ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    WG :: Passion Desire :: [Yoobin x Sunye]

    ลำดับตอนที่ #7 : '' > P a s s i o n 6 [NC!!] >> แถม มิโซ *{rewrite แก้คำผิด

    • อัปเดตล่าสุด 17 ธ.ค. 54


    ภายในรถสปอร์ตเฟอร์รารี่สีดำที่มีเพียงแต่ความเงียบ ได้ยินเพียงแต่เสียงด้านนอกดังอึกทึกตามอารมณ์ของเมืองหลวง แม้กระทั่งยามเย็น ก็ยังมีผู้คนมากมายเดินขวักไขว่ แต่ภายในยานยนต์สีดำนี้กลับเงียบสนิท เงียบจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่เปิดเบาที่สุด

    โซฮี หิวรึเปล่าซอนมีถามขึ้นทำลายความเงียบ

    ไม่ล่ะค่ะโซฮีตอบแล้วเมินหน้าไปทางนอกหน้าต่าง

    อยากไปที่ไหนรึเปล่า

    ไม่ค่ะโซฮีตอบเสียงห้วนก่อนจะหันไปมองอีกฝ่ายด้วยสายตาแข็งกร้าว คุณไม่มีความจำเป็นจะต้องทำแบบนี้เลยนะคะ

    จำเป็นสิซอนมีชะลอรถให้จอดที่สี่แยกไฟแดง

    เรา ไม่ได้รู้จักกันซักหน่อย คุณไม่ต้องมาใส่ใจฉันหรอกโซฮีเอ่ยเสียงเยือกเย็น ทุกคำพูดที่เธอคนนั้นพูดออกมานั้น เหมือนมีดนับพันกรีดแทงหัวใจเธอ...แต่การกระทำนั้นของโซฮีกลับกระตุ้นให้ซอนมีฉีกยิ้ม เธอหักพวงมาลัยเลี้ยวรถเข้าไปในซอยแคบที่ใกล้ที่สุดทันทีทันที

    จะทำอะไรโซฮีถามขึ้นแล้วกวาดสายตาดุดันไปมองคนขับรถที่ฉีกยิ้มอย่างน่ากลัว

    ไม่มีคำตอบจากซอนมี ใบหน้าสวยยังคงฉีกยิ้มอยู่เช่นเดิม รอยยิ้มที่ไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ  ไม่สามารถอ่านความคิดได้เลย และนั่นเป็นครั้งแรกที่โซฮีรู้สึกกลัวคนตรงหน้าขึ้นมาอย่างที่สุด

    ซอนมีจับแขนเธอแล้วค่อยๆ โน้มตัวเข้ามาใกล้ จนแทบจะหายใจร่วมกัน โซฮีถอยไปจนชนกระจกหน้าต่าง เธอเอื้อมมือไปเปิดประตูรถ แต่ซอนมีไวกว่าที่จะล็อครถเพื่อไม่ให้ร่างเล็กหนีไปได้

    จะ... จะทำอะไร?” โซฮีถามอีกครั้ง

    ระหว่างที่พี่ไม่อยู่ข้างเธอ... เธอมีใครเป็นพิเศษรึเปล่า

    อะไรของคุณ

    พูดจาห่างเหินจังเลยนะ

    ฉันไม่รู้จักคุณนะโซฮีปฏิเสธเสียงแข็ง... มารื้อฟื้นมันทำไม!!?

    โกหกไม่เก่งเลย เด็กน้อย ฉันก็คือพี่ซอนมีของเธอไง ลืมไปแล้วหรอ

    ไม่! พี่ซอนมีตายไปแล้วโซฮีตวาดเสียงดัง

    ใครว่า พี่ก็อยู่ตรงหน้าเธอแล้วนี่ไง

    คุณไม่ใช่!!

    เธอต้องการฉัน ฉันรู้

    ไม่!! คุณไม่รู้ ไม่รู้อะไรทั้งนั้นโซฮีโวยวาย ทุบตีคนตรงหน้าอย่างบ้าคลั่ง อยากจะกรีดร้องดังๆ ให้อีกฝ่ายเลิกพูดเรื่องงี่เง่านี่เสียที น้ำตามากมายไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย

    ชู่ว์ โซฮี...ซอนมีวางนิ้วชี้เรียวยาวลงบนริมฝีปากอิ่มของคนตัวเล็กกว่า แล้วดึงโซฮีเข้ามากอดไว้ อย่าร้องไห้สิ

    ไม่... อย่ามายุ่งกับฉันโซฮีสะอื้นพลางผลักไสอ้อมกอดอบอุ่นที่เธอโหยหามานาน... ไม่ว่าจะนานแค่ไหน อ้อมกอดนี้ก็ทำให้เธอเย็นลงได้เสมอ จนเกือบลืมไปแล้วว่าตอนนี้เธอกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดีนัก

    เธอยังไม่ได้บอกพี่เลยนะ เธอมีใครเป็นพิเศษรึเปล่า

    โซฮีส่ายหัวไปมาเบาๆ แทนคำตอบ ซอนมียิ้มออกมาแล้วผละออกจากร่างเล็กก่อนกระซิบเสียงแผ่วเบาพร้อมรอยยิ้มที่ยิ้มอย่างมีชัย งั้นเธอก็ยังคงเป็นของพี่อยู่สิ

    โซฮีเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินประโยคนั้นพร้อมกับที่ริมฝีปากบางถูกครอบครอง ขณะที่เธอกำลังตกใจและไม่ทันตั้งตัวลิ้นร้อนก็ถูกดันส่งเข้ามาภายในโพรงปากร้อนอย่างรวดเร็ว ตวัดเกี่ยวกับลิ้นเล็กอย่างชำนาญและดูเหมือนร่างเล็กจะตอบสนองจุมพิตนั้นเป็นอย่างดี เธอรู้สึกได้ถึงรสหวานของสตรอว์เบอร์รี่จากลิปสติกของอีกฝ่าย จู่ๆ ซอนมีก็ละริมฝีปากออก

    โซฮี... เธอยังเป็นของพี่อยู่รึเปล่า คำพูดนั้นเป็นการเตือนสติโซฮีให้กลับมาอีกครั้ง

    ฉันไม่เป็นของๆ ใครทั้งนั้น!!

    งั้นพี่จะทำให้เธอเป็นของพี่ นับตั้งแต่วันนี้ และตลอดไปซอนมีเอ่ยพลางกดปุ่มเก้าอี้ข้างคนขับให้เอนลงพร้อมกับถอยไปด้านหลัง

    อย่า!!

    ซอนมีรวบแขนเล็กทั้งสองข้างไว้ด้วยมือเดียว ไม่ใช่เพราะเธอแรงเยอะอะไรมากมาย เพียงแต่โซฮีหมดกำลังที่จะขัดขืนอีกต่อไปแล้ว เรี่ยวแรงเหมือนถูกกลืนหายไปทุกๆ วินาทีที่ซอนมีลากปลายลิ้นร้อนไปตามคอซอกคอหอมกรุ่น

    โซฮีกัดริมฝีปากตนเองเพื่อเก็บเสียงที่น่าสมเพชเอาไว้ในลำคอและเพื่อเตือนตัวเองไม่ให้ปล่อยอารมณ์ไปตามอีกฝ่าย ขณะที่ซอนมีสอดมืออีกข้างที่ว่างอยู่เข้าไปในสาบเสื้อด้านหลังของโซฮี มือนุ่มลากเบาๆ ไปตามแผ่นหลังอันบอบบาง เลื่อนมืออย่างช้าๆ ไปจนถึงตะขอเสื้อชั้นในตัวเล็ก

    พอเถอะ!! ฉันขอร้องโซฮีร้อง แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่สนใจเธอแม้แต่น้อย ซอนมีดึงเสื้อชั้นในขึ้นไปด้านบน เผยให้เห็นเนินอกอวบอิ่มที่ทำให้ซอนมีฉีกยิ้มอย่างพอใจแม้ภาพตรงหน้าจะถูกเสื้อเชิ้ตบางบดบังอยู่ก็ตาม

    ซอนมีก้มลงใช้ปลายลิ้นร้อนสัมผัสปุ่มเล็กที่นูนผ่านเสื้อออกมา แล้วใช้ปากครอบครองกึ่งดูดเบาๆ อย่างมีความสุข โดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายกำลังร้องไห้ฟูมฟายมากแค่ไหน เธอสอดมือเข้าไปใต้กระโปรง เข้าไปถึงชั้นในตัวเล็ก แล้วคลึงไปทั่ว นิ้วมือที่ผ่านจุดสำคัญทำให้ร่างเล็กสะดุ้งและแอ่นตัวขึ้นตอบรับสัมผัสที่วาบหวิวนั้นทันที

    อะ...อาคิ้วขมวดมุ่นเมื่อรู้สึกถึงบางอย่างอุ่นๆ แทรกเข้ามาภายในร่างกาย และมันก็เพิ่มจำนวนขึ้นจนเธอรู้สึกเจ็บจนต้องถอยหนี

    ซอนมีละจากเนินอกที่เปียกชุ่มไปยังเบื้องล่าง เธอถลกกระโปรงขึ้นเผยให้เห็นต้นขาขาวเนียน เป็นที่น่าพอใจ ลากปลายลิ้นชื้นไปตามต้นขาขาวจนลึกไปถึงด้านใน ทันทีที่ปลายลิ้นร้อนสัมผัสจุดอ่อนไหว เสียงหวานครางไม่หยุด และดังขึ้นไปอีกเมื่อซอนมีใช้นิ้วแทรกเข้าไปภายในอีกครั้ง แล้วขยับเข้าออกเป็นจังหวะ

    อ๊ะ อ๊าเมื่อเห็นร่างบางตอบรับ ซอนมีก็ยิ้มอย่างพอใจพร้อมเร่งจังหวะให้ถี่ขึ้น

    มะ...ไม่ไหวแล้ว อ๊า!” โซฮีกรีดร้องเสียงหวาน ร่างบางเกร็งกระตุกพร้อมกับรู้สึกถึงความสุขมากมายที่แฝงอยู่ในความทุกข์ตรงหน้า

    ซอนมีใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเบาๆ ที่จุดอ่อนไหวไปมาพร้อมกับที่เธอกำลังลิ้มรสหญิงคนที่เธอรักราวกับเป็นขนมหวานชั้นหนึ่ง ก่อนจะขยับขึ้นไปกระซิบข้างหูร่างบางที่กำลังหอบหายใจเบาๆ

    เธอเป็นของฉันแล้ว

    -------------------------------------------------------------------------------------------

    อากาศในฤดูร้อนยามเช้าสำหรับใครหลายคนแล้วมันทำให้สดชื่น ซอนเยเดินมาที่ระเบียง หวังให้อากาศยามเช้าช่วยเธอให้พ้นจากความหดหู่ สายลมอบอุ่นโอบล้อมร่างบอบบางเหมือนปลอบใจ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้หัวใจที่แตกสลายของเธอกลับคืนมาได้

    ทั้งพ่อและแม่ก็จากไป ไม่มีแม้แต่ถ้อยคำล่ำลา

    ทั้งๆ ที่พบเจอกับคนที่คิดว่าดี แต่กลับถูกเขาผู้นั้นทำร้ายอย่างสาหัส

    ซอนเยให้สัญญากับตัวเองว่าเธอจะไม่ไว้ใจใครอีก ไม่เด็ดขาด หากการไว้ใจมันทำให้เธอเหมือนคนตายทั้งเป็นแบบนี้ เธอขอเลือกที่จะดำรงชีวิตเพียงลำพังจะดีซะกว่า หรืออาจจะเลือกอีกทาง.....

    ตายซะเลยดีมั้ย

    ซอนเยจ้องลงมองเบื้องล่างอย่างเหม่อลอย เธอเห็นพื้นสนามหญ้าสีเขียว ที่มีดอกไม้ปลูกเป็นหย่อมๆ ดูสดชื่นสำหรับคนอื่น แต่ซอนเยกำลังคิดว่า หากสีเขียวนั้น จะถูกย้อมด้วยสีแดงล่ะ...

    ถ้าเธอจะขอเป็นหนึ่งเดียวกับผืนดินตรงนั้น...

                ยัยโง่! ทำบ้าอะไรของเธอ!” เสียงเย็นชาที่คุ้นหูดังขึ้นเบื้องหลัง พร้อมกับเจ้าตัวตรงรี่เข้ามากระชากเธอออกจากจุดที่เธอยืนอยู่ ซอนเยเพิ่งรู้ตัวว่าเธอปีนออกไปยืนอยู่นอกระเบียง พร้อมที่จะดิ่งลงไปตามที่เธอต้องการ

    อยากตายหรอ อยากตายมากใช่มั้ย?” ยูบินถามพลางจับร่างบางเขย่าไปมา

    ปะ...เปล่าซอนเยตอบโดยไม่สบตาอีกฝ่าย เธอรู้สึกได้ว่ามันน่ากลัวเหลือเกิน

    แล้วที่ไปยืนอยู่นอกระเบียง... มันคืออะไร!!

    ซอนเยนิ่งเงียบ ไม่มีประโยชน์ที่จะตอบอะไรออกไป

    เงยหน้าขึ้นยูบินออกคำสั่ง แต่ซอนเยยังคงนิ่งเหมือนเดิม

    ฉัน บอก ให้ เงย หน้า!!” ยูบินตวาดแล้วบีบคางเล็กให้เงยขึ้น

    เมื่อซอนเยเงยหน้าขึ้นมาก็ชนกับวัตถุสีดำมันวาวที่ฆ่าเธอได้โดยไม่ต้องออกแรงจ่ออยู่กลางหน้า หัวใจดวงน้อยเต้นระทึกจนกลัวว่าคนตรงหน้าจะได้ยินเสียงมัน

    อยากตายใช่มั้ย

    อะ...อื้อ อื้อออซอนเยส่ายหน้าไปมาอย่างรุนแรง น้ำตาเริ่มไหลรินมาอีกครั้งทั้งๆ ที่คิดว่ามันหมดไปแล้ว

    แกร๊ก!

    มีเพียงความว่างเปล่าที่ออกมาจากกระบอกปืน ซอนเยหอบหายใจด้วยความกลัว สองมือเล็กกำแขนยูบินแน่น.... ยูบินตั้งใจจะยิงเธอจริงๆ ... หากในนั้นมีกระสุนอยู่....

    กลัวใช่มั้ยล่ะยูบินพูดแล้วปล่อยมือออกจากคางมน ซอนเยพยักหน้าแทนคำตอบ

    จำเอาไว้ให้ดี ความรู้สึกนี้น่ะ แต่ถ้าเธอยังต้องการ ก็เชิญยูบินผายมือไปทางระเบียง หน้าตาไม่ทุกข์ร้อน

    ซอนเยเงยหน้ามองยูบินเล็กน้อย เห็นคนตรงหน้าใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว โดยมีเนคไทสีดำผูกไว้
    อย่างเรียบร้อย กับกระโปรงดำสั้นเหนือเข่าโชว์เรียวขาที่ปกปิดด้วยถุงน่องบางๆ สีดำ ดูราวกับมาเฟียก็ไม่ปาน

    ฉันจะไปทำงานแล้ว อาจจะกลับดึกหน่อยยูบินเอ่ยเนิบๆ พลางเดินไปหยิบเสื้อสูทมาสวม เธอเดินไปที่ประตูก่อนจะหันมาสั่งร่างเล็ก

    เป็นเด็กดีล่ะเอ่ยพร้อมรอยยิ้มเยือกเย็นเหมือนปิศาจร้าย

    ซอนเยพยักหน้าหงึกๆ พร้อมน้ำตา และจ้องมองประตูห้องอยู่อย่างนั้นแม้ยูบินจะออกไปแล้วก็ตาม ซักพักเธอก็ตั้งสติได้ สะบัดหัวเล็กน้อยให้ตัวเองหลุดจากภวังค์ก่อนยันตัวเองให้ลุกขึ้นยืนช้าๆ

    ซอนเยคิดพลางเดินไปหยิบเสื้อผ้าของเธอที่พับไว้อยู่บนโซฟาด้วยท่าทางเหมือนคนไร้วิญญาณแล้วเดินตรงไปที่ห้องน้ำ แต่เมื่อเธอกำลังปิดประตูห้องน้ำ เธอก็พบว่ามีสายโซ่คล้องรอบข้อเท้าเธอไว้อีกปลายด้านหนึ่งของมันนั้นน่าจะ อยู่ที่ขาเตียง โซ่เส้นนั้นยาวพอที่จะให้เธอเดินไปมาได้รอบๆ ห้องได้

    เธอควรจะหงุดหงิดโวยวาย ร้องไห้เพราะความโกรธมากกว่า แต่ซอนเยกลับยิ้มบางๆ ให้กับตัวเองแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป...

     

                เวลาผ่านไปเนิ่นนานหลายชั่วโมง ซอนเยเอาแต่จ้องมองภาพในจอทีวีโดยไม่ทำอะไรเลย ไม่แม้กระทั่งจะดื่ม หรือกินอาหาร เธอไม่รู้สึกใดๆ เลย มีแต่ความว่างเปล่าเท่านั้น จนกระทั่งภาพในทีวีเปลี่ยนไปเป็นรายการข่าว ทำให้เธอรู้ว่ามันเป็นเวลาเที่ยงแล้ว

    คิมยูบิน ประธานบริษัทสาวไฟแรงได้เปิดแถลงข่าวโปรเจคใหม่.......

    เสียงของผู้ประกาศข่าววัยกลางคนนั้นทำให้เธอมองทีวีอย่างตั้งใจเป็นครั้งแรก

    ยูบินอยู่ในชุดเดรสยาวสีดำประกายเพชร ผมสีดำถูกดัดให้เป็นลอน ดูสมกับเป็นกุลสตรีผู้เป็นใหญ่เป็นโต ใบหน้าที่เธอคิดว่าเย็นชากลับมีรอยยิ้มจางๆ ดูเป็นมิตรกับทุกคน ซอนเยคิดว่าผู้หญิงคนนี้ดูสง่างามมากเลยทีเดียวและดูเหมือนว่าจะเก่งในทุกๆ ด้านด้วย เทียบกับเธอ...
    เธอก็รู้สึกเหมือนเป็นแค่ของไร้ค่าที่ไม่มีใครสนใจ

    แกร๊ก!

    เสียงประตูห้องเปิดออก ซอนเยสะดุ้ง มือไม้ควานหารีโมททีวีอย่างร้อนรน

    เป็นอะไรของเธอยูบินเดินมายืนดูทีวีที่ข้างๆ โซฟา มองกระต่ายหน่อยของตนลนลานปิดทีวี ขณะที่ปลดเนคไทออกจากคอ เธอใส่ชุดนี้แล้วน่ารักดีนิ่

    ฉันไม่ดีใจหรอกนะซอนเยตอบโดยไม่มองหน้าอีกฝ่าย

    ยูบินหัวเราะในลำคอขณะที่กำลังดื่มน้ำหน้าตู้เย็น ซอนเยเหลือบตามองเล็กน้อย พยายามไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว แต่ดูเหมือนจะตรงกันข้าม

    มีอะไรจะพูดกับฉันรึเปล่า

    ไม่มี...ซอนสะดุ้งเล็กน้อยตอบโดยไม่มองหน้าอีกฝ่าย นึกสงสัยว่ายูบินรู้ได้ไงว่าถูกมอง

    งั้นเหรอยูบินเลิกคิ้วเล็กน้อยแล้วหยิบแก้วทรงสูงมารินแชมเปญ

    คุณ...ทำแบบนี้กับฉันทำไม

    ทำไมน่ะเหรอยูบินยกแก้วขึ้นจิบแชมเปญ เธอไม่ตอบในทันที เธอเขย่าแก้วในมือเบาๆ ก่อนที่จะตอบคำถามพร้อมกับใบหน้าเปื้อนยิ้ม

    อืมม.... ก็เพราะฉันชอบเธอไงล่ะ

    ชอบ? คุณจับฉันมาทรมาน แล้วบอกว่าชอบงั้นเหรอ!?” ซอนเยลุกขึ้นตวาดเสียงดัง ร็สึกเจ็บแปลบที่หน้าอกราวกับคำพูดนั้นเป็นมีดแหลมทิ่มแทง คุณมันบ้า!!

    นี่... มินซอนเยยูบินเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างนุ่มนวล เธอจ้องมองแชมเปญสีเหลืองอ่อนในแก้วแทนที่จะมองอีกฝ่ายที่โกรธจนหายใจหอบ ฉันไปทรมานเธอตอนไหนกัน นึกให้ดีสิ มินซอนเย

    “..... พูดบ้าอะไร

    ไม่รู้งั้นเหรอ งั้นฉันจะบอกให้นะ ยูบินวางแก้วทรงสูงลงบนโต๊ะที่เธอยืนพิงอยู่นมนาน เธอตรงรี่เข้ามาหาซอนเย แล้วผลักให้ล้มลงไปนั่งบนโซฟาก่อนที่จะมอบจุมพิศเร่าร้อนให้ริมฝีปากบาง

    ซอนเยพยายามขัดขืน แต่ไม่รู้ทำไมเธอถึงไม่สามารถสะบัดหลุดจากพันธนาการนี้ได้เลย
    ร่างกายกลับต้อนรับลิ้นอุ่นของยูบินที่รุกล้ำเข้ามาเป็นอย่างดี

    ยูบินถอนริมฝีปากออกแล้วเลียริมฝีปากตัวเอง ก่อนจะตอบพร้อมรอยยิ้ม

    เห็นมั้ย เธอก็ออกจะชอบมัน

    ไม่!!!

    ซอนเย...ยูบินจับคางมนให้เงยขึ้นสบตากับตนเอง เธอต้องการมัน ยอมรับซะเถอะ... แล้วฉันก็ไม่ได้บังคับให้เธอไปตายซะหน่อย ไอ้ที่ล่ามเนี่ยะ เธอทำตัวเธอเองนะ

    คุณมันเลว! เลวที่สุด!

    หึ ปากดีแบบนี้ อยากโดนแบบเมื่อวานอีกซักรอบรึไง ยูบินฉีกยิ้มน่ากลัวแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ซอนเยจนจมูกชนกัน ซอนเยผลักยูบินออกไป ยูบินไม่ได้ทำอะไรอีก เธอหัวเราะแล้วเดินไปที่แก้วแชมเปญอีกครั้ง.... เสียงหัวเราะนั้น ราวกับปิศาจร้าย ที่มาทำลายชีวิตเธอจนพังพินาศ

    คืนนี้เธออยู่คนเดียวไปก่อนนะ ฉันมีงานต้องทำอีกเยอะ... แล้วอย่าทำอะไรโง่ๆ อีกล่ะ ยูบินวางแก้วแชมเปญลงแล้วเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ซอนเยอยู่กับความเงียบงันและน้ำตาที่ไหลรินอีกครั้ง...

    __________________________________________________________________

    ลงครั้งแรก : 28 มี.ค. 52
    แก้ไขล่าสุด : 17 ธ.ค. 54


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×