คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : 14 Days ♡
14 Days ♡
#เพื่อนรักเตียงสั่น
หลังจากที่ต้องลำสักข้าวมื้อเย็นอยู่สองหนเต็มๆกว่าจะกินอย่างมีความสุขเสียที บัดนี้ก็ได้เวลาแล้วที่โอเซฮุนจะต้องยัดเหล่าอาหารเลิศรสตรงหน้าเข้าไปในท้องเพื่อทดแทนพลังงานในตัวที่หายไปจากการซัมบาราเห้อิเหี่ยวทั้งวัน..
เอ๊ะ! ว่าแต่อะไรนะ!
อิเหี่ยวงั้นหรอ? อิเหี่ยว อิเหี่ยว อิเหี่ยว.. แล้วทำไมคนที่ใส่ชุดประหลาดๆเดินผ่านหน้าพวกผมไปเมื่อกี้มันเหมือนอิเหี่ยวจังวะ?? แถมยังมีไอ้ตัวสูงๆหน้าตาประหลาดๆกับไอ้มนุษย์ตัวเตี้ยที่ใส่หมวกคลุมหน้าสีเหลืองยังกะพระที่เดินอยู่ข้างๆมันด้วย..
แบบนี้มัน..
“ซอกๆ มึงช่วยกูดูไอ้สามตัวนั้นหน่อยดิ มึงว่าพวกมันใช่แก๊งค์แพนด้าไหมวะ?”
เอื้อมมือไปเขย่าแขนเพื่อนรักที่นั่งอยู่ข้างๆทันที ในขณะที่สายตายังคงจับจ้องไปยังแผ่นหลังของแก๊งค์ผู้ต้องสงสัยอย่างไม่วางตา นั่นทำให้คิมมินซอกที่ได้ยินกำลังเต้นเต้นและกระตือรือร้นที่จะช่วยดูซะเหลือเกิน..
ตื่นเต้นมากเสียจนต้องก้มลงแทะเจ้ากุ้งมังกรตรงหน้าอย่างไม่ลืมหูลืมตา..
“มึงว่าไงซอก ตกลงใช่พวกมันไหมวะ?”
“แล้วถ้าใช่ มึงว่าพวกมันกำลังจะไปไหนวะ?”
“เห้ย ซอกมึงตอบกูหน่อยดิเงียบทำไมวะ หรือกูตาฝาด?”
“ทำไมมึงไม่ตอบกูเลยวะ ตกลงมันใช่พวกแก๊งค์แพนด้าไหม ซะ..ซอก..”
เมื่อพยายามส่องอยู่นานจนกระทั่งแก๊งค์ต้องสงสัยหายวับไปกับตาแล้ว โอเซฮุนจึงจำต้องหันกลับมาถามเพื่อนรักด้วยความสงสัยว่าทำไมมันไม่ยอมตอบเขาเสียที.. และตอนนี้กูก็หายสงสัยเป็นที่เรียบร้อยแล้วละครับว่าทำไมอิจอกมันถึงเอาแต่นั่งเงียบไม่พูดไม่จา เพราะทุกอย่างมันได้ประจักษ์แก่สายตากูหมดแล้วครับ..
“ขอบคุณมากนะซอก มึงช่วยกูได้มากจริงๆ ขอบคุณ..”
“ออ ถ้ามึงไม่อิ่มกินของกูต่อก็ได้นะ ของกูยังไม่ได้แตะเลยเพื่อน.. กินให้อิ่มนะ..”
ยกมือขึ้นตบบ่าเพื่อนรักเบาๆสองสามทีเพื่อบอกให้เพื่อนทานกุ้งมังกรของตัวเองต่อถ้าไม่อิ่ม นี่ขอบอกเลยนะครับว่าโอเซฮุนไม่ได้ประชดหรือแดกดันเพื่อนรักของเขาเลยแม้นิด..
และคิมมินซอกเองก็คงจะคิดเช่นนั้น ว่าที่ผมพูดมาทั้งหมดเนี๊ยผมไม่ได้ประชดมันเลย เพราะไม่อย่างนั้นมันคงจะไม่โผเข้ามากอดผมด้วยความดีอกดีใจ แถมยังกอดรัดซะแน่นประหนึ่งผมเป็นหมอนข้างหรือตุ๊กตาหรืออะไรของมันซักอย่าง จนผมแทบจะหายใจไม่ออกและกำลังจะดับอนาถคาที่แบบนี้หรอกครับ -___-
“ขอบใจมึงมากนะเว้ยไอ้ฮุน มึงเป็นเพื่อนที่รู้ใจกูที่สุดเลยรู้ป่ะ”
“งั้นกูจะเริ่มกินน้องกุ้งของมึงละนะ อ้าม งั่มๆ~ หืม.. โห..โหย..”
“ทำไมกุ้งของมึงแมร่งอร่อยกว่าของกูวะ งั้นกูขอทั้งจานเลยแล้วกันนะฮุน พอดีกูไม่อิ่มจริงๆ แฮะๆ”
!!!!
นั่นไงครับกูว่าแล้ว.. กูคิดแล้วไม่มีผิดว่าการที่กูลงทุนเอากุ้งมังกรยักษ์ราคาแสนแพงของกูไปประชดคิมมินซอกที่เห็นเรื่องกินสำคัญเป็นอันดับสองรองจากเรื่องซัมบาราเห้เนี่ย!! น้องกุ้งสุดโปรดของกูต้องตกลงไปอยู่ในท้องของมันทั้งหมดจริงๆ โดยที่มันไม่ได้รับรู้เล้ยว่าทั้งหมดที่กูพูดน่ะกูประชดมันทั้งน้านนน!!
นี่ตกลงคิมมินซอกมันโง่?? หรือ กูกันแน่วะครับที่โง่?? T____T
“อ้าวแล้วนั่นมึงจะไปไหนวะไอ้ฮุน มึงพึ่งกินไปได้นิดเดียวเองอิ่มแล้วหรอ?”
ยังครับยัง.. ยังจะมีหน้ามาถามกูแบบนี้ ทั้งๆที่มึงเป็นคนแย่งของกินกูไปกองไว้ตรงหน้ามึงหมดแล้ว ยังจะมาพูดแล้วทำหน้าใสซื่อใส่กูอีก.. คิมมินซอกนี่จริงๆมันโคตรใจร้ายเลยนะครับ ใจร้ายใจดำ และอำมหิตกว่าจางอี้ชิงเสียอีก แมร่ง T____T
“ยัง.. กูยังไม่อิ่มหรอก..”
“แต่กูกินต่อไม่ได้แล้วว่ะ..”
แกล้งขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นยืนหันหลังให้เพื่อนรักแล้วแอบหัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว ก่อนที่จะหันหลังกลับมาเช่นเดิมแล้วทำเป็นตีมาดขรึม นั่นทำให้สองมนุษย์คู่อู๋อี้ที่เอาแต่นั่งสำรวจเชื้อราในข้าวมานาน รวมถึงคิมมินซอกที่นั่งสวาปามกุ้งตัวโตอยู่เมื่อครู่ถึงกับเงยหน้าขึ้นมามองเพื่อนรักตัวสูงด้วยความงุนงงพร้อมกันทันทีอย่างมิได้นัดหมาย..
“มึงปวดอึหรอวะไอ้ฮุน / มึงแพ้ท้องจะอ้วกหรอวะไอ้ฮุน / มึงจะไปซัมบาราเห้ต่อหรอวะไอ้ฮุน”
ครับ.. ดูแต่ละคำถามที่พวกมันถามผมสิ ดูก็รู้ใช่ไหมครับว่าพวกมันสามตัวเป็นห่วงผมมากแค่ไหน.. แล้วนี่กระผมโอเซฮุนควรจะตอบคำถามเหล่าเพื่อนๆสุดที่รักของผมยังไงดีล่ะ.. เอาเป็นว่าผมจะตอบพวกมันทีละคนก็แล้วกัน..
“เชี่ยอู๋.. มึงถามว่ากูปวดขี้รึเปล่าใช่ไหมครับ?”
“คำตอบคือไม่ครับกูไม่ได้ปวดขี้เพราะตอนที่ขย่มกับอิเหี่ยวในห้องกูขี้ไปเรียบร้อยแล้วสองรอบ โอเคนะครับ..”
“ต่อไปอี้.. มึงถามว่ากูแพ้ท้องจะอ้วกรึเปล่าใช่ไหมครับ?”
“คำตอบคือไม่ใช่แน่นอนครับ เพราะกูเป็นคนขี่อิเหี่ยว คือถ้าจะมีใครท้องก็ต้องเป็นอิเหี่ยวนู่นครับไม่ใช่กู..”
“ส่วนอิซอก.. มึงถามว่ากูจะไปซัมบาราเห้ต่อรึเปล่าใช่ไหมครับ?”
“คำตอบคือ ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่กูจะไปซัมบาราเห้ต่อ แต่กูกำลังจะไปดูไอ้ประธานกับหมาซัมบาราเห้กันต่างหาก”
!!!!
เมื่อตอบคำถามเพื่อนรักทั้งสามเสร็จเรียบร้อยแล้ว โอเซฮุนที่ตอนนี้ดูหล่อเหลาประดุจพระเอกหนังกำลังภายในก็กำลังย่างกรายออกมาจากผืนพสุธาแห่งนั้นทันทีด้วยความสง่างาม.. ปล่อยให้เพื่อนรักทั้งสามของเขาได้แต่นั่งอึ้งอ้าปากค้าง
แต่หลังจากนั้นไม่ถึง 3 วินาที บุคคลที่หลงใหลคลั่งไคล้ในการซัมบาราเห้เยี่ยงชีพเช่นคิมมินจอกก็รีบวิ่งตามหลังเขามาทันทีพร้อมกับตะโกนดังลั่นว่า..
“อิฮุนเพื่อนรักรอจอกด้วยยยยยยย!!”
“จอกจะไปถ่ายฉากซัมบาราเห้บนโขดหินของอิประธานกับอิหมา!!!!”
!!!!
“เห้ยพวกมึงหยุดก่อน..”
หลังจากที่บุคคลทั้งสี่ซึ่งประกอบไปด้วย จางอี้ชิง คิมมินซอก โอเซฮุน และอู๋อี้ฟานได้ถอดรองเท้าเดินย่องเบามาจนถึงสถานที่ที่คาดว่าน่าจะเป็นแหล่งกบดานในการซัมบาราเห้ของไอ้ประธานกับหมาน้อยเรียบร้อยแล้ว จู่ๆจางอี้ชิงซึ่งเป็นทัพหน้าก็หยุดเดินเอาดื้อๆ จนเป็นเหตุทำให้เพื่อนรักทั้งสามที่เดินตามหลังมาติดๆหัวชนกันแทบจะดับอนาถคาที่
“มึงจะหยุดทำไมไม่ให้สัญญาณก่อนวะอี้..”
“มึงคิดดูดิถ้าพวกกูหกล้มแล้วฟันเฉาะเข้ากับทรายพวกนี้ขึ้นมา พวกกูจะเป็นไง”
“คอยดูนะกูจะ ฟะ ฟ้อง ฟ้อง..หม่อม..หม่อม..”
อู๋ฟานสุดหล่อประดุจพระเอกหนังฮอลลีวู้ดยืนกระทืบเท้าปึงปังพลางบ่นงึมงำออกมาไม่หยุดหลังจากที่ปากของเขากระแทกเข้ากับแผ่นหลังของโอเซฮุนอย่างจัง หรือถ้าจะพูดง่ายๆก็คือฟันของอู๋อี้ฟานเฉาะเข้ากับแผ่นหลังของโอเซฮุนจนเลือดแทบกลบปาก
แต่ก็นั่นแหละ.. สุดท้ายแล้วชายหนุ่มผู้น่าสงสารที่อุดส่าเดินทางมาจากดินแดนกาแล็คซี่อันไกลโพ้นก็ไม่ทันที่จะได้เอ่ยจนจบประโยคหรอก เพราะตอนนี้สายตาของจางอี้ชิงที่กำลังส่งมาเป็นเครื่องบ่งบอกได้อย่างดีว่า..
มึงควรหุบปากเดี๋ยวนี้ถ้ามึงยังอยากจะกลับกาแล็คซี่ไปฟ้องหม่อมแม่ของมึงต่ออู๋อี้ฟาน T____T
“ว่าแต่มึงพาพวกกูหยุดเดินทำไมเนี่ยอี้หรือว่า.. อุ๊บ!”
จางอี้ชิงรีบยกมือขึ้นประกบปากเพื่อนรักของเขาเอาไว้ทันที เพราะถ้าปล่อยให้อิจอกมันพูดต่อนะมีหวังเป้าหมายที่เล็งไว้กับแก๊งค์ผู้ต้องสัยสามคนที่พวกมันกำลังด้อมๆมองๆอยู่แถวโขดหินมีอันได้แตกตื่นหนีกันไปคนละทิศละทางก่อนแน่ๆ ก็อิจอกน่ะมันเคยพูดเบาๆกับชาวบ้านเขาเป็นเสียที่ไหนกัน -___-
“มึงช่วยหยุดความสงสัยเอาไว้ก่อนได้ไหมจอก เพราะกูกำลังจะบอกอยู่นี่ไง”
“และถ้าพวกมึงเอาแต่พูดๆ พูดไม่หยุดแบบนี้ไม่เงียบฟังกูซักที แล้วเมื่อไหร่กูจะได้พูดวะ!!”
หลังจากที่เห็นว่าคิมมินจอกเริ่มสงบและไม่ต้านแรงปิดปากของตนแล้ว อี้ชิงจึงตัดสินใจลดมือลงจากปากเพื่อนรัก แล้วใช้มันในการเท้าเอวแทน แถมยังเป็นการเท้าเอวแบบจิกอีกด้วย.. และมันก็เป็นการจิกที่อำมหิตเอามากๆจนเพื่อนรักทั้งสามหน่อไม่กล้าแม้แต่จะกลืนน้ำลายลงคอ เพราะหากกลืนน้ำลายแล้วมันเสียงดัง..
พวกเขาทั้งสามอาจจะโดนจางอี้ชิงหักคอดับอนาถก็เป็นได้ T____T
“เงียบกันได้แล้วใช่ไหม.. มีใครจะพูดอะไรอีกรึเปล่าหืม..?”
ทำเป็นวางมาดขรึม ปรายตามองเพื่อนรักทั้งสามตั้งแต่หัวจรดเท้าและเดินวนไปรอบๆ นั่นทำให้คิมมินซอก โอเซฮุน และอู๋อี้ฟานได้แต่ยืนนิ่งไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ และสิ่งเดียวที่พวกเขาทั้งสามทำได้ในตอนนี้ก็คือการยืนพยักหน้าหงึกๆอยู่กับที่เพียงเท่านั้น..
หม่อมแม่ครับช่วยลูกอู๋ด้วย..
ลูกอู๋ของหม่อมแม่หายใจไม่ได้..
ลูกอู๋ของหม่อมแม่กำลังจะดับอนาถแล้วครับ T____T
“พวกมึงดูนู่นดิ มึงว่าไอ้พวกนั้นเป็นใครวะ?”
“หรือพวกมันจะเป็นพวกโรคจิตแอบถ่ายฉากซัมบาราเห้แล้วเอาไปขาย”
“ถ้างั้นที่พวกมันกำลังถ่ายอยู่ในตอนนี้ก็.. ก็..”
อี้ชิงชี้ไปที่แก๊งค์มนุษย์ผู้ต้องสงสัยสามตัวที่มันกำลังด้อมๆมองๆอยู่บริเวณโขดหินในขณะที่หัวสมองก็คิดไปต่างนาๆแล้วว่าคนพวกนั้นอาจจะเป็นพวกโจรโรคจิตที่กำลังแอบตั้งกล้องถ่ายเพื่อนรักทั้งสองคนของเขาที่กำลังซัมบาราเห้กันอย่างเมามันอยู่บนโขดหินก็เป็นได้..
นั่นทำให้คิมมินซอกที่ได้ยินคำสันนิษฐานของเพื่อนรักถึงกับเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ ก่อนที่มันจะรีบพุ่งตรงไปยังแก๊งค์ผู้ต้องสงสัยเหล่านั้นทันที และแหกปากออกมาด้วยลำเสียงร้อยแปดสิบเดซิเบลล์ว่า..
“อิพวกโจรบ้า!! บังอาจมาแย่งหน้าที่ตากล้องซัมบาราเห้ของจอกหรอมึง!!”
“พวกมึงรู้ไหมว่าจอกรักการถ่ายซัมบาราเห้ของจอกมากแค่ไหน แต่พวกมึงบังอาจมาแย่งหน้าที่อันเป็นที่รักยิ่งของจอก!!”
“เพราะงั้นพวกมึงตายยย!!!! จอกจะฆ่าพวกมึงงงงงงงงงเดี๋ยวเน้!!! ไอ้พวกโจรแย่งฉากซัมบาราเห้!!!”
!!!!
45 %
“อร่อก~ อิฮุนมึงมาดึงคอเสื้อจอกทำ..อร่อก~”
พยายามเอ่ยท้วงด้วยเสียงอู้อี้ ในขณะที่เท้าทั้งสองข้างกำลังดิ้นแด่วๆอยู่กลางอากาศ ครับ.. คุณเข้าใจถูกแล้วครับเพราะตอนนี้ตรีนของคิมมินจอกกำลังลอยอยู่กลางอากาศจริงๆ
ก็อิฮุนเพื่อนรักของจอกนะสิมาจากไหนก็ไม่รู้ จู่ๆมันก็มาดึงคอเสื้อจอกขึ้นแล้วไม่ยอมวางลงกับพื้นสักทีเนี่ย!! เมื่อกี้จอกกำลังจะวิ่งเข้าไปประชิดตัวไอ้พวกโจรแย่งฉากซัมบาราเห้ของจอกอยู่แล้วเชียว ไม่น่าต้องมาดับอนาถก่อนจะได้หยิกก้นพวกมันเลยให้ตายสิ..
อุก!!
“มึงไม่ต้องซอก.. เดี๋ยวกูจัดเอง..หึหึ”
จ้า.. เชิญมึงจัดการพวกมันตามสบายคนเดียวเลยจ้า เพราะต่อให้ตอนนี้มึงเอาช้าง ม้า วัว ควาย หรืออะไรมาฉุดกูก็คงลุกไม่ขึ้นแล้วอิฮุน ก็มึงเล่นปล่อยกูคว่ำหน้าลงกับพื้นจนแทบกระอักเลือดตายแบบนี้ T____T
หมับ!!
“ทำไรอยู่เหรอเหี่ยวศรี..”
เอื้อมไปคว้าข้อมือเล็กทันที หลังจากที่สันนิษฐานว่าบุคคลที่กำลังด้อมๆมองๆอยู่ตรงหน้าต้องเป็นอิเหี่ยวของเขาแน่นอน เพราะต่อให้อิเหี่ยวมันจะแต่งตัวบ้าบอหรืออำพลางตัวแก่งแค่ไหนก็ไม่อาจเล็ดรอดสายตาของโอเซฮุนคนนี้ไปได้หรอก..
ก็นะ.. ขึ้นชื่อว่าเมียทั้งคนใครมันจะจำไม่ได้วะ..
“ไอ้หน้าชา.. อุ๊บ!!”
มือหนึ่งจัดการรั้งเอวบางเข้ามาแนบชิด ส่วนอีกมือก็รีบยกขึ้นมาประกบริมฝีปากบางๆเอาไว้เพื่อไม่ให้อิเหี่ยวศรีของเขาส่งเสียงออกมาให้ไอ้พวกแก๊งค์แพนด้าอีกสองคนที่มันกำลังซุ่มทัพอยู่ด้านหน้าแตกตื่น..
“นี่โดนกูเล่นทั้งวันขนาดนี้ยังไม่เข็ดใช่ไหมเหี่ยว หืม..”
“ยังมีแรงเหลือพอที่จะพาไอ้แพนด้าไม่หย่านมนี่มากวนเวลาอันแสนจะสุขสมของเพื่อนรักกูอยู่สินะ..”
“งั้นก็หมายความว่าที่กูจัดให้ยังไม่พอ.. เพราะงั้นเดี๋ยวกูพาไปจัดอีกซักสิบยกเป็นไง”
!!!!
พูดจบก็จัดการถอดเสื้อยืดตัวโคร่งของตนออกแล้วมัดปากคนตัวเล็กเอาไว้แน่น ก่อนจะรีบยกร่างเล็กขึ้นพาดบ่าแล้วก้าวออกมาจากบริเวณนั้นทันที เพราะกลัวว่าหากมัวแต่ชักช้า ไอ้ลูกสมุนแพนด้าสองตัวที่มันกำลังสนใจเสียงอะไรบางอย่างอยู่อาจจะไหวตัวทัน..
“อ่อยอูเอี๋ยวอี้อะโอเออุนนนน~”
ใช้กำปั้นน้อยๆทั้งสองข้างทุบลงบนแผ่นหลังกว้างพร้อมกับพยายามดิ้นขัดขืนไม่หยุด นั่นทำให้โอเซฮุนอดรนทนต่อไปไม่ไหว หยุดก้าวขาแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ และเริ่มคิดหาวิธีจัดการอิเหี่ยวศรีขั้นเด็ดขาด ก่อนที่เขาจะต้องตกเป็นฝ่ายดับอนาถเพราะแรงทุบอันมหาศาลราวกับช้างตกมันของอิเหี่ยวเสียก่อน..
ก็อิเหี่ยวศรีนี่น่ะ เห็นตัวเล็กๆแบบนี้ใครจะไปรู้ว่าแท้จริงแล้วแรงมันเยอะยิ่งกว่าฝูงช้างตกมันมารวมกันเป็นสิบๆตัวเสียอีก.. เพราะงั้นแบบนี้ต้องจัดการซะให้เข็ด และตอนนี้โอเซฮุนก็ได้คิดวิธีปราบผู้ชายแมนๆอย่างมันเสร็จเรียบร้อยแล้วด้วย หึหึ..
“มึงจะหยุดทุบกูได้ยังเหี่ยว?”
“อ่ายอุด!! อะอางอื่อเอา!! เอิ๋นอี้องอ้วยอูอ้วยยยย!!!”
“หึ! เก่งดีนักใช่ไหม.. ไอ้เสียงแปดหลอดมึงเนี่ยเก่งดีนักใช่ไหม ได้..”
“งั้นเดี๋ยวกูจะจัดให้มึงได้แหกปากร้องลั่นทั้งคืนอย่างสมใจเลยเหี่ยว.. หึหึ..”
!!!!
เอ่ยจบก็จัดการกระชับร่างบางบนบ่าเอาไว้แน่นแล้วรีบก้าวฉับๆออกมาจากตรงนั้นทันที โดยที่ไม่คิดจะสนใจกับการประทุจร้ายของอิเหี่ยวอีกต่อไปแล้ว..
อีกทั้งยังไม่ลืมที่จะหันไปกระพริบตาทำท่าวิ้งค์ๆเพื่อว่ายวานให้จางอี้ชิงช่วยเป็นทัพหน้าจัดการอิพวกแก๊งค์แพนด้าที่มันบังอาจมารบกวนการซัมบาราเห้ของเพื่อนรักทั้งสองของพวกเขาต่อด้วย เพราะฉะนั้นตอนนี้..
แก๊งค์แพนด้าไม่หย่านมถูกกำจัดไปแล้ว 1 !!
“หน๊อยยยยยย!!”
“ที่แท้ก็ไอ้แก๊งค์แพนด้าไม่หย่านมนี่เองที่บังอาจมารบกวนการซัมบาราเห้ของเพื่อนรักกู โดนแน่มึง งานนี้โดนแน่..”
“จอกลุกเร็ว!! ลุกมาช่วยกูจัดการไอ้แพนด้ายักษ์กับแพนด้าธุดงค์นี่ที เร็วเข้าจอก!!”
จางอี้ชิงเอื้อมมือไปดึงแขนเพื่อนรักของเขาที่กำลังนอนแผ่หลาอยู่บนผืนทรายขึ้นมาทันทีด้วยความโมโห ก่อนจะจัดการลากเพื่อนรักพุ่งตรงไปยังลูกสมุนแพนด้าขนาดต่างไซน์ที่มันยังคงไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยแม้แต่น้อย..
ไม่สิ.. หรือบางทีพวกมันอาจจะรู้ แต่ที่พวกมันไม่ยอมขยับเขยื้อนตัวเลยแม้แต่นิดเดียว อาจจะเป็นเพราะมัวแต่ฟังเสียงอะไรบางอย่างจนเพลินอยู่ก็เป็นได้.. ซึ่งเสียงที่ว่านั้นมันเป็นเสียงหวานๆที่จางอี้ชิงช่างคุ้นหูดีซะเหลือเกิน..
เพราะมันคือเสียงครางของลูกชายคนเล็กเจ๊พยูน!
“หน๊อยยย!! ไอ้พวกแก๊งค์แพนด้าบังอะ..”
พอเดินมาถึงก็รีบปล่อยมืออิจอกเพื่อนรักทันที พร้อมตั้งกาดง้างฝ่ามือพิฆาตเต็มที่เพื่อจะจัดการกับไอ้ขบวนการแก๊งค์แพนด้าสองตัวที่ยังเหลืออยู่ ทว่า ณ เวลานี้ฝ่ามือพิฆาตกลับเอาแต่ค้างอยู่กลางอากาศไม่ยอมขยับเขยื้อนเสียที..
ก็จะไม่ให้จางอี้ชิงหยุดการกระทำทุกอย่างราวกับโลกทั้งโลกหยุดหมุนแบบนี้ได้อย่างไรกัน ในเมื่อตอนนี้อู๋อี้ฟานมันยื่นมือมากุมมืออีกข้างของเขาเอาไว้ แล้วทำไมกะอิแค่ฝ่ามืออุ่นๆของไอ้กาแล็คซี่หัวทองมันต้องทำให้หัวใจดวงน้อยๆของจางอี้ชิงเต้นไม่เป็นจังหวะแบบนี้ด้วยวะ!
กะอิแค่นึกถึงจูบและสัมผัสอุ่นๆของหมอนี่เมื่อตอนเย็นแค่นั้นเอง..
นะ นั่นสินะ กะ ก็แค่จูบ.. มะ ไม่เห็นต้องตัวสั่นแบบนี้เลยอี้ชิง!
“มะ มึงมีอะไร มะ มาจับมือกูทำ.. / อู๋ปวดฉี่ อี้พาอู๋ไปฉี่หน่อยนะ อู๋ไปคนเดียวไม่ได้อู๋กลัว มันมืด..”
“ฟู่วว ~ แล้วไป ไอ้กูก็นึกว่ามึงจะชวนกูไปซัมบาราเห้เหมือนคนอื่นซะอีกแบบนี้ค่อยโล่งหน่อย..”
จางอี้ชิงถึงกับถอนหายใจออกมายาวเหยียดด้วยความโล่งอก เพราะตอนแรกที่หมอนี่มาดึงมือเขาไว้ เขาก็นึกว่ามันจะชวนเขาไปซัมบาราเห้เหมือนคู่อื่นเสียอีก.. แต่ก็นะมันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเขากับไอ้กาแล็คซี่หัวทองนี่ไม่ได้เป็นอะไรกัน..
นั่นสินะไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย.. อีกอย่างหมอนี่ก็คงไม่บังอาจมาคิดอะไรบ้าๆกับคนโหดๆเช่นเขาหรอก เฮ้อ.. แบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่หรอวะอี้ชิงเอ้ย ดีแล้วที่ทุกอย่างเป็นแบบนี้จะได้ไม่ต้องมาครางหงิงๆใต้ร่างผู้ชายเหมือนไอ้หมาในตอนนี้..
“อ๊ะยอลเบาๆสิ ป๋ายมะ ไม่ไหวแล้ว มะ มัน.. คิก~”
นั่นไงกูว่าแล้ว.. พูดยังไม่ทันขาดคำเลยน้องหมาของกูก็ครางหงิงๆออกมาอีกแล้ว แถมยังมีเสียงหัวเราะคิกคักตบท้ายด้วยนะมึง สงสัยรอบนี้ท่าจะสนุกเอาการอยู่แฮะไม่งั้นน้องหมาของกูคงไม่หัวเราะคิกคักขนาดนี้หรอก และไอ้ประธานนี่ก็อีกคนไม่รู้มาก่อนเลยว่ามันจะอึด ถึก และบึกบึน เกินมนุษย์ธรรมดาทั่วไปขนาดนี้ หมอนี่มันไปอดอยากปากแห้งมาจากไหนวะ ถึงได้กินเพื่อนกูข้ามวันข้ามคืนขนาดเน้!!
หวังว่าหลังกลับจากค่าย..
เพื่อนรักตัวน้อยของกูคงไม่ต้องไปนอนกินน้ำเกลือที่ รพ. แทนน้ำของมึงหรอกนะไอ้หื่นนน -____-
“อี้.. อี้มัวแต่คิดอะไรอยู่อ่า อู๋ไม่ไหวแล้ว อู๋ปวดฉี่ ฉี่จะราดแล้ว..”
หันมาตามเสียงเรียก ก่อนจะยกยิ้มขึ้นมาอย่างแหยๆด้วยความรู้สึกผิดเมื่อเห็นว่าเพื่อนรักกาแล็คซี่หัวทองกำลังยืนหนีบขาเข้าหากันแล้วบิดตัวเป็นเกลียวไปมาราวกับขนมโปเตโต้อยู่ตรงหน้า
“เออๆโทษทีว่ะอู๋ พอดีกูมัวแต่คิดเรื่องซัมบาราเห้นิดหน่อย ปะๆเดี๋ยวกูพาไป ไหวไหมมึง?”
พูดจบก็จัดการประคองเพื่อนรักตัวสูงที่พยายามกลั้นฉี่จนหน้าเขียวเดินผ่านหน้าคิมมินจอกตรงไปยังบ้านพักทันที โดยไม่คิดที่จะสนใจเพื่อนรักตัวเล็กๆตาดำๆที่ยืนกระพริบตาปริบๆอยู่ตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย..
“คืออี้.. / เออๆกูลืมบอก ฝากมึงเคลียร์ไอ้พวกแพนด้าสองตัวนั่นต่อด้วยนะจอกเพื่อนรัก กูไปละ บาย..”
กำลังจะเอ่ยถามแต่ก็ต้องกลืนทำพูดทั้งหมดลงไปในคอเช่นเดิม เมื่อเพื่อนรักตัวดีเอ่ยสั่งออกมาโดยที่มันไม่ได้หันมามองความเป็นอยู่หรือถามสุขภงสุขภาพของจอกเลยซ๊ากคำว่าจอกจะจัดการไอ้พวกนี้คนเดียวไหวรึเปล่า..
แต่ก็เอาวะ!!
งานนี้เป็นไงเป็นกันเว้ย!!
ยังไงจอกก็ต้องจัดการไอ้แพนด้าธุดงค์ที่มันบังอาจมาแย่งหน้าที่ของจอกให้ได้!! ต้องจัดการมันให้ได้!!
เพราะฉะนั้นก็...
“อ๊ากกกกกกกกกกก!! ไอ้พวกแก๊งค์แพนด้ามึงตะ..”
พรึ่บ!!
อุบบ!!
“โอยยย~”
ส่งเสียงร้องออกมาเบาๆหลังจากที่พยายามเงยหน้าขึ้นมาจากผืนทรายอันกว้างใหญ่ได้.. ครับ.. พวกคุณฟังไม่ผิดหรอก ตอนนี้กระผมคิมมินจอกกำลังนอนแผ่หลากางขากางแขนโอบอุ้มผืนทรายอันเป็นที่รักยิ่งอยู่ครับ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลน่ะมันก็เป็นเพราะไอ้หลุมบ้านี่เลย! ไอ้หลุมบ้าที่มันบังอาจทำให้จอกสะดุดล้มหน้านาบทรายอยู่นี่ไง!
อย่าให้รู้นะเว้ยว่าใครมันบังอาจมาขุดไว้! ถ้ารู้นะจอกจะ..
“คุณเปาน้อยเป็นอย่างไรบ้างขอรับ เจ็บตรงไหนบ้างหรือไม่ เดี๋ยวกระผมขอดูหน่อยนะขอรับ..”
บ่นพึมพำอยู่ในใจยังไม่สาสมกับความแค้นที่มีให้กับไอ้คนที่มันบังอาจมาขุดหลุมพรางเอาไว้ ก็จำเป็นต้องหยุดชะงักเอาไว้เพียงเท่านั้นก่อน เมื่อจู่ๆก็มีเสียงและฝ่ามืออุ่นๆที่คุ้นเคยช่วยพยุงขึ้นมาจากหลุม แถมยังช่วยปัดเศษทรายและสำรวจอาการบาดเจ็บของร่างกายให้เป็นอย่างดี..
นะ นี่มัน.. ไอ้แพนด้าธุดงค์.. ไอ้แพนด้าธุดงค์มาช่วยจอกงั้นหรอ??
ไอ้แพนด้าธุดงค์ศัตรูหมายเลข 1 ที่ชอบแย่งหนมจอกที่โรงอาหารมันมาช่วยจอกจริงๆงั้นหรอ??
“คุณเปาน้อย.. คุณเปาน้อยขอรับ..”
ในเมื่อพยายามเรียกกี่หน แต่อีกคนกลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆตอบกลับมา เฉินลี่ฟงลูกสมุนฝั่งซ้ายของแก๊งค์แพนด้าก็เลยจำต้องยื่นมือทั้งสองข้างไปประคองพวงแก้มเนียนเอาไว้แล้วตบเบาๆด้วยความเป็นห่วง.. นั่นทำให้คิมมินซอกที่พึ่งได้สติค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาช้าๆ ซึ่งมันทำให้คนทั้งสองสบตากันเข้าอย่างจังพอดิบพอดี แล้วก็..
ปิ๊งงงง~
แรกพบสบตาเมื่อเจอหน้าเธอ..(ซาวน์มา..)
“มะ มองหน้ากูแบบนี้ มะ หมายความว่าไงไอ้แพนด้าธุดงค์ ปะ ปล่อยมือได้แล้ว กูจะกลับที่พักแล้ว..”
ยื่นมือทั้งสองข้างออกไปผลักแผงอกแกร่งอย่างแรง จนทำให้คนถูกผลักถึงกับล้มตึงไปกับกองทรายด้วยความเขินอาย ก่อนจะรีบยันตัวลุกขึ้นแล้ววิ่งออกมาจากตรงนั้นทันทีด้วยความประหม่า นั่นทำให้ท่านเฉินลี่ฟงผู้ถูกศรรักจากซาลาเปาน้อยปักเข้าหน้าอกด้านซ้ายอย่างจัง ได้แต่นอนระบายยิ้มกว้างราวกับกำลังเพ้อฝัน..
และหลังจากที่นอนยิ้มอยู่ราวๆ 5 วินาทีได้ บัดนี้ก็ได้เวลาอันสมควรแล้วที่ท่านเฉินลี่ฟงหรือแพนด้าธุดงค์ต้องตัดสินใจลุกขึ้นวิ่งตามหัวใจของเขา และหายเข้าไปในความมืดมิดในที่สุด จนลืมไปว่าตนนั้นมีหน้าที่ต้องคอยพิทักษ์และปกป้องท่านหัวหน้าแก๊งค์มาเฟียแพนด้า..
ที่ตอนนี้ถูกลูกสมุนทั้งสองปล่อยให้นั่งผลุบๆโผล่ๆอยู่คนเดียวกลางโขดหินเสียแล้ว..
“อ๊ะ~ ยอล ไม่เอาตรงนี้ ตรงนี้มัน.. คิก~”
“หือ.. ตรงนี้มันทำไมหรอครับคนดี มันจั๊กจี๋หรอครับ งั้นยอลจะจุ๊บเยอะๆเลย นี่แนะๆ”
“อ่าห์.. หอมจังเลยลูกหมาของยอล หอมไปทั้งตัว น่ากลืนกินเข้าไปทั้งตัวเลยรู้ไหมครับหืม..”
“งือ~ ยอลอย่าแกล้งสิ ป๋ายเมื่อยแล้วนะ พอแล้วไม่ต้องมาจุ๊บเลยคนบ้า~”
เสียงหวานกับเสียงทุ้มที่กำลังหยอกกันอยู่ตรงโขดหินด้านล่างแว่วขึ้นมาให้ได้ยินอย่างไม่ขาดสาย อีกทั้งยังบรรยากาศรอบๆทั้งผืนทะเลอันแสนกว้างใหญ่ ทั้งผืนทรายอันแสนไกลโพ้น ที่กำลังเต็มไปด้วยสีชมพูนั้น มันกำลังให้ฮวางจื่อเทาหัวหน้าแก๊งค์มาเฟียแพนด้าต้องยกตุ๊กตาหมีแพนด้าขนาดกลางตัวโปรดขึ้นมาแนบอก ก่อนจะซบหน้าลงไปกับพี่หมีตัวนุ่มทั้งน้ำตา..
“โธ่.. พยอนเหมียวนางฟ้าของเทาๆตกเป็นของไอ้ขี้เก๊กนี่แล้วจริงๆ ฮึก..”
“ทำไมพยอนเหมียวต้องตกเป็นของไอ้คุณขี้เก๊กนี่ด้วย เทาๆไม่ยอมนะ ฮึก..”
“เทาๆไม่ยอม เทาๆรับไม่ได้ เฉินลี่ฟง ลูเก่อ เทาๆเจ็บ เทาๆเจ็บตรงนี้ มันเจ็บตรงนี้ ฮึก..”
ก้มหน้าซุกลงกับตุ๊กตาหมีแพนด้าตัวโปรดแล้วปล่อยโฮออกมาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตา โชคชะตาที่มักจะเล่นตลกกับความรักและความรู้สึกของหนุ่มน้อยที่อุดส่าหอบหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้ายี่ห้อกุชชี่เดินทางมาจากจีนแผ่นดินใหญ่อันแสนไกลโพ้น เพื่อมาตามหานางฟ้า ณ แดนโสมอย่างเขาเสียจริงๆ..
ทำไมคุณพระเจ้าถึงได้ใจร้ายกับเทาๆผู้นี้ยิ่งนัก คุณพระเจ้าอุดส่าส่งนางฟ้าลงมาจุติบนแดนมนุษย์ให้เทาๆแล้ว ทำไมต้องให้นางฟ้าของเทาๆตกเป็นเมียไอ้คุณขี้เก๊กนั่นด้วย!! ไอ้คุณขี้เก๊กนั่นมันดีกว่าเทาๆตรงไหน!! ดูขอบตามันสิไม่เห็นจะดำสู้ขอบตาของเทาๆได้เลยสักนิด ฮึก..
“เทาๆไม่รักคุณพระเจ้าแล้ว!!”
“เทาๆโป้งคุณพระเจ้า คุณพระเจ้าใจร้าย เทาๆไม่รักคุณพระเจ้าแล้วเฉินลี่ฟง ละ ลู.. เก่อ..”
“ละ ลูเก่อ! เฉินลี่ฟง! ลูเก่อกับเฉินลี่ฟงหายไปไหน? ทำไมถึงได้ทิ้งเทาๆให้อยู่ลำพังคนเดียวแบบนี้..”
“ละ ลูเก่อ! เฉินลี่ฟงรอเทาๆด้วย เทาๆไม่เอา เทาๆไม่อยากอยู่คนเดียว เทาๆกลัว เทาๆกลัวคุณผี!! กลัวคุณผี ฮึก..”
ครบ 100 เปอร์
ใครที่เอ็นดูฟิคเรื่องนี้ฝาก #เพื่อนรักเตียงสั่น ช่วยไรท์ด้วยน๊า มันคือกำลังใจ โอเค๊!! จุ๊บบบ^^
ความคิดเห็น