ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    WG :: Passion Desire :: [Yoobin x Sunye]

    ลำดับตอนที่ #8 : '' > P a s s i o n 7 *{rewrite

    • อัปเดตล่าสุด 17 ธ.ค. 54


     

    ภายในห้องเล็กๆ ที่มีเพียงแสงไฟจากโคมไฟเล็กๆ หญิงสาวร่างสูงโปร่งยืนจ้องมองร่างไร้วิญญาณสองร่างที่นอนนิ่งอยู่บน เตียงเหล็กที่เย็นเฉียบ ศพถูกตกแต่งมาเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าดูสงบนิ่งดูเหมือนแค่หลับไปเท่านั้น

    เยอึนกำลังรอผลตรวจเลือด และรอยนิ้วมือ เพื่อหาว่าศพเป็นใคร แม้จะระบุว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่เธอก็อดสงสัยไม่ได้ เธอรู้สึกว่ามันไม่ปกติจึงได้ขอศพมาตรวจดู

    รุ่นพี่เยอึนคะประตูห้องเปิดออกพร้อมเสียงหวานน่าฟังของคนที่เป็นทั้งรุ่นน้องและคู่หู

    ยังไม่กลับบ้านอีกหรอ ซอนมี

    ค่ะ... อ่า... รุ่นพี่คงจะเหนื่อยมาก ฉันซื้อกาแฟมาฝากด้วยล่ะ

    เยอึนรับถุงพลาสติกที่มีกระป๋องกาแฟอยู่มาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เวลาที่เธอเห็นซอนมี ไม่รู้ทำไมถึงได้มีกะจิตกะใจทำงานขึ้นมาเธอหยิบกระป๋องกาแฟขึ้นมาดื่มพลาง นั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียงศพ

    ซอนมีเดินไปที่แฟ้มเอกสารข้อมูลศพ แล้วเปิดอ่านไปพลางดื่มกาแฟกระป๋องเช่นเดียวกับเยอึน

    ไม่มีใครพูดอะไร มีเพียงเสียงนาฬิกาเรือนใหญ่ที่แขวนอยู่เดินเป้นจังหวะทุกวินาที...

    ใครเอามีดผ่าตัดมาวางไว้ตรงนี้เนี่ยซอนมีพูดขึ้นทำลายความเงียบ เธอหยิบกระเป๋าเครื่องมือแพทย์ที่อยู่บนโต๊ะซึ่งผิดที่ผิดทาง แล้วเอามันไปวางที่เดิม แต่เธอไม่ได้ปิดซิปให้ดี มีดจึงหล่นลงระหว่างที่เธอกำลังเดินไปที่โต๊ะ

    ใบมีดคมกริบได้เฉือนเข้าที่แขนซ้ายของเยอึน เธอร้องออกมาอย่างตกใจ

    ตายแล้ว!! ขอโทษนะคะรุ่นพี่ ขอโทษจริงๆ ฉันไม่เห็น...

    ซอนมีรีบเข้ามาดูอาการของรุ่นพี่ทันที

    ไม่เป็นไรๆเยอึนโบกมือไปมา แล้วก้มลงมองบาดแผลที่ไม่ลึกเท่าไหร่นัก “โชคดีที่เป็นมีดเล็ก

    อ่า ฉันต้องขอโทษจริงๆ นะคะซอนมีโค้งตัวหลายรอบเป็นการขอโทษ

    ฮะฮะ ลืมมันไปซะเถอะ ไม่เป็นไรหรอกเยอึนหัวเราะเบาๆ แล้วเหล่มองแผลที่เป็นทางยาว เลือดสีแดงฉานค่อยๆ ไหลออกมา มากขึ้นเรื่อยๆ ... มากจนเมื่อเธอขยับแขนมันไหลลงมาเป็นทางยาว...

    “...รุ่นพี่คะ... เป็นอะไรรึเปล่า...ซอนมีถาม ไม่ใช่เรื่องบาดแผล แต่เพราะเธอเห็นมือของเยอึนสั่นระริกและกำกระป๋องกาแฟแน่น

    เยอึนนิ่งเงียบ เธอได้ยินเสียงหัวใจกำลังเต้นถี่รัว... เร็วขึ้นทุกวินาที เธอรู้สึกร้อนรุ่มราวกับอยู่หน้าเตาผิง ทั้งๆ ที่ห้องชัณสูตรศพนั้นเย็นจับจิต เหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นเต็มใบหน้าใส...ร่างกายกำลังเรียกร้องอะไรบางอย่าง

    เลือดของเธอ... คือจุดอ่อนของเธอ มันทำให้เธอควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่อีกความรู้สึกนั้น... มัน...แปลกออกไป

    รุ่นพี่...ซอนมีแตะไหล่อีกฝ่ายเพื่อเรียกสติ เพราะเยอึนเงียบนานเกินไปแล้ว เยอึนสะบัดแขนออกในทันที เธอกำลังสับสนความรู้สึกของร่างกาย เธอหายใจหอบเพื่อยับยั้งอารมณ์พลุกพล่านของตนเอง แต่เมื่อซอนมีสัมผัสเธอเท่านั้น ฟางเส้นสุดท้ายก็ขาดผึง

    ตุบ!!

    รุ่นพี่!!!” ซอนมีร้องเมื่อเยอึนผลักเธอลงไปนอนกับพื้นแล้วขึ้นคร่อม

    เยอึนรวบแขนซอนมีไว้แล้วบีบแน่นจนเจ็บไปหมด เยอึนที่ไม่ใช่เยอึนจ้องมองซอนมีด้วยแววตาเย็นชาทำให้รู้สึกเย็นวาบไปทั่วตัว เธอเลียริมฝีปากก่อนจะมอบจูบเร่าร้อนและรุนแรงให้กับซอนมี

    อึก...อือ.......แฮ่ก...แฮ่ก.... รุ่นพี่.... ได้โปรด...ซอนมีครางอย่างเหนื่อยอ่อนหลังจากเยอึนยอมถอนริมฝีปากออก

    ขอร้องฉัน....ให้มันนุ่มนวลกว่านี้สิเยอึนแสยะยิ้มปิศาจ ปล่อยมือออกจากแขนเล็

    ซอนมีควบคุมตัวเองไม่ได้เช่นกัน เธอเบียดตัวเข้าหาเยอึน ใช้สองแขนโอบรอบคอก่อนจะกระซิบเบาๆ ลืมไปหมดทุกอย่างว่าอะไรเป็นอะไร ร่างกายมันอึดอัดจนแทบจะทดไม่ไหว

    ได้โปรด....พี่เยอึน สิ้นเสียงนุ่มนวลนั้น เยอึนก็พรมจูบไปทั่วลำคอระหงเลื่อนลงมาเรื่อยๆ ขณะที่มือก็ปลดกระดุมเสื้อตัวบางออกอย่างรวดเร็ว ลากลิ้นร้อนผ่านเนินอก กลิ่นน้ำหอมจางๆ กระตุ้นอารมณ์ให้รุนแรงขึ้นไปอีก

    เยอึนสอดมือไปใต้กระโปรงของซอนมี ลูบไล้ไปทั่วก่อนจะเลื่อนมือไปที่จุดสำคัญของซอนมี โดยที่ยังคงลิ้มรสความหวานจากเรือนร่างของซอนมี ขณะเดียวกัน มือของซอนมีก็ลูบไล้ขาของเยอึนอย่างซุกซน เธอเลิกกระโปรงของเยอึนขึ้นมา

    อึ่ก!” เยอึนกัดฟันแล้วหอบหายใจ เมื่อนิ้วเรียวของซอนมีสัมผัสโดนจุดสำคัญของเธอ

    พี่...เยอึน....อ๊ะ...อาซอนมีครางเมื่อเยอึนกัดเบาๆ ที่ตุ่มเล็กๆ สีเชอร์รี่

    เธอนี่ซนจริงๆ เลยนะ

    เยอึนฉีกยิ้ม ดึงกางเกงชั้นในตัวเล็กออกไปให้พ้นทางก่อนจะค่อยๆ สอดนิ้วเรียวยาวเข้าไปภายในช่องทางที่ร้อนรุ่ม ซอนมีแอ่นตัวด้วยความเสียวซ่าน เธอเกาะแขนเยอึนแน่นเพื่อระบายอารมณ์ ขณะที่เยอึนค่อยๆ เพิ่มจำนวนนิ้วมากขึ้นพร้อมกับเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นทุกขณะ
    ซอนมีก็สอดนิ้วเข้าไปภายในช่องทางของเยอึนเช่นเดียวกัน แล้วขยับไปพร้อมๆ กับเยอึน...

    อา....อื้อ....พี่...มะ...ไม่ไหว...แล้ว อ๊า!!” ซอนมีกัดฟันเพื่อระงับอารมณ์ที่กำลังถูกปลดปล่อย

    อึ่ก...ฮา....เยอึนกลืนเสียงครางของตัวเองกลับคืนไปเมื่อเธอเองก็ถูกปลดปล่อยเช่นเดียวกัน

    ทั้งคู่หอบหายใจ ภายในห้องเงียบสนิท มีเพียงหอบหายใจของคนสองคน นอนกอดแนบชิดกันอยู่บนพื้นกระเบื้องเย็นเฉียบ

    ซอน มี... ฉันขอโทษเยอึนเอ่ยเสียงสั่นพร้อมกับดึงซอนมีเข้ามากอดไว้ น้ำตาค่อยๆ รินไหลออกมา ซบหน้าลงกับไหล่บางที่ยังคงมีกลิ่นหอมจากน้ำหอมอยู่จางๆ

    ซอนมีไม่ได้ตอบอะไร เธอหอบหายใจแล้วหลับตาลง... เหตุการณ์เมื่อครู่...แว่บเดี๋ยวเท่านั้นที่ซอนมีมองเห็นแววตาของเยอึนแสดงออกมาถึงความเจ็บปวด น้ำตาเริ่มรินไหลออกมาเช่นเดียวกับคนที่โอบกอดเธอไว้

    ...........นี่เราทำอะไรลงไป..........

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    กินซะสิ

    ซอนเยเหล่ตามองคนที่ยืนอยู่อย่างไม่พอใจ แล้วก้มหน้าชันเข่าเช่นเดิม เสียงถุงก็อบแก็บกระแทกลงกับพื้นโต๊ะกระจกในห้องนั่งเล่น เป็นเพียงเสียงเดียวที่ดังขึ้นตอนนี้ ยูบินฉีกยิ้มในความดื้อของกระต่ายน้อย

    ฉันไม่หิว

    ของโปรดเธอไง

    ซอนเยไม่กินอะไรมาตั้งแต่เช้า และนี่ก็เย็นแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไม่หิว หลายวันผ่านมาหลังจากวันนั้น ซอนเยก็กินน้อยลง น้ำก็ไม่ค่อยดื่ม เอาแต่นั่งเงียบในห้องมืดๆ หรือเหม่อมองผนังห้องสีเทาหม่นเป็นเวลายาวนานจนดูเหมือนไร้วิญญาณ

    นี่คือสิ่งที่ยูบินสังเกตเห็นมาหลายวัน แม้เธอจะไม่ค่อยได้อยู่ในห้องก็ตาม

    อย่าดื้อไปหน่อยเลยน่ายูบินก้มลงมองใบหน้าหวานที่ดูโทรมลงไปมาก

    ก็ฉันไม่หิว คุณก็กินไปสิเสียงหวานแฝงไปด้วยความขุ่นเคือง

    อ่ะ!?” ซอนเยร้องขึ้นอย่างตกใจเมื่อถูกมือเรียวเชยคางขึ้นแล้วบีบเบาๆ เผลอสบตากับดวงตาเย็นชาคู่นั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ ร่างโปร่งหยิบต๊อกโบกี้ที่หั่นเรียบร้อยแล้วในถุง จ่อที่ริมฝีปากนุ่ม พอจะอ้าปากเพื่อต่อว่าร่างโปร่ง แป้งยาวๆ ก็ถูกดันเข้ามาในปาก

    รสชาติเผ็ดและหวานที่กลมกลืนกันแผ่ซ่านไปทั่วลิ้น ทันทีที่ได้ลิ้มรสนั้น ท้องก็ร้องบอกทถึงความต้องการที่แท้จริงทันที

    ซอนเยปัดมือยูบินที่จับคางเธอออก เหลือบตามองคนตรงหน้าอย่างไม่พอใจ ยูบินยอมปล่อยมือออก แล้วหัวเราะในลำคอเบาๆ

    กินซะ ถ้าเธอยังไม่อยากแห้งตาย

    ทำไม... สนใจด้วยเหรอ?” คำถามนั้นทำให้ยูบินที่กำลังเดินไปที่ห้องครัวหยุดชะงัก เธอถอนหายใจเบาๆ แล้วเอี้ยวตัวมามองร่างบางที่นั่งอยู่ท่าเดิมบนโซฟา

    ถ้าไม่... เธอคงกลายเป็นศพไปตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วล่ะ พูดจบยูบินก็เดินเข้าห้องครัวไป เธอเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำที่ยังไม่ได้เปิดออกมาจากข้างฝาตู้ มือเรียวบิดฝาเกลียวขวดน้ำออกพลางครุ่นคิดสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจมานาน...

    ความรู้สึกที่มีต่อซอนเยมันเป็นยังไงกัน? แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่สามารถตอบคำถามนั้นได้ซอนเยอยู่ในฐานะอะไรกันแน่? คำถามที่หาคำตอบไม่ได้วนเวียนไปมาในหัวตลอดเวลาจนน่ารำคาญ  ทำให้เริ่มรู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมาทันที

    ยูบินเซไปนิดนึงขณะที่กำลังจะเดินไปหยิบแผงขวดแก้ปวดในตู้ แบมือออกแล้วเทเม็ดยาออกมา 2 เม็ด ก่อนจะโยนมันเข้าปากพร้อมกัน ตามด้วยน้ำที่รินใส่แก้วเมื่อครู่

    อาการปวดหัวที่น่ารำคาญ มันตามรังควาญเธอมาหลายปีแล้ว ยิ่งคิดเรื่องของซอนเยยิ่งทำให้ปวดหัวมากขึ้นไปอีก

    แก้วน้ำถูกกระแทกวางลงอย่างแรง ยูบินหอบหายใจเมื่อรู้สึกปวดขึ้นมาอีก ก่อนค่อยๆ ทรุดลงนั่ง เธอหลับตาลงเผื่อมันจะช่วยอะไรได้บ้าง แต่ก็เปล่า...

    โธ่เอ๊ย!” เสียงทุ้มสบถเบาๆ เกรงว่าคนในห้องนั่งเล่นจะได้ยิน พยายามดันตัวให้ลุกขึ้นยืน แต่เธอกลับรักษาสมดุลร่างกายไว้ไม่ได้เลย

    คุณยูบิน?” เสียงหวานดังขึ้นด้านหลัง ไม่รู้ว่าซอนเยเข้ามาตอนไหน และได้เห็นสภาพที่น่าสมเพชของเธอหรือเปล่า?

    ยูบินหันไปก่อนจะตวาดอย่างเกรี้ยวกราด

    ออกไป!! ออกไปเดี๋ยวนี้

    “.......” ซอนเยนิ่งเงียบ แต่ไหนแต่ไรเธอก็ไม่เคยฟังที่ยูบินพูดอยู่แล้ว และครั้งนี้ก็เช่นกัน เธอตรงเข้าไปพยุงร่างโปร่งที่กำลังยืนอย่างยากลำบากทันที

    ปล่อย!” ยูบินสะบัดแขนที่เข้ามาช่วยพยุง ปฏิเสธความหวังดีนั้นไป แม้ลึกๆ แล้วโหยหา

    คุณยูบิน! คุณนี่! ว่าฉันดื้อ แต่คุณนั่นแหละที่ดื้อ!” ซอนเยพูดเสียงดุ แล้วพยุงยูบินให้ลุกขึ้น

    ปล่อยได้แล้ว...ยูบินพูดขึ้นเมื่อลุกขึ้นยืนได้แล้ว ซอนเยปล่อยมือตามที่ยูบินบอก แต่ทันทีที่ยูบินจะก้าวเดิน ก็เริ่มเซอีกครั้ง

    คุณต้องพักบ้างนะ

    ไม่ต้องสนใจฉันหรอกน่า

    ไม่สนได้ไงเล่า! คุณน่ะ... ถึงคุณจะแย่ที่สุดสำหรับฉันก็เถอะ... แต่ก่อนหน้านั้น คุณก็ช่วยฉันอยู่บ้างเหมือนกัน...ซอนเยพูดขณะพยุงยูบินไปที่ห้องนอน

    ซอนเยยืนมองคนป่วยที่ไม่ยอมรับสถานภาพตัวเองซักพัก ก่อนจะตัดสินใจเดินออกจากห้องไป เพราะหวังว่ายูบินจะได้พักผ่อนบ้าง แต่เมื่อเธอหันหลัง ยูบินก็จับข้อมือเธอไว้ แล้วออกแรงดึงเบาๆ ให้ร่างบางมานั่งอยู่บนตัก

    ดะ..เดี๋ยว!! หยุดนะ!” ซอนเยพยายามดึงสองมือที่สอดเข้าไปภายใต้เสื้อตัวบาง

    อ๊ะ!!” ร่างบางถูกจับให้นอนลงบนเตียง ไม่ทันที่จะพูดอะไร ก็ถูกรุกล้ำริมฝีปากด้วยริมฝีปากอ่อนนุ่ม ลิ้นร้อนถูกส่งเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว

    อึ่ก...อือ...ซอนเยเคลิ้มไปกับรสจูบที่ยูบินมอบให้ ครั้งนี้ไม่มีการบังคับ... ไม่มีความรุนแรง... วันนี้ยูบินเป็นอะไรไป...

    ยูบินถอนริมฝีปากออกแล้วหอบหายใจ สองแขนที่โอบกอดร่างบางเอาไว้กระชับแน่นขึ้น
    ภาพใบหน้าแดงเรื่อของซอนเย กับภาพใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา ซ้อนทับกัน และเริ่มเลือนรางไปทีละน้อย ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดลง

    “.... คุณยูบิน?” ซอนเยเอ่ยเรียกเมื่อจู่ๆ ยูบินนิ่งไปขณะที่ใบหน้าคมซบอยู่กับไหล่ของเธอ

    แผ่นอกขยับขึ้นลงเป็นจังหวะบ่งบอกว่าเจ้าตัวหลับไปแล้ว แม้ว่าเรื่องร้ายๆ ที่ผ่านมา...ที่เกิดขึ้น ณ ตรงนี้... หรือจะเป็นที่อื่นๆ ภายในห้องเล็กๆ นี้ มันเทียบไม่ได้เลยกับความรู้สึกที่ก่อขึ้นมาในตอนนี้ อ้อมกอดที่เคยรังเกียจ ตอนนี้ซอนเยกลับคิดว่ามันอบอุ่นเหลือเกิน

    ไม่นานซอนเยก็ค่อยๆ ผลักร่างโปร่งออกให้นอนลงบนเตียง เพราะเธอเริ่มรู้สึกอึดอัดกับน้ำหนักที่กดทับลงมาจนหายใจไม่ออก

    ซอนเยเลื่อนมือไปเสยผมที่ปรกใบหน้าคมออก แล้วทาบฝ่ามือไปกับหน้าผากนั้น

    หวา! เป็นไข้นี่นา... ฝืนทนเก่งจริงนะ คุณคิมซอนเยบ่นเบาๆ ขณะลุกขึ้นจากเตียง
    แล้วหันมาดึงผ้าห่มให้คนป่วยที่กำลังหลับอยู่

    ใบหน้ายามหลับของคิมยูบิน...  ราวกับเป็นคนละคนกับยามตื่น....

    ....เหมือนเด็กเลย.... คิดแล้วก็เผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

    ขณะที่ซอนเยกำลังจะเดินออกไปนั้นข้อมือบางก็ถูกคว้าเอาไว้อีกครั้ง...

    “...คุณยูบิน.... ยูบินกำลังมองมาที่เธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเศร้า แม้จะไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมาจากปาก แต่เธอรับรู้ได้ว่า ยูบินไม่ต้องการให้เธอไป...

    เดี๋ยวฉันมาค่ะซอนเยได้แต่ยิ้ม แล้วค่อยๆ แกะมือยูบินออก

    ซอนเยเดินตรงไปที่ห้องครัว พร้อมกับผ้าขนหนูผืนเล็ก เธอเปิดน้ำให้ไหลผ่านผ้าขนหนูในมือ...

    เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น... ชั่ววูบเดียวที่เห็นแววตานั้น

    รู้สึกเหมือนอยากร้องไห้...รู้สึกจุกอยู่ในอก...ทั้งๆ ที่อยากเกลียดแท้ๆ

    แต่เพราะแววตานั้น...

    ทำไม่ได้...

    เกลียด....ไม่ลง....

    ซอนเยกลับมาที่ห้องและพบว่ายูบินนั่งอยู่บนเตียง

    คุณยูบิน! ทำอะไรของคุณเนี่ย

    ข้อเท้า...ยูบินพูดด้วยเสียงแหบพร่า

    หา?”

    โซ่ที่ข้อเท้าเธอ ฉันเอามันออก... เธอจะได้เป็นอิสระ

    อะไรกัน?! นึกจะขังก็ขังไว้ นึกจะปล่อย ก็ปล่อยง่ายๆ งั้นเหรอ!?” ไม่มีคำตอบใดๆ จากยูบินที่เอาแต่นั่งก้มหน้า

    ซอนเยถอนหายใจยาว ทั้งๆ ที่อยากเป็นอิสระแทบตายก่อนหน้านี้ แต่เธอเริ่มรู้แล้วว่า ยูบินไม่ใช่คนเลวร้าย... เพียงแต่ยูบินแค่ปิดบังความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองด้วยความเย็นชา ถึงจะเป็นอิสระไป เธอก็ไม่มีที่จะให้ไปอยู่ดี บ้านที่เคยอบอุ่น บัดนี้เหลือเพียงความว่างเปล่าแล้ว
    เธอคงทนไม่ได้แน่ๆ ถ้าเธอจะต้องอยู่คนเดียว...

    เพราะยูบิน...

    แม้ยูบินจะบังคับเธอหลายต่อหลายครั้ง จนรู้สึกเกลียดจนทนไม่ไหว แต่สุดท้าย สิ่งที่ยูบินทำ ก็มีเหตุผลแฝงอยู่... เหตุผลที่มานึกย้อนดูแล้ว ก็เพราะเธอ... ยูบินทำเพื่อเธอ... ไม่ว่าเจ้าตัวจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม....

    คุณยูบิน...ฉันน่ะ เลือกแล้วล่ะ

    ยูบินเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ เมื่อซอนเยโอบกอดเธอเอาไว้

    เลิกพูดเถอะ คุณน่ะมีไข้ด้วย นอนพักซะเถอะซอนเยตัดบทแล้วผละออกจากยูบินพร้อมกับรอยยิ้ม

    ยูบินยอมนอนแต่โดยดี แม้เธอจะไม่เข้าใจคำพูดของซอนเยเท่าไหร่นัก
    แต่เธอกลับรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ที่ได้เห็นรอยยิ้มของซอนเย

    เธอจะอยู่กับฉันใช่มั้ยยูบินถามขณะซอนเยเช็ดตัวเธอ เธอไม่รู้ตัวเลยว่าพูดอะไรออกไป เพราะฤทธิ์ยาที่กินเข้าไป ทำให้มึนหัวไปหมด

    “....อือ....เสียงตอบแผ่วเบาลอดผ่านเข้ามาภายในโสตประสาท

    พลันทุกอย่างก็ขาวโพลน ยูบินปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งลง ได้ยินเสียงกระซิบบางอย่างจากซอนเยและความรู้สึกสุดท้ายคือไออุ่นที่มือก่อนที่จะหลับไป...

    __________________________________________________

    ลงครั้งแรก : 15 พ.ค. 54
    แก้ไขล่าสุด : 17 ธ.ค. 54

    /me อร๊ายยย รูปนี้วาดเองสมัยตอนยังเป็นเด็กเอ๊าะๆ เขินจังงง  55555+

    เอิ๊ก!!

    (ห้องรก .... มากเลยนะเนี่ย - -*)

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×