คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : บันทึกที่ 14 :: Japan in Love ::
2014.04.10-14 (KrisLu / TaoHun)
#บันทึกของจื่อเทา
ช่วงนี้งานของพวกผมค่อนข้างจะชุกเป็นพิเศษเพราะตอนนี้เรากำลังจะมีการคัมแบคกันอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ทั้งซ้อมหนักเข้าตึกเป็นว่าเล่นหรือแม้แต่ออกงานนั้นงานนี้ก็ตาม เพิ่งกลับจากจีนได้ไม่ทันไรก็ต้องไปแฟนมีทติ้งที่ญี่ปุ่นกันต่อ ทุกคนตื่นเต้นกันมากครับไม่ใช่แค่ผมคนเดียวเท่านั้น เพราะหากจะบอกว่าเป็นแฟนมีทแต่ก็เหมาโดมที่ไซตามะรอบละเกือบสามหมื่นคนได้ มันยิ่งใหญ่และสวยงามราวกับกาแลคซีอย่างที่พี่ชายสุดหล่อของผมพยายามพูดฝังหัวทุกคนอย่างกับโปรแกรมลงไมโครชิพแล้วแอบมาใส่ตอนนอนยังไงยังงั้น จุ๊ๆ อย่าเสียงดังกันนักสินี่ผมแอบมานั่งเขียนอยู่นะ กลัวคนข้างๆ จะตื่น หือน์? คนข้างๆ ผมใคร? อยากรู้??? แหมแถมบ้านผมเรียกขี้เสือก เอ๊ย ใส่ใจกันเป็นพิเศษนะครับ บางครั้งก็อยากให้เลือกกันระหว่างเลิกมาใส่ใจกับผมกันเป็นพิเศษ กะให้ผมกับต้าเก้อไปใส่ใจกันเป็นพิเศษกับพ่อมังกรและแม่กวาง อะไรงิ!
อ๊ะๆ ล้อเล่นน่าอย่าเพิ่งงอนกันสิ ผมแค่ล้อเล่นแค่นี้แหมมม เด็กๆอย่างผมงอนมันก็น่ารักนะ แต่แก่แล้วเนี่ยต้องคิดดีๆ โอ๊ย! ขอโทษอย่าเพิ่งปาระเบิดกันมา เดี๋ยววันนี้จะเล่าเรื่องราวหลายๆอย่างให้ฟังก็ได้ ถือเป็นกรณีพิเศษเลยนะเนี่ย! แต่อย่าขัดอย่าแซวกันที่หลังด้วย! ไม่งั้นจะออกไปเดินตากแดดให้ตัวเขียวกว่านี้อีกคอยดู!!
วันเดินทางจากเกาหลีไปญี่ปุ่นครั้งนี้ค่อนข้างเกิดสถานการณ์วุ่นวายที่สนามบินครับ ด้วยเพราะแฟนๆ ตามมาส่งพวกเรากันมากมายและไปพร้อมกันกับเราก็มากเช่นกันเรียกได้ว่าอุ่นหนาฝาคั่งจริงๆ อุ่นจนเกือบก้าวขากันไม่ออกใช้วิธีไหลไปตามกระแสคนที่เบียดเสียดกันเข้ามาแทน ผมทำกิ่งไผ่ของผมหาย! เดินมาด้วยกันดีๆ คนเบียดเยอะเข้าโดนการ์ดจับแยกซะงั้น หายไปเลย พอพ้นเขตอันตรายแล้วลองหันกลับไปมองแวบหนึ่งเห็นว่ายังอยู่ในฝูงชนนี่อยากจะกายกรรมวัดเส้าหลินเหยียบหัวทุกคนไปลากออกมา...แต่ทำไม่ได้ไง....ต้องรีบขึ้นบรรไดเลื่อนไปก่อน ส่วนพ่อแม่ผมเหรอ? เอาจริงๆนะตอนแรกอยากบอกว่าไม่ต้องห่วง ตุ้ยจ่างเนี่ยตัดไปก่อนอันดับต้นๆ เลยรอดตลอดตัวโตเสียขนาดนั้น โดนเบียดยังไม่ล้มเลยเถอะ แต่ครั้งนี้บอกได้เลยว่าสาหัสมาก! ขนาดตุ้ยจ่างยังถึงคิ้วขมวดและพยายามเดินออกมาให้ได้ และทั้งๆ ที่เป็นงั้นพอออกมาก็ยังมีเวลาแอบรับจดหมายจากแฟนคลับอีก โคตรบ้าอ่ะ ส่วนเสี่ยวลู่ก็มีพี่เมเนฯ มีการ์ดคอยกันให้ นี่แอบเม้าท์นิดเถอะ คันปาก....ผมเคยได้ยินตุ้ยจ่างเถียงกับเสี่ยวลู่เรื่องเดินที่สนามบินนะ คือแบบก็รู้ใช่ป่ะว่าเสี่ยวลู่น่ะแมนมากก แม๊นแมนไม่มีใครเกินและไม่มีใครคิดจะเกินพี่แก ละมันมีครั้งนึงที่เดินกันในสนามบินปกติแต่ตุ้ยจ่างนำหน้า เสี่ยวลู่ตามหลังมาติดๆ ปรากฏโดนเบียดจนเซหน้ากระแทกหลังตุ้ยจ่าง ยังทำนิ่งทำเก่งอีกนะ รายนั้นที่เจอเสี่ยวลู่เซหาตอนแรกก็เหมือนจะเดินปกติแบบทุกครั้งเหมือนกันแต่หวยพลิกดิ พวกคว้าแขนให้มาเดินข้างหน้าตัวเองเสี่ยวลู่จะได้ไม่ถูกเบียดและอยู่ในสายตาไม่ต้องคอยห่วงอีก เปาจื่อกับผมมองกันแล้วก็หัวเราะหึหึ อย่างรู้ผลที่จะตามมาเลยล่ะ
งานนั้นน่ะบอกเลย แม่กวางเสียฟอร์มมาก หน้ายิ้มกลางสนามบินแต่ไปตีกันหลังผ่านสมรภูมิรบแล้ว ยื่นคำขาดว่าห้ามสนใจโดยเด็ดขาดตอนอยู่สนามบิน ตัวใครตัวมันไปเลย เอากะเขาดิ คนเป็นห่วงโดนห้ามไม่ให้ห่วงซะงั้น ถึงบอกไงว่าเสี่ยวลู่เป็นกวางบ้าไม่ใช่กวางน้อย บ้าพลังไม่ดูตาม้าตาเรือด้วย คนโดนห้ามนั่นก็บ้าพอกันยอมด้วยนะรับคำอื้อแล้วไม่เถียงสักคำ มาคราวนี้ถึงเดินตัวใครตัวมันไม่มองไม่สนทิ้งให้กวางบ้าอยู่กับคนอื่นแทน แล้วไงล่ะ วันนี้โดนกระบอกเลนส์กล้องกระแทกหน้าไปเต็มๆ ล่ะช่วงชุลมุน พ้นภัยออกมาได้พี่ชายสุดหล่อของผมก็พุ่งเลย บอกว่าให้นั่งข้างกันบนเครื่อง โอยยยคิดว่าไม่ทันเห็นไม่ทันได้ยินรึไง แล้วนี่ก็คดีพลิกอีกเหมือนกัน กวางดื้อครั้งนี้ไม่บ่นไม่ปฏิเสธสักแอะ รับฟังแล้วเดินตามเฉย มีเปาจื่อพี่ใหญ่ผู้แสนดีของผมเป็นพยานรู้เห็นในเหตุการณ์อีกเช่นเคยเพราะเดินตามหลังกันมา
ขึ้นเครื่องได้ก็นั่งด้วยกันตามกันไปต้อยๆ ไม่สนใจโลกรอบด้านใดๆ อีก
“เป็นไงบ้างที่โดนกล้องกระแทก?” เสียงกระซิบกระซาบต่ำในคอมันจะไปมีใคร๊~~ ที่พูดเสียงแบบนี้ได้น่ะ แล้วก็จะมีใคร๊ที่จะมานั่งถามเสี่ยวลู่แบบนี้น่ะ หลับกันไปหมดแล้วด้วยซ้ำยิ่งพี่อี้ชิงนี่ไม่ต้องสืบ ไปก่อนใครเขาเลย ปล่อยผมนั่งกัดหูหระเป๋าฟังพี่เขาคุยกันอยู่คนเดียว
“เจ็บตอนโดนแต่ตอนนี้ไม่ค่อยรู้สึกแล้ว” เสี่ยวลู่เอามือถูแก้มเบาๆ ส่งยิ้มละไมใส่ตุ้ยจ่างที่ยิ้มน้อยๆ ให้กลับก่อนเอามือไปแตะๆ ตบๆ ตรงหน้าขากวาง น้องเห็นนะ!! นี่พยายามไม่สนใจแล้วนะแต่มันเข้าตามาเอง ไม่ได้อยากเห็นอะไรกับเขาเลย พี่สุดหล่อของจื่อน่ะคิดว่าถ้าทำได้ คงเอาผ้ามาขึงกั้นเป็นฉากอยู่กันสองคนไปแล้วแหง แหมมสร้างโลกส่วนตัวกันเหลือเกิน โคตรจะประเจิดประเจ้อ! แล้วนะหลังจากนั้นก็คุยหนุงหนิงๆ กัน @#%^&%@# โกรธอ่ะโกรธ ไม่ได้อยากรู้เรื่องอะไรด้วยแต่ต้องมารับรู้ความรักของพ่อแม่เนี่ย นี่ถึงขั้นต้องเสียบหูฟังยัดไว้ทำเป็นไม่ได้ยินไม่สนใจกันเลยทีเดียว เอ่อ ก็ๆๆๆ ก็ไม่ได้เปิดเพลงฟังหรอก ก็นะ แหมมม ก็นิดนึง แบบเซฟแบทท์ไงกลัวหมดก่อนอะไรงิ ไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟั๊งงงง จริงจริ๊ง~
แต่นิดนะรู้แล้วว่าห่วงกันเหลือเกินรักกันปานจะกินกันบนเครื่อง แต่พี่ก็ช่วยเพลาๆ การหวีดหวานกันบ้างอะไรบ้างจื่ออับอายบรรดาสายตาที่เพ่งจ้องกันมายิ่งนัก! ทีนี้ระหว่างกำลังคุยอินเลิฟกันประหนึ่งไม่ได้อยู่หอเดียวกันไม่ได้เจอกันมาสักสามชาติเจ็ดภพ สายการบินเขาก็มีให้ร่วมบริจาคกับทางยูนิเซฟไงครับ วัวกวางที่แสนจะจิตใจสูงส่งใจบุญแบบไม่มีใครเกินก็พากันลุกลี้ลุกลนลุกหลุดจากภวังค์สองต่อสองนั่น หยิบกระเป๋ากันในคาบินใหญ่ ก่อนบริจาคไปตามศรัทธาด้วยกันทั้งคู่ ....แค่บริจาคทำบุญร่วมกันแค่เนี้ยะ! ทำยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กันอยู่ได้! หันกลับมาสร้างโลกส่วนตัวกันต่อเฉย หมั่นมากกกกก หมันจนทนดูต่อไม่ไหวแกล้งหลับมันซะเลย แล้วพ่อวัวแม่กวางก็เหมือนแกล้งกันเลยนะ พอผมทำท่าหลับ ทางด้านนั้นก็เงียบเสียงคุยกันไปซะงั้น นี่มันกวนกันเห็นๆ อ่ะ!!!
ลองหรี่ตาแอบมองก็เห็นพี่สุดหล่อหยิบหนังสือบนเครื่องมาพลิกๆ เหมือนจะอ่านแล้วหันไปมองคนตัวเล็กข้างๆ กันที่เลื้อยไหลห่อตัวหลับลึกไปแล้วด้วยความไวว่อง พี่เขามองอยู่สักพักก่อนเอื้อมมือไปหยิบผ้าห่มขึ้นมาห่มให้เสี่ยวลู่ที่หลับอิงหัวเอียงข้างอยู่อย่างเบามือ ก่อนผ้ามันจะเลื่อนลงมาใหม่ให้เจ้าตัวขยับๆ ห่มให้ดีอีกหน ขอจื่อยกขาขึ้นมานั่งขดแล้วกัดผ้าห่มหรือชายเสื้อตัวเองตอนนี้เลยได้ม้ายยย คือแบบก็รู้นะว่าห่วง ก็เห็นบ่อยนะแบบนี้แต่มันจั๊กจี้อ่ะ อยากให้เสี่ยวลู่ลุกขึ้นมาเจอมากกกก ก ไก่หมดโลกกกก คงสนุกพิลึก! ซึ่งแน่นอนว่า ผมจะไม่ยอมรู้เห็นสภาพนี้คนเดียว! เรื่องนี้ต้องถึงครูอังคณาแน่นอน! เอ๊ะผิด เรื่องนี้ต้องถึงต้าเก้อแน่นอนสินะถึงจะถูก! แล้วจะให้ต้าเก้อแอบไปบอกเสี่ยวลู่ เสี่ยวลู่ต้องได้รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นตอนตัวเองหลับ จะได้ปรามกันบ้างว่านี่สาธารณะ ไม่ใช่ที่หออออ มันบัดสีๆๆๆ
เมื่อถึงญี่ปุ่น สองคนเขาก็ยังเดินด้วยกันอีกเหมือนเดิม ครั้งนี้พี่สุดหล่อผมไม่ยอมเดินทิ้งห่างด้วย ชะลอฝีเท้าคุยกับเสี่ยวลู่ต่อ เสี่ยวลู่ก็สรรหาอะไรมาคุยได้นักก็ไม่รู้งุงิๆ กันอยู่สองคนน่ะ จนกลับโรงแรมอันนี้ขอจื่อเปิดอก ว่าจื่อจะไม่นอนกับพี่คริส! จื่อจะไปอยู่กับลูกเจี๊ยบของจื่อ จะไม่ทนให้คนแก่ไล่กันออกจากห้องทั้งที่ไม่ได้ทำความผิดเพียงเพราะแค่เจ้าตัวจะอยู่กับกวางบ้า! ดังนั้นนะ อยู่กันไปเลยตั้งกะวันแรกนี่แหละอยู่ไปเลยนะจนวันสุดท้ายจะบอกพี่อี้ชิงกับเปาจื่อให้สองคนนั้นทำไม่รู้ไม่ชี้ ล็อคห้องหับห้ามต้อนรับกวางบ้าหรือพี่คริสยามท่สงคนนั้นมาเคาะห้องขออยู่ด้วย ให้จับยัดลงห้องเดียวกันไปเลยจะได้จบๆ ไม่ต้องมาเป็นภาระแก่ใครๆ ไม่ต้องมาวางมาดว่าอยากนอนคุยกับคนอื่นทำเป็นซึนไม่กล้าไปหาเขาที่ห้องไรงิ อยู่กันไปตามสันดานเลยครับเพ่ งานนี้พวกผมก็ใจบุญไม่ต่างจากยูนิเซฟเหมือนกันหรอกเฮอะ!!! ถือว่าทำบุญด้านความรักจะได้ได้รักตอบกลับบ้างงิ จะไม่ไปขัดขวางกลั่นแกล้งละกัน
รุ่งขึ้นที่มีรอบการมีทรอบแรก ก็รู้สึกงามหน้ากันแล้ว ไม่รู้คิดถูกหรือผิดที่ปล่อยไปอยู่ด้วยกัน นี่มาเวทีจากที่ไม่ค่อยจะอะไรกันเท่าไรนะแหมม เล่นกันอิ๊อ๊างยังกับแปดขวบร่าเริงระรื่นชื่นมื่นแค่เดินสวนกันก็เล็งกันมาแต่ไกลทำท่าเดียวกันแล้วเขินกันเองจนต้องยกเท้าขึ้นมาเตะกันแก้เขิน เออ นี่พูดจริง เขินแล้วเบนหน้าหนีกันหรือทุบกันแบบ บ้าๆ ตะเองก็... อะไรนั่นอย่าฝันถ้าเป็นคู่นี้ อิแบบนั้นมันสาวน้อยสาวแตกไป อย่างแมนๆ วัวกวางต้องเตะเท่านั้นครับ เตะกันให้ตายจะได้หายเขิน แล้วตอนช่วงเล่นเกมนะเสี่ยวลู่ได้โตเกียวบานาน่าเป็นของรางวัล ทำเป็นหวงไม่ให้ใครจะกินคนเดียว พอพี่คริสเดินมาทำท่าหยิบๆ ไม่มีการหลบล่ะไม่บ่นด้วยแหงนหน้ามองละยิ้มซะ...... โกรธๆ โมโหๆ ถ้เลิกงานแล้วจื่อไม่ได้กินด้วยเนี่ยคืนนี้อย่าหวังจะมีความสุขกันเลยฮึ่ม! มันน่าหมั่นไส้นัก
นี่ยังไม่หมดนะช่วงที่เสี่ยวลู่บอกว่าตัวเองเซ็กซี่เนี่ย ถูกโห่นะครัชชช ใครสั่งใครสอนให้มั่นใจไม่ถามไถ่เพื่อนฝูงหรือน้องนุ่งวะครับแล้วออกมาเต้นท่าเซ็กซี่เวฟ อย่างฮาเหอะ ....มันดูโมเอะเกินจะเป็นเซ็กซี่ได้ มีอยู่แต่อิพ่อมังกรเท่านั้นล่ะที่นั่งยิ้มเป็นคนบ้ามองน้ำลายยืดตอนเสี่ยวลู่เวฟหน้าท้องลงไปถึงกลางลำตัวน่ะ คาดว่าอาจได้เวฟทั้งคืน อ๊ะ! เปล๊าไม่ได้พูดให้คิดอะไรเล้ยย หมายถึงง เสี่ยวลู่คงพยายามหัดเวฟหน้ากระจกให้ดูเซ็กซี่แก้คืนที่โดนพวกผมโห่โดยมีตุ้ยจ่างเป็นเทรนด์เน่อดูให้ว่าควรจะเวฟอะไรยังไงมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอ๊งง อย่าคิดลึกกันได้มั้ยล่า ก็แค่ท่าเต้นแบบว่าต้องมีคนช่วยดูช่วยแก้ผ้า เอ๊ย แก้ท่า ให้เท่านั้น
เอาล่ะๆ คืนนี้จะอะไรยังไงอันนี้จื่อก็จะไม่ขอยุ่งแล้วกันนะ เพราะถึงจะอยากยุ่งดูเขาเวฟกัน เขาก็คงไม่ให้จื่อยุ่งแน่ ใส่ใจพี่เป็นพิเศษครับแต่ถูกเมินเป็นพิเศษตลอดง่ะ น้อยใจ! (วิ่งไปติดกล้องแปร๊บ)
อีกอย่างนะวันนี้ไม่มีอารมณ์จะไปยุ่งเรื่องพี่ๆ หรอก เพราะนี่ก็นั่งคิดคำอวยพรวันเกิดให้เจ้าลูกเจี๊ยบเซฮุนอยู่ ยากอ่ะ ไม่รู้ว่าจะบอกยังไงดีให้รับรู้ถึงความรู้สึกที่มีทั้งหมดได้เพียงแค่ตัวอักษรที่เขียนลงไปเท่านั้น แล้วยากขึ้นไปอีกตอนที่ทั้งผมและเขาพักอยู่ห้องเดียวกัน ถ้าไปเขียนในเหวยโบ๋เขาก็ไม่ได้เล่นใช่มั้ยล่ะ มันก็ใม่มีความหมายอะไรถ้าจะไปเขียนทิ้งไว้ที่นั่น ไอ้ครั้นจะบอกกันตรงๆ ยื่นการ์ดให้ต่อหน้าก็ไม่กล้าอีก โอ๊ยยยยนี่เครียดมากเลยนะ ตัดสินใจโพสท์ลงบอร์ดเอสเอ็มแม่ม! แล้วภาษาเกาหลีผมก็ไม่ได้แข็งแรงอะไรนักพิมพ์ไปก็งงตัวเองไป กลัวทางนั้นจะอ่านกันไม่เข้าใจแต่สุดท้ายก็ทำไปจนได้ โพสท์จบก็ไปสะกิดเซฮุนให้เข้าไปดูที่บอร์ด แต่เจ้านั่นทำยังไงก็ไม่ยอมลุกขึ้นมาเลยเอาแต่นอนหันหลังให้บอกว่าเดี๋ยวไว้ดูพรุ่งนี้ ผมก็เขย่าๆ อยากให้อ่านเร็วๆ เพราะถึงแม้ทำการอุกอาจโพสท์สาธารณะซะขนาดนั้น แต่ที่อยากให้ได้อ่านก่อนใครก็คือเจ้าของวันเกิดเท่านั้น.... เอามือถือยื่นไปตรงหน้าก็ส่ายหัวดิกๆ คลุมโปงหนีกันไปบอกว่ายังไม่อ่านๆ ผมเลยโวยวายว่าไหงทำนิสัยงี้ สุดท้ายบอกกันว่าไงน่ะเหรอ?...บอกว่ากลัวอ่านแล้วนอนไม่หลับ กลัวจะอเลิร์ททั้งคืน เลยได้แต่หัวเราะในคำตอบนั้นแล้วก้มลงไปกระซิบ
“สุขสันต์วันเกิดนะ” ก่อนจะลงนอนไปข้างๆ กัน
เนี่ย!!! เข้าใจผมยั้ง! แค่นี้ผมก็ไม่มีเวลาไปติ่งใครอื่นแล้ว! จัดการไอ้แสบข้างๆ นี่ก็หมดเวลาไปครึ่งค่อนคืนกันแล้วล่ะ เช้ามาวันเกิดเซฮุน ก็เหมือนฟ้าจะถล่มดินจะทลาย มีทั้งคนชอบที่ผมพสท์อวยพรเซฮุนแล้วก็มีทั้งที่ว่าๆ ผมทำอะไรเยอะน่ารำคาญน่าหงุดหงิด เอาจริงๆ ผมไม่แคร์หรอกว่าใครจะรู้สึกยังไง มันอาจฟังดูเห็นแก่ตัวหรือนิสัยไม่ดีแต่ผมบอกได้เลยว่าผมแคร์คนที่ผมอยากให้เขารับรู้ความรู้สึกของผมมากกว่า ดูเหมือนเซฮุนเองก็จะรู้ถึงกระแสพวกนี้เหมือนกัน เขาไม่ว่าไงเพราะรู้ดีว่าผมไม่สนอยู่แล้ว กระทั่งคืนที่เรามีปาร์ตี้วันเกิดให้กับเซฮุนกัน หมอนั่นถึงออกมาเขียนตอบกลับแสดงความขอบคุณทุกคนและตอบรับข้อความของผม... นั่นทำให้ผมรู้สึกว่านี่แหละความสุขที่เราต่างมีให้กันและกัน
กลับมาห้องพักหลังจากสนุกสนานเฮฮากันไปเป็นบ้าประมาณหนึ่ง ก่อนนอนผมบอกราตรีสวัสดิ์และสุขสันต์วันเกิดเขาอีกครั้ง เขาถึงได้ยกยิ้มตาหยีเป็นสระอิเอาหัวไถมาตรงไหล่กันแล้วพูดว่า
“ขอบคุณพี่เทา....” ผมถึงโอบไหล่นั้นแล้วตบเบาๆ ด้วยรอยยิ้ม หมอนี่ก็ชกๆๆๆ กันเบาๆ ที่ท้องแล้วกำเสื้อกันไว้ไม่ปล่อย
..................ครับนั่นคือเรื่องราวทั้งหมดของพวกผมในทริปนั้น
อะไร? จะมาอยากรู้อะไรมากมายกว่านั้นอีกอะไร? ไม่มี๊ มีแค่นี้แหละ ก็นอนก็คุยกันนิดนึงก่อนนอน เอ๊ะ บอกว่าไม่มีอะไรไงเชื่อกันมั่งสิ! นี่มันน้องผมนะ จะให้ทำอะไรวะ! บอกว่าห้ามแซวไง ไหงสุดท้ายทำงี้กันอ่ะ พอหยุด จบแล้วจบๆ ก็เล่นไลฟ์ เล่นเกม แล้วขึ้นเครื่องกลับบ้าน ปาร์ตี้วันเกิด จะให้มีอะไรอี๊ก นี่พวกคุณหวังจะเห็นอะไรกันมิทราบ! อ้อ ขากลับแม่กวางทำเซอไพรส์ใส่เสื้อลายกาแลคซีเดินกับพ่อหนุ่มกาแลคซีออกหน้าออกตาน่ะ โอเคแมะ พอใจกันยั้งครับ ไม่ต้องมาถามหาอะไรกับผมอีกนะ ไม่บอกอะไรแล้วว แค่นี้นะ ต้องเข้าตึกอีกแล้ววันนี้ บาย~~~ ขอชิ่งล่ะ
ด้วยรักจาก หวง จื่อเทา
ปล. ถ้ายังไม่หยุดเม้าท์กัน จื่อจะไปยืนตากแดดจริงๆ นะ!!!
ขอบคุณทุกรูปทุกทรานส์ค่า
ความคิดเห็น