คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ความสำเร็จ คราบเลือด และความทรงจำ
“ลัคกี้มากินข้าวเร็ว เดี๋ยวเจ้าขาจะรีบไปสอบแล้ว วันนี้กินง่าย ๆ ไปก่อนนะ แล้วเย็นนี้เจ้าขาจะซื้อของโปรดมาให้” เจ้าขาลูบหัวเจ้าลัคกี้หมาวัย 1 ปี ที่เมคินทร์ทิ้งไว้ให้เจ้าขาก่อนไปนอก ส่วนของโปรดของเจ้าลัคกี้ก้คือไก้ทอดยี่ห้อคุณลุงหนวดขาวนั่นเออง
“เจ้าขาเร็วเถอะเดี๋ยวไม่ทันนะ”เอกกมลเข้ามาเรียกเจ้าเพื่อที่จะออกไปสอบพร้อมกัน
“เย็นนี้เจ้าขาสอบเสร็จก่อน ไม่ต้องรอพิ้งนะ กะว่าจะเข้าไปหาพี่เจตน์หน่อย เดี๋ยวพิ้งจะไปเอารายละเอียดของงานหน้า ก่อนโปรเจตใหญ่จ๊ะ”
“ได้จ๊ะ แล้วพิ้งจะเอาอะไรไหมเดี๋ยวเจ้าขาซื้อเข้ามาให้”
“ไม่ดีกว่า เดี๋ยวพิ้งซื้อเข้ามาเอง”
จากนั้นสองสาวก็พากันเดินออกจากบ้าน
“คืม เธอดูนั่นสิ” สินีเพื่อนสนิทของคิมมณีที่มีนิสัยขี้อิฉา และเป็นเพื่อนที่ค่อยพูดยุแหย่ให้คนอื่นทะเลาะกัน ของคิมมณี น้องสาวคนเดียวของเมคินทร์ ซึ่งมีอายุเท่ากับเจ้า และทั้งสองเรียนอยู่คณะเดียวกัน
“เจ้าขานี่ ตกลงยายนี่เลิกกับพี่ชายแกหรือยัง แต่ฉันเห็นยายนี่วัน ๆ เอาแต่เรียนไม่ค่อยได้เที่ยวที่ไหนเลย เห้นมีก็แต่ยาย พิ้งที่ไปไหนมาไหนด้วยกัน”
“แกก็ พวกเด็กทุน แกจะเอาไรมากมาย ส่วนเรื่องพี่คิมแกไม่ต้องห่วงอย่างไงยายเนี่ยไม่มีทางมาเป็นพี่สะไภ้ฉันได้หรอก”
“แกแน่ใจหรอ ฉันเห็นพี่คินรักมันจะตาย”
สินี เป็นคนหนึ่งที่หลงรักเมคินทร์ และอาศัยความเป็นเพื่อนของคิมมณีเข้าตีสนิทกับเมคินทร์ แต่ตลอดมาเมคินทร์ไม่เคยมอง สินีนอกเหนือจากกการเป็นเพื่อนของน้องสาว ทำให้สินี เกลียดเจ้าขาที่เมคินทร์ให้ความสนใจ จึงพยายามพูดให้ คิมมณีไม่ชอบเจ้าขา และคิดว่าจะมาแย่งพี่ชายของตนไป
“แกอย่าพูดมาเลย รีบไปเถอะฉันมีวิธีก้แล้วกัน รอให้สอบเสร็จก่อนเถอะ มันไม่รอดแน่ถ้ายังมายุ่งกับพี่คินของฉัน” จากนั้น คิมมณีก็หยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กของตัวออกมา
“คุณน้าค่ะ เรื่องที่เราคุยกันไว้ อีกสองวันคุณน้าจัดการได้เลยนะค่ะ”
“ใช่ค่ะ คิมไม่อยากให้มันอยู่ตำตาคิมแล้ว”
สินียืนมองเพื่อนคุยโทรศัพท์อย่างสงสัยว่าปลายสายคือใคร
“แกไม่ต้องสงสัยหรอก ฉันคุยกับน้าสาวฉันเอง เรื่องนี้ไม่มีใครรู้นอกจากฉัน กับน้า อ้อตอนนี้มีแกอีกคน”
“แกจะทำไรคิม ฉันหวังว่ามันคงไม่ถึงตายหรอกนะ”
“ก็ไม่แน่ แกคอยดูแล้วกัน”
ใครจะรู้ว่าการกระทำครั้งนี้ของคิมมณี จะส่งผลให้เจ้าขา กับเมคินทร์ ต้องเจ็บปวด ปางตาย หากทั้งสองไม่เชื่อมั่นในคำสัญญาที่ให้กันไว้
และใครที่มันทำให้เกิดขึ้น หากเมคินทร์รู้เขาคงไม่ปล่อยให้มันอยู่อย่างมีความสุขแน่นอน แต่ถ้าคนนั้นเป็นน้องสาวคนเดียวของเขาแหล่ะ เขาจะทำอย่างไร
“เฮ้ยจบกันสักที เนาะ เจ้าขา”
“นั่นสิ พิ้ง เจ้าขารอวันนี้มานานแล้ว จะได้ทำงานที่ตัวเองรักษาสักที มาน่าเชื่อเลยเด็กกำพร้าอย่างพวกเราจะมีวันนี้ด้วย”
“อ่ะ แน่ใจนะว่าเจ้าขาจะทำงาน พิ้งว่ารอทำตัวเป็นเจ้าสาว คุณเมคินทร์ดีกว่าไหม”
“บ้าสิ พิ้ง เจ้าขาอยากทำงานก่อน ส่วนพี่คินเจ้าขายังไม่รู้เลยจะกลับเมื่อไหร่”
“กี่ปีแล้วนี่เจ้าขา ที่พี่คินไม่อยู่เมืองไทย ไม่รู้จะเป็นไงบ้างเนาะ”
“นั่นสิ เจ้าขาก็ได้แต่เขียนจดหมายส่งไปเท่านั้นแหล่ะ”
“3 ปี แล้วพิ้งที่เจ้าขาไม่ได้เจอพี่คิน”
“พูดถึงก็ไวนะ เจ้าขา เจ้าขากับพี่คินคบกันจริง ๆ ก็แค่ปีเดียวที่รู้จัก และได้ไกล้ชิดกัน หลังจากนั้นพี่คิน ก็ไปเรียนต่อซะแล้ว”
“เจ้าขาก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไร นะ พิ้ง”
“อย่าคิดมากเลยเจ้าขา รีบกลับเถอะ”
“เดี๋ยวพิ้ง ต้องไปหาพี่เจตน์ก่อนนะ”
“ได้ ไม่ต้องห่วงเจ้าขานะ เดี๋ยวต้องแวะซื้ออาหารให้เจ้า ลัคกี่ ด้วยสิ กะจะฉลองกับมันซะหน่อย”
“เลยลาภปากเจ้าหมาตะกละเลยนะเนีย”
สองสาวได้แต่หัวเราะกันให้กับเจ้าลัคกี้ องคืรักษ์แทนตัวของเมคินทร์ ที่มอบให้กับเจ้าขาก่อนที่เขาจะไปต่างประเทศ
ห่างไปมีสายตาที่มองด้วยความอิจฉา ให้กับสองสาวเพื่อนสนิท
แกหัวเราะได้แบบนี้ไม่นานหรอก นังเจ้าขา อย่างไงพี่คินก็ต้องเป็นของฉัน โดยที่ฉันไม่ต้องทำอะไรเลย หึหึ ๆ
“สินิ แกมายืนอะไรตรงนี้” คิมมณีร้องเรียกเพื่อนที่ยืนมองสองสาวเพื่อนสนิท
“เปล่าหรอกแก แล้วนี่แกจะไปฉลองที่ไหน”
“กำลังจะมาชวนแกนี่แหล่ะ ไปกับพวกเดชอ่ะ แกสนใจป่ะ”
สินิหันกับมามองหน้าคิมมณี พรางนึกในใจ นังหน้าโง่ เอ้ย ไอ้เดชมันกระหล่อนจะตายยังไปชอบมันอีก
“ไปสิ “ จากนั้นทังสองก็เดินไปขึ้นรถของเดชดนัยที่ยืนรอสองสาวอยู่ โดยที่ทั้งคู่ไม่มีทางรู้เลยจากนี้ต่อไปอะไรจะเกิดขึ้น
“คิม แกจัดการกับยายกำพร้านั่นเมื่อไหร่”
“แกถามทำไม”
“ฉันก็ถามดูเฉย ฉันไม่อยากให้แกเสียพี่ชายที่แสนดีของแกให้กับผู้หญิงชั้นต่ำแบบนั้น”
“แกไม่ต้องห่วงหรอก ไม่นานนี้หรอก”
“แล้วถ้าเกิดพี่คินรู้ขึ้นมาแกจะทำไง คิม”
“พี่คิมไม่มีทางรู้เด็ดขาด ถึงพี่คิมรู้พี่คิมก็ไม่ทำอะไรฉันหรอก พี่คิมรักฉันจะตาย”
“ให้มันแน่เถอะแก แล้วฉันจะคอยดู”
“คุยอะไรกันสาว ๆ หน้าเครียดเชียว” เดชเดินเข้ามาทักสองสาวเพราะเห็นยืนคุยกันนานแล้ว เขาไม่ชอบรอใครนาน ๆ เหมือนกัน เนี่ยเขาเห็นเป็นคิมมณีหรอกนะ เขาถึงได้รอหล่อนแบบนี้ ลูกสาวไฮโซระดับประเทศ
“ไปกันหรือยังคิม เดชจะได้แนะนำให้รู้จักเพื่อน ๆ ของเดชนะ”
“ไปสิเดช คิมคุยกับสินิเรื่องไรสาระอ่ะ”
สินีมองทั้งคู่อย่างมั้นใส้เต็มที รอให้ถึงทีฉันบ้างเถอะ ถ้าฉันเข้าไปเป็นพี่สะไภ้แกนะนังคิม ฉันไม่ไปให้แกเชิดหน้าอย่างนี้แน่นอน
“เจ้าขาไปก่อนนะลัคกี้ เฝ้าบ้านดี ๆ หล่ะ นี่พิ้งก็ไม่อยู่เป็นอาทิตย์เลย เจ้าขาต้องรีบไปส่งงาน แล้วก็จะเลยไปสัมภาษณ์งานเลยนะ” หญิงสาวก้มลงพรางยกมือขึ้นตบหัวมันอย่างที่ทำประจำ
แต่วันนี้เธอรู้สึกสังหรณ์ใจอย่างไงบอกไม่ถูก จะไม่ออกไปก็ไม่ได้สัญญากับ ผู้จัดการร้านแล้วว่าจะเอาแบบงานไปส่งให้ดู เพราะใกล้วันแต่งานของลูกสาวเจ้าของร้านเต็มทีแล้ว เดี๋ยวงานจะทำออกมาไม่ทัน
“เจ้าขาไปก่อนนะ”
โฮ้ง โฮ้ง โฮ้ง
เสียงของหมาตัวน้อยที่เป็นองค์รักษ์ประจำตัวของเจ้าขาทำให้เธอหันกลับมามอง พร้อมกับเบิกตาขึ้นอย่างตกใขเมื่อเห็นมันวิ่งเข้ามาอย่างเร็ว ซึ่งโดยปกติเจ้าลัคกั้จะไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อน
“ปัง”
"เอี้ยดดด โครม !!!!!!!"
เสียงปืนดังขึ้นพร้อมกับเจ้าลัคกี้กระโจนเข้าใส่หญิงสาว ทำให้ร่างของเธอเซถลาเข้าไปชนกับรถยนต์ที่กำลังวิ่งสวนมาพอดี ร่างของหญิงสาวล้มลงอย่างแรง
“โฮ้ง โฮ้ง โฮ้ง” เจ้าลัคกี้เห่าไม่หยุด มันพยายยามที่จะเรียกเจ้านายของมันให้ลุกขึ้นมาตามสัณชาติญาญของหมาที่รักเจ้านาย และซื่อสัตย์
“คุณ เป็นไงบ้าง คุณ” เสียงของพลเมืองดีที่เข้ามาช่วยเรียกเธออยู่นาน จากนั้นได้พาหญิงสาวนำส่งโรงพยาบาล ลัคกี้ไม่ลืมที่จะวิ่งตามเจ้านายของมันไปตลอด เสมือนเป็นองค์รักษษ์ติดตามตัว
“คุณเป็นญาติคนไข้หรือเปล่า”
“เปล่าครับ พอดีผมผ่านมาเห็นเธอนอนสลบอยู่ และมีเลือดไหล และก็เห็นเจ้านี่อยู่ข้าง มันพอจะเป็นญาติได้หรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มหันมามองเจ้าหมาตัวโตที่วิ่งตามเขามาตลอดที่พาหญิงสาวมาส่งโรงพยาบาล และไม่ยอมห่างไหน
“โฮ่ง” เสียงเจ้าลัคกี้เฮ่ากลับมาครั้งหนึ่ง เหมือนกับมันรู้ว่ากำลังพูดถึงตัวมัน และยอมรับกลาย ๆ ว่าเป็นญาติของญาติสาวในห้อง ไอซียู ข้างใน
“เธอเป็นไงบ้างครับหมอ”
“เธอเสียเลือดมาก ตอนนี้หมอกำลังให้เลือดอยู่ หมอคิดว่าเธออาจได้รับความกระทบกระเทือนที่สมอง คงต้องเช็คให้ระเอียดอีกที อีกอย่างร่างกายคนไข้บอบช้ำจากการถูกรถชนแค่ภายนอกเท่านั้น แต่ที่หนักคือ เธอถูกยิง หมอคิดว่าคนร้ายตั้งใจที่ยิงสมองของเธอ กะให้ตาย แต่พลาดกระสุนเฉียดเข้าตรงขมับด้านขวาของเธอ ซึ่หมอยังไม่มั่นใจว่ามันจะมีผลอย่างไงบ้าง คงต้องรอให้เธอฟื้นขึ้นมาก่อน”
“ครับ ขอบคุณมากครับ”
เมื่อได้บอกรายละเอียดต่าง ๆ กับชายหนุ่ม และสุนัขอีกหนึ่งซึ่ง หมอคิดว่ามันคงสนใจอยู่พอสมควรถึงอาการของนายสาวมัน ก็เดินกลับเข้าไปที่ห้องเดิมที่เดินออกมา
“เจ้าขา รับสิ รับสิ” เอกกมลโทรหาเจ้าขาตั้งแต่สองวันที่แล้ว แต่เสียงที่ได้รับกับเป็นสัญญาณฝากข้อความเท่านั้น
“เป็นไรพิ้ง พี่เห็นเธอเนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ”
“พิ้ง ห่วงเพื่อนค่ะพี่เอก” เอกชัย รุ่นพี่ที่ทำงานด้วยกันมา เวลาที่หญิงสาวต้องออกต่างจังหวัดบ่อย เจตน์ส่งเขามาเพื่อที่จะคอยดูแล เพราะเห็นว่า เอกกมล เป็นผู้หญิง และเพิ่งจบมาคงไม่ปลอดภัยถ้าต้องเดินทางคนเดียว
“เจ้าขา หรอ”
“ใช่ค่ะ พี่เอก พิ้งสังหรณ์ใจยังไงบอกไม่ถูก ปกติเจ้าขาจะไม่ขาดการติดต่อแบบนี้นะ”
“เอาน่นพี่ว่าใจเย็น ๆ ก่อน เจ้าขาอาจยุ่งอยู่ เห็นเราบอกว่าเจ้าของมีงานเข้ามาเหมือนกันไม่ใช่หรอ แล้วงานเจ้าขาก็ต้องใช้ความเป็นส่วนตัวด้วยนี่”
“ค่ะ พี่เอก แต่พิ้งก็ยังห่วงอยู่ดี”
“ง้ะนก็รีบทำงานให้เสร็จ จะได้รีบกลับ นี่ก็เหลืออีกไม่เท่าไรหรอกน่า”
“ค่ะ” หญิงสาวรับคำของรุ่นพี่ ทั้งที่ยังไม่สบายใจนัก
กริช นั่งมองเจ้าหมาวัย 1 ปี ที่กำลังนั่งเฝ้าเจ้านายมันไม่ไปไหน นี่ก็สองวันมาแล้วที่หญิงสาวยังไม่ฝื้นขึ้นมาเขาก็จำใจม่รู้จะไปตามหาญาติเธอที่ไหน คงมีแต่เจ้าหมาตัวนี้ แต่เขาก็พูดกับมันไม่รู้เรื่อง แค่ชื่อเขายังไม่รู้เลย เดามาเป็นสิบแล้ว ก็ไม่ใช่สักซื่อ ตั้งแต่ เจสัน ไมเคิล เจ้าขนุน ทองหยิบ ทองหยอด เบบี้ เรียกเท่าไรมันก็ไม่หันมามองสักที ได้แต่ทำตาค้อน ไปค้อนมาอยู่เนี่ย แต่สุดท้ายเขาก็ต้องหาอาหารมาให้มันทุกวัน ที่มาเยี่ยมผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียง
“ตกลงนี่แก จะอยู่ตรงนี้จนกว่าเจ้านายแกจะฟื้นใช่ไหม” กริชร้องถามเจ้าหมาไร้ชื่อตรงหน้า
“โฮ้ง”
“เอ่ย ดีแฮะฟังภาษาคนรู้เรื่อง” เขายังสงสัยว่าตรงลงใครฟังใครรู้เรื่องกันแน่
โฮ้ง โฮ้ง โฮ้ง
เสี้ยง ลัคกี้เห่า เหมือนจะเรียกชายหนุ่มตรงหน้า แต่ตามันกลับมองที่หญิงสาวบนเตียง จน กริชเริ่มเอะใจ
“เฮ้ย แกจะเห่าอะไร เดี๋ยวเกิดพยาบาลเขาไม่ให้แกอยู่ ฉันช่วยแกไม่ได้นะ เจ้า โฮ้ง”
กริชหันไปมองบนเตียงเพราะรู้สึกถึงความเครื่อนไหวบางอย่า
“เฮ้ย คุณฟื้นแล้วหรอ เป็นไงบ้าง นี่คุณนอนเข้าไปได้ไงเกือบสามวัน ไม่หิ้วบ้างหรอ แต่ก็ดีจะได้หมดหน้าที่ผมสักที”
เจ้าขามองหน้าชายหนุ่มอย่างงง พรางนึกในใจว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วตัวเองมานอนอยู่ที่นี่ได้ไง แล้วเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง แล้วเธอเป็นใคร
“อ้าวคุณ เป็นไงบ้าง ทำไมไม่พูดหล่ะ”
“ฉัน เกิดอะไรขึ้น แล้วฉันมาอยู่นี่ได้ไง”
“นี่คุณจำไม่ได้หรอ ผมเห็นคุณโดนรถชน แล้วนอนอยู่เลือดท่วมตัวเลย เลยพาคุณมาส่งโรงพยาบาล นี่คุณพอจะติดต่อใครได้บ้างไหม หรือเดี๋ยวผมติดต่อให้ก็ได้นะ แล้วคุณชื่ออะไรหล่ะ”
กริชมองหน้าหญิงสาว ซึ่งจ้องเขาตาไม่กระพริบ ซึ่งตอนนี้เขารู้สึกว่าบรรยายกาศมันไม่น่าไว้ใจเท่าไรเลย
“คุณ ตกลงคุณจะให้ผมติดต่อใครไหม”
“ฉัน จำไม่ได้ ฉันเป็นใคร”
“เฮ้ย คุณอย่าล้อเล่นนะ ไม่สนุกเลย”
“โฮ้ง “ เสียงเจ้าลัคกี้เห่าขึ้นมา มันคงคิดว่าไม่มีใครสนใจมันแน่นเลย
หญิงสาวมองลงมาตามเสียงที่ได้ยิน จากนั้น ภาพที่เบลออยู่ในสมอง แต่นึกไม่ออกก็ทำให้เจ้าขาเกิดอาการปวดหัวขึ้นมา จนตาพร่า จากนั้น เลือดกำเดาก็ไหลออกมาไม่หยุด จนทำให้เธอสลบไปอีกครั้งจากอาการปวดหัว
“เฮ้ย คุณ อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะเดี๋ยวผมตามหมอก่อน” จากนั้นเขาก็รีบวิ่งออกไปตามหมอกับพยาบาลเข้ามาตรวจอาการของเธอ
“จากอาการที่คุณเล่าให้ฟัง หมอคิดว่าคนไข้ได้รับความกระทบกระเทือนทางสมองอย่างแรงจนทำให้ความจำเสื่อม ค่อนข้างที่จะหนักกว่าเคสความจำเสื่อมทั่วไป ซึ่งมันอาจเกิดจากปืนที่คนร้ายยิงเธอแล้วพลาดไปโดนจุดสำคัญที่อาจทำให้ความจำส่วนนั้นหายไป บวกกับความตกใจของเธอด้วย”
“แล้วอย่างนี้เธอจะหายไหมหมอ”
“ผมตอบไม่ได้ เพราะเท่าที่ดู เหมือนกับว่าเธอพยายามจะนึกถึงเรื่องราวของตัวเอง แต่ถ้าเธอพยายามมากเท่าไรมันจะส่งผลกระทบต่อระบบสมองของเธอให้ทำงานหนักจนปวดหัว และมีเลือดกำเดาไหลออกมา หมอเกรงว่าถ้าร่างกายของคนไข้ยังไม่แข็งแรงพอ อาจผลกระทบได้”
“งั้นหมายความตอนนี้ก็ไม่ควรให้เธอพยายามนึกถึงเรื่องที่เธอจำไม่ได้ใช่ไหมหมอ”
“หมอคิดว่ามันเป็นหนทางที่ดีที่สุดในตอนนี้”
“หมอขอตัวก่อน คิดว่าอีกสักพัก คนไข้คงฟื้นขึ้นมา”
“ครับ ขอบคุณมากครับหมอ”
กริชหันกลับไปมองร่างของหญิงสาวอีกครั้ง โดยมีเจ้าโฮ้งนอนมอบอยู่ข้างเตรียงของเธอ ด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก เขารู้สึกสงสารเธออย่างบอกไม่ถูก ใครนะที่คิดฆ่าผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แบบนี้ได้ ดูท่าทางเธอก็ไม่น่าจะร้ายกาจอะไรเลย คนที่คิดฆ่าเธอจะต้องใจดำอำมหิตผิดมนุษย์ปกติแน่นอน
แล้วนี่เขาจะทำไงต่อไปแหล่ะ หนึ่งคนกับอีกหนึ่งตัวนี่นะ เฮ้ย คิดแล้วกลุ้มโว้ย ซวยแล้วไหมล่ะมึงไอ้กริช
**************************************************************************************
ความคิดเห็น