ตอนที่ 28 : ภาคผนวก ของผู้เขียน(ทั้งที่นิยายยังไม่จบ^^")
ข้อสงสัยหรือข้อแปลกใจเป็นสิ่งที่อยู่ในความคาดหมายของคนเขียนอยู่แล้วค่ะ
และดีใจด้วยที่มี แสดงให้เห็นว่าคนอ่านมองเห็นถึงอะไรบางอย่างในงานเขียนชิ้นนี้
ตอนที่27นี้จำเป็นต้องเล่าแบบนี้จริงๆค่ะ เพราะไม่อยากให้เจ้าแสบไปแตะข้อมูล
เจ้าแสบเป็นผู้หญิง การที่ผู้หญิงจะไปรับรู้เรื่องราวเหล่านี้ในสมัยนั้น
ยากเสียยิ่งกว่าตบตีกับฝรั่งอีกค่ะ
ผู้เขียนเลยส่งเด็กเข้าท้องเจ้าแสบซะ จะได้ไปเปรี้ยวไม่ได้
ตัวอย่าง การเขียนที่ล่อแหลมต่อความเชื่อในข้อมูล ก็มีปรากฏอยู่ในตอนที่ นางเอกพูดประมาณว่า แม่มะลิรักฟอลคอนแล้วหรือ แล้วแม่มะลิไม่ตอบกลับใช้วิธีรำพันถึงความเจ็บช้ำของตัวเอง เมื่อนางเอกบอกถึงหน้าที่ ของเมียและแม่ แม่มะลิจึงยอมกลับไปหาฟอลคอน ก็สามารถตีความได้สองแบบ คือ 1 แม่มะลิรักฟอลคอนแล้ว(ตามที่นางเอกคิด แต่ อย่าลืมว่าแม่มะลิอาจจะไม่ได้คิดแบบนางเอก)
2แม่มะลิยังไม่ได้รักฟอล คอน แต่กลับไปเพราะหน้าที่ และยังเสียใจเจ็บใจอยู่มากหากต้องกดความเจ็บใจนั้นไว้ (ซึ่งก็เฉลยแล้วกับปากของแม่มะลิ เองในตอนนี้ ซึ่งเป็นความเชื่อของคนเขียน ที่ต้องการบอกคนอ่านผ่านคนที่มีชีวิตมีเลือดเนื้อ คิดถูกคิดผิดลังเล ไม่เข้าใจตัวเอง และคำเฉลยนั้นอาจจะไม่ใช่ความจริงในใจลึกๆของแม่มะลิก็ได้)
แต่คนอื่นที่มอง ไม่ได้ล่วงรู้ใจของแม่มะลิด้วย และอาจจะคิดได้สองอย่างเหมือนกัน คือ แม่มะลิเกลียดฟอลคอน จนไม่อยากให้เจอหน้าลูกอีกครั้ง กับ แม่มะลิรักฟอลคอน จึงบอกว่าจะมีผัวเดียวเท่านั้น แล้วมานั่งร้องไห้ ซึ่งสิ่งที่ปรากฏต่อหน้าสายตาของคนอื่น เป็นสิ่งที่กลายมาเป็นข้อมูลทางประวัติศาสตร์
แต่การบ่งบอกความเชื่อ ผ่านงานเขียนก็เป็นความรับผิดชอบอย่างหนึ่งของผู้เขียน ซึ่งผู้เขียนตระหนักดีถึงความรับผิดชอบในส่วนนั้น จึงเขียนโดยมีเจตนาที่จะเล่าแบบผิวๆมีการพลิกกลับ ให้คนอ่านสงสัย แล้วไปศึกษาเองส่วนหนึ่งด้วยค่ะ ถึงได้บอกว่าเขียนยากกกกกมากกกกกกก
ทีนี้ก็มาถึงความเชื่ออันที่สอง คือการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระนารายณ์
เหตุการณ์ นี้มีความซับซ้อน สับสน ที่ยังถกเถียงกันอยู่ในปัจจุบัน และแน่นอนว่าความเชื่ออะไรที่เกี่ยวกับกษัตริย์ จะเป็นเหมือนสิ่งที่สูงส่งจนแทบจะแตะต้องไม่ได้(ในความรู้สึกของผู้เขียน เอง) จึงยากกว่าการบ่งบอกเรื่องราวของแม่มะลิกับฟอลคอนมากๆ
ถ้า เปรียบนางเอกคือผู้เขียนที่เข้าไปสอดรู้สอดเห็นในเรื่องราวนั้น การที่จะบอกผ่านตัวนางเอกจึงเป็นการล่อแหลมยิ่งกว่า จึงได้กลายเป็นเหตุการณ์ที่นางเอกไม่ได้มีส่วนรู้เห็น และใช้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ล้วนๆผ่านการตีความของผู้เขียนเอง
ใน เรื่องนี้หากจะกล่าวว่า สมเด็จพระนารายณ์ สิ้นพระชนม์เพราะพระอาการป่วยเรื้อรัง ก็กล่าวได้ แต่ผู้เขียนก็ไม่ทิ้งข้อมูลส่วนหนึ่งที่มีความสงสัยกันว่า สมเด็จพระนารายณ์ถูกวางยาพิษ จึงกลายเป็นเรื่องราวที่ ฟอลคอน เอ่ยปากถาม ว่า พวกท่านฆ่าพระองค์?! การที่ออกหลวงสรศักดิ์หรือพระเจ้าเสือ ต่อยปากฟอลคอนไม่ให้พูดต่อ
ก็แปลความหมายได้สองทาง เช่นกัน คือ
1ไม่ได้ฆ่า จึงโกรธที่ฟอลคอนพูดเช่นนี้ เหมือนเป็นการถูกหยามหมิ่น
2 ฆ่า จึงไม่อยากฟังความจริงที่จะสร้างความไม่เชื่อถือไม่ชอบธรรมต่อการครองบัลลังก์ในกาลต่อไป
ผู้ เขียนรู้ดีว่ามีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นชี้นำ แต่ก็ต้องการเสนอข้อมูลทางประวัติศาสตร์ในทุกๆทางไปด้วย จึง ยากกกกกกกกกกกก มากกกกกกกก(อีกครั้ง)
และการพูดถึงประวัติศาสตร์ มากๆในตอนนี้ก็ย่อมไม่สนุกเท่าไหร่ อิอิ แต่ก็ถือว่าเป็นสัดส่วนที่ผู้เขียนคิดว่าพอเหมาะ เมื่อรวมเนื้อหาทุกๆตอนเข้าด้วยกัน(ซึ่งยังไม่จบ)
ความเชื่อเป็น สิ่งที่บังคับกันไม่ได้ คนที่รับข้อมูลต้องเลือกเอาเองที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ จริงๆแล้วผู้เขียนคิดว่าคนอ่านมีความเชื่อของตัวเองอยู่แล้ว ผู้เขียนให้เกียรติคนอ่านในส่วนนี้ค่ะ
เฮ้อ..ยากจริงๆค่ะ ขอบคุณค่ะ^^
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เพิ่งอ่านจบและชอบมากกกกกค่า หลงรักคุณพี่หมื่นเดช (ตามฟอร์ม) ขอบคุณคุณรอมแพงมากๆ นะคะที่เขียนงานที่ทั้งสนุกด้วยและได้ความรู้ด้วยมาให่้อ่าน ตอนอ่านแอบคิดอยู่เหมือนกันว่าเสี่ยงจริงๆ นะคะเนี่ยที่เอาเรื่องจริง และบุคคลจริงในประวัติศาสตร์มาเขียน เจ้าเบ็นไม่เชี่ยวชาญเรื่อปวศ.
เรื่องถูกผิดไม่รู้ (แห่ะ) แต่อ่านได้สนุกมากๆ ค่ะ
ชอบนางเอก ... แม่การะเกดของพี่ด้วย ... อ่านแล้วอินมั่กมากค่า ...
ล่อแหลมจริง แต่ว่านิยายก็คือเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง โดยส่วนตัวคิดว่าผู้อ่านทุกคนคงใช้วิจารณญาณในการอ่านและรู้จุดประสงค์ของการอ่านอยู่แล้ว ดังนั้นไรเตอร์ไม่ต้องกังวลไปนะ คนอ่านมีความสุขมากๆเลยจะติดตามต่อไปค่ะ
ชอบเรื่องบุพเพมากๆๆๆค่ะ
องค์ประกอบโดยรวมนั้น ถือว่าดีมากๆ
ส่วนประวัติศาสตรนะคะ การนำมาผนวกกับนิยาย แล้วให้ออกมาสมบูรณ์แบบนั้น คงจะเป็นไปได้ยากค่ะ
ไม่มีใครชี้ชัดถึงอดีตได้ เพราะฉะนั้น ที่พี่รอมแพงเขียนมาทั้งหมดนี้ ดีมากๆแล้วค่ะ
จะคอยสนับสนุนผลงานเรื่อยๆนะคะ
ถ้าเป็นแป้งคงทำไม่ได้ขนาดนี้
แค่แต่งแนวธรรมดายังแทบตายแล้ว เหอๆ
และเห็นด้วยที่สุดว่ามัน ยากกกกก มากกกก
เพราะอิงประวัติศาสตร์จริง ๆ อาจโดนผู้เชี่ยวชาญมาโวยเมื่อไรก็ได้
หลังจบเรื่องนี้ แม่รอมแพง คงต้องทั้งดมยา แล้วก็โด๊ปอีกหลายขนานเป็นแน่ ^^
ชอบเรื่องนี้มากเลยค๊า จากที่เคยคิดมาตลอดเลยว่า ทำไมต้องเรียนประวัติศาสตร์ สังคม น่าเบื่อ~~
แต่พอได้มาอ่านเรื่องนี้ ก็ได้รู้สึกตัวว่ามีหลายเรื่องที่เคยเรียนมาแล้ว แต่จำไม่ได้ แล้วอยากรู้เรื่องนั้นขึ้นมาเลยต้องไปหาอ่าน
ก็เลยทำให้เห็นค่าของการเรียนมากขึ้นด้วยค๊าาาา แหะๆๆ เดี๋ยวนี้ตั้งใจเรียนสังคมกับประวัติศาสตร์เยอะขึ้นเลย พลอยไปวิชาอื่นด้วย เพราะหงุดหงิดที่เรียนมาแล้ว ไม่มีอะไรติดมาเลย แหะๆ
ยังไงก็ชอบเรื่องนี้มากๆๆๆๆเลยค่ะ เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้อยากเรียนประวัติศาสตร์มาเลยทีเดียว อิอิ
^^
ขอบคุณพี่รอมแพงมากนะค่ะ >< จุ๊บๆๆ อากาศหนาวมาเยือนแล้วด้วยค่ะ ดูแลสุขภาพดีๆนะค่ะ
คนแต่งต้องศึกษาหาข้อมูล แถมเวลาเขียนก็ยากอีกอย่างที่พี่รอมแพงว่านั่นแหละค่ะ
แต่สำหรับเรื่องนี้พี่ทำได้ดีแล้วล่ะ แต่งได้เก่งมากๆ ค่ะ...ชื่นชมๆ ^ ^
คุณรอมแพงเก่งจริงๆเลยค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
แต่ก็...ตามจินตนาการของผู้อ่านเนอะ
ในหนังสือ รุกสยามในนามของพระเจ้า โดย มอร์กาน สปอร์แตช ชาวฝรั่งเศส ซึ่งเค้าอ้างอิงจากเอกสารที่เปิดผนึกและปิดผนึกเค้าบอกว่าตอนฟอลคอลไปหาแม่มะลิครั้งสุดท้ายที่คอกม้าแม่มะลิได้ถุยน้ำลายใส่หน้าด้วย และว่ากล่าวฟอลคอลด้วย
แต่ก็อ่ะน่ะ ถือว่าคุณรอมแพงแต่งได้ดีมากแล้ว นับถือเลยเพราะคงต้องค้นประวัติศาสตร์หลายด้านเลยนะเนี่ยกว่าจะได้เรื่องนี้มา
สุดยอดดดดดดดดคะ สองนิ้วเลย
อ่านแล้วเข้าใจมากขึ้นเลยค่ะ
อาจระลึกชาติได้ ...
รู้ลึก รู้จริง ยังกับอยู่ในสถานการณ์ อืมมม น่าคิดแฮะ
ส่วนคุณคนอ่าน ก็อ่านได้ลึกดีจริง ๆ เหมือนกัน
หุหุ
เรื่องนี้อ่านแล้วสนุกดีมากค่ะ หายากที่จะมีนิยายอิงประว้ัติศาสตร์ช่วงสมเด็จพระนารายณ์ค่ะ จึงเป็นกำลังใจให้คุณรอมแพงสร้างสรรค์ผลงานนิยายดีๆ ต่อไปค่ะ
อ่า ^ ^ ไรเตอร์ว่าไงก็ว่าตามนั้นแล
ใช้สอบสังคมได้เลยนะเนี่ย สิ่งที่ได้อ่านเนี่ย
ดังนั้น การที่ผู้เขียนมาบอกกล่าวถึงการตีความข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ในทัศนคติของผู้เขียนถือว่าน่าชื่นชมมากค่ะ
เมื่อวานอ่านก็รู้สึกว่าเป็นการสอดแทรกแบบไม่เจาะลึกมากนัก แบบรู้สึกว่าคนที่อ่าน
และมีความคิดในเรื่องประวัติศาสตร์ในด้านต่างๆกันจะไม่รู้สึกขัดแย้งแต่ก็ไม่ได้คิดรายละเอียดขนาดนี้
แต่พอมาอ่านความตั้งใจจริงๆ ซึ้งเลยค่ะว่าแต่งยากกกกกกกกกกกกมากกกกกกกกกกก
และก็เห็นด้วยค่ะ ว่าถ้ามีเรื่องประวัติศาสตร์มากไปก็อาจมีเบื่อกันได้ สารภาพเลยว่าเริ่มแรกอ่านเรื่องนี้เพราะว่าชอบ
เรื่องที่ย้อนอดีต และความสอดรู้ เอ้ยความแก่นของแม่เกดที่น่ารัก น่าหมั่นไส้
บวกกับฉากกุ๊กกิ๊กพอจั๊กกะจี้หัวใจของสองพระนาง
ไม่ได้มุ่งไปที่ประวัติศาสตร์เลยสักกะติ๊ด แต่ก็ชอบการบรรยายถึงบรรยากาศและบ้านเมืงสมัยนั้นที่นางเอกได้ไปเที่ยว
แต่พอมาหลังๆเริ่มมีประวัติศาสตร์มากขึ้น รู้สึกว่าเรื่องเนื้อเรื่องหนักขึ้น จึงขอสารภาพตามตรงเลยว่าส่วนตัวถ้ามี
ประวัติศาสตร์ ขอให้มีการแทรกความสนุกด้านอื่นๆหรือฉากกุ๊กกิ๊กด้วยจะเป็นการดีมากๆค่ะเพราะจะได้ไม่รู้สึกว่านิยายเรื่องนี้หนักไปค่ะ
ปล ถ้าไม่ตรงใจก็ขอโทษน่ะค่ะ คิดซะว่าแค่ความคิดส่วนตัวจากคนอ่านคนหนึ่งที่ติดตามเรื่องนี้มาตลอดค่ะ
เป็นกำลังใจให้คุณรอมแพงน่ะค่ะ
พี่รอมแพงต้องเตรียมตัวหาข้อมูลมากเลยนะคะ ในการเขียนเรื่องนี้ ขอชื่นชมจากใจจริง เพราะมันยากมากกับการเขียนนิยายอิงประวัติศาสตร์ จะขอเป็นกำลังใจให้ต่อไปนะคะ สู้...สู้
รับทราบค่ะ
วันนี้แอบไปดูหนังสือเกี่ยวกับฟอลคอน
อยากซื้อมาอ่านมากๆๆๆ แต่แพง ไม่มีตังค์ ฮา....