ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดั่งคนึงหา

    ลำดับตอนที่ #2 : 2

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.ย. 67


    “เจ้าแน่ใจนะว่าที่ผาแห่งนี้มันมีของที่เจ้าต้องการจริงๆ”

    เสียงทุ้มน่าฟังที่เอ่ยถามสหายข้างกาย ยิ่งทำให้แววตาของนางสั่นไหวยิ่งกว่าเก่า

    “จื่อหาน นี้ข้าไงลี่เฉิงสหายผู้รอบรู้ของเจ้า เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่เคยพลาดเรื่องแบบนี้สักครั้ง”

    “ก็จริง แต่ข้าคิดว่าเจ้าคงไม่สมหวังเสียแล้ว” ถึงจ้าวจื่อหานจะหมั่นไส้ในความมั่นใจของสหายสักเท่าไรแต่ก็ต้องยอมรับความจริงตามที่เจ้าตัวบอก แต่เขาคิดว่าการมาครั้งนี้ของพวกเขาเสียเที่ยวเสียแล้ว

    “เจ้าหมายความว่าอย่างไร”

    “นั้น…” จื่อหานชี้ไปที่กองหิมะกองหนึ่งที่แตกต่างจากกองอื่น

    มีคนมาที่นี้ก่อนพวกเขา และเอาเพลิงจวีฮวาไปแล้ว

    ลี่เฉิงมองไปตามทิศทางมือของสหายก่อนจะแสดงสีหน้าเคร่งเครียด เขาเดินไปที่กองหิมะกองนั้นและพยายามตรวจสอบพื้นดินตรงนั้น

    “ใช่หรือไม่”

    “ใช่ เป็นกลิ่นของต้นเพลิงจวีฮวาไม่ผิดแน่” เขาจำกลิ่นนี้ได้ดีแม้จะเคยได้กลิ่นเพียงไม่นานแต่กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของมันเขาจำได้ไม่เคยลืม “คนที่ได้มันไปฝีมือไม่ธรรมดา”

    ผู้ที่สามารถขึ้นมาก่อนพวกเขาสองคนต้องเป็นยอดฝีมือที่มีพลังเทียบเท่าหรืออาจจะมากกว่าตนหลายเท่าเลยก็เป็นได้ เพราะเท่าที่จื่อหานสังเกตไปโดยรอบแทบจะไม่มีร่องรอยการขึ้นมาบนนี้เลยด้วยซ้ำ อาจจะโดนพายุหิมะกลบไปจนหมดหรือฝีเท้าที่เบาที่ทำได้เฉพาะผู้ฝึกวิชาขั้นสูงเท่านั้น เขาอยากรู้จักคนผู้นี้เสียจริงว่าจะเก่งกาจแค่ไหน

    “ข้าโดนท่านพ่อด่าจนหูชาอีกแน่ๆ”

    ลี่เฉิงเอ่ยขึ้นอย่างหัวเสีย ท่านพ่อสั่งให้เขามาเก็บเพลิงจวีฮวาเพื่อนำกลับไปที่โรงประมูลตระกูลลี่หวังจะกอบโกยกำไรมหาศาลจากการประมูลในครั้งนี้

    “เอาน่าไม่ใช่ความผิดเจ้าเสียหน่อย อย่างมากเจ้าก็โดนท่านลุงบ่นไปสามสี่วันเท่านั้นเอง”

    “หึ เจ้าก็พูดได้นิจื่อหาน”

    ลี่เฉิงทำหน้าบึ้งตึง โกรธฟึดฟัดเหมือนเด็กน้อยอย่างที่เคยทำเป็นประจำใส่สหายข้างกาย ส่วนผู้ที่เห็นท่าทางแบบนั้นจนชินก็ได้แต่ส่ายหน้าอย่างเอือมระอาเช่นเคย

    “ข้าล่ะอยากเจอหน้าผู้ที่ทำให้ข้าต้องโดนด่าจริงๆ”

    “ทำไม ถ้าได้เจอเจ้าจะทำไม”

    “ถามแบบนี้หรือว่าเจ้าไม่อยากเจอ”

    คำถามนี้ทำให้ผู้อื่นที่ยืนฟังอยู่ต่างต้องกลั้นหายใจ เจิ้งซูลี่รู้สึกได้ว่าตนนั้นหายใจแรงขึ้นทั้งโกรธตาเฒ่าขี้แกล้งที่ทำให้ตนตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ แต่พูดตามตรงนางก็อดคิดเกี่ยวกับคำตอบของเขาไม่ได้ ถ้าจะบอกว่านางคาดหวังไว้สูงก็คงไม่ผิด

    “ท่านไม่ควรทำแบบนี้เลยจริงๆ” เธอทำเพียงกระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคน ถึงจะมั่นใจในมนต์ของผู้เฒ่าแต่นางก็กลัวว่าเขาจะได้ยินอยู่ดี คนแก่ขี้แกล้งเห็นท่าทางพยายามหลบผู้คนของหญิงสาวแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนก็หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น

    ฮ่า ฮ่า….

    ดวงตาเรียวเบิกกว้างขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียง

    “หัวเราะอันใดของท่านกัน เดี๋ยวผู้อื่นก็ได้ยินหรอก”

    “อะไร ใคร ผู้ใดจะได้ยิน? เจ้าสองคนนั้นนะหรอ กลัวอะไรไม่สมกับเป็นเจ้าเลย”

    รู้เจ้าค่ะว่ามนต์ท่านล้ำเลิศเพียงใด เชิญหัวเราะต่อได้ตามสบายเลยนะเจ้าค่ะ

    “มีอันใดจื่อหาน”

    จากที่ยืนสู้กันด้วยสายตาแต่ก็ต้องกลับหันไปสนใจในจุดเดิม

    เฮือก

    เมื่อหันหลับไปมองก็ต้องตกใจเพราะจื่อหาน ชายผู้นั้นกำลังมองมาทางที่ข้ากับตาเฒ่ายืนอยู่ อันใดกัน ไม่มีทาง ไม่มีทางที่พวกนั้นจะเห็นพวกเรา

    ไม่ใช่แค่นางแต่คนข้างหลัง นางก็รู้สึกได้ว่ามีท่าทางไม่ต่างจากนางมากนัก

    ยืนนิ่งเสมือนจ้องตากันอยู่ครู่ใหญ่ นางไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกอย่างช้าๆ เพราะคิดว่าชายที่กำลังพยายามมองหาบางสิ่งได้ลดละความพยายามแล้ว

    “ไม่มีสิ่งใดหรอกน่า เจ้าคงคิดไปเอง” สหายข้างกายชายหนุ่มเอ่ย “เจ้าอย่าลืมว่าที่นี่คือสถานที่แบบไหน พวกเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีสิ่งอันตรายอะไรบ้าง”

    “…..”

    “ข้าว่าเราควรรีบลงจากผาแล้วออกจากป่าดีกว่า ข้าไม่อยากต่อสู้กับผู้ใดให้เหนื่อยเปล่า” 

    ถึงแม้ว่าจะพยายามรับฟังและพยายามบอกกับตนเองให้คิดไปในทางเดียวกันกับลี่เฉิง แต่จ้าวจื่อหานก็อดคิดไม่ได้อยู่ดี แต่ก็ทำได้เพียงปล่อยผ่านและเดินตามสหายลงเขาไป แต่ก็ไม่ลืมหันกลับไปมองยังทิศทางที่ตนรู้สึกถึงอันใดบางอย่าง

     

     


    หลังจากใช้พลังสัมผัสและรับรู้ได้ว่าไม่มีผู้ใดอยู่ในอาณาเขตของตนแล้ว มนต์พรางตาก็ค่อยๆจางลง พร้อมกับเสียงหัวเราะราวกับเจอเรื่องสนุกที่วันนี้เจิ้งซูลี่บอกได้แค่ว่านางไม่อยากจะได้ยินมันเลยสักนิด

    เสียงหัวเราะเงียบลงแต่กลับค่อยๆเป็นเสียงของน้ำชาที่กำลังถูกเทลงไปยังถ้วยอย่างไม่รีบร้อน บ่งบอกว่าอีกคนสุขใจขนาดไหน

    เจิ้งซูลี่ยังคงมองไปยังทิศทางเดิมของผู้ที่จากไปแววตาแสดงออกถึงความเลื่อนลอย

    กลิ่นชาที่ลอยมาตามอากาศกับความเงียบที่อีกคนเว้นช่วงให้ทำให้นางหลับตาลงเพื่อผ่อนคลายความคิด 

    “เด็กคนนั้นนะ…”

    “…..”

    “คิดว่าจะหลบลีกเขาได้จริงๆนะหรือ”

    “…..”

    “ตอนแรกข้าก็ไม่ค่อยเชื่อกับท่าทีเช่นนี้ของเจ้าหรอกนะ แต่พอได้เจอตัวจริงแล้วชายที่ทำให้เจ้าเสียการควบคุมขนาดนี้ดูแล้วมีพลังที่ไม่ธรรมดาจริงๆ…”

     

     

     

     

     

     




     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×