คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ~ รักคุณเข้าซะแล้ว จุงยุนโฮ ~
เช้าวันนี้ฉันคิดว่าจะออกไปสูดอากาศข้างนอกซักหน่อย พ่อก็ยังไม่กลับบ้านซักที สงสัยว่างานคงจะยุ่งจริงๆ อ๊า ! คิดออกแล้ว ไปนั่งวาดรูปด้วยดีกว่า อากาศตอนนี้เหมาะที่จะวาดภาพที่สุด ปั่นจักรยานไปดีกว่า หวังว่าห้องข้างล่างน่าจะมีให้เรายืมนะ
ผัวะ ! ในขณะที่ฉันกำลังเปิดประตูออกจากห้อง ประตูห้องตรงข้ามก็เปิดออก ฉันเลยชะโงกหน้าไปมองว่าเป็นใคร เผื่อว่าเป็นชางมินจะได้ชวนไปวาดภาพด้วยกัน
“สวัสดีครับ นายองใช่มั้ย” ชายคนนั้นทักฉันด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตร อยากรู้รึป่าวว่าใครคือคนที่เปิดประตูออกมา
“ใช่ค่ะ อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณยุนโฮ กำลังจะไปออกกำลังกายหรอคะ”
“เอ่อ ครับ ไม่ต้องเรียกผมว่าคุณก็ได้นะ เราก็ห่างกันไม่กี่ปีเองไม่ใช่หรอ แล้วเธอจะไปไหนหรอ”
“กำลังจะออกไปวาดรูปน่ะค่ะ เห็นว่าอากาศตอนเช้ากำลังดีๆ”
“ผมก็กำลังจะไปวิ่งพอดี ไปด้วยกันเลยมั้ย”
“แล้ว...จะไปยังไงล่ะคะ ฉันไม่มีจักรยานนะ”
“เดี๋ยวซ้อนท้ายผมไปก็ได้ จะไปที่ไหนล่ะ สวนสาธารณะหรอ”
“ใช่ค่ะ อากาศต้องสดชื่นแน่ๆ”
“ไปกันเถอะก่อนที่คนจะเยอะ”
“ค่ะ” พอตกปากรับคำแล้ว ฉันก็จัดการนั่งซ้อนท้ายยุนโฮทันที ใครจะไปคาดคิดล่ะ ว่าจู่ๆพ่อฉันจะได้มาทำงานเป็นผู้จัดการวงดงบังชินกิ แล้วใครจะไปคิดอีกล่ะว่า ฉันจะได้มานั่งซ้อนท้ายผู้ชายที่ฉันแอบหลงรักเค้ามาตลอด
“ชอบวาดรูปหรอ” จู่ๆยุนโฮก็ถามขึ้นมา
“ฉันเรียนเอกวาดภาพน่ะ อีกอย่างวันนี้ไม่มีไรทำด้วยเลยว่าจะออกมาวาดภาพแก้เซ็งน่ะ” ฉันตอบพร้อมกับรอยยิ้ม แล้วยุนโฮเค้าก็ยิ้มตอบให้ฉัน อ๊าย! นายอย่ายิ้มแบบนี้ได้มั้ย นายกำลังจะทำให้ฉันละลายนะรู้ตัวมั้ย รอยยิ้มที่ขี้เล่นปนน่ารัก ที่ใครเห็นก็ต้องหลงรัก (น่าเจี๊ยะจริงๆ)
“เธอจะวาดรูปตรงไหนล่ะ ฉันจะได้ไปส่งให้” ยุนโฮถามขึ้นทำลายความคิดของฉัน (ฉันนี่มันหื่นจริงๆเลย)
“ตรงไหนก็ได้ ที่วิวมันสวยๆแล้วก็บรรยากาศเงียบๆน่ะ” ฉันตอบยุนโฮกลับไป
“เธอวาดภาพเหมือนเป็นรึเปล่า” นึกอะไรของเค้าน้า ถึงได้มาถามแบบนี้ หรือว่าอยากให้ฉันวาดรูปให้ (หลงตัวเองจริงนะ: คนเขียนเองค่ะ)
“ก็พอได้นะ ถ้าคุณอยากได้ภาพตัวเองที่หน้าเหมือนเตารีด555+” ฉันหัวเราะขึ้นกับคำพูดของตัวเอง
“555+งั้นหรอ ไม่หรอกฉันว่าเธอต้องวาดรูปเก่งแน่ๆ เธอวาดให้ฉันซักภาพได้มั้ย ฉันไม่มีภาพเหมือนของตัวเองเลย” ยุนโฮพูดพร้อมทำหน้าตาอ้อนวอนซะเต็มที่ เฮ้อ! ฉันมันก็เป็นซะอย่างนี้ แค่เขาอ้อนนิดอ้อนหน่อยก็ใจอ่อนแล้ว
“ก็ได้ จะลองดูนะ”
“ขอบใจมากนะ นายอง” ยุนโฮพูดพร้อมกับลูบหัว นั่นยิ่งทำให้ฉันใจเต้นเข้าไปใหญ่
‘อย่าน่ารักนักได้มั้ย แค่นี้ฉันก็ชอบนายจะแย่อยู่แล้ว’ ฉันมันก็ได้แต่คิดล่ะน้า ใจจริงก็อยากจะพูดอย่างนั้นเหมือนกัน แต่บังเอิญว่าใจไม่กล้าหน้าไม่ด้านพอ อิอิ
“นี่ เธอเป็นรุ่นน้องฉันแค่ 3 ปีใช่มั้ย งั้นเรียกฉันว่าพี่ดีกว่านะ จะได้สนิทกันเร็วขึ้นไง”
“ก็ดีค่ะ พี่ยุนโฮ^-^” สนิทกันเร็วขึ้นงั้นหรอ อ๊ายยยยยย มีหรอที่คนอย่างนายองจะปฏิเสธน่ะ ไม่มี้ ไม่มี
“งั้นเอาเป็นตรงนี้ดีมั้ยนายอง วิวสวยแถมบรรยากาศดีด้วย ชอบมั้ย”
“ก็ดีนะ วิวสวยจริงด้วย” พี่นี่ก็เข้าใจเลือกนะ อยู่ติดริมแม่น้ำเชียว จากนั้นพี่ยุนโฮก็ไปจัดการนั่งเก๊กท่าเตรียมตัวให้ฉันวาดรูปให้
“ท่านี้เป็นไง หรือท่านี้ดี ไม่เอาๆ เอาท่านี้ดีกว่า” พี่ยุนโฮเปลี่ยนท่าไปมา จนฉันเริ่มมึนนิดๆแล้วล่ะ
“ท่าไหนก็ได้ พี่หล่ออยู่แล้ว555+ เออพี่ แล้วมาที่แบบนี้ ไม่กลัวคนจำได้หรอ”
“ไม่หรอกที่นี่น่ะ เป็นที่ปลอดคน แล้วอีกอย่างนะเขาห้ามคนนอกเข้ามาที่บริเวณนี้น่ะ พี่เลยไปไหนได้ตามสบายเวลาอยู่ที่นี่ ^-^”
“อ๋อ มิน่าล่ะ นี่พี่รีบวาดดีกว่าเดี๋ยวเผื่อพี่มีงาน ฉันไม่ชอบวาดรูปค้างน่ะ”
“จ้าๆๆๆๆๆๆคนสวย”
ฉันเริ่มลงมือวาดทันที พี่ก็เป็นแบบที่ดีนะนั่งนิ่งตลอดเวลาไม่วอกแวกลอกแลกให้น่ารำคาญ ฉันวาดไปมองหน้าพี่ไป พลางคิดว่าพี่นี่นะ น่ารักจริงๆ ก่อนหน้านี้ฉันก็ชอบพี่อยู่แล้วยิ่งได้มารู้จัก ได้มาคุยด้วยแล้วได้เรียกเค้าว่าพี่ยิ่งทำให้ฉันคิดเกินเลยไปไกล ฉันก็ชอบเวลาตัวเองมีความสุขอย่างตอนนี้นะ แต่ฉันกลัวว่ามันจะมากเกินไปกว่านี้น่ะสิ เฮ้อ ทำไงดีนะ
ฉันใช้เวลาวาดรูปอยู่ประมาณชั่วโมงกว่า จึงพอมองออกว่าเป็นรูปพี่ยุนโฮ ฉันนี่ก็ใช่เล่นนะเนี่ย ฝีมือใช้ได้
“อ่านะ เสร็จแล้วค่ะพี่ ไม่รู้ว่าพี่จะชอบรึเปล่าน้า แต่ทำสุดฝีมือแล้วนะ” พี่ยุนโฮเดินเข้ามาดูภาพ ใช้เวลามองอยู่ซักพักนึงก็ยิ้มออกมา
“เป็นภาพเหมือนใบแรกของพี่ที่สวยมากจ้ะ พี่ชอบมากเลย ขอบใจนะนายอง^-^” พี่พูดพร้อมกับยิ้มกว้างจนจะถึงหู ยิ่งเห็นอย่างนี้ยิ่งใจเต้น โอ๊ย พี่อย่ายิ้มบ่อยได้มั้ย พี่ยิ้มทีไรฉันแทบจะบ้าตายทุกทีเลย
“แล้ววันนี้ พี่ไม่มีงานหรอ” ฉันถามพี่ยุนโฮขึ้นหลังจากรวบรวมสติได้
“มีแหละ แต่มีอีกทีตอนบ่ายโน่นแหละ ก็เลยไม่รีบน่ะ ไปหาอะไรกินกันมั้ย คงหิวแย่มื้อนี้พี่เลี้ยงเองง”
“ก็ดีค่ะ ท้องเริ่มประท้วงแล้ว ไปร้านหน้าคอนโดกันมั้ยคะ ต็อกโปกกี ท่าทางน่ากินดีนะ”
“เอางั้นก็ได้ ใกล้ดีด้วย ไปกันเถอะ ขึ้นมาเลย” พอพี่พูดจบฉันก็กระโดดขึ้นซ้อนจักรยานของพี่ยุนโฮทันที
พี่ปั่นมาเรื่อยๆจนมาถึงหน้าคอนโด ฉันกับพี่ก็ลงมานั่งกินต็อกโปกกีกัน อืม อร่อยแฮะ จะได้มากินบ่อยๆ เราสองคนก็ต่างคนต่างกิน ฉันเห็นพี่ยุนโฮกินอย่างเอร็ดอร่อยก็อดยิ้มไม่ได้
“อ้าว ยุนโฮ นายอง มานั่งกินไรอยู่ที่นี่เนี่ย” ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกค่ะ พ่อฉันแล้วก็เป็นผู้จัดการส่วนตัวของพี่ยุนโฮด้วย
“คือว่าเราออกไปสวนสาธารณะด้วยกันมาน่ะครับ แล้วผมก็เลยมาเลี้ยงข้าวตอบแทนนายองน่ะครับพี่”
“อืม ยุนโฮรีบหน่อยนะมีงานเข้ามาแล้วอีก 20 นาทีต้องเสร็จนะเข้าใจมั้ย”
“ครับพี่ เดี๋ยวผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้”พี่ยุนโฮหันหน้ามาทางฉันแล้วก็พูดขึ้นว่า
“นายองพี่คงต้องไปแล้วนะ เดี๋ยวมื้อนี้พี่จะจ่ายเองนะ ไปละ แล้วค่อยเจอกันนะ” พอพี่ยุนโฮพูดจบก็รีบวิ่งขึ้นห้องไปทันที ฉันมองตามด้วยความเสียดาย พ่อนะพ่อนานๆจะได้นั่งด้วยกันทีนึงมาขัดจังหวะซะได้ แล้วสายตาของฉันก็เหลือบ (เหลือบจริงนะ ไม่ได้ตั้งใจจะมองเลย) ไปเห็นม้วนกระดาษรูปภาพที่ฉันวาดให้พี่อย่างสุดฝีมือ พี่ลืมมันงั้นหรอ T_T ทั้งๆที่ฉันเพิ่งวาดให้แท้ๆ พี่คงจะไม่อยากได้มันจริงๆนั่นแหละ
ฉันไม่มีอารมณ์จะกินอะไรต่ออีกแล้ว เลยลุกออกจากร้านแล้วก็เดินขึ้นห้อง ความรู้สึกน้อยใจแบบนี้ มันเกิดขึ้นได้ยังไงนะ สงสัยว่าฉันคนนี้ ยูนายองคงจะรักพี่ยุนโฮเข้าเต็มเปาซะแล้วล่ะ
ความคิดเห็น