ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] Black Angel (มีEbook)

    ลำดับตอนที่ #7 : แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งราชา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.11K
      5
      8 ก.พ. 56

    “ท่านซิน.....ท่านมาที่นี่ได้เยี่ยงไรกัน”

     

    นาซาสเอ่ยถามอย่างใคร่รู้แต่ราชาแห่งรัตติกาลผู้มีใบหน้างดงามนั้นกลับมองไปโดยรอบพร้อมลูบศีรษะสัตว์เลี้ยงข้างกายอย่างเอ็นดู

    “ที่เขตแดนแห่งนี้เป็นเขตแดนต้องห้ามของเหล่าเทพมาช้านาน นั่นเพราะเป็นเขตแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งราชาปีศาจผู้ปกครองดินแดนแห่งหมู่มารปีศาจทั้งหลาย หากพวกเจ้ายืนอยู่ในเขตแดนอันศักดิ์สิทธิ์ของข้า เช่นนั้นแล้วเหตุใดข้าจึงจะมิล่วงลรู้การมาเยือนของพวกเจ้ากันเล่า อีกอย่าง....”

    บุรุษสูงศักดิ์หยุดน้ำเสียงเรียบนิ่งนั้นครู่หนึ่งก่อนชำเลืองมองไปยังเทพแห่งสายลมอีกครั้ง

    “สายลมของเจ้าเป็นผู้ชักพาข้ามาสู่เจ้า พวกเขาบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้ข้าสดับรับฟัง รวมถึงวลีเจ้าที่ฝากผ่านมายังข้าอีกด้วย”

    วลีที่ฝากผ่าน ฝากดูแลเขาแทนข้าด้วย บอกกับเขาว่าข้าห่วงใยเขาและหมายที่จะได้เห็นนัยน์ตาสีโลหิตนั้นอีกครั้งมากมายแค่ไหนน่าขายหน้านัก! นี่เขาคุยกับสายลมของข้ารู้เรื่องด้วยงั้นเหรอ

    “นี่ท่าน....สนทนากับสายลมของข้าได้งั้นหรือนี่?” นาซาสทั้งแปลกใจระคนสงสัยที่ได้รับทราบความตามที่ราชาปีศาจกล่าว จึงเอ่ยถามเพื่อย้ำความกับตัวเองให้แน่ใจอีกครั้ง เพราะหากเป็นจริงดังคาด คราวนี้ก็คงไม่รู้ว่าจะต้องเอาหน้าไปหลบซ่อนความอายนี้ไว้ที่ไหนดี แอบหลงใหลเขาเพียงแรกพบและสารภาพความเป็นนัยๆ จนหมดสิ้นกับเจ้าสายลมพวกนั้นเพราะคิดว่าตัวเองคงไม่อาจมีชีวิตรอดอีกต่อไป...

    “สรรพสิ่งบนโลกล้วนแล้วแต่มีจิตวิญญาณด้วยกันทั้งสิ้น หากแต่เพียงเปิดใจยอมรับ... ทุกสิ่งก็ย่อมพูดคุยสนทนากันได้มิใช่หรือ? และสายลมก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ข้าชอบฟังเขาคุยนัก... ข้าขอรับความห่วงใยนั้นไว้ด้วยความเต็มใจยิ่งแล้ว” ดวงตาคู่คมสวยมองจ้องลึกเข้ามาในดวงตาสีดำสุกใสของมนุษย์พลางยกยิ้มบางๆ อย่างน่าหลงใหล อา....ช่างน่าแปลกเหลือเกิน ถึงแม้ที่กล่าวออกมานั้นจะเป็นสัจธรรมที่ใครๆ ต่างทราบดี แต่ก็ใช่ว่าจะทำกันได้โดยง่ายตามที่กล่าวออกมา เท่าที่รู้มายังไม่เคยมีใครคุยกับสายลมได้เลยจริงๆ หากมิใช่เทพแห่งสายลม ทายาท หรือผู้ใช้ลมทั้งหลาย แม้แต่อิออสเองที่สอนแล้วสอนอีก พยายามทุกวิถีทางที่จะสอนให้เขาคุยกับสายลมให้ได้ เพื่อที่หากวันใดมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจหรือลำบากขึ้นมาจะได้บอกผ่านกับสายลมช่วยเป็นสื่กลางในการสื่อสารให้ ก็ยังไม่สามารถที่จะคุยกับสายลมไหนๆ ได้เลย แต่บุรุษที่งามสง่าผู้นี้กลับทำได้ดั่งเป็นกิจประจำวันเสียอีกด้วย นี่ข้าควรดีใจหรือว่าเสียใจดีนะ ที่ดันมั่นใจว่เขาจะไม่ฟังเรื่องราวจากสายลมของข้าน่ะ ด้วยปีกแห่งเทพเอ๋ย

    “เอ่อ...คือว่าข้าเองก็ไม่ได้อยากขัดขึ้นมากลางคันเช่นนี้หรอกนะ เพียงแต่ว่าข้ายังไม่ได้แนะนำตัวเองเท่านั้น ข้าชื่อ อิออส เป็น นักรบ อา ไม่สิ เป็นอดีตนักรบเทพแห่งกาลเวลาน่ะ ต่อไปนี้ข้าคิดว่าข้าคงกลายเป็นนักรบกบฏแล้วล่ะนะท่านราชาแห่งรัตติกาล”

    เมื่อกล่าวจบดวงตากันแหลมคมสีแดงฉานก็หันขวับและจับจ้องมายังอิออสจนหัวใจแทบจะหยุดเต้น...ช่างเป็นดวงตาที่น่าสะพรึงยิ่งนัก เพียงแค่รู้ว่าถูกจับจ้องอยู่ก๋ทำเอาขนลุกเกรียวจนไม่กล้าขยับกายหนีไปทางใด ให้ตายสิแบบนี้สินะปีศาจน้อยใหญ่จึงได้ยอมศิโรราบจนหมดสิ้น

    ฝ่ายซินเองเมื่อเห็นท่าทีของอิออสเช่นนั้นจึงหลับตาและหันหลบไปอีกทาง

    “ขออภัย ดวงเนตรแห่งข้าไม่มีจิตคิดร้ายเจ้าแต่อย่างใดวางใจได้ เทพแห่งกาลเวลาเอ๋ย นัยน์ตาสีโลหิตนี้ผู้ใดที่ถูกจับจ้องจักคล้ายต้องมนต์และมักหวาดกลัวด้วยกันทั้งสิ้น ถ้าเจ้าไม่ชอบให้ข้าจ้องมองข้าก็จะไม่ทำเช่นนั้นอีก”

    “หามิได้ท่านซิน หากแม้นดวงเนตรแห่งท่านคือพลังอำนาจ เช่นนั้นแล้วข้าก็คงมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ขอท่านโปรดวางใจและอย่าได้กังวลไปเลย”

    อิออสกล่าวด้วยรอยยิ้มพลางโค้งให้ราชาหนึ่งครั้ง นาซาสหันมองสหายที ราชาปีศาจอย่างซินที คำล่ำลือดังกล่าวใช่ว่าจะไม่เคยได้ยิน เพราะก็เจ้าอิออสนั่นล่ะที่เป็นคนบอกเล่าให้ฟัง เพียงแต่เหตุไฉนใยนัยน์ตาสีเลือดนั้นกลับไม่ได้สร้างความหวาดหวั่นพรั่นพรึงให้กับข้าแม้แต่น้อยเล่า มันกลับทำให้ข้ารู้สึกสนใจในตัวเจ้าของดวงเนตรคู่นั้นมากยิ่งขึ้นไปอีก ข้าหลงใหลมนต์เสน่ห์ในดวงเนตรนั้นเสียเหลือเกิน มันดูน่าค้นหา เย้ายวน และท้าทาย น่าลุ่มหลง หากแต่ก็...สูงค่าเกินจะโน้มต่ำลงมาเสมอกับดวงตาของตนได้ แต่แม้จะรู้ถึงความแตกต่างระหว่างฐานะและเผ่าพันธุ์เช่นนี้ ข้าก็ยังมิอาจลบความคิดที่จะได้เป็นผู้ครอบครอง แลเป็นเจ้าของนัยน์ตาคู่นั้นไปได้ ปรารถนาที่จะให้ดวงเนตรคู่นั้นจับจ้องมายังข้าเพียงผู้เดียว

    “แม้ใครหลายคนต่างหวาดกลัวดวงเนตรแห่งท่าน แต่ก็ยังมีบุตรมนุษย์กึ่งเทพตรงนี้อยู่อีกคนที่ยังคงหลงเสน่ห์ในความสวยงามของสีแดงนั้นนะท่านราชาแห่งรัตติกาล”

    อิออสกล่าวพลางหัวเราะลงคอเบาๆ ทำเอานาซาสหันมองหน้าและกร่นด่าเพื่อนอยู่ในใจพลางจ้องมองไปยังใบหน้าสวยนั้นที่ยกยิ้มน้อยๆ มิได้กล่าวตอบอันใด

    “จากที่ได้ฟังท่านบอกเล่ามาทั้งหมดนี้ว่าที่นี่คือแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งราชา เช่นนั้นผู้ที่เคยไว้ชีวิตให้กับเทพสายลมนั้นก็คงจะเป็นท่านเองสินะ พวกท่านก็ไม่ได้เจอกันเป็นครั้งแรกแต่หากมีบุพเพฯ ต่อกันมาตั้งแต่เมื่อกาลก่อนแล้วนั่นเอง ใยถึงจำกันไม่ได้เล่า”

    “ข้ามิเคยลืมการณ์เมื่อครั้งก่อน เพราะเขตแดนแห่งนี้มิเคยมีผู้ใดหาญกล้าลอบเข้ามาเลยนับตั้งแต่บิดาข้าถือครองเป็นราชา ถือเป็นโชคชะตาแลวาสนาต่อกันแล้ว บุญคุณต่อบุญคุณ ชีวิตที่ปล่อยไป กลับมาช่วยเหลือเกื้อหนุนกันอีกครั้ง และเหตุเพราะช่วยข้าจึงทำให้พวกเจ้าต้องเดือดร้อน เมื่อไม่มีที่ไปก็จงอยู่ ณ ดินแดนแห่งนี้เถิด ข้าจะต้อนรับพวกเจ้าอย่างดี จะไม่มีอันตรายใดๆ เกิดแก่พวกเจ้าข้าขอรับรองด้วยเกียรติแห่งราชา เว้นเสียแต่ว่าพวกเจ้านั้นจะรังเกียจกลิ่นสาปสางของปีศาจเยี่ยงข้าเสียมากกว่า”

    คำของราชารัตติกาลดั่งตบหน้านาซาสเข้าจังๆ นี่คงได้ยินสิ่งที่พูดคุยกับอิออสตรงแถวอุทยานสินะ ....แล้วแบบนี้จะยังเข้าหน้าติดอีกงั้นเหรอเนี่ย แรกเริ่มก็ลุกล้ำอาณาเขตเขาแล้วจำไม่ได้ทั้งที่เคยถูกไว้ชีวิตมาแท้ๆ ต่อมาก็ไปว่าเขาทั้งที่ยังไม่เจอะเจอหรือเคยพานพบหน้ามาก่อน แต่พอเจอกันก็หลงทั้งเสน่ห์กลิ่นกายและดวงตาคู่นั้น นาซาสเอ๋ยนาซาส นี่เจ้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน ยังจะเข้าหน้าเขาติดอีกงั้นเหรอเนี่ย

    “นี่ท่านได้ยินสิ่งที่นาซาสพูดตรงสวนงั้นรึ” ไอ้เพื่อนปากไวเช่นอิออสก็ดังพูดโพร่งมัดตัวออกมาตอกย้ำเข้าไปอีก เล่นเอาต้องรีบตะครุบปากเพื่อนไว้ในทันที

    “ข้ามิกล้า... ข้าขออภัยที่กล่าวเช่นนั้นออกไป..คือว่าข้า..”

    “พวกเจ้าก็คิดเช่นนั้นเหมือนกันหรอกรึ ข้าหาได้ยินสิ่งใดไม่ ไม่เป็นไรข้าไม่ถือคำเหล่านั้นหรอก นี่ก็ล่วงเลยมานานมากแล้วข้าว่ารีบเดินทางไปยังใจกลางแห่งแดนปีศาจจะดีกว่า ณ เขตแดนแห่งนี้แม้อัศวินเทพทั้งหลายจะมิกล้าตามเข้ามากัน แต่ก็ไม่อาจคาดเดาได้ว่าสิ่งใดจะเกิด เพลานี้แดนสวรรค์ช่างแตกต่างจากกาลก่อนมากมายนัก ข้ามิอาจหยั่งรู้ได้เลยว่าจะถูกบุกรุกเข้ามาเมื่อใด

    ซินกล่าวเหมือนกับว่าเขาไม่ได้ยินที่ทั้งสองเทพสนทนากันในสวน เพียงแต่ได้ยินเรื่องเหล่านี้มาจากเหล่าบรรดาเทพองค์อื่นๆ ต่างหาก

    ระหว่างการเดินทางไปยังใจกลางแห่งดินแดนปีศาจเทพแห่งสายลมยังคงจ้องมองเบื้องหลังของบุรุษรูปงามที่เดินนำหน้าตนอย่างเงียบๆ เสื้อผ้าอาภรณ์นั้นยังคงทรงอยู่ในชุดเดิม เรือนกายที่อาบโทรมไปด้วยหยาดโลหิต และบาดแผลมากมาย หมายความว่าชายผู้นี้รีบตรงมาหาพวกเราทั้งที่ยังมิได้รับการเยียวยาเช่นนั้นรือ? แต่แล้วทำไมกัน เหตุใดถึงยังวางท่าทางประหนึ่งเหมือนมิได้รับบาดเจ็บใดๆ สักนิด ยังคงย่างเดินด้วยท่วงทีสง่าผ่าเผยและมั่นคงยิ่ง หรือเป็นเพราะอยู่ในเขตแดนของตนเองกันล่ะเลยทำให้บาดแผลที่ควรจะเจ็บปวดนั้นหายไป??”

    “ข้าว่าข้ารู้นะว่าเจ้าคิดอะไรอยู่น่ะ”

    อิออสกระซิบเมื่อเห็นเพื่อนมองแผ่นหลังอันบอบบางแต่ทรงอำนาจนั้นไม่วางตา

    “เขาเป็นจ้าวแห่งปีศาจทั้งมวล คือราชาแห่งรัตติกาล ขืนมัวทำท่าทีโอดครวญเจ็บหนักให้เหล่าบริวารของตนเห็น แล้วเขาจะปกครองดินแดนแห่งนี้อย่างไรเล่า ...เจ้าดูเอาเถิด โลหิตไหลอาบท่วมตัวขนาดนั้นยังทนเดินเฉยอยู่ได้ เก่งกล้าผิดกับรูปร่างอันบอบบางนั้นเหลือเกินแล้ว...”

    เทพแห่งกาลเวลาผู้เพื่อน เอ่ยเบาๆ ... นั่นสินะ ตำแหน่งสูงส่งที่ถือค้ำไว้ หากมัวทำท่าทางเจ็บปวดโอดครวญให้ใครเห็นคงทำเอาหมดศรัทธากันทั่วหล้าแน่ เพลานี้ที่ถูกสั่นคลอนบารมีก็มากเกินกว่าจะแก้แล้ว หากยังทำตัวไม่สมเป็นผู้ปกครองนครอีก ปีศาจน้อยใหญ่คงหมดซึ่งกำลังใจแน่นอน  

     

    “ไอ้นัท เขาว่าผับแถวบ้านแกมีวงใหม่มาเล่น นักร้องเสียงดีเชียวมึง จะแวะไปฟังหน่อยมั้ยเผื่อจีบมาเล่นวงกับเราด้วยน่ะ”

    “กูยังไม่ว่างเลย มึงไปดูเผื่อกูได้แมะบาส”

    “ไม่ว่างหรือว่ามึงติดนิทานเด็กอยู่วะไอ้เชี่ยนี่ เรื่องเงินเรื่องทองมาก่อนเป็นอันดับแรกดิวะ หนังสือไม่ได้ละลายหายไปสักหน่อยมึง”

    บาสที่เพิ่งเข้ามานั่งแหมะในห้องนอนของนัทคว้าหนังสือนิทานเก่าคร่ำคร่าเล่มนี้มาพลิกไปพลิกมาอ่านดูบ้าง ในขณะที่เจ้าของห้องยืนใช้ไดเป่าผมเป่าหัวให้แห้งหมาดหลังจากออกมาจากห้องน้ำใหม่ๆ

    “มันก็ส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนคือไปแล้วก็ต้องกินเหล้าสั่งกับแกล้มที่ซึ่งตอนนี้กูหมดตัวว่ะ สั่งของให้แม่ไปหมดไปหลาย ดังนั้นมึงไปดูไปฟังให้หน่อยแล้วกันอัดคลิปมาด้วย โอเคนะมึง”

    “โยนขี้ให้กูอีกมึงไม่ไปแล้วกูจะไปกับใครได้วะ ถ้าเสือกชอบแล้วเขาโดนซิวไปแล้วจะว่าไงกันเนี่ยทีนี้”

    “เชื่อกูเถอะ ถ้าร้องอยู่วงนึงได้ มันไม่แค่รับจ๊อบที่เดียวหรอก เผลอๆ ว่องรอกคืนนึงไม่ต่ำกว่า สามที่”

    “มันก็จริงของแก แล้วจะเอาไงวะ”

    “แล้วแต่บุญธรรมกรรมแต่งว่ะ อะไรที่จะได้เจอเดี๋ยวมันก็ได้เจอ อะไรที่มันไม่ใช่ ต่อให้ขวนขวายพยาย้าม พยายามยังไงมันก็ไม่มีวันที่จะได้มาหรอก ดูอย่างเทพสายลมกับราชารัตติกาลดิ กูว่าคู่นี้แม่งได้กันแน่ๆ ขนาดคลาดกันไปแล้วก็ยังกลับมาเจอกันได้ โรแมนติคสุดๆ แต่แค่กูสงสัยเท่านั้นล่ะว่า สูงส่งขนาดนั้นจะยอมลดตัวลงมาให้กับเทพกระจอกหรือวะนั่น”

    “อินไปนะมึงเนี่ย ลุ้นประหนึ่งเป็นเรื่องตัวเอง กูเห็นมึงพร่ำหาไอ้เทพรัตติกาลอะไรของมึงนี่แทบจะสามเวลาหลังอาหารแล้วไอ้นัท มึงไปมีส่วนได้เสียอะไรกับเขารึยังไง ฮ่าๆๆ”

    นัทวางไดเป่าผมและคว้าหนังสือจากมือบาสมาและทำหน้าตาขึงขัง

    “เอามานี่เลยยย มือมึงสกปรก เดี๋ยวหนังสือกูมีมลทิน กลับบ้านไปเลยไปกูจะอ่านต่อ”

    “ตลอดดดอ่ะ ไล่กูจัง ไหนบอกว่ากูเป็นเพื่อนซี้ยังกับเป็นเทพแห่งกาลเวลาไง ไหงไล่กูออกห่างจังวะกูออกจะเป็นสหายรักขนาดนี้ ฮ่าๆๆ”

    บาสหัวเราะและคว้าคอเพื่อนมากอดไว้พลางขยี้หัวให้มันยุ่งเหยิงเล่น จนนัทต้องวางหนังสือแล้วหันมารบกับเพื่อนแทน ถ้าทั้งโลกใบนี้จะมีเทพแห่งสายลม และเทพแห่งกาลเวลาอยู่แล้วล่ะก็ เทพมารราชาปีศาจจะอยู่ที่ไหนกันนะเวลานี้.....


    -------------------------------------

    แวะมาต่อในยามเย็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ฮ่าๆๆ
    ลุ้นแมะ? แต่คนเขียนลุ้นมากค๊าาา
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×