คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : อดีตที่เจ็บปวด
ตอนที่ 5 อดีตที่เจ็บปวด
เมื่อประตูถูกปิดลง มาร์คก็ปิดเปลือกตาลงพร้อมกับคิดถึงเหตุการณ์เมื่อช่วงบ่าย ที่เห็นกานต์อยู่ในอ้อมกอดของชายคนอื่นที่ไม่ใช่ตน ทั้งทั้งที่คนนั้นเป็นเพื่อนสนิทที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กอีกต่างหาก แต่พอเห็นแค่นั้นก็แทบขาดสติเลยที่เดียว อยากจะกระชากออกจากอ้อมกอดนั้นให้เร็วที่สุด เป็นความคิดแรกที่มาร์คคิดได้ในตอนนั้น
แล้วไม่นานชายหนุ่มก็ลุกจากเก้าอี้เดินออกจากห้องไป โดยที่ไม่ลืมที่จะลากกานต์ที่นั่งตาบวมเพราะผ่านการร้องไห้ไปกับตนด้วย
“จะไปไหนค่ะ”
“ไม่ต้องถาม”ชายหนุ่มทำหน้าดุใส่กานต์ จนทำให้กานต์ไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าและถามอีกเลย
หญิงสาวมองชายหนุ่มด้วยความแปลกใจ เพราะเมื่อกี้ชายหนุ่มพึงจะว่าให้เธอ แล้วผ่านไปไม่กี้นาที ก็เดินออกมาลากเธอมาด้วย แล้วจะพาเธอไปไหนนะ ถึงดูรีบยังไงไม่รู้
รถได้เคลื่อนตัวออกจากบริษัท โดยมีเซียร์เป็นคนขับ ส่วนพฤกษ์นั่งข้างคนขับ และเมื่อรถจอดสนิท หญิงสาวเดินลงจากรถ เห็นว่าเป็นที่ไหนก็ถึงกับอ้าปากค้าง เพราะไม่เชื่อว่ามาร์ค ลอเรน จะมาที่นี้พร้อมกับเธอ แล้วเขาพาเรามาทำอะไรที่นี้ล่ะ
“ตามผมมา แล้วไม่ต้องถาม”เสียงพูดของชายหนุ่มเมื่อเห็นหน้าที่สงสัยของหญิงสาว
“แต่ที่นี้มัน
”
“ใช่ และผมต้องการให้คุณจดทะเบียนกับผมเดี๋ยวนี้ด้วย”
“จด.......จดทะเบียน” หญิงสาวทวนคำของชายหนุ่มอย่างลืมตัว แต่ก็ดีใจอยู่ลึกลึกที่ชายหนุ่มให้เกียรติเธอถึงขนาดนี้
“ใช่ เพราะผมกลัวคุณกลับคำพูดของตัวเอง เมื่อเจอคนที่ให้คุณเยอะกว่าผม แล้วยิ่งผู้หญิงอย่างคุณที่ยอมเอาตัวเข้าแลกแล้วละก็ คงไม่ต้องให้ผมพูดนะว่าเป็นยังไง”
“
..”ไม่มีคำตอบจากกานต์แม้แต่คำเดียว เมื่อได้ฟังเหตุผลของชายหนุ่ม ที่ตนหลงคิดว่าชายหนุ่มต้องการให้เกียรติเธอ แต่ที่จริงแล้วเขาไม่เคยคิดกับเธอในแง่ดีเลย กานต์คิดแล้วถึงกับน้ำตาคลอเลยที่เดียว ทั้งน้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง เธอต้องทนนะนรีกานต์ ห้ามร้องไห้นะ เสียงในใจของกานต์ที่ร้องเตือนตัวเองเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วไม่รู้ของวันนี้
เมื่อกลับมาถึงคอนโดแล้ว ต่างคนก็ต่างเข้าห้องของตัวเอง โดยไม่มีคำพูดใดใดออกมาเลย พอตกเย็นกานต์ได้ออกมาทำอาหารไว้ให้มาร์ค เผื่อชายหนุ่มจะหิว
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก”เสียงเคาะประตูของกานต์
“คุณมาร์คค่ะ ทานอาหารค่ะ”
“....................”ไม่มีเสียงตอบรับจากมาร์ค
“คุณมาร์คค่ะ คุณมาร์ค”กานต์กำลังจะเคาะอีกรอบแต่ประตูกับเปิดออกมา แต่พอกานต์เห็นคนที่เดินออกมาก็ถึงกับก้มหน้างุดเลยทีเดียว ก็มาร์คไม่ใส่เสื้อ มีแต่กางเกงตัวเดียวแถมยังโหลดอีกต่างหาก แล้วยังน้ำที่เกาะตามตัวทำให้กล้ามเนื้อหน้าอกดูมีเสน่ห์อีก ใครจะกล้าดูเหลา
“กินข้าวค่ะ กานต์ทำอาหารไว้ให้แล้วค่ะ”
“อืม แล้วทำไมต้องก้มหน้าด้วย”คนที่ไม่รู้ตัวเลยว่าทำให้หญิงสาวตรงหน้าหน้าแดงตอบอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน
“กินข้าวสิ”
“ค่ะ”
“กริ๊ง กร๊ง กริ๊ง”เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นระหว่างที่ทั้งสองทานข้าวกันอยู่
“สวัสดีค่ะ”เสียงพูดของกานต์
“คุณกานต์เหรอครับ ผมนาธานนะครับ”
“ค่ะ เดี๋ยวกานต์เรียกคุณมาร์คให้นะค่ะ”
“ไม่ต้องครับ ผมอยากพูดกับคุณกานต์นะครับ พรุ่งนี้คุณกานต์พอจะว่างไหมครับ”
“คือ...............ต้องถามคุณมาร์คก่อนนะค่ะ”
“ได้ครับ แต่ผมอยากให้คุณมาให้ได้ เพราะผมมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณ เกี่ยวกับมาร์คนะครับ”
“ได้ค่ะ กี่โมงค่ะ”
นาธานบอกเวลาแก่หญิงสาว พร้อมกับสถานที่ หญิงสาวจึงตอบรับ เพราะอยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับมาร์ค ลอเรนให้มากที่สุด แล้วทำไมเขาถึงได้เย็นชาขนาดนี้ แต่ไม่ทันสังเกตคนที่นั่งทานข้าวอยู่บนโต๊ะอาหารว่าจ้องมองหญิงสาวนานแล้ว
“ใครโทรมา”
“เออ...........โทรผิดนะค่ะ”
“แล้วทำไมต้องพูดอยู่นานสองนาน”ชายหนุ่มมองหญิงสาวอย่างจับผิด
“กินข้าวต่อได้แล้ว”แม้มาร์คจะพูดเหมือนไม่มีอะไร แต่ในใจนั้นสงสัยในตัวของหญิงสาว
เมื่อทานข้าวเสร็จกานต์คอยหาโอกาสที่จะขออนุญาตมาร์ค เพื่อออกไปพบกับนาธาน แต่ก็ไม่กล้าที่จะพูดออกมา เมื่อเห็นสายตาดุดุ และหน้าที่เย็นชา แต่แล้วก็เรียกในที่สุดเมื่อชายหนุ่มกำลังเดินไปเข้านอน
“เออ......คุณมาร์คค่ะ “เสียงของกานต์
“มีอะไร”
“คือพรุ่งนี้กานต์ขออนุญาตไปทำธุระสักครึ่งวันได้ไหมค่ะ”
“ธุระ.........อะไร”ชายหนุ่มพูดพร้อมพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้กับหญิงสาวเรื่อยๆ จนแผ่นหลังของกานต์นั้นติดกับผนังห้อง
“เออ........ว่าจะไปซื้อของใช้ส่วนตัวนะค่ะ”
“งั้น ผมจะให้เซียร์ไปเป็นเพื่อนคุณ”
“ไม่ต้องค่ะ ไม่ต้อง”กานต์พูดอย่างร้อนรน โดยลืมไปว่าตนนั้นอยู่ในอ้อมแขนของมาร์ค
“ทำไม หรือกลัวใครจะรู้เรื่องที่คุณจะไปทำในวันพรุ่งนี้”
“ไม่ค่ะ แต่กานต์ไปคนเดียวสะดวกกว่าค่ะ”
“ได้ แล้วแต่คุณ ...................”มาร์คหยุดพูดพร้อมกับโน้มศีรษะลงมาเรื่อยๆ จนริมฝีปากนั้นจรดที่ริมฝีปากของกานต์ แต่เมื่อริมฝีปากทั้งสองประกบกันมาร์คก็แทบหยุดตัวเองไม่ได้ เมื่อได้รับรู้ถึงความหอมหวานภายในปากของกานต์ ส่วนกานต์แทบจะล้มทั้งยืน ถ้าไม่มีแขนที่แข็งแรงของมาร์คช่วยประคอง แล้วอารมณ์ของมาร์คก็แทบกระเจิง เมื่อปลายลิ้นของกานต์ไปแตะปลายลิ้นของมาร์คโดยไม่รู้เรื่อง แต่ถึงกับทำให้มาร์คต้องครางออกมา แล้วอยู่เฉยเฉยมาร์คก็หยุดการกระทำพร้อมพูดขึ้น
“แต่ถ้าให้ผมรู้ว่าคุณหลอกผมแล้วละก็...........คุณต้องเจอหนักกว่านี้แน่”
กานต์เพียงมองหน้าของชายหนุ่ม ที่เธอพึ่งจะเสียจูบแรกของเธอให้ อย่างไม่เข้าใจ ถึงจะตกใจที่อยู่อยู่มาร์คนั้นจูบเธอก็ตามเถอะ แต่เพียงแค่จูบเดียวก็ทำให้กานต์นั้นใจสั่นแล้ว กานต์เอ๋ยแค่จูบเดียวก็ทำให้ใจสั่นขนาดนี้เลยเหรอเธอนะ หญิงสาวก้มหน้าไม่กล้ามองหน้าของมาร์ค แล้วคิดถึงเรื่องที่เธอพึ่งจะโกหกมาร์คขึ้น แล้วถ้าคุณมาร์ครู้เรื่อง เธอจะทำยังไงดีนะ แต่ยังไงเธอก็ต้องไปให้ได้ เพื่อจะได้รู้เรื่องที่คาใจของเธออยู่ หญิงสาวคิดพร้อมที่ตัดสินใจลงไปแล้ว
ในวันต่อมากานต์ไปบริษัทในช่วงเช้า แล้วช่วงบ่ายก็ออกไปข้างนอกตามที่ได้ขออนุญาตมาร์คไว้ กานต์หยุดตรงร้านอาหารที่ติดจะหรูตามที่นาธานบอกชื่อร้านเอาไว้ แล้วเดินเข้าไปในร้าน
“คุณกานต์ครับ”เสียงของนาธานเรียกกานต์
เมื่อกานต์ได้ยินเสียงจึงหันไปดู พร้อมกับเจอนาธานนั่งอยู่ในมุมของร้าน กานต์พึงจะสังเกตว่านาธานนั้น มีเส้นผมสีน้ำตาลอ่อน โคลงหน้าก็ถือได้ว่ารับกับดวงตายาวรีซึ่งมีสีเดียวกับเส้นผม จมูกและปากรับกันพอเหมาะ ถือว่าหล่อมากที่เดียว
“สวัสดีค่ะ คุณนาธาน”
“เรียกนาธานก็พอครับ ไม่ต้องคุณหรอกครับ ”
“ไม่เป็นไรหรอกคะ เรียกคุณนะดีแล้วค่ะ”
“งั้นก็ได้ครับ ที่ผมให้กานต์ออกมาเพราะผมต้องการถามอะไรบ้างอย่างกับกานต์ แล้วบอกเรื่องบางเรื่องกับกานต์”นาธานพูดกับกานต์อย่างสนิท
“ค่ะ แต่กานต์มีเวลาไม่มากนะค่ะ คือ.......................”
“ผมพอจะเดานิสัยเพื่อนรักผมออกครับ แล้วนี้กานต์ออกมาได้ยังไงครับ”
“คือ ถ้าพูดตรงตรง ก็โกหกออกมาค่ะ”
“ห๊า............โกหก”นาธานร้องออกมาเสียงดังจนคนทั้งร้านหันมามอง
“ค่ะ “กานต์ยิ้มหน้าเจื่อนลงทันทีที่เห็นนาธานมีสีหน้าตกใจขึ้นมา
“ขอโทษครับ คือผมอยากถามกานต์อย่างหนึ่ง จะตอบผมตามตรงได้ไหมครับ”
“อะไรค่ะ”
“กานต์รักไอ้มาร์คไหมครับ”
“คือ กานต์ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่ถ้าจะพูดให้ถูกก็คงจะเป็นความรู้สึกดีมากกว่ามั้งค่ะ”กานต์ตอบพร้อมคิดถึงตอนที่มาร์คจูบเธอจนทำให้เธอใจสั่น แล้วเกิดหน้าแดงขึ้นมาในทันที
“ครับ แต่เรื่องที่ผมจะเล่าให้กานต์ฟังคงทำให้กานต์ตัดสินใจในบางเรื่องได้นะครับ”
นาธานเริ่มเล่าเรื่องอดีตของเพื่อนรัก เมื่อห้าปีก่อนมาร์คมีคนรักชื่อมาเชล ทั้งสองรักกันมานานหลายปี มาเชลเป็นนางแบบที่มีชื่อเสียงมากเลยที่เดียว ทั้งสวยและมีเสน่ห์จึงมีผู้ชายหลายคนตามจีบเธอ แต่เธอก็ไม่สนใจเพราะตอนนั้นเธอมีมาร์คอยู่แล้ว จนมาวันหนึ่งมาร์คขอเธอแต่งงาน และเธอก็ตกลงที่จะแต่งงานกับมาร์ค งานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ แขกทุกคนล้วนแต่เป็นคนสำคัญระดับประเทศทั้งนั้น แต่พอมาถึงวันแต่งงานกับไม่มีวี่แววของเจ้าสาวเลย งานแต่งงานจึงล้มลงอย่างไม่เป็นท่า หลังวันแต่งงานมาร์คให้คนออกสืบหามาเชลให้เร็วที่สุด ผ่านไปสามวันมาร์คจึงได้รู้ว่ามาเชลนั้นได้แต่งงานกับเศรษฐีน้ำมันชาวดูไบคนหนึ่ง พอรู้เท่านั้นเขาจึงบินไปที่ดูไบทันที่ เพื่อต้องการถามมาเชลให้รู้เรื่อง มาร์คตามมาเชลอยู่หลายวันกว่ามาเชลจะอยู่คนเดียว เพราะมีบอดิการ์ดจำนวนมากติดตามเธอตลอดเวลา
“มาร์ค”น้ำเสียงของมาเชลที่เบาเหมือนกระซิบ
“ทำไมคุณถึงทำยังงี้กับผมมาเชล”
“มาเชล............ขอโทษมาร์ค”
“ผมต้องการคำอธิบาย คุณช่วยบอกผมได้ไหมว่าทำไหมคุณถึงไม่แต่งงานกับผม แต่กับมาแต่งงานที่นี้กับคนอื่นที่ไม่ใช่ผม”มาร์คตะโกนออกมาอย่างโมโหสุดขีด
“ มาเชลอยากใช้ชีวิตที่มีความสุขกับคนที่มาเชลรักค่ะ และมาเชลก็รักเขานานแล้วก่อนที่จะเจอมาร์คอีก”
“แล้วคุณตกลงแต่งงานกับผมทำไหม
..มาเชล”
“มาเชลแค่ต้องการให้เขาสนใจมาเชล แล้วเห็นมาเชลมีค่าบาง มาเชลจึงคบกับคุณและตกลงแต่งงานกับคุณ”
“ที่คุณทำทุกอย่างกับผมเพียงเพราะต้องการให้เขามาสนใจคุณ แล้วความรู้สึกผมละ คุณรู้ไหมว่าผมรู้สึกยังไง”มาร์คแถบจะเดินเข้าไปบีบคอมาเชลเลยทีเดียวทีทำกับตนเหมือนคนโง่ หลอกซ้ำแล้วซ้ำอีก
“มาเชลขอโทษค่ะ”
ในขณะเดียวกันมีบอดิการ์ดสองคนเดินมาประกบมาเชล เสมือนเกาะคุ้มกันภัย เมื่อมาร์คเห็นดังนั้นจึงเดินหนีพร้อมกับหัวใจที่แตกสลายลง
“แล้วหลังจากนั้นละค่ะ”
“หลังจากนั้นเหรอครับ ก็เก็บตัวเงียบ ไม่พูดไม่จากับใคร จนเป็นอย่างทุกวันนี้ละครับ แล้วอีกอย่างมาร์คไม่เคยเชื่อในความรักอีกเลยตั้งแต่นั้นมา”
“แล้วทำไมถึงมาเล่าให้กานต์ฟังละค่ะ”
“ผมเชื่อว่ากานต์อาจจะเป็นคนทำลายกำแพงลงได้แล้วทำให้มาร์คคนเก่ากับมาได้”
“คุณนาธานอาจจะคิดผิดก็ได้นะค่ะ”กานต์พูดพร้อมกับคิดอย่าง
“กานต์ไม่เชื่อคอยดูแล้วกัน ว่าคำพูดของผมจะจริงรึเปล่า”นาธานยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
เมื่อทั้งสองคุยธุระกันเสร็จแล้ว ก็เดินออกจากร้านเพื่อที่จะกลับบ้าน โดยไม่มีใครสังเกตเลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งมองมายังทั้งสอง ด้วยสายตาที่เย็นชาและอารมณ์ที่แถบจะไม่อยากให้ใครได้เจอในตอนนี้เลย
......................................................................................
ขอโทษนะที่มาอัพให้ช้าไปหน่อย อย่างพึงงอนหละ
เดียวไม่สวยน้า คนอ่านแล้วยิ้มรับรองสวยวันสวยคืน
เชื่อหยดพลอยเถอะ (แต่ตอนต่อไปนี้ซิ สงสารน้องกานต์ของเราจัง)
ความคิดเห็น