ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [KrisHan] ♥ ai ♥ รวมเรื่องสั้น

    ลำดับตอนที่ #1 : [Ai] KrisHan ::1:: one fine day

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.92K
      9
      17 ต.ค. 56

    [Ai] KrisHan ::1:: one fine day

     

     

     

                    “ลู่หาน”

                    เสียงเคาะประตูพร้อมร่างสูงใหญ่ที่เท้าแขนบนกรอบประตูห้องด้วยรอยยิ้มน้อย ทำให้ผู้ที่ถูกเรียกหันมองตามเสียงและยกยิ้มให้

                    “ไปก่อนนะ” ลู่หานบอกเพื่อนร่วมห้องที่นั่งคุยกันอยู่เมื่อครู่ พร้อมลุกดีดตัวขึ้นอย่างร่าเริงไปหาใครคนนั้นที่หน้าประตูห้อง ก่อนพากันเดินจากไป

                    “ถูกทิ้งอีกแล้วเหรอพวกเรา” เฉินหัวเราะลงคอเบาๆ มีเลย์ยักไหล่น้อยๆ และเล่นคอมพิวเตอร์ของตัวเองต่อ สองคนนั้นเป็นแบบนี้เสมอๆ คริสมักเดินมาหากวางบ้าที่ห้องแล้วไม่นานกวางบ้าก็จะลุกเดินหายไปกับคริสแค่สองคน มันเป็นเรื่องที่ชินชาในสายตาสำหรับพวกเขาทั้งหมดไปแล้ว

                    ชายหนุ่มทั้งสองยังคงเดินต่อเท้ากันไปเรื่อยๆ บนฟุตบาทของถนนสายหลัก ท่ามกลางผู้คนที่เดินสวนทางผ่านกันไปมา ลู่หานเหลียวมองดูร้านเครื่องประดับที่วางโชว์แหวนและสร้อยสไตล์น่าสนใจแต่ก็ไม่คิดจะหยุดแวะหรือเข้าไปในร้าน แต่สักพักคนที่มากับเขาเช่นคริสหรืออู๋อี้ฝานกลับหยุดฝีเท้า ก้าวขาเลี้ยวไปยังร้านขายเครื่องประดับร้านนั้นโดยไม่กล่าวบอกอะไร ลู่หานคงมองดูสร้อยและแหวนที่ตนติดใจเมื่อครู่และเดินดูของในร้านต่ออีกหน่อย โดยมีอู๋อี้ฝานเดินตามและหยิบจับบางชิ้นขึ้นดูบ้างเป็นบางครั้ง

                    สุดท้ายคนที่เข้ามาในร้านคนแรกกลับไม่ได้ของอะไรแม้สักชิ้นติดกลับออกไป มีเพียงลู่หานเท่านั้นที่ได้ของมาด้วยรอยยิ้มและพูดจ้อไม่หยุดว่าจะใส่เข้ากับชุดไหนในคอลเลคชั่นของตัวเองดี

                    เสียงเพลงและมิวสิคสไตล์ R&B ดังมาจากจอLCD ขนาดยักษ์ที่ติดอยู่กับตัวตึกแยกตรงข้าม ลู่หานหยุดยืนแหงนมองดูภาพเคลื่อนไหวที่อยู่บนจอนั้นด้วยความสนใจพลางเผยอปากน้อยๆ อย่างลืมตัว ......ใบหน้าด้านข้างของลู่หานดูโดดเด่นและน่ามองจนทำให้คนร่างสูงใหญ่อย่างอู๋อี้ฝานอดที่จะคลี่ยิ้มออกมาไม่ได้ยามเมื่อก้มลอบมอง ชายหนุ่มปล่อยให้คนตัวเล็กกว่ายืนนิ่งกะพริบตาปริบๆ ดูมิวสิคนั้นเงียบๆ ไม่ปริปากเร่งให้เดิน ทั้งเอื้อมจับแขนรั้งดึงอีกฝ่ายเป็นครั้งคราวยามเมื่อมีใครบนฟุตบาทเดินเร่งฝีเท้าเข้ามาใกล้อย่างไม่ทันระวังว่าจะมีใครมาหยุดยืนดูอะไรนิ่งๆ กลางทางเช่นนี้

                    ลู่หานแหงนมองคนที่มาด้วยกันและหยักยิ้มจนตาหยีร้องบอกความเจ๋งของมิวสิคที่เพิ่งได้ดูผ่านตาทั้งถามความเห็นด้วยความอยากรู้ แต่อู๋อี้ฝานทำได้เพียงหัวเราะและฟังลูกกวางระบายความตื่นเต้นนั้นต่อไป เมื่อเดินถัดออกไปอีกสองสามบล็อคก็ถึงร้านอาหารร้านประจำที่พวกเขาทั้งสองมักเดินมาฝากท้องยามว่างเสมอ พนักงานในร้านเดินยิ้มกริ่มพร้อมเมนูอาหารส่งยื่นให้ก่อนจดรายการที่สั่งลงไปและไม่รบกวนเวลาส่วนตัวของคนทั้งสอง คนหนึ่งนั่งจิ้มมือถือออนเหวยโบ๋ อีกคนเท้าคางหันหน้าออกไปนอกกระจกก่อนถูกสะกิดให้ดูรูปในมือถือที่เพิ่งโหลดมาได้จากเหวยโบ๋ พอแกล้งจิ้มกดขยายแล้วแซวเรื่องริ้วรอยที่คนทำรูปใช้โฟโต้ชอปลบออกไปให้ เจ้าของเครื่องก็หัวเราะยกมือที่ว่างตีลงไปตรงแขนและยกมือถือกลับคืนมานั่งเปิดรูปอื่นดูต่อไป

                    ไอศกรีมรสมิ้นต์วางลงตรงหน้า พร้อมกาแฟถ้วยอุ่นหอมกรุ่นกลิ่นไอฟุ้ง และกรีนทีลาเต้ของอี้ฝาน

                    ลู่หานหยอดน้ำตาลใช้ช้อนคนกาแฟไปมา พลางเหลือบมองอู๋อี้ฝานที่เพิ่งเดินกลับมาพร้อมนิตยสารให้อ่านฟรีค่าเวลาในร้าน ใบหน้าเข้มกับคิ้วและดวงตาที่ติดจะดุของอู๋อี้ฝาน เขาชอบแอบมองดูมันเสมอ อี้ฝานชอบทำหน้านิ่งไม่ค่อยยิ้มสักเท่าไรเพราะมักบ่นอยู่เสมอว่าตนยิ้มไม่สวย แต่สำหรับลู่หาน เขาว่าอี้ฝานยิ้มแล้วดูดีไม่ต่างจากตอนทำหน้านิ่งเช่นนี้

                    มือใหญ่เอื้อมคว้าช้อนและตักไอศกรีมในถ้วยตรงหน้าของลู่หานมาชิมก่อนวางคืนกลับที่เดิม กวางบื้ออ้าปากค้างบ่นพึมพำว่าเจ้าของยังไม่ทันได้กินเลยมากินก่อนได้ไง และตักไอศกรีมเข้าปากบ้าง อี้ฝานหัวเราะในคอเบาๆ หยิบช้อนกาแฟในถ้วยของลู่หานออกมาตักไอศกรีมถ้วยนั้นอีกครั้งอย่างจงใจแกล้งเย้า จนถูกยกถ้วยไอศกรีมหนี สองคนหัวเราะร่วนก่อนวางมันไว้ตรงกลางโต๊ะและแบ่งกันกินโดยที่ไม่พูดอะไรกันต่อ

                    คนหนึ่งนั่งอ่านหนังสือ อีกคนนั่งเล่นเหวยโบ๋ กินขนมกันไป ฟังเพลงที่เปิดในร้านกันไป เสียงแมสเสจเข้า ดังพร้อมกัน เป็นจื่อเทาและเซฮุนที่ส่งเข้ามาตามหาพวกเขาในห้องแชทรวม ว่าให้ซื้อขนมกลับไปฝากด้วย

                    สองคนมองหน้าและหัวเราะก่อนเรียกพนักงานมาคิดเงิน ลุกเดินตามกันออกไปยังร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อขนมกลับไปให้น้องชายทั้งสอง

                    ดวงอาทิตย์ลับลาขอบฟ้าไปแล้ว แสงไฟในเมืองและร้านรวงพากันส่องกะพริบวับวามทั่ว บ้างเร่งเดินกลับบ้าน บ้างออกมาหาอะไรกิน บ้างเดินเล่น บ้างรอใครสักคน และบางคู่ก็ก้าวเดินไปพร้อมๆ กันอย่างนี้จนเป็นนิสัย...

     

                    อู๋อี้ฝานเดินมาส่งลู่หานที่หน้าห้องนอน ยื่นถุงขนมที่ซื้อมาฝาก เลย์และเฉินในห้องให้ ส่วนตัวเองก็ถือของเซฮุนและเทาไว้

                    “งั้นแยกกันตรงนี้นะ”

                    “อื้อ”

                    “.....ราตรีสวัสดิ์” อี้ฝานยกยิ้มพร้อมเดินหันหลังกลับห้องของตนที่คงมีลิงทโมนทั้งสองนอนรออยู่ในห้องแล้ว

                    “อี้ฝาน” ลู่หานเอ่ยเรียกทำให้คนร่างสูงเลิกคิ้วฉงนหันกลับมามองอีกครั้ง .....กระทั่งถูกดึงรั้งให้โน้มต่ำสัมผัสกับความหยุ่นนิ่มของริมฝีปากบางๆ จากกวางน้อยตัวนี้ ถึงทำให้เขาเข้าใจความหมายและน้อมรับไว้แต่โดยดีไม่ขัดขืน

                    “ราตรีสวัสดิ์.....” ลู่หานบอกและเดินเข้าห้องไป ทิ้งไว้เพียงรอยยิ้มและความอุ่นอวลในหัวใจของกันและกัน





    Never Ending Story


    =================================================

    เรื่องสั้นลำดับที่ 1 ของข้าพเจ้า ในตระกูล คริสลู่ ฮ่าๆๆๆๆๆ

    with love
    viruskei

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×