คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #51 : Problems - 3/4
06.00 น.
กรุ้งกริ้ง~ กรุ้งกริ้ง~
“สวัสดีค่ะ เชิญด้านในก่อนนะคะ ^^”
เสียงกระทบกันของกระดิ่งโบราญและเสียงใสของแม่ค้าในตอนเช้าดังต่อเนื่องไม่ขาดสาย วันนี้ร้านขายดอกไม้มีบริการพิเศษเนื่องในโอกาสที่อาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์ของวันแห่งความรัก…
ขนมและคัพเค้กชิ้นเล็กๆถูกนำออกมาขายเคียงคู่กับดอกไม้สีหวาน คลอเคลียด้วยกลิ่นกาแฟหอมกรุ่น นั้นทำให้ผู้คนแห่แหนเข้ามาใช้บริการเยอะเป็นพิเศษ หรือบางที… อาจจะเป็นพ่อค้าพิเศษสองคนนี้ก็ได้…
“แจบอม นายช่วยขยับไปหน่อยได้ไหมเล่า…”
ยองแจกระซิบให้พอได้ยินกันสองคนเพราะเกรงใจลูกค้าที่ยืนยิ้มอยู่หน้าเคาท์เตอร์
วันนี้ยองแจไม่โดนแกล้ง… แต่โดนบังให้มาช่วยขายขนมเฉยเลย…
“แค่นี้จะเดือดร้อนทำไม”
โดนดุกลับมาตามนิสัย คนตัวเล็กมองค้อนพลางขยับหนี ก็แจบอมเป็นคนบอกให้เขาดูแลที่เคาท์เตอร์แต่ตัวเองก็เดินเบียดเข้าเบียดออกอยู่ได้ ให้เสิร์ฟขนมกาแฟก็ดีอยู่แล้ว จะไล่ให้เข้ามาเฝ้าเคาท์เตอร์ทำไมก็ไม่รู้
ความจริงแล้ว… พอยองแจเดินเสิร์ฟขนมไปมาแล้วมีตาเล็กตาน้อยจ้องหุ่นบางกันสนุกเลยละสิ แจบอมต้องคอยส่งสายตาข่มเจ้าพวกขี้หลีกันจนปวดตาเลยทีเดียว ทนไม่ไหวเลยไล่ให้ไปยืนหลบมุมอยู่เฉยๆ
ร้านขายดอกไม้ร้านนี้ค่อนข้างใหญ่พอสมควร และราคาก็ไม่ใช่ราคาปกติเหมือนร้านทั่วไป แน่นอนว่าในเมื่อมันเป็นร้านประจำของแจบอมแล้ว มันก็ดูพิเศษกว่าที่อื่นเป็นธรรมดา
คนตัวสูงเดินวุ่นพลางยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อเป็นครั้งคราว ยิ่งคนที่เข้ามานั่งร้านวันนี้ดูเยอะกว่าปกติหลายเท่าตัว ทำให้เด็กเสิร์ฟหน้าคมเหงื่อตกเอาง่ายๆ
“แจบอม ทำไมไม่ให้ยองแจมาช่วยละจ้ะ”
เจ้าของร้านถามเพราะสองคนน่าจะสบายกว่าคนเดียว แถมหน้าที่ตรงเคาท์เตอร์ให้คนแก่อย่างเขาทำเองก็ได้
ดวงตาเรียวคมปรายตาไปมองร่างเล็กที่กำลังยิ้มทักทายลูกค้าเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจออกมา
“ให้อยู่ตรงนั้นดีแล้วละครับ”
ยิ้มเก่งจังนะยองแจ… ขนาดยืนอยู่ที่เดิม ทำหน้าที่แค่คิดเงิน ลูกค้าบางคนยังยืนนานเป็นนาทีๆจนอยากจะตรงเข้าไปหิ้วคอโยนออกนอกร้านไปให้รู้แล้วรู้รอด ให้มาเสิร์ฟยิ่งไม่ต้องพูดถึง โดนหลอกจับมือยังไม่รู้ตัว
แล้วที่เดินเข้าเดินออกจนยองแจบ่นก็เพราะแบบนี้แหละ แค่เดินไปใช้สายตาข่มไอ่ลูกค้าหน้าม่อแค่นั้นเอง…
“โอกาสหน้า แวะเข้ามาใช้บริการใหม่นะครับ”
สิ้นเสียงหวานยองแจก็ฉีกยิ้มจนตาหาย พลางหันมายิ้มให้ลูกค้าคนถัดไป…
ลูกค้าตรงหน้าเคาท์เตอร์เยอะเป็นพิเศษ แต่มันก็คงเยอะพอๆกับสาวๆที่เอ่ยปากเรียกหาเด็กเสิร์ฟหน้าคมจนแทบไม่ได้หยุดเดิน แจบอมพะว้าพะวงนู้นนี่นั้นไปหมด ไหนจะต้องจำว่าต้องเสิร์ฟอะไรโต๊ะไหนแล้ว ยังต้องคอยสังเกตุการณ์ไม่น่าไว้วางใจตรงเคาท์เตอร์อีก
เหมือนตอนนี้…
“อ้ะ! จ..แจบอม!”
ยองแจสะดุ้งวาบทันทีที่จู่ๆร่างสูงก็พุ่งเข้ามาโอบเอวพลางจ้องเขม่งไปที่ลูกค้าตรงหน้า หนำซ้ำยังเอื้อมมือออกไปรับเงินค่าขนมแทนมือบาง คนตัวเล็กทำได้แค่ยืนอึ้งอยู่เฉยๆ เพราะถูกแขนแกร่งรั้งเข้าไปชิดกับตัวเองจนทำอะไรไม่ถูก
“ไม่มีเงินทอนนะครับ เชิญครับ…”
เห็นอยู่ว่าจะหลอกจับมือ เงินที่ได้รับมาพอดีกับค่าขนมเลยเอ่ยปากไล่อย่างไม่ไยดี คุณลูกค้าตรงหน้าเลยต้องจำใจขยับตัวเองไป
“อะไรของนาย…”
ยองแจเอี้ยวตัวออกจากแขนแกร่ง ก่อนจะหันไปยิ้มแห้งๆให้กับลูกค้าเป็นการขอโทษ ดันไหล่หนาคนข้างตัวให้พ้นจากรัศมีเคาท์เตอร์ ยังดีที่คนต่อไปเป็นผู้หญิง แจบอมเลยจำใจหันกลับมาทำหน้าที่ตัวเองต่อ แต่ก็ไม่วายปรายสายตาข่มเจ้าพวกหน้าม่อที่กำลังต่อแถวเรียงคน
ไม่น่าพามาเลยให้ตาย.. ถ้าไม่ติดว่าโดนไซโคจากพี่ชายตัวแสบสองคนว่าให้รีบทำคะแนนก็คงไม่พามาที่นี่ มันเป็นที่เดียวที่เขาคิดออก จะหาเรื่องพาไปเที่ยวห้างคนตัวเล็กคงไม่ยอมไปด้วยแน่ๆ บังคับมาช่วยงานที่ร้านนี้คงเป็นทางออกที่ดีที่สุด
แต่ดูเหมือนว่าจะคิดผิด อุส่าอดนอนเพื่อที่รอเวลาร้านเปิด แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ สายตาแทะโลมของใครก็ไม่รู้ที่กำลังแทะโลมนางฟ้าของเขาอยู่งั้นหรอ? ยิ่งคิดอิมแจบอมก็ยิ่งฟึดฟัด คนก็เยอะ หวงก็หวง แต่ทำได้แค่ยืนดูอยู่ห่างๆ
“สวัสดีครับ ขนมกาแฟหรือดอกไม้ดีฮะ”
เสียงหวานและรอยยิ้มสดใสของยองแจยังคงมีให้กับลูกค้าคนต่อไปไม่มีหยุด
“ดอกไม้ครับ” หนุ่มหน้าตี๋บอกพลางยิ้มกลับให้พ่อค้าหน้าสวย
“รับเป็นดอกชนิดไหนดีครับผม”
“อืม… พ่อค้าชอบดอกอะไรหรอครับ”
“หือ.. เอ่อ… ผมชอบกุหลาบน่ะครับ ”
กลีบสวยสีแดงสดซ้อนทับกันไปมา น่าหลงใหลอย่างบอกไม่ถูก
ถึงจะไม่เข้าใจว่าลูกค้าตรงหน้าจะถามทำไม แต่ก็ตอบไปตามความรู้สึก
“งั้น.. ผมเอาดอกกุหลาบแล้วกันครับ”
รอยยิ้มเล็กของหนุ่มตี๋ มันช่าง…
น่าหมั่นไส้สำหรับแจบอม…
ลูกค้าแบบนี้ ต้องเจอกับพ่อค้าอย่างแจบอมเท่านั้นแหละ
“เอาดอกกุหลาบใช่ไหม? สีอะไรดี หรือจะถามผมก่อนรึป่าวว่าชอบสีอะไร ผมชอบสีแดงนะ คุณก็คงเอาตามที่ผมชอบสินะ ”
“แจบอม! ”
จู่ๆคนตัวโตก็พุ่งเข้ามาจากไหนไม่รู้ดันยองแจให้ไปอยู่หลังตัวเองก่อนจะพูดรัวใส่ลูกค้าหน้าตี๋ไม่ยั้ง พลางใช้สายตาเร่งให้ออกจากตรงนี้เร็วๆ
“ออกไปเสิร์ฟกาแฟแทนฉัน” กดเสียงต่ำสั่งคนตัวเล็ก
“อะไร? แต่… ”
“ไปเสิร์ฟกาแฟแทนฉัน! ”
––––––––––
13.59 น.
‘ผีเข้าผีออกอะไรก็ไม่รู้ ฮึดฮัดเป็นบ้าแถมยังทำท่าจะเขมือบหัวลูกค้าอีก’
นี่คือความคิดของยองแจที่กำลังนั่งรอคนขี้โมโหอยู่หลังร้าน ร้านปิดแล้ว เพราะขายของดีเกินคาด
ป้อก~!
“โอ้ยย…” แรงกระแทกจากด้านหลังกระทบลงกับหัวเล็ก คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน หันควับไปมองต้นเหตุ
วันนี้แจบอมดูจะอารมณ์เสียเป็นพิเศษ บังคับมาก็อุส่ามาด้วยแล้ว ยังจะมาทำอารมณ์เสียใส่อีก
เลือกที่จะโต้ตอบแต่ในใจ ลุกขึ้นสาวเท้าเดินนำฉับๆ แต่คนตัวสูงกลับเอามือล้วงกระเป๋า เดินตามด้วยท่าทางสบายๆ เขายกขวดน้ำขึ้นเหนือหัวทุยๆข้างตัวแล้วปล่อยให้มันร่วงลงมาตามแรงโน้มถ่วงอีกครั้ง
ป้อก~!
“แจบอม! เจ็บนะ!”
คนตัวเล็กฉุน ออกแรงผลักไหล่หนาให้ออกห่างเมื่อรู้สึกถึงแรงกระทบที่หัวอีกครั้ง
“หมั่นไส้…”
อีกครั้งที่ยองแจขยับตัวหนี แจบอมเลยเอื้อมมือไปจับหัวให้เข้ามาชิดตัวเองจนร่างเล็กเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ
วันนี้คนขี้แกล้งทำตัวแปลกๆ จับนู้นจับนี่ไปเรื่อยๆ แถมยังชอบเข้ามายุ่งเหมือนหวง…
“อะ..อะไรของนายย”
คิดแล้วก็หน้าแดงขึ้นมาดื้อๆพลางพยายามลบความคิดตัวเอง คิดบ้าอะไรยองแจ…
มือเรียวดันคนข้างตัวให้ห่างออก ไม่รู้จะทำยังไง ทำตัวไม่ถูก ได้แต่ก้มหน้ามองพื้นมองดิน
“อะไร รังเกียจฉันมากรึไง”
ไม่พูดเปล่า คว้าร่างบางมาใกล้จนยืนซ้อนกัน แขนแกร่งโอบเอวยองแจเอาไว้หลวมๆ มันยิ่งทำให้คนตัวเล็กทำหน้าตื่นมากกว่าเดิม
“นาย.. รุมร่ามอะไรของนายเนี่ย…”
โวยวายแก้เขิน
ใช่… เขิน
จู่ๆก็เขิน…
ถึงแม้ว่าจะพยายามเบี่ยงตัวออกจากท่อนแขนแกร่งเท่าไรก็ทำไม่ได้ กระทุ้งสีข้างไปแรงๆหลายทีก็ไม่เป็นผล เลยจำเป็นต้องเดินชิดตัวแจบอมอยู่แบบนั้น จนอยากให้เวลาเดินผ่านไปเร็วๆ ไม่อย่างงั้นขอให้ถึงบ้านในเวลาอีกสองวิเลยได้ไหม วาร์ปกลับบ้านได้ยิ่งดี…
“วันนี้นายทำให้ฉัน.. หวง”
เสียงทุ้มตอบกลับ คำสุดท้ายเบาชนิดที่แม้คำพูดเองยังไม่ค่อยจะได้ยินเสียงตัวเอง
“อะไรนะ?”
แน่นอนที่คนตัวเล็กกว่าจะไม่ได้ยิน รู้แค่ว่าวันนี้เขาคงไปทำอะไรให้แจบอมไม่พอใจแน่ๆ
“นายทำให้ฉันโมโห”
รั้งเอวบางเข้ามาชิดมากกว่าเดิม ยองแจเลยจำเป็นต้องคว้าข้อมือหนาอีกข้างเอาไว้เพราะแรงดึงทำให้เซจนเกือบจะล้ม จนตอนนี้เหมือนว่าเขากำลังโดนกอดจากข้างหลัง
“ฉันทำอะไรเล่า”
ความรู้สึกที่อีกคนเข้ามาใกล้เกินไปมันทำให้เขาท้องไส้ปั่นป่วนจนอยากวิ่งหนี
วันนี้นายเป็นอะไรของนาย แจบอม…
สายตาคมก้มมองยองแจที่ยืนซ้อนตัวเองอยู่ ปากหยักยกยิ้มขึ้นมา แบบนี้เจ้าตัวเล็กก็ไม่เห็นว่าเขายิ้มอยู่สินะ.. สมองลืมเรื่องน่าโมโหในร้านดอกไม้ไปชั่วคราว ตอนนี้มีแค่คำแนะนำของสองพี่ชายเรื่องทำคะแนน… ต้องรีบทำคะแนนตั้งแต่วันนี้ มินจุนและแทคยอนจู่ๆก็เข้ามาเขียนตารางการจีบยองแจให้ซะอย่างงั้น
‘บอกไปเลยว่ามึงรู้สึกยังไง ยังไม่ต้องบอกว่าชอบก็ได้’
‘แบบว่า… หวงนะ อยากอยู่ใกล้ๆนะ อะไรทำนองนี้’
บอกความรู้สึกงั้นหรอ.. จะบอกยังไงละวะ…
“แจบอม ปล่อยนะ”
เสียงโวยวายเล็กๆปลุกแจบอมหลุดออกจากภวังค์ เพราะตอนนี้เหมือนจะมีปัญหาเข้าซะแล้ว ยองแจก้มลงไปยุกยิกๆกับอะไรบางอย่างข้างล่าง
“รองเท้าขาดเลย…”
มือบางถือรองเท้าขึ้นมามองนิ่งๆ เจ้าตัวทำหน้าเศร้า ทำท่าจะร้องไห้อีกแล้ว สงสัยที่ยืนซ้อนกันเมื่อกี้คงจะไปเหยียบรองเท้าคนตัวเล็กเข้าให้ พอพยายามเดินหนีก็เลยขาดเพราะวันนี้ใส่รองเท้าเตะมา
ความจริงแล้ว เมื่อตอนเช้าแจบอมบอกให้ยองแจใส่รองเท้าเตะเองเพราะรีบออกมา
“เดินยังไงของนาย”
ออกปากดุถึงแม้ว่ายองแจจะไม่ผิดก็เถอะ แต่มันติดเป็นนิสัยไปแล้ว
“เมื่อไรจะเลิกแกล้งกันซักทีแจบอม!”
อยู่ๆร่างบางก็ลุกขึ้นมาตะโกนใส่ จะไม่ให้โมโหก็คงแปลกเกินไป
“ฉันไม่ได้แกล้งนายซักหน่อย”
“ก็เห็นๆอยู่!”
ยองแจหน้าบึ้งพลางถอดรองเท้าอีกข้างออกขึ้นมาถือเอาไว้ นึกว่าวันนี้จะไม่โดนแกล้ง แต่พอโดนมันก็อารมณ์เสีย
“ยองแจ.. มานี่ ”
แจบอมคว้าข้อมือบางเข้ามาก่อนที่เจ้าตัวจะงอนแล้วเดินหนีไป เขาไม่ได้ตั้งใจแกล้งซะหน่อย แต่ที่คิดว่าแกล้งก็คงเพราะโดนแกล้งทุกวัน คนตัวเล็กลอยขึ้นจากพื้นเล็กน้อยเพราะท่อนแขนของอีกคน ยกเอวบางขึ้นจนตัวลอยก่อนจะปล่อยให้เท้าเล็กๆวางทับลงไปบนเท้าตัวเอง
“ท..ทำอะไรน่ะ”
ยองแจยืนอยู่บนเท้าแจบอม สีหน้าดูไม่ค่อยดีนักไม่ใช่เพราะกลัว แต่ตกใจ… มือหนาโอบเอวบางไว้หลวมๆเพื่อไม่ให้ตกลงไป ส่วนคนตัวเล็กก็ได้แต่กำชายเสื้อคนข้างหลังแน่น อารมณ์โกรธค่อยๆลดลงเพราะการการะทำแปลกๆของอีกคน ไหนจะแผงอกแน่นที่อิงอยู่ตอนนี้อีก
“จะเดินเท้าเปล่าหรอ ”
“แบบนี้มันเดินได้ที่ไหน.. ”
ปากหยักยกยิ้มขึ้นโดยไม่รู้ตัวเพราะเห็นหูของคนตัวเล็กแดงขึ้นมาเอาดื้อๆ เลยกระชับเอวสวยเข้ามาหาตัวตามอำเภอใจก่อนจะค่อยๆออกแรงก้าวขาออกทั้งๆที่มียองแจยืนอยู่
“เหวอ.. แจบอมมม.. อย่าแกล้งนะ!”
มือเรียวกำชายเสื้อคนตัวสูงแน่นกว่าเดิม เพราะเดินไม่ถนัดตัวติดกันอยู่แบบนี้… บ้าไปแล้ว
“ทำไมชอบคิดว่าฉันแกล้งนักนะ” เสียงทุ้มกระซิบถาม
“ก็ทำแบบนี้ไม่ใช่แกล้งรึไงกัน เดินเองได้” ยองแจตอบเสียงอ้อมแอ้ม ลมหายใจร้อนรดต้นคอ ทำสติหายไปหมดแล้ว ไม่ต่างอะไรกับคนขี้แกล้ง ที่พอได้กลิ่นหอมๆจากร่างเล็กก็แทบจะสารภาพรักไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่เพราะนิสัยที่ไม่เคยพูดดีๆกับคนตรงหน้าซักครั้ง เลยทำได้แค่คิดหาทางว่าจะพูดความรู้สึกออกไปยังไง
“วันนี้ไม่ได้แกล้ง… ”
น้ำเสียงที่ฟังดูแปลกออกไปจากทุกวันทำให้ยองแจนิ่ง…
“…. ”
“…ฉัน ”
“….. ”
ทำไมหัวใจแจบอมเต้นเร็ว…
ของยองแจเองก็เร็ว…
“ไม่รู้จะพูดยังไง… ฉันแค่… ”
“……. ”
มันเร็วขึ้นเรื่อยๆเลย เสียงหัวใจของคนขี้แกล้งที่แนบอยู่กับแผ่นหลังเล็กมันชัดเจน จน…
“ฉันว่าฉันใจเต้นแรงเกินไปแล้ว… ”
“…….”
พื้น.. ตอนนี้ที่คนตัวเล็กในอ้อมแขนแจบอมเห็นคือพื้น… อยู่ๆก็ไม่กล้าหันไปมองอะไรทั้งนั้น วันนี้มาไม้ไหนกัน… เสียงหัวใจที่ดังอยู่ต้องการจะบอกอะไรกันแน่…
“นายไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยหรอ… ”
“…หัวใจนาย.. เต้นเร็วมากเลย… ”
บรรยากาศเงียบๆหลังร้านดอกไม้ยิ่งทำให้ทุกอย่างชัดเจน แจบอมถอนหายใจเฮือกใหญ่ พยายามจะทำในสิ่งที่เขาไม่เคยทำมาตลอด แต่มันก็ดูเหมือนว่ายากเหลือเกิน แค่พูดความรู้สึกทำไมมันยากแบบนี้วะ…
“นายทำหัวใจฉันเต้นเร็ว ยองแจ… ”
“….. ”
น้ำเสียงทุ้มฟังดูไม่มีความอ่อนหวานหรือโรแมนติก เป็นน้ำเสียงแบบเดียวกับที่โดนแกล้งเหมือนปกติ
“นายทำฉันจะบ้าตายอยู่แล้ว… ”
“….. ”
แต่ทำไมวันนี้พอได้ฟังมันไม่ได้รู้สึกแบบเดิม…
ต่างคนต่างเงียบ กลิ่นหอมไอดินกับกลิ่นของดอกไม้รอบตัวเหมือนจะเป็นใจ แก้มเนียนค่อยๆแดงขึ้นเรื่อยๆ ภายในใจสับสนในคำพูดที่แจบอมให้มา รวมถึงก้อนเนื้อข้างซ้ายของตัวเองที่เริ่มจะเต้นเร็วขึ้นตามคนตัวสูง อ้อมกอดอุ่นๆแบบนี้… ไม่เคยได้รับเลย จู่ๆมาทำแบบนี้เล่นเอาซะทำตัวไม่ถูก
“นายเลิกแกล้งฉันเถอะ ”
เขาไม่อยากคิดไปเองคนเดียว
“ยังคิดว่าฉันแกล้งอยู่อีกหรอ… ”
“…. ”
“นายไม่ได้ยินเสียงหัวใจฉันที่เต้นอยู่เลยรึไง… ”
“….. ”
จากโอบหลวมๆกลายมาเป็นโอบกอดเอาไว้ทั้งตัว แจบอมไม่ถนัดพูด เลยเลือกที่จะรั้งคนตัวเล็กให้ใกล้เข้ามาอีก… ให้ได้ยินเสียงหัวใจ…
ก่อนจะไล้สันจมูกเข้ากับแก้มเนียนสีฝาด
“จ..แจบอม…”
“ฉันไม่ถนัดพูดนะยองแจ… ”
ปากร้อนตามเข้าไปแนบลงกับใบหน้าเนียนที่พยายามจะขยับหนี ก่อนจะไล้ลงมาตามแนวซอกคอหอม…. กลิ่นคุ้นเคยที่เขาโหยหาถูกสูดเข้าไปจนเต็มปอดก่อนจะแนบริมฝีปากไว้กับซอกคอเล็กอยู่อย่างนั้น
“แจบอม.. ฉัน.. ”
“หืม… ”
ทำไมจู่ๆไอ่คนโหดถึงกลายเป็นแบบนี้ได้นะ… กลายเป็นคนขี้อ้อนได้ไง…
“ปล่อยเถอะ.. ทำตัวไม่ถูกแล้ว.. ”
––––––––––
“เป็นไงบ้างว้ะ! ”
“บอกยองแจไปรึยัง! ”
ทันทีที่แจบอมก้าวเท้าเข้าบ้าน สองพี่ชายจอมวางแผนก็พากันวิ่งเข้ามาถามความเป็นไปของน้องชาย
“อะไรของพี่สองคนเนี่ย? ”
คนตัวโตยังคงตีหน้าซื่อใส่พี่ชายสองคนตรงหน้า หน้าตาตื่นๆของฮยองตัวแสบทำเอาแจบอมยิ้มออกมาเล็กน้อย
“โถ่! อย่ามาทำไม่รู้เรื่อง! เรื่องยองแจที่บอกไป เป็นยังไง!? ”
ดวงตาเรียวยาวจ้องมองพี่ชายทั้งคู่ด้วยสายตานิ่งๆ หรี่ตามองช้าๆ หน้าตาของทั้งสองคนบ่งบอกว่าอยากรู้อยากเห็นเต็มที แจบอมเลยตัดสินใจขยับปากตอบ
“อืม.. เอาเป็นว่าไม่ใช่ ‘ปัญหา’ อีกต่อไปแล้วกัน… ”
TBC.
––––––––––––––––––
เรื่องเดินเร็วมากกกกก กลับมาอ่านแล้วมันก็แปลกๆเนอะ 5555 อย่างที่บอกเขียนสองปีที่แล้ว
อย่างว่าละ พอกลับมาอ่านงานเขียนเก่าๆของตัวเองก็รู้สึกว่าแบบ ทำไมเขียนอะไรลงไป
ที่จริงอยากรีไรท์ก่อนนะ แต่ก็ไม่ว่างซักที เอามาให้อ่านเผื่อรีดจะลืมกันไปซักก่อน 555
เราเขียน demons อยู่นะ แต่ทำตัวจบด้วยนี่สิ อีก 4 เดือนจะเรียนจบแล้ว มันก็ช้าเป็นธรรมดา
ถึงได้เอาเรื่องนี้มาให้อ่านแบบไม่ได้รีไรท์ก่อน กลัวจะรอ demons นาน เพราะงานเยอะมว๊ากกกกก 55555
#got2jae นะคะ
? cactus
ความคิดเห็น