บรรยากาศ (ของเรา) - บรรยากาศ (ของเรา) นิยาย บรรยากาศ (ของเรา) : Dek-D.com - Writer

    บรรยากาศ (ของเรา)

    มารู้จัก "บรรยากาศ" กันดีกว่า

    ผู้เข้าชมรวม

    1,503

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    1.5K

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  23 พ.ค. 53 / 12:44 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น




    เม้น ๆ ๆ หน่อยน้า

    โค้ดเพลงฟรี ★ Nong Aoey★
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      บรรยากาศ { Atmosphere }
                  อากาศรอบๆตัวเรานั้น เรียกว่า บรรยากาศ ”{ atmosphere } บรรยากาศ คือ อากาศที่ห่อหุ้มโลกเราอยู่โดยรอบ โดยมีขอบเขตนับจากระดับน้ำทะเลขึ้นไป 1,000 กิโลเมตรบริเวณใกล้พื้นดินอากาศจะมีความหนาแน่นมากและจะลดลงเมื่ออยู่สูงขึ้นไปจากระดับพื้นดินบริเวณใกล้พื้นดิน
          ความสำคัญของบรรยากาศ
         1.ช่วยปรับอุณหภูมิของโลกไม่ให้ต่ำหรือสูงเกินไป เพื่อให้สิ่งมีชีวิตสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้
         2.ช่วยป้องกันอันตรายจาดรังสีและอนุภาคต่างๆที่มาจากภายนอกโลก เช่น ช่วยดูดกลืนรังสีอุตราไวโอเลตไม่ให้ส่องผ่านมายังผิวโลกมากเกินไป ช่วยให้วัตถุจากภายนอกโลกที่ถูกแรงดึงดูดของโลกเกิดการลุกไหม้หรือมีขนาดเล็กลงก่อนตกลงสู่ผิวโลก
          องค์ประกอบของบรรยากาศ
       บรรยากาศหรืออากาศ จัดเป็นของผสม ประกอบด้วยแก๊สต่างๆ เช่น แก๊สไนโตเจน [N2],แก๊สออกซิเจน [O2], แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ [CO2] , ฝุ่นละออง และแก๊สอื่นๆ เป็นต้น
         สาเหตุที่อากาศเปลี่ยนแปลง
      1.อุณหภูมิ [ tempperratrue ]
      2. ความดัน
      3.ความชื้น
          การพยากรณ์อากาศ
          การพยากรณ์อากาศอาจจะครอบคลุม เฉพาะพื้นที่ของแต่ละจังหวัด ของแต่ละเขตหริทุกภาคในประเทศ นอกจากนี้ระยะเวลาการพยากรณ์อากาศก็มีทั้งช่วงหลายวัน ,1 วัน หรือหลายช่วงใน 1 วัน คำพยากรณ์อากาศที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างๆ จะบอกสภาพอากาศทั่วไปของอากาศในแต่ละภาค เกี่ยวกับความดันอากาศ ลม ฝน ส่วนคำพยากรณ์อากาศประจำวันจะบอก ปริมาณเมฆ ปริมาณฝน และอุณหภูมิต่ำสุดสูงสุด จึงอาจกล่าวได้ว่า การพยากรณ์อากาศนั้นจะให้ข้อมูลเรื่องความดันอากาศ ลม เมฆ ฝน และอุณหภูมิ
          อุณหภูมิของอากาศ
         เราใช้เทอร์โมมิเตอร์ [Thermometer] ในการวัดอุณหภูมิของอากาศ
             เทอร์โมมิเตอร์ เป็นเครื่องมือวัดอุณหภูมิที่ใช้ของเหลวบรรจุลงในกระเปาะแก้ว โดยอาศัยหลักการขยายตัวและหดตัวของของเหลว เพราะสารเมื่อได้รับความร้อนจะมีพลังงานจลน์ หรือพลังงานของการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น  อนุภาคของสารจึงเคลื่อนที่เร็วขึ้นและกระจายตัวออกจากกันมากขึ้นทำให้เกิดการขยายตัวเมื่อใดที่สารเย็นลงอนุภาคของวัตถุจะเคลื่อนที่ช้าลงทำให้สารหดตัว  
         อุณหภูมิของอากาศ ตามสถานที่ต่าง ๆ จะแตกต่างกันแม้ในที่แห่งเดียวกันอุณหภูมิของอากาศในเวลาที่แตกต่างกันจะไม่เท่ากันด้วย การที่อุณหภูมิของอากาศในที่ต่าง ๆ แตกต่างกันเนื่องมาจาก สภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมือนกันเป็นผลให้รับและถ่ายโอนความร้อนไม่เท่ากัน  ส่วนในเวลาต่าง ๆ สถานที่แห่งเดียวกันอุณหภูมิไม่เท่ากันเพราะอิทธิพลของแสงอาทิตย์ตลอดจนสภาพแวดล้อมอื่น ๆ เช่น ปริมาณเมฆบนท้องฟ้า  ปริมาณไอน้ำในอากาศ เป็นต้น  นอกจากที่กล่าวแล้วระหว่างกลางวัน กลางคืน ระหว่างฤดูร้อนฤดูหนาว ระหว่างเขตร้อน เขตอบอุ่นและเขตหนาว ก็เป็นปัจจัยอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้อุณหภูมิแตกต่างกัน
       
          ชั้นบรรยากาศ ATMOSPHERE
      ชั้นบรรยากาศที่ห่อหุ้มโลก มีผลต่อการแพร่กระจายคลื่นวิทยุเป็นอย่างมาก บรรยากาศของโลกแบ่งออกเป็นหลาย ๆ ชั้น โดยแบ่งตามความสามารถที่จะเป็นตัวนำได้ เมื่อเกิดมีอณูของรังสีจากดวงอาทิตย์ เคลื่อนที่เข้ามาชน ทำให้ชั้นบรรยากาศเกิดการ IONIZING ของก๊าชในชั้นบรรยากาศนั้น
      Ionizationเป็นการเปลี่ยน อะตอมหรือโมเลกุล เป็น ไอออน
      จากคุณสมบัติที่เป็นตัวนำในขนะเกิดการ IONIZING ชั้นบรรยากาศเหล่านี้จึงสามารถที่จะสะท้อนคลื่นวิทยุได้ ความสูงของชั้นบรรยากาศ ชั้นต่าง ๆ จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ โดยขึ้นอยู่กับความเข้มของการ IONIZING และส่วนประกอบอื่น ๆ เช่น อุณหภูมิ ,ความชื้น , แรงกดดัน เป็นต้น ชั้นบรรยากาศของโลกแบ่งเป็น 3 ชั้นคือ
      1. ชั้น โทรโพสเพียร์ (Troposphere Layer)
      ระยะความสูงจากพื้นโลกโดยประมาณ อยู่ที่ 0 -15 กิโลเมตร ชั้นนี้ สภาพโดยทั่วไปไม่ได้เป็นเนื้อเดียวกันตลอด มีสภาพปั่นป่วน วุ่นวายตลอดเวลา เป็นเหตุให้มีการเปลี่ยนแปลงทางอุณหภูมิ ความชื้น ความดัน และอื่น ๆ ทำให้ดัชนีการหักเหเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา โดยเฉลี่ยแล้วอุณหภูมิจะลดลงประมาณ 6 oC /กิโลเมตร
      2.ชั้นสตราโทสเพียร์ (Stratosphere Layer)
      เป็นชั้นที่สองของชั้นบรรยากาศของโลก อยู่เหนือชั้น troposphere และต่ำกว่าชั้น mesosphere ชั้นนี้จะมีระยะความสูงจากพื้นโลกประมาณ 15-50 กิโลเมตร เป็นชั้นบรรยากาศที่มีอุณหภูมิคงที่ไม่เปลี่ยนแปลง จุดสูงสุดของชั้นนี้เรียกว่า stratopause (สูงประมาณ 50 ถึง 55 กิโลเมตร)
       
       
      3.ชั้นไอโอโนสเพียร์ (Ionosphere)
      เป็นชั้นที่อยู่สูงที่สุด คือสูงจากพื้นโลกประมาณ 50-500 กิโลเมตร บรรยากาศชั้นนี้ อากาศจะเต็มไปด้วย อิออน มีคุณสมบัติในการดูดกลื่นหรือสะท้อนคลื่นวิทยุ ตัวที่มีบทบาท คือความเข้มของอิเล็กตรอนอิสระ (Free Electron Density) บรรยากาศชั้นนี้ ยังจะแบ่งออกเป็นชั้นย่อย ๆ ได้อีกดังนี้
      ชั้น D (D Layer)
      เป็นชั้นที่ต่ำที่สุดในชั้น ionosphere ด้วยกัน มีความสูงจากพื้นดินประมาณ 50-90 กิโลเมตร จะปรากฏเฉพาะกลางวันเท่านั้น และความเข้มของการ IONIZING จะเปลี่ยนแปลงตามความสูงของดวงอาทิตย์ ชั้นนี้มีคุณสมบัติในการสะท้อนคลื่นวิทยุย่านความถี่สูง และดูดกลืนวิทยุความถี่ต่ำ(ต่ำกว่า 4-6 MHz)
      Ionospheric absorption (or ISAB)
           ชั้นนี้จะหายไป อย่างรวดเร็วหลังจากดวงอาทิตย์ตก ในเวลากลางคืนจะมีการดูดกลืน (absorption) น้อยมาก และในเวลาเทียงวันจะมีการดูดกลืนมากที่สุด ให้เราลองสังเกตวิทยุกระจายเสียง AM ในบางสถานี อาจจะไม่สามารถรับฟังได้ แต่พอตอนกลางคืนสามารถรับฟังได้อย่างชัดเจน
      ชั้น E (E layer)
      มีความสูงจากพื้นโลกประมาณ 100 -125 กิโลเมตร สามารถสะท้อนคลื่นวิทยุลงมาสู่พื้นผิวโลกได้ ชั้นนี้จึงมีประโยชน์ในการรับ - ส่ง วิทยุระยะไกล ๆ ชั้น E ก็มีลักษณะคล้าย ๆ กับชั้น D เกิดขึ้นมากที่สุด เราสามารถติดต่อสื่อสารผ่านชั้น E ได้ไกลถึง 2,500 กิโลเมตร
      ความน่าสนใจของชั้น E มีอีกประการคือ sporadic E (หรือ Es) ในบางครั้ง ชั้นนี้จะสามารถสะท้อนคลื่นวิทยุในย่าน VHF และ UHF
      sporadic E นี้มักจะเกิดในช่วงฤดูร้อน (มากสุดในเดือน มิถุนายน สำหรับซึกโลกเหนือ) บางครั้งอาจจะเกิดขึ้นแค่ระยะไม่กี่นาที จนถึง ชั่วโมง ระยะทาง 1,000 ถึง 2,500 กิโลเมตรสามารถเป็นไปได้ใน sporadic E
      ชั้น F (F Layer)
      ชั้นนี้ถือเป็นชั้นที่มีความสำคัญมากในการติดต่อสื่อสารทางไกล ของวิทยุในย่าน HF ชั้นนี้มีความสูงจากพื้นโลกประมาณ 150 - 500 กิโลเมตร ในตอนกลางวันชั้น นี้จะแบ่งออกเป็น 2 ชั้นย่อยคือ
      • ชั้น F1 (F1 - Layer) มีความสูงประมาณ 175 - 250 กิโลเมตร มีการ IONIZING ตลอดเวลา มากที่สุดในตอนบ่าย ความสูลของชั้นนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ขึ้นอยู่กับ จุดดับบนดวงอาทิตย์ ฤดู (season of the year) และเวลาในวันหนึ่ง ๆ ด้วย คุณสมบัติของ F1 นี้ ใช้ในการสะท้อนคลื่นวิทยุในการรับส่งระยะไกล แต่มีการดูดกลื่นบ้างเล็กน้อย
      • ชั้น F2 (F2 - Layer) มีความสูงประมาณ 250 - 400 กิโลเมตร ชั้นนี้มีบทบาทในการสื่อสารอย่างยิ่ง ชั้นนี้สูงที่สุดที่เกี่ยวกับคลื่นวิทยุ มีการ IONIZING อย่างรุนแรง แต่เนื่องจากความหนาแน่นของอากาศเบาบางมาก จึงทำให้การ IONIZING ที่เกิดขึ้นค้างอยู่ได้นาน การ IONIZING จะรุนแรงมากในตอนบ่าย แล้วค่อย ๆ ลดลงน้อยที่สุดก่อนพระอาทิตย์ขึ้น จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในตอนเช้า ชั้นนี้เป็นชั้นที่มีประโยชน์มากที่สุด ในการสื่อสารด้วยวิทยุระยะไกล HF ความสูงของชั้น F2 ฤดูร้อนจะสูงกว่า ฤดูหนาว ในตอนกลางคืนชั้น F1และ F2 จะรวมรวมกันเหลือเพียงชั้นเดียวเรียกว่า ชั้น F มีความสูงประมาณ 300 กิโลเมตร
      การเปลี่ยนแปลงของชั้น Ionospher (Ionospheric variation)Diurnal (ได - เออ - แน็ล) (daily) variation
      การเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลาของแต่ละวัน ดวงอาทิตย์ ขึ้น และตก ในรอบเวลา 24 ชั่วโมง เป็นส่วนสำคัญในการเพิ่ม การionization ในช่วงเวลากลางวันจะมีชั้น D และ E แต่จะหายไปในช่วงเวลากลางคืน ชั้น F2 จะเพิ่มความสูงขึ้นจนถึงเวลาเทียงวัน และจะลดลงจนกระทั่งถึงตอนเย็น พอตอนกลางคืนก็จะไม่มีหรือรวมตัว (disappears or merges) กับชั้นอื่น
      ผลของการดูดกลืนคลื่นความถี่ (Higher absorption) ของชั้น D และ E ที่มีสูงในเวลากลางวัน ความถี่ต่ำ ไม่สามารถที่จะใช้ได้ในเวลากลางวัน ในขณะเดียวกันชั้น F จะสะท้อนความถี่สูงในเวลากลางวัน
      ในช่วงความถี่ 1–30 MHz เราจะใช้งานดังนี้ ความถี่ที่สูงกว่า 11 MHz เราจะใช้ในเวลากลางวัน ส่วนความถี่ที่ต่ำกว่า 11 MHz เราจะใช้ในช่วงเวลากลางคืน
      27 day cycle
      ในทุก ๆ ประมาณ 1 เดือน ดวงอาทิตย์จะหมุนครบรอบ ( rotational period of the Sun) ตำแหน่งของ sunspots จะกลับมาอีกครั้ง ถ้า MUF สูง และถ้าการติดต่อดี ๆ หลายวันก็สามารถคาดเดาได้ ว่าจะดีอย่างนั้นอีกใน 27 วันถัดมา เพราะพื้นที่ส่วนนั้นของดวงอาทิตย์ จะกลับมาอีก
      Seasonal cycle
      โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ วงโคจรนั้น ไม่ได้เป็นวงกลม แต่เป็นวงรี (Elliptical) ทำให้มีความแตกต่างของฤดูกาลเกิดขึ้น และยังส่งผลให้ พลังงานของดวงอาทิตย์ (Sun’s energy) ที่มายังโลก มีความแตกต่างกันออกไป โดยปรกติจะส่งผลกระทบต่อชั้น D, E, F1 แต่ชั้น F2 จะไม่ค่อยมีผลมากนัก Ion ในชั้น F2 จะหนาแน่นที่สุดในช่วง ฤดูหนาว และลดลงเวลาฤดูร้อน และความแตกต่างระหว่าง ชั้น F1 และ F2 นั้นจะไม่มากนัก
      11 year cycle
      จำนวน sunspots เท่าที่มีการบันทึกเอาไว้ จะมีการเปลี่ยนแปลงครบรอบทุก ๆ 11 ปี
      การติดต่อสื่อสารจะดีถ้าจำนวน sunspots มีมาก
      สัญญาณบกวนจากดวงอาทิตย์และกาแล็กซี่ จะมีผลต่อสัญญาณที่อ่อน ๆ (Weak signals) เราสามารถทดลองพิสูจน์ ได้โดยการใช้เครื่องรับวิทยุปรกติ (ordinary radio receiver) และสายอากาศแบบทิศทาง ควรจะเป็นย่าน VHF/UHF (150 to 152 MHz) แล้วใช้สายอากาศเล็งไปที่ดวงอาทิตย์ เวลาดวงอาทิตย์ ขึ้น หรือ ตก จะมีการเปลี่ยนแปลงของสัญญาณ background noise อย่างรวดเร็ว
       
      Sunspots
      Sunspots อาจจะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่มากได้ถึง 100,000–150,000 กิโลเมตร จำนวนของ Sunspots มีการเปลี่ยนแปลงครบรอบทุก 11 ปี มีการบันทึก จำนวน Sunspots ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1750 ตอนแรก ๆ มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 9 -14 ปี ค่าจำนวน Sunspots จะมีการเก็บบันทึกทุกวัน เป็น Wolf number (หรืออาจจะเรียกว่า International sunspot number, relative sunspot number) หมายถึง ปริมาณของ Sunspots หรือกลุ่มของ Sunspots ที่ปรากฏขึ้นบนผิวของดวงอาทิตย์ค่าที่ต่ำที่สุดคือ 60 ในปี ค.ศ. 1907 และสูงสุดคือ 200 ในปี ค.ศ. 1958
      Johann Rudolf Wolf นักดาราศาสตร์ชาวสวิส เป็นผู้ที่ศึกษา ค้นคว้าเกียวกับ Sunspots
      sunspot คือ บริเวณ พื้นผิวของดวงอาทิตย์ ที่มีอุณหภูมิต่ำ บริเวณนี้จะมีความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กสูงมาก
       
      มีตัวแปรอีกตัวที่เกียวข้องก็คือ solar flux index (SFI) เราสามารถตรวจวัดโดยการใช้คลื่นไมโครเวฟ (ความยาวคลื่นประมาณ 10.2 cm, หรือ 2.8 GHz) ในเวลา at 1700 U.T.
      * ชั้นบรรยากาศสตราโตสเฟียร์  บรรยากาศชั้นนี้จะมีโอโซน (O3 ) อยู่มากซึ่งโอโซนจะดูดซึมรังสีอัตราไวโอเลตจากดวงอาทิตย์ทำให้บรรยากาศมีอุณหภูมิสูงและขณะเดียวกันก็ทำให้สิ่งมีชีวิตบนโลกปลอดภัยจากอันตรายที่จะเกิดจากรังสีอัลตราไวโอเลต
      ** ความหนาแน่นของอากาศ คืออัตราส่วนระหว่างมวลกับปริมาณของอากาศ
      *** ร่องความกดอากาศต่ำ คือ แนวบริเวณที่มีความกดอากาศต่ำ ซึ่งเกิดจากการที่ลมจากซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้มาพบกัน ทำให้มีการลอยตัวของอากาศ และความกดอากาศต่ำของบริเวณใกล้เคียง ในบริเวณร่องความกดอากาศต่ำมักจะมีฝนตกหนักและลมแรง

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×