คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : การปรับตัว ( ครบแล้วจ๋า )
ตอนที่ 3 การปรับตัว
เมื่อหญิงสาวที่มาใหม่ได้ฟังดังนั้นก็แทบจะร้องกรี๊ดออกมา แต่ต้องควบคุมสติของตัวเองเอาไว้เพราะต้องการที่จะดึงมาร์คกับมาหาตนเอง
“ทำไมมาร์คถึงพูดอย่างนี้กับพิงกี้ละ”
“แล้วจะให้ผมพูดอย่างไงล่ะ และตอนนี้ผมก็มีคนที่จะมาดูแลแล้ว ใช่ไหมกานต์”
ชายหนุ่มพูดพร้อมกับหันไปเอามือโอบกอดหญิงสาวและหอมแก้มของนรีกานต์ครั้งหนึ่ง ทำให้กานต์นั้นถึงกับหน้าแดง
“มาร์ค.......”หญิงสาวร้องออกมาอยากเหลือใจ
“เชิญคุณกลับไปได้แล้ว ผมต้องการพักผ่อนกับภรรยาของผม”
ชายหนุ่มพูดพร้อมผิงมือไปทางประตู เพื่อเป็นการไล่หญิงสาวทางอ้อม หญิงสาวจึงเดินกระทืบเท้าออกไปอย่างไม่พอใจ
“คือ.....ไม่มีอะไรค่ะ” หญิงสาวคิดได้ว่าเขานั้นไม่ชอบให้ใครซักเท่าไรนัก และเมื่อหญิงสาวกำลังทำท่าจะเดินไปในห้อง
“คุณจะไปไหน”
“เอาเสื้อผ้าไปเก็บค่ะ”
“คุณรู้หรือว่าห้องไหน”
“เออใช่.....” หญิงสาวยิ้มหน้าเจื่อนลงทันทีเมื่อสบตากับชายหนุ่ม ที่เมื่อกี้ยังเรียกชื่อเล่นเลย แล้วนี้อารมณ์ไหนอีกหนอ ถึงพูดเหมือนกับว่าโกรธเธออีกแล้ว
“คุณนอนห้องข้างซ้าย ส่วนห้องผมจะอยู่ทางขวา”
“ค่ะ” หญิงสาวตอบสั้นๆ และรู้สึกโล่งอกที่ไม่ต้องนอนห้องเดียวกับเขา
“แล้วไม่ต้องห่วง คุณอาจได้มานอนกับผมก็ได้นะ ถ้าคุณยังทำหน้ายังงี้อีก”
เมื่อหญิงสาวได้ฟังคำของชายหนุ่ม ก็รีบวิ่งไปที่ห้องของเธอทันที่ พอเปิดประตูเข้าไปในห้องก็พบเตียงที่กว้างมากสามารถนอนได้ถึงสองคนเลยที่เดียว แล้วยังมีตูเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ที่ล้วนแล้วแต่มีดีไซน์หรูทั้งนั้น ราคาคงไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะเธอคงไม่มีปัญญาซื้อมาใช้แน่นอน บรรยากาศที่มองออกไปนอกกระจกบานใหญ่นั้น เหมือนกับทะเลดาวเลยก็ว่าได้ เมื่อชั้นที่เธอได้มาอาศัยอยู่นั้น อยู่ชั้นบนสุดของอาคารที่สูงเกือบจะติดอันดับที่สูงที่สุดของประเทศเลยก็ว่าได้ หญิงสาวยืนมองอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ แต่ต้องสะดุดสุดตัวเมื่อมีแขนคู่หนึ่งโอบเอวของเธอมาทางด้านหลัง เมื่อหันไปมองข้างหลังก็พบชายหนุ่มอยู่ แต่ทั้งทั้งที่เขากอดเธออยู่แต่หน้าตากลับไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมาเลย
จนทำให้หญิงสาวอดที่จะน้อยใจอยู่ลึกๆไม่ได้
“คุณชอบห้องนี้ไหม”ชายหนุ่มพูดขึ้น
“ชอบค่ะสวยมากเลยค่ะ คุณมาร์คมีอะไรหรือเปล่าค่ะ”
“ผมหิวข้าวแล้ว คุณช่วยทำกับข้าวให้ผมกินหน่อยได้ไหม”
“ได้ค่ะ คุณมาร์คออกไปรอข้างนอกแป๊ปหนึ่งนะค่ะ ขอจัดเสื้อผ้าก่อน แล้วกานต์จะออกไปทำให้ค่ะ”
“ผมให้เวลาคุณแค่ สิบนาทีเท่านั้น เร็วด้วยผมหิวแล้ว”
“ค่ะ”เมื่อได้ฟังคำตอบของหญิงสาว ชายหนุ่มจึงปล่อยมือที่ใช้โอบเอวของหญิงสาวออก แล้วเดินออกไปจากห้อง แต่หญิงสาวคิดในใจของตัวเอง ทำไมการกระทำกับคำพูดถึงไปกันคนละทางหนอ หญิงสาวไม่เข้าใจกับความคิดของเขาเลยจริงๆ
เมื่อหญิงสาวจัดกระเป๋าเสื้อผ้าของตนเสร็จ ก็รีบมาทำกับข้าวให้แก่ชายหนุ่มแต่เมื่อเปิดตู้เย็นแล้วกับไม่มีอะไรเลย นอกจากน้ำ เบียร์ และอย่างอื่นอีกจิปะถะที่ไม่สามารถนำมาทำเป็นอาหารได้เลยจะมีก็แต่อาหารแห้งเท่านั้นแหละที่มีอยู่ในตอนนี้
“คือ......ในตู้เย็นของคุณไม่มีอะไรเลยค่ะ กานต์ก็เลยทำได้แค่บะหมี่นี้เท่านั้นค่ะ คุณมาร์คคงทานได้นะค่ะ”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนิ”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ กานต์ไปซื้อของมาใส่ตู้เย็นนะค่ะ”
“ให้เซียร์ไปเป็นเพื่อน แล้วพรุ่งนี้ต้องเข้าไปทำงานที่บริษัทด้วย”
“อะไรนะค่ะ.............ทำงานที่บริษัท”
“ใช่ ผมต้องการให้คุณเป็นเลขาของผม”
ที่บริษัทในเครือของตระกูลลอเรน พนักงานทุกคนต่างมองหญิงสาวที่เดินเคียงข้างกับเจ้านายของตนที่ใครใครต่างก้รู้ดีว่าชายหนุ่มเย็นชาขนาดไหนเปรียบเหมือนปีศาจน้ำแข็งที่ไม่มีความรู้สึกใดใด ส่วนเรื่องงานนั้น มาร์ค ลอเรนถือเป็นบุคคลที่น่ากลัวมากเลยที่เดียว สำหรับใครที่บังอาจมาลูบคมแล้วเป็นได้พังพินาศกันเป็นแถวแถว และนี้ยังมีหญิงสาวที่ไม่รู้มาจากไหน มาเดินข้างข้างเจ้านายของพวกตนด้วยแล้วยิ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกมาก เพราะตั้งแต่มาร์ค ลอเรน ได้ย้ายมาทำงานที่ประเทศไทยไม่มีสักครั้งที่จะนำพาหญิงสาวคนใดมาภายในที่ทำงาน และยิ่งแล้วใหญ่ที่จะมีผู้หญิงมาเดินเคียงข้างอย่างนี้ แล้วยังมีบอดิการ์ดที่เปรียบเสมือนเงาตามตัวอีก จึงเป็นเรื่องยากที่จะมีคนเข้าถึง มาร์ค ลอเรนได้ง่ายง่าย
หญิงสาวสังเกตเห็นว่าตั้งแต่ตนได้เดินเข้ามาภายในบริษัทพร้อมกับมาร์คแล้ว ทุกคนต่างมองอย่างไม่ค่อยเชื่อสายตาของตนเท่าไรนักที่เห็นหญิงสาวเดินมาด้วย ประหลาดมากรึไงนะที่เดินข้างคุณมาร์ค ใจคอจะมองกันจนทะลุเลยหรือไงนะ ความคิดหญิงสาวก็ต้องสะดุดเมื่อได้ยินการแนะนำตัวที่เป็นชื่อของเธอ
“อมร....นี้คุณนรีกานต์ จะมาเป็นเลขาของผมตั้งแต่วันนี้ คุณช่วยสอนงานให้เธอด้วยแล้วกัน”
“ค่ะ”คำตอบรับจากเลขาอีกคนที่นั่งอยู่หน้าห้องของมาร์ ลอเรน
มาร์คได้เดินเข้าไปในห้องแล้ว ทิ้งไว้เพียงหญิงสาวที่ยืนอยู่เคียงคู่กับเลขาหน้าห้อง กานต์สังเกตหญิงที่น่าจะมีอายุราวๆ สามสิบกว่าๆ ซึ่งเธอน่าจะชื่ออมร เพราะได้ยินคุณมาร์คเรียกอย่างนั้น
“ชื่อนรีกานต์ใช่ไหมจ๊ะ”
“ค่ะ เรียกว่ากานต์ก็ได้ค่ะ”
“ได้จ๊ะน้องกานต์ พี่ชื่ออมรนะ เรียกพี่อมรก็ได้จ๊ะ”
“ค่ะพี่อมร”
“น้องกานต์ไปไงมาไงถึงได้มากับคุณมาร์คได้ละจ๊ะ” หญิงสาวพูดด้วยเสียงที่เบา เพราะกลัวคนในห้องจะได้ยินเข้า
“ก็........เรื่องมันยาวนะค่ะพี่อมร แต่กานต์สังเกตคนอื่นๆ มองกานต์ประหลาดยังไงยังไงก็ไม่รู้ค่ะ”
“จะไม่ให้ประหลาดได้ยังไงล่ะจ๊ะ ก็คุณมาร์คไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนเข้ามาในบริษัทเลยนี้จ๊ะ”
“เหรอค่ะ”
“พี่ว่าเรามาเริ่มทำงานเลยดีกว่าเนอะ เดี๋ยวจะมีพายุพัดมาแถวนี้”
หญิงสาวฟังอย่างแปลกใจในคำพูดของพี่อมร พายุเหรอแล้วจะมีพายุจากไหนมาล่ะนี่ พร้อมๆกับที่พี่อมรเรียกให้หญิงสาวไปนั่งอยู่เก้าอี้ข้างพี่อมร และนำแฟ้มงานมาให้กานต์ได้ศึกษาดูก่อนจำนวนหนึ่ง พร้อมทั้งอธิบายให้กานต์ฟังไปพร้อมพร้อมกับที่ดูงานไปด้วย
“กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง”
“ค่ะ คุณมาร์ค”
“ให้คุณกานต์เข้ามาพบผมหน่อย”
“ได้ค่ะ”
“น้องกานต์เข้าไปหาคุณมาร์คหน่อยจ๊ะ”
“ค่ะ พี่อมร”
ภายในห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ที่มีโต๊ะทำงานตั้งอยู่ตรงกลางพร้อมเอกสารจำนวนหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วยังมีสายตาที่มีดวงตาสีดำสนิทจ้องมองมายังหญิงสาว ทำให้เกิดอาการเขินขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุเลย
“ผมอยากให้คุณนั่งอยู่ในห้องทำงานกับผม ส่วนโต๊ะทำงานของคุณเดี๋ยวลูกน้องของผมจะยกมาให้”
“แต่กานต์ยังเรียนรู้งานกับคุณอมรได้ไม่กี้ชั่วโมงเองนะค่ะ”
“แล้วงานที่คุณเรียนอยู่นะ มันเป็นงานที่ต้องเสนอผมอยู่แล้ว ผมสอนเองก็ได้”
“เออ..............”กานต์พูดขึ้นได้แค่นั้น ก็ต้องสะดุดเมื่อคุณมาร์คยกหูโทรศัพท์ ขึ้นพร้อมกับเสียงออกคำสั่งผ่านเลขาที่อยู่หน้าห้อง
“คุณอมร ผมต้องการให้คุณกานต์มานั่งทำงานในห้องกับผม” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับมองหน้าของหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้า
"ได้ค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะเอางานที่น้อง....เออคุณกานต์ต้องเรียนรู้เข้าไปให้ในห้องนะค่ะ"
"ขอบคุณมาก"
หญิงสาวมองหน้าชายตรงหน้าโดยเข้าใจแล้วว่าพายุที่พี่อมรกล่าวถึงนั้นคืออะไร ตอนแรกให้คุณอมรสอนงานอยู่ข้างนอก นั่งอยู่กับพี่อมรได้ไม่นานก็เรียกให้มานั่งข้างใน ตามอารมณ์ไม่ทันเลยจริงจริง
........................................................
หยดพลอยมาอัพให้แล้วนะ แต่ฝนตกหนักหน่อยนะที่บ้าน
เน็ตเลยเป็นเต่าเลย
เพื่อนๆ คิดว่าพระเอกและนางเอกของเรา นะเป็นคนยังไงน้า
ช่วยบอกหน่อย คนเขียนอยากรู้ความคิดของเพื่อนๆทุกคน
^o^ แล้วจะมาอัพให้อีกนะ^_^
บอกตอนต่อไปให้นะ (นางเอกอาจจะช้ำใจหน่อยๆนะ)
ความคิดเห็น