ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    GOT 2JAE - jeabeom x youngjae

    ลำดับตอนที่ #55 : My Enemy [END]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.1K
      36
      29 มี.ค. 59


    My Enemy

    (ฟิคสำหรับวันวานเลนไทน์ที่ดีเลย์มาแล้วหลายวัน)





    เสียงรถจักรยานยนต์รุ่นเก่าดังแว่วมาแต่ไกล เวสป้า 90 รุ่นเก่าเมื่อหลายปีที่แล้ว ไม่บ่อยนักที่จะได้เห็นมอเตอร์ไซด์คลาสสิกขนาดนี้วิ่งอยู่บนท้องถนน แต่มันป็นที่คุ้นตาของเด็กวิศวะ เจ้าของรถตัวโตพาคุณปู่ยุคเก๋าเลี้ยวเข้าคณะ ผมเผ้ายาวเกินกว่าปกติ ไรหนวดเขียวครึ้มทำรุ่นน้องต่างยกมือไหว้กันเป็นแถวเมื่อเจ้าตัวลงจากรถ


    “กูบอกแล้วว่าไม่ต้—”

    ตำหนิเด็กปีสองที่เดินผ่านเขาพลางยกมือไหว้กล้าๆกลัวๆ แต่เด็กนั้นก็พากันกระเจิงเดินหนีไปก่อนที่จะพูดจบประโยค หรือเขาจะหล่อเกินไปจนไม่มีใครสู้หน้า ไม่รู้จะกลัวอะไรกันหนักหนา คนเหมือนกันไม่ใช่ศาลพระภูมิ 


    ในขณะที่หัวเสียกับรุ่นน้องอยู่นั้น แรงสั่นสะเทือนในกระเป๋าก็ทวีความรุนแรงอย่างบ้าคลั่ง 

    เขาหยิบมันขึ้นมากดรับปลายสายเพื่อหยุดพลังอำนาจการสั่นจากโทรศัพท์รุ่นเก่า หน้าจอขาวดำโชว์ชื่อพี่รหัสคนสนิท


    “ฮัลโหลพี่” 

    ถ้าให้เดาคงโทรมาย้ำเรื่องของที่ต้องเตรียมไปค่ายในอีกไม่กี่นาทีนี้แน่ๆ


    “ไอ่บี อยู่ไหนแล้ววะ” 

    “พึ่งถึงคณะเนี่ย”

    “ดีแล้ว กูจะบอกว่ากูจะขับรถตามไปทีหลังนะ พอดียังเคลียงานไม่เสร็จ” 

    “อา..ก็ได้” 

    “อีกเรื่อง กูฝากดูยองแจหน่อยดิ”


    ยองแจ.. 

    ไม่คิดว่าจะยังได้ยินชื่อนี้อีก  


    “ยองแจ..? ยังไม่เลิกตอแยพี่อีกหรอ” 

    “เห้อ..ไม่มีทางง่ายๆหรอก พอรู้ว่ากูจะไปค่ายก็ขอตามมาด้วย โทษทีว่ะไม่ได้บอกก่อน”

    “ทำไมพี่ไม่หัดปฏิเสธไปบ้าง”

    “เอาน่า พี่ไม่อยากหักน้ำใจ”

    “เหอะ..น้ำใจที่ไหนกัน คงไม่ได้อยากไปช่วยจริงๆหรอก”

    “แจบอม...” ปลายสายกดเสียงดุ ทำเขาถอนหายใจพรืด 


    ผู้ชายแบบมาร์คต้วนจำเป็นต้องใจดีไปถึงไหน ดีกับทุกคนไปหมด แม้กระทั้งกับคนขี้ตื้ออย่างยองแจ รายนี้ก็ใช่ย่อย รู้ทั้งรู้ว่ามาร์คคุยอยู่กับจินยองยังจะกล้าออเซาะ ไม่ไหว..


    “อืม เดี๋ยวดูให้ แล้วนี่อีกนานไหมกว่ายองแจจะมา” 

    “คงอีกไม่เกินสิบนาที ฝากบอกด้วยนะว่ากูจะไปช้า” โยนระเบิดมาให้กันอีก.. 

    “โอเค พี่รีบๆมาละ ถ้าไม่อยากเห็นลูกคุณหนูโดนผมด่ากระเจิง”

    “มึงนี่ก็..ยังไงจะรีบไปแล้วกัน” 

    “อือ งั้นผมไปเช็คของก่อนนะ พวกไอ่แจ็คมาแล้ว”

    “เออ ไว้เจอกัน” 


    แจบอมวางสายพลางพยักหน้ารับแจ็คสันที่กวักมือเรียกไกลๆ คว้ากระเป๋าเป้จากตระกร้ารถขึ้นสะพาย เดินไปสมทบทีมสโมฯทันที 


    อิมแจบอมรับหน้าที่ขนอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้างซ่อมแซม รวมไปถึงทะยอยให้เด็กต่างคณะกว่ายี่สิบคนยกกระเป๋าตัวเองขึ้นหลังรถกระบะ 

    พูดคุยตรวจเช็คข้าวของทั้งหมดกับแจ็คสัน เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างถูกขนขึ้นรถแล้ว เพราะหากมีการลืมเกิดขึ้นจะไม่ย้อนกลับมาเอาแน่ๆ 


    “น้ำเซ็ทนี้เซ็ทสุดท้ายแล้วมั้ง ไม่น่าจะเหลืออะไรอีก” 

    “อืม งั้นมึงไปดูรถเลยแล้วกัน เดี๋ยวกูขนตรงนี้เอง” 

    “โอเค”


    แจบอมยกแพคน้ำดื่มขึ้นรถต่อหลังจากที่เพื่อนสนิทเดินออกไป แต่ในขณะที่กำลังก้มลงหยิบ เสียงล้อลากสัมผัสกับพื้นคอนกรีตก็เรียกให้เงยหน้าขึ้น... 


    การปรากฏตัวของคนตัวเล็กผมสีน้ำตาอ่อนทำเอาเขาขยับปมคิ้วเข้าหากัน 


    นั้นล่ะ ชเวยองแจ.. 

    ถึงจะเคยเจอกันไม่ถึงสิบครั้งแต่แจบอมมั่นใจว่าจะเป็นใครไปไม่ได้อีก บุคคลที่สามารถเปลี่ยนลานหน้าคณะธรรมดาๆให้กลายเป็นรันเวย์พรมแดงเปิดตัวหนังฮอลิวูดได้มีไม่กี่คน ท่าทางเชิดรั้น มากับความมั่นใจเกินร้อย 


    เยอะจริง... 


    “นี่ๆ จะไปไหน” 

    แจบอมร้องทักเมื่อคนตัวเล็กทำท่าจะเดินเข้าไปใต้คณะ 


    เจ้าตัวถอดแว่นตากันแดดออกพลางใช้ดวงตาเล็กๆไล้มองอิมแจบอมอย่างตรงไปตรงมา


    เสื้อยืดสีกรม แนบไปกับกล้ามเนื้อ กางเกงขายาวไร้รสนิยม รองเท้าผ้าใบขาดๆ ผมหน้ายาวปรกลงมาถึงจมูก หนวดครึ้ม.. 

    น้องรหัสมาร์ค.. ต่างกันราวกับฟ้ากับเหว 

    เท่าที่จำได้ ไอ่คนป่าตรงหน้าเคยกันเขาออกจากมาร์คเมื่อวันวาเลนไทน์ปีก่อน 


    ไม่เจอกันตั้งนาน หน้าแก่ขึ้นเยอะ.. 


    “พี่มาร์คละ..”

    “ยังไม่มา..จะตามไปทีหลัง” 

    ร่างสูงตอบเสียงเรียบ ยืนอิงรถใช้สายตาคมสำรวจอีกคนตั้งแต่หัวจรดเท้าไม่ต่างกัน 


    “ได้ยังไง!? ก็พี่มาร์คบอกว่าจะมา”

    “บอกว่าจะตามไปทีหลังไม่ได้บอกว่าไม่มา พูดไม่เรื่องรู้เหมือนเดิมเลยนะ” 

    “นายว่าใคร!” 

    “ก็ยืนกันอยู่สองคน แล้วนี่จะย้ายบ้านรึไง หรือเอาไปบริจาค ถ้าบริจาค เอาไปไว้คันนู้น” 

    เหล่มองกระเป๋าใบโตก่อนพยักเพยิดไปทางรถอีกคัน 


    “ใครจะบ้าเอาของแบรนด์เนมมาบริจาคหะ นี่เสื้อผ้าฉันต่างหาก”

    “อ่อ..จะอยู่ทั้งปีว่างั้น... ยกขึ้นรถด้วย” 

    พูดโดยไม่สนใจคนตัวเล็กแม้แต่น้อย เขาหันกลับไปยกของต่อตามเดิม ปากบางเบะออกเพราะไม่พอใจที่ถูกสั่ง


    “ไม่ ฉันจะพี่รอมาร์ค” 

    “ตามใจ แต่แนะนำนะ กลับบ้านไปเลยดีกว่าเพราะมาร์คคงไม่แวะมาคณะแล้ว”

    “ทำไม” 

    “มันเสียเวลา เข้าใจป่ะ..” 

    ยองแจเผลอถอยหนีใบหน้าคมที่ขยับเข้ามา แต่คิดหรอว่ายองแจจะกลัว ระดับนี้ไม่มีคำว่ายอม 


    “ก็ได้..งั้นยกกระเป๋าฉันขึ้นไปด้วย” 

    “มีมือไหม?” 

    “..มี”

    “เออ..ยกเอง” 

    สิ้นเสียงเข้ม คนตัวโตก็เดินตัดหน้ายองแจไปอีกทางทันที 


    ________


    กว่าสี่ชั่วโมงในการเดินทาง บ่ายโมงกว่าก็ถึงที่หมาย พระอาทิตย์กำลังร้องแรงได้ที่ 

    ยองแจวุ่นอยู่กับการทาครีมกันแดดทั้งตัวและหน้า ไหนจะลิปมันกันปากคล้ำอีก 


    ปังๆๆ! 


    เสียงทุบรถทำยองแจสะดุ้ง หันไปมองก็เจอกับคนป่าหน้าคมมองมาด้วยความไม่พอใจ 


    “ลงมาได้รึยัง จะเอารถไปเก็บ” 

    “คนทาครีมอยู่ไม่เห็นรึไง” 

    “ไม่กินเข้าไปเลยละถ้ามันจะยุ่งยากขนาดนั้น” 

    พูดจบก็เปิดประตูรถคว้าข้อมือบางออกมาเต็มแรง 

    ความอดทนแจบอมมีขีดจำกัด แค่ขับรถมากับคุณหนูขี้บ่นสองต่อสองก็ปวดหัวมากพอแล้ว จะต้องมารอพ่อคุณทาครีมจนงานไม่เดินอีกคงไม่ใช่เรื่อง 


    “อิมแจบอม! เห็นไหมว่ามันตกหมดแล้ว ถ้าแตกขึ้นมาจะทำยังไง!” 

    ยังดีที่ว่ายองแจปิดฝาทุกอย่างก่อนจะโดนแจบอมลากออกจากรถ ไม่อย่างนั้นคงหกหมดแน่ 


    “เอานี่ไป กางให้เรียบร้อย” 

    ไม่ได้สนใจเสียงแว้ดๆแต่กลับโยนถุงเต็นท์ให้คนตัวเล็ก หวังจะให้ยองแจกางเพื่อที่จะได้ไม่เสียเวลาในระหว่างที่เขาเอารถไปเก็บ 


    “อะไร?”

    “เต็นท์” 

    “ฉันกางไม่เป็นนะ!” 

    “งั้นก็เอาแบรนด์เนมของนายปูนอนแล้วกัน” 


    แจบอมถอนหายใจ เดินขึ้นรถทิ้งให้ร่างเล็กยืนทำหน้าเหวออยู่อย่างนั้น ไม่เคยเจอคนเรื่องมากเรื่องเยอะขนาดนี้มาก่อน รู้งี้ปล่อยทิ้งไว้ที่คณะแต่แรกซะก็ดี 


    เขาขับไปตามทางแคบๆ พื้นที่โล่งหลังหมู่บ้านมีมากพอที่พวกเขาจะจอดรถได้ แต่มันก็ไกลเกินกว่าจะเดินไปกลับตลอด เลยต้องตั้งเต็นท์นอนใกล้ๆและเอารถมาจอดข้างหลังแทน


    หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง ไม่มีสวัสดิการจากภาครัฐ ชาวบ้านกว่าสามสิบครัวเรือนอยู่กันอย่างลำบาก ด้วยเหตุนี้เขาจึงชวนแจ็คสันและมาร์คมาทำกิจกรรมบำเบ็ญประโยชน์ที่นี่ รวมคนที่สนใจในแต่ละคณะมาพัฒนาซ่อมแซมบ้านเรือน ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีมากขึ้น 


    แจบอมเดินกลับมาที่จุดพัก ทว่าที่พักกลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิดไว้..


    ชเวยองแจไม่ได้กางเต็นท์ตามสั่ง หนำซ้ำยังทำเหมือนจะทำลายเต็นท์เขาให้พังคามือ


    “เห้ๆ ทำอะไรน่ะ” 

    “ก็กางเต็นท์ไง” 

    “ใครเขาทำกันแบบนี้!”

    “ก็บอกแล้วไงว่ากางไม่เป็น” 


    แจบอมถอนหายใจเป็นรอบที่สองของวัน และคงมีอีกวันละหลายสิบรอบเป็นแน่ เขาดันยองแจให้ถอยออกห่าง จัดการกางเต็นท์เองคนเดียวด้วยความชำนาญ ไม่ถึงสิบนาทีทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย 


    เขาเอากระเป๋าเสื้อผ้าเข้าไปเก็บข้างใน ยองแจเห็นแบบนั่นจึงเอาของตัวเองเข้าไปเก็บบ้าง 


    แต่เพียงแค่กระเป๋ายองแจใบเดียวก็กินพื้นที่ไปเกือบครึ่งเต็นท์... 


    นี่เขากางเต็นท์ให้แบรนด์เนมนอนสินะ.. 



    ________________



    17.26 น


    “แจบอม เรียบร้อยดีไหม” 

    “พี่มาแล้วหรอ จินยอง หวัดดี” 

    คนตัวโตผละออกจากแปลนบ้านสิบกว่าหลังในมือ พี่รหัสสุดหล่อมาพร้อมกับคนที่เขาคุ้นเคยดี 


    “หวัดดีแจบอม” 

    ไม่ใช้เวลาทักทายอะไรมากนัก แจบอมยิ้มรับก่อนจะยื่นแปลนบ้านให้มาร์คดู 


    “ผมให้เด็กถาปัตกับไอ่ยูคช่วยดูโครงสร้างบ้านโดยรวมแล้ว นี่สเก็ตทั้งหมด มีที่ต้องซ่อมประมานสิบหลัง พี่ลองเช็คดู” 

    “อืม..ดี เราจะได้เริ่มงานเร็วๆจะได้เสร็จทันเวลา มึงไปอาบน้ำก่อนเถอะ เหนื่อยมาทั้งวัน เดี๋ยวกูต่อเอง” 

    “เอางั้นหรอ?” 

    “อืม เดี๋ยวมึงต้องเตรียมเรื่องของบริจาคอีกไม่ใช่รึไง”

    “โอเค งั้นฝากด้วยนะพี่”

    “แล้ว..ยองแ—”


    “พี่มาร์ค~~~~” 

    ยังไม่ทันจบประโยค คนถูกถามถึงก็ถลาเข้ามาคล้องแขนพี่รหัสเขาจนว่าที่แฟนอย่างจินยองกระเด็นออกไป 


    “มาแล้วหรอครับ ขับรถเหนื่อยไหม”

    คนมาใหม่ส่งเสียงหวานออเซาะ เขามองยองแจสลับกับจินยองแล้วนึกสงสาร เลือกไม่ถูกว่าควรสงสารมาร์คหรือจินยองดี กะจะมาสวีทกันแท้ๆดันมีมารผจญมาด้วย 


    จินยองก็แสนดีเหลือเกิน ไม่เคยว่าอะไร แสนดีพอๆกับมาร์ค 

    ไม่สงสัยเลย ทำไมยองแจถึงยังคอยตอแยพี่รหัสเขาไม่เลิก 


    “เอ่อ..ไม่เหนื่อยหรอกครับ ปล่อยพี่ก่อนนะครับยองแจ” 

    “แจคิดถึงมาร์คนี่น่า เราไม่ค่อยได้เจอกันเลย”


    “มาร์คคงอยากอยู่กับจินยองมากกว่าม้าง...”

    อดไม่ได้ที่จะพูดแขวะออกไป ยองแจหันมามองค้อนใส่เขายกใหญ่ ไม่วายยังส่งสายตาเคืองๆให้จินยองอีกต่างหาก 


    แจบอมละกลุ้ม.. 


    “ไม่จริงอะ! พี่มาร์คกับจินยองก็แค่พี่น้องกันนี่! ใช่ไหม?” 

    “นายควรไปอาบน้ำได้แล้วนะ มานี่..”

    ทนเห็นเพื่อนตัวเล็กทำหน้าซึมไม่ได้ สถานะทั้งคู่ยังคลุมเครือ แน่นอนว่าทั้งมาร์คและจินยองคงไม่กล้าตอบได้อย่างชัดเจน เพราะงั้นเขาเลยต้องทำหน้าที่ช่วยกันยองแจออกจากทั้งคู่


    แรงที่มีลากร่างเล็กออกมาอย่างรวดเร็ว เจ้าตัวดีดดิ้นออกจากมือหนา แต่ก็สู้แรงเขาไม่ได้ 


    “แจบอมมม ปล่อยยย!” 

    “ปล่อยให้คนรักกันเขาอยู่กันสองคนบ้างเหอะ นายควรจะรู้ตัวได้แล้วนะ” 

    “พูดอะไรของนาย มั่ว!” 

    “นี่..ถามจริง นายไม่รู่หรอว่ามาร์คกับจินยองเขาชอบกันอยู่..” 


    แจบอมจับให้ยองแจหันมาประจันหน้ากับเขาตรงๆด้วยการบีบไหล่บางทั้งสองข้างเอาไว้ 

    “พี่มาร์คก็ไม่เคยบอกว่าชอบจินยองซะหน่อย”

    “แต่นายก็ควรจะรู้ด้วยตัวเองนะ”

    “ฉันไม่เชื่อ!” 

    “จะหลอกตัวเองไปถึงไหน มาร์คไม่ได้ชอบนาย”

    “อย่ามายุฉันซะให้ยาก! ปล่อย! จะไปอาบน้ำ!” 


    มือบางดันอกแกร่งออกให้พ้นตัว ฮึดฮัดเดินกลับไปที่เต็นท์ด้วยสีหน้ายากจะคาดเดา 

    แวบหนึ่งเขาเห็นน้ำใสๆคลออยู่ที่ดวงตาเล็กนั่น หรือบางทีเขาอาจจะตาฝาด..


    __________



    “ไม่มีห้องน้ำที่ดีกว่านี้แล้วรึไง”

    แรงสะกิดเรียกแจบอมเงยหน้าขึ้นมาจากกองของบริจาค เขาเสยผมลวกๆเพราะถูกขัดจังหวะ

    คนกำลังนับของ 


    “อ้องอ้ำอำไอ?”

    ถามเสียงอู้อี้เพราะคาบดินสอเอาไว้ สองมือถือกระดาษและถุงพลาสติกเต็มไปหมด

    ผมยาวปิดหน้าปิดตา หนวดไม่ได้โกน นั่งจมกองของเยอะแยะ มองผ่านๆนึกว่าขยะ


    “พูดอะไรไม่รู้เรื่อง” 

    ยองแจหยิบดินสอออกจากปาก เกลี่ยปลายผมออกให้เพื่อที่จะคุยกับเขาได้ถนัดๆ 


    “......”

    “..อะไร?”

    เสียงหวานถามย้ำเมื่อเห็นแจบอมนิ่งไป สงสัยจะนับของจนเมา


    “เปล่า แล้วห้องน้ำทำไม?”

    แค่รู้สึกแปลกๆตอนยองแจทำแบบเมื่อกี้ ปกติเขาไม่ชอบให้ใครมายุ่มยามกับผม แต่ครั้งนี้มันแปลก..


    “ก็ผนังสูงแค่คอ แถมหลังคาก็ไม่มี ฉันจะอาบได้ไง” 

    “อาบๆไปเถอะน่า”

    “จะบ้าหรอ ถ้าเกิดมีพวกโรคจิตแอบมองเล่า!”

    “ที่นี่ไม่มีใครผิดปกติไปมากกว่านายแล้วละ สบายใจได้” 

    “อิมแจบอม! นี่ฉันซีเรียสนะ!” 

    “แล้วจะให้ฉันทำยังไง ให้ไปเฝ้าหน้าห้องน้ำเลยไหมละ!?” 

    “...เอา” 


    .

    .

    .


    สุดท้ายแจบอมก็ต้องทิ้งงานมาเฝ้าคนเรื่องเยอะ เขายืนอิงต้นไม้หน้าห้องน้ำพลางมองท้องฟ้ามืดๆไปเรื่อยๆ เสียงน้ำขันแล้วขันเล่าผ่านไป ยองแจก็ไม่มีท่าทีจะเสร็จซักที นี่ขนาดบ่นว่าน้ำเย็นนะ ยังใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง 


    “ลอกผิวหนังชั้นนอกอยู่รึไงวะ เสร็จรึยัง” 

    “ก็ที่นี่มีแต่ฝุ่น ใครจะอาบน้ำเร็วเหมือนนาย สกปรก” 

    ด่าอีก.. 

    ถ้าการถอนหายใจทำให้ตายไว คิดว่าพรุ่งนี้ตื่นมาเขาคงไม่มีชีวิตอยู่แล้ว 


    “ฉันมีงานต้องทำต่อนะ ให้เวลาอีกห้าวิ รีบล้างตัวซะ” 

    “ห้าวิ? ขันเดียวยังไม่เสร็จเลย” 

    “หมดเวลา” 


    “อย่าพึ่งหันม-- เห้ยย!” 


    โครมมม~!! 


    แจบอมแกล้งหันกลับมาทางห้องน้ำ เพราะไม่อยากตามใจยองแจมากเกินไป ทว่าทันทีที่สายตาสบเข้ากับดวงตาเรียว เสี้ยวนาทีเขาก็ได้เจอกับขันน้ำกระแทกหน้าเต็มๆ 


    ชเวยองแจรีบคว้าผ้าขนหนูห่อตัวเองไว้ด้วยความตกใจ 

    ก็ไอ่ผนังห้องน้ำนี่น่ะสิ แค่เขย่งขามองก็เห็นอะไรต่อมิอะไรแล้ว จู่ๆหันมากระทันหันแบบนั้น เป็นใครก็ตกใจ 


    “โอ้ยยย ทำอะไรของนายเนี่ย” 

    “ก..ก็ ใครบอกให้นายหันมาละ!” 

    “คิดว่าฉันอยากดูนายอาบน้ำมากรึไง รีบแต่งตัวเดี๋ยวนี้ก่อนที่ฉันจะทิ้งนายไว้ที่นี่” 

    “นายมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน”  

    “ลองไม่ทำตามดูสิ แล้วจะรู้..” 


    ในเมื่อกล้าท้า ชเวยองแจก็กล้าแข็งข้อ คนตัวเล็กยืนนิ่งประชันสายตาอย่างไม่ลดละ 


    “ดี งั้นก็อยู่ตรงนี้คนเดียวไปละกัน..” 

    พูดจบก็หยิบตะเกียงแล้วสาวเท้าออกไป


    “น..นี่! แจบอม! แจบอม!!” 

    แผ่นหลังกว้างค่อยๆเดินห่างไป ยองแจรีบใส่เสื้อผ้าอย่างช่วยไม่ได้ เขาทำทุกอย่างเร็วไปหมดเพื่อไม่ให้แจบอมเดินออกไปไกลกว่านี้

    “หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” 

    มือบางรวบเสื้อผ้าที่ใส่แล้วเข้ามากอดไว้ หยิบเอาแชมพูสบู่ใส่ถุงลวกๆ ไม่ลืมคอยมองแจบอมเป็นระยะๆ 


    “แจบอม!!” 

    “จะตะโกนให้คนแห่มาทั้งหมู่บ้านรึไง! รีบออกมาดิ!”


    บ้าเอ้ย.. 

    นี่ก็รีบที่สุดในชีวิตแล้วไงเล่า 


    หนีบทุกอย่างไว้ข้างตัว อีกมือเอื้อมไปหยิบตะเกียงก่อนจะสาวเท้าตามไป 


    คนอะไร ใจร้ายชะมัด!


    ________



    หลังจากจบมหากาพการอาบน้ำ แจบอมก็ได้กลับมานั่งทำงานซักที คนตัวเล็กแจ้นออกไปหามาร์คแล้ว ครั้งนี้เขาคงตามไปแยกออกมาไม่ได้เพราะต้องเช็คและแยกของบริจาคให้เสร็จ 


    หวังว่ามาร์คจะรับมือได้

    จะสงสารก็แต่จินยอง.. 


    รีบทำงานของตัวเองให้เสร็จแล้วกัน.. 


    แจบอมและคนอื่นๆเกือบสิบคนช่วยกันคัดแยกของออกเป็นหมวดหมู่ ทั้งข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน อาหารแห้ง เครื่องนุ่มห่ม อุปกรณ์กีฬา ใช้เวลาร่วมสองชั่วโมงจึงเสร็จ 


    เขาสั่งให้ย้ายของออกไปไว้บริเวณลานกลางและแยกย้ายกลับไปนอน เพราะตอนนี้ดึกมากแล้ว

    จะได้พักซักที.. 


    “แจจะนอนกับพี่มาร์ค พี่มาร์คให้แจมาด้วยแล้วทำไมทำแบบนี้ละครับ” 

    “เอ่อ..ยองแจ พอดีเต็นท์มันนอนได้แค่สองคน แล้วจิน—” 

    “ก็ให้จินยองไปนอนกับแจบอมก็ได้นี่ครับ!” 


    เอาอีกแล้ว.. ไม่ทันได้พักดี 

    ตัวร้ายก็มาอีกแล้ว.. 


    หันหลังไปตามเสียงหวานๆก็เห็นเจ้าของเสียงเดินเกาะแขนมาร์คมาแต่ไกล ส่วนจินยองเดินขนาบข้างอีกฝั่ง 


    “ก็..จินยองเขามากับพี่นี่ครับ”

    “แจก็มากับพี่มาร์คนี่ครับ แค่พี่มาร์คตามมาทีหลัง!” 

    “แต่ว่า...”

    “ไม่รู้ละ แจง่วงแล้ว แจจะนอนกับพี่มาร์ค!” 


    ดีดดิ้นจะนอนกับผู้ชาย เชื่อเขาเลย.. 


    ถ้าเป็นแจบอมอยู่ตรงนั้นคงแกะแขนออกแล้วลากไปทิ้งแล้ว ไม่เข้าใจว่าพี่รหัสเขาทนไปได้ยังไงตั้งเกือบปี 


    สีหน้าเหนื่อยใจของมาร์คส่งมาทางเขาราวกับขอความช่วยเหลือ จินยองเองก็ดูตั้งท่าจะงอแงไม่ต่างกัน ถึงจะแสนดีแค่ไหน แต่เห็นคนรักตัวเองโดนคนอื่นออดอ้อนอยู่แบบนี้ก็คงทนไม่ไหว 


    เพราะงั้นตัวร้ายแบบยองแจต้องเจอคนแบบเขานี่.. 


    แจบอมทำทีเดินไปหาพร้อมรอมยิ้ม พอร่างเล็กเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ยิ่งเกาะแขนมาร์คแน่น เขาจะไม่ยอมไปกับไอ่คนป่าอีกเด็ดขาด! 



    _________________ 



    “ขยับไปหน่อยได้ไหม จะให้ฉันนอนขอบเต็นท์รึไง”

    “แค่นี่ก็แทบจะไม่มีที่อยู่แล้ว นายนั้นแหละ ตัวใหญ่เอง!” 

    “ก่อนจะโทษฉัน โทษกระเป๋านายก่อนเถอะ เอาออกไปไว้ข้างนอกก็จบเรื่อง กินที่ชิบ”

    “ไม่ได้ ถ้ามันหายใครจะรับผิดชอบ”


    แล้วจะแบกมาทำซากอะไรวะ.. 

    ปวดหัวตั้งแต่ก่อนมายันเวลาจะนอน แจบอมทึ้งหัวตัวเองแก้เซ็งพลางล้มตัวลงโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ไม่สนว่ายองแจจะมีที่นอนรึเปล่าด้วย ปีนขึ้นไปนอนบนกระเป๋าเอาแล้วกัน 


    ด้านยองแจได้แต่อ้าปากค้าง ที่จู่ๆแจบอมก็เทเขาด้วยการนอนคนเดียว เหลือที่นอนให้เขาเท่าที่แมวเดิน 


    “แจบอม อย่ามาทำแบบนี้นะ!” 

    “ถ้านายส่งเสียงอีกแม้แต่คำเดียว ฉันจะโยนนายออกไปข้างนอก” 

    “ไอ่...” 


    จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้เขารู้ว่าแจบอมพูดจริงทำจริงเลยได้แต่เงียบ 


    ยองแจจำใจเบียดตัวเองลงไป ตะแคงตัวให้ใช้พื้นที่น้อยที่สุด หันหน้าชนกระเป๋าและพยายามข่มตานอนให้ผ่านคืนนี้ไปเร็วๆ พรุ่งนี้จะไม่ยอมนอนเต็นท์เดียวกับแจบอมอีกแน่นอน.. 


    .

    .

    .


    เช้าวันใหม่ยองแจตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น ไม่คิดว่าการนอนในที่แคบๆจะไม่ทำให้เขาเป็นอะไรเลย คิดว่าจะปวดเมื่อยเนื้อตัวซะอีก 

    แต่ก็ดีแล้วละ ไม่อย่างงั้นคงโมโหคนตัวโตนอนตัวใหญ่กินที่ไปทั้งวัน 


    ยองแจออกจากเต้นไปสูดอากาศยามเช้า ล้างหน้าแปลงฟันเสร็จก็กลับมาที่เต็นท์ 

    เอ.. 

    ไม่เห็นแจบอมตั้งแต่ตื่นมา สงสัยตื่นก่อนหน้านี้นานแล้ว.. 


    เอ้ะนั่น.. พี่มาร์ค! 

    ร่างเล็กเตรียมสาวเท้าไปหาเป้าหมายโดยไม่ลืมหยิบครีมกันแดดออกมาทาจนทั่วก่อนจะท้าแดด และในขณะที่เขากำลังใช้นิ้วแตะลิปมันพลางเตะลงบนปากก็ต้องชะงักเมื่อรู้สึกถึงแรงดึงข้างหลัง 


    มือใหญ่คว้าคอเสื้อเขาไว้จนไปไหนไม่ได้ 


    “ย๊า ปล่อยนะ! เสื้อฉันเสียทรงหมดแล้ว!” 

    “ตื่นมาก็จะแจ้นไปหาผู้ชายเลยหรอนายน่ะ” 

    “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย!” 

    “เกี่ยวสิ นายมาที่นี่ ก็ต้องมาทำงาน ไม่ใช่ไปไล่กวนไล่เกาะจนมาร์คทำงานไม่ได้” 

    “ไม่ได้กวนซักหน่อย” 

    “เหอะ..ไม่กวนเลย ที่ทำอยู่นี่ไม่รู้หรอว่าทำคนอื่นเดือดร้อน” 


    ยองแจเบะปาก

    คิดว่ายองแจทำคนอื่นเดือดร้อนงั้นหรอ..


    “นายไม่เข้าใจฉันหรอก อย่างนายคงไม่เคยมีความรักถึงคอยขัดคนอื่นอยู่แบบนี้” 

    “หึ..มั่นใจจังนะ”

    คนตัวเล็กแสยะยิ้ม ที่จริงไม่ได้หมายความตามที่พูดหรอก ลุคเซอร์ๆของแจบอมดูดีไม่น้อยไปกว่ามาร์คเลย แต่จำเป็นต้องหาข้อเสียมาพูดให้ชนะเท่านั้นเอง และสิ่งที่เขาเห็นคือกลีบปากแห้งๆนั่น มันแตกตั้งแต่เมื่อวาน จนตอนนี้ก็ยังไม่หาย 


    “ดูสภาพนายซะก่อนเถอะ..”

    ว่าแล้วก็เลื่อนนิ้วที่ติดลิปมันไปปาดเข้ากับปากหยักทันที


    “.......” 

    “.......” 


    แย่แล้วยองแจทำอะไรลงไป.. 

    ราวกับมีกระแสไฟฟ้าจากคนตัวโตไหลเข้ามาผ่านปลายนิ้วและแล่นลงกลางหัวใจเต็มๆ.. 


    “หัดดูแลตัวเองซะบ้าง..”

    “........” 

    ยองแจชักมือออกจากปากแหลมนั่น แกล้งพูดเสียงเรียบเหมือนเรื่องปกติสามัญ


    โคตรพลาด..


    “..ถ้าใช้เวลาดูแลตัวเองเป็นชั่วโมงๆแบบนายคงไม่ทำ” 

    “.........” 

    “ทำแบบนี้ดีกว่า..” 


    แจบอมดันอีกคนกลับเข้าไปในเต็นท์ ใบหน้าคมเลื่อนเข้าใกล้ ฉกเอาลิปมันจากเรียวปากบางด้วยปากของเขาเอง


    ทุกอย่างเกิดขึ้นโดยที่ยองแจไม่ทันตั้งตัว


    กลิ่นหอมจากรสชาติหวานๆของลิปมันฝั่งแน่นเมื่อยามที่เขาบดจูบเข้าไปใกล้ หรือบางทีที่หวานอาจไม่ใช่เพราะลิป.. 


    ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ.. นอนดิ้นเอาตัวมาเบียดทั้งคืนจนแทบไม่ได้นอน ถ้าทนได้ก็พระแล้ว.. 


    แจบอมรุกล้ำ ไล้เลียจนยองแจครางแผ่ว เจ้าตัวไม่มีท่าทีขัดขืน ปากหยักเลยเอาแต่ใจด้วยการดูดดึงความหวานจนไม่เหลือลิปมันบนปากเขาทั้งคู่ แต่นั่นก็ไม่ทำให้การบดขยี้ของหวานติดขัดแต่อย่างใด 


    ปากร้อนซุกซนพรมจูบไปทั่ว ยองแจจิกเล็บเข้ากับไหล่หนาแน่นขึ้นเมื่อหนวดอีกคนลากผ่านไปมา 


    ไอ่ที่แจบอมไว้มันเพราะแบบนี้รึไง.. 

     

    ต่างคนต่างขยับเข้าหากัน มาไกลเกินกว่าจะแยกออกจากกันได้ กลิ่นหอมของคนเจ้าสำอางกระตุ้นช่วงล่างแจบอมได้อย่างดี


    และเมื่อมันตื่นตัวไปโดนร่างเล็กเข้า ยองแจถึงได้สติกลับมา.. 

    นี่เขากำลังจูบกับแจบอม

    แถมน้องชายแจบอมก็ยัง..แข็งตัวขึ้นเรื่อยๆ..

    นี่มัน.. 

    ต้องไม่ใช่แบบนี้สิ..! 


    “เอาไอ่นั่นออกไปห่างๆฉันเลยนะ..”

    “........” 

    เขาพลิกตัวกลับให้แจบอมอยู่ใต้ร่างเขาก่อนจะผละตัวออกมานั่งติดขอบเต็นท์ 


    คนตัวตัวกึ่งนั่งกึ่งนอน โดยที่แท่งร้อนดุนดันเนื้อผ้าออกมาอย่างชัดเจน 


    “ทะลึ่ง แค่นี้ก็ขึ้นแล้วหรอ” 

    “..อยากจะลองไหมละ” 

    แจบอมเสยผมตัวเองด้วยความหงุดหงิด ทำไมยองแจถึงทำให้ร่างกายเขาเป็นได้ขนาดนี้วะ 


    “ไม่อะ..ถ้าไม่ใช่พี่มาร์คก็บาย” 

    “เหอะ ระวังอดไปตลอดชีวิตแล้วกัน..ออกไปก่อนไป ก่อนที่มันจะไม่ลง..” 

    สุดท้ายก็ต้องไล่ตัวต้นเหตุออกไป ยิ่งเห็นเขายิ่งอยากฟัดเนื้อตัวนุ่มนิ่มนั่นแรงๆ 


    แจบอมโดนตัวร้ายเล่นงานซะแล้ว.. 



    ___________



    เหลือเวลาอีกสองวันในการทำงาน ยองแจโดนบังคับให้ช่วยงานจนลืมนึกถึงมาร์ค 


    ทำงานจนเหนื่อย กินข้าว อาบน้ำ เข้านอน สองวันที่เหลือจึงผ่านไปอย่างรวดเร็ว 

    ความสัมพันประหลาดๆของเขากับแจบอมก็ด้วย 


    ถ้าให้เล่าโดยละเอียดในสองวันนี้คือ ทำงานจนเหนื่อย กินข้าว อาบน้ำ เข้านอน กอดกัน จูบกัน ที่นอนแคบๆไม่เป็นปัญหาอีกต่อไปในเมื่อที่ว่างระหว่างเขากับแจบอมเป็นศูนย์ 

    คืนที่สามคนตัวโตเกือบจะเข้ามาในตัวเขาได้แล้ว แต่เพราะขนาดที่...เกินไปทำให้ยองแจต้องห้ามเอาไว้ก่อน ไม่งั้นได้ยินไปถึงท้ายหมู่บ้านแน่ๆ 


    แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังด่ากันตลอดเวลา

    ยองแจคิดว่าเขายังชอบมาร์คอยู่ แค่เผลอไปกับอารมณ์ชั่ววูบทั้งคู่


    ละมั้ง..


    เขาใช้เวลาคืนสุดท้ายก่อนจะกลับ นั่งคิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น นั่งอิงกระเป๋าใบใหญ่อยู่ในเต็นท์ เริ่มคิดแล้วแหละว่ายองแจเอาเสื้อผ้ามาเยอะเกินไปอย่างที่แจบอมว่าจริงๆ พึ่งเปลี่ยนไปสามสี่ชุดเอง.. 


    แต่อย่างน้อยครีมกันแดดก็คุ้ม ได้แบ่งให้แจบอมทาด้วย ความจริง..ยองแจบังคับทามากกว่า แถมยังต้องเป็นคนทาให้ด้วย 


    “พรุ่งนี้รถออกตีห้านะ ตื่นให้ทันละ” 

    นึกถึงก็มาเลย.. 

    แจบอมกลับมาจากอาบน้ำเสร็จ เขาอาบไปก่อนหน้านี้แล้ว มีแจบอมเฝ้าและบ่นเรื่องอาบน้ำนานเหมือนเดิม 


    “ตื่นไม่ทันนายก็ปลุกสิ” 

    “เรื่องอะไร”

    “นิสัย..”


    “แล้วนี่นั่งทำเอ็มวีอะไร”

    “เปล่านี่ คิดเรื่อยเปื่อย ไม่ได้คิดเรื่องนายแล้วกัน”

    “พอจะรู้..คิดเรื่องมาร์คละสิ ไม่มีฉันแก้เหงาแล้ว แย่เลย”

    “เห็นฉันเป็นคนยังไงหะ”

    ตาเรียวมองค้อนคนตัวโตทันที เรื่องพูดจาถากถางคนอื่นถนัดนักนะ 


    “เปล่า ก็ตื้อแล้วตื้ออีกเขาก็ไม่สนใจ ฉันเลยช่วยให้นายฟินบ้างนี่ไง”


    เจ้าบ้านี่.. 

    “อิมแจบอม คนยิ่งท้อๆอยู่ จะพูดให้เสียกำลังใจให้ได้อะไรขึ้นมา รู้แล้วว่าพี่มาร์คไม่รัก ไม่ต้องย้ำได้ไหม” 

    “.......” 


    ไม่รู้อะไรดลใจให้ระเบิดอารมณ์ออกไป สายตาในวันที่แจบอมเห็นครั้งก่อนกลับมาอีกครั้ง เพียงแต่ว่าครั้งน้ำตาน้ำดันไหลออกมาจริงๆ 


    เชื่อไหมว่ามันไม่ได้ไหลเพราะมาร์ค

    มันไหลเพราะคำพูดแจบอม ตั้งแต่วันนั้นแล้ว.. 


    เขาท้อและรู้ทั้งรู้ว่าความจริงเป็นยังไง แต่ก็ยังดึงดันไม่ยอมรับ 

    ยองแจคงไม่รู้สึกอะไรกับมาร์คแล้ว แต่ที่ปวดใจอยู่ตอนนี้คืออะไร 


    แค่คำพูดคนที่พึ่งใกล้ชิดกันไม่กี่วันงั้นหรอ.. 


    “นายไม่ได้ชอบมาร์คแล้ว ใช่ไหม”

    “.......”

    “หยุดร้องไห้แล้วตอบสิ”

    “....อือ” 

    “เพราะงั้นก็เลิกทำตัวแรดๆได้แล้ว” 

    “สาบานว่านี่ปลอบใจอยู่” 

    “อืม” 


    แจบอมทำหน้ากวนโอ้ยจนอยากตบแรงๆซักที แต่ไม่ทันจะได้ตบ มือหนาก็คว้าเอาตัวเขาขึ้นไปนั่งบนตักซะก่อน 


    “จะทำอะไร?” 

    “ส่งท้ายไง”

    “นี่ฉันเศร้าอยู่นะ” 

    “เศร้าอะไร ตัวร้ายเขาเศร้ากันด้วยหรอ” 

    เสียงทุ้มพูดชิดหลังหูเล่นเอายองแจขนลุกซู่ ชอบเอาหนวดมาโดนกันอีกแล้ว มันจั๊กจี้ไม่รู้รึไง 


    “นายร้ายกว่าฉันอีก” 

    “หึ..” 


    ไม่มีเสียงพูดคุยอะไรอีกนอกจากเสียงครางหวาน ในที่สุดเขาสองคนก็ได้กันในคืนนั้นเอง...



    __________



    ‘ฉันไม่เล่นโซเชียล’ 

    ‘ใครๆก็เล่นกันทั้งนั้น’

    ‘ทำไมต้องเล่นกัน อยากรู้ ’

    ‘ก็เผื่อว่าคิดถึง อยากคุยวันละหลายๆรอบ จะได้ไม่ต้องเสียเงินเยอะ คิดถึงเมื่อไรก็ทักไป อะไรแบบนี้’ 

    ‘ไม่เห็นจะเก็ท คนเราจะต้องคุยกันตลอดเวลาเลยรึไง’


    คำพูดแปลกประหลาดในแบบนี่ไม่คิดว่าจะได้ยินในยุคนี่ยังติดอยู่ในหัว มันเป็นประโยคบอกลาที่แปลกที่สุด..


    ยองแจกลับมาด้วยความรู้สึกโหว่งๆได้เกือบสองอาทิตย์ แต่จะทำไงได้ เขาไม่ได้ขอเบอร์ใครที่ค่ายไว้เลย 

    จะมีก็แต่มาร์คที่ไม่ค่อยได้ทักไปแล้ว.. 


    เห้อ..

    น่าเบื่อ..


    พอไม่ได้ตามตอแยใครก็น่าเบื่อแสนเบื่อ


    คาท๊ก~!

    เสียงแจ้งเตือนโปรแกรมแชทดังขึ้น เขามองชื่อปลายทางอยู่นานสองนาน ไม่เคยมีลิสเพื่อนชื่อนี้ในเฟรนนะ..

    defjb : ฮัลโหล

     

    defjbฉันแจบอม

    แจบอม..?

     

    cwjcyj : ไหนบอกไม่เล่น โซเชียล

    defjb : ก็ใครบอกว่าถ้าคิดถึงก็ทักมา


     ' ถ้ารู้สึกว่าใครซักคนเป็นคนพิเศษ จะอยากคุยด้วยตลอดเวลา '


    cwjcyj : แสดงว่านี่ซื้อมือถือใหม่เลยหรอ

    defjb : อือ

     

    defjb : เป็นไงบ้าง ตัวร้าย..

     

    ใครจะรู้ว่ายองแจยิ้มแก้มแตกคนเดียวอยู่นานสองนาน




    _____________

    ทุกอย่างเร็วไปหมด เพราะปั่นมาก 555555 แต่ก็อยากเขียนพล็อตแบบนี้ดู​ถ้ามีโอกาสจะขยายให้มันเป็น ซัก 4 ตอนเนอะ แต่นี่ขโมยเวลาทำธีสิสมาเขียน ก็ปุปปับแบบนี้ไป TT 5555 *มีฉากเฝ้าอาบน้ำคล้ายๆ demons มะ 555 

    ถ้าเม้นแล้วอยากเม้ามอยด้วย ก็ใน #got2jae ได้นะคะ 

    สุดท้ายนี้ ขอขายของหน่อย 55555 

    สติ้กเกอร์ & พวงกุญแจผ้า GOTvanger สนใจ ► จิ้ม

    สติ้กเกอร์มีแบบแยกเมมเบอร์ด้วยนะคะ ลองเข้าไปดูรายละเอียดในลิงค์ดู 


    พวงกุญแจ ลายเดียวกับสติ้กเกอร์เลย เป็นแบบนี้ 



    สนใจ ► จิ้ม

    ขอบคุณค่า XD


    ? cactus
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×