ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สปอยล์ แฮร์รี่พอตเตอร์ เล่ม 7

    ลำดับตอนที่ #7 : สปอยล์ ตอนที่ 31 - END

    • อัปเดตล่าสุด 1 ส.ค. 50


    -b g- 

    + +

    บทที่ 31 - The Battle of Hogwarts
               
    ที่ฮอกวอตส์ ศาสตราจารย์มักกอนนากัลและภาคีนกฟีนิกซ์ยืนอยู่ที่แท่นอาจารย์ใหญ่ และสั่งให้พรีเฟคของแต่ละบ้านอพยพนักเรียนของบ้านตัวเองออกไปจากฮอกวอตส์ทันทีภายใต้การดูแลของมาดามพอมฟรีย์และฟลินซ์ เออร์นี่ถามว่า แล้วถ้าต้องการจะอยู่และต่อสู้ต้องทำอย่างไร มักกอนนากัลอนุญาตให้อยู่ได้กรณีที่อายุถึงเกณฑ์ มีนักเรียนถามถึงเสนป มักกอนนากัลบอกว่าเสนปจากไป โดยไม่ได้บอกใคร ระหว่างนั้นแฮรี่พยายามมองหารอนและเฮอร์ไมโอนี่ที่โต๊ะกริฟฟินดอร์ แต่ยังหาไม่เจอ มักกอนนากัลพยายามเร่งให้นักเรียนรีบออกไป แต่คำพูดของศ.มักกอนนากัลก็ถูกขัดจังหวะโดยเสียงปริศนาเสียงหนึ่ง เสียงสูง เยือกเย็น และชัดเจน
    ...ฉันรู้ว่าพวกเธอทุกคนพร้อมจะสู้ แต่ความพยายามของพวกเธอนั้นไร้ประโยชน์ ฉันนับถืออาจารย์ในฮอกวอตส์
    ...ส่งแฮรี่ พอตเตอร์มาแล้วทุกคนจะปลอดภัย
    ...พวกเธอมีเวลาถึง
    เที่ยงคืนเท่านั้น...
              หลังโวลเดอร์มอร์ดพูดจบ แพนซี่ พาร์กินสัน กรีดร้องให้ทุกคนจับแฮรี่ส่งไป แต่เด็กบ้านกริฟฟินดอร์ ฮัฟเฟิลพัพ และเรเวนคลอ ยืนขึ้นปกป้องแฮรี่ มักกอนนากัลสั่งให้แพนซี่ออกไป และตามด้วยพวกสไลธีริน มักกอนนากัลสั่งให้บ้านอื่นๆออกไปด้วย แต่เด็กปีสูงๆบ้านเรเวนคลอ เด็กฮัฟเฟิลพัพหลายคน และกว่าครึ่งหนึ่งของ
    เด็กกริฟฟินดอร์ยังคงนั่งอยู่ที่เก้าอี้ 
             แฮรี่พยายามถามหาเฮอร์กับรอน นายวิสลีย์เริ่มกังวลถึงสองคนนั้น แต่ความสนใจก็ถูกดึงไป เมื่อคิงสลีย์ขึ้นมาประกาศว่าเหลือเวลาครึ่งชั่วโมง และแบ่งนักเรียนสามกลุ่มให้ไปกับ มักกอนนากัล สเปราต์ และฟลิตวิก ไปประจำการที่สามหอคอยที่สูงที่สุด ส่วนคิงสลีย์ อาเธอร์ ลูปิน เฟรด จอร์จ จะไปที่สนาม มักกอนนากัลป์เตือนแฮรี่ให้รีบหาของที่แฮรี่ตั้งใจจะหา แฮรี่พยายามมุ่งคิดถึงฮอร์ครักซ์ แต่ก็
    อดคิดถึงรอนและเฮอร์ไม่ได้เพราะโดยปกติแล้วสองคนนั้นจะอยู่เคียงข้างเขาเสมอ
             แฮรี่เดาว่า โวลจะต้องคิดว่าแฮรี่จะต้องไปที่หอคอยของบ้านเรเวนคลอ เพราะโวลให้อะเลคโตมาเฝ้าไว้ ซึ่งมีเหตุผลที่เป็นไปได้ข้อเดียวคือ โวลกลัวว่าแฮรี่จะรู้ถึงฮอร์ครักที่มีความเชื่อมโยงกับเรเวนคลอ แฮรี่หลับตาและนึกถึงของที่หายไปของบ้านเรเวนคลอ และนึกถึงมงกุฎที่หายสาบสูญไป เป็นไปได้หรือไม่ที่มงกุฏจะเป็นฮอร์ครักซ์    แล้วแฮรี่ก็นึกถึงบางเรื่องขึ้นมาได้ เลยไปถามนิคถึงผีประจำบ้านของเรเวนคลอ ซึ่งก็คือ  the grey lady เมื่อแฮรี่เห็นก็จำได้ว่า เคยเจอ the grey lady เสมอๆที่ทางเดินในปราสาท เพียงแต่ไม่เคยพูดด้วย แฮรี่ถามถึงมงกุฎที่สาบสูญ แต่ the grey lady ปฏิเสธว่าคงช่วยอะไรแฮรี่ไม่ได้ มีนักเรียนมากมายหลายต่อหลายรุ่นตามหามันมาตลอด แฮรี่ขอร้องและ
    บอกว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับโวลเดอร์มอร์ต
               The grey lady บอกว่าเธอคือลูกสาวของเรเวนคลอ ผู้ก่อตั้งบ้านเรเวนคลอ และเธอเป็นคนขโมยมงกุฎนั้นจากแม่ของเธอเพราะคิดว่าจะทำให้เก่งกว่าแม่ และหนีไปเรเวนคลอไม่ยอมรับว่ามงกุฎหายไป แต่แสร้งทำว่าอยู่กับตัวเองมาตลอด ปิงบังแม้กระทั่งผู้ก่อตั้งฮอกวอตส์คนอื่นๆ
    ต่อมาเรเวนคลอป่วย และอยากจะพบลูกสาวเป็นครั้งสุดท้าย จึงส่งผู้ชายคนหนึ่งที่เธอเชื่อว่าจะตั้งใจตามหา เพราะชายคนนี้หลงรักลูกสาวเธอมานาน ผู้ชายคนนั้นคือ บารอนเลือด !!!เมื่อตามมาจนพบ แต่เธอปฏิเสธที่จะกลับไป ด้วยความโมโหชั่ววูบ บารอนเลยแทงเธอตาย แต่เมื่อได้สติเขาก็เสียใจ และใช้มีดนั้นฆ่าตัวตายตาม ส่วนมงกุฎนั้นถูกซ่อนอยู่ในป่าที่เธอตาย ที่แอลเบเนีย   แฮรี่ถามว่าเธอได้บอกเรื่องนี้ใครบ้างหรือเปล่า เธอจำได้ว่าเคยบอกเด็กหนุ่มคนหนึ่ง แฮรี่เดาได้ว่าคือทอม ริดเดิ้ล ซึ่งน่าจะไปค้นหาตั้งแต่จบจากเรียน และป่าใน
    แอลเบเนียนี้เองที่ริดเดิลซ่อนตัวอยู่ในช่วงสิบปีที่สูญเสีญอำนาจ แต่เวลานั้น มงกุฎที่กลายเป็นฮอร์ครักซ์ไม่น่าจะอยู่ที่ป่าอีกต่อไปแล้ว แต่กลับสู่บ้านของมัน ซึ่งก็คือ ฮอกวอตส์!! ...และน่าจะมีเพียงโอกาสเดียวเท่านั้น คือวันที่โวลกลับมาสมัครเป็นอาจารย์สอนป้องกันตัวจากศาสตร์มืด มงกุฏจึงน่าจะถูกซ่อนแถวๆห้องทำงานของดัมบิลดอร์ 
        เหลือเวลาเพียงห้านาทีก่อนถึงเที่ยงคืน แฮรี่มั่นใจว่าตอนนี้เขารู้แล้วว่าฮอครักซ์อันสุดท้ายคืออะไร แต่ปัญหาคือ มันอยู่ที่ไหนกันเล่า ในเมื่อมันไม่เคยถูกค้นพบแม้ว่านักเรียนหลายรุ่นจะค้นหามาตลอด แสดงว่ามันไม่ได้ซ่อนอยู่ในหอคอยของเรเวนคลอ แฮรี่เดินคิดจนมาเจอแฮกริด และกอร์ป ในที่สุดก็ถึงเวลาเที่ยงคืน แฮรี่เห็นแสงจากด้านนอก เป็นสัญญาณที่บอกว่าการต่อสู้เริ่มขึ้นแล้ว แฮกริดเล่าว่าได้ยินเสียงโวลตอนอยู่ในถ้ำ เลยมาช่วย และถามถึงรอนกับเฮอร์  แฮรี่ตอบว่าไม่รู้ และชวนแฮกริดออกไปค้นหาแถวทางเดินห้องพักอาจารย์ แฮรี่มองเห็นรูปปั้นสัตว์ประหลาดหน้าห้องอาจารย์แล้วนึกถึงรูปปั้นเรเวนคลอที่บ้านเลิฟกูด และที่หอคอย และในที่สุดก็นึกออกว่ามงกุฎของเรเวนคลออยู่ที่ไหนแฮรี่วิ่งต่อไป ผ่านเฟรด ดีน เนวิลล์ (ที่กำลังไปช่วยเมนเดรก) และคนอื่นๆ และเจอกับรอนและเฮอร์ เฮอร์เล่าว่าทั้งสองคนเข้าไปในห้องแห่งความลับ โดนรอนเคยฟังแฮรี่และเลียนเสียงพาเซลเมาท์ได้ ทั้งสองคนใช้เขี้ยวของบาสิลิสทำลายถ้วยของฮัฟเฟิลพัพที่เป็นฮอครักซ์ไปแล้ว
              แฮรี่บอกว่าตนเองรู้แล้วว่าฮอร์ครักสุดท้ายอยูที่ไหน เป็นที่ๆนักเรียนใช้ซ่อนของมานานนับศตวรรษ แฮรี่รู้เพราะเคยเอาหนังสือปรุงยาไปซ่อนที่นั่น  ที่ทางเดินหน้าห้องต้องประสงค์ แฮรี่ เฮอร์ รอน เจอ จินนี่ ทองก์ และย่าของเนวิลล์ แฮรี่อยากให้จินนี่กลับไป แต่ขณะที่เถียงกันรอนก็นึกได้ว่าควรไปปล่อยเอลฟ์ประจำบ้านให้หนีไปด้วย พอได้ยินแบบนี้เฮอร์เลยวิ่งเข้าไปจูบรอน (ที่ปากซะด้วย โอ้ว)  แฮรี่เตือนแบบเกรงใจว่าเราต้องหาฮอครักซ์กันต่อ และท่องในใจว่าต้องการห้องที่ทุกสิ่งทุกอย่างถูกซ่อนอยู่ ประตูบานหนึ่งก็ปรากฏขึ้น  แฮรี่ และหาเจอรูปปั้นที่สวมมงกุฏเก่าๆหมองๆที่แฮรี่นำมาทำสัญลักษณ์เพื่อซ่อนหนังสือปรุงยา แฮรี่หยิบมงกุฎขึ้นมา แต่มีคนสามคนปรากฏตัวข้างหลัง คือ แครบ กอยน์ และมัลฟอย ซึ่งบอกว่าจะมาจับแฮรี่เพราะต้องการรางวัลจากโวล  รอนได้ยินเสียงจึงเข้ามาตามแฮรี่ แครปอยากเสกคาถาแต่มัลฟอยห้ามเพราะกลัวทำมงกุฎพัง มัลฟอยเดาว่ามงกุฎน่าจะสำคัญเพราะแฮรี่มาเอา แต่แครปบอกว่า มัลฟอยไม่มีสิทธิ์ออกคำสั่งคนอื่นอีกแล้ว เฮอร์โผล่ออกมาพอดี แครปเลยเสกอะวาดา เคดาฟรา ใส่เพราะเป็นเลือดสีโคลน แต่แฮรี่เสกคาถางุนงงใส่แครป แครปเลยเซไปชนมัลฟอยและทำไม้กายสิทธิ์หล่น ทั้งหมดต่อสู้กัน แครปเสกคำสาปที่แฮรี่ไม่รู้จักมาก่อน เกิดไฟไหม้ กอยน์หมดสติ แฮรี่ไปช่วยมัลฟอยเอากอยน์ออกมา  แฮรี่สังเกตว่าของที่เกี่ยวข้องกับเวทย์มนตร์ถูกไฟนี้เผาไปได้ แฮรี่พามัลฟอยออกมาเจอกอยน์ รอน เฮอร์ และรู้ว่าแครปตาย
    แล้ว มงกุฎในมือแฮรี่แตกออกเป็นเสี่ยงๆ เฮอร์บอกว่าไฟนี้คือ fiendfyre สามารถทำลายฮอครักซ์ได้ เท่ากับว่าตอนนี้ภารกิจของพวกเขาเหลือเพียงงูนากินี...
       แต่แล้วพวกเขาก็ได้ยินเสียงตะโกนและต่อสู้ ผู้เสพความตายบุกเข้าฮอกวอตส์ได้แล้ว เฟรดและเพอร์ซี่กำลังต่อสู้ ทั้งสามคนเข้าไปช่วย ผู้เสพความตายคนนึงทำผ้าคลุมหลุดออก และปรากฏว่าเป็น รมต.กระทรวงเวทย์มนตร์ เพอร์ซี่เลยบอกว่างั้นลาออกเลยละกัน เฟรดเหมือนจะดีใจและแปลกใจหน่อยๆที่เพอร์ซี่ยิงมุขตลกๆกะเค้าด้วย เฟรดกำลังแซวเพอร์ซี่ก่อนเสียงจะขาดหายไป  แล้วก็เกิดระเบิดขึ้นจนพวกเขาล้มระเนระนาด เมื่อแฮร์รี่ลุกขึ้น เขาก็เห็นเพอร์ซี่เขย่าร่างไร้วิญณาณของเฟร็ดที่ดวงตานิ่งค้าง แววตามองไม่เห็นสิ่งใดอีก

    No no  no! someone was shouting. No! Fred! No!
    And Percy was shaking his brother, and Ron was kneeling beside them, and Fred's eyes stared without seeing, the ghost of his last laugh still etched upon his face.

    เฮอร์และแฮรี่ได้แต่เพียงยืนมอง ทั้งสองคนเศร้ามากๆ แฮรี่รู้สึกเหมือนว่าโลกนี้มืดลงไป และกลัว...อย่างที่ไม่เคยกลัวมาก่อนในชีวิต


    Note : - แครปตาย


    บทที่ 32 - The Elder Wand
        
    ทุกคนไม่เชื่อว่าเฟรดจะตายแล้ว แต่คำสาบยังล่องลอยอยุ่ในอากาศ แฮรีกับรอน ดึงแขนเฮอร์ ให้หมอบลงกับพื้น เพอร์ซี่ ยังคงคุกเข่าอยุ่ข้างศพของเฟรด แฮรีพยายามดึงเขาออกมา ตอนนั้นเองที่เฮอร์ ร้องกรี๊ด แฮรี่หันไปดู แมงมุมยักษ์ (คาดว่ามาจากป่าต้องห้าม) ก็กรูเข้ามา พวกเขาพยายามหนีตาย  แฮร์รี่ให้คาถาซัดพวกมันออกไป รอนกำลังอยากแก้แค้นพวกผู้เสพความตายที่ฆ่าเฟร็ด แต่แฮร์รี่กับเฮอร์ไมโอนี่เตือนว่าพวกเขาต้องตามหาและฆ่างู ที่เป็น Horcrux ให้ได้  แฮรี่เข้าใจความรู้สึกของรอน ตัวเขาเองก็เป็นห่วงครอบครัววีสลีย์ โดยเฉพาะจินนี่  รอนเร่งให้แฮรี่ เข้าถึงจิตใจของเวอร์ดี้ เพื่อหาที่อยุ่ของเขา มันเป็นเรื่องง่ายๆ เพราะ แผลเป็นของแฮรี เริ่มทรมานเขามาหลายชัว่โมงแล้ว แฮรี่หลับตา และเข้าถึงความคิดของเวอร์ดี้ เขาค้นหาไปเรื่อย จนได้ยินเสียงเรียก
    "นายท่าน " เป็น ลูเชียส มัลฟอย นั่งอยุ่ที่มุมมืด ร้องขอชีวิต มัลฟอย แต่เวอร์ดี้ บอกว่า ถ้ามัลฟอย จะตายก็เพราะไม่ยอมมาอยู่ข้างเวอร์ดี้ เขาอาจอยากเป็นเพื่อนแฮรี่ก็ได้ ลูเชียส พยายามแก้ตัว แต่ไม่สำเร็จ เวอร์ดี้ยังรุ้ด้วยว่า ลูเชียส อยากรีบไปตามหาลูก  เวอร์ดี้ สั้งให้ ไปตามสเนป มา มีงานจะให้ทำ แล้วเวอร์ดี้ก็นั่งรอ 
              
    เฮอร์ไมโอนี่โกรธมากที่รู้ว่าโวลเดอมอร์แค่นั่งรออยู่ที่เพิงโหยหวนโดยไม่แม้จะลงมาสู้ แฮร์รี่บอกว่าเขาไม่ต้องลงมาสู้ แค่รอให้แฮร์รี่ไปหาเขาเท่านั้น งูนากินี่ก็อยู่ข้าง ๆ เขาเช่นกัน พวกเขาอยู่ใต้ผ้าคลุมล่องหน พยายามจะออกไปนอกปราสาท พวกเขาเห็นเพื่อน ๆ อาจารย์ และผีในโรงเรียนร่วมต่อสู้กับผู้เสพความตาย ที่หน้าประตู เดรโก้พยายามบอกผู้เสพความตายว่าเขาอยู่ฝ่ายเดียวกัน แต่แฮร์รี่เข้ามาพอดี และช่วยชีวิตเดรโก้ไว้อีกครั้ง ประตูใหญ่เปิดออก แมงมุมยักษ์ทะลักเข้ามา แสงไฟจากคาถาลอยเต็มไปหมด พวกกำลังคิดอยู่ว่าจะออกไปยังไงท่ามกลางความชุลมุนแบบนี้ แฮกริดก็วิ่งลงมา ตะโกนว่าอย่าทำร้ายพวกมัน และถูกกลืนหายไปกับพวกแมงมุมและเวทมนต์มากมาย พวกแมงมุมถอยไปพร้อมกับเหยื่อ พวกแฮร์รี่วิ่งตามออกไป และพบกับพวกยักษ์ รอนห้ามเฮอร์ไมโอนี่ไม่ให้เสกคาถาทำให้พวกนั้นสลบเพราะยักษ์จะล้มทับปราสาทพัง พวกเขาวิ่งหนีจนเกือบจะถึงป่า Dementors ก็รายล้อมพวกเขา แต่ผู้พิทักษ์ของลูน่า เออร์นี่ย์และเซมัสก็จัดการ Dementors ไปได้ 
              พวกเขามาถึงต้นวิลโล่ว์จอมหวด และเข้าไปข้างในใต้ผ้าคลุมล่องหน และแอบดูตรงช่องกำแพง เขาเห็นโวลเดอมอร์และสเนป นากินี่ลอยอยู่ในวงคาถากลางอากาศ สเนปบอกว่าเขาจะไปพาแฮร์รี่มาให้ แต่โวลเดอมอร์ถามเขาว่าทำไมไม้กายสิทธิ์ถึงไม่สามารถแสดงความมหัศจรรย์ออกมาแบบเมื่อก่อน เวทมนต์ที่เขาใช้เป็นเพียงเวทมนต์ธรรมดา ๆ เท่านั้น เขาไม่รู้สึกถึงความแตกต่างระหว่าง Elder Wand กับไม้กายสิทธิ์อันเดิมของเขาเลย สเนปยืนยันว่าจะไปพาแฮร์รี่มาให้โวลเดอมอร์บอกว่าแฮร์รี่จะขึ้นมาหาเขาเอง แต่ตอนนี้ เขาสงสัยเรื่องไม้กายสิทธิ์ว่าทำไมถึงไม้กายสิทธิ์ไม้ยิว กับไม้กายสิทธิ์ของลูเซียส ทั้งสองอันที่เขาเคยใช้ต่างสู้กับแฮร์รี่ไม่ได้ แม้แต่ Elder Wand ก็ดูไม่แตกต่าง ซึ่งสเนปก็ตอบไม่ได้ แต่โวลเดอมอร์บอกว่าเขาเข้าใจแล้วว่าเพราะเขาไม่ใช่ผู้ครอง Elder Wand ที่แท้จริง ไม้กายสิทธิ์จะตกเป็นของผู้ที่ฆ่าเจ้าของคนเดิม แต่เดิม Elder Wand เป็นของดัมเบิลดอร์ คนที่ฆ่าดัมเบิลดอร์ก็คือสเนป 
              กรงขังงูลอยขึ้นมาทับสเนปที่ศีรษะและบ่า โวลเดอมอร์สั่งนากินีให้ไปฆ่าสเนป มันฉกกัดไปที่คอของสเนปที่ยังไม่ทันร่ายมนต์ปลดกรงออกจากตัวเอง โวลเดอมอร์บอกว่าเขาเสียใจ แต่ไม่มีความเสียใจใด ๆ บนใบหน้าและน้ำเสียง เขาเอากรงออกจากร่างสเนป ทิ้งให้สเนปตาย และเดินลอดอุโมงค์ออกไปจากเพิงโหยหวน
              แฮร์รี่ค่อย ๆ เข้าไปหาสเนปที่กำลังจะตาย สเนปคว้าคอเสื้อคลุมดึงแฮร์รี่เข้ามาใกล้ ๆ และบอกว่าให้นำมันไป ... แฮร์รี่รู้ดีว่ามันคืออะไร สีฟ้าเงินลื่น ๆ ที่ไม่ใช่ทั้งของเหลวหรือก๊าซไหลออกมาจากปาก หูและดวงตา เฮอร์ไมโอนี่ส่งขวดแก้วให้แฮร์รี่เก็บสิ่งสีเงินนี้ สเนปบอกให้แฮร์รี่จ้องมองเขา แล้วเขาก็สิ้นใจ



    บทที่ 33 - The Prince's Tale
             
    แฮร์รี่นั่งข้างร่างไร้ชีวิตของสเนปอยู่พักหนึ่ง ก่อนเขาจะได้ยินเสียงของโวลเดอมอร์ที่ดังก้องโรงเรียนและ Hogsmeade ประกาศให้ทุกคนยอมแพ้ซะ เพราะสู้ต่อไปก็เสียเปล่า ถ้าทุกคนยอมแพ้เขาจะไม่ทำอะไรและสั่งให้กองกำลังของเขาล่าถอย และโวลเดอมอร์ก็ประกาศถึงแฮรี่โดยตรงว่าแฮรี่จะทำให้เพื่อนของเขาต้องมาตายแทน และโวลดี้ขอให้แฮรี่ยอมแพ้ซะ แล้วออกมามอบตัวกับเขาซะเขาจะ
    รอที่ป่าต้องห้าม ภายในหนึ่งชั่วโมงที่ป่าต้องห้าม ไม่งั้นเขาจะฆ่าทุกคนไม่ให้เหลือแม้แต่ผู้หญิงและเด็ก 
           รอนบอกแฮรี่ว่าอย่าไปฟังโวลเอดร์มอร์ เฮอมี่บอกให้รีบกลับไปที่ปราสาท เพราะถ้าโวลดี้ไปที่ป่าต้องห้าม พวกเขาจำเป็นที่จะต้องวางแผนกันใหม่  แฮรี่คว้าผ้าคลุมล่องหนมา และจ้องมองดูไปที่ศพของสเนป เขาไม่รู้ว่าเขารู้สึกอย่างไรกับสเนป แต่เขาช็อคกับการตายของสเนป และสาเหตุที่สเนปต้องตาย  แฮรี่ รอน เฮอไมโอนี่ เข้ามาในปราสาท ซึ่งเงียบผิดปกติ พวกเขาเจอกลุ่มผู้รอดชีวิตที่ห้องโถงใหญ่  มาดามพรอมฟรีย์กำลังรักษาคนเจ็บอยู่ มีศพนอนเรียงเป็นแถวอยู่กลางห้องโถง ศพของเฟรดถูกล้อมรอบไปด้วยคนในครอบครัว
    ของเขา ศพของลูปินและท็องอยู่ถัดไปจากศพของเฟรด ทั้งสองดูเหมือนหลับอย่างสงบ แฮรี่รู้สึกผิด เขาคิดวาถ้าเขายอมมอบตัวแต่แรก ทุกคน คงไม่ต้องมาตายแบบนี้  แฮร์รี่กลับไปยังห้องทำงานของดัมเบิลดอร์เงียบ ๆ ไปที่เพนซีป และเทความทรงจำของสเนปลงไป
            สเนปในวัยเด็ก แอบเฝ้ามองเด็กสาวสองคนหลังพุ่มไม้ ลิลลี่กับเพ็ตทูเนียกำลังเล่นกัน โดยลิลลี่ใช้เวทมนต์กับดอกไม้ ทูนีย์(ป้าเพตทูเนีย ลิลลี่เรียกว่าทูนีย์อะ) หวาดกลัวบอกว่าแม่พวกเธอห้ามลิลลี่ทำแบบนี้ สเนปกระโดดออกมา บอกว่ามันคือเวทมนต์และลิลลี่คือแม่มด เพ็ตทูเนียตกใจและกล่าวหาว่าสเนปแอบซุ่มมองพวกเธอมาตลอด   สเนปเรียกทูนีย์ว่ามักเกิลแบบดูถูก   ก่อนที่ทูนีย์จะพาลิลลี่ที่หันมองสเนปอยู่จากไป
            สเนปกับลิลลี่ในวัยเด็กนั่งคุยกันใต้ต้นไม้ สเนปบอกว่ากระทรวงจะเอาผิดคนที่อายุไม่ถึงเกณฑ์แล้วใช้เวทมนต์นอกโรงเรียน สเนปเล่าว่าอีกไม่นานพวกเขาจะได้รับจดหมาย แต่ลิลลี่จะมีคนมาที่บ้าน เพราะเธอเป็นมักเกิ้ล ลิลลี่ถามสเนปว่าเป็นคนที่เกิดจากมักเกิ้ลแตกต่างจากคนอื่นไหม ซึ่งสเนปตอบว่า ไม่มีอะไรแตกต่าง พวกเขาคุยเรื่องครอบครัวของสเนป พลังเวทมนต์ทรงพลังของลิลลี่ และขณะที่สเนปเล่าเรื่อง Dementor ที่ลิลลี่ถาม เขาได้ยินเสียงเพ็ตทูเนียลื่นจากด้านหลัง จนสเนปบอกว่าคราวนี้ใครกันแน่ที่แอบดูแอบฟังอยู่ เพ็ตทูเนียโกรธมาก เลยเยาะเย้นสเนปว่าใส่กระโปรงของแม่อยู่เหรอ กิ่งไม้บนศีรษะของเพ็ตทูเนียหักและหล่นใส่เธอ ลิลลี่โกรธและกล่าวหาว่าสเนปเป็นคนทำแต่เขาปฏิเสธ เธอไม่ยอมฟัง วิ่งตามพี่สาวกลับบ้าน
            ที่สถานีรถไฟ สเนปเฝ้ามองครอบครัวมาส่งลิลลี่ ลิลลี่ยังคงขอโทษเพ็ตทูเนียอยู่ บอกว่าเมื่อเธอไปถึงโรงเรียน จะพยายามขอร้องอาจารย์ให้รับเพ็ตทูเนียเข้าโรงเรียน ซึ่งทำให้เพ็ตทูเนียโกรธและอับอายมากจนปฏิเสธว่าเธอไม่เคยต้องการไปที่โรงเรียนสำหรับคนประหลาดเช่นลิลลี่หรือสเนป ลิลลี่บอกว่าเธอแน่ใจว่าเพ็ตทูเนียไม่คิดว่ามันประหลาดแน่ ๆ เพราะเธอรู้ว่าเพ็ตทูเนียเขียนจดหมายถึงดัมเบิลดอร์ ขอร้องให้รับเธอเข้าเรียนด้วย ซึ่งทำให้เพ็ตทูเนียยิ่งโกรธมากขึ้นอีก 
              ลิลลี่นั่งร้องไห้อยู่ในรถไฟ สเนปเข้ามานั่งด้วยและปลอบเธอโดยบอกเรื่องว่าพวกเขากำลังไปฮอกวอกต์ซึ่งทำให้ลิลลี่ยิ้มออกมาได้ สเนปบอกว่าเขาหวังว่าลิลลี่จะอยู่บ้านสลิธีริน จนกระทั่งเจมส์กับซีเรียสเข้ามานั่ง และบอกว่าเกทับว่าพวกเขาจะอยู่บ้านกริฟฟินดอร์ผู้กล้าหาญ จนมีปากเสียงกันนิดหน่อย เจมส์กับซีเรียสเลยเยาะเย้ยสเนปก่อนย้ายไปนั่งที่อื่น
              สเนปเฝ้ามองอย่างผิดหวังเมื่อลิลลี่ถูกประกาศอยู่บ้านกริฟฟินดอร์ เธอหันมองสเนปอย่างเศร้า ๆ ก่อนจะยิ้มและเดินไปนั่งกับพวกกริฟฟินดอร์ ซีเรียสขยับที่ให้เธอนั่ง แต่เธอเหมือนจำเรื่องบนรถไฟได้ เลยกอดอกและหันหลังให้เขา
                ลิลลี่กับสเนปเดินคุยกัน แต่เหมือนจะทะเลาะกันมากกว่าที่ลานโรงเรียน ลิลลี่ไม่ชอบที่เห็นสเนปคบเพื่อนที่ใช้ศาสตร์มืด และสเนป
    เองก็ไม่ชอบพวกเจมส์เหมือนกัน และเขาสงสัยเรื่องของลูปินที่ป่วยทุกครั้งที่พระจันทร์เต็มดวง ลิลลี่เตือนเขาว่าเจมส์ช่วยชีวิตเขาจากต้นวิลโล่ว์จอมหวด แต่สเนปเย้ยว่าเจมส์แค่ต้องการจะเป็นฮีโร่เท่านั้นและเขารู้ดีว่าเจมส์ก็ชอบลิลลี่ 
        ฉากในเพนซีฟตัดกลับตอนที่แฮรี่เคยดูมาแล้ว คือ
    ตอนที่เจมส์จับสเนปห้อยหัวลง ลิลลี่กับพวกเพื่อน ๆ เข้ามาห้าม สเนปตะโกนด่าเธอว่าพวกเลือดสีโคลนด้วยความโกรธที่ถูกทำให้อับอาย  สเนปตามขอโทษลิลลี่หลายต่อหลายครั้ง ถึงขนาดมานั่งเฝ้าหน้าทางเข้าบ้าน ลิลลี่ออกมาพบเขาเพราะเพื่อนเธอบอกว่าเขาตั้งใจจะนอนเฝ้าหน้าทางเข้า สเนปพยายามขอโทษ แต่ลิลลี่บอกว่าเหมือนพวกเขาเลือกทางเดินของตัวเองแล้วที่สเนปเลือกคบพวกผู้เสพความตาย และจะเข้าร่วมโวลเดอเมอร์ในภายหลัง ถึงขนาดเรียกเธอว่าเลือดสีโคลน และทำไมเธอถึงแตกต่างจากคนอื่น
              ฉากตัดมาที่สเนปกำลังเฝ้ารอใครบางคนอย่างหวาดผวาโดยในมือกำไม่กายสิทธิ์แน่น และทันใดนั้นเองก็มีลำแสงเหมือนฟ้าผ่าปรากฎขึ้น สเนปเข่าอ่อนและทำไม่กายสิทธิ์หลุดมือ ดัมเบิลดอร์น่ะเอง สเนปร้องขอชีวิตต่อดัมเบิลดอร์ แต่ดัมเบิลดอร์บอกว่าเขาไม่ได้มาด้วยความตั้งใจที่จะฆ่าสเนป  สเนปก็ได้เล่าว่าเขาได้เล่าคำพยากรณ์ที่ได้ยิน(คำพยากรณ์ของทรีลอว์นีย์ที่ดัมเบิลดอร์เป็นคนได้ฟังในเล่ม5)ให้กับโวลดี้ฟังทั้งหมด ทำให้โวลดี้คิดว่าคำพยากรณ์นั้นหมายถึงลิลลี่  อีแวนส์  ดัมเบิลดอร์จึงรู้ถึงความรู้สึกของสเนปที่มีต่อลิลลี่ ดัมเบิลดอร์เลยถามสเนปว่าถ้าลิลลี่สำคัญต่อเขาขนาดนี้ ทำไมเขาไม่ขอให้โวลดี้ปล่อยเธอไปล่ะ สเนปบอกดัมเบิลดอร์ว่าเขาขอแล้ว ดัมเบิลดอร์เลยด่าสเนปว่าน่าขยะแขยง สเนปไม่แคร์เลยว่าจะเกิดอะไรกับสามีและลูกของเธอ สเนปจึงขอร้องให้ดัมเบิลดอร์พาลิลลี่และครอบครัว(ไอ้ครอบครัวนี่ก็ไม่ค่อยเต็มใจจะเอ่ยหรอก)ไปซ่อน ดัมเบิลดอร์ถามว่าสเนปมีอะไรมาแลกเปลี่ยนกับคำขอนี้ สเนปบอกว่าเขายินดีจะให้และทำทุกอย่าง 
              ที่ห้องทำงานของดัมเบิลดอร์ สเนปบอกว่าเขาคิดว่าดัมเบิลดอร์จะซ่อนพวกเธอในที่ปลอดภัย ดัมเบิลดอร์ตอบว่าพวกเขาเลือกคนไว้ใจผิด แต่แฮร์รี่ยังไม่ตาย สเนปที่หมดหวังแล้วไม่สนใจแฮร์รี่ จนดัมเบิลดอร์บอกว่าแฮร์รี่มีดวงตาที่ถอดแบบจากลิลลี่ และบอกว่า ถ้าสเนปรักลิลลี่จริง ๆ ทางเลือกของเขาก็ชัดเจนมาก
    อย่าให้ลิลลี่ต้องตายอย่างไร้ค่า สเนปต้องช่วยปกป้องลูกชายของลิลลี่ สเนปขอให้ดัมเบิลดอร์ห้ามบอกเรื่องนี้กับแฮร์รี่โดยเด็ดขาด
              ฉากตัดมาสมัยแฮรี่เข้าเรียนปี1สเนปมีอคติต่อแฮรี่ หาว่าแฮรี่เย่อหยิ่งยะโสอวดดีแบบเจมส์ แต่ดัมเบิลดอร์ยืนยันว่าแฮรี่เป็นเด็กที่อ่อนโยน และบอกให้สเนปคอยจับตาดูควีเรลล์ไว้   ฉากตัดมาที่ตอนในเล่ม4 ดัมเบิลดอร์ยืนคุยกับสเนปหลังงานเลี้ยงเต้นรำเลิก เรื่องของตรามารคาร์คารอฟเด่นชัดขึ้นมาอีกครั้ง และสเนปยืนยันว่าเขาจะไม่เข้าร่วมโวลเดอมอร์อีก
               ที่ห้องทำงานของดัมเบิลดอร์ ดัมเบิลดอร์ดูอิดโรยมาก สเนปใช้ไม้กายสิทธิ์และเอายามารักษาแผลที่มือของดัมเบิลดอร์ แหวนที่ถูกทำลายวางอยู่บนโต๊ะ สเนปบอกว่าดัมเบิลดอร์จะมีชีวิตอยู่ได้อีกประมาณหนึ่งปี เพราะคำสาปจะกระจายไปเรื่อย ๆ ดัมเบิลดอร์บอกว่าเขาโชคดีแล้ว แค่นี้ก็พอแล้ว
    และเขาก็มีสเนปอยู่ ดัมเบิลดอร์กล่าวถึงแผนของโวลเดอมอร์ที่จะใช้เดรโก้เข้ามาฆ่าตัวเขา สเนปบอกว่าโวลเดอมอร์เองก็ไม่คาดหวังว่าเดรโก้จะทำได้ ซึ่งจะเป็นการลงโทษครอบครัวมัลฟอย จริง ๆ แล้วเดรโก้เองก็ถูกหมายหัวไว้อยู่แล้วพอ ๆ กับดัมเบิลดอร์ ซึ่งหากเดรโก้ทำไม่สำเร็จคนที่จะทำงานต่อก็คือสเนป ดัมเบิลดอร์ฝากฝังให้สเนปปกป้องโรงเรียนและเด็ก ๆ เพราะไม่ช้าก็เร็วโวลเดอมอร์ต้องเข้ามายึดแน่ ๆ ดัมเบิลดอร์ขอให้สเนปเป็นคนที่สังหารเขา ซึ่งเวลานั้นกำลังจะมาถึง ดัมเบิลดอร์ไม่อยากให้จิตวิญญาณของเดรโก้กระทบกระเทือนมากกว่านี้ เพราะมันอาจจะยังเยียวยาได้อยู่ 
              ฉากตัดมาที่สเนปคุยกับดัมเบิลดอร์ ดัมเบิลดอร์พยายามกล่อมให้สเนปเห็นว่าแฮรี่อ่อนโยนเหมือนแม่มากกว่ากวนเหมือนพ่อ  สเนปถามดัมเบิลดอร์ว่าคุยอะไรกับแฮรี่2ต่อ2  แต่ดัมเบิลดอร์ไม่ยอมบอก บอกเพียงแค่ว่าเขาปรึกษาและบอกข้อมูลบางอย่างให้แฮร์รี่ก่อนที่จะสายเกินไป   สเนปต่อว่าดัมเบิลดอร์ไม่เชื่อเขา ดัมเบิลดอร์บอกว่าเขาไม่ควรบอกความลับทุกอย่างให้กับคน ๆ เดียว โดยเฉพาะกับสเนปที่ตอนนี้อยู่ใกล้ชิดกับโวลเดอมอร์แม้สเนปจะทำไปตามคำสั่งของดัมเบิลดอร์เองก็ตาม สเนปจึงโต้กลับว่า แล้วทีกับแฮรี่ที่มีจิตเชื่อมต่อกับโวลดี้โดยตรง   ดัมเบิลดอร์จึงตอบไปว่า โวลดี้เคยได้รับบทเรียนเกี่ยวกับการ
    พยายามที่จะเข้าถึงจิตใจแฮรี่มาแล้วเมื่อเร็วๆนี้ และเขาคงไม่พยายามเข้าถึงจิตของแฮรี่ด้วยวิธีนั้นอีก  
                 ตัดมาที่ห้องทำงานของดัมเบิลดอร์อีกครั้ง ดัมเบิลดอร์เตือนสเนปว่า แฮรี่ต้องไม่รู้อะไรเลยจนกว่าจะถึงช่วงสุดท้ายของแผนการณ์นี้หลังจากที่เขาตาย จนกว่าช่วงเวลาที่โวลดี้กังวลเกี่ยวกับชีวิตของนากินีและพยายามเก็บมันไว้ใกล้ตัวมาถึง เมื่อนั้นจะปลอดภัยที่จะบอกแฮร์รี่ถึงเรื่องคืนที่โวลเดอมอร์เข้ามาฆ่าครอบครัวพอตเตอร์ คำสาปของลิลลี่สลายวิญญาณของโวลเดอมอร์ วิญญาณของโวลเดอมอร์แตกกระจายเป็นชิ้นๆ วิญญาณส่วนหนึ่งส่วนหนึ่งได้เข้าไปอยู่ในสิ่งมีชีวิตเดียวตรงนั้น ซึ่งก็คือแฮร์รี่ ทำให้แฮร์รี่พูดภาษาพาร์เซล เชื่อมต่อจิตใจกับโวลเดอมอร์ได้  
    และส่วนวิญญาณนั้นก็ได้ปกป้องแฮร์รี่ไปด้วย ซึ่งแฮร์รี่ต้องตายและโวลเดอมอร์ต้องเป็นคนฆ่าเขา โวลเดอมอร์ถึงจะตายได้ สเนปโกรธมากเพราะที่ผ่านมา เขาคอยปกป้องแฮร์รี่มาตลอด และท้ายที่สุด แฮร์รี่ก็ต้องถูกฆ่าอยู่ดี แค่เพียงแต่ตายให้ถูกที่ถูกเวลาเท่านั้น สเนปกล่าวว่าดัมเบิลดอร์เพียงใช้เขา ให้สเนปเป็นสาย เสี่ยงภัยอันตรายมากมายเพื่อเขา ทุกสิ่งที่เขาทำเพื่อปกป้องลูกชายของลิลลี่ให้ปลอดภัย ทุกอย่างที่ทำเพื่อเลี้ยงดูแฮร์รี่ราวกับหมูรอวันเชือด ดัมเบิลดอร์ถามเขาว่า สเนปรู้สึกเป็นห่วงแฮร์รี่แล้วหรือ สเนปถามกลับว่า เพื่อเขาหรือ แล้วก็เสกผู้พิทักษ์ออกมา มันเป็นกวางสาวสีเงิน ดัมเบิลดอร์น้ำตาไหลถามเขาว่า ตลอดเวลาเลยหรือ สเนปยืนยันว่า ตลอดเวลา 
               สเนปยืนคุยอยู่กับภาพของดัมเบิลดอร์ ดัมเบิลดอร์บอกว่าให้เขาบอกโวลเดอมอร์วันและเวลาที่แท้จริงที่แฮร์รี่จะเดินทางจากบ้าน Dursleys และเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย ให้สเนปไปบอกมันดันกัส ให้ใช้แผนน้ำยาสรรพรส และเปลี่ยนความทรงจำเขา ให้บอกภาคีว่านี่คือแผนของมันดันกัสเอง
              สเนปขี่ไม้กวาดไล่ตามลูปินกับจอร์จในร่าง
    องแฮร์รี่ ผู้เสพความตายบินอยู่หน้าสเนปและชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่ลูปิน สเนปเสกคาถา ตั้งใจจะเล็งไปที่ไม้กายสิทธิ์ของผู้เสพความตาย แต่คาถาพุ่งไปโดนจอร์จแทน 
               สเนปนั่งอยู่ในห้องนอนของซีเรียส น้ำตาไหลเมื่ออ่านจดหมายของลิลลี่ เขาฉีกจดหมาย เอาในส่วนหน้าที่สอง  ที่เขียน
    ว่า  could ever have been friends with Gellert Grindelwald. I think her mind going personally
    lots of love
    Lily
    สเนปเก็บรูปภาพของลิลลี่ที่กำลังยิ้มแย้มไว้(แต่ฉีกรูปเจมส์ที่อยู่ข้างๆออกไปแล้ว)
              ในห้องทำงาน สเนปยืนอยู่เมื่อ ฟีนีแอสไนเจลลัสเข้ามารายงานเขาว่า พวกเลือดสีโคลนมาตั้งค่ายอยู่ที่forrest of deanแล้ว สเปนโต้กลับไปว่าอย่าใช้คำนั้น(คำว่าเลือดสีโคลน) ฟีนีแอสรายงานต่อ ว่าเขาได้ยินนังเด็กเกรนเจอร์นั่นเอ่ยถึงสถานที่ตอนที่เธอเปิดกระเป๋า(รูปฟีนีแอสที่พวกแฮรี่พกมาด้วย) รูปภาพดัมเบิลดอร์ในห้องอาจารย์ใหญ่เตือนสเนปไม่ให้ลืมมอบดาบของกริฟฟินดอร์ให้แฮรี่ และต้องระวังไม่ให้แฮรี่รู้ว่าใครเป็นคนมอบให้ เพราะโวลเดอมอร์อาจจะอ่านใจแฮรี่เจอเรื่องพวกนี้ได้ แล้วสเนปก็ออกจากห้องไป  แฮรี่เงยหน้าขึ้นมาจากเพนซีฟ 


    บทที่ 34 - The Forest Again
                 ในที่สุดความจริงทุกอย่างเกี่ยวสเนปก็กระจ่าง  แฮร์รี่ได้รู้ว่า สเนป เสี่ยงตายเพื่อช่วยดัมเบิลดอร์ และตัวเขาด้วยชีวิต   แฮร์รี่ก็เข้าใจว่าเขาไม่ควรมีชีวิตอยู่อีก  เขาต้องเสียสละตัวเอง และต้องตายแบบไม่ขัดขืน เขาเข้าใจดัมเบิลดอร์แล้วด้วย แต่ก่อนที่เขาจะตาย เขาต้องบอกเรื่อง Horcruxes สุดท้ายกับรอน และเฮอร์ เพราะเหตุนี้ดัมเบิลดอร์ถึงต้องการให้ทั้งสองคนอยู่เคียงข้างเขาเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ แฮร์รี่ตัดสนิใจกลับเข้ามาที่ห้องโถงใหญ่  พบเนวิลล์ที่กำลังเก็บร่างของ Colin Creevey เขาฝากให้เนวิลล์บอกรอน หรือเฮอร์ ให้ฆ่างูที่อยู่โวลเดอมอร์ซึ่งเนวิลล์ก็รับปาก  และบอกว่าทุกคนพร้อมจะสู้  แฮร์รี่ทำหน้าเศร้าคลุมผ้าคลุมล่องหน แล้วเดินจากมา จนเจอจินนี่กำลังปลอบเพื่อนอยู่ เขาอยากตะโกนบอกจินนี่ให้รู้ว่าเขาที่ใกล้ ๆ อยากให้เธอห้ามเขา พาเขากลับบ้าน  แต่ฮอกวอต คือบ้านของเขา ที่แห่งเดียวที่เขา โวลดี้และสเนปเรียกว่าบ้าน..แฮร์รี่ตัดใจเดินจากมา  จนถึงกระท่อมของแฮกริด  เขาคิดถึงวันเก่า ๆ ที่รอนเคยอ๊วกตัวทากออกมา  และมีเฮอร์ที่ช่วยดูแลตัวนอร์ทเบิร์ก 
                 ที่ชายป่า มี Dementors เต็มไปหมด และแฮร์รี่ก็ไม่เหลือแรงกำลังที่จะเสกผู้พิทักษ์อีก เขาจึงหยิบลูกสนิทช์ขึ้นมา กระซิบว่าเขากำลังจะตาย ลูกสนิทช์แตกออก Resurrection Stone อยู่ข้างใน แล้วแฮร์รี่ก็เข้าใจว่า มันไม่ได้เพื่อทำให้คนตายฟื้นคืน เขากำลังจะกลายเป็นคนตายเหมือนพวกนั้น แฮร์รี่หมุนหินสามครั้ง แล้วเขาก็เห็นเจมส์ ลิลลี่ ซีเรียสกับลูปิน ไม่ใช่ผีหรือร่างเนื้อ เหมือนที่เขาเคยเห็นทอม ริดเดิ้ลจากไดอารี่ พวกเขาเหมือนกับเป็นผู้พิทักษ์ให้แฮร์รี่ โดยที่ Dementors ทำอะไรเขาไม่ได้ เขายังอยู่ใต้ผ้าคลุมล่องหน เดินลึกเข้าไปในป่า

              โวลเดอมอร์อยู่กล่ามกลางผู้เสพความตาย  แฮร์รี่เห็น  โดโรฮอฟ กับ ยักซี่ ขี่อาราก๊อก กลับมาแจ้งข่าวกับโวลดี้ว่าไม่เจอแฮร์รี่  โวลดี้มั่นใจว่ายังไงแฮร์รี่ก็ต้องมา  แฮร์รี่ทิ้งผ้าคลุม ปรากฏตัวขึ้นกลางวง  และเผลอทำ Resurrection Stone หล่นจากมือ วิญญาณพวกพ่อหายไป เขาเดินเข้าไปท่ามกลางเสียงหัวเราะของผู้เสพความตาย   แฮร์รี่เห็นงูนากินี่ คิดในใจว่าคงฆ่ามันไม่ได้แน่ ๆ โวลดี้ต้องเสกคาถาป้องกันนากินี่ไว้ และผู้เสพความตายตรงนั้นคงฆ่าเขาก่อน  แฮกริดจะเข้ามาห้าม แต่ถูกจับไว้ตรงนั้น ได้แต่ตะโกนห้ามไม่ให้แฮร์รี่เข้ามา  แฮร์รี่เผชิญหน้ากับโวลดี้ 

    แฮร์รี่  พอตเตอร์  เด็กชายผู้รอดชีวิต  โวลดี้เรียกเขา 
                ทุกอย่างหยุดนิ่ง  แฮร์รี่นึกถึงจินนี่ สายตา ของเธอ ริมฝีปากของเธอ  แฮร์รี่ต้องตัดสินใจเดี๋ยวนั้น ก่อนที่ความกลัวจะครอบงำเขาเสียก่อน  โวลเดอมอร์ยกไม้กายสิทธิ์ขึ้น เห็นปากเขาขยับ  และเห็นแสงสีเขียวพุ่งออกมาและทุกสิ่งก็ดับวูงลง


    บทที่ 35 – King’s Cross
            ทุกอย่างเงียบไปหมด แฮร์รี่รู้สึกตัวและมองไปรอบ ๆ แล้วดัมเบิลดอร์ก็เดินมาหา แฮร์รี่ถามว่าดัมเบิลดอร์ตายแล้ว เขาก็คงตายแล้วเหมือนกัน ดัมเบิลดอร์ตอบว่าตัวเขาตายแล้วจริง ๆ แต่ส่วนแฮร์รี่ เขาคิดว่ายังไม่ตาย เพราะแฮร์รี่ไม่ได้คิดปกป้องตัวเองเลยและปล่อยให้โวลเดอมอร์ฆ่า เพื่อทำลายส่วนเสี้ยววิญญาณโวลเดอมอร์ในร่างเขาให้หมดไป ตอนนี้วิญญาณของแฮร์รี่สมบูรณ์แล้ว ร่างเนื้อของโวลเดอมอร์ในตอนนี้ก็มีเลือดของแฮร์รี่ที่ลิลลี่ใช้เวทมนต์ปกป้อง และแฮร์รี่ก็คือ Horcrux อันที่เจ็ดที่เขาไม่ได้ตั้งใจจะสร้างขึ้น เมื่อครั้งที่เขาจะฆ่าแฮร์รี่ตอนเด็ก เขาได้ทิ้งส่วนหนึ่งของตัวเองไว้กับแฮร์รี่ ดัมเบิลดอร์บอกว่าโวลเดอมอร์เป็นคนเลือดเย็น ไม่รู้จักและเข้าใจในความรัก
             แฮร์รี่ถามเรื่องไม้กายสิทธิ์ว่าทำไมไม้ของเขาทำลายไม้ที่โวลเดอมอร์ยืมมาได้ ดัมเบิลดอร์ตอบว่าเขาเดาเอาว่าแฮร์รี่ยอมรับความตาย ซึ่งเป็นสิ่งที่โวลเดอมอร์ทำไม่ได้ และไม้กายสิทธิ์รับรู้ถึงความสัมพันธ์ของผู้เป็นนาย โวลเดอมอร์เป็นทั้งญาติและศัตรู ไม้กายสิทธิ์เก็บพลังแห่งความกล้าหาญและสามารถเอาชนะไม้ของลูเซียสได้ แต่มันก็ถูกเฮอร์ไมโอนี่ทำลายได้ เพราะพลังของไม้แฮร์รี่จะส่งผลโดยตรงต่อโวลเดอมอร์เท่านั้น โวลเดอมอร์ไม่ได้ฆ่าแฮร์รี่ เขาล้มเหลวในการฆ่าแฮร์รี่ต่างหาก
            ในตอนนั้น แฮร์รี่ก็รู้สึกว่าเขากำลังอยู่ในสถานีคิงครอส เมื่อเขาถามดัมเบิลดอร์เกี่ยวกับ Deathly Hallows ดัมเบิลดอร์ก็เหมือนเด็กที่ทำผิดแล้วถูกจับได้ เขาขอให้แฮร์รี่ยกโทษให้เพราะเขาเหมือนกับคนโง่ที่ลุ่มหลงไปกับมัน เขาเองก็หาทางเอาชนะความตายเช่นเดียวกัน มันคือสิ่งที่ผูก Grindelwald เข้าด้วยกัน ด้วยความลุ่มหลง … ดัมเบิลดอร์บอกว่าผ้าคลุมล่องหนเป็นมรกดของ Ignotus ตกทอดไปยังลูกหลาน เขาขอยืนผ้าคลุมมาตรวจดู แม้เขาจะทิ้งความฝันเรื่อง Hallows ไปนานแล้ว แต่เขาก็ยังตื่นเต้นกับมัน และเมื่อเจมส์ตาย เขาก็ได้ครอง Hallows แล้วถึงสองอย่าง
              ส่วนเรื่องน้องสาว เขายอมรับว่าเขาอยากหนีไปหาความรุ่งโรจน์ แม้เขาจะรักครอบครัวมากก็ตาม แต่ความเห็นแก่ตัวก็ยังมี เขารู้สึกเหมือนถูกขังเมื่อต้องรับผิดชอบน้อง ๆ หลังแม่ตาย และเมื่อ Grindelwald เข้ามา มันก็เหมือนมาจุดประกายให้อีก จากนั้น Grindelwald ก็หนีไปหลังเกิดเหตุการณ์ที่น้องสาวเขาตาย หลังจากนั้น ก็มีข่าวลือว่า Grindelwald ได้พบไม้กายสิทธิ์ทรงพลัง ส่วนเขาก็เป็นอาจารย์ที่ฮอกวอร์ต ฝึกสอนพ่อมดแม่มด ส่วน Grindelwald ก็สร้างกองทัพ ดัมเบิลดอร์ยอมรับว่าเขาเองก็กลัว Grindelwald จนถ่วงเวลาการประลองไปเรื่อยจนถ่วงไม่ได้อีก ท้ายที่สุด เขาก็ชนะประลอง Grindelwald ถูกขังที่ Nurmengard และโกหกโวลเดอมอร์ว่าเขาไม่มี Elder Wand บางทีการโกหกนี้ก็เพื่อแก้ไขเรื่องในอดีต และหยุดไม่ให้โวลเดอมอร์ตามหา Hallows อีก
               แล้วดัมเบิลดอร์ก็พบ Resurrection Stone ที่บ้านของ Gaunt เขาคิดว่าจะได้พบน้องสาวและแม่อีก แต่เขาก็โง่มาก ไม่ใช่ใครทุกคนจะรวม Hallows ได้ ดัมเบิลดอร์ยอมรับว่าเขาเป็นผู้ครอง Elder Wand และใช้มันปกป้องผู้อื่น ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ตนเอง ส่วนผ้าคลุม เขาเอาไปดูเพราะความอยากรู้อยากเห็น เจ้าของที่แท้จริงคือแฮร์รี่
              แฮร์รี่ถามว่าทำไมต้องทำให้ทุกอย่างมันยากขึ้นด้วย ซึ่งดัมเบิลดอร์ก็ให้เหตุผลว่า หากบอกไปตรง ๆ พวกเขาอาจออกตามหาสิ่งที่น่ายั่วยวนใจทันที โดยลืมเหตุผลที่แท้จริงไป โวลเดอมอร์ไม่รู้เรื่อง Hallows เพราะเขาเปลี่ยน Resurrection Stone ในแหวนเป็น Horcrux และ Elder Wand จะช่วยเขาทรงอำนาจไม่มีใครมาล้มได้
               แฮร์รี่ถามว่าเขาจะกลับไปได้ไหม ดัมเบิลดอร์บอกว่าแล้วแต่เขา แฮร์รี่มีทางเลือก อย่าสงสารคนตาย ให้สงสารคนเป็น โดยเฉพาะผู้ที่มีชีวิตโดยปราศจากความรัก หากกลับไปแล้ว เขาแน่ใจว่าวิญญาณผู้อื่นจะถูกทำร้ายน้อยลง และครอบครัวจะไม่ถูกทำลายมากไปกว่านี้ เขาก็ควรกลับไป


    บทที่ 36 - The Flaw in the Plan
              แฮร์รี่รู้สึกเหมือนหล่นลงมาจากฟ้าสู่พื้นดินอีกครั้ง เขารู้สึกเจ็บไปหมดหลังจากถูกคำสาปสังหาร แต่เขาก็ยังนอนอยู่ในท่าเดิม ไม่ขยับ เขาแอบลอบมองดู   และเห็นว่าโวลเดอมอร์เองก็ล้มลงไปเช่นกันเบลลาทริกซ์ เรียก เวอร์ดี้ ด้วยความเป็นห่วง และ เสน่หา ผุ้เสพความตายล้อม เวอร์ดี้เป้นวงกลม เหมือนมีอะไรผิดปกติ กับเขาหลังจากใช้คำสาปสั่งตาย กับแฮรี่ เบลลาทริกซืจะเข้าไปประคอง แต่โดนปฏิเสธ  โวลเดอมอร์สั่งให้คนไปดูว่าแฮร์รี่ตายจริง ๆ หรือยัง แฮร์รี่ได้ยินเสียงกระซิบที่เบามาก ๆ ของนาร์ซิสซ่า ถามเขาว่า เดรโก้ยังมีชีวิตอยู่ไหม เขายังอยูในปราสาทใช่ไหม แฮร์รี่กระซิบตอบไปว่าใช่ แล้วนาร์ซิสซ่าก็บอกทุกคนว่าแฮร์รี่ตายแล้ว ผู้เสพความตายคนอื่นต่างดีใจ โวลเดอเมอร์ใช้คำสาปกรีดแทงไปยังแฮร์รี่เพื่อความสะใจตัวเอง แต่แฮร์รี่รู้สึกแปลกมากเพราะคาถาทำอะไรเขาไม่ได้เลย เขาไม่รู้สึกเจ็บสักนิด แต่เขาก็ยังแกล้งทำเป็นตายอยู่ โวลเดอมอร์ให้แฮกริด  (โดนสะกด)  เป็นคนอุ้มแฮร์รี่เข้าไปในปราสาท
           โวลเดอมอร์ใช้เวทมนต์ส่งเสียงไปบอกทุกคนในปราสาทว่าพวกเขาชนะแล้ว แฮร์รี่ตายแล้ว หากใครยังต่อต้านอีกจะถูกสังหาร แล้วเขาก็เดินนำ งูนากินี่ลอยตามมาโดยไม่ได้อยู่ในกรงอีกแล้ว แฮกริดที่อุ้มแฮร์รี่ไว้เดินตามมาพร้อมกับผู้เสพความตาย เดินเข้าไปในปราสาท แฮร์รี่ได้ยินเสียงร้องของมักกอลนากัล รอน เฮอร์ไมโอนี่ จินนี่ และเพื่อน ๆ ทุกคน เขาอยากตะโกนกลับไปว่าเขายังไม่ตาย แต่เขาทำไม่ได้ โวลเดอมอร์ให้แฮกริดวางแฮร์รี่แทบเท้า และบอกทุกคนว่าเขาสังหารแฮร์รี่ขณะที่แฮร์รี่กำลังพยายามหนี 
             ทันใดนั้น ก็มีแสงจากคาถาพุ่งเข้าจะทำร้ายโวลเดอมอร์ แต่คนร่ายคาถาถูกปลดอาวุธเสียก่อน เขาคือเนวิลล์ เขาตะโกน ว่า งั้นก็ช่วยแสดงให้ดูหน่อยซิ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนที่ยังจะสู้ต่อ เบลลาทริกซ์เย้ยหยัน เรื่องพ่อแม่เนวิล  แต่เนวิลยังยืนยันว่ายังมี กองทัพของดัมเบิลดอร์ ที่จะสู้อยุ่  โวลเดอมอร์ชักชวนเนวิลล์ให้มาเป็นผู้เสพความตายเพราะเนวิลล์เป็นพวกเลือดบริสุทธิ์ แต่เนวิลล์ปฏิเสธเสียงแข็ง    โวลเดอมอร์โบกไม้กายสิทธิ์ หมวกคัดสรรอยู่ในมือเขา และเขาก็ประกาศว่าต่อไปที่โรงเรียนจะมีแต่บ้านสลิธีรินเท่านั้น จากนั้นโบกหมวกคัดสรรไปสวมที่หัวของเนวิลล์ บอกว่านี่คือตัวอย่างของผู้ที่ต่อต้านเขา แล้วหมวกคัดสรรก็ลุกเป็นไฟบนหัวของเนวิลล์ ทันใดนั้น ทุกอย่างเกิดขึ้นแทบจะพร้อมกัน เสียงของ Grawp สู้กับยักษ์ของโวลเดอมอร์ดัง
    ลั่น ท่ามกลางความชุลมุน แฮร์รี่ซ่อนตัวใต้ผ้าคลุมล่องหน และหลบออกจากตรงนั้น เนวิลล์สลัดหมวกคัดสรรหลุดไปได้ พร้อมกับดึงดาบกริฟฟินดอร์ออกมา และฟันหันงูนากินี่ลอยลอยกระเด็นไปในอากาศ  โวลเดอมอร์ส่งเสียงกรีดร้องอย่างโกรธแค้นแต่ไม่มีใครได้ยิน แฮรี่เสกคาถาโล่ป้องกันระหว่างเนวิลกับโวลเดอมอร์ 
               เกิดความโกลาหนขึ้นมาอีกครั้ง เซนทอร์เข้าโจมตีพวกผู้เสพความตาย บัคบีคกับกอร์ปสู้กับพวกยักษ์ แฮรี่เห็นว่าการต่อสู้ค่อยๆเคลื่อนเข้าไปทางโถงทางเข้า แฮรี่ตามเข้าไปและพยายามมองหาโวลเดอมอร์และเห็นเขากำลังมุ่งหน้าไปทางห้องโถงใหญ่ กำลังเสกคาถาและสั่งการพวกลูกน้องคนอื่นๆของเขาที่ตามเข้ามา แฮรี่เสกคาถาโล่ห์ป้องกัน เชมัส ฟินิกันและฮันนา แอบบอต เพิ่งจะผ่านเขาเข้าไป แฮรี่เห็นชาลี วีสลีย์ ฮอเรซ สลักฮอร์น พวกครอบครัวและเพื่อนๆของนักเรียนฮอกวอร์ต พวกเจ้าของร้านและคนที่อาศัยอยู่ในฮอกส์มีด  และเขาเห็นเอลฟ์ประจำบ้านปรากฏขึ้นที่ทางเข้าห้องโถง ในนั้นมีเอลฟ์ตัวหนึ่งสวมล็อกเก็ตของเรกูลัส แบล็ค ครีเชอร์นั่นเอง มันร้องตะโกนให้สู้ ในนามของเรกูรัส นายของมัน  แฮรี่ตามเข้าไปในห้องโถงใหญ่และพบว่าโวลเดอมอร์อยู่ตรงศูนย์กลางของการต่อสู้ แฮรี่พยายามเข้าไปให้ถึง มีคนเข้ามาสมทบมากขึ้นเรื่อยๆ เขาเห็นจอร์จและลี จอร์ดันสู้อยู่กับ Yaxley โดโลฮอฟกำลังเพลี่ยงพล้ำฟลิตวิก แมคแนร์ถูกแฮกริดโยนข้ามห้องโถง รอนกับเนวิลช่วยกันเอาชนะเกรย์แบ็ก  ลูเซียสกับนาร์ซิสซาไม่ต่อสู้กับใครแต่วิ่งร้องเรียกหาลูกชายของพวกเขา
           ตอนนี้โวลเดอมอร์รับมือกับ มักกอนนากัล สลักซ์ฮอร์นและคิงสลีย์ เบลลาทริกซ์สู้อยู่กับเฮอร์ไมโอนี่ ลูน่า จินนี่ เขาเห็นคำสาปพิฆาตพลาดจากจินนี่ไปนิดเดียวเท่านั้น เขาจึงตัดสินใจหันไปทางเบลลาทริกซ์ก่อน แต่นางวีสลีย์เข้ามาแทนทั้งสามคนและสู้กับเบลลาทริกซ์อย่างดุเดือด และเริ่มมีเด็กคนอื่นๆออกมาช่วย เธอบอกให้พวกเขาถอยไป นางวีสลีย์ฆ่าเบลลาทริกซ์ได้ โวลเดอมอร์กรีดร้อง และโกรธยิ่งกว่าเดิม สามคนที่สู้อยู่กับโวลเดอมอร์เริ่มล้าแล้วและถอยออกมา โวลเดอมอร์หันไม้กายสิทธิ์มาทางนางวีสลีย์ แฮรี่เสกคาถา “โพรเทโก้!” เกิดโล่ขึ้นระหว่างห้องโถงคั่นกลางเอาไว้ แฮรี่เอาผ้าคลุมออก เกิดเสียงตะโกนอย่างดีใจที่รู้ว่าแฮรี่ยังไม่ตาย โวลเดอมอร์กับแฮรี่ประจันหน้ากันอยู่กลางวงกลมที่ล้อมรอบโดยคนที่เหลือ เขาตะโกนบอกทุกคนว่าอย่าเข้ามาและเขาต้องทำมันพียงคนเดียวเท่านั้น

              ทุกคนต่างโห่ร้องยินดีเพราะเห็นว่าแฮร์รี่ยังไม่ตาย แฮร์รี่ขึ้นไปเผชิญหน้ากับโวลเดอมอร์และ แฮร์รี่บอกว่าคาถาของโวลเดอมอร์ทำร้ายคนอื่นไม่ได้อีกแล้ว และเขายอมตายเพื่อปกป้องเพื่อน ๆ เหมือนกับที่ลิลลี่เคยทำ โวลเดอมอร์เลยทำร้ายเพื่อน ๆ เขาไม่ได้อีก โวลเดอมอร์เย้ยแฮร์รี่ว่าเป็นเพราะความรักอีกแล้ว แต่ความรักก็หยุดไม่ให้ดัมเบิลดอร์ตายได้ ไม่ได้ช่วยให้แม่ของแฮร์รี่รอดพ้นความตาย และจะไม่มีอะไรมาช่วยแฮร์รี่ให้รอดพ้นความตายได้อีกถ้าเขาจัดการแฮร์รี่ แฮร์รี่บอกว่ายังมีอีกอาวุธอีกอย่างหนึ่ง และเขาก็เชื่อมั่นทั้งความรักและอาวุธนั้น   โวลเดอมอร์บอกว่าเขาเป็นคนฆ่าดัมเบิลดอร์ ดัมเบิลดอร์ตายแล้ว แต่แฮร์รี่บอกว่าโวลเดอมอร์คิดผิด ดัมเบิลดอร์ไม่ได้ถูกฆ่า มันเป็นการวางแผนมานานหลายเดือนแล้ว และสเนปก็เป็นคนของดัมเบิลดอร์มาโดยตลอด เพราะสเนปรักลิลลี่มาตลอดชีวิต โวลเดอมอร์เถียงกลับว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรอีก เพราะตอนนี้เขาคือเจ้าของ Elder Wand และเขาก็สังหารสเนปแล้ว แฮร์รี่บอกว่า Elder Wand ไม่ได้ทำงานอย่างเต็มความสามารถเพราะโวลเดอมอร์ฆ่าคนผิด สเนปไม่ได้เป็นเจ้าของ Elder Wand เพราะสเนปไม่ได้ฆ่าดัมเบิลดอร์ มันเป็นการวางแผนกันมาแล้วตั้งแต่ต้น และดัมเบิลดอร์ตั้งใจที่จะตายอยู่แล้ว หากเจ้าของไม้กายสิทธิ์ตาย พลังมันจะตายไปด้วย แม้โวลเดอมอร์ขโมยไม้จากศพของดัมเบิลดอร์ก็จริง แต่ไม้จะเลือกเจ้านายเอง และ Elder Wand ก็เลือกเจ้านายแล้วก่อนที่ดัมเบิลดอร์จะตาย คนที่แย่งมันไปจากดัมเบิลดอร์โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ตั้งใจหรือรู้ตัวมาก่อน ซึ่งก็คือเดรโก้ มัลฟอย แล้วแฮร์รี่ก็เอาชนะเดรโก้ได้ และแย่งไม้กายสิทธิ์ของเดรโก้มาครอง แล้ว Elder Wand ก็รู้แล้วว่าเจ้าของมันถูกเอาชนะไปแล้ว และในตอนนี้ เจ้าของที่แท้จริงของ Elder Wand คือแฮร์รี่เอง 
                  แสงจากไม้กายสิทธิ์ทั้งสองพุ่งใส่กัน โวลเดอมอร์ร่ายคาถาสังหาร แฮร์รี่ใช้คาถาปลดอาวุธ Elder Wand ลอยขึ้นในอากาศ หมุนวนเหมือนกับหัวของนากินี่ แฮร์รี่กระโดดรับ Elder Wand ขณะที่โวลเดอมอร์ล้มลง ตายเพราะการสะท้อนกลับของคาถาตนเอง 
                   แล้วเสียงโห่ร้องยินดีก็ดังขึ้น ทุกคนต่างกรูกันเข้ามายินดีกับแฮร์รี่ เขากลายเป็นส่วนหนึ่งทั้งการแสดงความยินดี และความโศกเศร้า ทุกคนต้องการเขาตรงนั้น แฮร์รี่จับมือกับทุกคน พูดคุยกับทุกคน และรับคำขอบคุณจนกระทั่งเช้า เขาไม่ได้นอนเลย ผู้เสพความตายต่างหลบหนี ไม่ก็ถูกจับ ผู้บริสุทธิ์ถูกปล่อยตัวจากอัซคาบัน คิงสลีย์ขึ้นเป็นรัฐมนตรีชั่วคราว ศพของผู้ที่เสียชีวิตอยู่ในห้องโถง ครอบครัวมัลฟอยก็อยู่ที่นั้น ทุกคนนั่งโดยไม่แบ่งแยกบ้านอีก 
                   ท้ายที่สุด แฮร์รี่หลบจากห้องโถงได้ และพารอนกับเฮอร์ไมโอนี่ไปที่ห้องทำงานของดัมเบิลดอร์ อาจารย์ใหญ่ในภาพวาดต่างปรบมือแสดงความยินดีกับแฮร์รี่ แฮร์รี่บอกดัมเบิลดอร์ในภาพว่าเขาทำ Resurrection Stone หล่นไปป่าและไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน และเขาต้องการเก็บผ้าคลุมล่องหนเอาไว้ ส่วน Elder Wand แฮร์รี่บอกว่าเขาไม่ต้องการมัน เขาหยิบไม้กายสิทธิ์อันเดิมของตนเองที่ถูกทำลายออกมา ใช้ Elder Wand เสกคาถาซ่อมแซม จนไม้กายสิทธิ์กลับมาอยู่ในสภาพเดิม แฮร์รี่บอกว่าเขาจะเก็บ Elder Wand ในที่ ๆ มันจากมา และจะทิ้งไว้แบบนั้น เมื่อตัวเขาตาย พลังของมันก็จะหมดเพราะเจ้าของ ๆ มันไม่ได้ถูกผู้ใดเอาชนะ Elder Wand สร้างปัญหามากมายให้เขามากพอแล้ว และตอนนี้ เขาคิดถึงเตียงสี่เสาที่หอพักกริฟฟินดอร์ และหวังว่าครีเชอร์จะทำแซนวิชมาให้กิน



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×