คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : 03 Days ♡
03 Days ♡
#เพื่อนรักเตียงสั่น
บรรยากาศภายในปอร์เช่พานาเมร่า S 2010 สีดำคันหรูในตอนนี้กำลังเต็มไปด้วยความสนุกสนาน เนื่องจากเสียงเจื้อยแจ้วของคนตัวเล็กสามคนที่กำลังพูดคุยกันถึงเรื่องพักผ่อนวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ทั้งที่วันนี้พึ่งเป็นวันเปิดเทอมวันแรกแท้ๆ
ทว่าที่กล่าวมาทั้งหมดขอยกเว้นสารถีสุดหล่อที่กำลังนั่งบังคับพวงมาลัยรถยนต์คันหรูด้วยใบหน้าเรียบนิ่งอยู่ในขณะนี้ และถึงแม้ว่านัยน์ตาคมจะถูกบดบังเอาไว้ด้วยเรแบนสีดำก็ตาม แต่มันก็ทำให้คนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆสามารถรับรู้ได้ถึงรังสีของความน้อยใจที่กำลังแผ่ซ่านออกมาได้เป็นอย่างดี
เพราะตั้งแต่เมื่อคืนที่พยอนแบคฮยอนไล่ปาร์คชานยอลออกไปนอนโซฟาหน้าห้องและให้มินซอกเข้ามานอนในห้องกับเขาแทน โดยที่ตอนแรกคนตัวสูงก็ประท้วงและโวยวายราวกับเด็กน้อยโดนขัดใจและบอกว่าจะไม่ยอมท่าเดียว แต่เป็นเพราะคนตัวเล็กใช้ไม้ตายโดยการที่บอกว่าถ้าไม่ออกไปเขาจะไม่ให้นอนกอดอีก ก็เป็นอันว่าชายหนุ่มผู้น่าสงสารต้องยอมหอบหมอนกับผ้าห่มออกไปนอนนอกห้องอย่างช่วยไม่ได้
แต่พอตกเช้าทุกอย่างก็เป็นอย่างที่เห็นคือปาร์คชานยอลไม่ยอมพูดยอมจา เอาแต่นั่งเงียบตั้งแต่ตอนนั่งทานข้าวเช้า แถมยังทำหน้าราวกับปลาทองขาดสารอาหารแบบนี้มาตลอด ซึ่งมันทำให้คนตัวเล็กที่สังเกตได้ถึงความผิดปกติได้แต่ถอนหายใจออกมาเป็นพักๆเพราะรู้ดีว่าตอนนี้ประธานเด็กโข่งนี่ถ้าจะงอนเขาหนักเอาการ
เพราะหมอนี่มักจะพูดอยู่เสมอว่าไม่ชอบให้เขานอนกับคนอื่น และที่สำคัญคนทั้งสองที่เคยนอนกอดกันมาตลอดตั้งแต่จำความได้ต้องมาห่างกันคืนแรกแบบนี้มันก็คงทำให้รู้สึกแปลกๆและนอนไม่หลับกันทั้งสองคน เลยทำให้ต้องมานั่งซึนและขอบตาดำราวกับลูกสมุนแพนด้าเช่นนี้ แต่ถึงจะรู้ดีแก่ใจว่าทุกอย่างจะออกมาเป็นเช่นนี้ตั้งแต่แรกก็เถอะ แต่จะให้ทำยังไงได้ก็ในเมื่อมันจำเป็นที่ต้องไล่หมอนี่ออกไปนอนนอกห้องจริงๆ
และไม่ใช่ว่าไม่อยากง้อนะ ตอนนี้พยอนแบคฮยอนอยากจะง้อเพื่อนรักตัวสูงที่นั่งหน้าบึ้งอยู่ข้างๆใจแทบขาด แต่ว่ามันหาจังหวะไม่ได้เสียที ก็ตอนนี้อี้ชิงกับมินซอกนั่งอยู่ด้านหลัง ถ้าจะให้เขาเอื้อมไปจุ๊บหมอนี่แทนคำขอโทษต่อหน้าไอ้พวกนี้มีหวังได้โดนล้อยันลูกบวช เพราะงั้นไม่เอาหรอก ค่อยหาเวลาง้อหมอนี่ตอนอยู่ด้วยกันสองคนล่ะกัน..
“โย่ง~ นี่มึงจะไม่กินแซนวิชที่กูอุดส่าทำให้จริงๆหรอ? กินหน่อยเหอะนะๆ”
นี่ไม่ได้ง้อเลยนะจริงๆ พยอนแบคฮยอนก็แค่ยื่นแซนวิชที่อุดส่าทำมาให้หมอนี่แทนอาหารเช้าที่หมอนี่แตะเข้าไปนิดเดียวราวกับแมวดมไปจ่อไปที่ริมฝีปากหยักแล้วเอียงคอจ้องหน้า กระพริบตาปริบๆแค่นั้นเอง เขาไม่ได้เรียกว่าง้อซะหน่อย
“ไม่หิว อยากกินก็กินเองดิ ไม่ต้องมาสนใจกูหรอก”
พูดออกมาด้วยน้ำเสียงแง่งอนพลางตั้งใจบังคับพวงมาลัยรถต่อโดยที่ไม่ได้หันมามองหน้าคู่สนทนา ช่วยไม่ได้ก็ใครบอกให้ไอ้ตัวกระเปี๊ยกนี่ไล่เขาออกมานอนนอกห้อง ทำให้เขาได้แต่นอนกระพริบตาปริบๆอยู่บนโซฟายันเช้าเพราะมัวแต่คิดถึงร่างนุ่มนิ่มและกลิ่นหอมอ่อนๆของลูกหมาที่อยู่ในอ้อมกอดทุกคืนจนนอนไม่หลับ
นี่ยังไม่คิดรวมที่หมาน้อยที่กำลังกระพริบตาปริบๆอ้อนเขาอยู่ข้างๆในตอนนี้ทำให้เขาอารมณ์ค้างจนต้องช่วยตัวเองด้วยนะ ปาร์คชานยอลช่างเป็นชายหนุ่มผู้น่าสงสารอะไรเยี่ยงนี้ จะเขมือบหมาก็ไม่ได้เขมือบ จะนอนกอดหมาก็ไม่ได้กอด แบบนี้จะไม่ให้เขางอนได้อย่างไรกัน
“ตกลงจะไม่กินจริงๆสินะ ไม่เป็นไรงั้นเดี๋ยวเอาไปให้เทาๆก็ได้”
สุดท้ายหมาน้อยพยอนก็ต้องงัดวิธีปราบเซียนออกมาใช้เพื่อเรียกร้องความสนใจ ทั้งที่จริงๆก็ไม่ได้อยากประชดหรอกนะ แต่ว่าถ้าจะง้อโดยการอ้อนมากกว่านี้เดี๋ยวจะโดนล้อยันลูกบวชจริงๆ ก็ดูสายตาของจางอี้ชิงกับคิมมินซอกตอนนี้สิ สองคนนั่นกำลังจ้องเขากับหมอนี่ตาเป็นมันเชียว
“ถ้ามึงพูดชื่อหมอนั่นอีกครั้ง กูจะจับมึงแก้ผ้าแล้วปล้ำมันหน้าตึกเนี่ยแหละ”
“!!”
เหยียบเบรคอย่างกะทันหันเพราะความหงุดหงิด ทำให้คิมมินซอกกับจางอี้ชิงที่แอบฟังอยู่แทบจะกลิ้งม้วนเป็นลูกบอล จากนั้นคนตัวเล็กทั้งสามจึงหันมามองหน้ากันเหรอหรา เพราะรู้ดีว่าไอ้ประธานนี่ไม่ได้แค่ขู่หรอก
เพราะนิสัยของหมอนี่คือพูดคำไหนคำนั้น แถมยังใบหน้าคมคายที่กำลังโน้มเข้าไปหาเพื่อนรักตัวเล็กของพวกเขาที่กำลังตัวสั่นเป็นลูกหมาตกน้ำในตอนนี้ด้วย ทำให้คิมมินซอกกับจางอี้ชิงสามารถคอนเฟิร์มได้ว่า..
พยอนแบคฮยอนมึงโดนไอ้ประธานซัมบาราเห้ในรถแน่นอน!
“พวกมึงลงไปดิถึงตึกแล้ว เดี๋ยวกูขอจัดการกับหมาน้อยจอมดื้อนี่ก่อนเดี๋ยวตามไป”
พูดออกมาด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ในขณะที่มือไม้ก็ไม่อยู่สุขเพราะกำลังลูบไล้ไปตามเรียวขาสวยภายใต้กางเกงนักศึกษา ทำให้คนตัวเล็กทั้งสามที่ได้ฟังถึงกับขนลุกซู่ไปทั้งตัว
เสียงไอ้ประธานแมร่งโคตรเซ็กซี่ แถมหน้ามันตอนนี้ยังหื่นเวอร์ทั้งที่ยังไม่ถอดแว่น นั่นทำให้คิมมินซอกอยากจะถวายตัวให้หมอนี่แทนเพื่อนรักจริงๆ ถ้ามันเอานะเขาจะยอมจริงๆ ไอ้หล่อ ไอ้หื่น คิมมินซอกอยากได้!
“ไอ้จอกลงมาดิวะ! เค้าจะซัมบาราเห้กันแล้ว มัวนั่งทำเตี่ยไรเนี่ย”
อี้ชิงพยายามออกแรงลากเพื่อนรักที่กำลังนั่งจ้องคนสองคนที่กำลังนัวเนียกันอยู่เบาะหน้าลงมาจากรถ ทว่าคำตอบที่ได้กลับมานั้น ทำให้ปาร์คชานยอล พยอนแบคฮยอน และจางอี้ชิงแทบสำลักน้ำลายตัวเอง
“เอาเลยมึง ไม่ต้องเกรงใจกู กูอยากเป็นส่วนหนึ่งในการซัมบาราเห้ครั้งแรกของพวกมึง”
“!!”
เอ่ยออกมาพลางทำตาลุกวาวเป็นประกาย ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาแนบแก้มด้วยความเขินอายนิดๆ ทำให้ปาร์คชานยอลที่กำลังจะซุกหน้าลงไปบนซอกคอหอมกรุ่นถึงกับชะงักค้าง
“จอก! ถ้ามึงไม่ลงมา กูจะเอาขนมในกระเป๋ามึงโยนลงสระน้ำให้ปลากินซะ!”
อี้ชิงงัดไม้ตายออกมาใช้โดยการที่ดึงกระเป๋าเป้ใบใหญ่ของมินซอกที่ข้างในเต็มไปด้วยขนมสารพัดยี่ห้อขึ้นมาชูไว้ ทำให้คนที่นั่งอ้าปากน้ำลายหกมองดูเพื่อนรักนัวเนียกันอยู่เมื่อครู่รีบกระโดดลงมาจากรถด้วยความเร็วแสง
กูขอโทษนะจอกที่ต้องเอาของรักมึงมาล้อเล่นแบบนี้ ก็กูอยากให้เพื่อนรักกูได้เจออนาคอนด้ายักษ์ไวๆนี่หว่า คิคิ~
“ไงหมาน้อย ไม่มีใครอยู่แล้วพร้อมจะให้อนาคอนด้ายักษ์เขมือบรึยังครับ หืม..”
เอ่ยถามพลางขบเม้มลงบนใบหูนิ่มเบาๆพอเป็นพิธี ในขณะที่มือไม่ได้อยู่สุขแล้ว เพราะกำลังลูบไล้บั้นท้ายอวบอิ่มนิ่มมือไม่หยุด พยอนแบคฮยอนแมร่งโคตรน่าฟัดบอกเลย!
ปาร์คชานยอลลืมไปหมดแล้วครับไอ้เรื่องงงเรื่องงอนเมื่อเช้า เพราะตอนนี้ในหัวสมองมีแค่เรื่องเดียวคือ..
อยากเขมือบหมาน้อยตัวหอมๆนี่แทบบ้า!
ใครก็ได้บอกทีว่าผมปาร์คชานยอลไม่ได้หื่นเลยสักนิด!
“ยะ ยังไม่ ยะยอล~ อื้อ ป๋ายยังไม่ อื้ม~”
ปากบอกไม่ แต่ร่างกายกลับกำลังตอบรับการปรนเปรอของหมอนี่เต็มที่ โดยการที่แอ่นสะโพกงอนงามขึ้นน้อยๆยามที่ถูกฝ่ามืออุ่นๆลูบไล้ น่าอายที่สุดเลยพยอนแบคฮยอน ฮื่อ..
“ขึ้นมานั่งตักยอลเร็วเบบี๋ ยอลอยากกินหมาน้อยใจแทบขาดแล้วครับ”
เอ่ยเสียงแหบพร่าพลางส่งสายตาฉ่ำเยิ้มไปให้คนตัวเล็กที่กำลังพยายามหลบตาอย่างร้องขอ ทำให้ลูกหมาตัวน้อยที่กำลังตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวได้แต่พยักหน้าน้อยๆ
“ยะ ยอลจะกินป๋ายบนรถนี่จริงๆหรอ?”
เอียงคอถามตาแป๋วด้วยความใสซื่อในขณะที่ขึ้นไปนั่งบนตักอุ่นๆเรียบร้อย ทำให้ปาร์คชานยอลที่ได้ยินถึงกับใจสั่นระรัวและชายหนุ่มก็แทบจะทนความน่ารักต่อไปอีกไม่ไหว อยากจะจับหมาน้อยที่แสนจะน่ารักตัวนี้กดเสียให้รู้แล้วรู้รอด
แมร่งโคตรจะน่ารัก! โคตรจะโมเอ้! แถมยังตัวโคตรหอม! เซ็กซี่ใสๆแบบนี้มันใช่เลย!
“ครับยอลจะกินป๋ายบนรถนี่แหละ จะกินหลายรอบด้วย”
ตอบตามความรู้สึกล้วนๆซึ่งไม่ต้องใช้เวลาคิดแม้แต่วินาทีเดียว เพราะตอนนี้อยากเขมือบหมาน้อยน่ารักบนตักใจจะขาด ให้ตายยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งดึงดูด ยิ่งน่ารัก แล้วก็ปากระเรื่อที่กำลังเม้มเข้าหากันอยู่นี่ ขอบดขยี้ทีเถอะมันช่างยั่วยวนหัวใจของราชสีห์หนุ่มผู้กำลังหื่นกระหายเสียเหลือเกิน..
โป้ง ฉึ่ง!!
โป้ง ปะโล้ง โป้งฉึ่ง!!
เสียงกลองชุดดังขึ้นเคล้ากับเสียงฉิ่งฉาบที่ตีกันเป็นจังหวะอยู่บริเวณรอบๆรถ ทำให้ริมฝีปากหยักที่กำลังจะบดเบียดลงบนกลีบเนื้อนุ่มนิ่มถึงกับหยุดชะงัก
“ใครแมร่งมาเล่นงิ้วตอนนี้วะ! คนเค้ากำลังจะทำอะไรกันแมร่งไม่แหกตาดูบ้างรึไง!”
ใบหน้าคมคายค่อยๆละออกมาจากความหอมหวานด้วยความหงุดหงิด เนื่องจากเสียงเครื่องดนตรีวงงิ้วด้านนอกดังขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อคนสองคนที่นัวเนียกันอยู่เมื่อครู่หันไปดูตรงบริเวณหน้ารถก็ต้องเบิกตาโพลงขึ้นมาทันทีด้วยความตกใจ จากนั้นจึงหันมาสบตากันอย่างมิได้นัดหมาย
ฮวางจื่อเทาและเหล่าแก็งค์แพนด้าไม่หย่านมกำลังยืนยิ้มแฉ่งอยู่หน้ารถ และข้างหลังของคนทั้งสามก็มีป้ายแบบเนอร์ขนาดใหญ่ที่เขียนว่า “สุขสันต์วันขึ้นปี 3 วันแรกนะ พยอนเหมียว นางฟ้าของเทาๆ”
นี่มันคืออะไร?? ฮวางจื่อเทาพาคณะเชิดสิงโตมาอยู่หน้าตึกเขา แถมยังมีรูปของเขาแทบจะทุกอิริยาบถแปะไปทั่วบริเวณ โดยเฉพาะป้ายแบนเนอร์ขนาดใหญ่ที่แปะอยู่ตรงหน้าตึกคณะในตอนนี้ มันทำให้พยอนแบคฮยอนได้แต่อึ้ง เพราะไม่คิดว่าแก็งค์แพนด้าจะกล้าทำถึงขนาดนี้
“ดะ เดี๋ยวยอลยอลจะไปไหน?”
เพราะมัวแต่อึ้งก็เลยไม่ทันรู้สึกตัวว่าตอนนี้ตัวเองถูกอุ้มลงจากตักอุ่นๆแล้วให้นั่งลงบนเบาะแทน และปาร์คชานยอลก็กำลังจะก้าวลงจากรถเพื่อไปจัดการกับไอ้แก็งค์แพนด้าไม่อย่านมที่มันบังอาจมาขัดจังหวะซัมบาราเห้ของเขา
“ยอลก็จะไปจัดการไอ้แพนด้าไม่อย่านมที่มันบังอาจมาขัดจังหวะซัมบาราเห้ของเราไง ป๋ายรออยู่นี่นะ ยอลจัดการแปบเดียว เดี๋ยวจะมาทำต่อนะครับเบบี๋”
เอ่ยหน้าตายพลางโน้มลงไปจุ๊บริมฝีปากระเรื่อเบาๆเป็นการส่งท้ายก่อนก้าวลงจากรถ ทำให้คนตัวเล็กที่ได้ยินถึงกับใจเต้นระรัว พยักหน้าหงึกหงักเบาๆด้วยความเขินอาย โดยลืมไปว่าสถานการณ์ในตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่เขาสองคนจะมาพลอดรักกันแบบนี้เลยสักนิด..
“มึงพาคณะงิ้วของมึงกลับไปเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้แพนด้าไม่อย่านม! แล้วอย่ามายุ่งกับคนของกูอีก เพราะคราวหลังกูจะไม่ใจดีเตือนมึงแบบนี้อีกแล้ว”
เอ่ยด้วยสีหน้าเรียบนิ่งในขณะที่ยืนพิงประตูรถปอร์เช่คันหรูล้วงกระเป๋ากางเกงอย่างเท่ห์ๆ ทำให้สาวๆที่เดินผ่านไปมาแทบจะวิ่งเข้าไปถวายตัวให้ ปาร์คชานยอลประธานคณะวิศวกรรมเครื่องกลปี 3
แมร่งโคตรหล่อระทวย!
“เทาๆไม่ไป เทาๆจะมาหาพยอนเหมียวของเทาๆ ไม่ได้มาหาคุณปาร์คขี้เก็กเสียหน่อย..”
ประธานคณะวิศวะมาดขรึมที่ได้ยินแบบนั้นถึงกับกำหมัดเอาไว้แน่น กล้าดียังไงมาพูดว่าน้องหมาน้อยของเขาเป็นของมัน งานนี้ได้เลือดกรบปากแน่มึง ไอ้แพนด้าไม่อย่านม!
“เมื่อกี้มึงพูดว่าไงนะไอ้แพนด้าไม่อย่านม! มึงกล้าบอกว่าคนของกูเป็นของมึงหรอ ไอ้.. / หยุดโย่ง! ไม่เอาอย่ามีเรื่องดิ วันนี้พึ่งเปิดเทอมวันแรกเองนะ ถือว่ากูขอ”
เสียงหวานเอ่ยขอพลางจับแขนของเขาเอาไว้ ทำให้หมัดหนักๆที่กำลังจะต่อยลงไปบนใบหน้าคมกริบของฮวางจื่อเทาคู่อริเบอร์ 1 ถึงกับชะงักค้าง
“พยอนเหมียว~ นางฟ้าของเทาๆ”
ไม่ได้ทุกข์ร้อนหรอกกับเรื่องที่กำลังจะโดนต่อย เพราะตอนนี้ฮวางจื่อเทากำลังทำหน้าปรื้มปริ่มเต็มที่ ที่ได้เจอพยอนเหมียวนางฟ้าของเขา ไม่ได้เจอพยอนเหมียวตั้ง 3 อาทิตย์ เทาๆคิดถึงพยอนเหมียวที่สุดเลย
“กูบอกว่าพยอนแบคฮยอนเป็นของกูไงวะ มึงฟังไม่รู้เรื่องหรือไง ไอ้ขอบตาคล้ำข้ามแดน!”
อารมณ์ของท่านประธานมาดขรึมเริ่มพุ่งสูงขึ้นอีกรอบ ทำให้คนตัวเล็กแทบห้ามเอาไว้ไม่ทัน ทว่าไอ้คนที่กำลังจะถูกต่อยนี่สิกลับเอาแต่ยืนทำหน้าเพ้ออยู่ได้ นี่มันใช่เวลาไหมฮวางจื่อเทา!
“พยอนเหมียวคือนางฟ้าของเทาๆกับพี่แพนด้า ไม่ใช่ของคุณปาร์คขี้เก็กเสียหน่อย..”
พูดออกมาตามที่คิด โดยที่ไม่ได้ห่วงความปลอดภัยในชีวิตของตัวเองเลยแม้แต่น้อย ก็พยอนเหมียวเป็นนางฟ้าของเทาๆกับพี่แพนด้าจริงๆนี่ ไม่ใช่ของคุณประธานขี้เก็กนั่นเสียหน่อย..
“กูจะฆ่ามึงไอ้.. / โอ๊ะ! นั่นคอพยอนเหมียวไปโดนอะไรมาหรอ? โหวเป็นรอยแดงๆเต็มเลย พยอนเหมียวเจ็บไหม เดี๋ยวเทาๆไปหายามาทาให้ดีกว่านะ”
ปาร์คชานยอลที่กำลังจะปล่อยหมัดลงบนใบหน้าหล่อคมถึงกับชะงัก จากนั้นริมฝีปากหยักได้รูปจึงกระตุกยิ้มขึ้นมาน้อยๆเพราะท่านประธานมาขรึมนึกออกแล้วว่าจะเอาคืนหมอนี่ยังไงดี
คราวนี้ได้ร้องไห้ขี้มูกโป่งกลับไปรังไผ่ของมึงแน่ไอ้แพนด้าไม่อย่านม หึหึ!
“มึงไม่ต้องลำบากไปหายามาหรอกไอ้แพนด้า เพราะถึงยาจะช่วยให้รอยพวกนี้หายได้ แต่ปากของกูก็ทำให้เป็นรอยใหม่ได้อยู่ดี หึ!”
เดินเข้าไปใกล้ๆคนตัวเล็กแล้วยกมือขึ้นโอบไหล่เบาๆแสดงความเป็นเจ้าของพลางโน้มใบหน้าลงไปใกล้ๆซอกคอหอมกรุ่นแล้วเป่าลมหายใจร้อนๆรดลงไป ทำให้แพนด้าไม่อย่านมได้แต่อ้าปากค้างเพราะไม่ค่อยเข้าใจในคำพูดกำกวมของหมอนี่เสียเท่าไหร่..
“อะไร ทำหน้าโง่แบบนี้ไม่เข้าใจที่กูพูดอ่ะดิไอ้แพนด้า ฮ่าๆ งั้นกูจะย้ำให้มึงฟังอีกรอบชัดๆนะว่ารอยที่คอของพยอนแบคฮยอนเป็นรอยดูดที่กูทำไว้เมื่อคืนกับในรถเมื่อกี้”
“พยอนแบคฮยอนเป็นของกู ได้ยินชัดไหมว่าเค้าเป็นของกูคนเดียว เพราะฉะนั้นกลับคณะมึงไปได้แล้ว และอย่ามายุ่งกับคนของกูอีก มึงเคยได้ยินไหม เมียใครใครก็หวงอ่ะ!”
“!!”
ถึงกับอึ้งรับประทานกันทุกคน และราวกับโลกทั้งโลกกำลังหยุดหมุนเนื่องจากตอนนี้รอบๆบริเวณที่เคยเสียงดัง ต่างก็พากันเงียบกริบหมดเมื่อจบคำพูดของท่านประธาน
พยอนเหมียวเป็นของคุณปาร์คขี้เก็กแล้ว..
พยอนแบคฮยอนเป็นของประธานปาร์คแล้ว..
น้องหมาน้อยเป็นของประธานปาร์คแล้ว..
หลายร้อยหลายพันเสียงที่กำลังคร่ำครวญอยู่ในใจ และชายหนุ่มมากหน้าหลายตารวมถึงสาวๆที่หมายปองปาร์คชานยอลและพยอนแบคฮยอนได้แต่ส่งเสียงกระซิกๆน้ำตาตกในเป็นรายๆไป เมื่อรับรู้ว่าคนทั้งสองได้ตกเป็นของกันและกันแล้ว?
“ยอลทำไมถึงพู.. / ชู่ว..ไม่เอาสิครับเบบี๋ ยอลพูดแบบนี้แหละถูกแล้ว เพราะอีกไม่นานป๋ายก็จะเป็นของยอลจริงๆแล้วไม่ใช่หรอครับ หืม..”
กระซิบเบาๆให้ได้ยินเพียงแค่สองคน ในขณะที่มือหนาก็โอบไหล่เล็กแน่นขึ้นเรื่อยๆ แล้วคนทั้งสองก็เงยขึ้นมาสบตากันเป็นพักๆด้วยความเขินอาย โดยที่ไม่ได้ดูเล้ย ว่ารอบๆบรรยากาศสีชมพูหวานหยาดเยิ้มของพวกเขาในตอนนี้มีหัวใจที่แตกสลายกองกับพื้นเป็นร้อยๆดวงแล้ว..
“พยอนเหมียวมันไม่จริงใช่ไหม ฮื่อ ไม่จริงหรอกเทาๆไม่เชื่อว่าพยอนเหมียวจะเป็นของไอ้คุณปาร์คขี้เก็กแล้ว เทาๆไม่เชื่อหรอก จริงไหมเฉินลี่ ลูเก่อ เป็นไปไม่ได้หรอกจริงไหม ฮื่อ”
แพนด้าไม่อย่านมลงไปดิ้นกับพื้นเร่าๆ ทำให้องครักษ์ฝ่ายขวาและฝ่ายซ้ายอย่างเสี่ยวลู่คนแมนกับเฉินลี่ฟงต้องรีบพยุงร่างหัวหน้าแก๊งค์ขึ้นมาเพื่อกลับตึกคณะด้วยความอับอาย โดยที่ก่อนไปก็ไม่ลืมส่งสายตาบอกประธานมาดขรึมที่กำลังยืนยักคิ้วเยี่ยงผู้ชนะว่า..
ฝากไว้ก่อนเถอะมึง ไอ้พวกแก๊งค์วิศวะขี้เก็ก! แล้วพวกกูจะมาเอาคืนวันหลัง..
“นี่พวกมึงสองคนไปมุดหัวอยู่ไหนมาวะ? ทำไมถึงไม่เข้าเรียนคาบแรก”
“อย่าบอกนะว่าพวกมึงสองคนมัวแต่ซัมบาราเห้กันมาจริงๆ กี่รอบวะ?”
“!!”
จบคำพูดของคิมมินซอกผู้ตรงไปตรงมา ทำให้เพื่อนๆที่กำลังนั่งเขียนแบบระหว่างคาบอยู่หน้าตึกถึงกับเงียบกริบ เพื่อรอฟังคำตอบ ยกเว้นสองคนที่ถูกเอ่ยถามและกำลังถูกรุมจ้องที่ถึงกับไปไม่เป็น..
“ก็เกือบๆแหล่ะ ถ้าไม่มีไอ้แพนด้ามาขัดก่อน ก็น่าจะหลายรอบ”
“!!”
อึ้งแดรกสิครับ ก็ไอ้ประธานเล่นตอบหน้าตายซะขนาดนี้ ไม่ต้องขงต้องเขียนมันแล้วครับงาน ไปช่วยกันหาสถานที่ให้สองคนนี้ซัมบาราเห้กันดีกว่า..
“พูดแบบนี้ก็แสดงว่ามึงสองคนเป็นแฟนกันแล้วอ่ะดิ”
คำพูดของท่านอู๋ฟานที่เอ่ยขึ้นมานั้นกำลังทำให้บรรยากาศเปลี่ยนไป นั่นสิแล้วสถานะของพวกเขาสองคนตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นไหนกันนะ จะเรียกว่าเพื่อนได้อยู่รึเปล่าวะ เพื่อนนั่นแหละมั้ง เพื่อนแน่ๆเพราะก็เป็นเพื่อนกันมาตลอดนี่หว่า..
“แฟนเฟินอะไรของมึง เพื่อนไง กูกับไอ้เตี้ยก็เป็นเพื่อนรักกันไง ไม่เห็นจะมีอะไรเปลี่ยน..”
ก้มหน้าก้มตาพูดออกมาในขณะที่มือยังคงเขียนแบบที่วางอยู่บนตักยิกๆอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวตามแบบฉบับคนมาดขรึม ทำให้เพื่อนๆที่ฟังถึงกับมองหน้ากันเหรอหรา ทว่ากลับมีอยู่คนหนึ่งที่กำลังก้มหน้างุดๆอยู่กับแผ่นกระดาษสีขาวบนตักอย่างไม่แพ้กัน
“หมามึงเป็นอะไรรึเปล่า โอเคไหม?”
อี้ชิงยื่นมือไปลูบลาดไหล่เล็กเบาๆ ทำให้คนที่ก้มหน้างุดอยู่เมื่อครู่ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาระบายยิ้มอ่อนๆให้พลางส่งสายตาเป็นประกายวิบวับ มีหรือที่ลูกชายคนเล็กของเจ๊พยูนจะยอมแพ้และร้องไห้ขี้มูกโป่งง่ายขนาดนี้ ไม่มีวันเสียหรอก แต่ที่เขาก้มหน้าเมื่อครู่ เพราะกำลังคิดแผนแก้เผ็ดไอ้ประธานโย่งหน้าตายนี่ต่างหาก
บังอาจมาทำลูกชายคนเล็กของเจ๊พยูนหน้าแตก แบบนี้มันต้องเอาคืนให้เข็ด! จะได้ไม่กล้าหือกับเขาอีก..
“กูไม่เป็นไรหรอกอี้ แค่กำลังคิดว่าจะลองเปิดใจดู ในเมื่อไอ้โย่งไม่สนใจกู กูก็ต้องลองมองคนอื่นดูบ้าง มึงดูนู่นสิพวกพี่ๆนิเทศหล่อๆรวยๆเค้ายังไม่เลิกตามจีบกูเลย กูว่านะถ้ากูลองเปิดใจและให้โอกาสคนอื่นดู แฟนคนแรกที่กูใฝ่ฝันอาจจะเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ไอ้โย่งนี่ก็ได้..”
“!!”
เสียงหวานเอ่ยพลางชี้ปากไปยังรุ่นพี่ต่างคณะที่นั่งมองเขาตาเป็นมันราวสิบกว่าชีวิต ทำให้เพื่อนคนอื่นๆต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย ยกเว้นเพียงหนึ่งคนที่ตอนนี้กำลังก้มหน้าก้มตาเขียนแบบต่ออย่างไม่คิดจะสนใจ
ปาร์คชานยอลไม่ได้สนใจคำพูดไร้สาระพวกนั้นเลยสักนิดเพราะรู้ดีว่าอีกคนจงใจจะยั่วโมโหเขา ว่าแต่ไอ้มือหนาที่กำลังกำดินสอร่างแบบเอาไว้แน่นแล้วกดมันลงไปบนกระดาษจนทะลุนี่มันคืออะไร..
นี่ปาร์คชานยอลไม่ได้รู้สึกอะไรเลยสักนิดจริงๆนะจะบอกให้..
“หูยโคตรเริ่ดเลยว่ะเพื่อนกู ให้มันได้งี้สิวะ ป่ะงั้นเดี๋ยวกูพามึงไปแจกเบอร์หนุ่มๆเลยดีกว่า”
อี้ชิงที่ดูออกว่าเพื่อนรักตัวเล็กกำลังยั่วน้ำโหไอ้ประธานหน้าตายนั่นอยู่ก็รีบเนียนช่วยเพื่อนยกใหญ่ เอาให้ไอ้ประธานมาดขรึมนี่ได้อกแตกตายไปข้าง เพราะเพื่อนๆทุกคนต่างก็รู้ดีว่าหมอนี่มันหวงพยอนแบคฮยอนยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดในโลก
“อืม..ไปสิอยากมีแฟนเร็วๆ อยากโดนปล้ำเร็วๆ”
พูดเสียงดังเต็มที่กะจะยั่วโมโหร่างสูงที่นั่งก้มหน้าอยู่กับแผ่นกระดาษ โดยที่ไม่รู้หรอกว่าการที่พูดแบบนี้จะทำให้โดนปล้ำในไม่ช้าจริงๆ พยอนแบคฮยอนพูดแบบนี้คิดว่ากูจะสนใจหรือยังไงกัน เหอะไม่มีทาง..
ปาร์คชานยอลได้แต่นั่งนับหนึ่งถึงสิบในใจ เขาไม่มีทางให้แผนการยั่วโมโหของไอ้ตัวกระเปี๊ยกนี่สำเร็จหรอก อีกอย่างตัวก็เล็กยังกะหมากระเป๋าแบบนี้ เตี้ยก็เตี้ย ขาก็สั้น คิดว่าปาร์คชานยอลจะสนใจงั้นหรอ??
เหอะ! ไม่มีทาง..
เมื่อเห็นว่าร่างสูงเอาแต่นั่งก้มหน้านิ่งไม่ยอมพูดจาแถมยังไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นมามองเขาเสียด้วยซ้ำ คนตัวเล็กจึงตัดสินใจลุกขึ้นยืนปรายตามองคนที่เขากำลังยั่วนิดหน่อย หึ ในเมื่อไม่คิดจะสนใจกันจริงๆก็จะไม่ทำแค่ขู่แล้ว ไปจริงๆเลยก็ได้ คิดหรอว่าจะแคร์
คิดได้ดังนั้นจึงตัดสินใจก้าวออกมาจากตรงนั้นทันทีโดยไม่รีรอ ทว่า..
“หยุดนะ! พยอนแบคฮยอนห้ามไปไหนทั้งนั้น!”
เอ่ยเสียงดังพลางลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วคว้าร่างบอบบางเข้ามาไว้ในอ้อมกอดด้วยความหวงแหนทันที ทำให้เพื่อนๆในคณะรวมถึงคนตัวเล็กที่กำลังซุกหน้ากับอกอุ่นๆถึงกับเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดว่าไอ้ประธานมาดขรึมนี่จะหวงคนตัวเล็กจนกล้าทำถึงขนาดนี้..
แบบนี้เขายังเรียกว่าเพื่อนกันอยู่หรอวะ??
“อย่าพูดถึงคนอื่น แล้วก็ห้ามนึกถึงผู้ชายคนอื่นนอกจากกู!”
เอ่ยด้วยความจริงจังพลางกอดกระชับร่างบอบบางเอาไว้แน่น แล้วส่งสายตาไปบอกรุ่นพี่ต่างคณะให้กลับไป อย่ามายุ่งกับคนของเขาอีกถ้าไม่อยากโดนดี นี่ปาร์คชานยอลไม่ได้รู้สึกอะไรกับหมาน้อยตัวนี้เลยนะจริงๆ..
“ห้ามดิ้น ถ้าดิ้นกูจูบ”
บังคับให้ร่างเล็กนั่งลงบนตักแถมยังโอบเอวคอดเอาไว้ไม่ปล่อย แล้ววางคางลงบนลาดไหล่เล็กเพื่อเขียนแบบงานบนตักต่อ ซึ่งบางทีก็เอาเปรียบคนตัวเล็กมากกว่านั้นนิดหน่อย โดยการกดจมูกลงไปบนพวงแก้มนิ่มเบาๆ ช่วยไม่ได้ก็ใครบอกให้ตัวหอมเอง แบบนี้ก็ต้องอยากหอมหลายๆครั้งเป็นธรรมดา จะมาโทษเขาไม่ได้หรอก..
…. TBC ….
มาแล้ว!! อัพมันแทบทุกวันอ่ะฟิคเรื่องนี้ 55
ผ่านไป 4 ตอนแล้ว เป็นยังไงบ้างค่ะเรื่องนี้ มันไร้สาระใช่ไหม นั่นแหละ อย่าคาดหวังอะไรมาก 55
ถือว่าเอาไว้อ่านแก้เครียดตอนปิดเทอมล่ะกันเนอะ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะคะ
ใครที่เล่นทวิตแล้วเอ็นดูฟิคเรื่องนี้ฝาก #เพื่อนรักเตียงสั่น กันด้วยนะค๊า ^^
ความคิดเห็น