คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : demons 02
part 2
โบราณว่าเกลียดอย่างไหนได้อย่างนั้น..
แต่สำหรับชเวยองแจแล้วมันเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุด ยิ่งเกลียดยิ่งเจอและไม่มีทางลงเอยกัน ที่แย่ไปกว่านั้นคือทุกครั้งที่เจอคนแบบนั้นยองแจมักจะรู้สึกแปลกๆ
ไม่รู้สิ..
อธิบายไม่ค่อยถูกเลย..
เอาเป็นว่าการใช้ชีวิตในโรงเรียนของยองแจมักจะใช้พลังงานหมดไปกับการพยายามหลีกเลี่ยงอิมแจบอมให้พ้นๆไปในแต่ละวัน แต่มันติดอยู่ที่มันไม่ค่อยจะสำเร็จนี่สิ..
โรงเรียนก็ออกจะกว้าง ไม่เข้าใจเลยจริงๆ..
และก็เหหมือนกับตอนนี้ ยองกำลังนั่งเล่นอยู่ข้างสระน้ำ ไม่ได้ไปกินข้าวกับแบมแบมอย่างที่ถูกชวน ก็วันนี้อารมณ์เสียตั้งแต่เช้า เขาไม่อยากจะไปเจอคนเยอะๆ จริงๆแล้วยองแจไม่ค่อยมีเพื่อนหรอก..
ตั้งแต่แจบอมดันมารู้ความลับเข้านั้นแหละ ทุกคนก็ไม่อยากเข้ามายุ่งย่ามกับชเวยองแจอีกเลย
เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว..
.
.
.
“ยองแจ จะรออยู่ตรงนี้ใช่ไหม งั้นเดี๋ยวฉันมานะ”
“อื้ออๆ”
ยองแจส่งยิ้มให้จินยองก่อนจะก้มลงมาขีดๆเขียนๆรูปวาดใส่เศษกระดาษตัวเองเหมือนเดิม เวลาหลังเลิกเรียนเขามักจะกลับบ้านกับจินยองแต่เพราะวันนี้พี่ชายข้างห้องมีธุระที่ต้องทำก่อนเลยต้องนั่งรอ
คนตัวเล็กหรี่ตาขึ้นมองภาพตรงหน้าอีกครั้ง พยายามจดจำลายละเอียดของของคนที่กำลงเคลื่อนไหวอยู่กับลูกกลมๆในสนามให้ได้มากที่สุด
อิมแจบอม..
ยองแจหลงใหลการวาดรูป มือบางขยับไปเรื่อยๆ ก้มๆเงยๆอยู่หลายครั้งจนรูปวาดเริ่มคับคล้ายคับครากับแจบอมอยู่ไม่น้อย เก็บรายละเอียดอีกนิดหน่อยก็เหมือนแล้ว
“อุ่ยย..!!”
และในจังหวะที่เขาช้อนหน้าขึ้นมาเพื่อนจะดูต้นแบบของเขาอีกครั้งแต่กลับต้องสะดุ้งจนผงะไปด้านหลัง ในเมื่ออิมแจบอมอยู่ห่างเขาแค่สองก้าว ไม่ใช่ครึ่งสนามแบบเมื่อกี้..
คนตัวเล็กรีบพลิกสมุดลงทันที ให้ตายเถอะ หวังว่าจะไม่เห็นหรอกนะ..
มาตอนไหนเนี่ย..?
“นาย..”
น้ำเสียงที่เขาไม่เคยได้ยินดังขึ้น ยองแจออกอาการเลิกลักหันซ้ายหันขวาก่อนจะพยักหน้ารับเบาๆ
“เอ่อ.. ครับ? ”
แจบอมใช้สายตามองไปที่สมุดบนตักนั่นเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรก่อนจะออกปากพูดเสียงเข้ม มือข้างหนึ่งยกลูกบาสขึ้นหมุนบนนิ้ว..
ทำไมรู้สึกดูขี้เก๊กจังวะ..
“มีอะไรกับฉันรึเปล่า”
“ป..เปล่านี่..”
ยองแจตอบพร้อมกับทำท่าจะเก็บสมุดสเก็ตลงกระเป๋า แต่มือหนากลับดึงสมุดเจ้าปัญหานั้นมาถือไว้เองซะก่อน และแทบจะทันทีที่ยองแจเบิกตากว้าง
“เห้! นั้นของฉันนะ!”
“หยุดอยู่ตรงนั้นเลย! ท่าทางนายดูมีพิรุธ..”
“แต่นั้นมันสมุดฉันนะ!!”
ความรู้สึกที่ต้องเรียกแจบอมว่าพี่มันหายไปในเมื่อสติของเขากำลังร้อนรนกลัวว่าแจบอมจะเปิดดู ถ้าเปิดดูละก็.. ตายแน่.. อีกอย่า เขาต้องพยายามทำตัวไม่ให้ชัดเจนเกินไป..
“นายมองฉันทำไมนักหนา”
ร่างสูงซ่อนสมุดเอาไว้ด้านหลังเดินถอยหลังช้าๆโดยที่ยองแจเดินตามมาจ้องหน้าเขม็ง
“..ไม่ได้มองซะหน่อย”
“แต่ฉันเห็น”
“งั้นแสดงว่านายก็มองฉันเหมือนกันนั้นแหละ”
“ฉันเป็นพี่นายนะ..”
แจบอมกดเสียงต่ำพูดพลางเดาะลูกบาสด้วยมือข้างเดียว สมุดสเก็ตยังคงถูกซ่อนเอาไว้
“..เอาสมุดคืนมาก่อนสิ”
ทั้งคู่เดินมาจนถึงกลางสนามบาส ปากหยักกระตุกยิ้มก่อนจะปล่อยลูกบาสลงให้มันกลิ้งหลุนๆหาไป มือหนายกสมุดขึ้นมาเปิดช้าๆ
“เห้~!! อย่านะ!”
“ทำไมหวงนักละ..นายชื่ออะไรนะ?”
“นี่! เอามา!”
“ถ้านายไม่บอกฉันจะเปิดมันจริงๆล่ะ”
“ย..ยองแจ!!”
เพราะคนตัวสูงทำท่าจะเปิดดูข้างในจริงๆร่างเล็กเลยจำใจโพล่งชื่อตัวเองออกไปอย่างช่วยไม่ได้ อีกอย่างเวลานี้มันเป็นเวลาเลิกเรียน เขาไม่อยากเด่นมากเท่าไร..
“หึ..”
พรึ่บ!!
เศษกระดาษร่วงออกมาจากสมุดในมือของแจบอมทันทีที่เขากางออก รูปวาดจากฝีมือยองแจกระจายเกลือนไปทั่วพื้นสนามบาส
“อ..ไอ่..ทำอะไรของนายน่ะ!”
ยองแจกัดฟันแน่น พยายามไม่สถบคำพูดหยาบๆออกมา โชคดีที่ส่วนมากเป็นรูปของเพื่อนๆในห้องที่เขาสเก็ตเล่นเวลาที่เบื่อ
แต่ขอร้องละ อย่าให้รูปที่พึ่งวาดไปเมื่อกี้เลยนะ..
“อะไรเนี่ย..สกปรกชะมัด..”
สายตาคมกวาดมองรูปวาดที่เกลื่อนอยู่ ใช้เท้าเขี่ยๆออกไปให้พ้นทางยื่น นักเรียนหลายคนเริ่มจ้องมองมาที่พวกเขาสองคน
ระดับอิมแจบอมแล้ว ไม่ว่าจะขยับตัวไปทางไหนก็เป็นที่สนใจของทุกคนทั้งนั้น..
“เอามานะ!!”
คนตัวเล็กพุ่งตัวเข้าไปหาหวังจะเอาสมุดคืน แต่แจบอมก็ขยับตัวถอยหนีก่อนที่ยองแจจะมาประชิดตัว
“เห้ๆ ถอยไปเลยนะ”
พูดจบเจ้าตัวก็จัดการเปิดไปหน้าสุดท้ายที่เขาเห็นคนตัวเล็กยุกยิกๆอยู่กับมันเมื่อกี้ และนั้นก็ทำเอายองแจตัวชาไปทั้งร่าง อย่าเปิดเชียวนะ..
“นี่มัน..”
ควับบ!!
มือบางยื่นไปฉุดสมุดคืนมาในจังหวะที่แจบอมกำลังยืนงงๆ เพราะเห็นรูปตัวเองในสมุดนั่น..
“นั้นมันรูปฉันนี่..”
เร็วกว่าความคิด ยองแจหันหลังกลับก้าวฉับๆไปกลับไปทางเดิม
“นายชอบฉันรึไงยองแจ!!!!”
เฮือก..
เสียงทุ้มตะโกนลั่นสนามบาส
แล้วจะตะโกนทำเพื่อ..
คนตัวเล็กหยุดการกระทำทุกอย่างลง บรรยากาศรอบตัวหยุดนิ่งไปชั่วขณะ เหมือนมีนาฬิกาหยุดเวลาของโดเรมอนก็ไม่ปาน.. ยองแจหันกลับมามองแจบอมที่อยู่ในท่าทางนิ่งๆกวนๆ ใบหน้าที่เขาคิดว่ามันดูดีหนักหนากำลังยิ้มเยาะจนหน้าหมั่นไส้
“..ไม่ใช่นะ!”
“แล้วนายจะวาดรูปฉันทำไม บอกไว้ก่อนเลยฉันไม่มีรสนิยมแบบนายหรอกนะ”
นี่เขาชอบคนแบบนี้ไปได้ยังไงวะ..
ดูก็รู้ว่าต้องการประจานกันชัดๆ!!
ยองแจสลัดความคิดก่อนหน้านั้นทั้งหมดที่ว่าเขาเคยสนใจแจบอม มันเป็นแค่ความคิดชั่ววูป ไม่ต่างอะไรกับการมองดูขนมจากถุงขนม เนื้อในห่วยแตกสิ้นดี!
“ฉ..ฉันก็วาดทุกคนนั้นแหละ!”
“แต่เราไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวนะ..”
“…ก็..ก็ใช่ไง แล้วนายจะมาหาว่าฉันชอบนายได้ยังไงกัน!”
เสียงหวานรีบออกโรงแก้ตัว จริงอยู่ที่เขาชอบแจบอม แต่นับจากนี้สัญญาเลยว่ามันจะไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้ว!
“หึ..งั้นมาพิสูจน์กันไหมละ..”
ร่างกายสูงโปร่งของอิมแจบอมเดินเข้ามาใกล้ ยองแจขมวดคิ้วแน่นเพราะไม่รู้ว่าอีกคนจะทำอะไร ที่สำคัญ.. ตอนนี้นักเรียนหลายคนเริ่มเพ่งความสนใจมาที่เขาสองคนมากกว่าเดิม
นี่เขากำลังมีเรื่องกับคนดังของโรงเรียนเชียว..
“อะไร..อย่ามาหาเรื่องกันนะ..”
“หึ…”
ไม่มีคำตอบจากคนตรงหน้า ดวงตาเรียวเหลือบไปเห็นพวกเพื่อนของแจบอมยืนหัวเราะอยู่ใต้แป้นบาส หันกลับมาอีกทีก็ปะทะเข้ากับลมหายใจอุ่นๆบริเวณซีกแก้มเข้าซะแล้ว ใบหน้าคมทำเอายองแจหน้าแดงแปร๊ดลามไปถึงใบหูเล็ก
ผลักก!!
ยองแจดันอกแกร่งคนตรงหน้าออกเต็มแรง แต่หัวใจกลับเต้นเร็วถี่ระรัวจนนึกเกลียดตัวเอง
ทำไมต้องหน้าร้อนขึ้นมาแบบบนี้ด้วย..
ปากหยักกระตุกยิ้มร้ายอีกครั้งเมื่อเห็นปฏิกริยา ถ้ายองแจบังคับตัวเองไม่ให้เป็นแบบนี้ได้ก็คงทำไปแล้ว.. และตอนนี้เขาก็อยากจะเดินหนีออกจากตรงนี้ให้ไวที่สุด
“แค่นี้ก็รู้แล้ว ยองแจ..”
“….”
“แต่ขอแสดงความเสียใจไว้เลยนะ..”
“…..”
“พอดีไม่ชอบตุ้ดวะ..”
——————————
จ๋อม..~!
เสียงก้อนหินก้อนเล็กกระทบเข้ากับผิวน้ำดังขึ้นเมื่อยองแจเผลอนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ร่างเล็กชะงักมือเอาไว้เล็กน้อยเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองกำลังจะโยนก้อนที่สองหรือสามก็ไม่อาจจะแน่ใจได้ลงไป ขืนมีคนไปฟ้องอาจารย์ว่ามีคนบ้ามานั่งโยนก้อนหินลงสระน้ำคงโดนด่าแน่ๆ
คิดได้แบบนั้นเลยเลือกที่จะนั่งมองฟ้ามองน้ำไปเฉยๆ
“ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ละ”
จู่ๆก็มีใครบางคนเดินมานั่งลงข้างๆ ยองแจหันมามองด้วยความตกใจ
“อ้าว! พี่จินยอง มาไงเนี่ย”
“เบื่อๆอะ ไม่คิดว่าจะมีคนอยู่ด้วย”
ยองแจขยับที่นั่งให้จินยองนั่งได้สะดวกๆก่อนจะลอบมองใบหน้าที่ปกติจะต้องมีรอยยิ้มน่ารักๆอยู่ตลอดเวลา แต่วันนี้ดูผิดสังเกตุ.. เลยถามออกไปด้วยความเป็นห่วง
“เป็นอะไรรึเปล่า..”
“เปล่าหรอก แล้วนายละมานั่งอะไรตรงนี้”
“ผมก็มาของผมประจำ พี่นั้นแหละ มันต้องมีอะไรไม่ปกติแน่ๆ”
“…ช่างเถอะน่า ว่าแต่ตรงนี้เย็นดีเนอะ”
เพราะม้านั่งข้างสระน้ำอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่แบบพอดิบพอดี ยองแจชอบมานั่งเล่นวาดรูปอยู่บ่อยๆ จะเรียกว่าเป็นบ้านหลังที่สามรองจากโรงเรียนเลยก็ว่าได้ แต่นั้นไม่สำคัญเท่าพี่ชายที่นั่งทำหน้างอเป็นตูดอยู่แบบนี้
“..ทะเลาะกับพี่มาร์คหรอ”
“…..”
“พี่จินยอง..”
คนตัวเล็กถามซ้ำจินยองเลยฉีกยิ้มให้เป็นคำตอบก่อนจะพูดเสียงเรียบ
“นิดหน่อย ไม่เป็นไรหรอก”
“ได้ยังไง ทะเลาะกันเรื่องอะไร พี่ถึงทำหน้าบึ้งได้ขนาดนี้”
Rrrr.. Rrrr..
เสีงโทรศัพท์ดังขัดบทสนทนาของทั้งคู่ จินยองพ่นลมหายใจพรืดพลางปล่อยให้มันร้องดังอยู่อย่างงั้น
ท่าทางคนโทรมาก็คงเป็นคนที่ทำให้จินยองเป็นแบบนี้อยู่แน่ๆ
“ไม่รับหรอ..”
“….”
เป็นอีกครั้งที่จินยองเงียบ แต่กลับส่งมือถือให้คนตัวเล็กแทน ยองแจรับมาด้วยอารมณ์งงๆ หน้าจอโชว์ชื่อของรุ่นพี่ที่เขาเดาไว้ไม่มีผิด
“รับสิ”
“ห้ะ..”
จะให้รับโทรศัพท์พี่มาร์คเนี่ยนะ.. ตั้งแต่อยู่ร่วมโรงเรียนกันมานับครั้งได้เลยว่าเคยคุยกันกี่ครั้ง
“เถอะน่า..ฉันขี้เกียจคุย”
ยองแจลอบกลืนน้ำลายลงคอดังอึก แต่ครั้นจะไม่รับเลยก็ดูจะใจร้ายเกินไป.. เอาวะ รับแล้วบอกว่าพี่จินยองนั่งงอนอยู่ก็ได้มั้ง
คิดได้แบบนั้นก็เลื่อนมือไปกดรับสายก่อนจะยกขึ้นแนบหู เสียงอื้ออึงจากปลายสายทำให้ยองแจต้องขยับโทรศัพท์ออกจากตัวเล็กน้อย อยู่สนามบาสแน่ๆ
“เนียร์..”
อุ่ย.. ไม่ใช่เนียร์
“เอ่อ..ผม ยองแจเองครับ”
“อ่าว.. ยองแจหรอ”
“ครับ..พอดีพี่จินยองเค้า..เอ่อ เข้าห้องน้ำอยู่ครับ”
ยองแจอึกอักหาคำแก้ตัว ในขณะที่จินยองเอาแต่เบื้อนหน้าหนีเขาราวกับว่าเจ้าของเรือนผมสีแดงมานั่งอยู่ตรงนี้ยังไงยังงั้น
“ยองแจอยู่กับจินยองหรอ”
“ค..ครับ”
“พาจินยองมากินข้าวหน่อยสิ..ข้าวเช้าก็ยังไม่ได้กิน ฉันรออยู่ที่โรงอาหารนะ ”
ที่แท้ก็โทรมาเพราะเป็นห่วงนี่นา แต่ว่าก่อนหน้านี้ต้องทะเลาะอะไรกันมาก่อนแน่ๆ
“ฝากบอกจินยองด้วยว่า..ฉันไม่ได้ตั้งใจ..”
“อา..ครับ”
แล้วปลายสายก็ตัดไปไม่มีแม้แต่คำบอกลา ไม่ได้ตั้งใจอะไรละเนี่ย รู้สึกบรรยากาศมันอึมครึมแปลกๆ แต่ว่าเขาต้องพาคนขี้งอนไปกินข้าวสินะ รับปากไว้แล้วนี่..
ยองแจคืนมือถือให้พร้อมกับออกปากชวน
“พี่จินยอง พี่มาร์คให้ไปกินข้าวน่ะ”
“…..”
“เสียงพี่มาร์คดูน่าสงสารมากเลยนะ”
“…มันก็ทำไปยังแหละ”
“แล้วพี่มาร์คก็บอกด้วยว่า พี่เขาไม่ได้ตั้งใจ..”
จินยองเลิกคิ้วถามเล็กน้อย เขาไม่ค่อยแน่ใจว่ามาร์คพูดแบบนั้นออกมาจริงรึเปล่า แต่ถึงยังไงประโยคนั้นก็มำเอาจินยองใจพองโตขึ้นมาได้ง่ายๆ
“เอาน่าพี่ ลองนึกหน้าพี่มาร์คนั่งทำหน้าหง่อยสิๆ น่าสงสารออก”
“..น่าตลกมากกว่า”
รอยยิ้มจางๆฝุดขึ้นเมื่อเขาเผลอนึกภาพตามอย่างที่ยองแจบอก รู้เลยว่ากำลังทำหน้าแบบไหนอยู่..
“ฮั่นแหน่..อารมณ์ดีขึ้นแล้วใช่ไหม งั้นไปกินข้าวกัน”
“..ยองแจไปด้วยกันนะ”
“หือ.. ไม่ดีมั้งครับ”
“เถอะน่าา นะๆๆๆ”
จริงๆแล้วจินยองก็ยังไม่หายโกรธแบบ100% พายองแจไปด้วยดีกว่า คนตัวเล็กชั่งใจอยู่ซักพักก่อนจะยอมตอบรับไปแบบช่วยไม่ได้
“ก็ได้ครับ..”
————————
ถ้าโลกนี้มันย้อนเวลาได้ก็คงจะดี..
ยองแจจะย้อนเวลาไปข้างสระน้ำนั้นแล้วบอกจินยองว่าเขาไม่มีทางมากินข้าวเป็นเพื่อนเด็ดขาด แต่มันก็ทำไม่ได้ ความผิดมันอยู่ที่เขาเต็มๆที่ลืมคิดไปว่ามาร์คเป็นเพื่อนกับแจบอม..
เวลานี้ร่างเล็กเลยต้องนั่งฟาดฟันสายตาราวกับอยู่ในสงครามเย็นก็ไม่ปาน
โชคร้ายไปกว่านั้นคือได้นั่งข้างๆอิมแจบอม! ย้ำว่านั่งข้างๆ!!
“กินก็น้อย แต่ทำไมถึงอ้วนได้นะ นายน่ะ..”
“ยุ่งไรด้วย”
ความจริงเขาอยากจะตอกกลับไปว่าหุบปากไปซะด้วยซ้ำ แต่แบบนั้นมันคงจะแรงเกินไป ยองแจได้แต่เขี่ยอาหารตรงหน้าไปมาแจบอมถึงทักว่าเขากินข้าวน้อย ความจริงเขากินไม่ลงต่างหาก
ต้องมาทนเห็นคนบางคนนั่งออเซาะอยู่กับสาวหน้าตาจิ้มลิ้มเนี่ย ใครจะทนได้กัน แถมยังเป็นคนละคนกับตอนเช้าอีกต่างหาก..
ยองแจไม่ได้หึงหรอกนะ แต่มันขัดลูกตา!!
พยายามขยับตัวออกห่างอิมแจบอมให้มากที่สุดจนเกือบจะตกเก้าอี้อยู่แล้ว
มาร์คกับจินยองนั่งอยู่อีกฝั่งโต้ะเลยไม่เห็นว่าสถานการณ์เป็นยังไงบ้าง ตรงกลางเป็นแจ็คสันและยูคยอมกำลังคุยกันอย่างสนุกปากกับรุ่นพี่ซึลองชานซองแทคยอนที่มีสาวนั่งขนาดข้างไม่ต่างกัน และอีกเหล่าเพื่อนมากมายของแจบอมมีเยอะจนคุยกันไม่หวั่นไม่ไหว
และยองแจกำลังตกเป็นเป้าสายตา ในเมื่อเขาดันมานั่งอยู่บนโต๊ะกินข้าวที่มีผู้ชายหน้าตาหล่อเหลารวมตัวกัน ที่สำคัญดันนั่งข้างอิมแจบอมด้วยสิ..
ปานนี้คงโดนเอาไปพูดถึงไหนต่อไหนแล้วแหละ..
“นึกยังไงมากินข้าวกับจินยอง”
ในขณะที่คนตัวเล็กกำลังก้มหน้าก้มตาเขี่ยข้าวในจานนึกน้อยใจในโชคชะตาอยู่ แจบอมก็โพล่งถามออกมาเสียงเรียบ
“ไม่ได้อยากมาเจอนายแล้วกัน”
“หึ..ร้อนตัวรึไง”
“เปล่านะ!”
“ก็เห็นเห็นอยู่”
“นี่อย่าหาเรื่องกันได้ไหม”
“ฉันก็พูดตามที่เห็น”
หลงตัวเองชะมัด..
“อ้าวยองแจ ทำไมมานั่งกับแจบอมได้ละเนี่ย เป็นแฟนกันแล้วหรอ”
!!!!
“แคกกๆ..!”
เสียงทักจากคนมาใหม่ทำเอายองแจต้องยกมือปิดปากตัวเองกลัวว่าข้าวในปากจะพุ่งออกมาซะก่อน รีบคว้าแก้วน้ำขึ้นมาดื่มยกใหญ่ เป็นแฟนกันงั้นหรอ ให้แมวออกลูกเป็นไข่ไก่ยังจะเป็นไปได้มากกว่าเลย!!
“ก็ปกติเห็นทะเลาะกัน..วันนี้นั่งข้างกัน..ยินดีด้วยน้าา~!!”
จ..จะตะโกนเสียงดังทำไม คนเขาหันมามองกันทั่วโรงอาหารแล้ววววว ยองแจรีบส่ายหัวพัลวันก่อจะยึดตัวขึ้นเพื่อแก้ข่าวกับรุ่นพี่หน้าหวาน
“ไม่ใ..อ้ะ!!”
เคร้งง!!!
ทว่า.. เขาคงรีบลุกเร็วไปหน่อย
มือบางปัดเข้าใส่แก้วน้ำของตัวเองกระเดนไปโดนของคนอื่นๆบนโต๊ะล้มเป็นโดมิโน หน้ำซ้ำยังมีแก้วและจานบางส่วนที่ถูกปัดตกแตกอยู่บนพื้น ดวงตาเรียวเบิกกว้าง อ้าปากค้าง พร้อมทั้งสายตาดุๆของอิมแจบอมจ้องเขม็งเขาอย่างเอาเรื่อง เนื่องจากว่าเสื้อนักเรียนเปื้อนเศษข้าวเต็มไปหมด
“อะไรกันน่ะพวกเธอ!!!”
และคราวซวยของยองแจก็ยังไม่หมดเท่านั้น ..
น้ำเสียงที่ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าใครเป็นเจ้าของดังขึ้น ความพินาศบนโต๊ะอาหารเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมครูใหญ่ถึงกำลังเดินตึงตังมาทางนี้
จุนโฮค่อยๆย่องตัวเดินไปเบียดกับชานซอง ทิ้งให้ร่างเล็กเผชิญหน้ากับครูใหญ่คนเดียว
นี่มันวันอะไรวะเนี่ย..
“ทำอะไรกัน ข้าวของพังเสียหายไปหมด”
“…..”
เงียบไว้ก่อน พ่อสอนไว้..
ยองแจก้มหน้านิ่ง ในเมื่อเขาไม่รู้จะตอบไปว่าอะไร..
“ใครเป็คนทำ”
“แจบอมกับยองแจครับ”
ห้ะ..
นี่ไม่ใช่เสียงผม..
ยองแจหันควับไปที่ต้นเสียง เสียงของจุนโฮที่โพล่งออกมาทั้งๆที่ทำตัวลีบหลบเข้ากับแผ่นหลังกว้างของชานซอง จริงๆแล้วเขาแค่อยากเห็นน้องสองคนรับผิดชอบร่วมกันเท่านั้นเอง..
ด้านแจบอมก็ทำหน้างงเหมือนโดนหมัดหนักๆต่อยเข้าโดยที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิด ก่อนจะหันมากัดฟันกรอดใส่ยองแจ
“อิมแจบอม ชเวยองแจ ตามฉันมา..”
——————————
กว่าจะจบแต่ละตอนมันยากเย็นเหลือเกินนน 55555
เราขอโทษ คราวหน้าจะพยายามเร็วกว่านี้ 55555
ฝากด้วยนะค้าา จุ้บๆๆ เม้นมวยทวงฟิคได้ที่ #demons2jae
? cactus
ความคิดเห็น