ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    DEMONS - 2jae marknior

    ลำดับตอนที่ #6 : demons 05

    • อัปเดตล่าสุด 17 ธ.ค. 58





    part 5












     

     

     

    ‘สะอาดแล้วมั้งเนี่ย..’

    แจบอมยืนมองร่างเล็กส่งเสียงพึมพัมอยู่คนเดียวผ่านกรอบประตูที่เปิดทิ้งไว้ ยองแจกำลังบิดน้ำออกให้พอหมาดก่อนจะสบัดๆเสื้อเจ้าปัญหาแขวนตากไว้บริเวณระเบียง หลังจากที่เขาประกาศกร้าวว่าจะนอนที่นี่ก็หุนหันออกจากห้องไปโดยทิ้งเสียงเข้มๆเอาไว้ว่า 'ฉันไม่ได้อยากนอนกับนายหรอกนะถ้าไม่จำเป็น..'

     

    ไอ่ความจำเป็นที่ว่านั้นเขาก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ในเมื่อจู่ๆรูมเมทมาร์คดันจะนอนที่นี่กระทันหันเพราะเจ้าตัวดันลืมกุญแจห้องไว้ในห้อง กลายเป็นเขาที่ต้องโดนหางเลขไปด้วย หนำซ้ำยังโดนไล่ให้มานอนกับยองแจอีก มันไม่ใช่เรื่องดีเลย

     

    และตอนนี้เขาก็กำลังคิดว่าควรจะหาอะไรทำฆ่าเวลารอไอ่เด็กนั้นหลับ.. เอาจริงๆแล้วเขาก็ไม่อยากกวนประสาทหมอนั้นตลอดเวลาหรอก มันคงจะดีกว่านี้ถ้าแจบอมพกมือถือออกมาด้วยเขาอาจจะโทรหาใครซักคนให้มารับ หรือแค่จำเบอร์เพื่อนคนอื่นได้ก็คงดี แต่มันติดอยู่ที่แจบอมไม่ใช่คนใส่ใจรายละเอียดอะไรขนาดนั้น 

     

    สุดท้ายก็เลยตัดสินใจลงมาเดินเล่นอยู่ข้างล่างฆ่าเวลา แจบอมตั้งใจว่าถ้าไฟห้องปิดลงเมื่อไร ตอนนั้นแหละเขาถึงจะขึ้นไปนอน 

     

    มือหนาหยิบกล่องกระดาษขนาดเหมาะมือออกมาก่อนจะดึงเอาม้วนสีขาวเขม่าขึ้นมาคาบไว้ในปาก เปิดไฟแช็กคู่ใจสีเงินวับด้วยความชำนาญ

     

    ป้อก..

     

    ทว่ากลับไม่มีเปลวไฟออกมาอย่างที่ควรจะเป็น

     

    “อะไรวะ อย่าบอกว่าหมด..”

     

    แจบอมลองปิดๆเปิดๆอยู่อย่างนั้นสองสามรอบแต่ผลก็เหมือนเดิม และนั้นก็ทำให้ใบหน้าคมต้องหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาร้านสะดวกซื้อ โชคดีที่มันอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล 

     

    ร่างสูงสาวเท้าข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม ร้านสะดวกซื้อชื่อดังพร้อมกับลูกแมวอีกหนึ่งตัว..

    มันคงเป็นปกติที่จะมีสัตว์น้อยตัวเล็กอาศัยอยู่หน้าร้านเพื่ออาศัยเศษอาหารจากคนที่ผ่านไปมา ร่างสูงเดินผ่านสิ่งมีชีวิตน่ารักนั้นเข้าไปในร้าน

     

    “ไฟแช็กอันหนึ่งครับ”

    ไม่นานแจบอมก็ได้ตัวจุดชนวดอัดควันเข้าปอดสมใจอยากพร้อมกับเบียร์หนึ่งขวด เจ้าตัวเดินออกมานั่งเล่นอยู่บริเวณสนามเด็กเล่นเล็กๆด้านข้าง 

     

    “เหมี้ยวว~”

    แต่แล้วจู่ๆก็มีสัมผัสนิ่มๆมาคอลเคลียอยู่แถวๆข้อเท้า แจบอมรี่ตามองอย่างสนใจ ลูกแมวหน้าร้านเมื่อกี้นี่.. เจ้าตัวขนกำลังออดอ้อนอย่างน่ารัก ขมนิ่มสีขาวแซมเทาถูไถไปมาจนอีกคนหลุดยิ้ม 

     

    “อะไร หิวหรอไง”

    แจบอมก้มลงไปลูบหัวกลมนั้นเบาๆ แต่ด้วยความที่ควันจากปลายบุหรี่ไม่ค่อยถูกจมูกของลูกแมวเท่าไร เจ้าตัวเล็กย่นคอหนีพลางเดินไปนั่งมองแจบอมอยู่ห่างๆ แต่ก็ไม่วายส่งสายตาให้นิ่งๆราวกับกำลังเรียกร้องความสนใจ 

     

    “เหมือนไอ่ตุ้ดเลยนะเธอน่ะ..”

    เห็นแบบนั้นเลยพาลคิดไปถึงคนบางคน เวลาได้กลิ่นบุหรี่จากเขาทีไรปั้นหน้ายุ่งทุกที แจบอมทิ้งบุหรี่ทิ้งลงพื้นก่อนจะใช้เท้าขยี้เปลวไฟอ่อนๆให้ดับลง 

     

    คนตัวโตกระดิกนิ้วให้ตัวเล็กเข้ามาหา ลูกแมวน้อยเอียงคอมองเล็กน้อยก่อนจะยอมเดินเข้ามาใกล้ พอไม่ได้กลิ่นแปลกๆจึงเดินเข้าไปคลอเคลียกับฝ่ามือใหญ่อย่างว่าง่าย ฟันซี่เล็กขบกัดเบาๆตามสัญชาตญาณของมัน 

     

    มันเป็นคงดูไม่ปกติเมื่อคนอย่างอิมแจบอมจะชอบเล่นกับสัตว์เลี้ยงน่ารักอย่างเจ้าแมวเหมียว เพื่อนเขาเคยบอกว่าคนแบบเขาเหมาะกับหมาตัวใหญ่ๆหรือไม่ก็ตัวเงินตัวทองไปเลยดีกว่าจะมาขลุกอยู่กับสิ่งมีชีวิตน่ารัก

     

    แต่ทำไงได้มันเป็นความชอบส่วนตัวนี่.. มันน่ารักดีออก 

    คนดาร์กๆแบบแจบอม ส่วนใหญ่มักแพ้ทางอะไรน่ารักๆอยู่แล้ว 

     

    ร่างสูงทรุดตัวลงนั่งกับพื้นเพื่อที่จะได้หยอกล้อกับตัวเล็กได้สะดวก พลางยกขวดเบียร์ขึ้นกระดกเป็นระยะๆแค่นี้ก็เป็นการฆ่าเวลาชั้นเยี่ยมแล้ว.. 

     

     

     

    ________________

     

     

     

     

    “ทำไมไล่เพื่อนไปแบบนั้นเล่า”

    “ไม่ได้ไล่ซะหน่อย..”

     

    มาร์คตอบเสียงยานคาง ร่างโปร่งนอนแผ่อยู่บนเตียงของจินยองเพราะอาหารที่อัดแน่นอยู่เต็มกระเพาะทำเอาเขาแทบไม่อยากลุกไปไหน หน้าที่การจัดเก็บข้าวของที่มาร์คหอบหิ้วมาด้วยจึงเป็นหน้าที่ของเจ้าของห้องแทน 

     

    เสื้อผ้า กระเป๋า ของกิน เกมส์ psp และอีกมากมาย จะเอามาเยอะแยะทำไมไม่รู้.. 

     

    “เดี๋ยวยองแจต้องมาบ่นจนหูชาแน่ชื่อสิ”

    “บ่นให้นายฟังนี่ ไม่ได้บ่นให้ฉันฟังซะหน่อย”

     

    หน่อย.. เดี๋ยวนี้กล้ากวนเบื้องล่างด้วยหรอ จินยองละสายตาจากกระเป๋านักเรียนของมาร์คไปหาเจ้าตัวพลางแกล้งเบะปากใส่ คนตัวโตเลยได้แต่ยิ้นหวานกลับให้ไป 

     

    ไม่ว่าจินยองจะทำอะไร มันดูน่ารักไปหมดทั้งนั้นแหละ..

     

    “นายไม่กลัวมันยำน้องฉันเละคาห้องรึไง”

    “หื้มม.. ใช้คำน่ากลัวไปไหม”

     

    “ก็จริงนี่ ไอ่แจบอมยิ่งอารมณ์ขึ้นๆลงๆอยู่ด้วย”

    “เออน่า มันไม่ทำไรหรอก”

    คนตัวโตพูดพลางหยิบรีโมทขึ้นเปิดทีวี จริงๆมันเป็นความคิดของมาร์คคนเดียวน่ะนะว่าคงไม่เกิดเหตุการณ์นองเลือดขึ้น ถึงแจบอมจะไม่ชอบยองแจ แต่มันก็มีความเป็นคนอยู่หรอกน่า.. 

     

    “มาร์คไปอาบน้ำดิ มันดึกแล้วนะ”

    “อืมม.. ดูนี่แปปหนึ่ง..”

     

    จินยองย้ายสายตาไปมองหน้าจอทีวีที่มาร์คกำลังให้ความสนใจพลางส่ายหัวน้อยๆ มานอนที่ห้องทีไรทำตัวขี้เกียจทุกทีให้ตายสิ

     

    “มาร์ค..”

     

    “อือ..”

     

    และเช่นเคย ร่างสูงตอบกลับมาแค่เสียงงึมงัมในลำคอ ดวงตาคมจ้องสารคดีฟรีรันนิ่งด้วยความสนใจ แน่นอนว่ากีฬาผาดโผนทุกชนิดสามารถดึงดูดความสนใจคนอย่างมาร์คต้วนได้อย่างดี 

     

    แต่ในสายตาจินยองแล้ว คนตรงหน้าเหมือนเด็กอนุบาลอมมือที่กำลังดูการ์ตูนอย่างอุลตร้าแมนอะไรทำนองๆนั้นมากกว่า และแน่นอนว่าคนเป็นแม่คงไม่พ้นเขา 

     

    ร่างเล็กลุกขึ้นไปหาเด็กชายต้วนพลางนั่งลงข้างเตียง กอดอกใช้สายตาปรายมองเป็นเชิงบอกให้รู้ว่าเขากำลังไม่พอใจ นั่งจ้องอยู่นานแต่มาร์คก็ไม่มีท่าทีว่าจะรู้ตัว จินยองเลยตัดสินใจใช้มาตรการขั้นสุดท้าย.. 

     

    มือบางขยับตัวเข้าไปถอดถุงเท้าให้ร่างสูงอย่างทุลักทุเล ถ้าเป็นปกติแล้วมาร์คจะต้องลุกขึ้นแล้วจัดการตัวเองเพราะเขาไม่อยากให้จินยองทำ แต่คราวนี้เจ้าตัวกลับนิ่ง แถมยังอมยิ้มราวกับว่ามีเรื่องอะไรน่าดีใจอย่างนั้นแหละ.. 

     

    เห็นแบบนั้นจินยองเลยถอดถุงเท้าทั้งสองข้างออกจนเสร็จก่อนจะออกแรงลากท่อนขาหนักๆของเจ้าตัวแรงๆ

     

    “ลุกสิไอ่ต้วนนน ลุกกก”

    แน่นอนว่ามาร์คทำแค่ยิ้มกริ่มปล่อยให้จินยองพยายามฉุดกระชากเขาอยู่อย่างนั้น สองมือไขว้ไว้เหนือหัวนอนดูทีวีอย่างสบายใจ 

     

    ร่างสูงเลื่อนออกจากตำแหน่งเดิมเรื่อยๆตามแรงดึง หัวเราะชอบใจที่จินยองยังคงไม่ละความพยายามถึงแม้มันจะขยับได้ทีละนิดก็เถอะ 

     

    “นี่ ไม่งั้นนอนข้างนอกเลยนะ!”

    สิ้นคำประกาศสิทธิ์ มาร์คต้วนก็เด้งตัวขึ้นนั่งแทบจะทันที

     

    ขู่แบบนี้ไม่เสี่ยงครับ.. 

     

    “โห ใจร้ายวะ”

    “ก็ไปอาบน้ำดิ้ เร็วๆ”

     

    “เออๆ หู้วว”

     

    คนตัวโตทำปากยื่นจนจินยองอดหัวเราะไม่ได้ ไม่วายต้องคอยดันหลังกว้างให้รีบเดินเข้าห้องน้ำไปเพราะท่าทีอิดออดของเจ้าตัว 

     

     

    .

    .

    .

     

     

    ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงมาร์คก็ออกจากห้องน้ำมาพร้อมกับกลิ่นตัวหอมฉุ่ย จินยองที่นอนเปิดหนังสืออยู่บนเตียงเลยกวักมือเรียกยกใหญ่

     

    “มาร์คมาดูนี่ให้หน่อยดิ”

    “หือ.. ไรอะ?”

     

    “เนี่ย ไม่เข้าใจ”

    มือเรียวจิ้มๆไปบนตัวหนังสือภาษาอังกฤษทันทีที่ร่างสูงล้มตัวนอนคว่ำลงข้างๆ มาร์คจ้องตามที่คนตัวเล็กบอกก็จะร้องอ๋อออกมา

     

    ภาษาอังกฤษสินะ  

     

    ‘ i’m under your …… ’

     

    “เติมคำ?”

    “อื้มม ใครจะไปรู้ใช่ไหมว่าต้องเติมอะไร ครูแม่งบ้าบอชิบ”

     

    “แบบฝึกคำศัพท์ใช่ไหมเนี่ย เหมือนเด็กป.2ทำการบ้านเลยวะ ฮ่าๆ”

     

    ป้าปป!

     

    “โอ้ยยย”

    เสียงทุ้มร้องโอดโอยออกมาทันที บังอาจมาหัวเราะใส่ปาร์คจินยองงั้นหรอ เจอฟาดเข้าให้

     

    “ใครจะไปเก่งอังกฤษเหมือนนายกันละ เหอะ!”

    จินยองว่าพลางขยับสมุดหนีจนมาร์คต้องตามไปคว้ามันกลับมา กลั้นหัวเราะแล้วทำท่าจริงจัง

     

    “โอเคๆ อืมม.. คำว่า spell รึเปล่า”

    “spell?”

     

    “อื้มม”

    “แปลว่าอะไรอะ”

     

    “ก็อารมณ์เวทมนต์ มนต์สะกด.. อะไรทำนองนั้น i’m under your spell ก็แปลว่า ฉันตกอยู่ใต้อำนาจมนต์สะกดเธอซะแล้ว ประมานนั้น”

    “อ๋อออ..”

     

    “เหมือนที่นายทำให้ฉันเป็นอยู่ตอนนี้ไง..”

    “…….”

     

    มือบางที่กำลังจะเขียนคำตอบตามที่มาร์คพูดชะงักไป จินยองหันไปแกล้งเบะปากให้กับถ้อยคำเลี่ยนๆ และใบหน้าหวานกำลังขึ้นสีอย่างเห็นได้ชัด.. ก่อนจะขยุกขยิกเขียนคำตอบ

     

    ท่าทางน่ารักแบบนั้นทำเอามาร์คยิ้มตาแทบปิด จินยองไม่ค่อยแสดงออกว่า รัก ชอบหรืออะไรมากเท่าไร เป็นคนเก็บความรู้สึกเก่ง ซึ่งต่างกับมาร์คโดยสิ้นเชิง 

     

    อย่างน้อยจินยองเองก็ยังเขินเขาอยู่.. 

    น่ารักชะมัด.. 

     

    “นายจะไม่ให้ฉันมารับจริงๆหรอ..”

    “..เราพูดกันไปแล้วนะ”

    เสียงหวานตอบกลับเรียบๆเหมือนประโยคธรรมดา ร่างสูงพลิกตัวนอนหงายขยับไปจ้องท่าทางตั้งใจของจินยองนิ่งๆ เขายังอยากมารับไปส่งคนของเขาอยู่ดี..

     

    “ให้ฉันมารับเถอะนะ”

    “ไม่ นายต้องตื่นเช้ากว่าเดิมนะ”

     

    “แล้วไง ฉันตื่นเช้าอยู่แล้วนิ”

    “แล้วนายจะตื่นตื่นเข้ากว่านี้อีกรึไง” 

    ว่าแล้วก็เคาะปากกาลงบนสันจมูกสวยเบาๆ มาร์คยู่จมูกเล็กน้อยพลางออกโรงตื้อต่อ 

     

    “มันก็ไม่ยากเท่าไรหรอกน่า”

    “แล้วยองแจละ น้องมันไปโรงเรียนกับฉันนะ”

     

    “ก็ไปด้วยกันก็ได้นี่”

    “..ฮึ ไม่เอาอะ”

     

    “น่ะ.. นายมีเหตุผลอื่น..”

    “อะไรเล่า ก็จะทำให้มันยุ่งยากทำไมละ”

    เสียงหวานว่าพลางปิดสมุดลุกขึ้นออกจากเตียงเพื่อเก็บของเข้ากระเป๋า คนตัวโตมองตามแผ่นหลังเล็กไปเรื่อยๆไม่ว่าจินยองจะเก็บของ จัดโต๊ะ ปิดไฟ หรือหันมามองหน้าเขา.. มาร์คได้แต่ถอนหายใจเบาๆ ในหัวมีแต่คำว่า ทำไม ทำไม เต็มไปหมด เขาไม่เคยเข้าใจจินยองเลย 

     

    “คิดมากหัวล้านนะจะบอก..”

    ร่างเล็กพูดดักก่อนจะทรุดตัวนั่งขัดสมาธิลงบนเตียง คนตัวโตขยับขึ้นมาหนุนตักอย่างรู้งาน จ้องมองใบหน้าหวานนิ่ง

     

    “จะไม่ให้ฉันคิดมากได้ไง..”

    “ก็แค่หยุดคิด มันยากตรงไหน”

     

    “ไม่อยากไปโรงเรียนกับฉันหรอ..”

    “ก็ไม่ใช่แบบนั้น..”

     

    “รำคาญฉัน?”

    “ไม่ใช่ซะหน่อย”

     

    “เบื่อฉันแล้ว..”

    “ไม่ใช่”

     

    “ไม่รักฉันแล้ว..?”

     

    “..มาร์ค”

    แววตาสดใสของจินยองเปลี่ยนเป็นสายตาจริงจังทันที ต่างจากคนถามที่ยังคงจ้องหน้าเขาเหมือนว่าประโยคนั้นคือประโยคบอกเล่าปกติ 

     

    “..ฉันก็ถามไปงั้นแหละ เผื่อว่าวันไหน.. คำตอบมันอาจไม่เหมือนเดิม..”

     

    ถ้อยคำตัดเพ้อแบบนั้นทำให้จินยองก้มลงไปแตะริมฝีปากลงบนปากอิ่มเบาๆ ก่อนจะขยับตัวให้มาร์คลุกออกเล็กน้อยแล้วล้มตัวลงนอน สำหรับเขาแล้วคำตอบมันเหมือนเดิมตลอด เว้นซะแต่อีกคนจะไม่เชื่อว่ามันจะเป็นอย่างนั้น..

    ที่เขาทำได้ตอนนี้คือเงียบและไม่ชวนทะเลาะเท่านั้นแหละ.. 

     

    เสียงขยับตัวของร่างสูงดังขึ้นพร้อมกับสัมผัสอุ่นๆทาบทันเข้ามาจากด้านหลัง 

     

    “ขอโทษ..”

    “……”

    คำขอโทษกระซิบชิดใบหู ลมหายใจร้อนเป่ารดต้นคอเรียว คำขอโทษที่เขาจำไม่ได้แล้วว่าได้เป็นครั้งที่เท่าไร ไม่ใช่ว่ามาร์คใช้คำคำนี้มาปัดความรับผิดชอบตัวเอง แต่..มาร์คใช้เพื่อบอกว่าเขาพร้อมที่จะยอมอีกคนเสมอ

     

    ไม่ว่าเขาจะรู้สึกแย่แค่ไหนก็ตาม.. 

     

    “อือ..”

     

    แต่ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนที่ความอดทนนั้นจะหมดลงซักวัน.. 

     

     

    ______________________

     

     

     

     

    “มีชื่อรึยังฮึ? แม่แกอยู่ไหน” 

    “…..”

     

    “ไม่มีแม่รึไงหื้ม พ่อละแกมีพ่อไหม”

    “เหมี้ยว~”

     

    ร่างสูงหัวเราะในลำคอเบาๆเพราะลูกแมวเอาแต่เลียไม้เลียมือเขาอยู่อย่างนั้น แต่ตัวเล็กแค่นี้น่าจะอยู่กับแม่มากกว่าการที่จะมานอนข้างถนนตัวเดียว 

     

    “ชื่อโนราไหม..”

    “เหมี้ยวว~”

     

    เสียงตอบรับเล็กๆสร้างความพอใจให้แจบอมเป็นอย่างมาก เขาใช้เวลาทั้งหมดให้ผ่านไปกับการนั่งเล่นข้างเจ้าตัวเล็กพร้อมเบียร์อีกหนึ่ง-สองขวดที่เขาเดินไปซื้อเพิ่มมา 

     

    เวลานี้เป็นเวลาราวๆเกือบตีหนึ่ง คิดว่าไอ่ตุ้ดนั้นคงหลับไปแล้ว 

     

    ขึ้นไปนอนได้ละมั้ง.. 

     

    .

    .

    .

     

     

    แจบอมผลักประตูที่ถูกแง้มเอาไว้เบาๆ มือข้างหนึ่งหอบหิ้วโนราไว้อีกข้างถือขวดเบียร์ไว้ เอาจริงๆแจบอมเริ่มมึนๆจากการโซโลเบียร์คนเดียวไปสามขวดบ้างแล้ว ตอนนี้เขาต้องการหาอะไรก็ได้มารองร่างกายที่อยากจะพักผ่อนเต็มที ปัญหาคือไอ่ลูกแมวนี่ละ.. 

     

    เขาเองก็ไม่ได้อยากใจอ่อนหยิบติดมือมาด้วยหรอกนะ.. แต่โนราไม่ยอมห่างจากแจบอมเลยต่างหาก.. 

     

    “เห้ยย!”

    ร่างสูงหันควับไปตามเสียงโวยวายนั้น ยองแจกำลังจ้องหน้าเขา มือเรียวชี้มาที่โนราด้วยท่าทางอึ้งๆ

     

    ยังไม่หลับอีก.. 

    คนยิ่งๆมึนๆคงไม่มาชวนทะเลาะหรอกนะ 

     

    “จะตะโกนทำไม”

    ร่างสูงพูดเสียงเรียบพลางวางตัวเล็กในมือลง

     

    “นี่ไปตกถังเบียร์มารึไงหะ..”

    ยองแจพ่นลมหายใจพรือพลางย่นจมูกหนีจากกลิ่นบุหรี่ แถมมีกลิ่นเบียร์โชยออกมาอีกต่างหาก ที่สำคัญ! ไอ่แมวนั้นมาได้ไง!!

     

    “…อะไร เป็นห่วงฉันหรอ?”

     

    “ไม่ใช่ซะหน่อย! ถ้านายอ้วกในห้องฉันทำไงเล่า!”

     

    “ฉันไม่ได้อ่อนหัดเหมือนนายหรอกนะ จะไปไหนก็ไป..”

    “ก็ไม่ได้อยากอยู่นักหรอก แต่นี่มันห้องฉัน! ถ้าจะกินแบบนี้ออกไปข้างนอกเลยนะ! แล้วก็เอาแมวนั้นออกไปด้วย”

     

    ยองแจโวยวายลั่นเพราะขวดเบียร์ในมือหนาก่อนจะถอยตัวเดินหนีลูกแมวที่เดินเข้ามา ยองแจน่ะ.. ไม่ชอบแมวที่สุดเลย จริงๆเขาไม่ได้ไม่ชอบถึงขั้นเกลียดหรอกนะ แต่เท้ากับลิ้นมันจั๊กจี้ๆยังไงไม่รู้

     

    “กลัวแมวหรอ?”

    “ไม่ได้กลัว ไม่ชอบ เอาออกไปนะแจบอม”

     

    “หึ…”

    แจบอมทำแค่แค่นหัวเราะในลำคอแล้วสาวเท้าออกไปนอกระเบียง ม้วนกระดาษที่อัดแน่นไปด้วยนิโคตินถูกหยิบขึ้นมาอีกครั้ง 

     

    “นี่นายจะสูบบุหรี่ในห้องฉันหรอ!!”

    “หยุดโวยวายซักทีได้ไหม ไม่เหนื่อยรึไง”

     

    “ก็นาย! ทั้งกินทั้งสูบ ถ้าเกิดเมาเละในห้องฉันขึ้นมาทำไง!”

     

    “หึ.. ระดับฉันแล้ว.. แต่นายน่ะไม่แน่..”

    พูดจบคนตัวโตก็ยืดตัวขึ้นเดินมาหายองแจช้าๆ ร่างเล็กเลยต้องถอยหลังหนีอย่างช่วยไม่ได้ คนอย่างยองแจน่ะ..ต้องสั่งสอน..

     

    “อยากลองไหมละ.. ไม่แน่นายอาจจะติดใจก็ได้นะ..”

    “น..นายจะทำอะไร..”

     

    ขายาวก้าวเข้ามารวดเดียวคว้ายองแจไปชิดกับผนัง ดวงตาเรียวเล็กเบิกกว้างเพราะจู่ๆมือหนาก็บีบเข้าที่สันกรามเข้าอย่างจัง แจบอมบังคับให้ปากบางเผยอออกก่อนจะกรอกน้ำสีอำพันลงไปตามเรียวคอสวยช้าๆ

     

    “อึก..อื้ออ!..แคก..!!”

    แต่ทว่าด้วยความที่ยองแจไม่เคยแตะแอลกอลฮอลมึนเมาใดๆเลยแม้แต่น้อย เลยทำให้รสชาติเฝือนคอนั้นไหลออกมาตามเรียวคาง 

     

    ยองแจกลืนมันลงไปไม่ได้หรอกนะ!

     

    “เป็นผู้ชายประสาอะไรวะ..เอ่อ..ลืมไป..ไม่ใช่ผู้ชายนี่..”

     

    ร่างเล็กพ่นน้ำขมๆนั้นออกจนหมดใช้มือถูกปากตัวเองรัวๆพลางยกกำปั้นเล็กขึ้นใส่คนตรงหน้าหวังจะเอาให้หมดหล่อกันไปข้าง แต่แจบอมก็เร็วกว่ายึดขื้อมือบางนั้นเอาไว้

     

    ยกขวดเบียร์กระดกเข้าปากตัวเอง ก่อนจะ.. 

     

    “นายทำบ้าอะ..!! เห้ย!!”

    พูดไม่ทันจบคนตัวเล็กก็ต้องก้มหน้าหนีสุดชีวิต มุดตัวเข้ากับไหล่กว้างเพื่อหนีปากหยักทีทำท่าเข้ามาใกล้.. 

    ใบหน้าหวานซุกแน่นอยู่กับคนตัวโต เพราะมือก็ไม่ว่างหนีไมไปไหนก็ไม่ได้ 

     

    “.. คิดว่าฉันจะคิดสั้นทำอะไรโง่ๆอย่างที่นายคิดหรอ”

     

    หือ.. 

     

    เสียงทุ้มคุ้นหูกระซิบใกล้จนยองแจรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิร้อนๆที่ลามขึ้นมาบนหน้า.. 

     

    อ..ไอ่บ้า.. ก็เมื่อกี้จะเข้ามาใกล้ทำไม.. ไอ่.. 

     

    ยองแจค่อยๆเงยหน้าขึ้นพลางพลักคนตรงหน้าออกไปแรงๆ หน้าตากวนๆกับบุหรี่ในปากนั้นยิ่งทำให้ยองแจอยากจับโยนลงตึกให้รู้แล้วรู้รอด แจบอมยิ้มเจ้าเล่ห์โดยมีไอ่ลูกแมวยืนข้างตัวจ้องหน้าเขานิ่งๆ 

     

    ไอ่แมวบ้านี่มาตอนไหนเนี่ย 

    แล้วยืนคู่กันได้น่าเผาทิ้งมาก.. 

     

    “แอบแต้ะอั๋งกันนี่หว่า..”

    “ไม่ใช่เว้ย!”

     

    “เห็นๆอยู่..”

    “ก็นายจะจ..”

     

    “จะ..?”

     

    จะ.. จะอะไรละ.. ก็เมื่อกี้นึกว่าจะ.. จูบนิ.. 

    โอ้ยยองแจ ทุเรศตัวเองชะมัด หมอนั้นมันไม่ทำหรอก! คิดอะไรบ้าๆวะ!

     

    “ฮึ้ยย..!!”

    ทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนเม้มปากกำหมัดแน่นอยู่อย่างนั้นเลยตัดสินใจเดินตึงตังหันหลังหนี เมื่อกี้ทำอะไรลงไปชเวยองแจ.. ไปซบไหล่ไอ่หมอนั้น่ะหรอ.. ให้ตายเถอะ.. 

     

    ป่านนี้หมอนั่นคงคิดว่าหาเรื่องไปสกินชิฟมันซะแล้วมั้งน่ะ.. 

     

    “นี่ขอหมอนผ้าห่มให้ฉันด้วย หรือจะให้ฉันเข้าไปนอนด้วย?”

    เสียงทุ้มดังขัดทำเอายองแจคิ้วกระตุกยิบๆ 

     

    “หาเองดิ..”

     

    ยองแจยังไม่ได้พูดซักคำว่าจะอนุญาตให้นอนด้วย แล้วนี่อะไร กลับพาแมวเข้ามาอีกต่างหาก!

    แก้มใสขยับขึ้นลงตามแรงพึมพัมแต่แล้วก็ต้องอ้าปากกว้างเมื่อจู่ๆร่างสูงก็พุ่งพรวดเข้าไปในห้องแทน 

     

    “เห้ย! ออกมาเลยนะ!!”

    แจบอมล้มตัวลงนอนราวกลับว่านี่คือห้องของตัวเองอย่างสบายใจโดยไม่สนใจว่าเจ้าของห้องจะทำหน้าตายังไงอยู่ แน่นอนว่ายองแจคิ้วขมวดกันแทบจะเป็นปม พุ่งไปลากชายเสื้ออีกคนให้ออกมาแต่ทว่าแจบอมหนักเกินไป.. 

     

    “ก็นายบอกให้หาเอง ก็นี่ไง”

    “แต่นี่มันเตียงฉัน!”

     

    “นายควรจะดีใจนะที่ฉันมานอนบนเตียงนาย”

    “อย่ามาหลงตัวเองให้มาก! ออกไปเลยยย”

     

    ยองแจทั้งดึงทั้งลาก แต่แจบอมกลับนอนนิ่งอยู่เหมือนเดิม

     

    “อิมแจบอมลุกขึ้นเดี๋ยวนี้นะ! ไม่งั้นฉันไปนอนข้างนอกจริงๆด้วย!”

    “ก็ดีดิ”

     

    อ..ไอ่..คนไม่มีมารยาท!! 

     

    “เออ!! นอนไปเลย!!”

     

    พูดจบคนตัวเล็กก็สาวเท้าเดินออกไปนอกห้องทันที

     

     

     

     

     

     

     

    ————————————————

    จบบ ตัดจบกวนไปไหม พาทนี้หาสาระไม่ได้จริงๆ 5555
    โลเคชั่นในห้องทั้งคู่ แต่อารมณ์ต่างกันมาก 55555
    ถ้าไม่ฟินก็ขออภัยนะคะ #demons2jae ด้วยน้า 

     


     



    ? cactus
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×