คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ข้อตกลง
ตอนที่ 2 ข้อตกลง
ภายในห้องสี่เหลี่ยมที่มีการตกแต่งที่สวยหรู มีเฟอร์นิเจอร์ครบครันไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกมากมาย ซึ่งเป็นห้องที่คอยให้บริการแก่ลูกค้าที่มีระดับเศรษฐีเท่านั้นที่จะใช้บริการได้
หญิงสาวมองชายหนุ่มตรงหน้าที่เพิ่งจะรู้จักชื่อว่า มาร์ค อย่างไม่เข้าใจ เขาต้องการอะไรจากเธอถึงได้มาเจอเธอถึงที่นี้ โดยเฉพาะเธอเพิ่งเคยเจอเขาแค่ครั้งเดียว เมื่อช่วงเช้าที่เธอไปส่งขนมให้แก่บริษัทที่คุณป้าให้เธอไปส่ง แล้วยังไปสร้างเรื่องให้เขาจนต้องได้นำเสื้อสูทราคาแพงกลับมาซักให้เขาอีกด้วย แถมหน้าตาของเขาเหมือนกินคนได้ทั้งคนเลยถึงจะหล่อมากก็เถอะ หญิงสาวคิดได้แค่นี้ก็ต้องสะดุดเพราะคำพูดของชายหนุ่มดังขึ้น
“ผมจะไม่พูดอ้อมค้อม”
“ได้ค่ะ”
“ผมต้องการให้คุณลาออกจากที่นี้”
“คุณบ้าไปแล้วเหรอ ฉันต้องทำงานหาเงินนะ” เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ รู้จักกันก็ไม่รู้จักแล้วยังจะให้ลาออกอีก หญิงสาวคิด
“ผมมีข้อเสนอให้คุณ คุณลองฟังก่อนก็ได้นิไม่เสียหายอะไรไม่ใช่เหรอ”
“ได้ค่ะ ฉันจะฟังข้อเสนอของคุณดูค่ะ”หญิงสาวคิดนิดหนึ่งแล้วจึงตอบ
“ผมต้องการให้คุณไปเป็นภรรยาของผม”
“อะ......อะไรนะค่ะ”
“ผมต้องการให้คุณไปเป็นภรรยาของผม”ชายหนุ่มพูดขึ้นอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงที่ประมาณว่าไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไรแล้ว
“ ผมจะมีค่าตอบแทนให้คุณ ตามที่คุณต้องการ”
“แล้วทำไมคุณถึงต้องการฉันไปเป็นภรรยาของคุณค่ะ”
“เหตุผลส่วนตัว คุณไม่จำเป็นต้องรู้”
“มันก็เหมือนการเป็นนางบำเรอหรืออะไรสักอย่างที่เมื่อคุณเบื่อแล้ว คุณก็จะทิ้งไป ใช่ไหมค่ะ”
“ใช่ และเมื่อผมต้องการได้อะไรแล้ว ผมก็ต้องได้”
ไม่มีคำพูดอะไรออกจากปากของหญิงสาว เมื่อหญิงสาวคิดว่าการที่เธอจะต้องเป็นภรรยาของใครสักคน คนคนนั้นต้องรักเธอและต้องเป็นคนที่จะดูแลชีวิตของเธอตลอดไป และเธอนั้นก็จะรักสามีของเธอเช่นกัน
“คุณไม่คิดว่า การที่เราจะต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันไม่จำเป็นต้องมีความรักเป็นตัวควบคู่ไปกลับชีวิตคู่ของเราเหรอค่ะ”
“ไม่จำเป็น ในความคิดของฉันความรักนะ เป็นสิ่งที่ล่วงโลกที่สุด” ชายหนุ่มคิดอย่างเจ็บแค้น เมื่อนึกถึงอดีตอันเจ็บปวดของตนเอง ที่ถูกคนที่รักหักหลังไปอย่างไม่มีเยื่อใย แล้วเห็นความรักที่เขามีให้เป็นเพียงของเล่นอย่างหนึ่งเท่านั้น
“ผมไม่ต้องการคำตอบเดี๋ยวนี้ แต่ผมอยากได้คำตอบเมื่อคุณนำเสื้อไปส่งคืนผมในวันพรุ่งนี้”
“และผมหวังว่าคุณจะมีคำตอบเป็นที่น่าพอใจให้ผมด้วย”
ชายหนุ่มลุกเดินออกไป ไกลออกไปเรื่อยๆ พร้อมกับที่หญิงสาวจมอยู่กับความคิดของตน ว่าควรจะทำยังไงดี เมื่อคิดว่าชายหนุ่มที่ชื่อ มาร์คนั้น เป็นคนที่มีอิทธิพลและน่ากลัวมากเลยที่เดี๋ยว แล้วทำไมเขาต้องจำเพราะเจาะจงต้องเป็นเธอด้วย ในเมื่อเขาเองนั้นก็ไม่ถึงกับไม่หล่อ จะพูดให้ถูกก็คือหล่อมากเลยที่เดียว จะว่าจนก็ไม่ใช่เพราะดูจากท่าทางแล้วน่าจะรวยมากต่างหาก แถมยังมีบอดิการ์ดติดตามตลอดเวลาที่เจอเขาอีกต่างหาก แล้วเธอละมีอะไรที่ไปสะดุดตาเขานัก เขาถึงต้องการเธอขนาดนี้
เมื่อชายหนุ่มก้าวขึ้นรถ พร้อมกับบอดิการ์ดคนสนิท ก็มีคำสั่งให้ทั้งเซียร์และพฤกษ์ส่งคนมาคอยเฝ้าหญิงสาวไว้ เพราะไม่ต้องการให้แขกคนใดได้เข้าใกล้หรือยุ่งกับเธออีก
................................................................................................................................................................
“กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง”เสียงโทรศัพท์มือถือของกานต์ดังขึ้น
“สวัสดีค่ะ กานต์พูดค่ะ”
“สวัสดีค่ะ คุณนรีกานต์ แก้วไพศาลญาติของคุณนนทชัย แก้วไพศาล ใช่ไหมค่ะ”
“ค่ะ....มีอะไรค่ะ อาการของน้องฉันเป็นยังไงค่ะ”
“คือตอนนี้อาการของน้องคุณ..........................................?”
เมื่อกานต์ได้ฟังพยาบาลที่โทรมาบอกกล่าวรายละเอียดเกี่ยวกับน้องชายของเธอนั้น ก็แทบทรุดเลยที่เดียว เมื่อทราบว่าน้องชายของตนอาการทรุดลง ต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วนและต้องใช้เงินจำนวนมากในการผ่าตัดครั้งนี้ด้วย แล้วตนจะไปเอาเงินมาจากที่ไหนกัน แต่ยังไงเธอก็ต้องช่วยน้องชายที่เป็นญาติเพียงคนเดียวของเธอในโลกนี้ให้ได้ หญิงสาวคิดได้ดังนั้นก็นึกถึงชายหนุ่มที่มีนามว่า มาร์คขึ้นมาทันที่ และแม้เธอนั้นจะไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเขาหรือต้องเป็นนางบำเรอให้กับเขาก็ตาม เธอก็ยินยอมถ้ามันเป็นทางเดียวที่จะช่วยน้องชายของเธอเอาไว้ได้ หญิงสาวตัดสินใจแล้วอย่างแน่วแน่
ณ ตึกใหญ่ของตระกูลลอเรน ในห้องทำงานของ มาร์ค ลอเรน หญิงสาวได้แต่นั่งมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดยังไงดี กับเรื่องที่เธอนั้นตัดสินใจเอาไว้
“เรื่องที่ผมถามคุณเมื่อคืนนี้ คุณมีคำตอบให้ผมยัง คุณนรีกานต์” ชายหนุ่มพูดแน่นชื่อของเธอ
“มีแล้วค่ะ ดิฉันตกลงที่จะเป็นภรรยาหรืออะไรก็ตามที่คุณต้องการให้ดิฉันเป็น”หญิงสาวตอบออกไปอย่างมั่นใจ โดยในใจหนึ่งก็สงสัยว่าชายหนุ่มรู้ได้อย่างไรว่า ตนนั้นชื่อนรีกานต์
“ดี เราคงต้องมีการเซ็นสัญญากัน แล้วคุณต้องการอะไรเป็นการแลกเปลี่ยน”
“คือ ดิฉันต้องการเงินจำนวน ห้าล้านค่ะ”
“แค่นี้เองเหรอ ผมจะให้คุณยี่สิบล้าน พร้อมกับให้การดูแลน้องชายของคุณที่อยู่โรงพยาบาลเป็นอย่างดี”
“คุณรู้เรื่องของน้องฉันได้ยังไงค่ะ”
“เรื่องอะไรที่ผมต้องการรู้ ผมก็ต้องรู้ให้ได้”
“คุณสืบประวัติฉัน”
ไม่มีคำตอบออกจากปากของชายหนุ่ม มีเพียงริมฝีปากที่ยกขึ้นนิดหนึ่งเท่านั้น แต่เขากลับยกหูโทรศัพท์ขึ้น เรียกลูกน้องคนสนิททั้งสองของเขามาพบ โดยสั่งให้ทั้งสองคนไปจัดการเรื่องโรงพยาบาลของน้องชายหญิงสาวให้เรียบร้อย แล้วจึงมารับหญิงสาวไปเก็บข้าวของที่อยู่บ้าน ขณะที่รอเรื่องการย้ายโรงพยาบาลนั้น ชายหนุ่มก็พูดข้อตกลงกับหญิงสาว โดยหญิงสาวต้องย้ายมาอยู่ที่คอนโดกับเขา และทำหน้าที่เป็นภรรยาทั่วไป ทำงานบ้าน และที่สำคัญต้องเชื่อในคำสั่งของเขาโดยไม่มีข้อสงสัย
หญิงสาวได้แต่ก้มหน้ารับกับชะตากรรมของตัวเอง ที่ตัวเองได้เลือกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตามเธอจะต้องทนให้ได้
................................................................................................................................................................
หญิงสาวก้าวขึ้นรถลีมูซีนที่จอดเทียบกับทางเดินของบริษัท โดยมีชายหนุ่มเดินนำหน้าไม่ห่าง เมื่อขึ้นรถหญิงสาวก็ต้องสะดุงเลยที่เดียวเมื่อมีมือมาโอบรอบเอวของหญิงสาว ยังไม่ทันไรเลยออกลายซะแล้ว หญิงสาวคิดอย่างปลงตก
“ผมต้องการให้คุณเรียกผมว่ามาร์ค”
“งั้นคุณก็เรียกฉันว่า กานต์ ก็ได้ค่ะ”
เมื่อจบคำสนทนาทั้งสองคนก็นั่งบนรถโดยไม่มีคำพูดใดๆ ออกมา มีเพียงแขนอันแข็งแรงโอบรอบเอวของหญิงสาวไว้อย่างถือสิทธิ เมื่อรถจอดบริเวณลานจอดรถ หญิงสาวก็ก้าวลงจากรถพร้อมกับชายหนุ่ม โดยมีบอดิการ์ดเปิดประตูให้เมื่อรถจอดสนิท หญิงสาวมองบ้านใหม่ของเธอ เป็นอาคารสูงอยู่ใจกลางเมือง ดูเหมือนจะเป็นคนมีเงินเท่านั้นถึงจะอยู่ได้ พอเดินเข้าอาคารและขึ้นลิฟท์ไปชั้นบนสุดโดยการจะขึ้นลิฟท์ต้องใส่รหัสและประตูห้องก็ต้องใส่รหัสเช่นกัน
การก้าวเข้าสู่ของพักของมาร์คทำให้ หญิงสาวมีอาการสั่น ๆ เพราะเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นนั้นสวยและคงจะราคาแพงมากเลยที่เดียว ห้องก็เป็นชั้นบนสุด แถมยังกว้างกว่าบ้านของเธอซะอีก หญิงสาวมองชายหนุ่มแบบที่ว่าเจ้าตัวนั้นก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี แต่ทำให้ชายหนุ่มตรงหน้านั้นอยากที่จะทำอะไรเธอมากกว่านั้น โดยที่หญิงสาวตรงหน้าไม่รู้เลยว่าจุดอารมณ์บางอย่างของชายหนุ่มขึ้นแล้ว
แต่แล้วอารมณ์ของคนทั้งสองคนก็ต้องสะดุดเมื่อพบหญิงสาวอีกคนที่อยู่ตรงหน้า หญิงสาวที่สวมกระโปรงสั้น แบบว่าสั้นมากๆ เสื้อเกาะอกสีแดงเพลิง ไม่บอกก็รู้ว่าเธอนั้นเป็นคนที่มั่นใจมากในการแต่งตัว แล้วยังแต่งหน้าแบบที่ว่าต้องการปกปิดรอยเหี่ยวยนอย่างนั้นแหละ
“สวัสดี มาร์ค”
“พิงกี้คิดถึงคุณจังค่ะ”
“คุณมาได้ยังไง” มาร์คพูดเสียงดังและดุเหมือนจะติดเหี้ยมเหี้ยมด้วยสิ
“ก็คนเคยเป็นแฟนกัน ทำไมมาร์คถึงพูดห่างเหินกับพิงกี้จังเลยค่ะ” หญิงสาวพูดพร้อมกับเคลื่อนร่างกายอันอวบอันของเธอมาอยู่ข้างตัวของชายหนุ่ม แต่ชายหนุ่มก็ผลักหญิงสาวออกไปโดยไม่ใยดี และแนะนำหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ตัว
“คุณมันก็แค่แฟนเก่า แต่ตอนนี้ผมได้คนใหม่แล้ว เพราะฉะนั้นคุณก็ไม่จำเป็นต้องมายุ่งกับผมอีก”
หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ ฟังคำแนะนำตัวที่คนได้ชื่อว่าจะต้องดูแลเธอตลอดไป (ถ้าเขาไม่เบื่อเธอก่อนนะ) กล่าวอย่างเจ็บปวดหัวใจ แต่เธอก็ต้องทนรับมันให้ได้ในเมื่อเธอรู้อยู่แล้วว่าต้องมาเป็นเพียงของเล่นของเขาเท่านั้น โดยที่หญิงสาวไม่รู้เลยว่า ตัวเองนั้นเริ่มมีใจให้แก่ผู้ชายที่เอาแต่ใจคนนี้แล้ว
ความคิดเห็น