ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO]The Whisper of Wind เสียงกระซิบของสายลม

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 3.............(คดี+สอบ)..............

    • อัปเดตล่าสุด 4 ส.ค. 55


    [ครืด~~~~] ทันทีที่ผมเปิดประตูเข้าห้องเรียน เพื่อนๆทั้งห้องเหมือนจะนัดกันหันหน้ามามองผมเป็นตาเดียวเลย ผมตกใจเล็กน้อย ที่คนมาสายอย่างผมดูน่าสนใจมากขนาดนั้นเลยรึไง ผมรีบย่างสามขุมไปนั่งที่ เพื่อเลี่ยงสายตาเพื่อนที่ยังคงจ้องผมอยู่ ขนาดผมนั่งแล้ว พวกเขาก็ยังคงจ้องผมอยู่แฮะ

     

    “เธอชื่อ เสี่ยว ลู่หาน ใช่ไหม ฉันคือ อ.ที่ปรึกษา ปี 3 ห้อง C ชื่อ ลี ฮโยมิน” เสียงอาจารย์สาวสวยหน้าห้องเอ่ยแนะนำตัวเองให้ผมทราบ และรู้สึกเหมือนเพื่อนทั้งห้องจะรู้จักเธอก่อนผมแล้ว


    “อันยอง ครับ อาจารย์  ผมเสี่ยว ลู่หาน ครับ”  ผมกล่าวทักทายตอบเธอไป สายตาเพื่อนๆทั้งห้องยังคงจับจ้องที่ผมอย่างไม่ลดละรวมถึง อาจารย์สาวสวยหน้าห้องด้วย เออ ได้โปรดอย่ามองผมแบบนั้นสิครับ


    “เธอคงสงสัยสินะ ว่า อ.ที่ปรึกษา ปี 3 อย่างฉัน มาทำอะไร ที่ ปี 1 ห้องนี้” อาจารย์สาว กล่าวพลาง ยกยิ้มเล็กน้อย สายตาหล่อนดูจะไม่เป็นมิตรกับผมเลย  ว่าแต่เธอมาทำอะไรที่ห้องผม กันน้า~

     

    “เธอน่าจะทราบเรื่องที่มี นศ. ชาย เสียชีวิต เนื่องจากตกจากตึก ปี 3 แล้วสินะ”


    “ครับ...?”  มันเกี่ยวอะไรกับผมอีกล่ะครับ เรื่องนี้มันก็ผ่านมานานพอสมควรแล้วน้า แล้วรู้สึกว่า ผมจะโดนถามถึงเรื่องนี้ปล่อยไปไหมครับ =  =


    “งั้น เธอช่วย ตามฉันไปห้องพัก ผอ.  ด้วย  หลังเลิกเรียนเย็นนี้”


    “ครับ!” ผมตอบตกลง อาจารย์ ฮโยมิน ก่อนร่างเพรียวของอาจารย์สาวจะเดินออกจากห้องเรียนไป

     

     

     

    วันนี้มันวันอะไรของผมกัน ทำไมผมถึงต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับ นศ. ชาย คนนี้ด้วย

     

    ++++++++++++++++++

    ต่อไปนี้เป็นฉาก เครียดนะคะ รีดเดอร์ทุกท่านจงจินตนาการว่า กำลังอยู่ในห้องทำงานของพนักงานตำรวจ ที่มีคนยืนเถียงกันแบบเป็นหลักเป็นการอยู่ 2 คน นะคะ  ตอนนี้สำคัญ ช่วยอ่านอย่างตั้งใจนิดหนึ่ง เด๋วไม่รู้เรื่อง

    “ผู้จัดการครับ ! การสืบสวนครั้งนี้ ผมว่า มันไม่มากเกินไปหน่อยเหรอครับ  หลักฐานยังมีไม่ครบ เราจะกล่าวหา เขาโดยที่ ไม่มีหลักฐานไม่ได้นะครับ” 


    ชายร่างสูง ผิวขาวนวล ผมสี บรอนซ์ทอง  ใบหน้าเรียวหล่อ ณ ตอนนี้ กำลังขมวดคิ้วเข้าหากันเพื่อขัดแย้งความต้องการของ ผู้จัดการคดีความของทางมหาลัย


    “แต่เรามีพยานปากที่อยู่ในเหตุการณ์ และ หลักฐานสำคัญน่ะ มันไม่มีตั้งแต่แรกแล้ว เพราะผู้เสียชีวิตไม่ได้ ตายด้วยของมีคมหรือ อาวุธชนิดใดนะคะ” ผู้จัดการคดีสาว มาดขรึม แย้งความคิดของ ร่างสูงที่ตอนนี้ดูจะเครียดกับเรื่องของคดีความทางมหาลัยมาก


    “แต่ว่า ทางญาติผู้เสียชีวิตเข้าใจว่าการตายครั้งนี้เป็นเพียงอุบัติเหตุ หากจะสืบ คดีต่อไปล่ะก็ เราต้องค่อยเป็นค่อยไปไม่ใช่เหรอครับ จะด่วนสรุป นศ.ที่ปรากฏตัวแค่ในกล้องวงจรปิดของทางมหาลัย มันดูจะง่ายเกินไปนะครับ ถ้านี่เป็นคดีฆาตกรรมจริงๆ ผู้ต้องสงสัยพวกนี้ก็เป็น นศ. ทั้งนั้น คงไม่มีฆาตกรที่เป็น นศ. คนไหนโง่เดินผ่านกล้องวงจรปิดของทางมหาลัยหรอกครับ”


    ร่างสูง ร่ายยาว จนผู้จัดการของเขา ต้องเมินใบหน้าหนีร่างสูง ตรงหน้า หล่อนดูจะรำคาญใบหน้าหล่อเหลาของร่างสูงมาก ที่จ้องหล่อนด้วยสายตาไม่ยอมลดราวาศอก แบบนี้


    “คริส คุณเป็นเพียง นศ. สายตรวจของทางราชการ ถึงนี้จะเป็นเรื่องมหาลัย ของคุณแต่ว่าเรื่องใหญ่ๆแบบนี้ ไม่เหมาะสมกับวัยรุ่นอย่างคุณ คุณมีหน้าที่แค่ไหนก็ทำแค่นั้นเถอะค่ะ อย่าได้ทำเกินหน้าที่เลย เดี๋ยวจะเดือดร้อนทีหลัง”

    ผู้จัดการสาว หันสายตากับมาปะทะกับ คริส ชายร่างสูง ตรงหน้า ที่ดูเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้มาก


    “นี่ก็เป็นงานของผมเช่นกันครับ ผมถูกมอบหมายให้สืบสวน และ ปิดคดีพร้อมพวกคุณ ถึงวุฒิการศึกษาจะสู้เจ้าพนักงานอย่างพวกคุณไม่ได้ แต่มันก็เป็นงานของผมที่จะมีส่วนร่วมในคดีนี้เช่นกัน และผมจะบอกว่า มีแค่พยาน ก็ไม่ใช่ว่า จะจบคดีนี่ได้หรอกครับ”

    ร่างสูงพูดจบก็ทำทีจะเดินออกจากออฟฟิส ของผู้จัดการตนเอง สีหน้าเขาตอนนี้ดูจะไม่สบอารมณ์มากนัก เพราะต้องมานั่งเครียดกับงานชิ้นแรก ซึ่งเป็นคดีของมหาลัยของเขาเองด้วย

     

    “เดี๋ยว! คริส”

    เสียงผู้จัดการสาว ดังขึ้น เมื่อ คริสหันกลับมามอง มือของหล่อนถือซองพลาสติคโปร่งใส ภายในบรรจุเศษกระดาษแผ่นเล็กๆ ที่เหมือนมีบางอย่างเขียนอยู่

     

    “นั่นมันอะไรครับผู้จัดการ?” คริสเดินเข้ามามองสิ่งนั้นด้วยความสนใจ


    “ดิฉันไม่ใช่คนไร้สมถะภาพนะคะ  ที่จะสืบคดีไปขายผ้าเอาหน้ารอด ถ้าไม่มีหลักฐานฉันคงพูดอะไรมากไม่ได้แน่ แต่นี่คือหลักฐานชิ้นหนึ่ง ถึงมันจะไม่สำคัญ แต่เราก็พบมันในที่เกิดเหตุ บริเวณ ใกล้กับศพผู้ตาย ค่ะ”

     

    คริสหยิบซองพลาสติคขึ้นมาดู มองเศษกระดาษภายในอย่างพินิศพิจารณา และดูเหมือนว่า เขาจะพบกับรอยปากกา จางๆ ที่เขียนอะไรบางอย่างไว้ มันเป็นชื่อของบุคคล คนหนึ่ง

     

    [ลู่หาน เด็ก ปี 1]     กระดาษแผ่นนี้ มันอะไรกัน  

     

    +++++++++++++++++++++++++

     

    ผมว่าวันนี้มันไม่ธรรมดาสำหรับผมแล้วล่ะ  =   = นอกจากตอนเช้าผม จะโดนสิ่งที่มองไม่เห็นทับร่างบางๆของผม มีปัญหากับสิ่งที่เหนือธรรมชาติ จนมาเรียนเกือบสายโด่ง แล้วไหนจะโดนเพื่อนร่วมชั้นเรียนจ้องกินตับ แล้วเรื่อง นศ. ชาย ตายนั่นอีก โอยเสี่ยวลู่คนนี้ปวดหัวมาก....เพราะคาบเรียนสุดท้าย  เนี่ยล่ะครับ  ก็เพราะมีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นที่ มหาลัยนี่ครับ จนผมลืมไปเลยว่าต้องสอบ

     

    บรรยากาศในห้องเรียนตอนนี้ เงียบยิ่งกว่าป่าช้า เสียง อาจารย์คุมสอบเดินแจกกระดาษดัง

     กรอบแกรบ เข้าหูผมเป็นระยะๆแบบนี้ มันสร้างความกดดัน มากเลยนะครับ  แล้วอีกอย่าง ที่กดดันมากๆคือ ผมไม่ได้อ่านหนังสือเตรียมสอบมาด้วย   T^T   ลู่หานคนนี้ คงถึง คราว สอบตก

     ติด F ติด E แล้วสอบซ่อมแบบ อันลิมิตแน่ๆครับ สงสัยงานนี้ต้องมี Copy & Scene ไม่ก็แปลงร่างเป็นยีราฟ แล้วล่ะนะ

     

    “ข้อสอบนี้คือวิชา ความรู้ทั่วไป มีทั้งหมด 100 ข้อ ข้อละ 1 คะแนน  เป็นแบบ ปรนัย เลือกคำตอบที่ถูกที่สุด เพียงข้อเดียว โปรดอย่าทุจริต เพราะถ้าชั้นจับได้ พวกนายมันก็แค่ เศษขยะ ชิ้นเล็กๆ ในมหาลัยแห่งนี้ หึหึ”

    อาจารย์คุม สอบ ตัวอ้วนหน้าดำ เอ่ยขึ้นมาท่ามกลางความเงียบของ นศ. ทั้งห้อง สงสัยผมจะคิดผิดแล้วครับที่คิดจะส่องข้อสอบเพื่อนข้างๆ  ผมรู้สึกว่าเขาโหดไป โหดเกินกว่าที่ ลู่หานคนนี้จะกล้าทุจริตแล้วครับ  T^T จบแน่ ชีวิตช้าน~~~~~~~~~

     

    เวลาเดินทางมาจนถึง ช่วงสุดท้ายของการสอบ  15 นาที ที่ผม แทบหลั่งน้ำตา  เท่าที่ผมชำเลืองมองเพื่อนข้างๆ ไปข้อที่ 90 กันแล้ว แต่ผม สิ ข้ามข้อที่คิดไม่ออกไว้ ประมาณ 60 ข้อ (ไรท์เตอร์: โธ่ลู่)

     

    ใครก็ได้บอกผมที ว่าข้อที่เหลือตอบอะไรบ้าง? ................................T[]T

    [ข้อแรก ตอบ C]  

    หึ้ย! เสียงใครคุ้นๆ รึว่า เพื่อนข้างๆ กระซิบบอกผม  มองชำเลืองมองไปที่เพื่อนข้างๆ หมอนั่นชำเลืองตากลับมาจ้องผมแล้วเอามือบังข้อสอบมิด เอาล่ะครับ ที่นายจะสื่อถึงก็คือ.........หรือว่านี่คือการส่งซิกสินะ 55 กาตามๆ (ไรท์เตอร์: เข้าใจผิดแล้วลู่)

    “ข้อ 51 ล่ะ”  ผมกระซิบเบาๆ ถามกลับไป

    [ตอบ A]   กาลงไป ^U^

    “ข้อที่เหลือทั้งหมดล่ะ” ผมถามทีเดียวเลย หมอนั่น จะได้บอกผมให้หมด

     

    [ข้อ 70-73 ตอบ D ข้อ 25 กับ 60 ตอบ C ข้อ 11 กับ 96 ตอบ A]

     

    กาแบบสบายๆ ไม่ต้องคิด เลย โอย.................จะถูกจะผิดไม่รู้ เหลือข้อสุดท้าย





    [ขอนี้ไม่ต้องตอบ เว้นเอาไว้ เชื่อผมสิ]



     เชื่อมานานละครับ เชื่อตั้งแต่ข้อแรกละครับ

    “นายดูมืออาชีพ แท้  ยอดจริงๆ  ขอบใจมากนะ”  ผมหันไปมองเพื่อนด้านข้างที่ส่งซิกมาให้ผม แหมไอหมอนี่มันเนียนหลับน้ำลายไหลยืดเร็วจริงๆ เลยครับ ถ้าเขาแสดงละครล่ะก็        คงได้รับโล่ทองคำไปแล้ว

     

    “หมดเวลา! ส่งกระดาษและข้อสอบมา ฉันจะตรวจเอง” ครูผู้คุมสอบ ตะโกนลั่นห้อง        ก่อนกระดาษที่อยู่บนโต๊ะผมจะถูกเก็บไป อย่างรวดเร็ว ต่อไปก็แค่รอสินะครับ  ^U^

     

    “เลขที่ 1-10  ตก  เลขที่ 25-30 ตก ได้คะแนนไม่ถึงครึ่ง ไปสอบซ่อมใหม่พรุ่งนี้”

    หึ้ย! ไม่มีเลขที่ 22 แสดงว่าผมผ่านสินะครับ  เอ๋  แล้ว ทำไมไอเพื่อนคนข้างๆ ผมมันตกงะ ทั้งๆที่มันเป็นคนส่งซิกให้ผมนะ มันชักจะยังไงๆ

    “ที่เหลือ อีก 15 คน ผ่าน แต่ว่า ฉันจะให้ทีละคนออกมาตอบคำถามข้อสุดท้ายกับฉัน”  อาจารย์อ้วนดำ กล่าวก่อน เรียกคนผ่านออกไปนอกห้องทีละคน เพื่อเจรจาอย่างเป็นส่วนตัว

     

    “เลขที่ 22  ออกมา”

     

    ผมโดนเรียกแล้ว..................แต่ว่า ไอคนที่ช่วยผมมันตกไปแล้ว ผมจะตอบคำถามข้อสุดท้ายยังไงล่ะเนี่ย

    ได้เวลายอมจำนนต่อฟ้าดินแล้วเสี่ยวลู่  บอกอาจารย์ไปเลยว่าเรามั่วทุกข้อ ดีไหมเนี่ย ถ้าบอกว่ามีคนบอก โดนจับข้อหาทุจริตแน่นอน แล้ว     อ๊าก........................กลุ้มใจรอบที่สอง          Y (T [] T) Y

    ผมเดินออกมานอกห้องด้วยความกังวล จังหวะการเต้นของหัวใจผมมันช้าลงเรื่อยๆเหรอไงกัน พูดไม่ออก

    “ทำไมนายถึงเว้นข้อที่ 100 ไว้ ”   โอยอย่าเพิ่งถามอะไรได้ไหมครับ ผมยังไม่รู้เลยว่าโจทย์ข้อ 100 มันถามว่าอะไร ผมไม่ได้อ่าน~~~~~~~ T [] T

    “คือ.......” เออ เอาไงดีล่ะ ไม่รู้นี่หว่า  อ๊าก++++++++++ช่วยผมด้วย  พระเจ้าครับไม่อยาก   ตกสอบ

     

    [มันไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง]

    “ครับมันไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง”  หึ้ย! เสียงนี้อีกแล้ว ทำไมกัน แต่ช่างเถอะ  ตอบตามเสียงกระซิบไปแล้วนี่หว่า  อาจจะเป็นเสียง เพื่อนในห้องก็ได้ ใครกันหนาช่วยผม

     

    “แล้วนายรู้ไหมว่าคำตอบที่ถูกต้องคืออะไร”  จะถามผมทำไม !!!!!!!!!!!!!!!  ผมไม่รู้เรื่อง เพื่อนข้างในช่วยเสี่ยวลู่ด้วย  ขอแบบเหมือนเมื่อกี้ อีกคำตอบเดียวแกน่าจะหยุดถามแล้วน้า~~~~~

     

    [ตอบ มาม่า]

     

    “มาม่าครับ”   เสียงสวรรค์มาอีกรอบแล้วครับ จะอะไรก็ไม่สนละทีนี้ พูดตามเสียงพรายกระซิบอย่างเดียว    ว่าแต่ คำถามข้อที่ 100 ตอบ มาม่า มันไม่พิลึกไปหน่อยเหรอครับ เสี่ยวลู่ไม่เข้าใจ ครับ

     

    “นายเก่งมาก เสี่ยวลู่หาน  น้ำเดือดที่อุณหภูมิ ไม่คงที่ แต่ถ้าจะให้คงที่ ระยะเวลาในการถึงจุดเดือดคงที่ก็เท่ากับการต้มมาม่าซองหนึ่ง ณ อุณหภูมิ 100 องศา นายผ่าน”  ไม่น่าเชื่อ O [] O+!

    อาจารย์อ้วนดำ ปรบมือให้ผม  เอ่อ คือ...............ข้อสอบนี้โจทย์ดูมีมาตรฐาน แต่คำตอบ   ตอบแค่มาม่านี่ งั้นเหรอครับ โอยประเทศเกาหลี =  =

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    อ่า~~~ มาอัพให้อีกแล้ว ว่างๆ ก็แต่งแล้วก็อัพให้ ทันที  ไรท์เตอร์ 2
    อาจจะเเต่งสู้ไรท์เตอร์ 1 ไม่ได้นะครับ
    ผมไม่ค่อยจัดฟินเท่าไหร่ครับ ผมจัดความวุ่นวายให้มากกว่า 
    55555555+ ยังไงก็โปรดติดตาม ตอนต่อไปด้วยครับ ^U^ Y 

                                                                                                             

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×