ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] ♡ Short Fiction's storehouse.

    ลำดับตอนที่ #4 : MARKSON : [SF] once upon a time

    • อัปเดตล่าสุด 2 มิ.ย. 58


    [SF] once upon a time

    Rate : PG

    Pairing : Mark & Jackson

    OPV : https://www.youtube.com/watch?v=g54OGf8NwW8

    Summary : เออยู่ตรงนั้นสบายดีไหม... ฉันอยู่ตรงนี้เป็นเหมือนเดิม คิดถึงเธอทุกวัน



                 "มาอีกแล้วนะมาร์ค"

                 "ครับ"


                 เสียงหญิงสาววัยเกษียณตะโกนทักทายชายหนุ่มผมสีแดงสว่างที่มาหยุดยืนริมทะเลที่เดิมเวลาเดิมอยู่เป็นประจำ ในช่วงแรกก็สร้างความสงสัยให้กับหญิงสาวจนคลับคล้ายคลับคลาว่าอีกฝ่ายประสงค์ร้าย แต่เมื่อถามออกไปตรง ๆ ก็ได้รับคำตอบเพียงแค่ 'มาเพื่อนึกถึงใครคนหนึ่ง' ก็เท่านั้น



                 มาร์คจะมาที่นี่ในทุกวันที่ 9 ในทุกเดือน ในทุกปี และวันนี้ก็เป็นวันที่ครบรอบสามปีแล้วที่เขาเดินทางไม่ต่ำกว่าสามชั่วโมงจากโซลเพื่อมาที่นี่


                 ที่ที่ได้รับความรักมา
                 และที่ที่ความรักจากไป


                 เสียงพ่นลมหายใจออกจากปากแบบที่ไม่ใช่การถอนหายใจด้วยความเหนื่อยล้า แต่เป็นการแสดงออกถึงความว่างเปล่าในหัวใจ เมื่อคนที่เขารอคอยมาตลอดสามปีนั้นได้จากเขาไป... 

                 ...ไม่อยากจะใช้คำว่า 'ตลอดกาล'

                 "นายไปอยู่ที่ไหนนะ แจ็คสัน"

     

     

     

                 4 กันยายน 2011 

     

                 "แฮปปี้เบิร์ธเดย์นะไอ้ลูกหมา!"

                

                 เสียงตะโกนข้ามตึกเรียนเรียกความสนใจไม่เพียงเฉพาะแค่มาร์ค แต่เป็นเพื่อนแทบจะทั้งตึกเรียนทั้งชั้นที่เขายืนอยู่ พอหันกลับไปตามเสียงเรียกก็เห็นเพื่อนตัวอ้วนฉีกยิ้มแก้มแทบปริใส่เขา ผมหน้าม้าสีน้ำตาลอ่อนเปียกเหงื่อเล็กน้อย น่าจะมาจากการวิ่งขึ้นมาชั้น 6 เพื่อมาตะโกนข้ามตึกเป็นหนังอินเดียใส่เขา มาร์คหัวเราะให้กับความบ้าปนติ๊งต๊องของ 'เพื่อนรัก' คนนี้

     

                 "ขอบใจนะไอ้ลูกแมว!"

                 แต่มาร์คเองก็ติ๊งต๊องไม่ต่างกัน



               23 ธันวาคม 2011

                 "คริสต์มาสนี้อยากได้อะไรเป็นพิเศษไหม ?"

                 "ไม่รู้สิ .. อาจจะแฟนสักคน ฮ่าๆ"

     

                 มาร์คหัวเราะเบา ๆ ให้กับคำตอบที่แจ็คสันตอบคำถามเขามา มันเป็นเรื่องปกติของเด็กหนุ่มมัธยมปลายอย่างพวกเขาที่อยากหาใครสักคนมาอยู่ข้างกันบ้าง เป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะหาคนรัก 

                 มาร์คยังคงยิ้มให้กับคนข้าง ๆ

     

                 "อ๊ะ"

                 "มีอะไรแจ็คสัน ?"

                 "เศษเหรียญมันกลิ้งไปน่ะสิ" แจ็คสัน "เหรียญ 50 เซนต์น่ะ"

                 "แล้วไปทำอีท่าไหน ?" มาร์คถามพลางยื่นเท้าไปกันเศษเหรียญไม่ให้กลิ้งไปไกลกว่านี้

                 "ก็ดูกระเป๋าตังค์ฉันสิ" แจ็คสันขมวดคิ้ว "แหกจนไม่รู้จะแหกยังไงแล้ว" 

                 แจ็คสันยกกระเป๋าเงินสองทบหนังสีน้ำตาลขึ้นมาให้มาร์คดู เมื่ออีกคนได้เห็นก็กลั้นหัวเราะไว้แทบไม่อยู่ กระเป๋าของเจ้าลูกแมวแทบจะหลุดออกเป็นสองชิ้น โชคยังดีที่เทปใสนั้นคอยยึดกระเป๋าสองชิ้นนั้นเอาไว้

                

                 "ฉันว่านายต้องการกระเป๋าตังค์สักใบก่อนจะหาแฟนสักคนแล้วล่ะ"

     

     

     

                 ถ้าหากเราไม่กล้าไปยังสถานที่ใด
               ความทรงจำมักอบอวลอยู่ภายในสถานที่นั้น


                 สเก็ตบอร์ดเพนนีสีฟ้าหยุดลงตรงหน้าคาเฟ่ 24 ชั่วโมงที่เขาเคยสั่งคาปูชิโน่ทานเป็นประจำ และลูกแมวของเขาก็เอาแต่ทานโกโก้ร้อน เพราะอีกคนไม่ทานกาแฟ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแต่ละชนิดมันต่างกันอย่างไร มาร์คเลยต้องคอยช่วยเหลือเวลาสั่งเครื่องดื่มอะไรอยู่เสมอ

                

                 เจ้าของผมสีแดงหยิบสเกตบอร์ดขึ้นพาดลำตัวก่อนจะตรงไปที่หน้าประตูคาเฟ่นั้น แต่เดินไปได้สักพักเขาก็หยุดฝีเท้าเอาไว้ ไม่รู้ว่าจะเข้าไปในร้านด้วยความรู้สึกแบบนี้ได้อย่างไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเข้าไปสั่งอะไรในร้านทาน เพราะนอกจากคาปูชิโน่ที่ทานประจำก็คงเป็นเมนูเดิม ๆ ที่เจ้าลูกแมวตัวนั้นดื่มอยู่เสมอ

     

                 แล้วจะไม่ให้คิดถึงได้อย่างไร

     

                

                 15 มกราคม 2012

     

                 “กินอะไรดีนะ ...”

     

                 เสียงทุ้มพูดขึ้นพร้อมวงแขนที่โอบรอบคนตัวเตี้ยกว่าอย่างจงใจ แจ็คสันวูบไหวอยู่เล็ก ๆ  แต่ก็ยังคงทำตัวเป็นปกติเหมือนกับนี่เป็นสิ่งที่มาร์คทำอยู่เสมอ รอยยิ้มกว้างเผยให้เห็นเขี้ยวยังคงอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับริมฝีปากที่เอ่ยสั่งชาร้อนตามสไตล์คนติดคาเฟอีนอย่างมาร์ค

     

                 “นายไม่กินอะไรเหรอ ?” มาร์คถาม

     

                 “อืม... ขอคิดดูก่อน” แจ็คสันลูบคาง “นายไปนั่งรอเถอะ”

     

                

                 นมสดวานิลลาปั่นอยู่ในมือเล็ก ๆ ของแจ็คสัน มาร์คยิ้มน้อยให้กับความเป็นเด็กของอีกคนที่ไม่ยอมกินอะไรที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนเป็นเรื่องเป็นราวสักที แต่น่าแปลกที่กลับซดน้ำอัดลมได้เป็นขวดลิตร ตรงข้ามกับเขาที่ไม่แม้แต่จะแตะพวก cider เลย

     

                 “นายจะเข้าคณะอะไร ?” แจ็คสันถาม “แต่ถ้าให้ฉันเดา... นายต้องเรียนสถาปนิกแน่ ๆ”

     

                 “ไม่หรอก...” มาร์คเปิดหนังสือคณิตศาสตร์ “ฉันจะเข้าบริหาร...”

     

                 คำตอบทำให้แจ็คสันขมวดคิ้วสงสัยอยู่ไม่น้อย เพราะเขารู้ดีว่าคนตรงหน้าเกลียดวิชาคำนวณมากแค่ไหน ยอมเรียนสายศิลป์เพื่อที่จะได้หลีกเลี่ยงวิชาคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ไป แต่สุดท้ายก็กลับมาเข้าคณะที่ต้องใช้วิชาพวกนี้อยู่มากโข

     

                 แจ็คสันเปิดหนังสือชีววิทยาอย่างเงียบ ๆ ไล่ทบทวนคำศัพท์แปลกประหลาดที่ให้มาร์คสาบานที่ไหนก็ได้ว่าบางคำเขาต้องไม่เคยพบเจอมาก่อนเลยในชีวิต แจ็คสันเรียนเก่งและอยู่ในลำดับต้น ๆ ของสายการเรียนวิทยาศาสตร์ แน่นอนว่าเด็กเรียนดีอย่างเขาก็คงไม่พ้นคณะทางการแพทย์ หรือถ้าไม่มีหวังกับคณะนี้จริง ๆ เส้นทางสายกีฬาก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับนักกีฬาทีมชาติอย่างเขา

     

                 “ทำไม ?” มาร์คจ้องหน้าอีกฝ่ายตรง ๆ “ตกใจเหรอที่จะเลือกแบบนี้”

     

                 “ก็...” แจ็คสันอ้ำอึ้ง “ฉันเห็นว่านายไม่ชอบ..”

     

                 “รู้ใจตลอดนะ”

     

     

     

     

               9 มิถุนายน 2012

     

     

                 “ฉันต้องไปเรียนหมอที่จีน...”

     

                 ประโยคเดียวทำให้มาร์คแทบจะทรุดลงไปยังพื้นที่ชื้นแฉะ ร่มที่อยู่ในมือของเขาร่วงลงสู่พื้นจนทำให้แจ็คสันเองก็ใจหาย มาร์คไม่ทำอะไรเพิ่มเติมนอกจากยิ้ม ยิ้มกว้างที่สุดเท่าที่ใครเคยได้เห็นจากคนที่ดูเย็นชาขนาดนี้ คนตัวเล็กกว่าน้ำตารื้น ทั้งตกใจปนทำอะไรไม่ถูก เพราะเขาไม่เคยเห็นเพื่อนของเขาเป็นแบบนี้ ไม่เคยต้องเจอกับสถานการณ์ยากลำบากแบบนี้มาก่อน

     

                 “โชคดีนะ” มาร์คยิ้ม “แล้วไว้เจอกัน”

     

                 “นาย... ไม่เป็นไรแน่นะ”

     

                 “ไม่เป็นไรหรอก”

     

     

                 เท้าสองคู่เดินเคียงคู่กันมาเรื่อย ๆ จนถึงชายหาดที่สงบเงียบเพราะเป็นเวลาโพล้เพล้แล้ว แสงสีส้มสาดไปทั่วบริเวณชายหาดรวมถึงน้ำทะเลที่ไกลสุดลูกหูลูกตานั้นด้วย มาร์คกับแจ็คสันทำเพียงแค่เดินตามกันมาและลดตัวลงนั่ง ณ จุดหนึ่งของหาดทราย ถ่ายรูปโพลารอยด์คู่กันไว้เพียงสองใบ เพื่อให้ต่างฝ่ายต่างเก็บไว้เป็นที่ระลึก

     

                 แจ็คสันเก็บโพลารอยด์รูปนั้นไว้ในกระเป๋าเงินที่มาร์คซื้อให้เป็นของขวัญในวันคริสต์มาส คนตัวเล้กยิ้มกว้างพลางชูกระเป๋าเงินอวดขึ้นว่าได้เก็บรูปที่สำคัญนี้ไว้ในที่ที่สำคัญมากเช่นกัน มาร์คยิ้มน้อย ๆ ให้กับความน่ารักของแจ็คสัน ก่อนจะพูดอะไรบางอย่างขึ้น

                

                 “จริง ๆ มีเรื่องสำคัญที่อยากจะบอก”

     

                 “มีอะไรเหรอ ?”

     

                 “ชอบ...” มาร์คก้มลงมองผืนทราย “ฉันชอบนาย... แจ็คสัน”

     

     

                 ความเงียบเกิดขึ้นเป็นเวลาร่วมนาที เสียงคลื่นกระทบหาดทรายยังคงดังอยู่รอบ ๆ เป็นจังหวะต่อเนื่อง เข็มนาฬิกายังคงเดินต่อไปเรื่อย ๆ และสายลมก็ยังคงพัดเอื่อยอยู่รอบตัวของพวกเขา ทุกอย่างยังคงเคลื่อนไหวและเป็นไปอย่างปกติตามแบบของมัน มีเพียงมาร์คเท่านั้นที่เปลี่ยนไป

     

               อาจจะเปลี่ยนไปนานแล้วก็ได้

               เพียงแค่ไม่เคยรู้สึกตัว

     

     

                 “ทำไมถึงชอบ ?” แจ็คสันถามขึ้นเบา ๆ หลังจากให้ความเงียบครอบครองช่วงเวลาสำคัญไปร่วมหลายนาที

     

                 “ไม่รู้...” มาร์คตอบ “รู้อีกทีก็ชอบไปแล้ว”

     

                 “แน่ใจนะว่าที่ทำอยู่คือชอบจริง ๆ

     

                 “...ที่มาบอกก็อาจจะเป็นเพราะ...” มาร์คสูดลมหายใจ “จะเลิกชอบแล้ว...”

     

                 “...”

     

                 “อยากให้รู้ไว้ว่า... นายเคยทำให้คนหนึ่งคนชอบนายได้...”

     

                 “มาร์ค...”

     

                 “...และฉันคิดว่านายคงทำให้ใครชอบนายได้อีกเช่นกัน...”

     

     

     

               9 มิถุนายน 2015

     

                 รูปโพลารอยด์ที่พวกเขาถ่ายคู่กัน ณ ที่แห่งนี้ถูกหยิบขึ้นมาเป็นครั้งแรกในเดือนนี้ ทุกเดือนมาร์คจะต้องอยู่ตรงนี้ ยกโพลารอยด์ขึ้นไปบนฟ้าและยิ้มให้กับมันอยู่อย่างนั้นก่อนจะกลับ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องทำแบบนี้ หรือทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ แต่ถ้าเขาคิดว่ามันลำบากแสดงว่าทุกอย่างมันเปลี่ยนไป และเขากำลังจะหมดใจ แต่มาร์คเองก็ไม่เคยคิดแบบนั้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว

     

                 รูปใบน้อยเก็บใส่กระเป๋าเงินหนังสีน้ำตาลเก่า ๆ ที่มีเทปใสพันอยู่รอบ มาร์คเดินกลับขึ้นมาบนถนน คว้าสเกตบอร์ดคู่ใจและก้าวขึ้นไปบนนั้น ออกตัวอย่างเชื่องช้าราวกับไม่อยากจะจากไปไหน แต่เขากลับไม่เคยรู้สึกเศร้าโศกหรือเสียใจเลยสักนิด กลับรู้สึกว่านี่เป็นเหมือนความฝัน เป็นความทรงจำดี ๆ ที่นึกขึ้นมาเมื่อไรก็ยังคงยิ้มได้ทุกครั้ง

     

                 รถไฟฟ้าออกตัวเพื่อพาเจ้าของเรือนผมสีแดงกลับเข้าสู่โซลอีกครั้ง ทุกอย่างถูกทิ้งไว้ที่แห่งนั้น มาร์คกลับมาเป็นมาร์คคนเดิมที่ร่าเริงและเป็นที่รักของทุกคน สายตาคมมองผ่านกระจกรถไฟฟ้า ท้องฟ้าก็ยังคงเป็นเหมือนเก่า ตัวเขาเองก็เหมือนกัน ทุกอย่างต้องเดินต่อไปตามทางที่ควรจะเป็น และมาร์คก็ยังเชื่อว่าสักวันเขาจะได้พบกับแจ็คสันอีกครั้ง

     

               กาลครั้งหนึ่ง... สักวันเราคงได้พบกัน

     

                

     

                 

    THE END

     

     
     

     

    △△△△△

    แก้บนค่ะอิอิ
    ติดแท็ก #คลังพพ ก็ได้นะคะ

    with love : vizecoren.





    CR.SHL

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×