คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #58 : 『 the enchained S E P E L 』รับสมัคร
ใบสมัคร(เซเปล)
ชื่อ-สกุล : ลูซิโอ เดลคาไลท์ ( Lucio Delcalight )
สีผม/สีตา : สีเหลืองอ่อนซอยสั้น // สีเหลืองเข้ม
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 183 / 71
เพศ : ช
อายุ : 23
สายพลัง : (สายควบคุมธาตุ ลม )
*อาวุธ : (สำหรับสายกายภาพค่ะ ใส่มา 1 อย่าง ถ้าไม่ใช่สายนี้ก็ตัดไป)
ลักษณะนิสัย : ลูซเป็นพวกร่าเริง ไม่ว่าเรื่องเลวร้ายแค่ไหนเข้ามาก็ไม่หวั่น จะเฮฮาของเขาไปเรื่อย ไม่เคยคิดยอมแพ้กับอะไรง่ายๆ คุย ยิ้ม หัวเราะ เหมือนกับว่าไม่มีอะไรให้ชีวิตนี้ต้องเคลียดต้องกลัวอีกแล้ว ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนๆ หรือแหม่กระทั่งตอนใกล้ตาย(แช่งลูกซะละ) ลูซก็จะยังคงยิ้มต่อไป "ก็รอยยิ้มนะ ทำให้โลกนี้สว่างไสวนี้ครับ" รอยยิ้มบนใบหน้าของลูซไม่เคยเลือนหายไปเลย ถึงรูปลักษณะภายนอกลูซจะเหมือนพ่อพระแค่ไหน แต่เค้าไม่ใช่หรอกนะ ลูซสามารถมองศัตรูเดินเข้าสู่อันตรายได้อย่างไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น ยังคงมองยิ้มๆต่อไป "คนเราเกิดมาสักวันนึงก็ต้องกลับลงสู้พื้นดิน ไม่เว้นแหม่แต่เซเปลอย่างข้า" แต่ถ้าคนคนนั้นคือเพื่อนพ้อง คือคนที่ไว้ใจ จะยอมทำทุกอย่างเพื่อให้คนคนนั้น มีชีวิตอยู่ต่อไป ต่อให้แลกด้วยชีวิตก็ตาม ลูซเป็นพวกรักเพื่อนพ้อง แต่การทำให้เข้าเชื่อใจนั้นแหละคือสิ่งที่ยาก ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของลูซ ทำให้หลายๆคนมักชอบคิดว่า ไม่เป็นไรหรอก พูดไปลูซก็ไม่รู้สึกหรอก ไอ้อ่อนอย่างมันทำได้แค่ยิ้มไปวันๆเท่านั้นแหละ แต่ไม่ใช่เลย ลูซเรียนรู้ที่จะใช้พลังเมื่อยามจำเป็นเท่านั้น เพราะหลายๆครั้งบางทีการใช้กำลังไม่ใช่ทางออกเดียวของการแก้ปัญหา ลูซจะเป็นพวกภายนอกเหมือนร่าเริง เข้ากับคนง่าย ยิ้มเสมอ แต่ว่าภายในนั้นแท้จริงแล้ว เป็นคนเข้าถึงยาก ไม่ค่อยไว้ใจใคร ไม่ว่าจะทำอะไร หรือมีอะไรไม่สบายใจมักจะเก็บงำไว้ไม่ปรึกษาคนอื่น ต่อให้ไม่ไหวก็ยังจะชอบฝืนทำต่อไป ไม่เคยแสดงพลังให้ใครเห็นจนหลายๆคนคิดว่าลูซเป็นไอ้อ่อน เป็นแค่ขยะไร้ค่าคนนึงที่อยู่มาได้วันๆเพียงเพราะความเห็นใจของหลายๆคน แต่ต่อให้ใครคิดอะไรลูซก็จะยังคงยิ้มรับต่อไป เขาชินซะแล้วกับการถูกต่อว่า จนบางครั้งก็หลงลืมอารมณ์โกรธ อารมณ์ไม่สบายใจ เหนื่อยหรืออะไรทั้งสิ้น ไม่รู้แหม่กระทั่งความรัก เพราะลูซรู้แค่ต้องนิ่ง เฉย ยิ้มรับ ไม่สนใจ เท่านั้น เค้าเรียนรู้เรื่องพวกนี้เพราะมันเป็นทางเดียวที่เขาจะรอดต่อไปบนโลกอันแสนโหดร้าย ลูซมักจะมองทุกสิ่งด้วยหลายๆมุมมอง เค้ามักเปรียบเทียบว่ามันเหมือนกล่องใบนึง ต่อให้มีคนมากมายมาพูดถึงมันก็น้อยครั้งนักที่จะพูดได้เหมือนกันหมด ลูซมักจะมีความคิดให้เรื่องการใช้ชีวิตที่แปลกและแตกต่าง ทำให้หลายๆคนมองว่าเค้าคือตัวประหลาดอ่อนแอ ทุกคนจึงมักจะชอบแกล้งเค้าเสมอเมอเจอหน้า จนได้บาดแผลมากมาย ถ้าใครทำผิดแล้วเข้ามาขอโทษเค้าก็พร้อมจะให้อภัยอย่างไม่ต้องการคำอธิบายใดๆ ถึงช่วงแรกจะยังไม่ค่อยไว้ใจมาก แต่สักพักลูซจะไว้ใจไปเอง และถ้าถูกหักหลังอีกครั้ง ลูซก็พร้อมที่จะเดินออกไปจากคนคนนั้นอย่างไม่ยอมหันหลังกลับไปอีก เป็นพวกเก็บความลับเก่ง ต่อให้คนที่ไว้ใจก็อย่าหวังจะรู้ว่าเค้าคิดอะไร หรือมีความลับอะไรมากมายแค่ไหน เห็นลูซร่าเริงอย่างนี้แต่เป็นพวกไม่ชอบเสียงดังนะ ถ้าเสียงดังมาๆลูซจะกรอกตาไปมาอย่างรำคาญทั้งๆที่ยิ้มอยู่ บางครั้งก็เดินหนีออกไปเลย ลูซเป็นพวกฉลาด เพราะโดนยัดเหยียดความรู้ให้มากมายเยอะแยะ จนแทบจะเป็นคลังความรู้เดินได้ เค้าสามารถจดจำและวิเคราะห์คนๆนึงออกมาได้อย่างรวดเร็ว มีไหวพริบในการเอาตัวรอดสูง โดยเฉพาะตอนอยู่ในป่า
ประวัติโดยคร่าว :
ลูซอยู่ในตระกูลชนชั้นสูงมีพ่อแม่ และพี่ชายสองคน พวกเค้าต่างมีพลังมากมาย แต่ทว่าลูซนั้นกลับเป็นปมด้อยของคนในตระกูล พลังของลูซนั้นไม่มีเลย ไม่มีแหม่แต่น้อย เรื่องง่ายๆที่ใครๆต่างก็ทำได้ ลูซต้องใช้เวลานานมากกว่าจะฝึกสำเร็จ ทุกคนต่างพากันเหยียดหยาม เหล่าคนใช้ต่างพากันซุบซิบนินทากันถึงเรื่องนี้ ไม่เว้นแหม่แต่คนในหมู่บ้าน เมื่อไรก็ตามที่เห็นลูซมักจะมีก้อนหิน เศษไม้ หรือหนักๆหน่อยก็มีพลังมากมายพุ่งเข้าใส่ ถึงจะไม่เอาถึงตาย แต่ลูซก็บาดเจ็บ มีครั้งนึงที่เค้าบาดเจ็บหนักมากจนคนใช้ตกใจ แต่ พ่อแม่ หรือแหม่กระทั้งพวกพี่ๆของเค้ากับไม่เคยแยแสมันเลย พ่อก็ทำงานตามปกติ แม่ก็ออกไปงานปาตี้ พี่ๆก็ยังคงกลั่นแกล้งเค้าอย่างปกติ ทุกคนทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตั้งแต่วันนั้น ลูซเรียนรู้ที่จะนิ่งเฉย ยิ้มรับทุกสิ่งที่เข้ามา หลายๆคนเริ่มว่าลูซเป็นบ้า สติไม่เต็ม และเริ่มที่จะหลีกหนีเค้าออกไป วันนึงลูซเข้าไปในป่า พบกับลูกนกน้อยตัวนึงที่บาดเจ็บสาหัสข้างๆมีลูกนกสี ลูซจึงนำกลับมารักษา เบล เบซ คือชื่อของพวกมัน ตั้งแต่วันนั้นมา ลูซก็อยู่เล่นกับเบล เบซ ในห้อง และอาจมีบ้างบางครั้งที่เขาพานกสองตัวนั้นออกไปเล่นในหมู่บ้าน ในปา่ ชีวิตของลูซ เริ่มกลับมามีสีสันอีกครั้ง แต่แล้ววันนึง พวกพี่ๆ ที่เห็นลูซเริ่มกลับมามีชีวิตชีวาก็เริ่มเพิ่มการกลั่นแกล้งที่รุนแรงขึ้นไปอีกจนวันนึง ที่พวกพี่ๆต่างทำร้ายเบลจนสาหัส ทำให้ลูซโกรธขึ้นมา เสียงที่ดังขึ้้นเรียกให้พวกคนใช้ต่างวิ่งมาดู และพบพวกพี่ๆของลูซที่นอนบาดเจ็บสาหัสและร่างของลูซที่นั่งกอดเบลไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ตั้งแต่นั้นมาลูซก็ถูกขังในห้องใต้ดิน กับเบลที่บาดเจ็บสาหัส วันแล้ววันเล่า จนผ่านไปเนิ่นนาน นานพอที่จะทำให้เด็กน้อย เริ่มก้าวย่างสู่วัยรุ่น ทุกอย่างคงเป็นแบบนี้ต่อไป ถ้าไม่ใช่เพราะในวันนึง ซากศพของเบซ กลับถูกโยนเข้าไปในห้องทึบนั้น และนั้นก็มากพอที่จะทำให้ ลูซขาดสติ ความโกรธที่มีมากกว่าครั้งที่แล้วอย่างคาดไม่ถึง พลังที่ปะทุออกมามากมายยิ่งกว่าครั้งไหน มากจนพอกับแม่ก็ไม่อาจเทียบเท่า พลังที่ถูกผนึกไว้ตั้งแต่ยังเล็กเพียงเพราะหวาดกลัวกันในความมหาศาลของมัน ตอนนี้มันได้ตื่นขึ้นมอีกครั้ง เพื่อเอาชีวิต ทุกคนที่เคยดูถูก เคยรังแกมันมาอย่างนับไม่ถ้วน หมู่บ้านที่เคยสวยงาม ตอนนี้เหลือเพียงเศษซาก ของร่าง ที่ไร้ซึ่งลมหายใจ ไม่เว้นแหม่แต่ผู้นำตระกูล ผู้คนที่ขอร้องอ้อนวอนขอชีวิต แต่นะตอนนั้นลูซได้ขาดสติไปเสียแล้ว เมื่อรู็สึกตัวกลับพบเพียงความพินาศ กลิ่นคาวเลือดที่ลอยปนไปกับอากาศชวนให้รู้สึกอยากอาเจียน ในตอนนั้นลูซได้ตระหนักถึงปีศาจในตัว ถูกอย่างที่พวกนั้นพูด เค้าคือปีศาจ ปีศาจที่ไร้หัวใจ
แต่ลูซอาจไม่รู้ ปีศาจตัวนั้นกำลังกรีดร้องราวร่างแตกสลาย หัวใจที่มีแต่บาดแผลตอนนี้ได้ปรากาฎขึ้นอีกครั้ง พร้อมบาดแผลใหญ่ที่คงมิเลือนหายไป ตลอดกาล
ใครว่าปีศาจไร้หัวใจ มันก็ยังคงมีหัวใจอยู่ เพียงแต่ผู้คนเอาแต่หวาดกลัวและผลักดันมันเพื่อลงสู่หุบเหวแห่งความสิ้นหวัง ทำให้มันกลายเป็นปีศาจ ปีศาจที่เข่นฆ่าคนด้วยหยาดน้ำตาที่หลั่งริน
ชอบ/เกลียด/กลัว :
ชอบ นก ที่สงบๆ ดอกไม้ อิสระ สายลม
เกลียด พวกรู้ทัน พวกชอบโวยวายตัดสินคนอื่นแค่ภายนอก
กลัว การสูญเสีย เสียงฟ้าร้องฟ้าผ่า(ปมฝังใจจากตอนที่ถูกขัง)
งานอดิเรก : นั่งคุยกับสัตว์(มันเข้าใจกันรู้เรื่องได้ไงอยากทราบ) นั่งยิ้มไปเรื่อย(เหมือนคนบ้า)
เพิ่มเติม :
- ชื่อเล่นคือลูซ น่ะค่ะ
-ภายนอกลูซเหมือนเข้มแข็ง แต่ใครจะรู้ แท้จริงแล้วเค้าคือคนที่อ่อนแอกว่าใคร
-ตอนนี้ลูซควบคุมพลังได้แล้ว(ถึงจะยังไม่สุดก็เถอะ) แต่ก็ถือว่าเยอะมาก หลังจากที่หนีเข้าป่าเร่ร่อนไปเรื่อย
-ชื่อเก่าของลูซคือ ลูซเวล ไลน์ เอลคาไนท์
บทสัมภาษณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ
01 ) ข้าจะไม่ให้เสียเวลามาก ก่อนอื่น เจ้าคิดอย่างไรกับพวกมนุษย์หรือ?
คำตอบของเจ้าคือ สิ่งที่ดำรงอยู่และเสื่อมสลายเฉกเช่นเดียวกับเซเปลอย่างเรา มีชีวิตมีจิตใจ ข้าไม่สามารถให้ความเห็นได้ถึงเรื่องนี้ ทั้งพวกข้าและพวกนั้นต่างมีหลากหลายชีวิต มีหลากหลายจิตใจ การที่ข้าตัดสินพวกเขาเพียงเพราะคนส่วนมาก หรือคนเพียงคนเดียวมันไม่ถูกมิใช่หรือ? มนษย์โอหังอวดดี หรือมนุษย์มีเมตตาดั่งทวยเทพ นั้นก็เป็นเพียงคำจำกัดความถึงมนุษย์ในแบบที่เห็นหาใช่ทั้งหมดที่เป็น
02 ) แล้วเรื่องเล่าเกี่ยวกับพันธะสัญญาต้องห้ามเล่า เจ้ามีความเห็นว่าอย่างไร?
คำตอบของเจ้าคือ อะไรคือต้องห้าม แล้วต้องห้ามคืออะไร ใครคือผู้กำหนด สรรพสิ่งในโลกนี้ คำถามเหล่านี้ล้วนไร้ซึ่งคำตอบ เฉกเช่นเดียวกันที่ข้าไม่สามารถตอบท่านได้ ท่านต้องการคำตอบแบบใด และอยากได้มันไปเพื่อสิ่งใด ไม่ว่าข้าจะตอบอย่างไร ก็คงมิสามารถตอบได้ถูกใจท่าน แต่ว่า พันธะที่ยึดท่านไว้กับการผูกมัดที่มิสามารถไปไหนได้ ท่านจะชอบมันหรือไม่
03 ) ขอบคุณสำหรับคำตอบ จะว่าไป ข้าก็ลืมเลยเชียว ก่อนจากกัน ช่วยแนะนำตัวเองหน่อยได้ไหม? ข้าอยากรู้ว่าเจ้าเป็นใคร แต่เจ้าคงไม่ต้องรู้จักข้าหรอกกระมัง? (ยกยิ้ม)
เช่นนั้นตัวเจ้าคือ...ข้า ลูซิโอ เดลคาไลท์ เรียกข้าลูซเถอะ ยินดีที่พบเจอเจ้า ว่าแต่เจ้าพอจะมีอาหารให้ข้าบ้างรึไหม ข้าไม่ได้กินอะไรมานาน(1 นาทีที่แล้ว) มากแล้ว การตอบคำถามของเจ้าทำให้หิวเหลือเกิน
ความคิดเห็น