ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] ♡ Short Fiction's storehouse.

    ลำดับตอนที่ #2 : YUGBAM : [SF] Hello II {100%}

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.ค. 57


    [SF] Hello II {100%)

    Rate : PG

    Pairing : Yugyeom & Bambam

    Background Music : CuteGirl - Toppdogg

    Summary : สวัสดีนะ

     

     

     

     

     

     

     

     

                              BAMx2 : พี่ยูคยอมครับ

                              BAMx2 : เป็นไงบ้าง

                              BAMx2 : น้องมาเอาหนังสือรึยังอ่า

     

     

                 ผมจ้องเครื่องมือสื่อสารกว่า 2 นาที ครับ.. แค่สองนาทีเนี่ยแหละ กลัวอ่านไม่ตอบแบมแบมไปแล้วเขาจะน้อยใจอะไรไปอีก ตัวเล็กนิดเดียวน่าจะขี้น้อยใจตามตัวไปด้วยละมั้ง มือสั่นเทาจิ้มข้อความกลับไปอย่างใจหวั่น ๆ ทำไมคนตัวใหญ่อย่างผมถึงใจเล็กประติ๋วขนาดนี้ไปได้นะ

     

                

                                                                                                 YGYEOM : มาเอาแล้วครับ

                                                                                                 YGYEOM : น้องเขาดูเขิน ๆ นะ 555

     

                 ตบหน้าผากตัวเองไปสองที ใครเขินใคร ? น้องเยรินเขินผมหรือผมเขินแบมแบม ? นี่สินะคนที่ทำอะไรไม่ถูกก็ทำอะไรไม่ถูกอยู่วันยันค่ำ เห็นผมมีสาว ๆ ล้อมหน้าล้อมหลังขนาดนี้ จริง ๆ ผมนี่โคตรขี้อายเลย ไม่เคยมีแฟนด้วยนะ เชื่อผมไหมล่ะ

     

                              BAMx2 : 5555 เยรินก็แบบนี้แหละ

                              BAMx2 : เมื่อกี้ไปแอบส่องหน้า Home มา

                              BAMx2 : เราอยู่โรงเรียนเดียวกันนี่ ?

     

                

                 โอยตาย ผมละอยากจับคนที่ผมคุยด้วยมาหยิกแก้มให้หายหมั่นเขี้ยวเสียจริง แอบดูหน้าโปรไฟล์ผมก็บอกด้วย แถมอยู่โรงเรียนเดียวกันด้วย แล้วนี่ผมไปอยู่ไหนมานะถึงไม่เคยเจอแบมแบม ...

                 เออใช่... ผมโดดเรียนตลอดเลยนี่หว่า ฮ่าๆๆ

     

     

                                                                                                 YGYEOM : จริงดิ ?

                                                                                                 YGYEOM : แบมแบมอยู่ปีอะไรอะ ?

     

                              BAMx2 : ปีสุดท้าย...

                              BAMx2 : งั้นนายก็ไม่ใช่พี่ฉันอะดิ

                              BAMx2 : โอ๊ยยยยยยยยย

     

     

     

                 ผมตบหน้าผากเหม่ง ๆ (?) ของตัวเองไปรัว ๆ แถมตบแก้มย้วย ๆ ของตัวเองไปอีกสิบกว่าที บ้าเอ๊ยยยยยยย ไปเผลอเรียกเขาพี่ทั้งที่ผมแก่กว่าเนี่ยนะ อย่างดีสุดก็อายุเท่ากัน โอ๊ยจะบ้าตาย จริง ๆ เวลามีคนมาเรียกผมน้องผมก็เคืองจะแย่แล้วนะ นี่ไปเรียกเขาพี่ เขาจะรู้สึกว่าตัวเองหน้าแก่ไหมเนี่ย

     

                                                                                                 YGYEOM : เห๊ย ปีสุดท้ายเหมือนกัน

                                                                                                 YGYEOM : งั้นไม่ต้องคุยแบบทางการแล้วกันเนอะ

                                                                                                            YGYEOM sent you a sticker.

     

     

     

     

     

     

     

                 “เฮ้อ”

     

                 ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกว่าคนตัวสูงที่ผมขอเรียกแทนไปเลยว่า ไอ้หมีไม่ได้ว่าอะไรผม แน่ล่ะ ก็ยูคยอมตัวสูงมาก ไม่ใช่แค่สูงแต่ตัวใหญ่มาก ๆ ด้วย ผิดกับผมที่ตัวเล็กนิดเดียว พกพาความสูงแค่พอประมาณกับการดำรงชีวิต ถึงแถวบ้านจะเรียกว่าเตี้ยก็เถอะ...

     

                              BAMx2 : ที่เรียกพี่ไป...

                               BAMx2 : ไม่ว่ากันเนอะๆๆๆๆ

                               BAMx2 : เนอะหมีเนอะ

     

     

     

     

     

     

     

     

                 ผมกัดปากแน่นกับสรรพนามที่คนตัวเล็กเรียกผม ...

     

                                           หมี        

     

                 อยากจะกรี๊ดให้ลั่นร้านของพี่มาร์คแต่ก็กลัวจะเสียฟอร์ม โอ๊ย ขอมโนได้ไหมว่านี่เป็นสรรพนามมุ้งมิ้งที่เราสองใช้แค่สองคน ตายละ คิมยูคยอมเขินมากครับบอกเลย ตั้งใจจะบอกซะหน่อยว่างอนนะ บ้าเหรอ ผมออกจะหน้าใสกิ๊งขนาดนี้มาเรียกผมว่าพี่ แต่ก็โกรธไม่ลงเลยกับการที่คนตัวเล็กมาเรียกผมหมีแบบนี้

     

                                                                                                 YGYEOM : ใครหมี ?!

                                                                                                 YGYEOM : ออกจะหุ่นนายแบบปานนี้

     

                               BAMx2 : นายแหละหมี

                               BAMx2 : ตัวใหญ่มากอะ

                               BAMx2 : เราตัวนิดเดียวเอง

     

                 หูยตัวเล็กน่ารักน่าปกป้องมากด้วยแหละ โอ๊ยยูคยอมเขินจังเลย เขินซะจนหน้าผมตอนนี้ไปมุดอยู่ใต้ซอกเคาน์เตอร์ ทำเอายองแจเดินมาเขกกะโหลกผมดังโป๊ก พลางถามว่ามุดหาหนูแถวนี้กินอยู่เหรอ ไอ้ผมก็ดีใจ ผมคงมุ้งมิ้งเหมือนแมวสินะ ถึงแม้พี่แจบอมจะเดินมาทำปากขมุบขมิบว่าเป็นตัวอย่างอื่นก็เถอะ...

     

                 เอาน่า ยูคยอมแฮปปี้ ไม่ว่าเป็นตัวอะไรก็ยอม

     

     

                                                                                                 YGYEOM : แบมตัวเล็กอะดีแล้ว

                                                                                                 YGYEOM : นี่ลำบากจะตาย เดินชนนู่นนี่

     

                               BAMx2 : 5555 นั่นสินะ

                               BAMx2 : จะนอนละนะ ง้วงง่วง

     

     

                 ผมมองเวลาบนนาฬิกาหมีพูห์สุดแสนมุ้งมิ้ง นี่มันแค่สามทุ่มกว่า ๆ แต่โคตรง่วงเลย วันนี้ช่วยงานพี่แจ็คสันซะจนเหนื่อย ทั้งนั่งรถนั่งเรือไปหอบหิ้วของมาช่วยงานรับน้องของพี่แก ทั้งที่สตาฟตัวเองก็มี ทั้งที่งานผมก็ไม่ใช่ แต่ดันอยากให้ผมไปช่วยเพราะไว้ใจผม กลัวคนอื่นจะปลอมบิลโกงเงินคณะนาง โอย ผมละอยากเอารองเท้าฟาดหัวพี่เขาถ้าไม่ติดว่าพี่เขาเป็นพี่ ก็ตัวเองไปซื้อด้วยขนาดนั้นใครมันจะมาปลอมบิลหลอกพี่ได้วะ คิดแล้วก็โมโหไม่หาย

     

                                                                                                 YGYEOM : นอนไวจัง

                                                                                                 YGYEOM : ไม่กี่ทุ่มเอง 555

                               BAMx2 : วันนี้เหนื่อยอะ

                               BAMx2 : นายก็นอนได้แล้ว

     

                 ผมขอเขินจะมีใครว่าผมไหม นี่แบมแบมห่วงผมอยู่รึเปล่าอะ อยากจะกลิ้งให้รอบร้านไปเลย ถึงแม้ตอนนี้ทั้งพี่แจบอม พี่ยองแจ รวมถึงพี่มาร์คที่กลับมาก่อนกำหนดจะมานั่งประกบผม พลางสอดรู้สอดเห็น หรือที่แถวบ้านคุณ ๆ เรียกกันนั่นแหละ.... เรื่องผมกับแบมแบมอย่างมีความสุข คิมยูคยอมนี่โชคร้ายจริง ๆ ไม่น่ามีชีวิตพัวพันกับไอ้คนพวกนี้เลย คนหล่อเพลีย

     

                 “น้องครับ ไม่ต้องทำหน้าฟินครับ แบมแบมเขาพูดไปตามมารยาทครับ แหมๆ”  พี่แจบอมขัดฟิลลิ่งผมได้อย่างน่าเอาพี่ไปขัดพื้นมาก ท่าทางจะสะอาดเกลี้ยงเกลา

     

                 “เห๊ยพี่ ให้ผมมีความหวังหน่อยดิ ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีหวังนะพี่”

     

                 “พอเลยไอ้ยูค ไปช่วยเขาปิดร้าน วันนี้เฝ้าร้านคนเดียวนะเว้ย พี่จะไปหาหม่ามี้”

     

                 ผมเบ้ปากใส่พี่มาร์คที่เป็นลูกพี่ลูกน้องห่าง ๆ ห่างมากเสียจนแทบไม่มีอะไรเหมือนกันเลยสักนิด ผมวางมือถือของตัวเองอย่างลืมไปว่า ผมอ่านข้อความของแบมแบมไปแล้วแต่ยังไม่ได้ตอบ ผ่านไปเหกือบชั่วโมงหลังจากล่ำลาพี่ชายตัวแสบและพนักงานในร้านทั้งหมดแล้ว ผมก็โยนผ้ากันเปื้อนออก คว้าโทรศัพท์แล้วตรงเข้าไปในโซนที่เป็นที่พักของทางร้าน ก่อนจะคิดได้ว่า...

     

                 “ฉิบหาย ! ลืมตอบแบม”     

     

                 ผมสไลด์หน้าจอปลดล็อกอย่างใจหวั่น กลัวเหลือเกินแค่คุยวันแรกก็ทำเขานอยด์หรือเปล่าอะไรยังไง ยูคยอมจะร้องไห้

     

                              BAMx2 : อะไร อ่านไม่ตอบ ?

                              BAMx2 : นอนละนะ ฝันดี

     

     

                 โอ๊ยยยยย ขอตำราภาษาสเปนให้ผมทีครับ อยากกรีดร้องเป็นภาษานางมากตอนนี้ มือนี่ขยี้หัวจนเสียทรงไปแล้ว เบะปากเป็นเด็กอย่างที่ชอบทำเวลาอยู่คนเดียวก่อนจะรีบจิ้มหน้าจอรัว ๆ

     

                                                                                                 YGYEOM : เห้ยขอโทษ ๆ ไปช่วยปิดร้านมา

                                                                                                 YGYEOM : ฝันดีนะแบมแบม พรุ่งนี้เจอกัน

     

     

                 ได้เวลาคิมยูคยอมนักโดดเรียนมือฉมัง ต้องไปโรงเรียนซะแล้วล่ะครับ...

     

                



    the next 60%

     




                 ผมเข้าโรงเรียนมาพร้อมกับสายตาที่จ้องมองผมเหมือนมนุษย์ต่างดาว อย่างที่รู้กันว่าผมเป็นคนหน้าตาดีถึงดีมาก... แถมยังตัวสูงกว่าเพื่อนชั้นเดียวกันด้วย ทำให้ผมดูโดดเด่นในสายตาเพื่อนๆ และพฤติกรรมที่แปลกประหลาดของผมคือ การโดดเรียนจนแทบไม่มีใครเห็นหน้ายิ่งทำให้ทุกคนสงสัยว่าผมจะมาโรงเรียนทำไม

     

                 ไม่ใช่ว่าผมเป็นเด็กเกเรหรืออะไรนะครับ แต่จริง ๆ ผมโคตรขี้อายมากเลยเหอะ เพื่อนที่สนิท ๆ กันก็มีแต่รุ่นพี่ที่จบไปหมดแล้ว ผมเลยไม่รู้จะมาโรงเรียนทำไม ให้มานั่งเรียนมันไม่ใช่สไตล์อยู่แล้ว แต่นี่ไม่ดีทั้งเรียน โดดเรียนก็ไม่มีคนโดดด้วย เลยไม่ตัดสินใจไม่ไปโรงเรียนมันซะเลยง่ายกว่า ทำเป็นเดินออกจากบ้านแล้วไปขลุกอยู่ร้านพี่มาร์คทั้งวัน จนพี่มาร์คใช้ให้ขายของซะเลย เออดีจริง ๆ ทำแบบนี้กับน้องนุ่งนะเว้ย

     

                 แต่วันนี้ผมมีเป้าหมายแหละครับ คนตัวเล็กของผมที่ผมบอกว่าจะมาเจอกันที่โรงเรียน ผมไม่รู้เลยว่าแบมแบมอยู่ห้องไหน เลยดักอยู่ทางเข้าตึกปีสามเนี่ยแหละ ทำเป็นเล่นมือถือมั่ง อ่านการ์ตูนมั่ง แอบเห็นสาว ๆ มายืนกรี๊ดกร๊าดกันตรงพุ่มไม้ก็รู้สึกอยากจะกระชากเสื้อเต้นฉันผิดเองที่ดูดีมากไปมันซะตรงนั้น...

     
     

                 “แบมแบมมึงไม่หิวหรอ นี่หิวมาก กินข้าวก่อนได้ป่าว”

     

                 “ขึ้นไปส่งงานก่อนดิ เดี๋ยวส่งไม่ทันอีก อาจารย์จีซูดุฉิบหาย”

     

     

                 เสียงน่ารักคุยกับเพื่อนมาแต่ไกลเลยครับ คิมยูคยอมปลื้ม  เอาล่ะได้เวลาทักทายแบมแบมคนน่ารักของผมแล้วล่ะ เขินจริง ๆ แต่ว่ารู้จักกันแล้วทักไปคงจะไม่แปลกอะไรหรอกมั้ง

     

                 ผมสูดหายใจเข้าลึก ๆ มือล้วงกระเป๋าเอาไว้เพื่อซ่อนว่าที่จริงแล้วมันสั่นมากเลยนะ ยูคยอมอยากจะร้องไห้ แค่ทักคน ๆ นึงมันยากมากเลยอะ เขินอะเขิน ไม่รู้จะกรีดร้องเป็นภาษาอะไรดี ภาษาไทยท่าจะดีเนอะแบมแบมจะได้เข้าใจด้วย ...

     

                 1

                 2

                 3

     

     

                

     

                 “แบมแบม!

                 เสียงคุ้น ๆ ที่เหมือนเพิ่งคุยกันไปเมื่อวานเรียกผมจากด้านข้าง ทำให้ผมละสายตาจากเพื่อนหันไปมอง แล้วก็พบว่าเป็นไอ้หมีนั่นเอง นี่ผมไปสนิทกับเขาถึงขั้นเรียกไอ้หมีได้เลยเหรอ ตายจริงทำไมผมเป็นคนแบบนี้นะ

     
     

                 “เอ้าหมี เอ้ย! ยูคยอม”

     
     

                 ทันใดนั้นผมก็รู้สึกเหมือนได้รับสายตาแปลก ๆ ส่งมาจากเพื่อน ๆ รวมถึงชะนีตรงพุ่มไม้ตรงนั้นด้วย อะไรวะ คนหล่องง หรือสาว ๆ เหล่านั้นจะมาแอบตามกรี๊ดผม กันต์พิมุกต์เขินครับบอกตรง อิอิ

     
     

                 “อ่า แบมแบมอยู่ห้องไหนเนี่ย ? ไม่คุ้นเลยจริง ๆ นะ” ยูคยอมถามผมหน้างง ๆ

     

                 “ฉันก็ไม่คุ้นหน้านาย ฮ่า ๆๆ อยู่ห้อง B ยูคยอมอะ ?” ผมก็ตอบไปแบบงง ๆ นี่ผมเพิ่งรู้ว่ายูคยอมอยู่โรงเรียนเดียวกันกับผมจริง ๆ คือไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ยินชื่อเลย หรือเพิ่งย้ายมานะ ?

     

                 “อยู่ห้อง A ครับ ไว้เจอกันพักเที่ยงนะ เดี๋ยวขึ้นห้องละ”

     

     
     

                 ยูคยอมตอบผมด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะวิ่งขึ้นห้องไป ทิ้งให้ผมอยู่ท่ามกลางสายตาแปลก ๆ จากเพื่อนพ้อง ที่กระซิบกระซาบงุ้งงิ้ง ๆ คิดว่านี่ไม่ได้ยินเหรอไงวะ ?! ทำเอาผมทนไม่ไหว

     

     

                 “ทำไมมองกูแบบนั้น ?” ผมโพล่งถาม เอาล่ะครับ มนุษย์เพื่อนหลบสายตากันหมด มีอะไรกันไม่เคยบอก

     

                 “มึงรู้จักยูคยอมด้วยเหรอแบม รู้มั้ยพวกกูไม่มีใครกล้าคุยกับมันเลย”

     

                 “ทำไมวะ ?”

     

                 “แม่งโดดเรียนทุกวัน นี่มันมาโรงเรียนทั้งที่เพิ่งเปิดเทอมได้ไงวะ ปกติมันโผล่หน้ามาแค่วันสอบ กับวันที่บางวิชาจะถูกตัดสิทธิ์สอบเท่านั้นแหละ” เพื่อนคนที่หนึ่งกล่าวด้วยสายตาอึ้ง ๆ

     

                 “เออ แล้วแม่งมีข่าวว่าบ้านมันขายอาวุธสงครามด้วยนะ ได้ข่าวที่มันไม่ยอมมาโรงเรียนเพราะหนีมาเฟียอะ” เพื่อนคนที่สองกล่าวด้วยสายตาหวาดกลัว

     

     

                 ผมขมวดคิ้วก่อนจะหัวเราะเรื่องที่มันเล่ามาให้ฟัง คนอะไรทำไมชีวิตวุ่นวายขนาดนั้น ดูซีรี่ส์เกาหลีมากไปเหรอเพื่อน ๆ ผมหัวเราะลั่นใส่หน้าเพื่อนอีกครั้งก่อนจะตอบ

     

     

                 “ไอ้ห่า ร้านพี่มาร์คก็มีไม่ดักตีหัวเข้าไปวะ เห็นยูคยอมไปขายกาแฟอยู่นั่นทุกวัน”

     

                 “ก็พี่มาร์คอะหัวหน้ามาเฟียอีกแกงค์เว้ย พวกนั้นเลยไม่กล้า ยูคยอมมันเลยไปซ่อนอยู่ที่นั่น”

     

     

                 อื้อหือ ช็อคครับ ผมนี่แหละช็อค ก็พี่มาร์คอะไรที่มันว่ากันผมเองก็ไม่เคยจะได้เห็นหน้าเลยสักครั้ง พี่คุณก็บอกแค่บ้านรวยมาก หล่อมากอะไรมาก ไอผมก็ไม่คิดว่าจะรวยเพราะธุรกิจผิดกฎหมายขนาดนั้น อื้อหือ แบมแบมอึ้งครับ นี่โลกใบนี้มันมีคนแบบนี้อยู่จริง ๆ เหรอวะ

     

     

                

     

     

                 ผมหนีขึ้นมานอนในห้องชมรมที่แต่ก่อนพวกพี่ ๆ ในแกงค์ใช้เป็นสถานที่โดดเรียน ถึงในตอนนี้จะมีแค่ผมคนเดียวที่อยู่ในห้องก็ตาม แต่ผมก็ไม่รู้สึกเหงาอะไรเท่าไรเพราะในมือของผมมีโทรศัพท์ที่มีแต่แจ้งเตือนเข้ามา ซึ่งนั่นก็มีแจ้งเตือนข้อความของแบมแบมเข้ามาเป็นระยะ ๆ ทำเอาผมยิ้มไม่หุบเลยล่ะ

     

                              

                               BAMx2 : หมีๆๆๆๆๆ ไม่เรียนรึไง

                               BAMx2 : เมื่อกี้เดินผ่านห้อง A

                               BAMx2 : ไม่เห็นยูคยอมอยู่ในห้องเลย

                                                                                                 YGYEOM : อื้อ โดดอะ 5555

                                                                                                 YGYEOM : เป็นผู้ชายต้องขี้เกียจครับ

     

     
     

     

                 สาธุ ขอให้เป็นเพราะขี้เกียจจริง ๆ เหอะ ไม่ใช่กลัวจะโดนลักพาตัวแล้วหนีไปซ่อนที่ไหนนะเว้ยไอ้หมี ผมกัดปากส่งข้อความคุยกับยูคยอมไปเรื่อย ๆ กลั้นใจไม่พูดถึงเรื่องมาเฟียอะไรนั่น โหย โคตรกลัวหลุดถามเลยครับ แต่เดี๋ยวค่อยถามตอนเจอหน้าดีกว่า จะได้รู้ว่าโกหกมั้ย

     

                               BAMx2 : แต่นายโดดบ่อยมาก

                               BAMx2 : เราแบบ แทบไม่เคยเห็นหน้า

                                                                                                 YGYEOM : เออเราก็ไม่เคยเห็นหน้าแบม 555

                                                                                                 YGYEOM : สงสัยต้องมาโรงเรียนบ่อยขึ้นละ

                                                                                                 YGYEOM : จะได้เจอแบม

     

     

     

                 อยากจะตบหัวตัวเองสักแสนรอบ คิมยูคยอมออกตัวแรงเกินไปไหมเนี่ย นักเลงคีย์บอร์ดสุด ๆ อะ ไม่เจอหน้าเขาก็หยอดไปเถอะ พอเจอจริง ๆ แค่ทักคำเดียวเหมือนจะตายให้จงได้ หมดกันคิมยูคยอมคนขี้เต๊าะ ใจเสาะเพราะแบมแบมไปแล้วเหรอเนี่ย หมีอยากจะร้องไห้ครับ

     

                               BAMx2 : ไอ้หมีบ้า

                       BAMx2 sent you a sticker.

                                                                                                 YGYEOM : อะไรเล่า 5555555555

                                                                                                 YGYEOM : ตอนเที่ยงไปกินข้าวเป็นเพื่อนหน่อยดิ

     

     

                

                 “แบมแบมเป็นอะไรวะ กูเห็นมึงกัดปากจนห้อเลือดแล้วมั้ง”

     

                 ผมสะดุ้งตัวโหยงเมื่อเพื่อนข้างหลังสะกิดด้วยฝ่ามือที่ประทับลงบนศีรษะทุยด้วยความรักใคร่ ไม่รู้ว่าตกใจหรือเจ็บแน่แต่ที่แน่ ๆ เพื่อนสามสี่คนมองผมเป็นตาเดียวเลยแหละ

     

                 “กะ...กู... เล่นเกม !! เล่นเกมเศรษฐีอะมึง แล้วแม่งมีคนซื้อกรุงเทพกูไปสร้างแลนด์มาร์ค... โกรธฉิบหายเลยเนี่ย...”

     

                 “อ๋อออออออออ งั้นที่มึงอมยิ้มนี่คือมึงจะบอกว่ามึงซื้อปารีสได้งี้เหรอ ไอ้ห่า...”

     

                 ผมหัวเราะแห้ง ๆ พลางโบกมือว่าช่างมันเถอะ ถึงจริง ๆ หน้าผมจะร้อนเหมือนยืนตากแดดมาสามชั่วโมงเลยก็เถอะ ก่อนที่เสียงออดพักกลางวันจะดังขึ้นมาพอดี เพื่อน ๆ ก็ชวนผมไปทานข้าวเที่ยงด้วยกันเป็นปกติ ผมก็เดินลูบท้องป้อย ๆ เพราะไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า ไหนจะส่งงาน ไหนจะเจอเพื่อนซักไซ้เรื่องยูคยอมอีก ทำเอาผมอมลมหน้ามุ่ยทำปากจู๋อยู่อย่างนี้

     
     

                 “มึงไปถอยคิมบับให้กูสองจานที จะเป็นลมแล้ว ขอนั่งรออยู่ตรงนี้”

     

                 “เออแบมหน้ามึงไม่ค่อยดีเลย รออยู่นี่แหละ”

     

                 .

                 .

                 .

     

     

                 “ไม่ต้องไปหรอก เดี๋ยวเราไปซื้อให้แบมแบมเอง... แล้วก็ ขอตัวแบมก่อนนะ”

     

                 ผมเดินมาเห็นคนผมหน้าม้าชมพูลูบท้องพลางฟุบหน้าลงกับโต๊ะแล้วก็อดสงสารไม่ได้ ได้ยินว่าออกปากใช้เพื่อนไปซื้อข้าวด้วย ผมเลยรีบวิ่งเข้ามาบอกเพื่อนแบมแบมก่อนจะลากเจ้าตัวออกมาจากกลุ่มเพื่อนทั้งอย่างนั้น ในเมื่อไม่ตอบไลน์ก็ลักพาตัวมาเลยก็แล้วกัน ง่ายกว่าเห็น ๆ

     
     

                 “ไอ้หมี !!! ไปดึงเราออกมาทำไมเนี่ย แค่นี้เพื่อนก็สงสัยจะแย่แล้ว !!” แบมแบมโวยวาย

     

                 “กลัวอะไรเล่า...” ผมชี้หน้าแบมพลางหัวเราะ “ดู ๆ ทำหน้าเป็นหมูไปได้ หมูน้อย ๆๆๆ”

     

     

     

     

     

                 เมื่อกี้ไอ้หมีเรียกผมว่าอะไรนะ ?

     

                            หมูน้อย ?

     

                 ทำไมรู้สึกร้อน ๆ หน้ายังไงก็ไม่รู้อะ แบมแบมเขินเหรอ ? เขินอะไร ? โอยใจนี่กระพืออยากจะบินไปโชคชัยสี่ แล้วกลับมามยองดงอีกทีตอนสี่โมงมาก ๆ แต่จะออกตัวแรงก็ไม่ได้ เป็นแบมแบมต้องน่ารักมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งและเรียบร้อยใสใสไว้ก่อน

     
     

                 “เรียกเราหมูหมายความว่าไง ? ว่าเราอ้วนเหรอ ?”

     

                 “ก็ดูแก้มป่อง ๆ อย่างนี้ ทำปากจู๋อีก ดีนะตัวเล็กหน่อยไม่งั้นไม่มีต่อท้ายคำว่าน้อยนะครับจะบอกให้”

     
     

                 ผมตียูคยอมไปสองสามที เจ้าตัวก็ทำหน้าเจ็บเว่อร์ ๆ แหมมันช่างน่าต่อยให้สลบจริง ๆ เลยนะ เพิ่งคุยกันเมื่อวานมาทำเป็นสนิทอะไรขนาดนี้ แต่รู้สึกจะเป็นตัวเองปะที่ไปเรียกเขาว่าหมีซะสนิทเชียว โอ๊ยพูดไปแบมแบมก็เขิน

     
     

                 “พูดมาก เดี๋ยวไม่กินข้าวด้วยเลย !

     
     

                 ผมพูดเสร็จก็วิ่งหนียูคยอมออกมา วิ่งผ่านไปในโรงอาหารนั่นแหละคนเยอะดี ไอ้หมีจะได้ไม่เห็นผม นี่สินะการใช้ประโยชน์ของความสูงที่มีอยู่น้อยนิดให้เข้ากับสถานการณ์ ช่างเป็นบุคคลที่มีความคิด วิเคราะห์ และแยกแยะได้อย่างถูกต้องเหมาะสมมาก ๆ รัวมือให้กันต์พิมุกต์หน่อยครับ ...

     

                 แต่ผมว่าผมคิดผิดแล้วแหละ

                 เมื่อไอ้หมียูคยอมมันตะโกนเรียกผมซะ...

     

     

                 “หมูน้อยแบมแบมของเค้าหายไปไหนแล้ว ออกมาหาหมีเดี๋ยวนี้เลยนะ !!







     



    △△△△△

    กลัวคนหาว่าไรท์เตอร์หายไปจากโลกนี้ 5555555
    ไม่มีเวลาเลย คนที่ตามทวิตอยู่ก็น่าจะเห็นว่าช่วงนี้ลดน้อยลงมากๆ
    จุฬาบ้านไกลทำไมต้องไปกลับ ห้องเชียร์โบ้มมาก โป้งเอโป้งปั้งปั้งมาก 5555555

    อย่าลืมแท็ก #ฮัลโหลยูคแบม นะกะ ไม่เห็นใครสกรีมเลยใช่สิ้ โฮรว 55555

    - หมี & หมูน้อย -
    น่ารักจังเลย แอร๊

    with love : vizecoren.


     
    SQWEEZ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×