ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Darkmoon Stamina : ล่าปริศนา โรงเรียนพิศวง

    ลำดับตอนที่ #7 : กลัว

    • อัปเดตล่าสุด 6 มิ.ย. 50


     

              ตอนที่ 4 : กลัว


              "ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคามิมูระพามิฮารุไปเข้าห้องก่อนนะจะได้จัดการเก็บข้าวของ แล้วนี่มิทซึรุล่ะจะเอายังไง อยู่ทานข้าวเย็นกันก่อนสิ" คุณพ่อชักชวนหลังจากยืนพูดคุยกันอยู่ที่หน้าตึกไปได้สักพัก

              "ไม่ล่ะครับ เดี๋ยวผมคงจะกลับเลย เอาไว้ว่างแล้วจะมาเยี่ยมใหม่" ชายหนุ่มผู้มีดวงตาสีเขียวยิ้มเล็กน้อยแล้วเข้าไปจับแขนของคุณพ่อเอาไว้ "คุณพ่อรักษาตัวด้วยนะครับ"

              เขาโค้งลาทั้งอาจารย์และคุณพ่ออากิระก่อนจะลูบหัวลูกแล้วคุยกันอีกเล็กน้อย พอเขาทำท่าจะเดินไปทางหน้าโรงเรียนคุโรก็เดินตามไปส่งด้วย ทั้งสองคนเดินอย่างไม่รีบร้อนนักโดยตัดผ่านสวนหย่อมเพื่อจะออกไปทางหน้าประตูอีกครั้ง

              "คิดอะไรอยู่" คุโรที่เดินตามมาก้าวเท้าเข้าไปประชิดตัวเพื่อนแล้วหันหน้าไปถาม มิทซึรุตกใจนิด ๆ แต่ก็หันไปตอบตามปกติ

              "เอ๊ะ เปล่านี่" เขาพูดพร้อมกับก้าวเท้าผ่านสนามกลางแดดบ่าย "รู้สึกว่าโรงเรียนเราจะเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ"

              "ในแง่ไหนล่ะ สถานที่ หรือว่า..." ชายชุดดำซักไซ้จนมิทซึรุอดไม่ได้ต้องหันไปจ้องเพื่อนด้วยความฉงน

              "จะมีแง่ไหนอีกล่ะ นายนี่ช่วงนี้พูดจาแปลก ๆ นา" เขาบ่นอุบอิบแล้วขมวดคิ้ว "จู่ ๆ ก็จะมาเป็นครูที่นี่ ฉันล่ะตกใจหมด แล้วคิดยังไงมาให้พวกอาจารย์เห็นได้ล่ะ ฉันนึกว่านายจะเก็บไว้เป็นความลับเสียอีก"

              คุโรได้แต่ยิ้ม เขาชะงักเท้า กลางเปลวแดดที่ร้อนระอุนั้นมีเพียงมิทซึรุเท่านั้นที่มีเม็ดเหงื่อเกาะพราวบนใบหน้าและตามร่างกาย เขาสบตากับอีกฝ่ายอยู่ครู่หนึ่ง มิทซึรุรู้สึกได้ว่าคุโรมีบางอย่างที่อยากจะพูดแต่ในใจลึก ๆ เขาก็รู้ดีว่าคุโรจะไม่พูดอะไรออกมาแน่

              "...ไปเถอะ ฉันร้อนนะ" ชายหนุ่มร่างเล็กบ่นเล็กน้อยก่อนจะก้าวเท้าเดินต่อ

              "แต่ว่าฉันไม่ร้อนนี่นา" คุโรพูดแล้วยิ้มมีเลศนัย มิทซึรุถอนหายใจแรง ๆ ก่อนจะเข้าไปคว้าแขนเพื่อนไว้แล้วจูงออกไปที่หน้าโรงเรียน ถนนหน้าโรงเรียนไม่ค่อยมีรถผ่านเช่นเดิม พวกเขาทั้งสองยืนหลบในร่มไม้รอแท็กซี่สักคันหนึ่งที่จะผ่านมา

              มิทซึรุเงยหน้ามองต้นซากุระหน้าโรงเรียนที่ดอกของมันร่วงโรยไปหมดเพราะผ่านช่วงบานของปีนี้ไปแล้ว คุโรเองก็เงยหน้าขึ้นเช่นกัน แววตาสีดำสนิทนั้นสะท้อนภาพท้องฟ้าสว่างจ้าให้เห็น

              แท็กซี่ผ่านมาหนึ่งคัน มิทซึรุโบกให้จอดแต่รถกลับผ่านเลยไปราวกับไม่สนใจ เขาแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็กลับขึ้นมายืนบนทางเท้าตามเดิมก่อนจะทอดสายตากลับเข้าไปในโรงเรียน

              "ยังไม่ได้เจอริคุจังเลยนะ"

              "มาแล้วล่ะ คงกำลังเดินเล่นอยู่ในโรงเรียน" ชายชุดดำข้างตัวเขาตอบเสียงนิ่ง มิทซึรุก้าวลงไปโบกรถอีกคันหนึ่งทว่าแท็กซี่ก็ขับเลยไปอีกครั้ง

              "นายไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือ" คุโรถามขึ้นพร้อมกับก้มหน้ากลับลงมา

              "รู้สึกอะไร" มิทซึรุถามกลับไปแต่ในใจกลับรู้สึกหงุดหงิดกับรถที่ไม่ยอมจอดรับเขาถึงสองคันมากกว่า

              "...ในที่ ๆ มีผู้ด้านจิตวิญญาณมารวมตัวกันเยอะ ๆ ยิ่งเยอะเท่าไรก็ยิ่งเป็นการเรียกวิญญาณให้เข้ามารวมกันในที่นั้นมากขึ้น"

              "เรื่องนั้นฉันก็รู้..." ชายร่างเล็กตอบเชิงครุ่นคิด "นายหมายถึง...คุโรสึกิปีนี้งั้นหรือ"

              "หืม..." คุโรเผยยิ้มกวน ๆ ที่มุมปากแต่ไม่ได้ให้คำตอบอะไร เขาเบนสายตามาจดจ้องที่มิทซึรุอยู่เนิ่นนาน ดวงตาสีเขียวนั้นสบตากับเขาครู่หนึ่งแล้วจึงหันกลับไปที่ถนนเช่นเดิมเพราะได้ยินเสียงรถแล่นใกล้เข้ามา เป็นรถยนต์ธรรมดากับรถแท็กซี่ขับตาม ๆ กันมา คราวนี้พอลงไปโบกแท็กซี่ก็ยอมจอดรับโดยดี มิทซึรุจึงค่อยโล่งใจได้หน่อย

              "ทำไมต้องโวยวายด้วยตอนที่คุณพ่อไม่ได้ออกไปหาพวกนายที่หน้าห้องด้วยล่ะ" คุโรทักถาม มิทซึรุที่เดินไปถึงประตูรถแล้วหันกลับไปอีกครั้งก็พบว่าคุโรกำลังเดินเข้ามาใกล้เขามากขึ้น

              "กลัวฉันหรือ" ชายชุดดำถามน้ำเสียงจริงจัง มิทซึรุจับประตูรถค้างไว้แล้วยืนนิ่งเหมือนทำอะไรไม่ถูก คุโรเดินเข้ามาประชิดตัวเขาแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ

              "ไม่ต้องกลัวหรอก...ต่อให้ฉันทำลายโลกทั้งโลกทิ้ง ก็มีแต่นายเท่านั้นที่ฉันจะไม่ทำอะไร" ชายชุดดำกระซิบกระซาบ มิทซึรุนิ่งคิดไปชั่วครู่ก่อนจะเผยยิ้มออกมาแต่แววตากลับเศร้าสร้อยอย่างประหลาด

              "เพราะอย่างนั้นฉันถึงได้กลัวไงล่ะ" ชายร่างเล็กกระซิบตอบก่อนจะปิดปากราวกับรู้สึกว่าไม่ควรพูดออกไป ดวงตาสีรัตติกาลของชายอีกคนเบิกโพลงขึ้นจ้องเขม็ง คุโรรู้สึกได้ถึงการปฏิเสธ ในขณะที่มิทซึรุทำท่ารีบร้อนพยายามจะเข้าไปนั่งในรถโดยเร็ว

              เขาโบกมือลาเพื่อนหลังจากเข้ามานั่งในรถแล้ว คุโรในชุดสีดำสนิทยืนนิ่งโดยไม่โบกมือตอบ รถแท็กซี่ค่อย ๆ ออกตัวไปมิทซึรุจึงละสายตากลับมาที่ถนนด้านหน้าอีกครั้ง

              "ไปสถานีรถไฟใกล้ ๆ นี่นะครับ"

              "ครับ ๆ" คนขับตอบรับแล้วขับรถอย่างระมัดระวัง แถวนี้แม้จะมีรถผ่านไปมาไม่มากแต่ส่วนใหญ่ขับเร็วกันทั้งนั้น ผู้โดยสารถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเอนหลังพิงเบาะที่นั่ง เขาเหลือบมองในกระจกหลังก็เห็นสายตาของคนขับซึ่งเป็นชายวัยกลางคนกำลังล่อกแล่กไปมา มิทซึรุจึงหันไปมองข้าง ๆ ตัว...

              เขาแทบสะดุ้งเมื่อเห็นว่าข้าง ๆ มีคนนั่งอยู่ด้วย คุโรมองตรงไปข้างหน้านิ่งงันราวกับรูปปั้น มิทซึรุได้แต่สูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ด้วยอาการตกตะลึง คนขับเองก็คงทั้งตกใจทั้งประหลาดใจไม่น้อยเพราะในตอนแรกเห็นอย่างชัดเจนว่ามีผู้โดยสารขึ้นมาบนรถคนเดียวเท่านั้นเอง

              ในความเงียบที่แสนเนิ่นนานนั้น รถยังคงแล่นผ่านแมกไม้ไปเรื่อย ๆ คนทั้งสามต่างไม่ได้เอ่ยคำพูดอะไรออกมา มิทซึรุจดจ้องไปยังเพื่อนของตัวเองตลอดเวลาราวกับถามไถ่ถึงเหตุผล

              "ลูกของนายด้วย ถ้านายเป็นกังวล...ฉันจะช่วยดูแลให้" คุโรเบือนหน้าไปมองต้นไม้ริมทางเพื่อหลบสายตาของเพื่อนที่จ้องมองมา "เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องกลัว...อะไรหรอกนะ"

              "...ฉันเข้าใจ" มิทซึรุที่หยุดนิ่งไปนานกลับก้มหน้าลงเหมือนจะร้องไห้ "ขอโทษนะ ที่เมื่อกี้พูดไม่ดีกับนาย ฉัน...ฉันใจไม่ค่อยดียังไงก็ไม่รู้"

              "อืม" เขาตอบรับสั้น ๆ รถยังแล่นไปอีกสักพักหนึ่ง ไม่นานก็ใกล้ถึงสถานีรถไฟเต็มทีแล้ว ร่างของชายชุดดำเริ่มละลายราวกับน้ำแข็งสีดำขุ่นคลั่ก คนขับรถตัวสั่นระริก ภาพที่เกิดขึ้นที่เบาะหลังนั้นเขามองเห็นได้ตลอดเวลา

              ในที่สุดร่างของคุโรก็ละลายไหลออกจากตัวรถไป มิทซึรุหลับตาหลังพิงเบาะ คนขับค่อย ๆ ใจเย็นขึ้นแต่ไม่กล้าเอ่ยปากถามอะไรทั้งนั้น รถที่มิทซึรุนั่งกำลังแล่นห่างออกไปจากคุโรสึกิมากขึ้นเรื่อย ๆ

              เวลานั้นคุโรยังคงยืนนิ่งอยู่ที่หน้าโรงเรียน...


              ..........


              ป่าหลังโรงเรียนมีต้นไม้ขึ้นครึ้มร่มรื่น ชายหนุ่มขยับแว่นตาอย่างใจเย็น ในมือของเขามีสมุดเล่มบางที่เก่าจนแห้งกรอบเป็นสีน้ำตาลเข้มกับกล่องหูหิ้วใส่เครื่องมือช่าง มิมูระเดินหน้าเข้าไปในป่า ก้าวขาข้ามรากไม้อย่างระมัดระวังจนกระทั่งมาถึงหลุมศพของคนผู้หนึ่ง

              เขาถอดแว่นทรงรีออกแล้วหยุดมองไปยังหลุมฝังศพแบบคริสต์ที่เป็นป้ายไม้กางเขนทำจากหินนั้น เขาแทบไม่เคยเหยียบเข้ามาในป่าหลังโรงเรียนนี้เลย นี่คงเป็นหลุมศพของผู้สนับสนุนโรงเรียนที่คุณพ่ออากิระเคยเล่านั่นเอง เพราะกลัวว่าจะมีเด็กเข้ามาเล่นซนดังนั้นเวลามีการปฐมนิเทศนักเรียนใหม่คุณพ่อก็ต้องพูดถึงหลุมศพของคน ๆ นี้ทุกครั้ง พร้อมทั้งเตือนไม่ให้ใครเข้ามายุ่มย่ามอีกด้วย

              หลุมศพเงียบเหงา ไม่มีใครและวิญญาณดวงใดอยู่ใกล้ ๆ มิมูระสวมแว่นแล้วเดินลึกเข้าไปอีก เดินวนไปเวียนมาอยู่ไม่นานก็พบเข้ากับบ่อน้ำเก่า ๆ เขาเปิดสมุดที่กระดาษเก่าเหลืองจนแห้งกรอบนั้นดูอีกครั้ง

              บ่อกรด...คำเพียงคำเดียวในสมุดยังปรากฏอยู่เช่นเดิม มิมูระค่อย ๆ ก้าวเดินเข้าไปใกล้ บนบ่อน้ำมีตะแกรงเหล็กและตาข่ายปิดคลุมอยู่อย่างแน่นหนาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

              ไม่สิ...จะเรียกว่าอุบัติเหตุได้หรือเปล่านะ มิมูระเผยรอยยิ้มมุมปากราวกับสมเพชเวทนาพลางมองลอดรูของม่านเหล็กลงไปในบ่อ ร่างวิญญาณที่แออัดกันอยู่ในนั้นดูราวกับกับขุมนรกเลยทีเดียว

              ก้อนมนุษย์ที่เน่าเฟะเมื่อบดเบียดกันชิ้นเนื้อก็หลุดลุ่ยออกมาจนทั้งหมดในนั้นแทบจะกลายเป็นก้อนวิญญาณเดียวกันอยู่แล้ว น้ำที่เจิ่งนองอยู่นั้นก็คอยกัดกินพวกเขาทีละมากทีละน้อยจนดวงวิญญาณแทบจะสูญสลายไป

              มิมูระเกาะขอบบ่อแน่น เจ้าพวกที่อยู่ในบ่อนั่นรู้ว่าเขามา...ถึงได้ออกมาวนเวียนให้เห็น เหงาหรือว่าหิวโหย...เคียดแค้น สิ่งใดกันแน่นะที่อยู่ในจิตใต้สำนึกของวิญญาณผู้ต้องสาปเหล่านั้น

              เขาหยิบคีมตัดลวดออกมาจากกล่องเครื่องมือแล้วค่อย ๆ ตัดตาข่ายเหล็กออกก่อนจะตัดมุ้งลวดออกด้วย ทันทีที่บ่อถูกเปิดออกมือสีขาวซีดเน่าเฟะก็ยื่นขึ้นมาไขว่คว้าอากาศเบื้องบนราวกับสูดลมหายใจ

              มิมูระหัวเราะ เขาทอดสายตาลงไปในบ่อลึกก่อนจะดึงแผ่นยันต์ที่ข้างบ่อออกไป มือจำนวนมากค่อย ๆ หดกลับลงไปราวกับเลิกทุรนทุราย เสียงครวญครางเงียบลงทีละน้อย ชายหนุ่มก้มหัวมองลงต่ำก่อนจะค่อย ๆ ปล่อยตัวเองให้ร่วงตกลงไปภายในบ่อลึกอย่างเงียบเชียบ

              ป่าหลังโรงเรียนคุโรสึกิตกอยู่ในความเงียบงันอีกครั้ง สมุดเล่มบางที่เก่าคร่ำคร่าถูกพัดปลิวไปตามพื้นพงดงหญ้า กล่องเครื่องมือช่างถูกทิ้งเอาไว้ที่ข้างบ่อเช่นเดิม เวลานั้นแม้แต่เสียงของแมลงก็ไม่เกิดขึ้นเลยสักเสียงเดียว...


     

    b g
    scoll bar
    M SE

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×