คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : อ้อมกอดแห่งรัก # ให้ไปอเมริกาได้
เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่แต่งค่ะ ยังไงก็ช่วยให้กำลังใจกันด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
_____________________________________________________________
นะคะ นะคะ น้าๆๆๆๆ ให้เมย์ไปเถอะนะคะ คุณแม่ " เสียงหวานๆที่ดังออกมาจากริมฝีปากของหญิงสาวที่มีชื่อว่า เมย์ หรือ นางสาว อภันตี สราญวงศ์ฉัตร ที่กำลังขอร้องมารดาของเธอ
" เมย์จะไปจริงๆหรอลูก แม่ไม่อยากให้หนูไปเลยนะ " เสียงที่เป็นกังวลผสมความห่วงของ คุณ สรัลดาผู้เป็นมารดาของเธอตอบกลับมา
"โธ่ คุณแม่คะ แค่ 2-3 เดือนเองนะคะ แล้วเมย์ก็ไม่ได้ไปคนเดียวซะหน่อยนะคะ น้องนุชก็ไปด้วยอีกคนแล้วยังรวมกลับเพื่อนๆของน้องนุชที่กลายเป็นเพื่อนเมย์อีกตั้ง7คนน่ะค่ะ "
" น้องนุช หรือ นภันตา "เป็นลูกพี่ลูกน้องที่สนิทสนมกับอภันตีเป็นอย่างมากเพราะว่านอกจากจะได้ทำงานด้วยกันแล้ว ทั้งคู่ยังศึกษาอยู่ที่สถาบันอุดมศึกษาของเอกชนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทยอีกด้วย อ้อ แล้วตอนนี้ทั้งคู่ก็ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 เพียงแค่ต่างกันที่คณะเท่านั้นเอง อพันตี ศึกษาที่คณะศิปศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ แต่ นภันตากับเลือกที่จะศึกษาในคณะบริหาร
นภันตา และ อพันตี มีความสวยน่ารักต่างกันไปคนละแบบ นภันตา เป็นหญิงสาวที่มีผิวขาวอมชมพู ดวงตาเพียงชั้นเดียว แต่ว่า กลมโต จมูกโด่งและริมฝีปากเล็กเหมือนตุ๊กตาจีน รูปร่างสมส่วน มีความสูงเพียง 158 เซนติเมตร จึงดูตัวเล็กไปหน่อย แต่ว่า มีความมั่นใจในตัวเอง แต่กับ อพันตี เธอมีดวงหน้ารูปไข่ ผิวออกขาวเหลือง แต่ไม่ใช่แบบเหลืองซีด ดวงตาสองชั้นกลมโต จมูกที่กลมมน และริมฝีปากที่อวบอิ่มสีชมพูระเรื่อและรูปร่างที่สูงกว่านภันตาประมาณ 5เซนติเมตร ทำให้เธอดูสูงเพรียวกว่าลูกพี่ลูกน้องของเธอ
ในขณะเสียงหวานที่ยังคงคะยั้ยคะยอ และ พยายามโน้มน้าวใจผู้เป็นมารดาให้อนุญาติให้เธอไปทำงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือที่ หลายๆคนเรียกว่า" ประเทศแห่งเสรีภาพ ที่ซึ่งไม่จำกัดสิทธิบุคคลเหมือนกลับหลายๆประเทศอื่นๆ ทันใดนั้น " กริ๊ง กริ๊ง ๆๆๆ" เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
" เอาอย่างนี้ดีกว่า ลูกลองไปขอคุณพ่อดูสิจ๊ะ ถ้าคุณพ่ออนุญาติ แม่ก็จะอนุญาติให้ลูกไปได้จ๊ะ " มารดาของเธอพูดแล้วยิ้มน้อยๆให้เธอนิดนึงก่อนจะเดินออกไปรับโทรศัพท์ที่แม่น้อย หรือ แม่นมของอภันตี มาตามว่าหม่อมขจิตา เพื่อนเก่าที่สนิทมากของมารดาของเธอที่เสกสมรสไปกับหม่อมเจ้า เทพราช อัคริศ โทรศัพท์มาหาเรื่องการกุศลต่างๆ
" เอ ถ้าขอคุณพ่อ ๆจะให้ไปไหมน้า ต้องให้ไปอยู่แล้วล่ะ ก็คุณพ่อตามใจเราจะตายไป " อพันตีคิดอย่างมาดหมายอยู่ในใจ
......................................................................
ตกเย็น หลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อย
คุณพัทธ์ สราญวงศ์ฉัตร ผู้เป็นบิดาของ อพันตี ได้เดินเข้ามยังห้องนั่งเล่นพร้อมทั้งลูกสาวตัวดี และคุณสรัลดา ภรรยาสุดที่รักก็เข้ามาพร้อมกัน
ที่ห้องนั่งเล่น ที่มีเครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่างครบครัน ที่ประกอบไปด้วย โทรทัศน์ Bravia เครื่องเสียงแบบชุดเสตอริโอชุดใหญ่ เครื่องเล่นภาพยนตร์ล่าสุด รวมไปถึงเครื่องฉายภาพยนตร์ที่เหมือนกับฉายในโรงภาพยนตร์ใหญ่ๆตั้งอยู่กลางห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่
อพันตีเริ่มด้วยคำพูดออดอ้อน คุณพ่อของเธอ " เอ่อ... คุณพ่อคะ คุณพ่อรักเมย์ไหมเอ่ย???"
" พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนอย่างงี้ ต้องการอะไรกันแน่เจ้าตัวดี หือม์?" น้ำเสียงอารมณ์ดีของผู้เป็นบิดาตอบกลับด้วยรอยยิ้มอยู่เป็นนิจ
" เอ่อ คือว่า เอ่อ เมย์อยากจะขออนุญาติคุณพ่อไปทำงานที่อเมริกากับน้องนุช ได้ไหมคะ" คำพูดที่พูดออกมาอย่างรวดเร็วทำให้คุณพัทธ์ต้องถามลูกสาวใหม่อีกที
" ว่าไงนะลูก พูดใหม่อีกรอบสิจ๊ะ " เสียงของคุณพัทธ์ยังคงพูดเรื่อยๆ
" โอเคค่ะ คืออย่างงี้นะคะ คุณพ่อ เมอยากจะขออนุญาติไปทำงานที่อเมริกาแค่ประมาณ 2-3 เดือนเองค่ะ ตอนซัมเมอร์น่ะค่ะ กับน้องนุชและเพื่อนๆรวมมั้งหมด 7-8 คนค่ะ คือเพื่อนๆนี่คุณพ่อกับคุณแม่ก็รู้จักไม่ใช่หรอคะ " อพันตีค่อยๆพูดออกมาช้าๆชัดๆกับพ่อของเธอ
" โอยๆๆๆๆๆ จะได้ไหมน้า บางทีคุณพ่อก็ใจดีสุดๆ แต่ถ้าพูดว่าไม่ล่ะก็ งานนี้อดโต๋แน่เลย " อพันตีคิดในใจอย่างเป็นกังวล
คุณพัทธ์นิ่งเงียบไปซักพักนึง เพื่อรอดูสีหน้าของลูกสาวอันเป็นที่รักซีดๆแดงๆ แล้วก็พูดออกมาว่า
" ตกลง พ่อให้เมย์ไปทำงานที่อเมริกา "
" หา!!!! ว่าไงนะคะ จริงหรอคะ คุณพ่อให้เมย์ไปทำจริงๆแน่หรอคะ โอ๊ยดีใจจังเลยค่ะ โอย ขอบคุณค่ะ คุณพ่อ ขอบคุณค่า รักคุณพ่อที่สุดเลยค่า " หญิงสาวดีใจมากเข้าไปกราบที่อกของคุณพ่อตัวเองแล้วก็อ้าแขนเข้าไปโอบเอวของคุณพ่อสุดที่รักของเธอ แล้วก็เดินออกไปจากห้องนั่งเล่นเพื่อโทรหาน้องนุช ว่าคุณพ่อของเธออนุญาติให้ไปทำงานได้
ฝ่ายคุณสรัลดา ก็อึ้ง เนื่องจากไม่คิดว่าคุณพัทธ์ สามีของเธอจะอนุญาติให้ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนไปทำงานที่อเมริกา ก็เลยพูดอะไรไม่ออก จนกะทั่งคุณพัทธ์เข้ามาพูดกับเธอด้วยเสียงที่อ่อนโยนว่า
" ไม่ต้องห่วงหรอกที่รัก ลูกของเราโตแล้ว ต้องรู้จักทำงาน ช่วยเหลือตัวเองให้เป็นนะจ๊ะ ไม่ใช่ว่าเป็นแต่คุณหนูที่ทำอะไรไม่เป็น "
" นั่นสินะ ถ้าเธอมัวแต่ห่วงลูกแล้วไม่ยอมปล่อยลูกให้ออกไปผจญกับโลกภายนอก ลูกสาวของเธอคงทำอะไรไม่เป็นแน่แท้ " หลังจากคิดได้ดังนั้นแล้ว คุณสรัลดาก็ยิ้มให้กลับสามีของเธอ แต่ก็ยังไม่วายพูดด้วยน้ำเสียงที่ห่วงแสนห่วงว่า " ฉันห่วงลูกนะคะคุณ ลูกเราเป็นผู้หญิงนะคะ แล้วก็เพิ่งจะอายุได้เท่าไรเอง"
" ไม่ต้องห่วงหรอกจ๊ะ ลูกเราเก่งอยู่แล้ว เอาตัวรอดได้สบายนะ ถ้าลูกมีปัญหา เราก็อย่าลืมสิว่าเราเป็นใคร ทำไมเราจะช่วยลูกเราไม่ได้" น้ำเสียงของคุณพัทธ์พูดออกมาอย่างสบายในอารมณ์
" ไม่ต้องคิดมากหรอกจ๊ะ เราก็รอดูต่อไปละกันว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด"
..................................................................
ติดตามตอนต่อไปนะคะ
ความคิดเห็น