ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Repeater

    ลำดับตอนที่ #1 : เรื่องน่าเบื่อ

    • อัปเดตล่าสุด 20 ต.ค. 53


                            ยามเย็น ตามถนนสายยาว ที่อ้อมผ่านหมู่บ้านเล็กๆ ใกล้แหล่งทำการเกษตรที่สำคัญของเมืองทรีเซีย ชายสวมเสื้อคลุมดำ ปกปิดใบหน้า ใช้มืออันหยาบกร้านถือไม้เท้าคอยพยุงร่าง เดินมาอย่างช้าๆ เสื้อของชายคนนี้แปดเปื้อนดินโคลน ที่เกิดจากการสัญจรของยวดยานพาหนะ 
                            เมื่อเดินมาถึงทางแยกเข้าหมู่บ้าน เท้าทั้งสองข้างของชายคนนั้น ก็หยุดลงและเงยหน้ามองเข้าไปในหมู่บ้าน จากแสงแดดที่ส่องมาเห็นใบหน้าใต้เสื้อคลุม นั้นเป็นใบหน้าของชายชราที่มีหนวเคราขาวโพลน ใบหน้ามีริ่วรอยเหี่ยวย่น แต่สายตาทั้งคู่กลับกระจ่างใส ไร้แววขุ่นมัวดุจชายชราคนอื่นๆ เห็นริมฝีปากใต้หนวดเคราขยับเล็กน้อยเป็นเสียงว่า
                           "...พักที่หมู่บ้านนี้ก่อนก็แล้วกัน"
                          เท้าทั้งคู่ก็พากันทำหน้าที่ของมันอย่างซื่อสัตย์ โดยพาร่างของชายชราผู้นี้เดินเข้าไปในหมู่บ้านอย่างช้าๆ จนมาถึงหน้าโรงแรมเล็กๆ แห่งหนึ่ง เมื่อเปิดประตูเข้าไป ภายในเต็มไปด้วยชาวบ้านที่เสร็จสิ้นการทำงานในแต่ละวัน นักพเนจร เหล่านักรบรับจ้าง รวมทั้งนักล่าที่ไม่ชอบสุงสิงกับใครที่ชอบนั่งหลบมุมตามเงามืด
                          สักครู่มีหญิงสาวแรกรุ่นราวสิบสี่สิบห้าผู้หนึ่ง เดินตรงเข้ามาทักทายพร้อมด้วยรอยยิ้มอันเป็นมิตร กล่าวว่า
                         "คุณตาจะมาพักแรมหรือรับประทานอาหารคะ"
                         ชายชรามองใบหน้าที่ไม่จัดว่าสวยงามบาดตาบาดใจชาย แต่กลับดูน่ารักน่าเอ็นดูมากกว่า รอยยิ้มอันสร้างความอบอุ่นให้กับผู้ที่ได้มาคุยด้วย ปากใต้หนวดเคราขยับยิ้มเล็กน้อย ก่อนกล่าวสั้นๆว่า
                         "พักแรม"
                         "สิบเหรียญเงินต่อคืนนะคะ แถมอาหารเช้าฝีมือหนูด้วย" พลางแบมือออกมารอให้ชายชราชำระเงิน
                         ชายชราล้วงเข้าไปในเสื้อคลุม พร้อมกับชักถุงเงินออกมา ภายในถุงเงินเต็มไปด้วยเหรียญเงินและทองอยู่เต็มถุง ชายชราค่อยๆ เลือกเหรียญเงินออกมาสิบเหรียญจ่ายให้กับหญิงสาวไป และค่อยๆ เก็บถุงเงินลงไปในเสื้อคลุมดังเดิม
                         หลังจากหญิงสาวได้รับเงินแล้ว ก็พาชายชราเดินขึ้นบันไดไปที่ห้องพักในชั้นสอง
                    
                        นักรบรับจ้างที่นั่งดื่มเหล้าอยู่กลุ่มหนึ่งเห็นเหตุการณ์ที่ชายชราจ่ายเงินให้หญิงสาว พากันจับกลุ่มกระซิบกันครู่หนึ่งก่อนมีสองคนที่เดินออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว

                         ตกดึกคืนนั้นเอง ระหว่างที่ผู้คนพากันหลับไหลสู่ห้วงนิทราอันน่ารื่นรมย์ หากแต่มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังพยายามแงะประตูโรงแรมเล็กของหมู่บ้านน้อย ไม่นานนักประตูที่ไม่แข็งแรงมากก็เปิดออก ชายห้าคนก็พากันย่องขึ้นไปที่ชั้นสอง จนมาถึงหน้าห้องของชายชราผู้มีทองคำจำนวนมากในครอบครอง ชายคนหนึ่งใช้ปลายมีดสอดเข้าไปตามร่องประตู เพื่อเขี่ยให้สลักกลอนหลุดออกไป
                         ด้วยความพยายามของชายคนนั้น ประตูห้องก็เปิดออกช้าๆ คนทั้งหมดพากันเข้าไปค้นหารอบๆห้องอย่างเงียบงัน ตามเสื้อคลุม กระเป๋า แต่กลับไม่พบเป้าหมายถุงทองคำนั้น จึงพากันหันไปมองที่ชายคนหนึ่งที่คล้ายเป็นผู้นำ ชายคนนั้นมองไปที่ชายชรา ก่อนกล่าวว่า
                       "ปลุกมันขึ้นมาถาม"
                        ชายที่เหลือพากันเข้าไปจับตัวชายชราและใช้ผ้าอุดปากไว้ ชายชราที่รู้สึกตัวก็พยายามดิ้นรน ก่อนจะรู้สึกถึงคมมีดอันเย็นเฉียบที่จ่อคออยู่ พร้อมกับเสียงอันเหี้ยมโหดว่า
                     "ถ้าอยากแก่ตาย ก็หยุดดิ้นและบอกมาว่าถุงทองคำของเจ้าอยู่ที่ใด หากเจ้าพยายามส่งเสียงร้อง มีดนี่จะเชือดเจ้าก่อนที่เสียงเจ้าจะดังไปถึงคนอื่นอย่างแน่นอน"
                      ชายชราที่พอเริ่มเข้าใจเหตุการณ์ ก็ค่อยๆ สงบลง พลางพยักหน้าไปที่หมอนข้างตัวของตน หัวหน้าโจรเห็นดังนั้น ก็รีบคว้าหมอนขึ้นและค้นหา จนพบว่าถุงทองซ่อนอยู่ในหมอนนั่นเอง จึงแสยะยิ้มก่อนยกมืออีกข้างขึ้นทำท่าปาดคอให้ลูกน้องที่ถือมีดอยู่เห็น
                         สมุนโจรที่ได้รับสัญญาณก็ออกแรงกดมีดลงไปที่คอของชายชรา ก่อนกระชากอย่างรวดเร็ว มีเสียงคร่อกๆ ดังขึ้นเล็กน้อยก่อนร่างชายชราจะกระตุกและเงียบไป
                         เหล่าโจรที่เห็นก็พากันยิ้ม ก่อนหัวหน้าโจรจะเดินนำหน้าออกจากห้องไป ขณะกำลังจะก้าวออกจากห้อง พลันรู้สึกสังหรณ์ใจวูบรีบถอยร่างกลับมาอย่างรวดเร็ว เงาดาบผ่านวูบตัดอากาศ ทำให้ผู้ที่ฟันดาบหมายสังหาร ตกใจไม่น้อยจนร่างถลำไปด้านหน้า หัวหน้าโจรที่เห็นก็ชักมีดแทงไปที่ชายโครงของคนผู้นั้น ทำให้คนผู้นั้นแผดร้องเสียงดังลั่นโรงแรม ก่อนฟุบลงไปกับพื้น
                         ที่แท้คนผู้นั้นเป็นอัศวินที่มาพักโรงแรมห้องข้างๆ พอตกดึกขณะกำลังเคลิ้มๆได้ยินเสียงผิดปกติคล้ายคนดิ้น จึงออกมาดู เห็นกลุ่มโจรกำลังสังหารชายชรา จึงรีบกลับห้องไปนำดาบมา ดักรอหมายสังหารพวกโจร แต่ผิดคาดหัวหน้าโจรสามารถหลบได้ทัน จึงกลายเป็นผู้ถูกสังหารแทน แต่เสียงร้องก่อนตายของอัศวินโชคร้าย กลับนำพาคราวเคราะห์มาสู่โรงแรมแห่งนี้
                        เสียงร้องปลุกคนในโรงแรมให้ตื่นขึ้นอย่างตกใจ บางส่วนออกมานอกห้อง แต่ยังไม่ทันรู้เรื่อง ก็ต้องกลับไปหลับสนิทชั่วชีวิตทันที เพราะเหล่าโจรเห็นมีผู้พบการกระทำของพวกตน จึงตกลงใจสังหารคนทั้งหมดเพื่อปกปิดเรื่องที่ตนทำ  ไม่นานโรงแรมหลังน้อยก็เริ่มมีไฟลุกขึ้นอย่างรวดเร็วจนไฟลามไปทั่ว ก่อนกลุ่มโจรจะหลบหายไปในความมืด
                      ร่างของชายชราที่นอนจมกองเลือดอยู่กลับค่อยยมีไอสีดำแผ่ออกมาเรื่อยๆ ไฟที่ลุกลามอยู่เมื่อกระทบกับไอสีดำกลับถดถอยไปอย่างรวดเร็วราวกับมอดลงอย่างฉับพลัน ไอสีดำจับร่างชายชราเข้มข้นเรื่อยๆ ก่อนจะเข้มข้นจนมองไม่เห็นข้างใน
                      ชั่วครู่ไปสีดำก็หดหายไปในร่างที่กองอยู่ที่พื้น แต่สิ่งที่อยู่บนพื้นกลับไม่ใช่ร่างของชายชราอีกแล้ว กลับกลายเป็นชายหนุ่มหน้าตางดงามราวกับอิสตรี ไม่ว่าหญิงใดพบเห็นต้องลุ่มหลงอย่างแน่นอน ดวงตาสีม่วงผลึกทั้งคู่ฉายแววเย็นชาจนแทบไร้ความรู้สึก ผมสีขาวราวหิมะยาวถึงกลางหลังไล่ตามกล้ามเนื้ออันงดงามได้รูป
                     ดวงตาสีม่วงก้มลงจ้องมองมือแข็งแกร่ง ก่อนกำมือทั้งสองเข้าหากัน พึมพำว่า
                     "ในที่สุดก็ครบหนึ่งพันครั้งแล้ว คงได้เวลาเสียที เหล่าสหายแห่งข้า"
                     พลางลุกขึ้นหยิบเสื้อคลุมที่ถูกไฟไหม้เหลือเพียงครึ่งมาดูก่อนเหวี่ยงทิ้งไป ดวงตาสีม่วงสว่างวูบ ก่อนมีหลุมดำปรากฏขึ้นข้างกาย ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อย ก่อนใช้มือซ้ายล้วงมือไปในหลุมดำ ควานอยู่ชั่วขณะ ก็ได้เสื้อผ้าสีดำสนิทชุดหนึ่งติดออกมา จึงนำมาสวมใส่  ก่อนล้วงเอาเสื้อคลุมออกมาอีกตัว สวมทับลงไป หลังจากชายหนุ่มโบกมือวูบหลุมดำก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
                  ชายหนุ่มเดินออกมาจากห้องช้าๆ ผ่านทางเดินมาเรื่อยๆ ตลอดทางเปลวไฟที่โหมแรงกลับพากันแหวกออกเป็นทางให้แก่ชายหนุ่มเดินผ่านไปอย่างสะดวก ราวกับเกรงกลัวชายหนุ่มผู้นี้เป็นยิ่งนัก ขณะเท้ากำลังจะก้าวพ้นจากประตูโรงแรมที่ใกล้จะพัง สายตากลับเหลือบไปเห็นร่างเล็กๆ ที่นอนนิ่งอยู่ข้างประตู ร่างนี้คือหญิงสาวที่ทักทายเค้าด้วยรอยยิ้มตอนเข้ามา แต่บัดนี้กลับนอนเป็นศพเย็นชืดรอการไหม้จากเปลวไฟจนสูญสิ้นไป ชายหนุ่มขบคิดถึงความอบอุ่นในรอยยิ้มนั้น ก่อนกวักมือขวาเบาๆ ร่างเล็กที่นอนอยู่ข้างประตู ก็ลอยมาอยู่ตรงหน้าทันที ชายหนุ่มร่ายเวทย์เบาๆ ก่อนกล่าวชื่อของมนตราว่า
                    " repeate"
                  ทันใดนั้น ปรากฏแสงสีขาวสว่างรอบๆ ตัวหญิงสาว ก่อนที่บาดแผลต่างๆจะพากันจางหายไปอย่างรวดเร็ว ร่างกายที่เย็นชืดกลับเริ่มมีความอบอุ่น หัวใจที่หยุดเต้นกลับเริ่มทำงานอีกครั้ง แต่ดวงตาทั้งสองยังปิด คล้ายกับนอนหลับไป
                   ชายหนุ่มเห็นผลจากมนตราที่ร่ายไปแล้ว ก็ยิ้มเล็กน้อย ก่อนเดินออกไปจากโรงแรม พร้อมกับร่างของหญิงสาวที่ลอยตามหลังไป                     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×