ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    You're My Slave เพราะคุณ..คือทาสผม [B.A.P]

    ลำดับตอนที่ #2 : Part 1 ...ความทรงจำสีเลือด (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 26 มี.ค. 56


    Title :: You’re my slave part 1

    Author :: เด็กติดเอ๋อ (‘ ‘ )

    Couple :: Bangchan

    Talk :: หลังจากที่ปล่อยตัว Intro ไปไม่นานก็ขอบคุณสำหรับการคอมเม้นและการแวะเข้ามาชมนะฮะ >__< สำหรับ PART 1 นี่ก็คงจะเป็นตอนสำหรับพระนางเค้าได้พบกันจริงๆน่ะฮ่ะ อาจมีสืบสาวความหลังกันนิดนึง ติดตามชมนะคะ XD

     

     

                    จงออบเดินทางร่างของทาสหนุ่มเข้ามาภายในคฤหาสน์ของยงกุก ที่แม้จะเปิดไฟ มีแสงไฟสีทองของแชงเดอเรียมาช่วยแล้ว แต่มันก็ไม่ได้ทำให้คฤหาสน์ดูสว่างขึ้นมาเลย เพราะทั้งคฤหาสน์นี้ยงกุกตกแต่งไว้ด้วยสีโทนดำหมด โต๊ะ พรม แม้แต่ผนังก็ดำ และจงออบก็มาหยุดเดินตรงบริเวณบันไดวน


                    “ ห้องของเฮียอ่ะ เดินขึ้นบันไดนี้ไปก็ถึงแล้ว มันมีแค่ห้องเดียวแหละที่บันไดนี้เชื่อมไปถึงได้ “


                    “ แสดงว่ามีบันไดอื่นอีก ?


                    “ ใช่ ..คฤหาสน์นี้เรามีบันไดกันหลายส่วนเพื่อแยกโซนกัน แต่จะมีบันไดของส่วนกลางนี่แหละที่เชื่อมเข้าสู่ห้องเฮียโดยตรงเลย เป็นทาสเขาแล้ว อยู่ๆไปเดี๋ยวก็รู้เองแหละ...เอ้า ขึ้นไปดิ ฉันจะได้ไปนอนละ - - “ จงออบทำมือไล่ๆชายหนุ่มตรงหน้าให้ไปเร็วๆ เพราะจงออบเซงตัวเองที่นอกจากจะเป็นพิธีกรแล้วโดนพวกมาเฟียด่า งานประมูลทาสวันนี้เขาก็ไม่ได้ประมูลใครติดมือกลับมาเลยสักคน ...แถมสุดท้าย ต้องมาอยู่กับไอ้ทาสใหม่จอมหยิ่งนี่อีก -___- มุนจะไม่ทน !

     

                    “ นาย ...จะไม่แก้โซ่ให้ฉันหน่อยหรือไง ? :) “ ร่างบางส่งยิ้มให้จงออบ เขาแค่ลองใจคนตรงหน้าเฉยๆ เพราะเท่าที่เห็นจงออบแทบจะไม่ได้สนหรืออะไรกับเขาเลยด้วยซ้ำ แม้แต่โซ่ตรวนที่โดนล่ามมา เขาก็จัดการเอามันออกไปเรียบร้อยแล้ว แค่แกล้งทำเดินเอามือขัดหลังเข้ามาแค่นั้นเอง ...มุนจงออบ นายจะไม่สงสัยอะไรเลยใช่มั้ย นายขาดทักษะด้านนี้ไปแล้วนะ


     

                    “ ไม่อ่ะ ..ไม่อยากแตะต้องนาย เอาไปให้เฮียแก้ให้เองละกันนะ =_= ขืนฉันแตะต้องนายมาก เดี๋ยวเฮียอาจจะฆ่าฉันก็เป็นได้ ค่าตัวสูงลิ่วๆเป็นตำนานซะขนาดนั้น “ จงออบพูดแล้วถอยห่างออก ราวกับไม่ต้องการแตะต้องอะไรทั้งสิ้น ทาสหนุ่มหัวเราะเบาๆแล้วค่อยๆเดินถอยหลังขึ้นบันไดวนไปสองสามขั้น สายตาเขายังคงจับมองไปที่จงออบ


     

                    “ งั้นหรอ ...งั้นก็ขอบคุณนะ ..ฉันคิมฮิมชาน :) นายละ “



                    “ มุน...มุนจงออบ “ จงออบมองหน้าฮิมชานอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ว่าในที่สุดร่างนี้ก็ยอมบอกชื่อแซ่กับเขาเสียที


     

                    “ ยินดีที่ได้รู้จักมุนจงออบ ... “ แล้วฮิมชานก็รีบเดินขึ้นบันไดวนไปอย่างรวดเร็วเพราะกลัวจะถูกจงออบจับได้เรื่องที่โซ่ตรวนโดนปลดเรียบร้อยแล้ว



                    ฮิมชานเมื่อเดินขึ้นมาถึงชั้นสองก็พบกับทางเลี้ยวสองทางแยก ที่ไม่ว่าจะเลือกเดินทางไหนมันก็ตรงไปสู่ประตูไม้ห้องตรงกลางอยู่ดี ร่างบางยืนนิ่งเพื่อเรียกสติชั่วครู่ เขาต้องทำใจให้เย็นกว่านี้ เพื่อเล่นละครตบตาไอ้หัวหน้ามาเฟียนั่น เขาไม่รู้หรอกนะว่าหน้าตามันเป็นยังไง มันคือใครไอ้คนที่ประมูล แต่สำหรับเขาแล้ว คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพวกมาเฟีย มันสมควรโดนฆ่าให้หมด !


     

                    มือเรียวเอื้อมไปสัมผัสด้ามมีดเพื่อตรวจสอบว่ามันยังอยู่พร้อมเพื่อให้เขาลงมือ และมันก็ยังอยู่..มันทำให้ใจของฮิมชานเต้นไม่เป็นจังหวะขึ้นมา เมื่อคิดว่าเขาต้องทำอะไรต่อไป ..ฮิมชานสูดลมหายใจเข้าแล้วถอนหายใจออกมาหนักๆ ก่อนจะเริ่มเอื้อมมือไปบิดกลอนประตูเพื่อเข้าไปในห้องของหัวหน้ามาเฟียนั่น ร่างบางยิ้มในใจให้กับความสำเร็จก้าวแรกของตัวเอง และกำลังคิดถึงความหอมหวานของความสำเร็จก้าวต่อไป เมื่อได้ย่างเท้าเข้าสู่ห้องนี้ ...โดยไม่รู้เลยว่า เขากำลังถูกจับตามองอยู่จากสายตาเหยี่ยวที่สุดแสนจะเย็นชาตรงมุมมืดของบันไดวนชั้นสอง ร่างนั้นค่อยๆลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเมื่อเห็นว่าฮิมชานเข้าห้องไปเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าและผิวขาวซีดอยู่แล้ว ยิ่งเมื่อมาทำผมสีเทาและไฮไลท์แดงสดนั่น ยิ่งทำให้เขา....จุนฮง ยิ่งดูขาวขึ้นไปใหญ่



     

                    จุนฮงเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนกดสายด่วนหาเพื่อนร่วมแก๊งค์อีกคนที่คาดว่าคงอยู่ไม่ไกลไปจากบริเวณนี้นักหรอก


     

                    “ ฮยองทำพลาด ... ทักษะนักล่าและไหวพริบ ความรอบคอบของฮยองอ่ะ ตกไปแล้วนะรู้ป่ะ “ แม้จะพูดด้วยเสียงที่เหมือนเด็กน้อยบ่น แต่ดวงตาที่ถูกกรีดด้วยอายน์สีดำจนคมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของจุนฮงนั้น กลับมองไปยังประตูห้องเหมือนรอคอยสัญญาณการช่วยเหลือจากยงกุก




     

                    “ หึๆ...แกนั่นแหละพลาด ไอ้เด็กโง่ “ ปลายสายตอบกลับมาด้วยเสียงเยือกเย็นเช่นกันต่างจากที่เคยได้ยินจากในงานประมูลทาส หรือบทสนทนากับฮิมชานเมื่อครู่นี้ เพราะนึ่คือมุนจงออบ นักฆ่าสองหน้า ลูกน้องอันดับ 1 ที่ยงกุกให้ความไว้วางใจและยกย่องมากที่สุด ..เพราะด้วยความที่จงออบเหมือนมีสองบุคลิกในคนเดียวแบบนี้ ยงกุกจึงส่งไปทำงานมืดหลายงานมาแล้ว ด้วยการหลอกเหยื่อด้วยหลุมพรางแสนตื้นๆแบบที่คนทั่วไปก็มองเห็นนั่นแหละ ...มอง มองว่าจงออบใสซื่อ เพี้ยนๆ ผมว่าคุณเองก็กำลังถูกเขาหลอกอยู่เหมือนกันใช่มั้ยฮะ :)



     

                    “ ฮยองเอาอะไรมาพูดว่าผมโง่ ..”



                    “ แกมัวแต่ไปส่งสาวๆขึ้นสวรรค์อยู่หรือไง แกถึงรู้งานช้าไปสักพักหนึ่งน่ะ ..ทำไมฉันจะดูไม่ออกละจุนฮง ว่าคิมฮิมชานน่ะ ปลดโซ่ตรวนได้เองตั้งแต่ในรถตู้แล้ว “ ใช่แล้ว เขารู้มาตั้งแต่ตอนนั้นแล้วนั่นแหละ




                    “ แล้วทำไมฮยองถึง !



                    “ ปล่อยคิมฮิมชานขึ้นไปหาเฮียง่ายๆน่ะหรอ ...อืมมม ฉันว่าแกก็น่าจะรู้จักอารมณ์เฮีย และความเป็นเฮียนะ เฮียไม่ชอบอะไรที่ง่ายๆน่ะ มีโซ่ล่ามไว้มันก็ง่ายไปป่ะ ต้องให้เหยื่อมันได้โอกาสต่อสู้ กัดให้เจ็บก่อนบ้าง ...อันที่จริงนะจุนฮง ...”



     

                    “ อันที่จริงอะไร !?





                    “ ฉันคือคนแอบทิ้งของให้ฮิมชานเก็บไว้สำหรับการเอาโซ่ตรวนออกเองแหละ ตั้งแต่งานประมูลทาสแล้ว ฉันก็แค่ทำตัวเป็นคนเด๋อด๋าทำของตกไว้ต่อหน้ามันก็แค่นั้นเอง ถ้ามันฉลาดมันก็อาจคิดต่อได้ว่าควรเอาของนี้ไปทำไร ....แล้วมันก็ฉลาดสมกับเป็นคนตระกูลคิมจริงๆด้วย ~ “ จงออบพูดอย่างอารมณ์ดี ส่วนจุนฮงได้แต่ทำหน้ามุ่ยลง ที่ตัวเองเดาแผนการณ์ของจงออบช้าไปหลายก้าว



     

                    “ แล้วก็นะ... “



                    “ แล้วอะไรอีก ..ฮยองจะทำให้ผมดูโง่ไปถึงไหนเนี่ย -___-




                    “ นายเป็นคนโทรมาหาฉันเองจุนฮง ~ …สิ่งที่ฉันจะบอกก็คือ ฉันได้โทรบอกเฮียไปแล้วด้วยว่าฮิมชานมันปลดโซ่ตรวนได้แล้วให้ระวังตัวเอาไว้ด้วย และแกล้งทำเป็นไม่รู้ไว้ซะ เพราะฉะนั้น ...มันยังมีส่วนตรงไหนที่ฉันพลาดอีกมั้ยจุนฮง หืมม ~ “ จุนฮงเอามือถือออกจากหูก่อนจะขมุบขมิบปากเป็นคำว่า “ ไอ้บ้า “ ออกมา




     

                    “ จุนฮง ...กรุณาอย่าแอบด่าฉันขณะที่นายยังเหยียบอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ ..ฉันเห็นแกขมุบขมิบปากนะ อย่าลืมดิ แกอยู่ในพิกัดกล้องวงจรปิดอยู่ และฉัน..ก็อยู่ในห้องคุมกล้องวงจรปิด  “ เสียงของจงออบมันดังมากระทบสมองน้อยของจุนฮงทันที ทำให้เขาอยากเอาหัวตัวเองโขกกับเสาแล้วไถลศพตัวเองลงไปตามราวบันไดวนจริงๆ



     

                    “ ก็ถ้าฮยองจะจับตาดูผมซะขนาดนั้นอ่ะนะ - -





                    “ ก็ถ้านายไม่โง่ซะแบบนี้ ฉันก็คงไม่ต้องมาจับตาดูนายหรอก เด็กน้อย ~ ..ไปนอนได้แล้วนายน่ะ นอนเยอะๆ เผื่อเซลล์สมองของนายจะเจริญเติบโตขึ้นแทนความสูงนะ ~ “ ....จุนฮงเงียบไปสักพักเมื่อได้ยินปลายสายนั่นพูดถึงเรื่องความสูง เด็กชายยิ้มออกมาเล็กน้อยอย่างมีชัย ที่ปลายสายนั้นทำพลาดซะแล้ว




     

                    “ ถ้างั้นฮยองก็คงนอนเพาะเซลล์สมองเยอะ จนลืมเอาไปเพาะความสูงใช่มั้ยฮะ ~





                    “ ไอ้...จุนฮง !!!! แก   กริ๊ก ! “ยังไม่ทันที่จงออบจะได้ตอบอะไรกลับมา นิ้วเรียวก็กดวางสายลงทันที จุนฮงยัดมือลงกระเป๋ากางเกงแล้วหันขึ้นไปมองกล้องวงจรปิดอย่างท้าทายคนที่กำลังคุมกล้องวงจรปิดอยู่ตอนนี้


     

                    “ ยังไงซะ...ผมก็บอกแล้วไง ..ว่าคืนนี้ ฮยองพลาด ~ :) “ แล้วจุนฮงก็หายตัวกลับเข้าไปยังมุมมืดตามเดิม ทิ้งให้คนในห้องควบคุมกล้องวงจรปิดอย่างจงออบบังคับกล้องตัวที่จับหน้าจุนฮงเมื่อครู่ส่ายไปมาอย่างบ้าคลั่ง


    “ ฉันจะเอาคืนแก ไอ้จุนฮง !!!!!


     

     

     

    70%

     

    แอ๊ดดดดด...


                    ทันทีที่เปิดประตูเข้าไป ร่างบางก็สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกของห้องนอนทันที มือของฮิมชานพยายามควานหาสวิตซ์ไฟ และเมื่อกดเปิดมัน โคมไฟสีส้มบริเวณกลางห้องก็สว่างขึ้นมา แต่มันเป็นเพียงแค่แสงสลัวเท่านั้นที่ทำให้ฮิมชานเห็นว่านี่เหมือนเป็นจุดรับแขก เพราะมีโซฟาสีดำตั้งอยู่ ด้านข้างของผนังทั้งสองฝั่งยังมีซุ้มประตูโค้งให้เดินไปได้ต่อ แต่ยังไม่ทันได้ก้าวไปไหน ร่างบางก็ต้องส่งเสียงร้องทันที


     

                    “ อื้อ...อ่อยย !!!! “ มีใครบางคนโผล่มาจากมุมมืดที่มองไม่เห็นและปิดปากของฮิมชานไว้ ร่างบางพยายามจะดิ้นและแกะมือนั้นออก แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะมือแกร่งนั้นล็อคไว้แน่นมาก ยิ่งดิ้นมือนั้นก็ยิ่งบีบมากขึ้น ทำให้ฮิมรู้สึกเจ็บมากขึ้นไปอีก



                    “ สวัสดี..ทาสของฉัน “ เสียงทุ้มต่ำเอ่ยกระซิบที่ข้างหู ฮิมชานไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขา แต่ทำไมลมหายใจอุ่นๆที่หายใจมารดตั้งแต่ใบหูลากลงมาจนถึงคอเขานั้น มันทำให้รู้สึกแปลกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก แต่นี่มันไม่ใช่เวลาที่จะมารู้สึกแบบนั้นสักหน่อย !

     

                    “ โอ้ ดูเหมือนนายจะอยากพูดอะไรนะ “ เสียงนั้นเอ่ยพร้อมยอมปล่อยมือออกจากปากของร่างบาง แต่ก็ยังจับล็อคที่คอตรึงไว้ไม่ให้ร่างนั้นหันกลับมามามองตนได้



                    “ แกเป็นใคร !!



                    “ ฉันหรอ .. คนเคยรู้จัก อดีตของตอนนี้ละมั้ง ...” ยิ่งร่างนั้นพูดเท่าไหร่ ฮิมชานก็ยิ่งไม่เข้าใจ



                    “ ฉันไปรู้จักแกตอนไหน !





                    “ จำฉันไม่ได้จริงๆหรอ...คิมฮิมชาน หึ “ ร่างนั้นผลักฮิมชานให้ร่วงลงไปที่พื้น ร่างของฮิมชานกระแทกกับพื้นอย่างจัง โดยมีมือของเขาที่ร่วงลงไปกระแทกก่อนทำให้ตอนนี้ฮิมชานรู้สึกปวดอย่างแรงจนขยับมือข้างนั้นแทบไม่ได้ ...






                    “ โทษที รู้สึกจะผลักแรงไปหน่อยนะ “ แรงไปหน่อยหรอ มันไม่หน่อยเลยสักนิด ร่างบางกำมือข้างที่ไม่เป็นอะไรแน่นด้วยความโกรธ ก่อนจะค่อยๆยันตัวเองให้ลุกขึ้นเพื่อหันไปประชันหน้ากับไอ้คนที่มันทำแบบนี้ และเมื่อดวงตาเรียวเล็กได้มองเข้าไปในความมืดนั้น ก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ




    ร่างสูงที่ยืนอยู่ในความมืดค่อยๆเดินออกมาจากตรงนั้น เพื่อให้ฮิมชานได้เห็นหน้าของเขา แม้จะเป็นเพียงแค่เสี้ยวเดียวของหน้าที่แสงของพระจันทร์สาดส่องเข้ามากระทบพอดี แต่มันก็คือเสี้ยวหน้าที่ทำให้เลือดในตัวเขาเย็นเฉียบทันที





     

    “ แก..บัง...บังยงกุก !!! ” ร่างสูงนามบังยงกุกเหยียดยิ้มที่มุมปากทันทีที่เห็นปฏิกริยาของร่างบางตรงหน้า





    “ ไง..จำฉันได้แล้วหรอ “



    “ แต่คนอย่างแก..มันต้องอยู่ในคุกสิ แล้วนี่มันอะไร !






    “ ก็ถ้าฉันอยู่ในคุก ..แล้วที่ที่นายเหยียบอยู่นี่ละจะว่ายังไง ..จะบอกให้นะคุณหนู นี่คือบ้านฉัน ..บังยงกุก ไอ้เด็กคุกไงละ !!! “ ร่างสูงตรงปี่เข้ามาบีบไหล่ของฮิมชานนั่นพร้อมกับตะโกนลั่นด้วยความโกรธไม่แพ้กัน ยิ่งเห็นหน้าคนตรงหน้ามันยิ่งโกรธ เรื่องราวในอดีตทั้งหมดนั่นมันยิ่งผุดขึ้นมาในหัวของยงกุกเรื่อยๆเหมือนกับมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ...เมื่อวานนี้เองที่เค้าได้คุยกับพี่ชายของเขา



     

    “ อย่ามาแตะต้องตัวฉัน ! “ ฮิมชานผลักตัวยงกุกออกไป ทำให้ยงกุกหลุดออกจากภาพเมื่อครู่แล้วหันกลับมาสนใจร่างตรงหน้าอีกครั้ง ...หึ โง่ชะมัด ลำพังต่อให้ฮิมชานมีอาวุธมาพร้อมก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว นี่อะไรแขนเจ็บไปข้างนึงแล้ว ยังมาทำเป็นลูกแมวที่พองขนฮึดสู้อีก น่าขำชะมัด :)



     

    “ ทำไมฉันจะแตะต้องตัวแกไม่ได้ละ ..ในเมื่อฉันซื้อแกมา ว่ายังไงละ  ทาสของฉัน ...” ยงกุกจงใจเน้นคำสุดท้ายให้ฮิมชานฟัง คนตรงหน้ายิ่งดูเดือดขึ้นอย่างแรง แต่ก็พยายามกัดปากข่มไว้



     

    “ ฉันไม่ใช่ทาสของแก ฉันคือคิมฮิมชาน ฉันอยู่เหนือแก ... “ ฮิมชานพึมพำออกมาราวกับพยายามไซโคตัวเองให้อยู่ในดินแดนแห่งความสุขอยู่ แต่ไม่หรอกต่อให้หลอกตัวเองแค่ไหน ยงกุกคนนี้ก็อยากให้คนตรงหน้ารับรู้ความจริงได้แล้วว่าตอนนี้เขากำลังอยู่ใน...นรก



     

    “ เลิกหลอกตัวเองได้แล้ว คิมฮิมชาน ...ตอนนี้แกคือทาสของฉัน คนที่ฉันประมูลซื้อมาด้วยราคาแพงที่สุด แกไม่ใช่คุณหนูตระกูลคิมที่มีพ่อแม่จิตใจเลือดเย็นคอยปกป้องอีกต่อไปละ ..แกมัน ..” ร่างสูงเงียบไปเมื่อรู้สึกถึงอะไรแหลมคมเฉือนเข้าที่แก้มของเขาไป และเมื่อจับดูก็เป็นอย่างที่คิด เลือดจำนวนหนึ่งค่อยๆไหลออกมาจากบาดแผลนั้น ...บาดแผลที่คนตรงหน้าเพิ่งสร้างให้เขา เขารู้อยู่แล้วละว่าฮิมชานปลดโซ่ที่ข้อมือได้แล้ว และมีอาวุธเข้ามาในห้องนอนเขา แต่ไม่คิดว่าจะใจกล้า กล้าใช้มัน.. หรือเพราะคนตรงหน้ากำลังเข้าใกล้คำว่าบ้าเต็มทนแล้วน่ะ เพราะตอนนี้ฮิมชานกำลังกำมีดในมือด้วยมือที่สั่น แววตาเปลี่ยนไปเป็นอาฆาตแค้น



     

    “ ฉัน ...จะไม่หลอกตัวเอง นี่คือความจริง ..ที่ว่าฉันยังเป็นทายาทของตระกูลคิมอยู่ และแกมันก็ยังเป็นไอ้เด็กคุก ไม่ต่างอะไรกับ...พี่ชายแกไง :)  ยงกุก “


     

    “ แกพูดถึงฉันได้ แต่แกจะไม่มีสิทธิ์พูดอะไรแบบนั้นกับพี่ชายฉัน “




    “ ทำไมจะพูดไม่ได้ละ ...ไอ้ยงกุก ไอ้ยงนัม..ไอ้ขี้คุก ...ไม่สิ ขี้คุกน่ะมันแกคนเดียว ส่วนยงนัมน่ะมัน ..เพียะ !!!!! “ ฮิมชานยังพูดไม่ทันจบก็โดนแรงจากฝ่ามือของยงกุกตบเข้าไปที่หน้าเต็มแรงจนหน้าหัน เขารับรู้ได้ถึงของเหลวอุ่นๆที่เรียกว่าเลือด มันไหลซึมออกมาจากมุมปากของเขา แต่ก็ยังหันไปยิ้มสู้กับคนตรงหน้าอยู่ดี ในมือของเขากำมีดแน่นก่อนจะพุ่งไปหาร่างสูงตรงหน้า





    “ แกตายซะเถอะ !!! “ คมมีดตรงดิ่งเข้ามาเฉียดหน้ายงกุกไปนิดเดียว มันอาจจะปักเข้าที่หน้าเขาเต็มๆถ้าเขาไม่เบี่ยงตัวหลบเมื่อกี๊ พร้อมกับบิดข้อมือของฮิมชานจนมือเล็กทำมีดเล่มนั้นหลุดไปจากมือ ยงกุกใช้เท้าเตะมีดเล่มนั้นให้มันไปอยู่ไกลๆแล้วจัดการลากตัวฮิมชานให้ตรงไปยังโซนห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำรออยู่ ร่างสูงจัดการเหวี่ยงร่างของฮิมชานให้ลงไปในอ่างอาบน้ำ จนร่างของฮิมชานเปียกไปหมด




     

    “ หายบ้ารึยัง !!!





    “ ไม่ !!! …คนอย่างแก มันก็เกิดมาไม่ต่างกับหมา ใช้ชีวิตที่เหมือนหมา และแกก็ต้องตายไปอย่างหมาด้วยบังยงกุก ! เหมือนพี่ชายของแกไง !!!! “ ฮิมชานพูดพร้อมจะลุกขึ้นอีกครั้งแต่ยงกุกรีบลงอ่างมาด้วยพร้อมใช้แขนกั้นล็อคตัวของฮิมชานไว้ไม่ให้ไปไหน มือแกร่งจัดการล็อคมือของฮิมชานทั้งสองข้างได้โดยมือเพียงมือเดียว ส่วนอีกมือนึงตรงเข้าไปบีบที่คางของฮิมชาน ร่างบางส่ายหน้าไปมาด้วยความเจ็บปวด




     

    “ กูเจ็บ !! ปล่อยยย “





    “ ก็ขอตอบว่าไม่..เหมือนกัน และจะบอกอะไรให้ฟังอย่างนะ แกก็ระวังตัวเองไว้ให้ดีละกันไอ้พวกสูงส่งอย่างแกน่ะ ...หมาๆอย่างฉันมันก็ไปคาบให้ลงมาเกลือกกลั้วเป็นหมาด้วยกันหลายคนละ ...แกทำฉันเจ็บ แกก็ต้องเจ็บกว่าฉัน !! “ พูดจบริมฝีปากของยงกุกก็ตรงเข้าไปประทับที่ริมฝีปากบางของฮิมชานทันที ลิ้นร้อนพยายามจะสอดแทรกเข้าไป แต่ฮิมชานกลับยังคงเม้มปากแน่นอยู่ มือข้างที่บีบคางอยู่นั้นก็จัดการบีบให้มันแรงขึ้นกว่าเดิมจนร่างเล็กต้องเผยอปากขึ้นร้องด้วยความเจ็บปวด ยงกุกจึงใช้จังหวะนั้นแทรกลิ้นเข้าไปชิมความหวานในโพรงปากนั้นทันที




     

    ลิ้นร้อนพยายามไล่ต้อนลิ้นของฮิมชานอย่างชำนาญ หากแต่คนตรงหน้านั้นกับเอาแต่หนี และเหมือนจะไม่ประสีประสากับเรื่องนี้ทำให้ร่างสูงเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อยกับความไม่เป็นของฮิมชาน




     

    “ อื้ออ..อ่อยย อู “ ร่างบางรีบทุบอกของยงกุกให้ออกไปเพราะตอนนี้เขาเริ่มจะหมดลมหายใจอยู่ละ ร่างสูงจึงยอมถอนริมฝีปากออกพร้อมกับจ้องไปที่ร่างของฮิมชานอีกครั้ง ใบหน้าขาวซีดที่ตอนนี้เริ่มแดงขึ้นมาเล็กๆจะด้วยอารมณ์โกรธหรือจะอะไรก็ตาม บวกกับริมฝีปากแดงที่กำลังเผยอ มีรอยเลือดที่มุมปาก และเสื้อผ้าที่ตอนนี้เปียกชุ่มด้วยน้ำไปหมด ...มันคงไม่มีคำอะไรจะมาบรรยายได้อีก นอกจากคำว่าสวย...




     

    “ เฮ้ยย ...แกจะทำอะไร ...อ๊ะ !! “ ฮิมชานร้องขึ้นทันทีเมื่อร่างสูงสัมผัสไปที่ตรงเป้ากางเกงของเขา แม้จะมีกางเกงหรือมีน้ำอุ่นๆในอ่างมาร่วมด้วย แต่มันก็รู้สึกแปลกประหลาดขึ้นมาอีกละ




     

    “ แกร้องแบบนั้นน่ะ ..แสดงว่าแกกำลังชอบนะรู้มั้ย ..” ปากก็พูดไป และมือก็ยังคงไม่หยุดลูบไล้ส่วนล่างของฮิมชานอยู่ดี ฮิมชานที่ยังเหมือนไม่เข้าใจในอารมณ์นี้ก็ได้แต่บิดเร่าไปมา แขนได้แต่ปัดป่ายไปตามขอบอ่าง



     

    “ ไม่..ฉะ..ฉันไม่ชอบ “




    “ อ้าว เปลี่ยนสรรพนามกลับมาเป็นฉันแล้วหรอ เมื่อกี๊ยังใช้สรรพนามกูมึงอยู่เลย “ คนตรงหน้ายิ้มยียวนราวกับจงใจแกล้งร่างบางชัดๆ เมื่อยงกุกเห็นว่าฮิมชานเริ่มทนไม่ไหวเขาจึงจัดแจงค่อยๆรูดกางเกงของฮิมชานลง พร้อมกับชั้นในด้วย มือแกร่งจัดการลากมันออกไปพร้อมกันทีเดียว แม้มือของฮิมชานและเสียงร้องห้ามจะดังขึ้นเขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะทำ แต่กลับดึงตัวฮิมชานให้ขึ้นมานั่งพาดกับขอบอ่าง เผยให้เห็นส่วนนั้นของฮิมชานที่กำลังมีความต้องการอย่างชัดเจน ร่างสูงกำลังจะหน้าลงไปปรนเปรอและสอนต่อให้ หากแต่....

     

     

     

     

     

     

    “ เฮียยย !!!!!! ไอ้บ้านั่นมันมาว่ะเฮียย แม่งยกพวกกันมาเลยเฮีย ....เฮ้ยยย ! เฮียย !!!! ..O.O โอ้วว ว้าวว“ จงออบนั่นเอง ที่เข้ามาส่งเสียงโหวกเหวกโวยวายจากตอนแรกที่เข้ามาบอกข่าวตาหยีด้วยความรีบร้อน เมื่อลืมตาขึ้นมองภาพตรงหน้าดีๆ ตาหยีๆนั่นกลับเบิกกว้างขึ้นทันใด และมันกลับจ้องอยู่นานซะด้วยสิ นานเสียจนยงกุกต้องรีบวักน้ำสาดใส่หน้ามัน



     

    “ จะจ้องทำไมนักหนาวะไอ้ออบ !!! ออกไปก่อนสิเฮ้ยย “



    “ เออว่ะ ..ขอโทษครับเฮีย =_=; “ แล้วมุนจงออบก็รีบปิดประตูออกไป



     

    ยงกุกลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากอ่างด้วยความไม่พอใจ แต่แล้วก็นึกถึงฮิมชานขึ้นมาจึงหันไปมองเรือนร่างตรงหน้าที่ค่อยๆจะพยายามฝังตัวเองลงอ่างอาบน้ำไปเรื่อยๆแล้วก็ขำในใจ คุณหนูคิมฮิมชานคนดีคงจะอายมากเลยละสิท่า


     

    “ จัดการต่อเองละกันนะ ..ทำตามสัญชาตญาณเองละกัน “ พูดจบยงกุกก็เดินออกจากห้องน้ำไปทั้งๆที่..ตัว ยัง เปียก - -

     

     

     

    ภายในจุดรับแขก


     

    “ มีอะไรก็ว่ามาไอ้ออบ ...” ยงกุกเอ่ยขึ้นเรียกจงออบที่ยืนรออยู่ตรงโซฟา จงออบมองสภาพคนตรงหน้าด้วยความระอาใจ

     

    “ เฮียจะไม่..เปลี่ยนชุดก่อนหรือครับ “



    “ เรื่องของฉัน ..มีอะไรก็ว่ามา ใครกันที่มา ชื่ออยู่ในลิสต์ระดับไหน ...ถ้าต่ำกว่าบีแล้วแกมาเรียกฉัน ฉันจะเอาปืนระเบิดหัวแก จงออบ  - - “ แหงละ เพราะภายในแก๊งของยงกุกจะมีการจัดสรรรายชื่อแขกและศัตรูออกเป็นลิสต์ ไล่ตั้งแต่ระดับ A – F ซึ่งถ้าเป็นระดับ A-B ถือเป็นแขกระดับพิเศษที่ยงกุกจะยอมไปพบปะพูดคุยด้วย แต่ส่วนใหญ่ระดับบีนี่ก็พบบ้างไม่พบบ้างนะ แล้วแต่อารมณ์ นอกนั้นถ้าต่ำกว่านี้เป็นต้นไปจะให้จงออบ และจุนฮงเป็นคนจัดการพูดคุยด้วยซะมากกว่า




     

    “ โหย เฮีย...คนนี้อ่ะ ระดับ A โคตรบวกๆๆๆๆๆเลย “





    “ ใครวะ -___-




    “ เมียเฮีย ... “ สิ้นคำพูดของจงออบ ยงกุกก็รีบลุกขึ้นยืนแล้วตรงเข้าไปในห้องนอนทันที พร้อมกับก้าวเท้าออกมาด้วยความรวดเร็ว และชูของบางอย่างส่งมายังจงออบ

     

     

     

    “ จงออบ ..นี่ไม่ใช่เวลามาล้อเล่น -__- +++ จะรีบบอกมาดีๆ หรือจะไปบอกยมบาลในนรก “ ยงกุกส่องปลายกระบอกปืนมายังหัวของจงออบทันที แถมเล็งตรงกลางหน้าผากพอดีซะด้วย



     

    “ ขอโทษที่เล่นนะเฮีย T_T เอาปืนลงๆ ใจเย็นๆครับ “ ยงกุกจึงยอมลดกระบอกปืนลง



     

    “ กูยังไม่มีเมีย ..จำไว้ “





    “ มีแล้วหลายคนไม่ใช่หรือไง “ ประโยคนี้จงออบพึมพำกับตัวเองเบาๆ



    “ แกว่าไงนะ “




    “ เปล่าครับ -_- …คือคนที่ผมบอกว่าสำคัญมากๆน่ะ คนนี้ก็คือ ...... “

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ห้องโถงรับแขกชั้นล่าง



     

    กลุ่มชายชุดสีดำที่ดันใส่สีเหมือนกันทั้งสองฝ่ายกำลังนั่งเผชิญหน้ากันอยู่โดยฝ่ายนึงนั้น หัวหน้าในการคุยกำลังนั่งสูบบุหรี่อย่างสบายใจที่โซฟา ส่วนอีกฝ่ายก็ได้แต่นั่งประสานมือจ้องด้วยแววตาความไม่ไว้วางใจอยู่



     

    “ บุหรี่มั้ยครับ ? “ ร่างสูงยื่นไปให้คนตรงหน้า แต่คนตรงหน้ากลับทำสีหน้าขยะแขยงใส่






    “ โทษที ฉันไม่ชอบของสกปรกน่ะ ...ว่าแต่นายเถอะ จะพาเข้าเรื่องได้ยัง ดูถ่วงเวลาจังนะ “ ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาเอ่ย ใบหน้านั้นเอ่ยยิ้มขึ้นทันทีด้วยความมั่นใจตัวเองในวันนี้ ว่าสิ่งที่เขาทำจะต้องสำเร็จแน่นอน



     

    “ หึๆๆ ....” แต่เพราะเสียงหัวเราะเย็นเยียบนั่น มันทำให้รอยยิ้มของเขาหายไป กลับเป็นการขมวดคิ้วแทน เพราะคนตรงหน้ามันดูสบายใจเหลือเกิน





    “ แกขำอะไรไม่ทราบ !



    “ ผมขำหน้าของสารวัตรน่ะครับ ...สารวัตรแดฮยอน ! ไม่รู้จะเรียกว่าสีหน้าแบบไหนดีนะ สีหน้าแบบคนที่มันมั่นใจล้นเหลือซะเต็มประดา หรือหน้าแบบ..คนโง่ๆคนนึงกันแน่ “ ร่างสูงไม่พูดเปล่า เขาเดินมาใกล้ๆจนหยุดลงตรงหน้าสารวัตรหนุ่มที่ชื่อแดฮยอน พร้อมกับพ่นควันบุหรี่ใส่



     

    “ แก...ไอ้ลีจุน !!! “ แดฮยอนพูดขึ้นด้วยความโกรธทั้งในคำพูดของลีจุน และกิริยาท่าทางต่ำๆแบบนั้นด้วย สารวัตรหนุ่มไม่รอช้ารีบชักปืนขึ้นมาส่องตรงหน้าลีจุนทันที แต่ถึงยังงั้นลีจุนก็ยังคงนั่งยิ้มและสูบบุหรี่ต่อไปอย่างไม่เกรงกลัว




    “ เฮ้อออ ...เบื่อจริง เด็กพวกนี้ “ ลีจุนพูดจบก็จัดการบี้มวนบุหรี่ลงกับโต๊ะทันที แล้วดีดมันใส่หน้าของแดฮยอนที่ยังยืนถือปืนมาทางเขา ใบหน้าหล่อร้ายตามแบบฉบับของผู้ชายแบดบอย ที่นอกจากจะมีหน้าตาแนวนั้นแล้ว ลีจุนยังแทบจะเป็นสมาชิกของกลุ่มคนเดียวที่ขึ้นชื่อเรื่องการแต่งตัว หูของเขายังถูกเจาะแล้วยัดด้วยจิวสีดำเต็มไปหมด ไหนจะรูปร่างที่มีแต่กล้ามเนื้อเต็มไปหมด หุ่นแบบที่เรียกว่าสาวๆชอบและใฝ่ฝันถึงกันนั่นแหละ และจุดที่สะดุดตาที่สุดของลีจุนคงจะเป็นกำไลข้อมือ แต่คนในแก๊งมาเฟียคงจะไม่ใส่กำไลธรรมดาหรอกจริงมั้ย เพราะเมื่อถ้าถอดกำไลนี้มาดูดีๆ จะพบรอยคราบเลือดที่แห้งกรังมากมายบนเส้นเอ็นที่ซ่อนไว้ในกำไลนี้...ถูกแล้ว มันคืออาวุธ ในกำไลนี้เมื่อเปิดแล้วกดยืดมัน มันจะเป็นเส้นเอ็นยาวๆที่ทำเป็นอาวุธสังหารระยะประชิดได้ทันที เพราะเขาคือ ...ลีจุน นักฆ่าที่หนึ่งของแก๊งของยงกุก




     

    “ ...ทำไมนายไม่ลองใจเย็นๆดูบ้างละแดฮยอน ..แกก็เห็นใช่มั้ยว่านายของฉันเขายังไม่ลงมา ฉันก็แค่อยู่เป็นเพื่อนคุยเล่นกับแกเฉยๆ ...บุหรี่มั้ย ? “ ลีจุนพูดพร้อมยื่นมวนบุหรี่มาให้แดฮยอนอีกครั้ง แดฮยอนจึงทำการขึ้นไกเป็นเสียงที่ทำให้ลีจุนยิ้มออกมาอีกแล้ว




     

    “ เด็กจริง ...ใจร้อน วู่วาม จริงนะสารวัตร “




                    “ แกก็หยุดเดินเป็นแมวพันแข้งพันขาฉันได้แล้ว ลีจุน “ แดฮยอนพยายามข่มกลั้นอารมณ์ เมื่อลีจุนเอาแต่เดินเอามือไขว้หลัง วนรอบเขาไปมา


                   

                    “ เบื่อจริงว่ะ กลับมาถึงบ้านไม่นาน แทนที่จะได้นอน ..กลับต้องมาเจอกับแขกสุดที่รักของเฮียอีก ..เฮ้อออ ... เอาบุหรี่ป่ะ ~ “ คำว่าบุหรี่มั้ยๆ ของลีจุนมันกำลังสั่งให้แดฮยอนลั่นไกใส่หัวไอ้บ้านี่สักสิบนัดรัวๆ




                    “ เป็นผมนะ ผมจะแนะนำให้คุณวางปืนลง ..เพราะผมไม่อยากสู้กับพวกไก่อ่อน มันเสียเวลาและ...ปังงง !!! “ ยังไม่ทันที่ลีจุนจะได้พูดจบเสียงปืนจากแดฮยอนก็ลั่นขึ้น แต่ลูกกระสุนมันกลับพุ่งตรงไปฝังกับรูปภาพผู้หญิงด้านหลังของลีจุนแทน นิ้วเรียวของลีจุนไล้ไปตามรูปภาพ





     

                    “ โห คุณผู้หญิงครับ ..คุณต้องเสียโฉมเลยนะ ..แต่ไม่ต้องห่วงนะ เขาจะยิงได้แค่นัดเดียวแหละ “ สายตาที่คมประดุจเหยี่ยวลากผ่านจากรูปภาพหญิงสาวแล้วหันมาจ้องกับปลายกระบอกปืนของแดฮยอน ซึ่งตอนนี้แดฮยอนได้แต่หันไปยิ้มให้กับกลุ่มตำรวจที่ล้อเล่นกับคนอย่างลีจุนได้





     

                    “ โอ๊ยยย !!! “ เสียงร้องของแดฮยอนดังขึ้น พร้อมกับกระบอกปืนของตัวเองที่ร่วงลงที่พื้น เขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่พุ่งตรงมาปักที่ฝ่ามือของเขา .... มีดนั่นเอง




                    “ โทษทีนะ ง่วงแล้ว เลยปาไม่แม่นไปหน่อย :) “ ลีจุนกำลังเหยียดยิ้มให้อยู่ ณ จุดเดิม แต่เขากำลังเก็บปลอกมีดลงใส่กระเป๋ากางเกง



     

    “ ลีจุน แก.. “ แดฮยอนเรียกชื่อด้วยความโกรธแล้วก้มลงจะเก็บปืนที่ตกอยู่ แต่มีมือของใครบางคนมาเก็บมันไปก่อนแล้ว และเมื่อแดฮยอนมองใบหน้านั้น ก็พบกับคนที่ตัวเองต้องการตัวอยู่พอดี




    “ สวัสดียามค่ำคืนครับสารวัตร มาเยี่ยมพวกผมซะดึกเลยนะ “ ยงกุกส่งยิ้มทักทายไปให้แดฮยอน แต่ก็ยังคงไม่ส่งปืนคืนให้อยู่ดีได้ถือแล้วลูบไล้มันราวกับมันคือทารกที่น่าทะนุถนอม แล้วนั่งลงบนโซฟาอย่างอารมณ์ดี แดฮยอนส่ายหน้าไปมาอย่างหงุดหงิดแล้วมองไปที่ด้านหลังก็พบกับด้านหลังที่มีลูกสมุนอย่างจุนฮงเดินเข้ามาสมทบอีก ...แต่รู้สึกเหมือนจะขาดๆอะไรไปนะ




     

    “ มองอะไรอยู่ครับสารวัตร ? ไม่ใช่ผมหรอครับ ที่คุณต้องการคุยด้วย ...หรือยังไงครับ ไม่งั้นผมจะได้ขึ้นไปนอนละนะ “



    “ นั่งอยู่นี่ ..ฉันแค่มองหาลูกน้องนายอีกคน ..ไอ้คนที่หน้าตี๋ๆนั่นน่ะ ปกติตามติดแกมาพร้อมกับจุนฮงไม่ใช่หรอ ...มันไปไหนซะละ “ แดฮยอนหรี่ตามองยงกุกอย่างจับผิด




    “ มันอาบน้ำอยู่ เดี๋ยวมันก็ลงมา ... อ้าวนั่น ลีจุนใช่มั้ยนั่น กลับมาแล้วหรอ “ ยงกุกเมินสายตาของแดฮยอนแล้วหันไปต้อนรับลีจุนลูกน้องคนสำคัญที่เพิ่งกลับมาจากการทำงานให้แก๊งเสร็จ ลีจุนยิ้มแล้วลุกขึ้นโค้งทำความเคารพให้กับยงกุก





     

    “ กลับมาสูบบุหรี่ได้สักห้ามวนแล้วมั้งเฮีย “



    “ ฮ่า ๆๆๆ งี้สิถึงเป็นลีจุน ไม่เปลี่ยนเลย ...”





    “ อะแฮ่มๆ ..ขอโทษนะ แต่นี่ไม่ใช่เทศกาลต้อนรับญาติ เรามาคุยธุระให้เสร็จก่อนดีกว่านะ “ แดฮยอนกระแอมกระไอขึ้นเล็กน้อยเมื่อรู้สึกว่าตัวเองโดนเมินแบบสุดๆละ เขาหยิบเอกสารขึ้นมาจากแฟ้มแล้วโยนไปให้ยงกุก ซึ่งส่วนใหญ่นั้นเป็นรูปถ่ายเสียหมด รูปถ่ายของยงกุกและลูกน้องที่ออกมาจากงานประมูลทาสไงละ ร่างสูงยิ้มแล้วส่งต่อไปให้ลีจุนและจุนฮงดูกันต่อ




     

    “ แล้วไงครับ สารวัตร ..จะมาจับผม หรือเอาเรื่องอะไรอีก ..ไปเที่ยวผับกับลูกน้องในแก๊ง ? ซีเรียสมั้ยครับเนี่ย “




    “ ฉันรู้ว่าแกไม่ได้แค่ไปเที่ยวยงกุก แต่แกกับลูกน้องทำผิดกฎหมายตรงที่ซื้อประมูลทาสมาด้วย “




    “ มีหลักฐานมั้ยละครับ :)




    “ อ้อ หลักฐานมันต้องมีแน่นอนละ อยู่ในบ้านหลังนี้ไง เพราะตั้งแต่ที่สายของฉันโทรไปรายงาน ฉันถึงรีบเรียกตำรวจเกือบทั้งกองตรงบึ่งมาทันทีไงละ “ แดฮยอนยิ้มในชัยชนะของตน



     

    “ งั้นคุณก็ต้องเสียใจแล้วละครับ ...เพราะเราไม่มีหรอก ทาสนั่นน่ะ :) “ จงออบเอ่ยมาจากบันไดวนชั้นสอง พร้อมกับเดินลงมากับร่างบางอีกคนที่ทำให้แดฮยอนได้แต่จับจ้อง



    “ นั่นใคร ... “



    “ คุณควรมาสนใจในเรื่องธุระของคุณนะสารวัตร ไม่ใช่มาสนใจคนของผมแบบนี้ “ ยงกุกเอ่ยอย่างยิ้มเยาะ


    “ ฉันรู้ๆ แต่ ..ไอ้หมอนั่น ฉันไม่เคยเห็นในแก๊งแกมาก่อน ..มันเป็นใคร ? เดี๋ยวนะฉันคุ้นๆหน้ามัน “



    “ ..... “ ทุกคนเงียบเสียงกันหมด โดยมีแดฮยอนรีบลุกขึ้นเดินตรงไปหาฮิมชานที่ตอนนี้สวมชุดแก๊งของยงกุกอยู่





     

    “ ฉันคุ้นหน้านายจริงๆนะ.. “ แดฮยอนเอ่ยบอกฮิมชานเมื่อมาอยู่ใกล้ๆ ดวงตาเรียวของฮิมชานที่ส่งไปราวกับจะขอให้แดฮยอนช่วย แต่เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อครู่ที่จงออบและยงกุกทำการตกลงกับเขาไว้ เขา...พูดอะไรไม่ได้เลยจริงๆ ไม่แม้แต่จะส่งสายตาขอความช่วยเหลือให้เกิดพิรุธ










     

    15 นาทีก่อน....





     

    หลังจากที่เขาได้จัดการกับตัวเองตามที่ยงกุกบอกว่าให้ทำตามสัญชาตญาณเสร็จ เขาก็ออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับเจอจงออบยืนยิ้มให้เขาและยื่นชุดมาให้ เขาขอบคุณจงออบ แต่ก่อนที่จะได้ลาไปเปลี่ยนชุดใหม่นั้น ยงกุกก็ได้รั้งตัวเขาไว้ก่อน

     

     

    “ รีบเปลี่ยนเสื้อ แล้วตามไอ้ออบลงไปข้างล่าง “



    “ ทำไมฉันต้องตามลงไปด้วย “



    “ ...ก็เพราะถ้านายไม่ตามลงไป ..พ่อแม่นายก็จะตกอยู่ในอันตรายยังไงละ “ เสียงนี้ไม่ใช่เสียงของยงกุก แต่เป็นน้ำเสียงเย็นชามาจากจงออบนั่นเอง เมื่อได้ยินคำว่าพ่อแม่ฮิมชานจึงรีบหันไปมองทันที





    “ พ่อแม่ฉันทำไม !!


    “ อย่าเสียงดังไปที่รัก ...เงียบไว้ สงบปากสงบคำไว้จะดีที่สุดนะ ถ้ายังอยากให้พ่อแม่นายมีชีวิตตามปกติ ...ข้างล่างไอ้แดฮยอน มันพาพรรคพวกตำรวจมา คงจะคุยเรื่องที่พวกเราไปประมูลทาสมา ฉันอยากให้นายเล่นละครตามคำพูดเราเอาไว้ อย่าพูดหรือบอกเป็นนัยๆให้พวกมันรู้ว่านายคือทาสที่ประมูลมาได้ ....ไม่งั้นพ่อแม่นายตาย ... “ ยงกุกเอ่ยกระซิบที่ข้างหูของฮิมชาน ทำให้ดวงตาเรียวนั้นถึงกับมีน้ำตารื้นขึ้นมาทันที



     

    “ พวกเรามีสายอยู่ทั่ว ตามแปปเดียวก็รู้แล้วว่าพ่อแม่นายอยู่ไหน ถ้านายยอมร่วมมือกับเรา เราจะทำเป็นเหมือนไม่รู้ไม่เห็นว่า พ่อแม่นายอยู่ที่ไหนละกัน ..ตกลงมั้ย คิมฮิมชาน “ จงออบมองมาทางเขาเป็นเชิงถาม แต่ก็ได้ยินอยู่แล้วนิว่ามันไม่ใช่ประโยคคำถามเลย เหมือนเป็นประโยคให้ตอบตกลงสถานเดียว




     

    “ คนอย่างฉัน ...” คิมฮิมชานเอ่ยเสียงแผ่ว


    “ .... “



    “ ...มันมีทางเลือกด้วยหรอ..” สิ้นเสียงของฮิมชานทั้งยงกุกและจงออบยิ้มออกมาทันทีในคำตอบอันแสนหวานคำนั้น

     

     

     

    กลับมาที่ปัจจุบัน...

     

    “ ฉันคุ้นหน้านายจริงๆนะ.. “ แดฮยอนเอ่ย ร่างของฮิมชานนิ่ง มือของเขากำหมัดแน่นราวกับกำลังสะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้แล้วปั้นหน้าให้เย็นชาที่สุดตอบไป



     

    “ แต่ฉัน ...ไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้จักแกว่ะ :) “ รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฎบนใบหน้าเรียวใสของฮิมชาน เรียกให้คนที่กำลังเฝ้าจับตาดูอยู่อย่างยงกุกเหยียดยิ้มออกมาอย่างพอใจ



     

    “ ไม่ๆ เราไม่เคยรู้จักกัน แต่เหมือนฉันเคยเห็นหน้านายที่ไหนมาก่อนจริงๆ “





    “ หึ ..สารวัตรครับ คุณจะไม่เคยเห็นได้ไงละ ก็ในเมื่อไอ้หนุ่มนี่ ...มันน้องชายของลีจุน “ เสียงของยงกุกทำให้ทั้งแดฮยอน และฮิมชานหน้าเหวอ แต่คงไม่มีใครจะเหวอไปกว่าชายหนุ่มชุดดำที่ยืนสุบบุหรี่หน้าตาเฉยอยู่ตรงมุมรูปภาพหรอก เพราะลีจุนถึงกับสำลักควันบุหรี่ทันที




     

    “ อะไรนะ !!! น้องชายลีจุน “ แดฮยอนตะโกนเสียงดัง พร้อมกับมองจ้องหน้าของฮิมชานสลับไปมากับใบหน้าของลีจุนที่ตอนนี้เริ่มแดงใกล้ตายเพราะควันบุหรี่ที่สำลักละ





    “ ใช่ ...สารวัตรไม่เห็นหรอ หน้าตาเหมือนกันจะตาย “ ยงกุกยังคงเอ่ยต่อไปอย่างสบายใจเฉิบ



     

    “ แต่ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าลีจุนมันมีน้องชายกับเขาด้วย -__- +++





    “ เอ้า แล้วทำไมสารวัตรต้องไปรู้ทุกเรื่องด้วยละครับ เว้นแต่สารวัตรจะเป็นพวกชอบสอใส่เกือกน่ะ “ ยงกุกเอ่ยแล้วยิ้มอย่างยียวน โดยมีจุนฮงที่จิ้มๆแขนจงออบอยู่ด้านหลัง



     

    “ ฮยอง สอใส่เกือกนี่อะไรอ่ะ “ จุนฮงหันไปถามจงออบที่ยืนอยู่



    “ เสือกไง ..จุนฮง - - “ จงออบตอบกลับด้วยใบหน้านิ่งๆเนือยๆ



    “ อ่อ ..เข้าใจละ ฮยองไม่ต้องเน้นคำนั้นใส่หน้าผมก็ได้นะฮยอง “


     

     

    “ ตอบฉันมาดีๆไม่ได้หรือไงยงกุก ...แต่ก่อนจะตอบนั้น ฉันคงต้องให้ลูกน้องของฉันขึ้นค้นคฤหาสน์แกละนะ “ แดฮยอนหันไปสั่งเหล่าตำรวจที่คอยท่าอยู่นานละให้เตรียมพร้อม และเมื่อเห็นยงกุกพยักหน้าพร้อมผายมือ เหล่าตำรวจก็รีบวิ่งทำงานกันทันทีเพื่อค้นหาทาสที่ประมูลมา แดฮยอนมองหน้าของยงกุกอย่างไม่เข้าใจ ว่าทำไมร่างสูงจึงใจเย็นและทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นขนาดนี้




    “ ดูนายมั่นใจเหลือเกินนะยงกุก .. “



    “ ก็เหมือนกับที่สารวัตรมั่นใจในการตรวจค้นครั้งนี้แหละครับ ความมั่นใจของเรามันเท่ากัน ....อ้าว น้องชายลีจุนมานั่งด้วยกันสิ ยืนแข็งอยู่ตรงนั้นทำไม ..คนพี่ชายด้วยนะ ลีจุนมานั่งนี่สิ “ ฮิมชานและลีจุนเดินเข้ามานั่งที่โซฟากับยงกุกด้วยความมึนงงทั้งคู่


     

    “ สารวัตรมองไม่เห็นความเหมือนหรือครับ ...ต้องใส่แว่นมั้ยครับ ? “ ยงกุกพูดจบก็ทำท่าเหมือนจะควานหาแว่นมาให้ แดฮยอนส่ายหน้าไปมาพร้อมกับจ้องตาไปที่ตาของฮิมชานทันที ราวกับกำลังจะจับผิด





    “ บอกชื่อนายมา ... “ แดฮยอนเอ่ยถาม โดยมียงกุกหันไปมองฮิมชานตามด้วย




    “ ฮิมชาน .. ชื่อฮิมชาน “ จบชื่อของฮิมชาน แดฮยอนก็ขมวดคิ้วแล้วมองหน้ายงกุกทันที




    “ ลีจุน ..ฮิมชาน สองชื่อนี้แทบไม่มีความเกี่ยวข้องไรกันเลยนิ พี่น้องจริงหรอ “




    “ แล้วทำไมพี่น้องกันต้องชื่อคล้ายๆกันด้วยละ ยุคไหนแล้ว แหวกๆแนวมั่งนะสารวัตร เพ่งหน้ามองดีๆดิ สองคนนี้มันหน้าตาเหมือนกันชัดๆ “




     

    “ ถ้าบอกว่าฮิมชานหน้าตาเหมือนนักร้องบอยแบนด์ที่ชื่อท็อปละก็ มันยังน่าเชื่อกว่าอีกนะยงกุก ...แต่ก็ช่างเถอะ ว่าแต่นายคนนี้เพิ่งมาปรากฎตัวละว่าเป็นพี่น้องของลีจุน “ แดฮยอนยิงคำถามเด็ดไปให้ยงกุก ร่างสูงก็เหมือนจะคิดคำตอบไม่ออก แต่ได้ลูกน้องคนสำคัญชิงตอบให้ก่อน





     

    “ เพราะผมเพิ่งไปทำงานที่เมืองจีนมา น้องชายผมอยู่ที่นั่น เราเจอกัน..แล้วผมเห็นว่าน้องไม่เหลือใคร ผมเลยรับกลับมาให้มาอยู่ในแก๊งค์ด้วยกัน ดูคุณสงสัยเยอะเหลือเกินนะสารวัตร " ลีจุนยิ้มด้วยท่าทางที่สบายจนน่าหมั่นไส้








    “ นายแน่ใจนะว่านายกำลังไม่ได้พูดโกหกอยู่น่ะ “




    “ หน้าผมมันดูเหมือนคนโกหกหรอสารวัตร “ ลีจุนทำหน้าเหมือนเด็กกำลังจะร้องไห้ขัดกับอาวุธที่เต็มตัวนั่นจริงๆ



     

    “ คนละแม่ ...” ฮิมชานเอ่ยออกมา เรียกความสนใจของแดฮยอนให้กลับไปมอง



    “ นายว่าไงนะ ?



     

    “ เราเป็นพี่น้องพ่อเดียวกันครับ แต่คนละแม่ ..แม่ของผมเป็นเมียน้อย...ผมก็เลยต้องอยู่แบบ...หลบๆซ่อนๆ หวังว่าคุณจะเข้าใจผมนะสารวัตร ชีวิตผมไม่ได้น่าเอามาเปิดเผยสักเท่าไหร่ “ ฮิมชานพูดจบหน้าก็เศร้าลง ลีจุนเห็นแล้วเลยเอื้อมมือไปลูบหัวราวกับเอ็นดูอย่างสุดซึ้ง




     

    “ เห็นมั้ย คุณทำให้เขาต้องพูดถึงปมข้อนี้ออกมา ...ไม่เป็นไรนะฮิมชาน ฮยองอยู่นี่และเราเป็นพี่น้องกันนะ “ ท่าทางของลีจุนที่มีต่อฮิมชานนั้นมันกระตุกให้เขาหวนกลับไปนึกภาพของคนๆหนึ่งที่ตอนนี้คงกำลังรอคอยเขาอยู่ที่บ้านคนเดียว เขาคนนั้น..ที่แดฮยอนคนนี้รังเกียจที่สุด



     

    “ สารวัตรครับ ...ค้นดูทั่วแล้ว ไม่พบอะไรเลยครับ “ เหล่าตำรวจทั้งหมดเดินมาจากทั่วทิศของบ้านตรงมาหาแดฮยอนที่ตอนนี้หน้าเริ่มหงุดหงิดขึ้นเต็มที




    “ เห็นมั้ยครับ ..พวกเราแค่ไปเที่ยวกันเฉยๆไม่ได้ไปประมูลทาสอะไรนั่นสักหน่อย “ แดฮยอนได้ยินดังนั้นจึงแยกเขี้ยวใส่ พร้อมกับลุกขึ้นไปหากับตำรวจนายหนึ่งทันที





    “ จ่าช่วยดูหน่อยดิ๊ ...ไอ้หนุ่มหน้าใหม่นั่น หน้าตาเหมือนไอ้ลีจุนมั้ย มันบอกมันเป็นพี่น้องกัน แต่ต่างแม่ เพิ่งกลับมาจากเมืองจีน -__- “ นายตำรวจแก่ๆคนนั้นได้ยินจึงรีบขยับแว่นดีๆเพื่อมองดูฮิมชานและลีจุน ที่ตอนนี้สวมบทเป็นพี่น้องที่รักกันกอดกันยิ้มแป้นหันมาให้



     

    “ ผมว่าก็เหมือนกันนะสารวัตร แถมดูเป็นพี่น้องที่รักกันดีซะด้วย น่าอิจฉานะครับ ผมก็อยากให้ลูกผมสองคนรักกันได้แบบนี้ด้วย ...สารวัตรว่าไงครับ “


     

    “ นั่นสิ สารวัตรว่าไงครับ “ จงออบเอ่ยถามมั่งด้วยเสียงยียวนเต็มที แดฮยอนยืนทึ้งหัวข่มใจตัวเองสักครู่





    “ เออ !!! เหมือนก็เหมือน หน้าเหมือนกันโคตรๆเลย ขอให้เป็นพี่น้องที่รักกันนานๆอย่าทะเลาะต่อยกันละกัน ต่อยกันหน้าแหกเมื่อไหร่ พ่อจะจับยัดกรงทั้งคู่เล้ย !!! กลับเว้ย !!! “ สารวัตรหนุ่มยืนระเบิดอารมณ์ใส่แบบสุดๆจนตำรวจทั้งหมดนั้นยืนนิ่ง เป็นโอกาสให้จุนฮงเดินยิ้มมาหาพร้อมกับยื่นของให้

     

     

    “ ปืนฮะ สารวัตร ...แล้วโอกาสหน้าแวะมาเยี่ยมชมใหม่นะครับ ^^ “ จุนฮงถือปืนของแดฮยอนมาให้พร้อมกับโค้งหัวลงเหมือนพนักงานต้อนรับในภัตตาคาร แดฮยอนพ่นลมหายใจออกมาแรงๆอย่างไม่สบอารมณ์แล้วเดินออกจากบ้านไป เป็นเวลาเดียวกับที่ลีจุนผละตัวออกจากฮิมชานแล้วจ้องมองด้วยแววตาเย็นชา



     

    “ ว่าไงไอ้น้องชายกำมะลอ ...นายคือใคร บอกฉันมาสิ “




    “ เขาชื่อฮิมชานน่ะ เป็นทาสราคาสูงที่เฮียประมูลมาได้วันนี้ ...มีอดีตกับเฮียด้วยละมั้ง “ จงออบตอบแทนยงกุกที่ตอนนี้ลุกเดินจากไปจากโซฟาและขึ้นบันไดวนไปแล้ว




    “ ...งั้นหรอ ..แต่ฉันว่าสารวัตรนั่นยังไงมันก็ยังสงสัยอยู่ ...งั้น นายมาอยู่กับฉันมั้ย เราจะได้เตี๊ยมบทกันได้มากขึ้น เอาให้แนบเนียนเลย ..”




    “ ลีจุนนน !!!!! “ เสียงของยงกุกตะโกนลงมาจากบันไดวนทำให้ลีจุนยิ้ม


    “ เถอะนะเฮีย ผมสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรเขาหรอก ..จะดูแลอย่างดี เด็กเฮียน่ะ ผมไม่กล้าทำอะไรหรอก “



     

    “ ...... “

     

     

    “ ได้มั้ยเฮีย ?



    “ เออ .. เอาไงก็เอา ตามใจแก “ สิ้นเสียงของยงกุกทั้งหมดก็ได้ยินเสียงร่างสูงปิดประตูห้องนอนเสียงดัง ลีจุนมองเข้ามาในตาของฮิมชานแล้วนึกถึงหน้าของยงกุก ...ปกติยงกุกเป็นคนหวงของอย่างกับอะไรดี แต่ทำไมคนๆนี้ยงกุกถึงยอมให้มาอยู่กับเขาละ ...ไว้ใจ ? จะยังไงก็ตามแต่ เขาก็เริ่มยิ้มให้กับฮิมชานอย่างเป็นมิตร




    “ ยินดีที่ได้รู้จักนะน้องชาย .. ^__^ “ พูดจบลีจุนก็ดึงตัวฮิมชานเข้าไปกอดแน่น ร่างบางที่ไม่รู้จะต้องทำตัวอย่างไรกับผู้ชายตรงหน้า บทจะนิ่งก็นิ่งเหลือทน น่ากลัว และเย็นชา แต่พอจะเริ่มคุยกับใครนั่น กลับมีรอยยิ้มที่ดูดีและอบอุ่นมามอบให้ทันที ...ลีจุน ฉันฮิมชาน ...ฉันอยากรู้จักนายมากขึ้นนะ..




     

    อีกทางด้านหนึ่งของกรุงโซล


     

    ร่างสูงที่สวมชุดดำของตำรวจก็ถอดเสื้อทุกอย่างทิ้งเหลือไว้แต่เสื้อกล้ามสีขาว กับกางเกงขายาวสีดำ เขาใช้มือประสานกันพร้อมกับก้มหน้าลงไป

     

    “ แม่งเอ๊ยยย ...ทำไมทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็นวะ !! “ แดฮยอนสบถออกมาอย่างหัวเสีย เสียงของเขาดังออกมาจนทำให้บุคคลอีกคนหนึ่งที่อยู่ในห้องเปิดประตูห้องนอนออกมาแล้วยิ้มให้



     

    “ ฮยองกลับมาแล้ว !!! ดีใจจัง ผมทำกับข้าวไว้ให้ฮยองน่ะ ..มากินเร็วๆ “ ยูยองแจนั่นเอง เด็กที่แม่เขาเก็บมาเลี้ยงแล้วทุ่มเทความรักให้กับมันไปซะหมด แถมเขายังต้องมารับหน้าที่ดูแลมันอีกตามคำขอของแม่ที่เสียชีวิตไปเมื่อไม่นานมานี้


     

    “ ไม่ ฉันไม่อยากกิน .. “




    “ ฮยอง ..แต่นี่ของชอบฮยองทั้งนั้นเลยนะ “ มันไม่พูดเปล่า  แต่มันกลับมาดึงตัวผมให้ลุกขึ้นไปพร้อมกับมันด้วย ผมจึงสะบัดตัวมันออกไปด้วยความรังเกียจจนมันล้มลงไป มันทำหน้าเจ็บชั่วครู่ก่อนจะพยายามส่งยิ้มมาให้ผมอีกครั้ง รอยยิ้มนั้น มันจริงใจก็จริง ...แต่ผมโคตรเกลียด




    “ อย่าสะเออะมาแตะตัวฉัน ยูยองแจ “ ผมพูดพร้อมจะเดินหนีมันไปยังห้องนอน แต่ไอ้เด็กนี่ก็ยังรีบลุกขึ้นมาพร้อมกอดผมไว้จากทางด้านหลังอีก



     

    “ ฮยองอย่าทำแบบนี้สิ ...ผมรักฮยองนะ เราพี่น้องกันนะฮยอง “



     

    “ เอาตัวแกออกไป ..แค่ต้องมาอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน เลี้ยงแกด้วย แค่นี้ฉันก็สุดจะทนแล้ว ..หรือถ้าอยากได้ยินชัดๆก็คงจะพูดสงเคราะห์ให้ง่ายๆว่า ...กูเกลียดมึง ยูยองแจ :)  ชัดเจนนะ “ คำพูดผมเหมือนไปแช่แข็งตัวยองแจเอาไว้ทำให้ผมสามารถปลดมือมันออกจากตัวผมได้ง่ายเพราะมันยังคงนิ่งอึ้งอยู่ แล้วผมก็รีบเดินเข้าห้องนอนไปเลย ไม่สนใจด้วยว่าร่างๆนั้นจะมีอาการน้ำตาตกและทรุดลงกับพื้น



     

    “ ฮยองเกลียดผมได้..แต่ผมจะไม่มีวันล้มเลิกความคิดที่จะเปลี่ยนให้เราสองคนมาเป็นพี่น้องที่ดีและรักกันได้แน่นอนฮะ “ ยองแจเอ่ยกับตัวเองทั้งน้ำตา ร่างเล็กพยายามดึงตัวเองขึ้นมาจากพื้นก่อนจะหันไปมองจานอาหารที่ตัวเองอุตส่าห์ทำให้พี่ชายคนนี้กิน แต่กลับโดนคำพูดเหล่านี้พูดกลับมาทำร้าย ...มือเล็กปาดน้ำตาทิ้ง พร้อมกับเลื่อนมืไปกวาดจานอาหารทั้งหมดลงจากโต๊ะอาหารทันที จานอาหารทั้งหมดจึงตกลงไปแตก และหกเลอะพื้นหมด มือเรียวยังคงไล้ไปสัมผัสโต๊ะอาหารอย่างอ้อยอิ่ง


     

    “ ฮยอง ..ฮยอง ทำผมเจ็บ ...ยองแจเจ็บนะฮยอง ...ได้ยินรึเปล่า “

     

     

    มาต่อให้อีก 70% ที่เหลือแล้วค่ะ ต่อให้แบบยาวมั้ย

    โดยส่วนตัวไรท์คิดว่ายาวนะ 55555555

    อ่านแล้วอย่าลืมเม้นบอกกันด้วยนะคะ เม้นกันคนละเม้นก็ยังดี อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย T.T

     



     

    สำหรับตอนนี้เปิดตัว ตัวละครใหม่ค่ะ คือ นักฆ่าลีจุนนะ รู้สึกจะเปิดตัวให้ดูเด่นกว่าแดฮยอนและยองแจซะอีก 55555555 แล้วมาพบกันใหม่ในตอนหน้าฮ่ะ

     

    ตัวอย่างบทในตอนนหน้า

     

    “ ผมไม่เคยขออะไรพวกคุณเลย แต่ได้โปรด ...ช่วยพี่ยงนัมเถอะครับ ให้ผมก้มหัวให้คุณทุกคน แม้แต่หมาที่คุณเลี้ยงก็ได้ “ ยงกุก

    “ เรียกฉันว่าฮยอง ...แล้วฉันจะสอนให้นายรู้จักทุกสิ่งทุกอย่างนะ น้องชายของฉัน “ ลีจุน

    “ ผมขอบคุณที่มีฮยองนะ ที่ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นอีกครั้งนับจากตอนโดนประมูลทาส ...ถึงแม้จะยังรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมือนคน แต่ก็รู้สึกดีขึ้นมานิดๆนึงแล้วละ ...ลีจุนฮยอง “ ฮิมชาน

     

    TO BE CONTINUE

    TWITTER : @mmjin95 ฟอลมาเวิ่นกันได้เน้ออ ~ 








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×