คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : อ้อมกอดแห่งรัก # พบเจอ
_________________________________________
7.30 นาฬิกา
ที่ห้องนอนในบ้านหลังขนาดกะทัดรัดที่ทางโครงการจัดไว้สำหรับอยู่อาศัย เป็นระยะเวลา 3 เดือน ในการทำงานที่ยูนิเวอแซล ออลันโด้ เป็น บ้านที่ทางโครงการจัดให้สำหรับพักหลังละ 4 คน บ้านพักนี้เป็นบ้านพัก 2 ชั้น ชั้นบนมีห้องนอน 2 ห้องนอน เป็นห้องนอนที่มีขนาด มาตรฐาน คือมี 2 เตียงนอน ที่มีความกว้าง3 ฟุตครึ่ง โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อและห้องน้ำในตัว ส่วนชั้นล่าง จะประกอบไปด้วยห้องครัว ห้องนั่งเล่น และห้องน้ำ 1 ห้อง
“ เมย์จ๊ะ ตื่นได้แล้ว นี่เจ็ดโมงครึ่งแล้วน้า เพื่อนๆ คนอื่นๆจะมาถึงแล้วนะ “ เสียงของนภันตาที่ยืนอยู่ข้างๆเตียงของเมย์ทางด้านซ้ายมือที่ติดกับริมหน้าต่าง พูดขึ้นพร้อมทั้งเอื้อมมือมาเขย่าขาของเมย์เบาๆ
“ อือ... ขอนอนต่ออีกหน่อยนึงน้า เมื่อคืนกว่าจะหลับได้ก็ปาไปตี 2 แล้วน้า นี่ง่วงมากๆๆเลย “ เสียงอู้อี้ที่ดังออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มทั้งที่ดวงตายังคงปิดสนิท
“ งั้นก็แล้วแต่เมย์นะจ๊ะ ถ้าอย่างนั้น นุชไปรับเพื่อนๆที่สนามบินก่อนนะจ๊ะ “ คำพูดที่ตอบกลับมาบ่งบอกถึงความเจ้าเล่ห์ เพราะรู้ว่าเมย์นั้น ไม่กล้าอยู่คนเดียวในที่ต่างเมืองแบบนี้หรอก
อพันตีสะดุ้งพรวดจากที่นอนขึ้นมาอย่างรวดเร็วทันทีที่นภันตาพูดจบประโยคพร้อมทั้งเอยออกมาแทบจะไม่เป็นประโยคทีเดียวเลยว่า “ อะไรนะ ว่าไงนะ เมื่อกี๊นุชว่าไงนะ จะไปรับเพื่อนๆใช่ไหม อย่างนั้นเมย์ไปด้วยนะ รอแป็บเดียว ขอเวลา 15 นาทีจะทำอะไรให้เสร็จเลยนะจ๊ะ รอก่อนน้า”
“ หึๆ โอเค ถ้าอย่างนั้นจะก็จะรอก็ได้นะจ๊ะ” น้ำเสียงแบบสบายอารมณ์ตอบกลับมาทันทีที่เห็นอีกฝ่ายรีบลุกพรวดพาดไปยังห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ
หลังจากที่อภันตีอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย เธอก็เลือกสวมใส่ชุดแบบลำลองออกมา ด้วยเสื้อยืดสีดำ ขนาดพอดีตัว เพ้นท์ด้วยกากเพชรด้วยคำว่า Sweet Memories ของ Bossini เข้าคู่กับกางเกงสีขาวแบบสี่ส่วนของ Roxy พร้อมกับถุงเท้าสีขาว เดินลงมายังชั้นล่าง เธอเห็นนภันตา กำลังปิ้งขนมปัง ไว้สำหรับเป็นอาหารเช้าสำหรับทั้งคู่
หลังจากที่ทั้งสองสาวรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ทั้งคู่ก็ได้ตัดสินใจที่จะเช่ารถเล็กๆไว้หนึ่งคันสำหรับการเดินทางโดยเฉพาะเป็นเวลาตลอดการทำงานในซัมเมอร์นี้ หลังจากที่จัดการเรื่องการเช่ารถเสร็จเรียบร้อย สองสาวก็เดินทางไปรับเพื่อนๆของเธอที่สนามบินทันที
............................................................................
“ หวัดดีจ้า ทุกคน ในที่สุดก็มาถึงนะ “ เสียงของอภันตีตะโกนขึ้นมาอย่างไม่ดังมากเมื่อเธอเห็นเพื่อนๆของเธอเดินออกมาจากทางออกของผู้โดยสารขาเข้า
“ หวัดดีจ้า เมย์ นุช “ เสียงที่เต็มไปด้วยความดีใจที่เจอเพื่อนรักทั้งสองคนของพลัมมี่ดังขึ้นมาก่อนเพื่อน
“ ไปกันเถอะ พวกเรา กลับบ้านพักกันก่อนนะพวกเธอจะได้พักผ่อนก่อน แล้วตอนบ่ายเราต้องไปสัมภาษณ์งานกับนายจ้างที่ ยูนิเวอแซลนะจ๊ะ “ เสียงชวนกันกลับบ้านของนภันตาดังขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
“ โอเค กลับบ้านพัก แล้วก็อาบน้ำก่อนละกัน แล้วค่อยออกเดินทางรบ อิอิ “ เสียงของกอล์ฟ พูดขึ้นมาก่อนที่ทั้งหมดจะเดินทางกลับเข้าที่พักของตัวเอง
ในขณะที่อยู่บนรถ โดยมี นภันตา เป็นคนทำหน้าที่ขับรถ และอภันตีนั่งอยู่ข้างคนขับ ขณะที่ทุกๆคนนั่งอยู่เฉยๆโดยการมองวิวตามสายถนนไปเรื่อยๆ แล้วอยู่ดีๆ กิ๊ฟฟี่ก็เอ่ยขึ้นมาว่า “ นี่พวกเรา ๆ ว่านายจ้างคนใหม่ของเราจะเป็นยังไงกันบ้างนะ เนี่ย ก่อนมาน่ะ ชั้นถามพวกรุ่นพี่กับเพื่อนๆของชั้นที่ไปทำงานที่ๆเราจะมาทำงานก่อนแล้วนะ พวกเค้าบอกว่านายจ้างที่นั่นน่ะนะ หล่อมากกกกกกกกก มีอยู่ประมาณ3 คนเห็นจะได้มั้ง 2 คนแรกเป็นฝรั่ง ส่วนอีกหนึ่งคนน่ะ รู้สึกว่าจะเป็นคนไทยนะ “
“ จริงง่ะ พูดเล่นหรือพูดจริงจ๊ะ “ เสียงของกอล์ฟ กับ มิววี่ดังขึ้นมาพร้อมกันทันทีที่กิ๊ฟฟี่พูดจบ
“ ไม่รู้สิ แต่ชั้นว่าถ้าจะจริงนะ ไม่อย่างนั้นมีหรอที่ พี่ปอ รุ่นพี่ชั้นน่ะ จะบ้าอยู่อย่างนี้ “ กิ๊ฟฟี่ยังคงพูดต่อไปเรื่อยๆ “เนี่ยขนาดที่ว่ากลับจากทำงานมาเมื่อปีที่แล้วนะ เขาบอกกับชั้นว่า ถ้าเรียนจบเมื่อไหร่จะไปสมัครงานที่ยูนิเวอแซล แห่งนี้แหละ”
หลังจากนั้นทั้งหมดก็ไม่ได้พูดคุยอะไรอีกจนกระทั่ง นุช หรือ นภันตาขับรถกลับมาถึงที่บ้านพัก ๆแห่งนี้จะอยู่หลังละ 4 คน และตอนนี้ก็มีคนอยู่อาศัยแล้ว 2 คน คืออภันตี และ นภันตา แล้วก็มีมิววี่ กับ กิ๊ฟฟี่มาอยู่ด้วยอีก 2 คน ก็พอดี ส่วนกอล์ฟ กับพลัมมี่ นั้น ได้ตกลงกันแต่แรกแล้วว่าจะไปอยู่บ้านพักของน้าของเธอที่อยู่ห่างจากบล็อกนี้ไปซัก 2 บล็อก เห็นจะได้
..........................................................................
บ่ายโมงตรง
ยูนิเวอแซล ออลันโด้ สตูดิโอ
ห้องประชุมใหญ่
ทุกคนได้มารอกันพร้อมเรียบร้อยแล้ว เบ็ดเสร็จรวมคนทั้งหมดที่มาทำงาน ณ ที่นี้รวม 120 คนในตอนแรก พวกเราทั้งหมดได้ยินว่านายจ้างจะมาทำการสัมภาษณ์งานเป็นรายบุคคล แต่ว่าท่านทั้ง 3 คนเกิดติดธุระกะทันหันทำให้มาตามที่นัดไว้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นการสัมภาษณ์ เป็นอันต้องตัดออกไป จากนั้น เราทั้ง5 คน รวมเพื่อนๆคนอื่นๆอีกที่ทั้งเรารู้จักและไม่รู้จักถูกแยกตัวไปทำงานต่างๆตามที่กำหนดไว้แต่แรกแล้วพร้อมทั้งได้รับการสอนวิธีการทำงานจนเป็นที่เรียบร้อย อภันตี กับ นภันตาได้รับหน้าที่ให้ดูแลเกี่ยวกับการขายตั๋วที่หน้าทางเข้าของ ยูนิเวอแซล ส่วน มิววี่ กอล์ฟ กิ๊ฟฟี่ และ พลัมมี่ ได้รับหน้าที่ให้ดูแลเครื่องเล่นไฟฟ้า เช่น รถไฟเหาะ และการขายอาหาร รวมทั้งการขายของอยู่ในร้านขายของที่ระลึก ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลา 16:00 นาฬิกาแล้ว จากนั้นพวกเราก็ได้รับการอนุญาตให้กลับบ้านพักเพื่อพักผ่อน และให้มาทำงานในเช้าวันรุ่งขึ้น
ทั้งหมดจึงตัดสินใจที่จะแวะทานข้าวที่ตลาดนัดที่มีร้านอาหารเล็กๆร้านหนึ่งตั้งอยู่
“ เชิญ ครับ กี่ที่ดีครับ “ เสียงต้อนรับเป็นภาษาอังกฤษดังขึ้นมาหลังจากที่ทั้งหกสาวเข้ามาในร้านเรียบร้อยแล้ว
“ ทั้งหมด 6 ที่นะครับ รอซักครู่นะครับ “ พนักงานชายคนหนึ่งหันไปพูดกับอีกคนหนึ่งว่า “ 6 ที่ นะ “ แล้วจึงหันมาพูดกับ อภันตีกับนภันตา ด้วยความนอบน้อม ว่า “ เชิญทางนี้ครับ “ หลังจากที่ทั้งหมดนั่งลงกับที่ของตัวเองเรียบร้อยแล้ว จึงเริ่มสั่งอาหาร และการรับประทานอาหารครั้งนี้ก็ผ่านไปด้วยดี หลังจากที่ทั้งหมดรับประทานอาหารและจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว กอล์ฟ กับพลัมมี่ ก็บอกกับเมย์และนุชว่า จะไปซื้อของก่อนให้ทั้งหมดกลับบ้านไปก่อนได้เลย แล้วเจอกันที่ๆทำงาน พรุ่งนี้ เช้า แล้วทั้งคู่ก็ลาเพื่อนๆของตัวเองแล้วก็เดินออกไปจากร้านอาหารเพื่อที่จะไปทำธุระของตัวเองให้เสร็จ
..............................................................................................
Central Village Florida Hotel
ชั้นที่ 30 Sweet Room เวลา 20:00 นาฬิกา
“ อา.......... อื้อๆๆ พอลคะ พอล ๆๆ ได้โปรดเถอะค่ะ “ เสียงหวานที่นอนราบอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์ที่มีร่างกายกำยำของชายหนุ่มผู้หนึ่งนอนทาบกายอยู่บนเรือนร่างขาวผ่องของนาตาชา ที่ครางออกมาอย่างยั้งใจไม่อยู่ เสียงครางนั้นบ่งบอกถึงอารมณ์ของเจ้าของเสียงออกมาได้เป็นอย่างดี
“ อื้อ... อืม ได้โปรดเถอะค่ะ พอล ให้ตาชานะคะ Please .. “ เสียงของเธอยังคงบ่งบอกถึงความต้องการเป็นอย่างมาก
ในขณะที่นาตาชายังคงส่งเสียงครางอยู่นั้น ชายหนุ่มรูปงามที่มีนามว่า พอล หรือ ม.ร.ว ภูมิทัศน์ อัคริศ ก็เริ่มการกระทำที่ทำให้หญิงสาวที่อยู่ใต้ร่างของเขาร้องครางหนักกว่าเดิม ด้วยการใช้ลิ้นร้อนๆของเขาไล้ลงมาจาก ลำคอขาวเรียวของเธอ จนกระทั่งมาถึงหน้าอกอวบอิ่ม เขาฝังจูบลงกลางร่องอกสาวของเธอ และยังคงไล้ลิ้นและริมฝีปากไปยังตุ่มเล็กๆสีชมพูบนยอดอกด้านขวาและย้ายไปสลับข้างไปมาบนยอดอกของหญิงสาว พร้อมทั้งดูด และขบกัดเบาๆเพื่อให้เธอได้รู้สึกเสียวนิดๆ
“ อาๆๆๆ...... พอลคะ พอซะทีเถอะ อย่าแกล้งตาชาอีกเลยนะคะ ตาชาจะตายให้ได้แล้ว “ เสียงที่แสดงถึงความเร่าร้อนเสียวซ่านของเธอดังออกมาจากริมฝีบางปากเล็ก ในขณะที่ร่างกายของเธอก็แอ่นขึ้นเหมือนกับว่าต้องการให้เขาได้กระทำการได้ถนัดถนี่
ในขณะที่ริมฝีปากยังคงทำหน้าที่ของมันอยู่ มือของชายหนุ่มก็ยังคงทำหน้าที่ไปเรื่อยๆ มือข้างขวาของเขาไล้ลงมาเรื่อยๆจนถึงหว่างขาของเธอ และเริ่มลูบไล้เนินเนื้อสาวนั้นเบาๆ จากนั้นเขาจึงเริ่มใช้นิ้วมือของเขาสอดใส่เข้าไปในกายของเธอ ทางเข้านั้นเข้าไปได้ง่ายมาก เนื่องจากว่าน้ำสวรรค์หล่อลื่นเต็มไปหมด เขาชักนิ้วเข้าและออกอย่างช้าๆ จากนั้นก็เริ่มเร่งมือด้วยการทำให้มันเร็วๆขึ้นๆ พร้อมทั้งริมฝีปากก็ยังคงวันเวียนอยู่กับหน้าอกของเธอตลอดเวลา ชายหนุ่มมีความรู้สึกว่า ความเป็นชายของเขาเริ่มอึดอัดมากขึ้นๆ จนเขาคิดว่าคงจะถึงเวลาที่จะสอดใส่เข้าไปในกายของเธอแล้ว เขาจึงเริ่มลงมืออีกครั้ง โดยการถอนนิ้วออกจากช่องทางสวรรค์
“ อื้อ .... พอลคะ ทำไมล่ะ มาเร็วๆสิคะ ตาชาจะไม่ไหวแล้วนะ “ เสียงร้องครางอย่างไม่พอใจหลุดลอดออกมาจากริมฝีปากของหญิงสาวเนื่องจากว่าชายหนุ่มได้ถอนนิ้วออกจากกายของเธอ มันทำให้เธอรู้สึกอารมณ์ขาดตอนขึ้นมาทันที
“อ๊ะ อื้อ.. อื้อๆๆๆๆ พอลๆๆๆๆ “ เธอร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อเขาสอดใส่ความเป็นชายของเขาเข้ามาในตัวเธออย่างรวดเร็ว ภูมิทัศน์ยังคงโจนจ้วงมาอย่างให้เธอไม่ได้ตั้งตัว พร้อมทั้งดันเข้าดันออกอย่างแรง
ทันใดนั้นนาตาชาก็รู้สึกได้ทันทีเลยว่าเธอใกล้จะถึงแล้ว “อา.......... พอล “ พร้อมทั้งร้องตะโกนมาอย่างสุดเสียง
“ฮึ่ม ๆๆๆ” เสียงคำรามครางของชายหนุ่มเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากกระด้าง พร้อมทั้งปลดปล่อยสายพันธ์ออกมาทันที จากนั้น เขาก็ถอนตัวออกมาจากความอ่อนนุ่มของเธอทันที
“ พอลคะ คุณเก่งมากเลยค่ะ คุณทำให้ตาชาไม่อยากอะไรอีกแล้วนอกจากคุณเลยค่ะ “ เสียงหวานๆ พูดออกมาเบาๆขนาดที่นอนซบอกของชายหนุ่มอยู่
“ ลุกขึ้นได้แล้วล่ะ ตาชา ผมต้องไปแล้ว แต่ถ้าคุณอยากจะอยู่ต่อก็ตามใจคุณละกัน “ ภูมิทัศน์พูดขึ้นเฉยๆมาพร้อมทั้งลุกออกจากเตียงและเดินเข้าล้างตัวในห้องน้ำ ซักพักหนึ่งเขาก็เดินออกมาพร้อมทั้งกับการแต่งตัวที่เรียบร้อยด้วยชุดสูทของเวอซาเช่ แล้วก็เดินออกไปจากห้องนั้นทันที
“ บ้าๆๆๆๆ คนบ้า นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป “ เสียงบ่นๆเล็กของนาตาชาแสดงออกออกมาถึงความไม่พอใจในตัวชายหนุ่มป็นอย่างมาก
.......................................................................................
6:30 นาฬิกาเช้า
“เมย์ ตื่นๆๆๆๆๆๆ ได้แล้วจ้า ลุกขึ้นมาอาบน้ำได้แล้ว คนอื่นเขาตื่นกันหมดแล้ว ตื่นแล้วก้ไปอาบน้ำแล้วก็ลงมากินข้าวกันได้แล้วนะจ๊ะ “ เสียงของนภันตาที่ต้องเป็นคนปลุกเมย์ หรือ อภันตีดังขึ้นมาอีกครั้งในตอนเช้า กลังจากที่ปลุกไปแล้วรอบแรกตอน 6 โมงเช้า แต่ว่าหญิงสาวไม่ยอมตื่น
“ โอเค ตื่นแล้ว “ เสียงงัวเงียๆของอภันตีดังตอบกลับมา
15 นาทีผ่านไป
“อ้าวทุกคน มากันแล้วหรอ แล้วกินข้าวกันรึยังล่ะ “ เสียงหวานใสของอภันตีดังขึ้น เมื่อเห็นว่าทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า ทุกคนสวมใส่ขุดฟอร์มที่ ทางสถานที่จัดหามาให้เป็นแบบกางเกงขายาวทรงแสล็คสีดำ กับเสื้อสายเดี่ยวสีขาวข้างใน และก็ทับด้วยเสื้อแจ็คเก็ต พร้อมทั้งรองเท้าผ้าใบเป็นที่เรียบร้อย
“ กินแล้วจ๊ะ นี่ก็เหลือแต่เมย์คนเดียวแล้วนะ รีบลงมากินเร็ว จะได้ไปทำงานกันซะที “ เสียงเรื่อยๆของมิววี่ตอบกลับไปยังผู้ถามในตอนแรก
“ โอเค รีบกิน รีบไป “ อภันตีตอบกลับมาด้วยความเร็ว
หลังจากที่ทุกรออภันตีรับประทานอาหารเสร็จแล้วเป็นเวลา 20 นาที ทั้งหมดก็ออกมารอที่หน้าบ้าน เพื่อรอให้นุช หรือนภันตาขับรถออกมาจากโรงรถ เมื่อทุกคนขึ้นรถกันเสร็จเรียบร้อย รถที่มีนภันตาทำหน้าที่เป็นคนขับก็เคลื่อนออกจากตัวบ้าน
.......................................................................................................................
7:30 นาฬิกา
ห้องประชุม ยูนิเวอแซล
“ เมื่อทุกคนมากันครบแล้ว ขอให้ทุกคนแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ๆ ได้รับมอบหมายของตัวเองด้วยนะครับ “ เสียงของหัวหน้างานของแต่ละกลุ่มเอ่ยขึ้นมา หลังจากที่นับคนตามรายชื่อกลุ่มที่มีอยู่ในมือ
“ เมย์ กับ นุช เดี๊ยวเราเจอกันตอนพักนะจ๊ะ “ พลัมมี่พูดขึ้นมาหลังจากที่ต้องแยกย้ายไปทำงานตามหน้าที่ของแต่ละคน
“ ได้เลย แล้วเจอกันตอนพักที่ Bistrow ( โรงอาหาร ) นะจ๊ะ “ นภันตาตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม
“ เอาล่ะ เราไปเริ่มลงมือทำงานกันเถอะนะ นุชนะ “ เสียงของอภันตีหันไปพูดกับนภันตา หลังจากที่ เธอเห็นเพื่อนของเธอทั้ง 3 ได้เดินออกไปประจำแต่ละจุดของตัวเองแล้ว
“ อืม ไปกันเถอะ “ น้ำเสียงของนภันตาพูดออกมาเบาๆ
ที่เคาน์เตอร์ขายตั๋ว
“ น้องต้องทำหน้าที่ขายตั๋ว โดยการนั่งอยู่ตรงนี้นะ นี่ราคาค่าตั๋ว เป็นราคาเดียวหมดเลยนะคะ ใบละ 55 ดอลนะน้อง อ้อ อย่าทอนเงินผิดล่ะ เพราะว่าผิดมาล่ะยุ่งเลย “ เสียงของพี่เลี้ยงชาวอเมริกาที่คอยดูแลการฝึกงานของทั้งอภันตีและนภันตาดังขึ้นมาอย่างเอ็นดูที่เห็นเธอทั้งคู่ดูขยันทำงานเป้นอย่างมาก
“ โอเค เลยค่ะ พี่คนสวย หนูทั้งสองคนจะพยายามไม่ทำให้ผิดพลาดนะคะ “ อภันตีตอบกลับอย่างรวดเร้วพร้อมกลับหยอดลูกยอเข้าไปด้วยอีกครั้งหนึ่ง แต่ก่อนที่พี่เลี้ยงของเธอจะเดินจากไปนั้น เธอได้พูดเบาๆ กับน้องเลี้ยงของเธอทั้งสองคนว่า “ รู้สึกว่าวันนี้ผู้บริหารที่มีหุ้นส่วนของที่นี่อยู่ครึ่งหนึ่งจะมาตรวจดูงานด้วยนะ น้องต้องทำงานดีๆล่ะ จะได้ไม่ถูกเข้าไล่ออก “ พี่เลี้ยงยังคงพูดต่อไปว่า เห็นเขาบอกว่าผู้บริหารคนนี้เป็นคนไทยด้วยนิ แต่ว่ามาเข้าหุ้นกับเพื่อนที่นี่น่ะ “ จากนั้นพี่เลี้ยงของพวกเธอก็เดินจากไป อภันตี และนภันตา ได้ทำงานถึง เวลาพัก และทั้งคู่ก็ได้เปลี่ยนเวรพักกับเพื่อนอีก สองคนที่พึ่งรู้จักกัน จากนั้นก็เดินไปหาเพื่อนๆของเธอที่ นัดกันไว้ที่ café และก็ไปทานข้าวด้วยกันทั้ง 6 คน จากนั้น ทั้ง คู่ก็กลับมาทำงานตามเวลาเดิมของเธอ
จนกระทั่ง เวลาประมาณ 15:30 นาฬิกา
มีชายหนุ่มผู้หนึ่งเดินเข้ามาเคาะกระจกหน้าเคาน์เตอร์ แต่ในขณะนั้นอภันตีกำลังนั่งหันหลังเพื่อค้นหาของบางอย่างอยู่ และเธอก็เริ่มรู้สึกตัวว่ามีคนมาเคาะอยู่ที่หน้ากระจก ทันทีที่เธอเปิดกระจกและจะถามว่ามีอะไรให้ช่วยไหมคะ อยู่ดีๆ ชายหนุ่มคนนั้น ก็ถามเธอว่า “ นี่เธอ ไม่เห็นรึไงว่าลูกค้ายืนรออยู่ด้านหน้าน่ะ แล้วแทนที่เธอ จะเข้าไปช่วยดูแลและนำเขาซักนิดน่ะมีไหม “
อภันตีถึงกลับพูดอะไรไม่ออกถึงกลับหน้าซีด แต่ซักพักนึงเธอก็เริ่มกลับมาเป็นตัวของตัวเอง แล้วเธอก็ตอกกลับไปว่า “ ถ้าเห็นแล้วชั้นจะมายืนให้คุณด่าอยู่ตรงนี้หรือไง “ เธอพูดกลับไปโดยไม่ได้สังเกตหน้าตาของชายหนุ่มผู้นั้นแม้แต่น้อย เพราะว่าเธอรู้แต่ว่าเธอโกรธมากที่อยู่ดีๆๆก้มีคนมาด่าว่าเธอปาวๆ อยู่นั่นเอง
ทันใดนั้น พี่เลี้ยงของเธอก็เดินออกมาจากประตูและสังเกตเห็นว่าดูเหมือนน้องเลี้ยงของเธอจะมีเรื่องเธอจึงรีบเข้ามาเพื่อจะเคลียร์เหตุการณ์ให้ แต่ที่ไหน ได้ พอเธอไปถึงที่ และมองหน้าชายหนุ่มตัวต้นเหตุที่มาของเสียงทะเลาะกัน นั้น พี่เลี้ยงสาวก็ต้องถึงกับสะดุ้ง เพราะว่า ชายหนุ่มที่ว่า นั้นก็คือ ผู้บริหารคนหนึ่งของที่นี่น่ะเอง หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ม.ร.ว ภูมิทัศน์ อัคริศ นั่นเอง
ทันใดนั้น อภันตีจึงหันไปมองหน้าชายหนุ่มให้ชัดๆ และก็ต้องตกใจแทบช็อค อีกครั้งหนึ่งเพราะว่าชายหนุ่มผู้นี้หน้าตาเหมือนกับผู้ชายที่อยู่ในความฝันของเธอนั่นเอง!!!!!
...................................................................................................................
ความคิดเห็น