ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TVXQ yaoi ] (ไอ้)ที่รักเฮงซวย!! yunjae*

    ลำดับตอนที่ #2 : Part[2] : เหตุเพราะเช้าเกินไป...

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.ย. 52








    Part 1






                    แสงสีทองส่องอร่ามออกมาเป็นแนวเส้นตรงมายังพื้นโลก ท้องฟ้าที่เคยมืดมิดเปิดอ้านำแสงสว่างของพระอาทิตย์สู่ยามรุ่งอรุณ  ผู้คนมากมายในยามนี้ต่างพากันตื่นจากการหลับใหลทั้งคืนบ้างก็ยังคงหลับในนิทราต่อไปเพราะอากาศยามนี้กำลังสบาย  ยกเว้นแต่...สองสามีภรรยาคู่หนึ่งที่ออกมายืนหน้าบ้านหลังพอดีกะทัดรัดแต่พื้นที่หน้าบ้านมากไปด้วยสวนงามมากมาย  สามีกำลังจะออกไปทำงานภรรยาที่ดีเลยต้องออกมาส่งสามีขึ้นรถเสียให้เรียบร้อย


     

                    ทำไมวันนี้ถึงต้องรีบไปเร็วขนาดนี้  ยุนโฮ  เอ่ยถามเพราะความสงสัย  ตากลมจ้องเพ่งไปที่หน้าของสามีทั้งบีบเค้นให้พูดความจริงออกมา  แต่คงยากนัก...ชองยุนโฮไม่อาจจะพุดความจริงให้ภรรยาสุดที่รักฟังได้

     



                    เมื่อวานน่ะ..คุณรู้มั้ย?  ผมคิดถึงคุณมากเลยต้องรีบกลับบ้านมา  ทำให้วันนี้มีงานที่ค้างจากเมื่อวาน  ถ้าไม่รีบไปทำก่อนที่บริษัทจะเข้า...มีหวังผมโดนเด้งแน่ๆ  โกหกคำโตพร้อมทั้งพยายามทำให้เป็นเรื่องจริงจังมากที่สุด เห็นอย่างนี้แล้วจะมีหรือใครจะไม่เชื่อ...

     


                    น้ำเสียงที่ยุนโฮใช้และหน้าตาที่กำลังร้อนรนเหมือนจะรีบนั้นมันอาจจะใช้หลอกกับคนอื่นๆ ได้อย่างแนบเนียน  แต่เผอิญใช้กับคิมแจจุงนี่น่ะเหรอ...  มันผิดแล้วล่ะ  เขารู้ดีว่ายุนโฮโกหกเต็มคำ แค่จับอะไรบางอย่างในคำพูดที่หวานหูนั้นได้ทันที

     


                    นี่~! ที่หลังก็อย่าทำอย่างนี้นะ  ตีต้นแขนล่ำเบาๆ พร้อมกับสั่งเตือนคล้ายกับว่าเจ้าตัวกำลังอายในคำพูดของเขายิ่งทำให้ยุนโฮสนิทใจว่าแจจุงคงไม่สงสัยอะไรในตัวเขาอีก ยุนโฮยิ้มกริ่มออกมา





     

                    ครับ...จะไม่ทำอย่างนี้แล้ว  สัญญา...พูดจบมือหนาลูบเส้นไหมสีดำนุ่มลื่นนั้นเบาๆทั่วทั้งศีรษะพร้อมทั้งจูบหน้าผากมนอย่างอ่อนโยนให้คนสวยต้องเขินเล่น ริมฝีปากหยักคลี่ยิ้มหล่ออย่างมีเสน่ห์ที่สุดออกมาให้กับแจจุง  การันตีได้เลยรอยยิ้มแบบนี้มีแด่เมียรักเพียงผู้เดียว

     




                    เย็นนี้จะรอ... ตั้งใจทำงานนะที่รักสุ้มเสียงหวานรื่นหูพูดปิดท้ายไปจากนั้นคนตัวโตที่ต้องรีบไปทำงานค้างต่อจากเมื่อวานต้องรีบเข้าไปในรถแล้วได้รีบเหยียบคันเร่งของรถสปอร์ตคันงามเคลื่อนตัวออกไปจากบ้านหลังน้อยๆ  .....หลังที่ยุนโฮได้ตัดสินใจซื้อให้เป็นของขวัญกับแจจุง   บ้านหลังที่มีความอบอุ่นและมีทุกสิ่งทุกอย่าง...และกำลังจะเปลี่ยนไป...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                    จากการคำนวณเวลาที่ผ่านไปยี่สิบนาทีของแจจุง  ซึ่งคาดว่าเวลานี้ยุนโฮน่าจะถึงโต๊ะทำงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  นิ้วเรียวสวยกดเบอร์คนสนิทเพื่อจะติดต่อให้ช่วยดูแลสอดส่องเรื่องของคนสำคัญทุกฝีก้าวในเวลาที่ไม่ได้อยู่กับตน รอไปเพียงไม่นานนักปลายทางนั้นก็ได้รับสายด้วยน้ำเสียงเรียบอย่างเคย




     

                    มีอะไรให้รับใช้อีกเหรอครับ...เจ้าหญิง  พูดอย่างรู้ใจเช่นเดิมแต่ต่อท้ายด้วยคำที่แจจุงไม่ชอบใจนักทุกครั้ง  ร่างบางแอบทำหน้าไม่พอใจเพียงครู่เดียวแล้วรีบกรอกเสียงนิ่มๆ ลงไปเกรงว่าอีกฝ่ายจะรอนาน



     

                    นายอยู่ไหนน่ะ...ยูชอน




     

                กลัวฉันจะอู้งานหรือไงครับคุณแจจุง




               

                    ฉันถามนายอยู่นะ!!”  คล้ายกับจะตวาด แจจุงไม่พอใจอย่างมากในช่วงเวลาที่เร่งรีบอย่างนี้ที่ยูชอนยังจะมาพูดจาวนช้าๆให้เสียเวลา  แต่อีกฝั่งของยูชอนก็ได้แต่ยิ้มกว้างออกมากับความใจร้อนขี้เอาแต่ใจของแจจุงเจ้าหญิงแห่งวงการมืดที่เป็นอย่างนี้ทุกๆวันไม่เคยเปลี่ยน



     

                    อยู่แถวที่ทำงานของแฟนนายน่ะ

     


                    หรอ... เข้าไปในนั้นได้แล้ว เอ่ยเสียงเรียบและใจเย็นกว่าครู่ที่ผ่านมาเมื่อรู้ว่ายูชอนไม่ได้อยู่ไหนไกลและอยู่ใกล้ๆจุดเป้าหมาย




                    หืม...อะไรกัน  ป่านนี้เนี่ยนะจะให้ฉันเข้าไปยูชอนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยจู่ๆ แจจุงจะให้เขาเข้าไปในบริษัททั้งที่มันเพิ่งเช้าอยู่เลย  และไม่รู้อีกด้วยซ้ำว่าป่านนี้บริษัทนั่นจะเปิดแล้วหรือยัง




     

                 ก็ใช่น่ะสิ  สั่งให้เข้าแล้วยังจะมาถามอีก




     

                นายจะบ้าไปแล้วเหรอแจจุง




                ฉันยอมบ้า  แต่ยุนโฮไปทำงานแล้วนะยูชอนได้รู้เหตุผลของแจจุงก็ร้องถึงบางอ้อ  ที่แท้ไอ้สามีตัวดีของคิมแจจุงมาทำงานเช้าเกินปกตินี่เอง  เขารู้ดีว่ากลิ่นมันแปลกอีกเหมือนเดิม  หน้าที่ของเขาที่เจ้าหญิงสั่งกีมีง่ายๆ  ...ตามติดพฤติกรรมชองยุนโฮ




     

                    ทราบแล้วครับเจ้าหญิง  ...ไม่นานคงได้รู้คำตอบกัน  เมื่อรู้หน้าที่สำคัญแล้วก็อย่ามัวรอให้เสียเวลาไปก่อนที่จะไม่ทันการ  ยูชอนถือวิสาสะรีบวางหูโทรศัพท์ก่อนแจจุงแล้วรีบเข้าบริษัทนั่นไปทันที 







     

                    เมื่อมาถึงบริษัทแห่งนี้ที่ยุนโฮและเขาทำงานอยู่  ยูชอนได้เลือกที่จะเบี่ยงเข้าประตูหลังของตึกแทนที่จะเข้าทางประตูหน้าของบริษัท  บริเวณหน้าประตูหลังของบริษัทนี้เป็นลานจอดรถสำหรับพนักงานและลูกค้า  ซึ่งตอนนี้มีรถเข้ามาจอดแล้วถึงสองคันในโซนพนักงาน....หนึ่งในนั้นเป็นรถของชองยุนโฮที่เขาจำได้ดี  ส่วนรถอีกคันที่ใกล้ๆนั้นดูจากตุ๊กตาและเครื่องใช้ภายในรถแล้วน่าจะเป็นรถของผู้หญิง





     

                    เรื่องนี้อย่างน่ะดูง่ายจะตายไป  เพียงสงสัยว่าทำไมถึงต้องมาเล่นเช้าๆ กันอย่างนี้นะ....

     



     

                แน่นอนว่าคนจมูกไวอย่างปาร์คยูชอนคงไม่ต้องทำงานพลาด  กลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงคนนั้นแตะเข้ามาโสตประสาทของเขา  ยูชอนเดินตามกลิ่นนั้นไปเรื่อยๆ เพราะเหมือนว่าเพิ่งจะเข้ามาในนี้ได้ไม่นานเช่นกัน




     

                    ไม่ผิดคาดเลยสักนิด....  นี่คือหน้าห้อง ประธานกรรมการชอง ยุนโฮ

     

     

     










                เฟี้ยว~!! ฉึก!! ฉึก!! ฉึก!! ฉีก!!

                เสียงมีดสั้นปลายแหลมคมกริบสีเงินวาวกว่าห้าเล่มพุ่งตรงไปยังมะเขือเทศลูกกลมสุกที่ตั้งวางเรียงบนแท่นไม้ระดับอก...เมื่อความแม่นยำไม่เคยมีพลาด  มีหรือมะเขือเทศน้อยลูกสดนั้นที่ต้องมารองรับคนเจ้าอารมณ์จะคงสภาพดีดังเดิมได้  เศษมะเขือเทศชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระจายเต็มบริเวณใกล้เคียง  ขอบคุณที่นี่ไม่ใช่หัวของใครสักคน...





     

                    แปะ...แปะ...แปะ~!!

                เสียงปรบมือคล้ายประชดประชันหรือชื่นชมก็ไม่เชิง  ร่างบางหันไปยังต้นเสียงปรบมือที่ก็รู้อยู่ว่าเป็นใคร ตากลมมองไปยังร่างสูงโปร่งนั้นที่กำลังเดินปรบมือเข้ามาหาพลางคว้ามีดเงินสั้นอีกอันมาโยนเล่น

     


                    ฝีมือดีไม่มีตก...เจ้าหญิงแห่งวงการฯ  น้ำเสียงยียวนแล่นเข้ามาสู่ประสาทยิ่งเพิ่มระดับอารมณ์ที่สูงอยู่แล้วทำให้แจจุงอยากจะปามีดที่อยู่ในมืออันนี้เสียบหัวไอ้คนพูดซะ  เขาไม่ชอบเลยจริงๆ  คำว่า...เจ้าหญิงแห่งวงการมืด...

     



                    เพราะพี่...ไงล่ะ  ไม่งั้นฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าฉันมันแม่นแค่ไหน  กล่าวออกไปตามความจริงให้กับผู้ที่ได้สอนให้รู้จักกับการเล่นมีดต่างๆ  หากพ่อของเขาไม่ส่งให้มารู้จักกับคนอย่างหมอนี่ล่ะก็...ไม่มีวันที่แจจุงจะจับมีดจับปืนและใช้ศิลปะการป้องกันตัวต่างๆ ได้ดีขนาดนี้

      

                 
    อย่างอื่นล่ะ....




               
    ชางมิน...หยุดพูดเรื่องนี้เถอะ!”  แจจุงปรามก่อนที่ร่างสูงนั้นจะพูดเรื่องน่าเบื่อซ้ำๆ มาตั้งแต่หลายปีก่อน ขายาวยังคงก้าวต่อมาเรื่อยๆจนถึงระยะชิดพอกับร่างบาง  ชางมินแสยะยิ้มออกมาอย่างสมเพชตัวเองอย่างที่ไม่สมควรที่สุดกับตำแหน่งหัวหน้าแก๊งของเขา




     

                    ไอ้หมอนั่น...ชองยุนโฮ  ทำอะไรให้อีกล่ะเราถึงโกรธมันขนาดนี้ชางมินเอ่ยไปตามเรื่องอย่างที่รู้จากการกระทำของแจจุงทุกครั้ง  ทุกครั้งที่ร่างเพรียวบางรู้สึกโกรธหรือไม่พอใจอะไรยุนโฮ  แจจุงก็จะมาหาเขาก่อนทุกครั้งแตกต่างจากโดยปกติหากไม่มีเรื่องอะไร  แค่ชวนไปไหนมาไหนก็ยากเต็มทน

     


                    เปล่าซะหน่อย....ฉันไม่ได้ทะเลาะกับเค้า

     


                เอ๋...ไม่อยากจะเชื่อ  พูดไปก็เจ็บปวดซะเปล่าๆ ที่ต้องทำเป็นเอ่ยถึงมัน แต่เขายังต้องทนเพราะคนตรงหน้า...หากไม่ทำร้ายจิตใจส่วนใดของแจจุงก็ตามล่ะก็  ชองยุนโฮคงตายไปนานตั้งแต่เพิ่งเจอแจจุงแรกๆ แล้ว



     
        

                    ยูชอน...บอกว่าวันนี้มีสาวออฟฟิศนัดให้ยุนโฮเข้าบริษัทแต่เช้า  เพื่อไปอึ้บกันก่อนเข้าทำงาน...!”  พูดจบมีดเงินก็พุ่งลอยไปเสียบกับมะเขือเทศผลที่เหลือแตกเละไม่เหลือเป็นชิ้นดี




     

                    “………”




     

                เค้าหลอกฉัน.....เกลียดนังนั่น!! ฉันเกลียดนั่งผู้หญิงหน้าด้านคนนั้น!!  ฉันเกลียดมันๆๆตะโกนออกไปเสียงดังพลางใช้กำปั้นเล็กทุบแขนชางมินเพื่อระบายอารมณ์  มือหนาจับรวบข้อมือเล็กนั้นเพื่อให้หยุดการกระทำที่ค่อนข้างไร้สติ ตากลมมาไปยังมือคู่นั้นที่กำลังจับเขาอยู่แล้วเงยขึ้นมองไปยังหน้าคนได้สติผู้ชื่อว่าเป็นบุคคลผู้มีอำนาจรองจากพ่อของตน 




     

                แต่เราไม่เคยโทษยุนโฮ... 




     

    เหมือนมีก้อนแข็งจุกตรงกลางลำคอ แจจุงไม่เถียง...เขาไม่เถียง พูดไม่ออกเลย เขาไม่เคยโทษยุนโฮเลยสักครั้ง  แม้ความเป็นจริงนั้นยุนโฮก็มีส่วนผิดด้วยก็ตาม  แต่เขากลับโทษผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาก้าวก่ายวุ่นวายกับตัวยุนโฮที่ดูมากกว่าเพื่อนร่วมโลก



    ชางมินอยากกุมขมับทุกเป็นสิบครั้งที่ต้องพูดหรือนึกถึงเรื่องวุ่นวายของแจจุง  สองปีมานี้เขาแทบทำใจไม่ได้เรื่องที่แจจุงหนีแยกไปอยู่นอนกับชายอื่นทั้งที่หมั้นกับเขามานานก่อนหน้านี้   ยิ่งวันนี้ยิ่งทำให้เห็นว่าเขาสมควรเก็บไอ้ชองยุนโฮมากแค่ไหนหากว่าผลที่ตามมาคือแจจุงไม่มีทางหันกลับสนใจเขาแม้แต่น้อย  ซึ่งคิดดูอยู่คงรอให้เวลามันพาพิสูจน์ไปว่ายุนโฮที่แจจุงมั่นใจนักมั่นใจหนาว่าคนนี้แหละใช่....มันจะตรงข้ามเสียทุกอย่าง




     

                เค้าไม่ผิด....เสียงหวานพึมพำคล้ายละเมอเอ่ยออกมา  ยิ่งคำว่ายุนโฮไม่ผิด...ชางมินก็อยากจะอธิบายเป็นขั้นๆ ว่าไอ้นั่นมันเลวยังไงบ้าง แต่ผลที่ผ่านมาก็คือ...แจจุงไม่ฟัง

     


                มันไม่ได้แต่งงานกับเรานะ  เราแค่อยู่กินกันกับมันเฉยๆ การที่ผู้หญิงพวกนั้นเข้ามาหาน่ะก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วกับผู้ชายที่ไม่ได้ประกาศตัวว่าแต่งงานหรือมีภรรยาเป็นตัวเป็นตน แจจุง...พี่อยากให้เราสนใจอนาคตของพวกเราบ้าง  พยายามเฉไฉเข้าประเด็นของตัวเองให้จนได้  แต่แจจุงก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าแค่อยู่กินกับยุนโฮเฉยๆโดยไม่ได้มีพิธีแต่งงานประกาศให้คนทั่วโลกรู้  แต่ความหึงหวงมันก็บังเกิดขึ้นเป็นธรรมดาของมนุษย์   เมื่อความรักสามีมันบังตาแยกแยะไม่ออกใครถูกใครผิดจะให้เขาทำอย่างไร!!




     

                ฉันสนใจอนาคตของเราตลอดนะ....เมื่อไหร่พี่จะถอนหมั้นฉันเสียที!!” พูดจบก็คว้ากระเป๋าออกไปทันทีโดยทิ้งคำอำลาที่แสนปวดใจนักสำหรับคนฟัง  ชางมินนั่งลงบนเก้าอี้อย่างหมดแรงกับคนหัวดื้ออย่างแจจุง  เขาหวังว่าสักวันหนึ่งแจจุงจะเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเคยทำให้ลงไปว่านั่นแหละคือความรัก...

     

     

                   

        







               

     

                    ใกล้เวลาพักกลางวันของยุนโฮแล้ว แจจุงรีบกลับบ้านมาอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะเตรียมข้าวใส่กล่องให้กับคนกินอาหารไม่ค่อยตรงเวลาหลังจากส่งเมสเสสบอกไปแล้วว่าวันนี้จะนำข้าวกลางวันไปให้ถึงที่ห้องทำงาน เน้น...ถึงห้องทำงาน ไม่ต้องมีคนกลางเอาไปให้หรอก เจอตัวถึงตัวแน่ๆ วันนี้ไม่ต้องปล่อยให้ชะนีน้อยคนไหนพาออกไปหาร้านอร่อยๆกินกันกระหนุงกระหนิงอย่างที่สายเคยรายงานมา  เมื่อเมียจ๋าที่รักที่เคยบอกว่าทำอาหารฝีมือดีที่สุดมาประเคนให้ถึงที่

     





                    แจจุงในชุดเสื้อยืดคอวีตัวโคร่งสีส้มสดใสที่ยาวเกือบถึงขาอ่อนบวกกับสร้อยเงินรูปนางฟ้าที่สายยาวห้อยอยู่ตรงกลางอกและกางเกงรัดรูปสีขาวที่ทำให้คนสวยอย่างแจจุงดูสวยสดใสร่าเริงขึ้นกว่าเดิมหากใครได้มองก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่านี่คือนางฟ้าเดินดิน   ร่างบางตรวจเช็คเสื้อผ้าหน้าผมในกระจกบนรถอีกครั้งเพื่อเรียกความมั่นใจก่อนที่จะหิ้วกล่องข้าวออกมา  ขาเรียวก้าวด้วยท่วงทางที่งดงามเข้ามาในตัวตึกบริษัทซอฟต์แวร์เรียกสายตาบรรดาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ให้หันมามองเป็นแถว   เข้ามาได้ไม่กี่ก้าวทันใดมีหนุ่มหน้าซาลาเปาใจกล้าเข้ามาถามไถ่เมื่อเห็นว่าแจจุงอาจจะเป็นลูกค้าของบริษัท

     

     


                  
    ไม่ทราบว่า... คุณคนสวยมีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับเอ่ยเสียงหล่อจากที่ปกติไม่เคยพูดทำให้ฟังดูตลก  ตาเรียวเล็กแอบเสียมารยาทเล็กน้อยกับคุณลูกค้าเมื่อมองไปยังต้นคอขาวๆ ไล่มาถึงไหล่บางนั้นที่เปิดเปลือยออกมาเนื่องจากคอเสื้อมันเปิดกว้างไปนิด....นึกเสียอีกทีทำไมไอ้คอเสื้อนี่มันไม่ลึกไปกว่านี้นะไม่อย่างนั้นคงจะเจอของดี....




     

    มองไล่ขึ้นลงไปมาคงพูดได้อีกต่อ  แม่จ้าว...ขาวจริงๆ   คนลามกคิดได้แต่คิดอกุศลไปแค่นั้น  แจจุงรู้ว่าไอ้คนข้างหน้ากำลังแทะโลมเขาด้วยสายตาอย่างหื่นกระหายอยู่  หากถ้าไม่ถือว่าที่นี่คือที่สาธารณะผู้ชายตรงหน้าอาจคางแตกคอหักถึงขั้นพิการก็เป็นได้

     

                    ฉันมาหาประธานกรรมการชอง ยุนโฮแจจุงบอกจุดประสงค์ที่ต้องการทำให้พนักงานบริษัทที่มาบริการรู้สึกแปลกใจ



                   
    เอิ่ม...ขอโทษนะครับ  ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรกับท่านประธานฯหรือเปล่า



                   
    มันก็ไม่ใช่ธุระอะไรหรอกนะ  ช่วยเรียนให้ท่านทราบด้วยนะว่าภรรยามาหา!!          

     

     

     

                หลังจากทำไอ้หนุ่มเตี้ยหน้าซาลาเปานั้นช็อคมาไม่นาน  ก็มีพนักงานบริษัทสาววัยกลางคนพาร่างบางขึ้นมาถึงห้องท่านประธานฯ



                คิดไม่ผิดจริงๆ  เข้ามาถึงก็มีนังเลขามาคอยทำป้อนโน่นเสิร์ฟหน่อยให้กับท่านประธานฯชองอยู่เรื่อย  อารมณ์โกรธมันพลุ่งพล่านขึ้นอย่างแน่นอนแต่แจจุงเลือกที่จะเดินเข้าไปทำตัวเป็นนางฟ้าผู้จิตใจอ่อนโยนที่ทำต่อหน้ายุนโฮมาตลอดแทน  กลีบปากแดงยิ้มหวานออกมาให้กับยุนโฮและคุณเลขาฯเพื่อที่จะบ่งบอกว่ามาดี

     



                ตาเรียวมองไปยังผู้มาเยือนใหม่ที่ไม่คิดว่าเจ้าตัวจะมาได้เร็วขนาดนี้ทั้งที่เลขาฯของเขาเข้ามาบอกยังไม่ทันถึงห้านาที

                    แจจุง....พูดชื่อคนสำคัญออกมาคล้ายกับครางเบาๆอย่างกลัวเกรงเมื่อแจจุงเข้ามาถึงทั้งที่เลขาฯของเขาเธอยังไม่ได้ออกจากห้องไปเลย  แต่ความตกใจกลับต้องหายไปหมดเมื่อความเคลิบเคลิ้มและชื่นใจเข้ามาแทนที่เมื่อเห็นรอยยิ้มนางฟ้าที่งดงามของแจจุง






     

                    ยุนโฮ...หิวหรือยัง...เสียงหวานเอ่ยถามขึ้นอย่างเย้ายวนพลางวางกล่องข้าวลงบนโต๊ะ  แจจุงทำเป็นไม่สนใจว่ามีใครอีกคนที่เป็นบุคคลที่ถามยังอยู่อีกด้วย   


                    หิวสิครับแจจุง...อยากกินทั้งข้าว...อยากกินทั้งคุณ... ยุนโฮเองก็เช่นกันที่กลิ่นหอมๆของมื้อกลางวันตรงหน้าเขาที่ภรรยารักอุตส่าห์เตรียมมาให้ทำให้คนดีๆอย่างท่านประธานกรรมการชองล่องลอยจนสติเลือนหายไปหมดโดยที่ยุนโฮทำเหมือนกับลืมความสัมพันธ์กับเลขาฯเมื่อเช้าไป  ทำให้ซูฮยอนที่เพิ่งได้เสียกับร่างสูงเป็นครั้งแรกเกิดอาการไม่พอใจ

     



              
    คุณยุนโฮคะ!!?  นี่ใครกัน!?” ถามทั้งกระแทกเสียงที่ข่มอารมณ์ไว้ไม่อยู่  หญิงสาวอดรู้สึกแปลกไมได้กับผู้มาเยือนใหม่ตรงหน้า...หากสัญชาติญาณไม่ผิดแปลกไปล่ะก็...นี่คงเป็นเจ้าของของยุนโฮตัวจริงเป็นแน่!!





                   

     

                    ตอบให้ดีนะยุนโฮ...!!

               







     

                อ่า...นี่แจจุงเมียผมครับคุณซอจูฮยอน  บอกได้เต็มปากเต็มคำว่า เมีย  ถึงกับทำให้หญิงสาวใจหล่นหายไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที  ไม่คิดไม่ฝันว่ามันจะเร็วขนาดนี้ทั้งที่อุตส่าห์พยายามทำดีกับยุนโฮแทบตายหลายสัปดาห์หลังจากเพิ่งได้รับตำแหน่งเลขาฯ





     

                    มะ..เมียคุณเหรอคะ...” 


     

                ใช่...ฉันเป็นเมียเค้าเอง  หากคุณมีมารยาทพอก็ขอช่วยออกไปให้ผัวเมียเค้าได้ใช้เวลาส่วนตัวหน่อยนะ แจจุงพูดเสริม  เมื่อจูฮยอนได้ฟังจนจบเธอถึงกับวิ่งออกไปในทันที  แจจุงขอบอกว่า...เธอไม่ใช่คนแรกที่มายุ่มย่ามกับชีวิตยุนโฮ  แต่ขอดูไปก่อนสักระยะนึงว่าจะพอมีมารยาทและสันดานของผู้ดีหรือไม่ว่าผู้ชายเขามีเมียแล้วอย่าไปยุ่ง  หากไม่มี....ก็คงไม่ต้องบอกว่าจะต้องทำอย่างไร...

     



                หลังจากเลขาซูฮยอนคนสวยออกไปจากห้องแล้ว แจจุงก็เริ่มบทสนทนาคนทำตาละห้อยอย่างที่ไม่รู้ว่าดีใจหรือเสียใจกัน

                    เลขาฯใหม่เหรอ...


                อ่า...ครับ  คนใหม่เมื่อไม่นานนี้เอง




               
    คนเก่าล่ะ...ฮึ”   แกล้งถามอย่างนั้นแหละ...ทั้งที่ก็รู้ๆ อยู่  แจจุงรอฟังคำตอบจากยุนโฮเผื่อมีใครทำเรื่องหลุดออกมา




               
    ผมไม่ทราบครับ...ไม่รู้จริงๆ  ตอบไปตามความจริงเหมือนเลขาคนก่อนๆ จะขอลาออกเฉพาะกิจกันอ้างกันว่ามีเหตุจำเป็นต้องขอไปจริงๆ บ่อยเหลือเกินโดยที่จริงๆ ยุนโฮก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมายอยู่แล้ว

     

      

                 
    คนใหม่นี้สวยดีนะ...แจจุงว่าบอกไปตามที่เห็น หน้าตาสวยดีอย่างนี้น่ะเหรอยุนโฮจะไม่เข้าไปหลงกลมัน  ไม่มีทางล้านเปอร์เซ็นต์...




                   
    แต่แจจุงเมียผมสวยกว่านะ




               
    ปากหวาน....




               
    ผมพูดจริง!!!” 

     



              
    งั้นก็ช่วยพิสูจน์ให้ฉันเห็นอีกทีสิ...ว่าฉันมีดีเหนือว่าใครทั้งหมด












    กราบสวัสดีงามๆ นะคะ~~
    ตอนแรกต่อจากตอนอินโทรครั้งที่แล้วคือว่า  อยากจะทราบว่า....
    1.ดำเนินเรื่องเร็ว  หรือ ยืดเกินไปเปล่าคะ
    2.บรรยายห่วยไปเปล่าคะหรือว่าเน้นคำพูดมากขึ้น
    3.เรื่องนี้ควรมีคู่อื่นมั้ยคะ  แบบควรมี ยูซู รีเปล่า?  

    ยังไงก็ฝากให้สับ!! โขลก!! ตามสบายเลยนะคะ
    อย่าลืมเม้นต์ๆกันหน่อยนะคะ   ..ขอบคุณค่ะ...

    23/08/09

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×