ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] Black Angel (มีEbook)

    ลำดับตอนที่ #1 : The White Poem

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.93K
      14
      8 ก.พ. 56

     

     

    "ผมสีดำนิลกาลหยักสยายพลิ้วไหวคล้ายม่านเมฆที่คลี่ตัวปลกคลุมท้องนภายามรัตติกาล

    ดวงตาคมปลาบสีแดงฉานเปรียบดั่งอัญมณีสีโลหิตต้องมนตรา

    ดูลึกลับ น่าพรั่นพรึง แต่มีเสน่ห์ แฝงไว้ซึ่งร่องรอยแห่งความอ่อนโยน

    ภายใต้ใบหน้าที่คมเข้มแต่งดงามดั่งภาพฝันนั้น.....

    เมื่อแรกเห็น...ข้าก็พลันหลงเสน่ห์แห่งมนตราสีเลือดของชายผู้นั้นเสียแล้ว"

     

                “นัท มีพัสดุส่งมาถึงลูกแน่ะ กล่องใหญ่เชียว”

                “ขอบคุณครับแม่”

                ชายหนุ่มที่เดินเข้าบ้านมาหมาดๆ ตอบรับคำผู้เป็นแม่และยกพัสดุบนโต๊ะขึ้นห้องไป หลายวันก่อนตอนที่กำลังนั่งหาของขวัญวันเกิดให้แม่ เขาได้เจอกับกล่องแอนทีคใบหนึ่งเข้าในอีเบย์ เห็นว่าเป็นกล่องที่ดูดีและเป็นแบบที่แม่ชอบก็เลยตัดสินใจสั่งซื้อมา แม้ว่าก่อนหน้านั้นจะมีหนังสยองขวัญที่เกี่ยวกับกล่องอาถรรพ์เข้ามาฉายก็ตาม ชายหนุ่มแกะกล่องพัสดุออกเพื่อเช็คสินค้าภายในที่ตนสั่งมาด้วยท่าทีกระตือรือร้น และให้ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าภายในกล่องไม้ที่เขาสั่งมานั้นกลับมีหนังสือผุพังเก่าคร่ำคร่าเล่มหนึ่งติดมาด้วย หากนี่เป็นหนังสยองขวัญมันคงเป็นมนต์ดำหรืออะไรที่ต้องคำสาปสักอย่างแน่ๆ

                แต่กับนัทแล้วหนังสือเล่มนี้กลับดึงดูดให้หยิบมันขึ้นพินิจพิเคราะห์อย่างสนใจ เขาพลิกเปิดมันออกดูและพบว่ามันเป็นเพียงหนังสือนิทานโบร่ำโบราณเล่มหนึ่งเท่านั้น ติดอยู่ก็ตรงที่หน้าหลังสุดของหนังสือนั่นล่ะที่ทำให้ชายหนุ่มค่อนข้างชะงักและรู้สึกหัวใจเต้นระรัวอย่างกับได้เจอคนรัก! มันเป็นภาพสเก็ตของใครบางคนที่ทำเอาไม่อาจละสายตาไปได้ พร้อมมีบทบรรยายใต้ภาพที่ถูกกาลเวลากัดกร่อนจนชืดจางเกือบเลือนหาย

     

                “ผมสีดำนิลกาลหยักสยายพลิ้วไหวคล้ายม่านเมฆที่คลี่ตัวปลกคลุมท้องนภายามรัตติกาล

    ดวงตาคมปลาบสีแดงฉานเปรียบดั่งอัญมณีสีโลหิตต้องมนตรา

    ดูลึกลับ น่าพรั่นพรึง แต่มีเสน่ห์ แฝงไว้ซึ่งร่องรอยแห่งความอ่อนโยน

    ภายใต้ใบหน้าที่คมเข้มแต่งดงามดั่งภาพฝันนั้น.....

    เมื่อแรกเห็น...ข้าก็พลันหลงเสน่ห์แห่งมนตราสีเลือดของชายผู้นั้นเสียแล้ว” ---N??

     

                ชื่อของผู้พร่ำพรรณนานั้นขาดหายไปเหลือเพียงอักษรเพียงตัวเดียวที่คงอยู่ และนั่นทำให้ชายหนุ่มพลิกอ่านเรื่องราวในหนังสือโบราณเล่มนี้อย่างสนใจ......



    The white poem

                เรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องเล่าที่ขับขานกันมาช้านานถึงตำนานบทหนึ่งที่กล่าวถึงชายหนุ่มครึ่งมนุษย์ครึ่งเทพ กับ ราชาปีศาจองค์สุดท้ายของพื้นพิภพ ซึ่งนำพาการล่มสลายของดินแดนสวรรค์ ดินแดนปีศาจ เหล่าทวยเทพ และอมนุษย์ทั้งหลาย....

     

                "ว้าว ที่นี่ช่างสวยงามเหลือเกิน เหตุใดเล่าพวกผู้ใหญ่ถึงไม่ให้เราเข้ามา….."

                เด็กชายตัวจ้อยอายุคาดว่าไม่น่าจะเกิน 6-7 ปีมนุษย์ เดินเลาะเรื่อยไปตามทางเดินกรวดหินที่มีหญ้าอ่อนขึ้นแซมอยู่ประปรายทั้งรายล้อมไปด้วยพฤกษานานาพันธุ์ เหตุที่ใช้คำว่าขวบปีของมนุษย์ก็เพราะเด็กชายที่ว่านี้ไม่ได้กำลังย่างเท้าเดินอยู่บนเขตแดนของโลกมนุษย์อย่างไรเล่า หรือหากจะพูดอีกเจ้าตัวน้อยนี้ไม่ได้เป็นมนุษย์หรอกแต่เป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งเทพที่มีแม่หรือพ่อสักคนหนึ่งเป็นเชื้อสายของเทพนั่นล่ะ พวกเทวดาหรืออัศวินเทพที่ย่างกรายลงมาพบเจอกับบุตรเทพเหล่านี้ ส่วนใหญ่ก็จะพากลับสวรรค์และเลี้ยงดูอุ้มชูอยู่ในเขตแดนชายขอบทางตอนเหนือของสวรรค์พร้อมฟูมฟักเพื่อให้ช่วยงานสวรรค์ตามพรสวรรค์ต่างๆ ที่มี บางคนเก่งถึงขั้นได้เป็นอัศวินเทพเลยก็มีเช่นกัน แต่ละคนจะคงไว้ซึ่งชื่อดั้งเดิมดั่งมนุษย์ของตนไม่เปลี่ยนแปลงเช่นเจ้าเด็กชายที่แสนซุกซนคนนี้ที่ชื่อ นาซาส เป็นต้น

     

                (อ่านมาถึงตรงนี้ก็ทำให้ชายหนุ่มอดที่จะหัวเราะขันขึ้นมาไม่ได้ว่าเขาเคยเล่นแอพพลิเคชันชาติก่อนคุณเคยชื่ออะไร และมันก็ประมวลผลออกมาว่าชาติก่อนเขาชื่อ นาซาส ซึ่งอาจเพราะเขาใส่ชื่อเล่นตัวเองลงไปมันก็เลยออกมาให้ชื่อคล้ายคลึงกันแบบนี้ และหากให้คาดเดาชื่อของผู้ที่พร่ำเพ้อใหลหลงในตัวหญิงสาวผมยาวหยักศกหลังเล่มนั้นก็คงจะเป็นเจ้าเด็กนี้อย่างไม่ต้องสงสัย)

     

                ยิ่งเดินลึกเข้าไปตามทางเดินของเขตหวงห้ามนี้ก็ยิ่งพบกับความน่าอัศจรรย์ของธรรมชาติ เหล่าแมกไม้ พฤกษานานาชนิดล้วนแปลกตาต่างจากที่เคยได้เห็นนี่น่ะเหรอดินแดนเขตต้องห้าม ที่ใครๆ ต่างพากันกล่าวขานว่าอันตรายยิ่งนัก เหล่าภูติตัวน้อยๆ ต่างบินไปมากันอย่างเบิกบาน เด็กชายเดินเล่นและหลงระเริงเพลิดเพลินมาจนถึงลำธารใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชีวิตของป่ากว้างแห่งนี้

    "โอ้โห! แม้แต่ลำธารก็ยังสวยเลย สายน้ำเป็นสีทองเสียด้วย คอยดูนะถ้ากลับไปจะเยาะเย้ยเจ้า อิออส ให้ เจ้าคนขลาด ขี้กลัวจนอดเห็นสถานที่สวยๆ งามๆ แบบนี้เลย" แล้วเจ้าตัวน้อยก็วิ่งลงไปเล่นยังสายธารกับเหล่าบรรดาภูติที่บินไปมาตามโขดหินอย่างสนุกสนาน หารู้ไม่ว่าบัดนี้ได้มีดวงตาคมวาวจับจ้องมายังตนอยู่อย่างเงียบเชียบภายในหมู่แมกไม้ทึบที่ไม่อาจคาดเดาได้

    "ฮะๆ ๆ พวกเจ้าอย่าหนีนะ ข้าต้องจับพวกเจ้าให้ได้เลย ฮะๆ ๆ"

    จู่ๆ เสียงของบรรดาสัตว์ป่าน้อยใหญ่ก็เงียบหายไป เหล่าภูติที่เคยบินล้อเล่นด้วยกัน ก็กลับบินสูงเสียดฟ้า เงาทมิฬสูงใหญ่กระโจนกายออกมาจากป่าทึบ มุ่งตรงมายังเด็กเล็กๆ ที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตน….

    อุ้งเท้าหนาและใหญ่ตะปบลงบนไหล่ทั้งสองของผู้บุกรุก ภาพสะท้อนที่เด็กน้อยได้เห็นในดวงตาคือ ภาพของสุนัข 3 หัว ตัวสีดำสนิท สูงใหญ่กว่าเขาหลายเท่าตัว มันแยกเขี้ยวขาวพร้อมที่จะกัดกินทำร้ายเขาได้ทุกเวลา

    "เซอร์บิรัส…"

    เสียงกังวานทรงอำนาจเสียงหนึ่งดังขึ้น เจ้าปีศาจร้ายสามเศียรจึงคลายอุ้งเท้าแกร่งออกอย่างว่าง่าย พร้อมเดินตรงไปยังที่มาของเสียงนั้น ความกลัวและตกใจยังมิจางหายไปแม้แต่น้อย เขานั่งตัวสั่นเทิ้มด้วยความหวาดผวา น้ำตาเอ่อท้นเปรอะเปื้อนสองข้างแก้มใสสีแดงเรื่อ นี่สินะเหตุผลที่ไม่มีผู้ใดกล้าเหยียบย่างเข้ามาในบริเวณนี้ เพราะมีปีศาจที่ดุร้ายและน่ากลัวแบบนี้อยู่สินะ

    ร่างสูงโปร่งบางโอบคลุมด้วยอาภรณ์สีดำสนิททั้งเรือนกาย ริมฝีปากสีแดงสดตัดกับสีผิวที่ขาวซีดคล้ายไร้ซึ่งชีวิต จมูกรั้งโด่งสวยรับกับใบหน้าเรียวคมเข้มที่ล้อมกรอบด้วยเรือนผมสีดำขลับยาวหยักสยายเลยกึ่งกลางหลัง ดวงตาคมสีแดงฉานนั้นสร้างบรรยากาศน่าเกรงขามให้กับบุคคลผู้นี้ยิ่งนัก แต่ทั้งหมดทั้งมวลเมื่อรวมกันมันกลับชดช้อยและงดงามน่าหลงใหล...

    "ที่นี่เป็นเขตต้องห้ามของเหล่าชาวสวรรค์อย่างพวกเจ้ามิใช่รึ? เหตุใดเจ้าจึงมายัง ณ ที่เขตแดนแห่งนี้" เสียงทรงอำนาจถูกเปล่งออกมาอีกครั้ง เด็กน้อยมิกล้าจ้องหน้าได้แต่ก้มหน้าก้มตาเนื้อตัวสั่นเทาอย่างกลั้นความกลัวไว้ไม่อยู่ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านี่คือปีศาจแน่ๆ แล้ว ดวงตาคมปลาบสีแดงเลือดเช่นนี้จะเป็นอย่างอื่นไปได้อย่างไร

    ปีศาจผู้สูงศักดิ์เดินตรงเข้าไปใกล้ เจ้าเด็กชายก็กระถดตัวถอยหนียกมือขึ้นปัดป้องพร้อมร้องบอกอย่างน่าสงสาร

    “อย่า... อย่ากินข้า ข้ากลัวแล้ว” เขาร้องขอชีวิตอย่างไม่อายใคร

    “บุตรแห่งเทพเอ๋ย แม้ข้าจะเป็นปีศาจแต่ข้าก็ไม่คิดที่จะกลืนกินเทพตัวเล็กๆ เช่นเจ้าหรอกนะ”

    “หมายความกินแต่ผู้ใหญ่งั้นเหรอ?”

    คำถามอย่างเดียงสาของเจ้าบุตรมนุษย์กึ่งเทพนี้ ทำเอาปีศาจหนุ่มชะงักไปเป็นพักก่อนยิ้มพรายอย่างเอ็นดู

    “บุตรแห่งเทพเอ๋ย จงออกไปจากป่าแห่งนี้ และจงอย่าได้หวนกลับมาที่นี่อีกเป็นครั้งที่สอง การอภัยให้แก่ผู้ที่ล่วงล้ำเข้ามาจะไม่มีอีกต่อไป เซอร์บิรัส... จงพาบุตรแห่งเทพผู้นี้ออกไปเสีย”

    เมื่อสิ้นคำสั่งจากผู้เป็นนาย เจ้าหมาปีศาจข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ก็งับคาบเด็กขึ้นนั่งบนหลังพากระโจนหายเข้าไปในป่า ตามทางเดินที่เขาเข้ามา ดวงตากลมโตสุกใสหันกลับไปมองดูปีศาจสวยงามตนนั้นอีกครั้ง ก่อนจะหันกลับมามองทางตามเดิม สร้อยข้อเท้ารูปขนนกคริสตัลส่องประกายแสงวับวาบอยู่บนพื้นที่ด้านหน้า มือบางเอื้อมคว้าเก็บขึ้นมาดู พลางเดินหายลับไปจากบริเวณลำธารนั่น......

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×