ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [KrisHan] บันทึกของจื่อเทา ft.TaoHun

    ลำดับตอนที่ #2 : บันทึกที่ 2 :: Jet Lag ของพี่ชาย ::

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.ค. 56


     

                    เป็นอีกครั้งที่ผมต้องพูดว่า กลับมาแล้วครับ ผมกลับถึงเกาหลีแล้วครับ ไม่กี่วันมานี้เรามีโชว์พิเศษที่ประเทศรัสเซียกัน ที่รัสเซียมันก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่และน่าตื่นเต้นสำหรับพวกเราทุกคนมาก เริ่มตั้งแต่เวลาเดินทางที่สุดโหดเลย นานจนเมื่อยขบไปหมดทั้งร่าง แต่ก็ไม่เหงาเพราะมีกันตั้งสิบสองคน คุยกันเพลินๆ หลับเพลินๆ ตื่นอีกทีก็ถึงที่หมายกันแล้ว โดยเฉพาะพี่ชายสุดหล่อของผมที่เตรียมพร้อมกับหมอนรองคอสำหรับการเดินทางที่ยาวนาน ไม่อยากจะวิจารณ์รสนิยมของพี่เขาหรอกนะ แต่เห็นแล้วก็อดไม่ได้ ตอนที่แต่งตัวออกจากหอกันมาน่ะ ทุกคนอึ้งกับชุดของพี่เขามาก เพราะมันร็อคเกอร์ชัดๆ พี่ผมโคตรเท่อ่ะบอกตรงๆ สมแล้วที่เป็นไอดอลประจำใจของผม ผมอยากหล่อ และเท่ให้ได้เท่าพี่เขาเมื่อผมอายุเท่านี้..... อืม...นั่นคือก่อนที่ผมจะเริ่มมองเห็นอะไรบางอย่างตรงกระเป๋าพี่เขานะ...

                    ทุกคนที่ทำประกายตาระยิบระยับกับแฟชั่นสนามบินอันเลื่องลือของตุ้ยจาง เมื่อกดตาลงต่ำแล้วพบกับหมอนรองคอลายกุ๊กกิ๊กน่ารักเข้าให้เลยหยุดความคิดกันลงทันทีและกลับสู่โหมดปกติตัวใครตัวมันจนเมื่อมาเจอสภาพการณ์ที่แสนยาวนานทรหดทั้งการนั่งเครื่องและรอต่อเครื่องนี่แหละ ถึงได้โอดครวญในใจกันว่า ต่อให้หมอนลายคิขุไม่เหมาะกับหน้าไม่เข้ากับชุดกว่านี้ พวกเราก็ยอม ..... ถ้าเข้าไปอ้อนขอหมอนจากพี่เขา เขาจะให้ผมมั้ยนะ?

                    เอ๋? ผมไม่ได้จะมาเขียนเล่าเรื่องอะไรเกี่ยวกับการไปโชว์ที่รัสเซียครับ ผมแค่มาเขียนแก้ว่างตามปกติของผมแค่นั้นเอง เรื่องเล่าของผมเหรอ? อืม ก็น่าจะเดาๆ กันได้นะว่าผมจะเม้าท์เรื่องอะไร.... มันหนีไม่พ้นพี่ชายสุดที่รักทั้งสองของผมอยู่แล้ว เปล๊า ไม่ได้ติดใจเคืองโกรธอะไรพี่คริสร๊อกก เรื่องที่ไม่ยอมให้ยืมหมอนรองคอน่ะ ไม่เลยไม่เคยสักนิด ..ไม่เคยมีคำว่ารักน้องในเวลาคับขันหรอกสำหรับพี่เขาน่ะ นี่ไม่ได้โกรธจริงๆ นะ พูดถึงเฉยๆ จริงๆ เปล๊า ไม่ได้จะแฉ แค่เล่า แค่เขียนบันทึกอะไรๆ ปกติก็แค่น้าน จริงจริ๊ง!

                    เรื่องมันเริ่มตั้งแต่ ช่วงที่เดินเที่ยวกันบนถนนของรัสเซียน่ะ มีแฟนคลับเข้ามาขอถ่ายรูปกับพวกเรานะ พี่เมเนเจอร์แกก็ไม่ได้ว่าอะไรก็ให้ถ่ายๆ ไป คงเพราะเห็นว่าโอกาสที่พวกเราจะเจอแฟนคลับประเทศนี้มันมีน้อยมากๆ ก็เลยเซอร์วิสไปเล็กๆ น้อยๆ เพื่อตอบแทน อะไรทำนองนี้ แต่มีอยู่คนนึงสวยด้วยที่สำคัญ! (ทำไมเขาไม่มาขอถ่ายกับผมนะ!) ยังกับนางแบบเหอะ มองกันคอแทบกลับ เจ้าหล่อนขอถ่ายกับพี่สุดหล่อของผมพร้อมควงแขนกอดหมับเข้าให้แล้วก็เซย์กู๊ดบายกันไป ถามว่าจบมั้ย ถ้าคิดว่ามันจบก็จบครับ....จบที่หน้ากล้องนะ แต่หลังกล้องไม่จบ... หลังกล้องที่ว่าจะเป็นใครได้อีกล่ะนอกจากพี่ที่แสนน่ารักและแสนดีของผม กวางน้อยลู่หานเดินอึนไปทางพี่หมิ่นที พี่ยอลที แล้วยังไปชวนเซฮุนกอดคอนัวเนียเดินถ่ายรูปกันสองคนอีก เปล่า! ผมไม่ได้ใส่อารมณ์ตอนที่บอกว่าพี่ลู่กอดคอนัวกับเซฮุน! ผมเล่าของผมเฉยๆ ไม่ได้ขึ้นเสียงเลย พวกคุณอย่ามาจับผิดผมมากนักได้มั้ย เดี๋ยววูซูใส่ซะเลยนิ!

                    กวางน้อยน่ะ เวลามีอะไรผิดสังเกตทางด้านอารมณ์นะ ดูและเดาออกได้ไม่ยากเลย พี่แกจะอเลิร์ทผิดปกติ และร่าเริงเกินเหตุจากเดิมสักห้าเท่าได้

                    “ไหวมั้ยนั่น” เปาจื่อเดินมากระซิบถามผมเมื่อเห็นกวางน้อยเดินเลิ่กลั่กกระโดดไปร้านนั้นที ร้านนี้ที ส่วนพี่คริสตุ้ยจางก็เอาแต่เป็นห่วงลูกบนไหล่ตัวเองทำเป็นถ่ายลูก ถ่ายบ้านถ่ายเมืองและไม่เข้าใกล้กวาง..... อีกแระ! เป็นงี้ตลอดอ่ะ จะไม่ให้ผมหน่ายได้ไงเล่า

                    “เดาว่าไม่ไหวนะพี่เปาจื่อ” ผมตอบพี่หมิ่นและหัวเราะ ก่อนเรียกให้ตุ้ยจางมาช่วยถ่ายรูปให้ผม

                    จากนั้นสองคนก็แทบไม่เดินใกล้กันเลยมั้ง ปกติเวลาออกมาข้างนอกแบบนี้ก็ไม่ใกล้กันอยู่แล้วนะ นี่ยิ่งแล้วหนักเข้าไปอีก ใกล้ทียังกับไฟจะช็อตกันตาย จนขึ้นรถมา เบาะที่นั่งของกวางอยู่หลังพี่ยอล ส่วนพี่สุดหล่อของผมเขาก็นั่งด้านหลังกวางอีกที กวางก็เล่นแต่กับพี่ยอล ปิดหูปิดตา กัดแขนกันโอ๊ยหนุกหนาเกินเหตุสุดๆ ส่วนตุ้ยจางก็นั่งหน้านิ่งยิ้มน้อยๆ โบกมือให้แฟนคลับแล้วกลับเข้าโลกส่วนตัวของตัวเองไม่หือไม่อือไม่สนใจรอบกาย เรียกว่าตั้งใจทำเป็นไม่สนใจเสียมากกว่า ผมกับเปาจื่อแอบฮากันมากว่า สุดท้ายแล้วคืนนี้สองคนนั้นจะยังไงกันต่อ พี่เขาจะมาคุกันได้ถึงแค่ไหน ผลก็คือพี่ชายของผมอัพสเตตัสในเหรินเหรินออธิบายเรื่องสาวรัสเซียคนนั้น โธ่เอาจริงๆ นะ พี่น่ะอัพบอกคนของเรากันเองมากกว่านะผมว่า แล้วถามว่าได้ผลมั้ยก็ไม่ได้ผลอยู่ดี กวางยังไม่ใยดีพี่เขาเลย

                    ....ที่โรงแรมในขณะที่ผมกำลังจะหลับเพราะเวลาที่ต่างกันของรัสเซียทำให้ร่างกายผมค่อนข้างที่จะอ่อนเพลีย

                    “เทา เทา” เสียงที่คุ้นเคยเดินมาเคาะประตูหน้าห้องผมที่ผมนอนเล่นอยู่กับเซฮุน ....อืม ไม่ใช่ห้องผมหรอก ห้องของเซฮุนน่ะ อย่าถาม เพราะไม่ตอบว่าทำไมถึงมานอนอยู่ห้องนี้ได้ จบนะ!

                    “ว่าไงครับพี่ พี่ไม่เพลียบ้างหรือไงเนี่ย”

                    “เหวยโบ๋ ใช้แอพไหนถึงจะดีกว่ากัน?”

                    “อื๋อ????” คำถามของพี่ชายที่หน้าตาดูเหมือนกับว่าเพิ่งทำการต่อสู้กับเทคโนโลยีมาอย่างทุลักทุเล ทำให้ผมถึงกับหลุดขำพรืดออกมาจนเจ้าของห้องต้องชะเง้อหน้ามามอง แล้วสุดท้ายพี่เขาก็ถือวิสาสะเดินเข้ามานั่งพร้อมจิ้มๆ ชี้ๆ ที่หน้าจอมือถือให้ดูว่าจะต้องเลือกแอพไหนดี ผมเลยชี้ไปให้ตัวหนึ่งซึ่งผมใช้เป็นประจำแล้วพี่เขาก็ดาวน์โหลดไปพลางบ่นไปด้วย

                    “พี่อย่าบอกนะว่าพี่จะเล่นเหวยโบ๋แล้วน่ะ เป็นปีที่ชวนผมไม่เห็นพี่จะสนใจเล่น”

                    “เรื่องรูปที่ถ่ายกับแฟนคลับรัสเซียน่ะสิ เล็งเห็นแล้วว่ามีเหวยไว้ส่องแฟนคลับหน่อยจะดีกว่า แค่เหรินเหรินคงไม่รอด”

                    “ใกล้ตัวแย่กว่าแฟนคลับมั้ยครับ”

                    “ว่าไงนะ?”

                    “เปล่า ผมไม่ได้ว่าอะไร ผมหมายถึง อย่างผมเนี่ย พี่มาถามเอาดึกดื่นแบบนี้ผมลำบากกว่าแฟนคลับพี่อีกนะ ฮะๆ” ผมหัวเราะกลบเกลื่อนและเริ่มสอนพี่เขาสมัครเหวยจากนั้นก็อธิบายอะไรต่างๆ ให้โดยมีเซฮุนขยับมาจ้องด้วยความสนใจแต่ไม่พูดอะไร ... ไม่นานพี่เขาก็กดฟอลโล่เหวยทางการของวง ทั้งเอ็มและเค ตามด้วยผมและ....พี่ลู่หาน

                    เมื่อสอนไปพร้อมเปลี่ยนรูปดิสเพลย์ แฟนคลับก็จมูกไวตามกันมาว่าจะใช่พี่หรือเปล่าหรือว่าเป็นตัวปลอม ใครใช้ชื่อพี่อีก แต่กระแสก็สนุกดีนะครับ เขาถึงขึ้นสำรวจตรวจตรากับว่ารูปมันไม่มีโพสท์ที่ไหนแต่เป็นที่นี่ที่มีดังนั้นก็น่าจะเป็นตัวจริง และรอให้ผมฟอลโล่กลับเพราะผมคือเจ้าพ่อเหวยโบ๋ของวงและเป็นลูกชายลับๆ ของพี่เขา???

                    พอผมฟอลกลับเท่านั้นทุกสิ่งก็เปลี่ยนไป เหล่าบรรดาแฟนคลับก็แห่กันฟอลพี่เขาและกระจายข่าวกันอย่างรวดเร็วว่านี่คืออู๋อี้ฟานหรือตุ้ยจางของพวกเขาจริงๆ และมันก็ไม่เว้นแม้แต่....

                    เทา....ตุ้ยจางเล่นเหวยงั้นเหรอ?

                    กวางน้อยส่งข้อความมาถามผมลับๆ ในเหวยเมื่อเห็นว่าผมออนอยู่และคงจับสังเกตจากกระแสแฟนๆ ได้เลยเข้ามาเช็คดู

                    ใช่แล้ว ผมเพิ่งฟอลพี่เขาไปน่ะ พี่นอนดึกจัง ไหนๆ ก็ยังไม่นอนกดฟอลตุ้ยจางของเราหน่อยสิพี่

                    ผมตอบกลับไป แต่ถูกพี่ชายแย่งมือถือไปเสียฉิบและรออ่านข้อความตอบกลับของกวางน้อย

                    ........................

                    พี่ลู่ส่งจุดไข่ปลามายาวหนึ่งบรรทัดก่อนจะพิมพ์ประโยคถัดมา

                    ไม่ล่ะ ขนาดอี้ชิงพี่ยังไม่ฟอลเลย ทำไมต้องฟอลตุ้ยจางด้วย ไปนอนก่อนนะ คำตอบของกวางน้อยดูสะกิดต่อมตุ้ยจางที่ถือมือถือของผมอยู่นะ กลัวใจแกจะปามือถือผมลงพื้นเหลือเกิน แต่ก็เปล่าพี่เขาพิมพ์ตอบกลับไปโดยใช้ชื่อผมซะงั้น

                    อย่าเพิ่งนอน เดี๋ยวไปหา

                    ? เทา????

                    ฟานฟาน

                    ‘จะนอนแล้ว

                    ‘เจ็ทแลค ปวดหัวเวียนหัวมากตอนนี้ ขอคุยก่อน ตุ้ยจางพิมพ์ตอบกลับไปแค่นั้นและคืนมือถือให้ผม พร้อมกับเดินออกจากห้องไป ผมมองหน้าเซฮุนที่นั่งทำตาปริบๆ งงๆ ไม่รู้ว่าพวกเราพูดอะไรกันอยู่ด้วยเพราะเวลาอยู่กับตุ้ยจางผมจะพูดจีนกับพี่เขาเสมอดังนั้นเซฮุนจึงไม่รู้เลยว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเหล่าไชน่าไลน์ของเรา

                    ผมมองดูข้อความตอบกลับของตุ้ยจางแล้วให้คิ้วขมวดเข้าหากัน ตุ้ยจางเจ็ทแลคตรงไหน ไม่มีอาการสักหน่อย ไหงพิมพ์ไปแบบนั้น...  

                    “เดี๋ยวมานะ” ผมบอกมักเน่ฝั่งเคและเดินตามพี่ชายตัวเองไปยังห้องของกวางน้อย แต่ไม่ทัน ตุ้ยจางหายเข้าห้องกวางไปแล้วมีเปาจื่อถูกถีบออกมาจากห้องแทนด้วยหน้าตาเซ็งสุดๆ ผมวิ่งไปหาเปาจื่อ เปาจื่อก็เบ้ปากและยักไหล่มองไปยังประตูบานที่เพิ่งปิดลงไปไม่กี่วินาทีตรงหน้า

                    “ยังไงกันครับ?”

                    “ลู่หานไม่เปิดฉันเลยมาเปิดประตูให้ แต่พอเปิดก็โดนถีบออกมาอย่างที่เห็น รู้งี้ไม่น่าเลย”

                    “แล้วเสี่ยวลู่ว่าไงบ้างครับ”

                    “...ไม่ว่าไงเพราะเหมือนคริสจะเจ็ทแลค หน้ามึนเดินเข้าห้องได้ก็เซแล้ว”

                    “ตุ้ยจางเนี่ยนะเซ???” ผมฟังความจากเปาจื่อจบก็หัวเราะลั่นแล้วเกาะไหล่พี่ใหญ่ดันหลังให้เดินไปห้องด้วยกัน ดูก็รู้ว่าถ้ารอสองคนในห้องคงได้รอยันเช้าแน่ๆ เพราะยังไงๆ พี่ชายผมก็ตอแหล!! หาเรื่องอ้อนลูกกวางชัดๆ โอ๊ยไม่ได้แฉนะ นี่ไม่ได้แฉจริงๆ แค่พิมพ์บันทึกประจำวันเฉยๆ แม่มถึกอย่างกับอะไร จะมาบอกเจ็ทแลค พี่เขาน่ะถ้าหากรู้ตัวว่าป่วยเขาไม่นั่งเล่นนั่งทำอะไรไร้สาระแบบนี้หรอก เขาคงนอนมาร์กหน้าอยู่ห้องไปแล้วล่ะครับฮ่าๆ นี่อะไรเอาเจ็ทแลคมาอ้างหาข้อแก้ตัวน้ำขุ่นมากกก เพราะรู้ตัวว่ากวางงอนล่ะสิถึงได้มาไม้นี่ ผมล่ะเชื่อเขาเลย

                    ผมกับเปาจื่อนั่งมองเวลานับนาฬิกากันเลยล่ะว่าพี่เขาจะใช้เวลาเท่าไรในการง้อกวางน้อยครั้งนี้ และแล้วไม่กี่อึดใจ......พี่ลู่หานก็กดฟอลโล่พี่เขาตามมาจนเป็นที่ฮือฮาปากต่อปากด้วยเสียงกรี๊ดกร๊าดกับแทค วัวกวาง ว่า กวางน้อยเล่นเหวยมาตั้งนานไม่เคยฟอลอี้ชิงแต่พอตุ้ยจางมาก็ฟอลกลับทันที มันช่างน่าแอร๊ยอะไรเช่นนี้..... นั่นสิ ผมจะต้องแอร๊ย ตามพวกแฟนคลับไปด้วยมั้ยนะ กับไอ้การที่กวางน้อยแสนดีของวงฟอลกลับตุ้ยจางน่ะ เพราะนั่นหมายความว่าเขาสองคนดีกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยเจ็ทแลคของพี่ชายผม นี่ไม่อยากจะเดาเลยนะว่าพอถีบเปาจื่อกับผมให้พ้นทางได้แล้วจะอ้อนกวางขนาดไหน

                    วันต่อมา(ซึ่งมันออกจะดีเลย์กว่าที่พี่แกตอแหลใส่กวางไปเมื่อวาน) ตุ้ยจางของผมก็ออกมาอัพเดทสเตตัสในเหวยโบ๋เปิดฤกษ์เป็นสเตตัสแรกว่าเจ็ทแลค พร้อมสเตตัสสไตล์เขาว่าเขาจะเริ่มเล่นเหวยโบ๋แต่ก็ไม่ได้ทิ้งเหรินเหรินไป ให้แฟนๆ เคลิ้มกับพี่เขาไปอีกรอบ แต่ล่าสุดผมอุตส่าห์บอกแล้วนะว่าส่งข้อความไพรเวทน่ะทำยังไง พี่เขาก็ยังดั๊นเผลอไปกดเมนชั่นหากันและกันให้แฟนคลับแตกตื่นอีกรอบอีก แค่นี้มันก็คงจะพออธิบายอะไรๆ ได้เยอะนะว่า เจ็ทแลคของพี่เขาน่ะ....ได้ผลแค่ไหน ฮ่าๆ

     

                                                                                   หวงจื่อเทา ผู้ซึ่งยังคงกำความลับของพี่ทั้งสองไว้เช่นเดิม



                ปล. จริงๆ พวกพี่เขาควรจะไปมี Private Lesson กันที่อื่นที่ไม่ใช่ในเหวยโบ๋นะ ผมบอกตรง!


    --------------------------------------------------------------
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×