คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ปฐมบท
ในห้วงจักรวาลนี้โลกมนุษย์ก็เปรียบประดุจก้อนกรวดเม็ดเล็กๆบนผืนแผ่นดินอันกว้างใหญ่ไพศาล ห้วงจักรวาลล้ำลึกสุดหยั่งน่าหลงใหลยิ่งล้ำเหนือสิ่งใด กาลเวลาที่ผ่านพ้นไปสำหรับห้วงจักรวาลแล้วมันก็เพียงเวลาแค่เศษเสี้ยวเท่านั้นเอง เมื่อมีก่อกำเนิดย่อมีแตกดับแม้แต่จักรวาลเองก็ไม่มีข้อยกเว้น มนุษย์ไม่ปารถนาที่จะดับสูญไปจากโลกพิภพ หากแต่มนุษย์กลับกระทำแต่ในสิ่งที่จะพาความล่มสลายมาสู่มวลมนุษย์อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นทุกคราๆ
เนิ่นนานมาแล้วโลกพิภพได้แตกดับและก่อกำเนิดหมุนเวียนสลับสับเปลี่ยนกันไปอย่างไม่มีวันจบสิ้นสิ้นยุคใดยุคหนึ่งเนิ่นนานไปก็มียุคใหม่ปรากฎขึ้นมาเศษซากแห่งโลกเก่าก็ยังคงหลงเหลือบางส่วนปรากฏสู่โลกใหม่เสมอ
ไม่เว้นแม้แต่มารปีศาจและทวยเทพทั้งหลายล้วนหนีไม่พ้นกฎแห่งวัฏสงสารอันไร้ขอบเขตนี้ไปได้ เมื่อเทพโบราณล่มสลายเทพใหม่ๆย่อมถือกำเนิดขึ้นมาเป็นธรรดาของสรรพชีวิต ที่ใดมีศรัทธาและมีจิตวิญญาณ ที่นั่นย่อมมีทั้งเทพและมารไม่อาจมีเพียงหนึ่งได้และเรื่องราวต่อจากนี้ไปก็เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของจักรวาลและกฎแห่งวัฏสงสารด้วยเช่นกัน...
โลกพิภพยุคใหม่แดนฟ้าอุบัติ
กำเนิดทวยเทพ
เมื่อสิ้นสุดการล่มสลายโลกก็เริ่มพื้นตัวจากนิทราอันยาวนาน แรกเริ่มหาได้มีมวลมนุษย์ไม่ มีเพียงธาตุหยินและหยางสองขั้วที่หมุนเวียนในเส้นขนานอย่างไม่มีวันสิ้นสุด ในความมืดมนแห่งผืนแผ่นดิน ชั้นน้ำแข็งเริ่มทลายลงก่อเกิดแผ่นดินแห่งแรก ที่นั่นเองปราณแห่งฟ้าและดินที่ถูกดูดซับมานานแสนนานได้ก่อกำเนิดตะวันจันทราและหมู่ดารา แผ่นฟ้าแยกจากผืนแผ่นดิน ลัสิ่งมีชีวิตแรกที่ถือกำเนิดคือ
“เทพภูผา”
มีร่างกายใหญ่โตราวภูเขาสีดำทะมึน แววตาสีฟ้าเรืองรอง รูปร่างไม่ผิดแผกจากมนุษย์มากนัก นับเป็นเทพเจ้าองค์แรกของโลกพิภพใหม่ เทพภูผา เมื่อถือกำเนิดขึ้นมาแล้วก็เกิดความรู้สึกอ้างว้างและเดียวดาย อยากมีใครสักคนที่จะมาเป็นเพื่อนของตนเอง จึงร้องไห้คร่ำครวญด้วยความเสียใจและเดียวดาย น้ำตาหลั่งออกมาและไหลมารวมกันนั้นเกิดจากพลังฟ้าดินที่ดูดซับมาหลายหมื่นปีนั้นได้ก่อกำเนิดเป็น
“นางพญา ไท่เอ๋อ”
รูปร่างงดงาม ผิวขาวนวลดุจหิมะ แววตาคมโต ท่วงท่าดุจหงส์ร่ายรำนับเป็น เทวนารีองค์แรกแห่งฟ้าดิน พลังของเทพภูผาถูกแบ่งมาให้นางครึ่งหนึ่ง นางซาบซึ้งในความยิ่งใหญ่ของเทพภูผายอมทำตนเป็นภรรยาของเขา
กำเนิดทวีป
ทั้งสองอยู่ร่วมกันได้สามร้อยปี นางยิ่งดียิ่งนุ่มนวล เทพภูผาก็ยิ่งรู้สึกปวดใจนั่นเพราะ คิดว่าตนเองไม่คู่ควรกับนาง แม้นางจะไม่กล่าวอะไร หากแต่เขากลับเกิดรู้สึกว่านางดูสูงส่งและงดงามเกินกว่าที่เขาจะอาจเอื้อมได้ ด้วยความเสียใจนั้นทำให้เขาไม่อยากดำรงอยู่ให้ปวดใจ แม้เทพมารดรจะมิได้แสดงการรังเกียจกลับดูแลเอาใจใส่อย่างดียิ่งทำให้เขาไม่กล้าอยู่สู้หน้า จึงหมายตายจากโดยการฉีกกระชากร่างกายของตน
ร่างซีกขวาตั้งแต่ไหล่ไปหาแขนถูกฉีกกระชากโยนไปด้านทิศตะวันออก ก่อเกิดเป็น “อุดรทวีป” ด้วยความเจ็บปวดอันสาหัสที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ทำให้เขามีความคลุ้มคลั่งทวีปนี้จึงถูกปลกคลุมด้วยบรรยากาศอันแห้งแล้งและร้อนแรง ง่ายต่อการคลุ้มคลั่งดังเช่นความรู้สึกของ เทพภูผานั่นเอง
ไหล่ซ้ายตลอดแขนลอยไปยังทิศตะวันใต้ ด้วยการฉีกกระชากครั้งนี้ รุนแรงนักเนื่องจากความเจ็บปวดในการฉีกแขนขวา ก่อให้เกิดแผลลึกนักเลือดไหลทะลักแทบหมดกาย ส่งผลให้เกิด “ทะเลแดนใต้” ที่เต็มไปด้วยทิวทัศที่งดงามยากจะบรรยาย เต็มไปด้วยเกาะแก่งน้อยใหญ่ที่เกิดจากเศษเนื้อที่แตกออกจากไหล่เพราะความรุนแรงในการกระชาก
ขาทั้งสองข้างถูกตัดขาดและลอยไปทางทิศตะวันตก เนื่องด้วยเทพพลังที่เหลือไม่มากไม่อาจแปรสภาพเป็นทวีปที่สมบูรณ์ จึงก่อกำเนิดเป็น “ประจิมทวีป” โดยท่อนขาทั้งสองข้างกลายเป็นทิวเขาที่สูงที่สุดในโลกทอดตัวขนานกันจากทิศตะวักตกสู่ทิศตะวันออก บรรยากาศค่อนข้างหนาวเย็นเนื่องจากความรู้สึกที่เจ็บปวดเริ่มลดน้อยลงจนกลายเป็นความด้านชาจนเย็นยะเยือกของเทพภูผา
ก่อนสิ้นใจเขาไม่ปารถนาให้นางอันเป็นที่รักต้องอยู่อย่างเดียวดาย จึงใช้พลังเฮือกสุดท้ายของชีวิต แยกศรีษะออกจากร่างกายและคงพลังเทพส่วนใหญ่ไว้ที่ลำตัว ก่อเกิดเป็น “ทวีปยุทธภพ” อันอุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ และสายน้ำลำธารเหมาะแก่การดำรงชีวิต และความงดงามทั้งหลายล้วนมีให้เพื่อนางอันเป็นที่รัก
ส่วนศรีษะที่แฝงความอาลัยสุดชีวิตนั้นลอยสู่ทิสเหนือก่อเกิดเป็นดินแดนสนธยาที่แปลกประหลาด เต็มไปด้วยความพิสดารสุดยอดแห่งโลกพิภพ แต่กลับอบอุ่นและบริสุทธิ์ นางพญาไท่เอ๋อขนานนามว่า “เส้นทางสู่สุขาวดี”
หัวใจที่งดงามเต็มไปด้วยคุณธรรมและความปรารถนาดีต่อทุกชีวิตของ เทพภูผา นางพญา ไท่เอ๋อ นำมาสร้างแดนสุขาวดีชั้นมนุษย์ที่สุดปลายทางแห่งแดนสุขาวดี เพื่อรำรึกถึงบุคคลอันเป็นที่รักใครเลยจะทราบว่าหลายหมื่นปีต่อมาจะเป็นสถานที่ที่ทั้งเทพมารมนุษย์ อรหันต์ล้วนปารถนา มุ่งหน้าเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ ที่มีนามว่า “วิหารธรรม บรรลุมรรค” แดนพิสุทธิ์ไร้มลทิล
กำเนิดจอมปีศาจ
เก้าร้อยปีนับจากนั้นปราณหยินที่แอบแฝงกายในร่างของ เทพภูผา ได้ก่อตัวจนมีรูปร่างดูดซับพลังหยินมากมายจนกลายร่างเป็น “มหามารา” แต่กาลนั้นแม้มหามาราจะมีอำนาจมากมายพอที่จะกดดันถ่วงดุล นางพญาไท่เอ๋อ แต่หามีแรงจูงใจรึว่าความทะเยอทะยานไม่จึงเพียงอาศัลอยู่ร่วมดินแดนเดียวกันเท่านั้นเอง
กำเนิดสรรพสัตว์
สองพันปีต่อมา นางพญาไท่เอ่อเริ่มเบื่อหน่ายต่อความโดดเดี่ยว แม้จะคร่ำเคร่งบำเพ็ญตบะจนมีพลังอำนาจมหาศาลแต่กลับรู้สึกเดียวดายอย่างประหลาด จึงเสด็จลงสู่ ทวีปยุทธภพ ข้างฝ่ายจอมมาร มหามาราก็เช่นกันเริ่มเหงาและอ้างว้าง ทั้งสองจึงตกลงกันที่สร้างสิ่งมีชีวิตอื่นๆนอกจากตัวเองและตกลงกันว่า เมื่อมีสิ่งมีชิตถือกำเนิดแล้ว แต่ละคนจะสลับกันเป็นผู้มอบหน้าที่ให้ เมื่อตกลงกันได้แล้วจึงแยกย้ายกันสู่ทิศเหนือและใต้ของทะเลแดนใต้ นางพญาร่ายรำบรวงสรวงฟ้าทางทิศเหนือ มหามาราบรวงสรวงดินทางทิศใต้ โดยนำเอาปราณหยางพิสุทธิ์ไร้ประมาณ และ ปราณหยางทมิฬไร้จำกัด ผสานกันก่อกำเนิดสรรพชีวิตนานประการ แรกเริ่มกำเนิดสัตว์ทะเลมากมายหลายชนิด
กำเนิดมังกร
ปราณหยางก่อกำเนิดสัตว์รูปร่างคล้ายงูแววตาดุร้าย ทรงความน่าเกรงขามนามว่า “มังกร” โดยมังกรนี่ครั้งกำเนิดจากกึ่งกลางทะเลแล้วก็บินร่อนไปทั่วฟ้า เปล่งปราณรุนแรงเป็นแสงสีสวยงาม เป็นที่พอใจแก่นางพญาและจอมมารเป็นอันมาก มังกรที่ถือกำเนิดมามีทั้งสิ้นห้าตัวล้วนทรงอำนาจนางพญา มอบหมายหน้าที่ให้เฝ้ารักษาแดนต่างๆอันได้แก่
มังกรฟ้า พิทักษ์แดนสวรรค์
มังกรทอง พิทักษ์แดนสุขาวดี
มังกรเขียว พิทักษ์ท้องทะเล
มังกรม่วง พิทักษ์ผืนแผ่นดิน
มังกรดำ พิทักษ์ขุนเขา
ต่อมามังกรดำเกิดความโลภ เพราะคำเหยียดหยามจาก มหามาราจึงก่อกบฏหมายครองผืนแผ่นดิน ส่งผลให้นางพญาไท่เอ๋อ กริ้วมากสาปมังกรดำให้หมดฤทธิ์และส่งไปอยู่แดนยม ที่แสนโสมม นับแต่นั้นมังกรดำจึงจัดเป็นปีศาจตลอดมา
กำเนิดหงส์สวรรค์เก้า
ภายหลังมังกรถือกำเนิดปราณหยางที่หนุนเนืองลอยสู่ฟากฟ้าก่อตัวกลายเป็นวหคอมตะ พญาหงส์อัคคีชีพไม่ดับ อานุภาพแม้ไม่ทัดเทียมมังกร แต่หยาดโลหิตทุกหยดล้วนชุบชีวิตผู้ตายได้ หลายหมื่นปีต่อมาผู้คนมากมายล้วนต่างเสาะหาหงส์อัคคีเพื่อตนเอง พญาหงส์ครั้งถือกำเนิดแล้วนั้น กลับโผบินจากไปอย่างรวดเร็วจนพญามาร มิอาจจะสั่งการเป็นเจ้าชีวิตได้ เนื่องจากมิอาจติดตามไปด้วยกำลังบรวงสรวงอยู่ ส่งผลให้เกิดความพญาบาทแค้นเคืองให้ตัวพญาหงส์ยิ่งนัก จนเกิดเรื่องราวมากมายในกาลต่อมานั่นเอง
กำเนิดมนุษย์
หลังจากพญาหงส์จากไป ปราณหยินหยางกลับลอยตัวเข้าหาผืนดินและบังเกิดสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษญ์ กึ่งเทพกึ่งมาร ทรงสติปัญญาและความสามารถ นอกจากนี้ยังสามารถเรียรรู้สิ่งต่างๆได้มากมายนัก นางพญาไท่เอ๋อและมหามาราจึงแบ่งหน้าที่คนละครึ่งโดยให้มนุษย์เป็นผู้เลือกทางเดินเอง หากคิดทำดี ย่อมไปสู่สภาพแห่งทวยเทพดินแดนของนางพญาไท่เอ๋อ หากคิดชั่วย่อมตกต่ำสู่สภาพมารอันจะเป็นกำลังของ มหามารา หลังจากนั้นยังมีสัตว์ต่างๆมากมายหลายชนิดถือกำเนิดมา ภายหลังจากนั้นทั้งนางพญาและมหามาราต่างเหนื่อยล้า และเข้าสู่นิทราอันยาวนาน เรื่องราวมากมายจึงได้เริ่มต้นขึ้นต่อจากนี้
แดนสวรรค์
แปดหมื่นปีต่อมาสิ่งมีชีวิตทั้งหลายล้วนเป็นอมตะไม่แก่ไม่ตาย มนุษย์ผู้หนึ่งบำเพ็ญเพียรตลอดเวลาสามหมื่นปีโดยมิได้ทำอย่างอื่น จนบรรลุเซียนทรงพลังอำนาจยิ่งใหญ่ เมื่อบรรลุเวียนเขาจึงออกท่องไปทั่วทั้งผืนแผ่นดิน จนกระทั่งทะยานตัวสู่ชั้นเมฆ และพบว่าบนฟ้านั้นมีดินแดนพิสดารอยู่ โดยมีเกาะมากมายลอยวนไปมาเป็นระเบียบสวยงามยิ่งนัก นอกจากนี้ยังเปี่ยมด้วยไอทิพย์อันบริสุทธิ์ เขาจีงได้สร้างวิหารอันยิ่งใหญ่ด้วยเทพพลังของตน หลังจากนั้นจึงมองดูผืนแผ่นดินเบื้องล่าง เสาะหาผู้คนที่กระทำความดีและบำเพ็ญตบะนับพันๆปี จึงเชื้อเชิญเขาเหล่านั้นสู่ดินแดนที่ตนสร้างขึ้นและขนานนามแดนนั้นว่าสวรรค์ ตั้งตนเป็นจ้าวสวรรค์นับแต่นั้นเป็นต้นมา
แดนนรก
ต่อมาไม่นาน มนุษญ์เริ่มกระทำบาปและสังหารผู้อื่นมากมาย มารปีศาจเริ่มกำเนิดและก่อความวุ่นวายไปทั่ว จ้าวสวรรค์จึงส่งเทพชั้นผู้ใหญ่นาม เผยชิ่ง ลงสู่แดนมนุษย์เพื่อปราบปรามเหล่ามารร้ายและผู้กระทำผิด แต่ผู้กระทำผิดมีมากมายเกินไป เผยชิ่ง จึงเสาะหาดินแดนที่จะตั้งรกราก และไปพบกับแดนต่างมิติที่มืดมนไร้แสงสว่างขึ้น จึงก่อตั้งยมโลกสถานที่ลงโทษและตัดสินผู้กระทำผิดร้ายแรงและเหล่ามารปีศาจ พร้อมทั้งออกเสาะหาจนได้ผู้ร่วมอุดมการณ์มากมาย และตั้งตนเป็นยมบาล คอยดูแลรักษากฏแห่งกรรมเอาไว้อย่างเต็มที่ด้วยความเต็มใจ จนผู้คนกล่าวขานให้เป็นผู้ทรงธรรมที่สุดในสามโลก แม้จ้าวสวรรค์ก็ยังชื่นชม
กำหนดอายุขัย
เนื่องจากสรรพชีวิตล้วนเป็นอมตะ ทำให้การปราบปรามโทษและการจับกุมผู้กระทำผิดของยมบาลและยมทูตล้วนลำบากแสนเข็ญ ยมบาลจึงฝ่าความโหดร้ายและวิบากกรรมนานาประการนับพันปีกระทั่งถึงสถานที่นิทราแห่งนางพญาไทเอ๋อ พร้อมกับบรวงสรวงวิงวอนต่อนางพญาไท่เอ๋อ ให้เมตตาหาทางช่วยเหลือสรรพชีวิตที่ถุกรังแกจากผู้เป็นอมตะ เขาวิงวอนเท่าไหร่นางพญาก็ไม่ออกจากนิทราจนกระทั่งหลังน้ำตาเป็นสายเลือดและสังเวยชีวิตเป็นพยานแห่งความสัตย์ ด้วยความสัตย์และความดีที่ได้กระทำมานาน ก่อให้เกิดปาฏิหาริย์ นางพญาลืมเนตรตืนนิทราอันยาวนานและเมตตาประทานให้สมความปารถนา ทุกสรรพชีวิตที่นางร่วมสร้างกับมหามาราล้วนสูญเสียความอมตะ นอกจากนี้นางยังประทาน เสาศิลากรรมและบันทึกแห่งอายุขัย ที่ทรงอำนาจให้ใช้กำกับชีวิตของเทพ มาร มนุษย์ และชุบชีวิตให้แก่ยมบาลและนำพาสู่แดนยมโลก นับแต่นั้นมาผู้ชั่วร้ายก็เริ่มลดลงผู้คนเริ่มอยู่อย่างมีความสุข
*******************************************
ติดตามบท ปฐมบทสามโลกต่อในวันพรุ่งนี้นะครับ จะเอามาลงให้ครบและจะเริ่มเรื่องกันเลยครับ ฝากติชมด้วยนะครับผม
ความคิดเห็น