ตอนที่ 2 : seokwon x yoonho | latibule
A: ผมขาดเรียนบ่อยมากเลยล่ะ ผมเลยไม่ค่อยมีเพื่อนซักเท่าไหร่
B: ไม่รู้สึกว่าโดดเดี่ยวบ้างหรอ?
พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปนานแล้ว อันที่จริงเวลานี้เขาควรจะอยู่ในห้องซ้อม แต่วันนี้เขากลับเลือกที่จะออกมานั่งอยู่บนดาดฟ้าของบริษัทแทน
ลมเย็นๆของช่วงฤดูใบไม้ร่วงพัดมาจนทำให้ผมของเขาที่ยังคงชื้นเหงื่ออยู่ปลิวไปข้างหลัง เขาหลับตาลง สูดอากาศเข้าปอดให้เต็มที่ นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้ใช้เวลาเรื่อยเปื่อยเหมือนวัยรุ่นทั่วไป...
นั่นสินะ
นานเท่าไหร่แล้ว?
คงตั้งแต่ที่เขาตัดสินใจจะเดินตามความฝันของตัวเอง ไม่สนใจคำครหาจากคนรอบข้าง มองข้ามคำต่อว่าของพ่อแม่ ปล่อยผ่านคำนินทาของเพื่อนที่โรงเรียน
ทุ่มเททุกอย่างให้กับความฝันของตัวเอง
ที่สุดท้าย... มันก็ยังไม่สำเร็จ
คิดมาถึงตรงนี้ เขาก็หัวเราะเหอะออกมาด้วยความสมเพชตัวเอง
ยัง...
เขายังไม่ยอมแพ้หรอก แต่เขาแค่เหนื่อย บางทีมันก็ยากเกินกว่าที่อธิบายความรู้สึกตอนนี้ให้ใครฟัง
มันอาจจะฟังดูแย่ แต่ทุกครั้งที่คุณก้าวออกมาจากบ้านของตัวเอง แล้วได้ยินผู้คนรอบข้างพูดถึงแต่เพื่อนของคุณ ไปไหนก็เห็นแต่รูปเพื่อนคุณ หรือแม้กระทั่งวิทยุคลื่นโปรดที่เปิดแต่เพลงของเพื่อนคุณ
โอเค มันคงจะน่ายินดีสำหรับคนอื่นๆ แต่สำหรับเขาที่เคยเกือบได้โอกาสไปเป็นหัวข้อสนทนาของทุกคน เขาที่เคยเกือบได้โอกาสไปอยู่ในโปสเตอร์พวกนั้น เขาที่เคยเกือบเป็นเจ้าของเพลงที่วิทยุกำลังเล่นอยู่ มันไม่ค่อยจะน่ายินดีเท่าไหร่หรอก...
เขาถอนหายใจ เขาต้องหยุดคิดเรื่องพวกนี้แล้วกลับไปซ้อมต่อได้แล้ว แต่บรรยากาศยามค่ำ แสงไฟจากตึกระฟ้า และลมที่ยังพัดมาเรื่อยๆก็รั้งเขาไว้ เขาจึงตัดสินใจที่จะอยู่บนนี้ต่ออีกซักพัก
“มานั่งตากลมเดี๋ยวก็ไม่สบาย”
ชเว ซอกวอน
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าซอกวอนรู้ได้ยังไงว่าเขาอยู่บนนี้ หรือมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ อาจเป็นเพราะเขากำลังเพลิดเพลินกับธรรมชาติมากเกินไป กว่าจะรู้ตัวว่าไม่ได้อยู่บนนี้คนเดียวก็คือตอนที่เสียงของซอกวอนทักขึ้นมาพร้อมมือที่ขยี้ผมเขาเบาๆก่อนทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ
“มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง” ยุนโฮพูด ใช้ศอกถองที่แขนอีกคนเบาๆ
“ถ้านายไม่ได้เหม่อนายก็จะได้ยินเสียงเปิดปิดประตูและเสียงเดินของฉันที่อีกนิดคงได้ยินกันทั้งบริษัท” ซอกวอนหยอก แถมกวนจนยุนโฮอยากจะต่อยเข้าให้ซักที แต่สุดท้ายเขากลับยิ้มออกมาแทน
“ประสาท”
ซอกวอนไม่ได้ตอบอะไรนอกจากหัวเราะเบาๆกับคำด่าของยุนโฮ
หลังจากนั้นก็มีเพียงความเงียบ มันไม่ได้น่าอึดอัด กลับกัน มันกลับสบายใจมากเสียด้วยซ้ำ เขาเคยได้ยินคำพูดที่บอกว่าเพื่อนสนิทคือคนที่เราสามารถอยู่ด้วยเงียบๆได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องสรรหาเรื่องมาคุยกัน ซึ่งเขาว่ามันคือเรื่องจริง
ยุนโฮเอนศีรษะตัวเองลงไปบนไหล่ของซอกวอนก่อนหลับตาลง เขาสัมผัสได้ถึงแขนของซอกวอนที่อ้อมหลังมากอดไหล่อีกข้างของเขาไว้ ก่อนกระชับให้เขาขยับเข้าไปใกล้ขึ้น
ยุนโฮเคยเกลียดช่วงเวลาทั้งหมดของชีวิตเขาหลังจากรายการเซอร์ไวเวอร์ที่เล่นกับความฝันเขาจนพังยับเยิน เคยคิดว่าหลังจากนี้เขาจะใช้ชีวิตมองดูเพื่อน พี่ หรือน้องที่เดบิวต์ไปด้วยความดีใจได้มากแค่ไหน
เขาเคย
แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมาก็ทำให้เขารับรู้ว่าเขาจะผ่านทุกอย่างไปได้
เขาจะไม่เป็นอะไร
ตราบใดที่ซอกวอนยังคงอยู่ข้างๆเขา
“นายจะลงไปเมื่อไหร่” ซอกวอนถามขึ้น ยังคงนั่งอยู่ในท่าเดิม
“ไม่รู้สิ นายไปก่อนก็ได้เดี๋ยวฉันตามไป” ยุนโฮว่า
“ไม่ล่ะ เดี๋ยวค่อยลงพร้อมนาย”
พูดจบ มืออีกข้างที่ว่างของซอกวอนก็เอื้อมมากุมมือของเขาไว้ นิ้วโป้งของซอกวอนคลึงอยู่บนหลังมือเขา ยุนโฮชอบมัน และมันทำให้เขายิ้ม ทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่
“ฉันรู้ว่านายกำลังคิดอะไรอยู่ทั้งๆที่นายยังไม่ทันจะพูดอะไรด้วยซ้ำ” ซอกวอนพูด
ยุนโฮได้ยินเสียงลมหายใจของซอกวอนดังอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล
“นายรู้ใช่ไหม... ว่าฉันอยู่ข้างนายเสมอ” ยุนโฮชอบ ชอบทุกองค์ประกอบเวลาที่เขากับซอกวอนอยู่ด้วยกันและมันทำให้เขายิ้มกว้างกว่าเดิม ทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่
B: ไม่รู้สึกว่าโดดเดี่ยวบ้างหรอ?
A: ผมมีซอกวอนครับ มันโอเคนะเพราะผมยังมีเขา
end
ชอบคู่นี้มากทำไงดี ... /ปิดหน้าร้องไห้
เห็นบ่นตอนที่แล้วมันสั้น ... แต่นี่ชอบให้จบแบบนั้น ฮื้อ 55555
เรื่องนี้ยาวกว่าเรื่องก่อนนิดนึง555555
ปล. ไม่ได้เช็คคำผิด
#vipashortfic
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เราชอบคู่นี้มากๆจนไม่รู้จะพูดออกมายังไง ชอบจนอธิบายไม่ได้ แล้วยิ่งมาอ่านฟิคเรื่องนี้ คือมันน่ารักค่ะ รู้เลยว่าสองคนนี้เป็นมากกว่าแค่เพื่อนสนิท มันมีอะไรที่มากกว่านั้น ทั้งความผูกพันธ์ ความเชื่อใจ แต่งอีกนะคะ เรามาช้า แต่ชอบมาก ??
โอยยยยยยยย
คือดีอ่ะ ความจริงแล้วเราชอบคู่นี้
แต่หาฟิคอ่านไม่ได้เลยจ้า
แงงงงงงงงงง
ขอบคุณที่แต่งให้อ่านนะวันหลังก็แต่งอีก
55555555
ชอบอ่ะ คือแบบความรู้สึกยุนโฮมันใช่เลยอ่ะ
เราเข้าใจ 5555555
อยากให้น้องสู้ๆ พี่รอซัพพอร์ทหนูอยู่นะ