตัวลึกลับอีก...
“สวัสดีนะ รุ่นน้อง” เสียงหนึ่งดังขึ้นหลังผม พร้อมกับแก้วน้ำเย็นๆที่ยื่นมาให้ ผมก้มลงไปนิดนึงอย่างช่วยไม่ได้ แล้วก็พบว่าคนที่เข้ามาทักทายผมก็คือรุ่นพี่โยซอบที่เคยร่วมงานกับพี่ยงกุกนี่เอง ผมรับแก้วน้ำนั้นมาดื่มเป็นมารยาท ก่อนจะทักทายกลับไปบ้าง
“สวัสดีครับรุ่นพี่โยซอบ” พูดแล้วก็ก้มหัวให้ต่ำๆตามที่พี่ยงกุกเคยสอนไว้ มันเป็นมารยาทที่นักร้องหน้าใหม่ควรทำเวลาเจอรุ่นพี่
“เจลโล่.. ใช่ไหม?” รุ่นพี่ก้มลงมองป้ายชื่อแวบนึงแล้วก็เงยหน้ามายิ้มแย้มอย่างสดใสให้กับผม รอยยิ้มพี่เค้าสวยจังเลยแฮะ ดูเหมือนกับว่าโลกนี้ไม่มีเรื่องต้องกังวลใจอะไรเลย
“ตามที่เห็นครับ” ผมตอบแล้วก็ยิ้มไปให้บ้าง พี่เค้าจะมองว่าผมเอ๋อรึเปล่า พี่ยงกุกชอบบอกว่าผมชอบยิ้มแบบโง่ๆใส่คนอื่น
“ชื่อจริงชื่อว่าอะไรล่ะ ไม่ต้องเกร็งกับพี่หรอกนะ อยากรู้จักเฉยๆ เคยร่วมงานกับยงกุกมันน่ะ”
“จุนฮงครับ.. ชเวจุนฮง อายุสิบเจ็ด”
“ว้าว อายุแค่นี้แต่นายตัวสูงจัง สูงกว่ายงกุกมันซะอีก สูงกว่าดูจุนด้วยอะ พี่เคยเห็นผลงานช่วงแรกๆของวงเรานะ นายยังไม่สูงขนาดนี้เลย แล้วนี่ไปฟิตกล้ามมาหรอ?”
“ก็นิดหน่อยครับ พอให้ดูสุขภาพดีเฉยๆ เมื่อก่อนผมอ้วนออก”
“ฮ่าๆ พี่ก็อ้วน รู้ใช่ไหม นี่ก็คัมแบ็คอัลบั้มใหม่พร้อมซิกแพ็คเลยนะ ว่างๆก็ไปออกกำลังกายด้วยกันได้”
“รุ่นพี่ยิ้มสวยมากเลยครับ ผมชอบรอยยิ้มของพี่จังเลย รอยยิ้มผมมันดูบื้อๆใช่ไหมล่ะ พี่ยงกุกบอกแบบนั้น”
“ยิ้มของนายมันดูบริสุทธิ์และไร้เดียงสามากต่างหากเล่า ที่ยงกุกพูดแบบนั้นอาจจะเพราะไม่อยากให้นายยิ้มให้ใครบ่อยๆก็ได้นะ ฮิฮิ” พี่โยซอบยิ้มตลอดเวลาที่คุยกับผม เสียงหัวเราะเล็กๆที่ดูร่าเริงนั่นแอบทำให้ผมอิจฉาเลยล่ะ มันน่าจะเข้าได้ดีกับพี่ยงกุกไม่น้อยเลย
... ผมคิดอะไรงี่เง่าอีกล่ะ ถ้าพี่ยงกุกรู้ต้องด่าผมแน่ๆ
ผมได้แต่ยิ้มใส่รุ่นพี่ไปอย่างไม่รู้จะหาอะไรมาตอบดี พี่ยงกุกคงไม่ได้หวงผมขนาดนั้นหรอกมั้ง ก็แค่รอยยิ้มเอง. . .
“ขนม พี่ให้ ถือเป็นของขวัญวันรู้จักกันนะ” ยื่นขนมให้ผมแล้วก็ขยิบตาใส่อย่างน่ารัก น่ารักเสมอต้นเสมอปลายต้นแต่ต้นยันจบเลยแฮะ
จู่ๆก็มีแรงจากไหนไม่รู้มาฉุดแขนผมให้เซออกห่างจากรุ่นพี่โยซอบ
“จูนงอ่า ไปกินขนมกับพี่ดีกว่าปะๆ” เสียงฮโยซองนูน่าดังขึ้นข้างๆก่อนจะออกแรงลากผมไป ผมทำอะไรไม่ค่อยถูกก็ได้แต่ก้มหัวให้รุ่นพี่หลายๆครั้งที่เสียมารยาท
“ขอโทษที่เสียมารยาทนะโยซอบอ่า พอดีกลางสนามกำลังร้อนระอุ” นักร้องสาวสวยแอบหันมากระซิบกระซาบกับเพื่อนร่วมรุ่น พยายามไม่ให้เด็กที่ตนตั้งใจมาจับแยกได้ยิน พยักเพยิดหน้าไปยังกลางสนามหญ้าที่มีใครบ้างคนนั่งท้าแดดอยู่
“เข้าใจแล้วล่ะฮโยซองอ่า” พยักหน้ารัวๆก่อนจะกระซิบตอบเช่นกัน แล้วก็แจกยิ้มน่ารักให้คนรอบตัวอีกหนึ่งที
“ยังโยซอบ...” เสียงเย็นๆดังขึ้นด้านหลังทำเอาขนลุกเกรียวไปทั้งตัว ไม่ต้องเดาเลยว่าเสียงใคร ถ้าไม่ใช่...
“ยุนดูจุน” หันไปเผชิญหน้าแล้วก็ยิ้มให้ลีดเดอร์หน้าโหดของวงตัวเอง
“วันๆกะจะยิ้มให้คนทั้งสนามเลยรึไง ศิลปินมากี่วงก็จะไปทำความรู้จักเค้าหมดว่างั้น” หน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างกับยักษ์ มาถึงก็ใส่ๆๆ โยซอบเองก็ไม่ยอมเหมือนกันนะ!
“ทำไม แล้วจะให้ฉันทำหน้าบึ้งใส่คนทั้งโลกเหมือนดูจุนหรือไง นั่นก็รุ่นน้องที่กำลังมีอนาคตในวงการ คงได้เจอกันบ่อยๆเวลาโปรโมตนั่นล่ะ จะทำความรู้จักกันไว้นี่มันเสียหายตรงไหน!”
“หวง!” พูดจาฮาร์ดคอร์และตรงไปตรงมา นั่นแหล่ะยุนดูจุนเขาล่ะ. . .
“เดี๋ยวๆๆๆ พี่ฮโยซองจะพาผมไปไหนเนี่ย กลางสนามมันร้อนนะ!” โวยวายให้หนึ่งทีเมื่อดูท่าแล้วพี่สาวร่วมค่ายจะลากไปหาแดด ไม่เอานะ จุนฮงไม่อยากออกแดด มันแสบหน้าแสบตา อากาศก็ร้อนออกขนาดนี้
“ดูสิว่ากลางสนามมีใครอยู่ เกิดมันเป็นลมขึ้นมาจูต้องไปแบกมันเข้ามานะ นี่ร่มจ้ะ” พูดแล้วก็ยัดร่มใส่มือผมมาซะงั้น
แต่คนที่ผมถามถึง ที่แท้ก็ไปนั่งตากแดดให้ตัวดำมากกว่าเดิมอยู่กลางสนามนี่เอง . . .
ผมเดินไปไม่นานก็ถึงตัวลีดเดอร์ประจำวงที่นั่งมองหน้าผมอยู่เหมือนกัน ตัดสินใจนั่งลงข้างๆแล้วก็กางร่มที่ถือมาออกเพื่อให้มันสร้างร่มเงาบังแดดแก่คนสองคนใต้ร่มคันนี้ พี่ฮิมชานที่ยืนคุยกับพี่ยงกุกอยู่ก่อนหน้า เห็นผมทำแบบนั้นก็เป็นคนเดินออกไปจากบริเวณนี้
“เมื่อกี๊คุยอะไรกับโยซอบล่ะ” พูดกับผมแต่ไม่มองหน้าผม มองเหม่อๆไปบนพื้นหญ้าสีเขียวๆ หญ้ามีอะไรน่าสนใจกว่าผมหรอ
“ก็แค่ทำความรู้จักกันเฉยๆ แต่ผมชอบรอยยิ้มของพี่เค้าจัง”
“โยซอบมันก็เป็นอย่างนี้ล่ะ มีรอยยิ้มมอบให้คนรอบข้างเสมอ ไม่ว่าตัวเองจะเป็นยังไงหรืออยู่ในสถานการณ์แย่แค่ไหน รอยยิ้มของโยซอบก็จะเหมือนแสงสว่างให้กับทุกคน”
“รอยยิ้มพี่เค้าเหมาะกับพี่ยงกุกนะ” ฝืนยิ้มให้กับใบหญ้าที่อยู่รอบๆ ได้ยินพี่ยงกุกพูดแบบนั้นแล้วมันก็ใจเสียเหมือนกัน
“อย่าพูดแบบนั้นอีกนะ” พูดแล้วก็เอื้อมมือมาโอบไหล่ผมไว้หลวมๆ
“แม้ว่าจะมีใครที่เหมาะสมกับพี่ ดีกว่าเราแค่ไหน แต่จำไว้นะว่าพี่จะอยู่ข้างๆจุนฮงตลอดไป เหมือนกับร่มนี่ไง เราจะอยู่กลางแดดใต้ร่มนี้ด้วยกัน จะก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆกัน แม้จะมีปัญหาอะไรเข้ามาเราก็จะผ่านพ้นมันไปด้วยกัน มาอยู่ใต้ร่มด้วยกันไปตลอดนะ”
ผมไม่พูดอะไรนอกจากพยักหน้าเบาๆ ลดร่มในมือให้ต่ำลง พี่ยงกุกก็โน้มหน้าเข้ามาหาผม
“กลางสนามนะครับ แฟนคลับอยู่เยอะด้วย”
“พี่ไม่ทำอะไรตรงนี้หรอกครับ” พูดแล้วก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผม ก่อนจะคว้าร่มในมือแล้วลุกขึ้นยืน หันมามองหน้าเป็นเชิงว่าให้ลุกตามมาด้วยกัน
“อย่าไปยิ้มโง่ๆให้ใครเห็นมากล่ะ พี่อยากเห็นรอยยิ้มโง่ๆแบบนี้คนเดียว”
ไอ้พี่บ้า!
-THE END-
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
wahneun:
ความคิดเห็น