ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic exo] ♡ 30 Days ♡ { ChanBaek }

    ลำดับตอนที่ #6 : SF Special Thanks ♡ ตอน..กินอมยิ้มยักษ์ของยอลยอล ♡

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 18.79K
      61
      7 พ.ค. 57


    Special SF แทนคำขอบคุณจากใจไรท์เตอร์..



    ขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์ ทุกๆแท็ก และทุกๆคนที่คลิกเข้ามาอ่านนะคะ ขอบคุณมากจริงๆไม่คิดว่าฟิคเรื่องนี้จะได้รับการตอบรับดีขนาดนี้ 


    แต่..ถ้าถามว่าทำไมไรท์ถึงต้องแต่งฉากนี้เพื่อแทนคำขอบคุณ คำตอบก็คือ ไรท์เห็นแฟนอาร์ตรูปนี้ก็เลยเกิดอาการฟิน + หื่นแบบน่ารักๆขึ้นมาเบาๆเลยอยากลองแต่งฉาก..แบบเด็กๆ?

     

    และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ต้องขอบคุณบอทประธานปาร์คและบอทพยอนเหมียวของเรามากๆเป็นบอทที่น่ารักจริงๆ


    เลิฟฟฟฟฟฟ














     



     

    SF  Special  Thanks

    ตอน..กินอมยิ้มยักษ์ของยอลยอล..











     

                  เสียงของเด็กน้อยและผู้ปกครองที่มาส่งบุตรหลาน เสียงพูดคุยทักทายระหว่างผู้ปกครองกับคุณครู เสียงแตรรถและเสียงรถที่วิ่งเข้าออกประตูที่ 1 หน้าโรงเรียน ช่างเป็นบรรยากาศที่แสนจะวุ่นวายและเหมาะสำหรับเช้าวันเปิดเทอมวันแรกของ โรงเรียนอนุบาลซองนัม..



                 เด็กน้อยตัวสูงผิวขาวสุขภาพดีตามแบบฉบับของลูกมหาเศรษฐีอันดับต้นของเอเชียก้าวเท้าลงจากรถด้วยรอยยิ้มกว้างจนเห็นรอยบุ๋มที่แก้มด้านซ้าย จากนั้นจึงยื่นริมฝีปากนุ่มๆไปจุ๊บแก้มมารดาที่นั่งย่อเข่ารอรับลูกน้อยตรงหน้าด้วยความรัก


                “ตั้งใจเรียนนะครับลูก อย่าเอาหนอนไปแกล้งเพื่อนอีกล่ะ เดี๋ยวตอนเย็นหม่ามิ๊มารับนะครับ..


                หญิงสาวอายุสามสิบต้นๆหน้าตาสะสวยยื่นมือไปลูบศีรษะลูกชายคนเล็กด้วยความเอ็นดู ทำให้ได้รับรอยยิ้มน่ารักสดใสกลับมาพร้อมกับอ้อมกอดอุ่นๆจากเด็กน้อยแทนคำสัญญา


                 ว่าเขาจะไม่เอาหนอนออกมาแกล้งเพื่อนอีก..




                 “อ้าวคุณนายปาร์คสวัสดีค่ะ กลับมาจากอเมริกาเมื่อไหร่คะเนี่ย?”


                 เสียงคุ้นเคยที่เอ่ยทัก ทำให้คุณนายปาร์คฮยุนแจที่กำลังล่ำลากับลูกชายคนเล็กเหลียวหลังไปดู จากนั้นริมฝีปากอิ่มที่ถูกเคลือบไว้ด้วยลิปติกสีแดงสดก็คลี่ยิ้มออกมาทันที เมื่อพบว่าคนที่เอ่ยทักเป็นเพื่อนสมัยเรียนของเธอ ซึ่งมาส่งลูกชายคนเล็กที่โรงเรียนนี้เช่นกัน..


                 “พึ่งกลับมาเมื่อวานค่ะ ก็ตาชานยอลน่ะสิคะโทรไปอ้อนบอกว่าอยากให้แม่มาส่งที่โรงเรียนวันแรก..



                 หญิงสาววัยกลางคนเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม พลางยื่นมือไปลูบศีรษะของลูกชายคนเล็กที่ยืนยิ้มให้เธอด้วยความเอ็นดู ก็เพราะลูกชายคนเล็กของเธอคนนี้น่ารักและมักทำตัวขี้อ้อนแบบนี้เสมอ จึงทำให้เป็นที่เอ็นดูของผู้ใหญ่หลายๆคน



                 แม้กระทั่งคุณครูที่โรงเรียน ก็มักจะเอ่ยปากชมอยู่เสมอๆว่าลูกชายของเธอนั้นช่างเป็นเด็กน่ารัก ใฝ่เรียน และมีความรับผิดชอบผิดวิสัยเด็กอนุบาลทั่วไป เพราะเหตุนี้จึงทำให้เด็กชายปาร์คชานยอลได้รับเลือกเป็นนักเรียนตัวอย่างและหัวหน้าห้องในทุกๆปี



                 “ใกล้เวลาเรียนแล้ว ชานยอลพาน้องเข้าไปข้างในเถอะลูก อย่าลืมดูแลน้องด้วยนะครับ แล้วก็ห้ามเอาหนอนออกมาแกล้งน้องอีกรู้ไหม เดี๋ยวน้องจะกลัวจนไม่สบายเหมือนคราวที่แล้วอีกนะครับ..



                 เอ่ยบอกลูกชาย ในขณะที่ส่งเด็กตัวเล็กๆผิวขาวที่แสนจะน่ารักซึ่งก็คือลูกชายคนเล็กของเพื่อนเธอไปให้ ทำให้เด็กน้อยหน้าจิ้มลิ้มถึงกับตัวสั่นน้อยๆยามที่ถูกเพื่อนร่วมห่วงแตะต้องตัวของเขา



                 เนื่องจากเด็กน้อยกำลังหวาดกลัว..




                 “ไม่ต้องกลัวนะลูก พี่เค้าไม่แกล้งหนูหรอก คุณน้าสั่งพี่ชานยอลเอาไว้แล้วว่าไม่ให้แกล้งหนูพยอนอีก หรือไม่ถ้าพี่เค้าแกล้งหนูอีกล่ะก็โทรมาฟ้องคุณน้าเลยนะครับ คุณน้าจะได้ตัดเงินค่าช๊อปปิ้งรายสัปดาห์ให้เข็ด!”



                เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ทว่าสายตาของคุณนายปาร์คฮยุนแจที่ทอดมองไปยังลูกชายคนเล็กกลับเต็มไปด้วยความจริงจัง เนื่องจากเธอไม่อยากให้ลูกของเธอเป็นเด็กไม่น่ารัก และที่สำคัญมันก็หลายครั้งแล้วที่ลูกชายของเธอเอาหนอนไปแกล้งเด็กน้อยที่แสนจะน่ารักคนนี้ แกล้งเสียจนเด็กน้อยต้องนอนป่วยอยู่บ้าน ไม่ได้มาโรงเรียนถึงสองวัน



              เพราะเดินไม่ไหว..




                “ครับหม่ามิ๊น้องยอลสัญญาว่าจะไม่แกล้งน้องแรงๆอีก..แต่จะพยายามนุ่มนวลกับน้องให้มากที่สุดนะครับ..



                 เด็กน้อยวัย 6 ขวบตอบผู้เป็นมารดาด้วยรอยยิ้มพลางบีบกระชับมือนุ่มๆของเพื่อนตัวเล็กร่วมน้องที่มีศักดิ์เป็นน้องของเขาเบาๆ ทำให้ผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายได้แต่ระบายยิ้มอ่อนๆออกมาอย่างคลายกังวลยามที่มองตามแผ่นหลังของลูกน้อยทั้งสองเดินจูงมือกันเข้าไปในรั้วโรงเรียนอย่างน่ารัก..















                  “ยะ ยอลยอล~ เรากำลังจะไปไหนกันหรอ?”



                  เด็กน้อยเอียงคอถามด้วยความสงสัยเมื่อคนเป็นพี่ชายไม่ได้พาเขาเดินไปที่ห้องเรียน แต่กลับพาเขาเดินเลี้ยวมาอีกทางซึ่งเป็นซอกตึกหลังโรงเรียนที่ค่อนข้างอับชื้น ซึ่งมันก็คือสถานที่ ที่เด็กน้อยทั้งสองมาเล่นกันแทบทุกวัน..



                  งั้นก็แสดงว่าวันนี้ยอลยอลพามาเล่นโยกเยกก่อนเข้าเรียนอีกแล้วสินะ..



                 “ไปกินอมยิ้มไงครับเด็กดี วันนี้ยอลซื้ออมยิ้มมาฝากป๋ายด้วยนะ..



                 “แล้วยอลก็จะสอนวิธีกินให้ป๋ายใหม่ด้วย รับรองว่าต้องอร่อยกว่าเดิมแน่ๆ..”



                 เด็กน้อยตัวสูงยกยิ้มมุมปากยามที่ปรายตามองไปยังน้องตัวเล็กที่กำลังเดินอยู่ข้างๆ จากนั้นจึงรีบสาวเท้าให้เร็วขึ้นกว่าเดิมเพื่อตรงไปยังห้องลับส่วนตัวของเขาที่อยู่หลังโรงเรียน ซึ่งเป็นห้องที่ไม่มีใครกล้าย่างกายเข้ามา เนื่องจากเป็นสถานที่พักผ่อนส่วนตัวของลูกชายเจ้าของโรงเรียน..



                 “ถ้ากินอมยิ้มแล้วจะป่วยเหมือนกินไอติมคราวที่แล้วไหม?”



                 เอ่ยถามด้วยความใสซื่อปนกับความหวาดกลัวนิดๆ เนื่องจากครั้งแรกที่เด็กน้อยแอบหนีมากินไอติมกับพี่ชายที่นี่ เขาก็รู้สึกปวดตามร่างกายไปหมดโดยเฉพาะบริเวณบั้นท้ายนุ่มนิ่ม ที่เจ็บจนแทบจะเดินไม่ไหว..



                 และที่สำคัญมันยังมีเลือดไหลออกมาอีกด้วย..




                “ไม่ป่วยครับเด็กดี คราวนี้ไม่ป่วยแล้วก็ไม่เจ็บด้วย มีแต่เสียว..”



                เอ่ยออกมาด้วยความเจ้าเล่ห์ ยามที่ทอดสายตามองไปยังใบหน้าจิ้มลิ้มใสซื่อของน้องตัวน้อย ซึ่งอีกคนก็ไม่ได้รู้หรอกว่าการที่ยิ่งทำตัวน่ารักใสซื่อแบบนี้ มันยิ่งทำให้พี่ชายตัวโตอยากจะแกล้งให้เดินไม่ไหวเสียให้รู้แล้วรู้รอด..






     





    CUT

    ฉากกินอมยิ้มยักษ์อยู่ในทวิตของไรท์นะคะ ไปหาเอาเด้อ ^^

     

     

     



     

     

     

    MINOR
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×