คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 01 Days ♡
01 Days ♡
#เพื่อนรักเตียงสั่น
เสียงร้องตะโกนโหวกเหวกโวยวายดังลั่นผ่านหัวไปมา บวกกับเสียงการใช้ไม้ตีกลองเคาะโต๊ะเรียนเป็นจังหวะอย่างสนุกสนานในห้องเรียนขนาดกว้างของคณะวิศวกรรมเครื่องกลในตอนนี้ ไม่ได้รบกวนสมาธิของคนสองคนที่กำลังนั่งจ้องตากันอยู่เลยแม้แต่น้อย
“มึงมีไรจะพูดก็พูดมาดิเตี้ย กูจะได้.. / มึงจะได้ไปหาน้องอกอึ๋มของมึงนะหรอ งั้นกูไม่พูด”
คนตัวเล็กพูดดักทางทันทีเพราะรู้ทัน และที่บรรยากาศในการพักเที่ยงต้องอึมครึมเฉกเช่นฝนกำลังใกล้ตกเช่นนี้ แทนที่จะได้เล่นสนุกสนานกันอย่างทุกวันก็ไม่ใช่อะไรหรอก เป็นเพราะพยอนแบคฮยอนกำลังกำจัดพวกสาวๆในบัญชีรายชื่อของปาร์คชานยอลให้กระเด็นออกไปทีละนางสองนางน่ะสิ
“โถ่เตี้ยมึงอย่าเล่นงี้ดิ กูก็แค่จะพาน้องไปกินข้าว”
“กินข้าวหรอ เหอะ! กินซาลาเปายักษ์อวบอึ๋มน่ะสิไม่ว่า”
ริมฝีปากระเรื่อคลี่ยิ้มอ่อนๆในขณะที่ดวงตากลมมนจดจ้องไปยังร่างสูงตรงหน้าอย่างรู้ทัน เพราะน้องอกอึ๋มที่กล่าวถึงในที่นี้ก็คือ คิมซูยอน น้องรหัสที่สุดแสนจะเซ็กซี่ของปาร์คชานยอล ที่คอยตามอ่อย ตามยั่วอยู่ทุกวัน แต่มีหรือที่หน้าอกบูมๆของหล่อนจะสู้มารยาและลูกเล่นของพยอนแบคฮยอนได้
ขอบอกว่าไม่มีวัน!
Rrrrrrr
เสียงเครื่องมือสื่อสารดังขึ้นอีกรอบท่ามกลางความเงียบ ทำให้หน่วยตาคมกำลังกรอกไปมาอย่างชั่งใจว่าจะรับหรือไม่รับสายดี เนื่องจากหล่อนโทรมาเป็นร้อยๆสายแล้ว จากนั้นก็..
“ฮัลโหลครับซูยอน”
“เซฮุนเค้าอยากไปกินชานมไข่มุกหน้าตึกแพทย์อ่า พาเค้าไปหน่อยนะเซฮุนอา”
หน่วยตาคมถึงกับเบิกโพลงขึ้นมาทันที หลังจากที่เห็นว่าคนตัวเล็กเดินไปเกาะแขนเพื่อนรักอีกคนอย่างออดอ้อน จากนั้นนิ้วเรียวจึงรีบกดวางสาย แล้วขายาวก็ก้าวตามคนทั้งสองออกไปทันที
“เดี๋ยวก่อนสิเตี้ย! กูยังไม่ได้รับสายเลย กูล้อเล่น โถ่เว้ย!”
เสียงทุ้มของประธานชั้นปีตะโกนลั่นไปทั่วตึกคณะ ทำให้คนตัวเล็กที่ได้ยินได้แต่ลอบอมยิ้มแล้วทำเป็นไม่สนใจ เพราะ พยอนแบคฮยอนรู้ดีว่าแผนยั่วอารมณ์เพื่อนรักตัวสูงในครั้งนี้มันต้องได้ผล เพราะเวลาที่เขาเข้าใกล้เพื่อนคนอื่นทีไร หมอนี่ก็จะมีอาการบ้าดีเดือดแบบนี้ทุกที ไม่รู้ทำไม..
“วันนี้มึงกับไอ้ประธานเป็นอะไรกันวะหมา ทำไมพวกมึงสองคนทำตัวแปลกๆ”
โอเซฮุนเอ่ยถามเพื่อนตัวเล็กที่กำลังนั่งเคี้ยวขนมตุ้ยๆอยู่ข้างๆด้วยความสงสัย ทำให้เพื่อนๆที่กำลังนั่งคุยกันอยู่รอบๆโต๊ะม้าหินอ่อนหน้าตึกคณะต่างก็พยักหน้าเออออไปด้วยเพราะทุกคนก็อยากรู้เช่นกัน
“นั่นสิ ปกติมึงนั่งกับอาอี้ไม่ใช่หรอ แล้วทำไมวันนี้ถึงได้ขอย้ายไปนั่งกับไอ้ยอลอ่ะ”
“เออแล้วก็อีกอย่าง ทำไมมึงถึงต้องห้ามไอ้ประธานไปเดทกับพวกสาวๆในสต๊อคของมันด้วยวะ”
“เห้ย! หยุดก่อนดิ ถ้าพวกมึงไม่หยุดถาม กูจะไม่ตอบคำถามใครสักคน”
คนตัวเล็กวางขนมในมือลงแล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับเพื่อนในกลุ่มด้วยความจริงจัง ทำให้ตอนนี้ทุกคนหยุดการกระทำทั้งหมดลงโดยอัตโนมัติทันที ราวกับเข็มนาฬิกาของโลกหยุดเดิน
“คืองี้ มันก็ไม่มีอะไรมากหรอก ก็แค่กูจะจีบไอ้โย่ง ก็แค่นั้น”
“!!”
“พรวด! แค่กๆ!”
ผู้คนที่นั่งอยู่รอบๆต่างพากันสำลักชานมไข่มุกที่พึ่งดูดเข้าไปเมื่อครู่ออกมาทันทีหลังคนตัวเล็กพูดจบ ไม่เว้นแม้กระทั่งปาร์คชานยอลที่พึ่งเดินตามลงมาที่แทบจะสำลักน้ำลายตัวเองซะให้รู้แล้วรู้รอด!
“มะ มึงว่าไงนะพยอนแบคฮยอน! มึงเนี่ยนะจะจีบไอ้ประธาน!”
เป็นอี้ชิงที่หลุดออกจากภวังค์แห่งความตระหนกตกใจได้ก่อน จึงรีบเอ่ยถามอีกรอบเพราะไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเท่าไหร่นัก หรือไม่อี้ชิงกำลังคิดว่าตัวเองอาจจะกินมากไปจนทำให้นอนหลับสบายแล้วฝันกลางวัน
“ทำไมอ่ะ มันแปลกหรอ? ก็กูไม่เคยมีแฟน กูก็แค่อยากจะมีอย่างคนอื่นดูบ้าง”
“!!”
คำพูดที่แสนจะใสซื่อถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากระเรื่ออีกรอบราวกับไม่รู้ร้อนรู้หนาว ทำให้เพื่อนๆที่พึ่งสำลักชาไข่มุกออกมาเมื่อครู่ แทบจะสำลักออกมาอีกรอบ
“นี่พวกมึงเป็นอะไรกันไปหมดเนี่ย? ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นด้วยล่ะ”
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกหน่า ถ้าภายใน 30 วัน กูทำให้ไอ้โย่งปล้ำกูไม่ได้ กูจะเลิกจีบมัน”
“!!”
ไม่ต้องรอให้เพื่อนตัวเล็กพูดจบประโยค เพราะแค่ได้ยินคำว่า ปล้ำ! น้ำชานมไข่มุกก็พรุ่งพรวดออกมาจากปากเพื่อนๆแทบจะทันที และในตอนนี้ทุกสายตากำลังเพ่งมองไปยังร่างสูงที่ยืนโดดเด่นอยู่ตรงกลางเพียงคนเดียวด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
“พยอนแบคฮยอนขึ้นห้อง!”
“!!”
จบคำพูดร่างเล็กก็ลอยหวือเข้ามาซุกอยู่ในอ้อมอกหอมกรุ่นทันที จากนั้นแขนแกร่งจึงจัดการยกร่างเล็กพาดบ่าแล้วก้าวฉับๆขึ้นไปบนห้องเรียนที่ตอนนี้ปราศจากผู้คนทันที ทำให้เพื่อนๆที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็หน้าแดงหูแดงกับการกระทำและถ้อยคำที่แสนจะกำกวมของท่านประธาน
“กูว่านะ แบบนี้คงไม่ถึง 30 วันหรอก เพราะดูท่าไอ้ประธานคงอยากจะปล้ำไอ้หมาตอนนี้แล้วล่ะ”
“!!”
หน่วยตาคมจดจ้องไปยังดวงตาคู่สวยที่กำลังยืนเชิดหน้าจ้องเขาอย่างตาแป๋วแบบไม่เกรงกลัวเลยสักนิดอย่างไม่วางตา ในขณะที่ขาวยาวก็ก้าวเข้าไปใกล้ร่างเล็กเรื่อยๆจนกระทั่งตอนนี้แผ่นหลังบอบบางชิดกับผนังห้อง
“ทำไมมึงต้องเอาเรื่องล้อเล่นไปพูดกับคนอื่นด้วยเตี้ย”
เสียงทุ้มเอ่ยจริงจังพลางยื่นมือทั้งสองข้างยันฝาหนังเอาไว้เพื่อกักขังคนตัวเล็กให้อยู่ในอาณัติของเขา ทำให้คนที่ได้ยินได้แต่ยืนกระทืบเท้าปึงปังอยู่กับที่ แล้วค่อยๆเชิดหน้าขึ้นสบตากับเพื่อนรักตัวสูงด้วยความจริงจังอย่างไม่แพ้กัน
“ก็กูบอกว่ากูไม่ได้พูดเล่นไงปาร์คชานยอล! มึงไม่เข้าใจหรือไง”
คนตัวเล็กยกมือขึ้นกอดอกพลางส่งเสียงจิจ๊ะอย่างขัดใจในความเขลาของเพื่อนรักที่ไม่รู้เวลา ก็พยอนแบคฮยอนบอกว่าจะจีบก็คือจีบสิ เขาไม่ได้พูดเล่นเสียหน่อย ทำไมหมอนี่ต้องมาทำเป็นซึนตอนนี้ด้วยนะ! คบกันมาตั้งหลายปีก็เห็นฉลาดมาตลอดนี่ และก็น่าจะเป็นหมอนี่ที่รู้ดีกว่าใครอื่น ว่าคนอย่างพยอนแบคฮยอนไม่เคยพูดเล่น!
“งั้นก็แสดงว่า..มึงยืนยันจะจีบกูจริงๆสินะ”
“เออสิ! ก็กูบอกแล้วไงว่ากูพยอนแบคฮยอน ลูกชายคนเล็กของเจ๊พยูน พูดคำไหนคำนั้น!”
ดวงหน้าหวานเชิดขึ้นอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวขณะพูด ทำให้ปาร์คชานยอลที่ได้ยินค่อยๆโน้มใบหน้าลงไปใกล้คนตัวเล็กมากขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งได้กลิ่นหอมอ่อนๆของซอกคอขาว
“มะ มึงจะทำอะไรปาร์คชานยอล”
เสียงหวานเอ่ยตะกุกตะกักพลางยกมือขึ้นพยายามปัดใบหน้าหล่อคมให้ออกห่าง ทำให้ริมฝีปากหยักได้รูปถึงกับยกยิ้มขึ้นมาอย่างเจ้าเล่ห์ในทันทีเพราะรู้ดีว่า คนอย่างพยอนแบคฮยอนมันเก่งแต่ปาก!
“มึงอยากมีแฟนใช่ไหม?”
“อื้อ!”
ปาร์คชานยอลละใบหน้าออกมาแล้วเอ่ยถามด้วยความเจ้าเล่ห์ ทำให้คนตัวเล็กที่รู้ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมรีบพยักหน้าหงึกหงักให้ทันที ริมฝีปากหยักจึงได้แต่ยกยิ้มกรุ้มกริ่มแล้วเอ่ยถามคำถามต่อไป
“แล้วมึงรู้ไหมว่าคนเป็นแฟนกันเค้าทำอะไรกันบ้าง?”
“รู้สิ! ก็กินข้าว ดูหนัง เดินจับมือ โทรคุยกัน บอกรักกัน แบบนี้ไง”
เสียงหวานเอ่ยเจื้อยแจ้วเพราะกำลังเพ้อฝันถึงภาพในอนาคตที่จะได้ทำกับแฟน โดยที่คงจะลืมคิดไปว่าการที่มีแฟนอย่างปาร์คชานยอลแน่นอนว่า มันต้องมีกิจกรรมให้ทำมากกว่านี้แน่ๆ
“มึงแน่ใจหรอว่ามีแค่นี้ ไหนลองคิดดีๆแล้วบอกกูอีกทีซิ”
“ว่าคนเป็นแฟนกัน เค้าทำอะไรนอกเหนือจากนี้อีกไหมเตี้ย”
ใบหน้าหล่อคมค่อยๆโน้มลงไปใกล้คนตัวเล็กเรื่อยๆหลังจบคำพูด ทำให้คนที่พึ่งจะนึกได้จากการกระทำอันล่อแหลมนี่ว่าคนเป็นแฟนกันเค้าควรจะ ทำ อะไรกันอีก ได้แต่ยืนตัวสั่นหลับตาปี๋
ทว่ายังทำเป็นใจดีสู้เสือ เชิดหน้าขึ้นแล้วตอบออกไป
“ก็หอมแก้ม จูบ แล้วก็นอ..อื้อ~”
ริมฝีปากอุ่นบดเบียดลงไปบนกลีบเนื้อนุ่มนิ่มทันทีอย่างไม่รีรอ ทำให้คนที่ถูกช่วงชิงความหอมหวานและความบริสุทธิ์ แทบจะไปไม่เป็น และถ้าไม่ได้มือหนาเกี่ยวรั้งเอวบางเอาไว้ล่ะก็ ป่านนี้คงล้มตึงลงไปนานแล้ว..
บอกแล้วว่าพยอนแบคฮยอนมันเก่งแต่ปาก!
และที่สำคัญปากมันก็หวานและนิ่มมากๆด้วย!
“ปาร์คชานยอล มะ มึง มึง..”
คนตัวเล็กยกมือข้างซ้ายขึ้นมาปิดปากเอาไว้แน่นหลังจากที่ริมฝีปากอุ่นๆละออกไป ส่วนมืออีกข้างก็กำลังชี้ด่าผู้ชายตัวสูงหน้าด้านหน้าทนตรงหน้า แต่พยอนแบคฮยอนด่าไม่ออก! เพราะสมองของคนตัวเล็กในตอนนี้มันตื้อไปหมด
พยอนแบคฮยอนถูกดูดวิญญาณ!
“อย่าด่ากูนะเตี้ย ไม่งั้นโดนจูบอีกรอบแน่”
“ไหนมึงบอกว่าอยากเป็นแฟนกูไง เป็นแฟนกันก็ต้องทำแบบนี้ดิถูกแล้ว”
“!!”
คนตัวเล็กได้แต่ยืนชี้นิ้ว อ้าปากพะงาบๆเพราะไม่กล้าจะเอ่ยคำด่า เพราะแค่ยืนนิ่งๆยังไม่ได้เอ่ยปากด่าสักคำยังโดนไอ้หมอนี่ดูดวิญญาณไปไม่รู้รอบที่เท่าไหร่แล้ว แล้วถ้าพยอนแบคฮยอนกล้าเอ่ยปาก จะไม่โดนจูบทั้งวันเลยหรือไงกัน..
“แล้วก็ขอบอกไว้ก่อนเลยนะว่าห้ามถอนคำพูดเรื่องที่มึงจะจีบกู”
“....”
“เพราะกูได้ถามย้ำมึงสองรอบแล้ว และมึงก็เป็นคนยืนยันเองว่าจะจีบ”
“....”
“เพราะฉะนั้นถ้ามึงไม่ยั่วกูจนครบ 30 วัน ตามที่พูดไว้ล่ะก็..”
“กูจะปล้ำมึงทุกวัน วันละหลายรอบด้วย”
“!!”
เสียงเฮดังขึ้นเป็นระยะๆบวกกับเสียงพากย์ของนักพากย์รุ่นอาวุโสที่ดังออกมาจากหน้าจอทีวีขนาดใหญ่ในตอนนี้บ่งบอกให้รู้ว่าทุกคนกำลังสนุกมากเพียงใดกับการนั่งดูฟุตบอลลีคสำคัญระดับโลกในครั้งนี้ ทว่ามันกลับไม่ได้ดึงดูดความสนใจของคนตัวเล็กสองคนที่กำลังนั่งจุมปุกอยู่บนเตียงภายในห้องนอนได้เลยแม้แต่น้อย
“นี่แบคฮยอนตกลงมึงจะลุกได้ยัง”
อี้ชิงยกมือขึ้นเท้าเอว ปรายตามองเพื่อนรักตัวเล็กที่กำลังนั่งบิดตัวไปมาอยู่บนเตียงแล้วพรูลมหายใจออกมาเบาๆ เพราะนี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ ที่จางอี้ชิงต้องเอ่ยคำถามเดิมซ้ำๆอยู่อย่างนี้
“กูไม่กล้าว่ะอี้ แบบนี้มันจะดีจริงๆหรอ?”
เสียงหวานเอ่ยอู้อี้ในขณะที่กำลังพยายามดึงเสื้อชายเชิ้ตสีขาวตัวโคร่งลงมาปิดเรียวขาขาวทั้งสองข้างเอาไว้ด้วยความเงอะงะ ทำให้จางอี้ชิงที่ยืนมองอยู่ได้แต่ยกยิ้มเอ็นดู พยอนแบคฮยอนมันเก่งแต่ปากจริงๆด้วย
แค่เขาจัดการจับคนตัวเล็กนี่มาขัดผิว อาบน้ำนม แล้วจับแต่งตัวให้ดูเซ็กซี่นิดๆหน่อยๆหลังเลิกเรียน เพื่อจะได้ออกไปยั่วไอ้ประธานตัวสูงที่นั่งเชียร์ฟุตบอลลีกสำคัญอยู่ในตอนนี้ตามแผน แต่ไม่รู้ว่าแผนการยั่วคราวนี้จะถึงฝั่งหรือไม่ เพราะเพื่อนรักตัวดีดันป๊อดเสียแล้ว
“แบคฮยอนมึงฟังกูนะ”
“ถ้ามึงอยากได้ไอ้ประธานมึงต้องกล้า! หรือมึงจะปล่อยให้ยัยโนตมนั่นคาบไปกินก่อน”
“!!”
พยอนแบคฮยอนที่ได้ยินถึงกับตาลุกวาวเป็นประกายมุ่งมั่นขึ้นอีกครั้ง เพราะตอนนี้ยัยซูยอนหรือแม่นางโนตมที่อี้ชิงกล่าวถึงหล่อนกำลังนั่งอ่อยปาร์คชานยอลอยู่ด้านนอก และไม่มีวันที่พยอนแบคฮยอนลูกชายคนเล็กของเจ๊พยูนจะปล่อยให้เป็นแบบนั้นได้อีกต่อไป แบบนี้มันต้องลุยอย่างเดียว!
เพราะเจ๊พยูนสอนเอาไว้ว่า ผู้ชายของข้าใครห้ามแตะ!
“ปาร์คชานยอล!”
“!!”
เสียงหวานที่ดังขึ้นแข่งกับเสียงทีวีพร้อมกับร่างเล็กที่กำลังเดินดุกๆออกมาจากในห้อง ทำให้เพื่อนๆแก๊งค์วิศวะเครื่องกลราวสิบกว่าคนที่กำลังนั่งกระดกเบียร์เชียร์บอลกันอยู่ถึงกับนิ่งค้างราวกับโลกหยุดหมุน เพราะทุกคนกำลัง..
อึ้ง!
คนตัวเล็กในเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่งที่ถูกแกะกระดุมออกสามเม็ดผ่ากลางหน้าอก แถมยังนุ่งกางเกงขาสั้นสีดำเหนือเข่า ทำให้ผิวเนื้อขาวเนียนเผยต่อสายตาหลายคู่ไปถึงไหนต่อไหนและมันกำลังทำให้เพื่อนๆทุกคนช็อค!
และเลือดกำเดาไหล!
“พยอนแบคฮยอนมานี่เดี๋ยวนี้! แล้วก็พวกมึงหลับตาให้หมด!”
คำสั่งประกาศิษย์ถูกเอ่ยออกมาจากริมฝีปากหยักทันควัน และยิ่งหน่วยตาคมกวาดมองไปรอบๆแล้วพบว่า เพื่อนๆแต่ละคนกำลังอ้าปากค้างน้ำลายแทบหก ยิ่งทำให้ปาร์คชานยอลอดทนต่อไปไม่ไหวรีบลุกขึ้นเดินไปคว้าร่างบอบบางเข้ามาไว้ในอ้อมกอดแล้วพาเดินกลับมานั่งลงบนโซฟา ดึงผ้าห่มแถวนั้นมาคลุมตัวเองกับคนตัวเล็กที่นั่งบนตักเอาไว้ทันที
“อะไรของมึ.. / เงียบ! พยอนแบคฮยอนก่อนที่กูจะปล้ำมึงตรงนี้!”
ปาร์คชานยอลกัดฟันกรอดๆขณะพูด พลางจดจ้องไปยังดวงตากลมมนใสแป๋วด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ในขณะที่มือหนาก็ทำการกระชับกอดร่างนุ่มนิ่มบนตักเอาไว้ไม่ให้ดิ้นขัดขืน
“แล้วพวกมึง! ถ้ากูรู้ว่ามีใครบังอาจจดจำร่างกายคนของกู! อย่าหาว่ากูไม่เตือน!”
“!!”
ถ้อยคำประกาศิษย์ถูกเอ่ยขึ้นอีกรอบพร้อมกับหน่วยตาคมที่กำลังกวาดมองด้วยรังสีอำมหิตเป็นรายๆจนครบ ทำนักศึกษาวิศวกรรมเครื่องกลราวสิบกว่าชีวิตได้แต่นั่งนิ่งพยักหน้าเบาๆเป็นการบอกว่า..
กระผมจะลบภาพผิวขาวเนียนน่าลูบไล้ของคนของท่านออกไปจากหัวสมองให้หมดประเดี๋ยวนี้เลยขอรับท่านประธานปาร์ค ถึงแม้นว่ามันจะยากเหลือแสนก็ตามเถิด..
“ใครบอกให้มึงแต่งตัวแบบนี้หะเตี้ย!”
ปาร์คชานยอลกัดฟันกรอดๆขณะพูดพลางกระชับกอดร่างนุ่มนิ่มบนตักเอาไว้แน่น ในขณะเดียวกันที่คนถูกถามได้แต่นั่งนิ่งไม่ยอมพูดจาและพวงแก้มเนียนก็กำลังขึ้นสีเรื่อยๆ
เนื่องจากกำลังรับรู้ถึงอะไรบางอย่างภายใต้เป้ากางเกงของปาร์คชานยอลที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง..
“อะ อี้ชิง อี้ชิงบอกว่าให้กูแต่งตัวยั่วมึง ตะ แต่กูคิดว่ามันคงจะไม่ได้ผล”
เสียงหวานเอ่ยตะกุกตะกักพลางกำมือน้อยๆทั้งสองข้างที่วางอยู่บนตักเข้าหากันแน่น จากนั้นจึงรีบก้มหน้างุดคางแทบชิดอก เพราะรู้แก่ใจดีว่าตนกำลังพูดปด
“หืม..มึงแน่ใจอย่างที่พูดจริงๆหรอว่ามันไม่ได้ผล อยากจะลองสัมผัสมันดูไหมล่ะ”
เสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบเบาๆที่ข้างหูพลางเป่าลมหายใจร้อนๆเข้ามาไม่หยุด ทำให้คนตัวเล็กที่ได้ยินถึงกับขนลุกซู่ขึ้นมาทั้งตัว และไม่ว่าเปล่าแต่ในขณะนี้มือหนากำลังคว้ามือน้อยๆของคนที่กำลังตกอยู่ในภวังค์เข้ามาลูบไล้อะไรบางอย่างที่กำลังผงาดอยู่ภายใต้กางเกงผ้าร่มตัวบาง แล้วสักพักก็..
!!
คนตัวเล็กถึงกับสะดุ้งโหยงแล้วรีบสะบัดมือออกทันที หลังจากที่สัมผัสได้ถึงก้อนอุ่นๆบางอย่างที่กำลังไม่ปกติ และมันคงจะเป็นอนาคอนด้ายักษ์อย่างที่ตนเคยพูดไว้จริงๆเพราะนี่มันไม่ใช่ไซน์ธรรมดาๆ
แต่มันใหญ่มาก!
“ทีนี้รู้ยังว่ามันได้ผลรึเปล่า หรือต้องลองสัมผัสอีกรอบถึงจะรู้”
เสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยกระซิบเบาๆที่ข้างหู ในขณะที่มือหนากำลังเลื่อนมาลูบสองมือน้อยๆที่กำลังสั่นเทาเบาๆด้วยความรู้สึกวาบหวิว ทำให้คนที่ถูกถามถึงกับหน้าแดงหูแดงขึ้นไปอีก แล้วตะโกนออกมาเสียงดังฟังชัดว่า..
“ระ รู้แล้ว! รู้แล้วว่ามันได้ผลมาก แล้วมันก็ใหญ่มากด้วย!”
“!!”
คนตัวเล็กรีบเอ่ยเสียงดังเนื่องจากกลัวว่าจะถูกคนเจ้าเล่ห์จับมือของตนไปลูบไล้เจ้าอนาคอนด้ายักษ์นั่นอีก แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งที่พูดออกมานั้นมันดังเกินไป จนทำให้เพื่อนๆที่นั่งเชียร์บอลอยู่ถึงกับนิ่งค้างและอ้าปากกว้างเพราะไอ้คำพูดที่ว่า..
มันใหญ่มาก! นี่แหละ แล้วอะไรกันล่ะที่บอกว่าใหญ่..
“พี่ชานยอลคะ ซูยอนอยากกลับแล้ว พี่ชานยอลไปส่งหน่อยได้ไหม”
แล้วหญิงสาวอกสะบึ้มแห่งปีที่นั่งอยู่ข้างๆก็ตัดสินใจเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ติดจะไม่พอใจนิดๆ เนื่องจากหล่อนต้องทนนั่งดูรุ่นพี่ที่ตามยั่วอยู่ทุกวันกำลังนัวเนียอยู่กับเพื่อนซี้ตัวเล็กมานาน หล่อนจึงพยายามคิดสารพัดวิธีเพื่อสกัดดาวยั่วเบอร์ 2 ที่กำลังจะแซงหน้าหล่อน โดยวิธีที่หล่อนเลือกใช้ก็คือวิธีเรียกร้องให้ผู้ชายที่หล่อนหมายปองไปส่งถึงห้องถึงหับ ทว่า..
“คงไม่ได้หรอกนะซูยอน วันนี้สงสัยเธอต้องกลับเองแล้วล่ะ จริงไหมโย่ง”
นัยน์ตาฉ่ำหวานทอดมองใบหน้าคมคายในขณะพูดและมือไม้ก็ไม่ได้อยู่เฉยเพราะกำลังยกขึ้นมาลูบไล้ไปทั่วแผงอกแกร่งอย่างยั่วยวนภายใต้ผ้าห่มผืนหนาที่คนทั้งสองคลุมอยู่ ทำให้คนที่ถูกกระทำได้แต่นั่งทำหน้าเคลิบเคลิ้มไปกับกลิ่นกายหอมกรุ่นและผิวเนื้อนิ่มๆที่กำลังเบียดเข้าหาเขาเรื่อยๆ และสติของท่านประธานมาดขรึมในตอนนี้ก็เป็นอันติดลบเป็นที่เรียบร้อย..
“พี่ชานยอลคะ! ว่าไงคะ! ตกลงจะไปส่งซูยอนไหมหรือจะให้ซูยอนกลับเองอย่างที่พี่แบคว่า”
คิมซูยอนเอ่ยเสียงดังพลางกำมือเอาไว้แน่น เพราะเวลาที่หล่อนหันไปสบตากับพยอนแบคฮยอนทีไร หล่อนก็รู้สึกว่าตัวเองตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในศึกครั้งนี้เสียทุกครั้ง แต่หล่อนไม่มีทางปล่อยให้ทุกอย่างเป็นแบบนั้นหรอก! เพราะหล่อนตามจีบของหล่อนมาตั้งนาน จู่ๆจะมาคาบของๆหล่อนไปได้ยังไง และที่สำคัญหล่อนก็เชื่อว่า
หน้าอกไซน์โคตรบึ้มของหล่อนจะต้องเอาชนะไข่ดาวแบนๆของคู่แข่งเบอร์ 1 ของหล่อนได้แน่!
“เอ่อครับงั้นเดี๋ยวพี่.. / อู๋ฟานเราหิวน้ำอ่ะ อยากออกไปเดินสูดอากาสข้างนอกด้วย พาเรา..อื้อ~”
มือหนายกขึ้นประกบริมฝีปากระเรื่อทันทีอย่างไม่รอรี เพราะถ้าได้ยินเสียงหวานๆนี่อ้อนมนุษย์ตนอื่นที่ไม่ใช่เขาอีกเพียงคำเดียวล่ะก็ ปาร์คชานยอลมีหวังได้อกแตกตายแน่ๆ เพราะเขาหวงไอ้ตัวกระเปี๊ยกนี่ที่สุด และจะไม่ยอมให้เสียงหวานๆนี่อ้อนใครเด็ดขาดนอกจากเขาเพียงคนเดียว ช่วยไม่ได้ก็ปาร์คชานยอลเป็นคนหวงเพื่อนเอามากๆ ถึงแม้ว่าความรู้สึกแบบนี้จะเกิดขึ้นกับไอ้เตี้ยนี่คนเดียวก็เถอะ
แต่สำหรับปาร์คชานยอลยังไงมันก็คือคำว่าหวงเพื่อน! เข้าใจไหมว่าหวงเพื่อน!
หรือพวกคุณไม่เคยเป็น โด่วว..
“มึงอ่ะลุกพอดี เพราะฉะนั้นก็ไปส่งซูยอนด้วยแล้วกัน อะนี่กุญแจ ขับรถกูดีๆด้วยล่ะเชี่ยคริส”
แล้วทันใดนั้นกรรมทุกอย่างก็มาตกอยู่ที่อู๋อี้ฟาน ผู้ที่กำลังลุกขึ้นเดินไปหาเพื่อนตัวเล็กที่เอ่ยเรียกด้วยรอยยิ้มกว้าง แต่ทุกอย่างกลับเป็นแบบนี้เสียนี่ ทำให้ชายหนุ่มผู้เคราะห์ร้ายได้แต่ยื่นมือไปรับกุญแจจากท่านประธานขาโหดสุดที่รักมาไว้ในมือด้วยความเศร้าสร้อย
“แต่ว่าพี่ชานยอลคะ.. / กลับเถอะซูยอนเพื่อนพี่ไว้ใจได้ไม่ต้องห่วง หรือไม่ถ้ามีอะไรก็โทรหาพี่ได้ อะเอ่อ..คือพี่หมายถึงโทรพาพวกพี่ๆได้ทุกคนน่ะนะ”
เสียงทุ้มเอ่ยติดขัดเพราะกำลังถูกคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนตักจ้องตาเขม็ง อีกทั้งยังมือนิ่มๆที่กำลังบิดแขนของเขาภายใต้ผ้าห่มในตอนนี้ด้วย และที่สำคัญกว่าอะไรทั้งหมดก็คือปาร์คชานยอลกำลังเกรงใจสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆนี่มากๆต่างหาก
“ไงหะตัวแสบ พอใจกับแผนการยั่ววันนี้ไหม?”
มือหนาลูบเรือนผมนิ่มเบาๆขณะเอ่ยถาม ทว่าหัวทุยๆที่ซุกอยู่กับซอกคออุ่นๆของเขาได้แต่พยักหงึกหงักเบาๆ นั่นทำให้ปาร์คชานยอลถึงกับยิ้มขำ เพราะรู้ดีว่าไอ้ตัวกระเปี๊ยกในอ้อมกอดคงจะกำลังเคลิ้ม เพราะนี่ก็เลยเวลานอนของหมาน้อยตัวนี้มามากแล้ว
“เตี้ย”
“เตี้ย”
หลังจากที่พยายามเอ่ยเรียกอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าเจ้าตัวแสบในอ้อมกอดจะตอบกลับมา ปาร์คชานยอลจึงตัดสินใจช้อนร่างบอบบางขึ้นมาแนบอกด้วยความระมัดระวัง จากนั้นจึงส่งส่ายตาไปบอกเพื่อนๆเป็นเชิงว่า..
ถ้าดูเสร็จแล้วช่วยปิดทีวีและล็อคห้องให้ด้วย กูจะพาหมาน้อยเข้าไปนอน แล้วก็อย่าส่งเสียงดังรบกวนด้วยเข้าใจไหม..
เป็นอันรู้กันดีว่าการส่งสายตาแบบนี้ของท่านประธานหมายความว่าอย่างไร จึงทำให้เพื่อนๆทุกคนต่างพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย เห็นดังนั้นปาร์คชานยอลจึงอุ้มคนตัวเล็กเดินเข้ามาในห้องนอนทันที
เพราะไม่ว่าจะดูบอลหรือทำงานอะไรก็แล้วแต่ ถ้าเลยเที่ยงคืนไปแล้วล่ะก็ พยอนแบคฮยอนจะต้องมีอาการแบบนี้ทุกครั้ง จนทำให้ปาร์คชานยอลรวมถึงเพื่อนคนอื่นๆชินเสียแล้วกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแทบจะทุกวันเช่นนี้
“นี่หรือไงคนที่บอกจะยั่วกู เค้ามัวแต่นอนหลับยั่วแบบนี้หรือไงกันนะ หึ”
มือหนายื่นไปปัดปอยผมนิ่มออกจากหน้าผากมนอย่างแผ่วเบา พลางทอดมองใบหน้าสวยหวานของเพื่อนรักตัวเล็กที่กำลังหลับพริ้มอยู่บนเตียงนุ่มๆอย่างไม่วางตา ในขณะที่ริมฝีปากหยักได้แต่คลี่ยิ้มบางๆด้วยความเอ็นดู
“ฝันดีนะเตี้ย ทีหลังอย่าแต่งตัวแบบนี้ให้ใครเห็นอีกนะรู้ไหม กูหวง”
ถ้อยคำบอกฝันดีถูกเอื้อยเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา ตามด้วยริมฝีปากอุ่นที่กำลังทาบทับลงบนหน้าผากของเขาแล้วค่อยๆละออกไปอย่างอ้อยอิ่ง ทำให้คนตัวเล็กที่ได้รับสัมผัสอันแสนอ่อนโยนได้แต่นอนนิ่งหลับตาพริ้มและลอบอมยิ้ม!
เพราะแผนการยั่วปาร์คชานยอลในวันแรกของเขา ผ่านฉลุย!! J
…. TBC ….
แผนการยั่ววันที่ 1 ผ่านไป บยอนชนะแบบใสๆ^^
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะคะ เจอกันอีกที วันพุธ น๊า ^^
ใครที่เล่นทวิตแล้วเอ็นดูฟิคเรื่องนี้ฝาก #เพื่อนรักเตียงสั่น กันด้วยนะค๊า ^^
ความคิดเห็น